150-300 บาทพร้อมส่ง

ปิดครับ



No102 / 350 บาท

เหรียญเศรษฐีนวโกฏิ หลวงปู่แผ้ว วัดรางหมัน ปี2553

เป็นอีกหนึ่งวัดถุมงคลที่ระลึกของ หลวงปู่แผ้ว ปวโร เทพเจ้าแห่งกำแพงแสน จ.นครปฐม ที่บรรดาเซียนทั่วประเทศกล่าวขวัญขนานนามถึงพุทธคุณบารมีของท่าน

"เหรียญ เศรษฐีหลวงปู่แผ้ว ปวโร" จัดสร้างขึ้นเพื่อแจกผู้มาร่วมบุญสร้างพระเศรษฐีนวโกฏิหน้าตัก 15 เมตร 590 นิ้ว เป็นขนาดใหญ่ที่สุดในแผ่นดินสยาม
นำออกมาแจกแก่ผู้มาร่วมบุญในพิธีปฐมฤกษ์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2553 ในวันดังกล่าวเป็นพิธีเททองหล่อยอดพระเกศองค์พระเศรษฐีนวโกฏิ และตรงกับวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 88 ปี ของหลวงปู่แผ้ว ปวโร ทางคณะศิษย์จึงได้หล่อส่วนที่สูงที่สุดขององค์พระเศรษฐีนวโกฏิ เพื่อเป็นการร่วมฉลองมุทิตาจิต และเป็นมงคลสูงสุดในวันคล้ายวันครบรอบวันเกิดหลวงปู่

ลักษณะเหรียญเป็นเหรียญรูปวงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.6 เซนติเมตร สันขอบกลิ้งเหมือนเหรียญสตางค์ ไม่มีห่วงร้อย ด้านหนึ่งเป็นรูปหลวงปู่แผ้ว ปวโร นั่งพับเพียบเต็มองค์หันข้างมีคาถาหัวใจเศรษฐี 4 มุมคือ อุ-อา-กะ-สะ พร้อมบอกวาระอายุครบ 88 ปี อีกด้านเป็นรูปพระเศรษฐีนวโกฏิปางวันทา และมนต์คาถาเศรษฐีนวโกฏิ ซึ่งจากการสอบทานจากท่านผู้รู้จริงในการสร้างพระเศรษฐีนวโกฏิมอบให้มาใส่ไว้ ในเหรียญ และเขียนคำว่า เหรียญเศรษฐี ไว้ด้วย

จำนวนการสร้างเนื้อทองคำ 19 เหรียญ เนื้อเงินหน้าทองคำ 59 เหรียญ เนื้อเงิน 188 เหรียญ เนื้อเงินกรรมการ 2 โค้ด 88 เหรียญ เนื้อนวโลหะ 1,500 เหรียญ (แยกเป็นเหรียญเนื้อนวโลหะหน้าเงิน 188 เหรียญ) เนื้อทองฝาบาตร 5,900 เหรียญ เนื้อทองแดง 15,000 เหรียญ เนื้อตะกั่ว 590 เหรียญ เนื้อทองฝาบาตร และเนื้อทองแดงแบ่งไปบรรจุใต้ฐานพระบูชาเศรษฐีนวโกฏิขนาดบูชา 3 นิ้วจำนวน 999 องค์ 5 นิ้วจำนวน 599 องค์ และขนาด 9 นิ้วจำนวน 599 องค์รวมเป็นจำนวนเนื้อละ 2,197 องค์ เพื่อไว้ให้เช่าบูชาหารายได้สร้างพระเศรษฐีนวโกฏิองค์ใหญ่

ตอกโค้ดใน เหรียญ 2 แบบคือรูปถุงเงิน และรูปดอกบัวบานซึ่งในพิธีหล่อยอดพระเกศเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2553 ได้แจกให้กับผู้เข้าร่วมในพิธีจำนวนมากรวมถึงพระสงฆ์ที่มาร่วมในพิธีอีก 1,888 รูป ซึ่งถือว่าเป็นมงคลกับผู้ได้รับในพิธีทั้งสิ้น ลักษณะของเหรียญรวมถึงพิธีกรรมนับเป็นเหรียญเศรษฐีตรงตามชื่อโดยแท้ หากผู้ใดได้ไปครอบครองจะได้เป็นเศรษฐีมีเกียรติทุกท่านเป็นแน่แท้

พุทธคุณโดดเด่นของหลวงปู่แผ้ว ปวโร ผู้มีไว้ครอบครองล้วนอุดมด้วยโชคลาภ โภคทรัพย์ แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี ผู้สนใจต้องการหาไว้บูชา คงต้องไปกราบนมัสการหลวงปู่แผ้ว ที่วัดรางหมัน นับเป็นเหรียญดีอีกเหรียญหนึ่ง ที่ใครมีไว้ในครอบครองถือเป็นสิริมงคล ซึ่งผู้ที่ได้รับไปล้วนได้ผ่านพบประสบการณ์อันน่าอัศจรรย์ต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภเงินทองความสำเร็จ

 

ปิด



No103 / 350

พระรอดละโว้ หลวงพ่อเดิม เนื้อว่านสบู่เลือดแดง

พระรอดละโว้ สร้างในปี 2482 โดยเกจิชั้นนำอาทิเช่น ท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์) วัดสุทัศน์ฯ กทม., หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์, หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก ธนบุรี, เจ้าคุณพระธรรมทานาจารย์ วัดระฆังฯ ธนบุรี, เจ้าคุณสังฆภาวราหมุนี (เนียม) วัดเสาธงทอง ลพบุรี ฯลฯ พุทธาภิเศก 3 คืน 2 วันแล้วได้นำออกแจกจ่ายออกที่วัดกำแพง อ.บ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี

ธรรมดาของคนเมื่อได้รับพระจากหลวงพ่อองค์ไหน ก็จะบอกต่อกันว่าได้มาจากพระองค์นั้นๆ หลวงพ่อเดิมภายหลังท่านได้นำพระชุดนี้ออกแจกจ่ายแก่ญาติโยมทั้งหลายเป็นจำนวนมาก คนจึงเรียกกันติดปากว่าพระหลวงพ่อเดิม

พระรอดละโว้ที่เป็นเนื้อผง จะมีทั้งหมด 7 สีประจำวัน ตามคติโบราณของไทย ซึ่งจะต่างกับปัจจุบันเล็กน้อย ดังนี้

- วันอาทิตย์ สีส้ม หรือสีแดง
- วันจันทร์ สีขาว หรือสีนวล
- วันพุธ สีเขียว
- วันพฤหัสบดี สีเหลือง
- วันศุกร์ สีน้ำเงิน หรือสีฟ้า
- วันเสาร์ สีดำ หรือสีม่วงแก่

องค์นี้เนื้อแดง เนื้อว่านสบู่เลือด ขนาด 1.3 X 1.9 c.m

 

ปิด



No104 / 350 บาท

เหรียญหลวงพ่อทวดหัวมวยวาจาสิทธิ์ ด้านหลัง ๙ รัชกาล วัดอ่างทอง สงขลา รุ่นแรก ปี๒๕๐๖ เนื้อทองแดงรมดำ

.. สร้างขึ้นในคราวหาทุนสร้างอุโบสถวัดอ่างทอง จ.สงขลา โดยท่านอาจารย์ทิม(พระครูวิสัยโสภณ) วัดช้างไห้ ปัตตานี เป็นเจ้าพิธีเททองที่วัดวัดอ่างทอง สงขลา ปี๒๕๐๖ .. มีสร้างทั้งแบบลอยองค์เนื้อว่าน แบบรูปเหมือนหล่อโบราณ และ เหรียญปั๊มที่ระลึก
.. พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้, พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ร่วมกันปลุกเสก ทั้งเดี่ยวและหมู่โดยพระเกจิอาจารย์สายใต้ ทั้งเมืองสงขลา ละแวกใกล้เคียง รวมทั้งคณาจารย์ร่วมยุคจากทั่วประเทศมากกว่า ๒๐๐ รูป ร่วมปลุกเสกอย่างเข้มขลัง .. พิธีใหญ่ พุทธคุณไม่แพ้วัตถุมงคลในนามหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดทุกๆวัด โดยเฉพาะทันท่านอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ขอบารมีวิญญาณหลวงพ่อทวด ร่วมเสกด้วย .. เชื่อมั่นในด้านนิรันตราย แคล้วคลาด ปลอดภัย
.. เหรียญนี้ปั๊มทรงกลม เนื้อทองแดงรมดำ เลี่ยมกันน้ำไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมบูชาครับ

 

ปิด



No105 /350

เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หลังพระปิดตา

หลวงปู่ผุด วัดวังเวียน เนื้ออัลปาก้า โค๊ต( วว ) หมายเลข ๒๕๔๙

 

ปิด



No106 / 300

เหรียญหลวงพ่อฉาย วัดพระแก้ว จ.ชัยนาทปี2521

หลวงพ่อกวย ร่วมเศก สวยเดิม

 

ปิด



No107 / 300

เหรียญหันข้าง"หลวงปู่บุญหนา" วัดป่าโสตถิผล

มีจาร. ตอกโค๊ต โค้ดพิเศษ

 

ปิด



No108 /300

เหรียญอัลปาก้า หลวงปู่บุญหนา ธมฺมทินฺโน วัดป่าโสตถิผล รุ่นตำรวจพรรณานิคม สกลนคร สภาพสวย

 

ปิด




No109 /350


เหรียญหลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน วัดป่าโสตถิผล จ.สกลนคร

*** รุ่นนักรบดับไฟใต้ เป็นเหรียญมีประสบการณ์ทางชายแดนภาคใต้ เป็นเหรียญสร้างเพื่อแจกทหารที่ไปปฎิบัติหน้าที่ทาง3จังหวัดภาคใต้

*** เนื้อทองแดง จำนวนสร้าง 2000 องค์

 

ท่าน shaj จองครับ



No110 / 350

เหรียญหลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน วัดป่าโสตถิผล จ.สกลนคร

*** รุ่นนักรบดับไฟใต้ เป็นเหรียญมีประสบการณ์ทางชายแดนภาคใต้ เป็นเหรียญสร้างเพื่อแจกทหารที่ไปปฎิบัติหน้าที่ทาง3จังหวัดภาคใต้

*** เนื้ออัลปาก้า จำนวนสร้าง 1,500 องค์

 

ปิด



No111 /350


เหรียญในหลวงนั่งบัลลังค์ ฉลองครองราชย์ 50 ปี พ.ศ. 2539 เนื้ออัลปาก้า บล็อกนิยม มีเส้นเกศาคมชัด กระบี่ยาวมีปลอก เท้าชิด มีเม็ดไข่ปลา 5 เม็ด หลัง ตัวเลข ๒๕๓๙ มีหัว หายาก


เป็นเหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จัดสร้างโดยกระทรวงมหาดไทยในวาระเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เมื่อ พ .ศ. 2539 การสร้างเหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมฉลองทรงครองศิริราชสมบัติครบ 50 ปี ผู้จัดสร้างได้นำเนื้อโลหะชนวนมวลสารโลหะจากพิธีสำคัญๆ เช่น ชนวนโลหะพระกริ่งดำรงราชานุภาพในงาน 100 ปี กระทรวงมหาดไทยจัดสร้างเมื่อปีพ.ศ. 2533 และชนวนโลหะพระนิโรคันตรายที่กระทรวงมหาดไทยและประชาชนทั่วประเทศจัดสร้างเพื่อน้อมเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2538 และแผ่นจารอาคมจากพระเกจิอาจารย์ทุกภาคทั่วประเทศ ทั้งนี้สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกทรงประกอบพิธีเจริญจิตภาวนาด้วยพระองค์เอง ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร การจัดสร้างเหรียญครั้งนี้ เหรียญ มีราคาถูกเป็นพิเศษเพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าแสดงความจงรักภักดีและเฉลิมพระเกียรติแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดกาลนาน รายได้ทั้งหมดนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายโดยพระราชกุศลมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นเหรียญดีมีคุณค่า ประสบการณ์ดังในด้านแคล้วคลาดของทหารและตำรวจ เหรียญเป็นรูปทรงใบเสมามีหู ด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับนั่งบนบัลลังก์ ด้านหลังตราสามง่าม และ จักร เหรียญมีขนาดขนาด 2.8 X 4 เซนติเมตร ชื่อเป็นทางการของเหรียญรุ่นนี้เรืยกว่า เหรียญทรงเสมา(อาร์ม)ที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมฉลองทรงครองศิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน ปีพ.ศ. 2539 กระทรวงมหาดไทยได้ขอบรมราชานุญาตจัดสร้าง พระบรมรูป(อย่างหนึ่ง)และเหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯออกแบบโดยกรมศิลปากร เหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูหัวฯด้านหน้าเป็นพระบรมสาทิสลักษ์ประทับเหนือพระที่นั่งพุดตาลกาญจนสิงหาส์บนบัลลังก์มีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ด้านหลังเป็นรูปสัญลักษณ์ตราจักรีโดยมีข้อความว่า ”พ.ศ.2539” มีบล็อกที่นิยมคือ บล็อกกระบี่ยาวและบล็อกเส้นพระเกศาชัด ถือว่าเป็นเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกที่มีความนิยมมาก มีประสบการณ์มาแล้วดังที่เป็นข่าวใน นสพ.เดลินิวส์มีผู้ประสบรถคว่ำสภาพพังยับเยินและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ขณะปฏิบัติหน้าที่ทางภาคใต้ถูกผู้ก่อการร้ายซุ่มยิ่งแต่ไม่ได้รับอันตรายเนื่องจากคล้องเหรียญนั่งบัลลังก์ เนื่องเพราะสร้างด้วยเจตนาบริสุทธิ์มหากุศลจากมวลสารที่ดีเยี่ยม


ขออนุญาตเจ้าพระยาพระเครื่องด้วยครับผม

 

ปิด



No112 / 350


ล็อกเก็ตหลวงปู่บุญหนา ธมฺมทินฺโน วัดป่าโสตถิผล อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร รุ่นมหาลาภ 80 ลูกศิษย์สร้างถวาย

 

ปิด



No113 / 350

พระผงเจ้าคุณนร ปี2516 ฝังจีวร
ชุดพระผงรูปเหมือนเจ้าคุณนรฯ(โรยเกศา+ฝังปฐวีธาตุ+ฝังจีวร) วัดโบถส์ จ.ปทุมธานี องค์พระมีขนาด 1.9 x 2.9 cm จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2516 มวลสารหลักคือผงพุทธคุณพ่อปู่เทียน รวมถึงเกศา จีวร พระปฐวีธาตุท่านเจ้าคุณนรฯ โดยได้รับการปลุกเสกจาก หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค และหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ซึ่งประวัติแห่งพระพ่อแม่ธรณีปฐวีธาตุมีดังนี้ ท่านปลัดโกศล(หลานท่านเจ้าคุณนรฯ) เล่าประวัติให้ฟังว่า ถือเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ท่านเจ้าคุณนรฯได้มอบไว้ให้ครอบครัวของท่าน ปกติท่านเจ้าคุณนรฯมิได้สนใจเรื่องเครื่องรางต่างๆเลย แต่เนื่องจากมีผู้อื่นขออนุญาตท่านสร้างพระ และเครื่องรางต่างๆ ให้ท่านอธิษฐานจิตให้ ซึ่งต่างจากการสร้างพระปฐวีธาตุอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นดำริของท่านเจ้าคุณนรฯเอง เหมือนท่านจะรู้ซึ่งอายุขัยของตัวเอง ท่านจึงสั่งให้ท่านปลัดโกศล(หลานชาย) เป็นธุระในการจัดหาก้อนกรวด โดยท่านเป็นคนระบุเองว่าต้องเป็นก้อนกรวดของ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการเท่านั้น ท่านอธิบายว่าทำไมต้องบางบ่อ ก็เพราะชื่อบางบ่อ เป็นชื่อมงคล เปรียบเสมือน บ่อเงิน บ่อทอง และถือเคล็ดคำว่า “สมุทรปราการ” เนื่องจากมีความหมายว่า เป็นเกราะป้องกันภยันตรายต่างๆได้ บางครั้งท่านเรียกว่า “เพชร-พลอย” โดยการปลุกเสกท่านเจ้าคุณนรฯได้ทำพิธีในพระอุโบสถ วัดเทพศิรินทราวาส วันที่ 4-7 มกราคม 2514 ซึ่งมีจำนวนไม่มาก(หลักร้อย) ท่านอธิบายกับปลัดโกศลว่าเป็นของดีมีคุณค่ามาก เรียกว่า “ พระพ่อแม่ปฐวีธาตุ” หมายความว่ามีจิตเมตตา ถึงใครจะเหยียบย่ำทำสิ่งใดก็ไม่ว่า ประดุจพ่อแม่ที่รักลูก จะมีแต่เมตตากรุณาต่อลูกทุกคน แม้ลูกทำผิดก็อภัยให้ ฉะนั้นก้อนกรวดนี้จึงมีอนุภาพศักดิ์สิทธิ์มาก หากมอบกับใคร ก็จงให้แก่ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาเท่านั้น เพราะมีค่ามากกว่าเพชร-พลอย แต่มีประโยคที่ทำให้ท่านปลัดตื่นเต้นมากนั้นก็ คือ ท่านเจ้าคุณนรฯท่าน กล่าวถึงพลานุภาพของพระปฐวีธาตุว่า “ก้อนกรวดนี้ขลังมาก สามารถคุ้มครองป้องกันนิวเคลียรืได้อีกด้วย และยังป้องกันไฟได้ด้วย

 

ขอจองครับ

 

ขอบคุณครับ

 

ปิด



No114 / 350

เหรียญพระแก้ว วัดหลวงปรีชากูล จ.ปราจีนบุรี ปี 2515

พิธีพุทธาภิเษกพระคณาจารย์ ทั่วราชอาณาจักร 259 รูป อาธิเช่น หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน, หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี , หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม

สร้างในวันเสาร์ที่ 4 มีนาคม 2515(เสาร์ห้า)โดยอาราธนาพระคณาจารย์จากจังหวัดต่างๆทั่วราชอาณาจักร 259 รูป พระ คณาจารย์สวดคาถาจุดเทียนชัยและเจริญพุทธมนต์จำนวน 109 รูป เป็นพระเกจิที่มีความเข้มขลังของเืมืองปราจีบุรีและจังหวัดต่างๆ ดังนี้

หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี , หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม

หลวงพ่อมิ่ง วัดกก , หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร

หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร , หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช

หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ , หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์ลพบุรี

หลวงพ่อจุฬ วัดถ้ำคูหาสวรรค์ , หลวงพ่อโอด วัดจันเสน

หลวงพ่อปี้ วัดลานหอย , พระครูบาวัง วัดบ้านเด่น

หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง , หลวงพ่อสังข์ วัดกันตม

พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร , หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง

หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม , หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก

หลวงพ่อถิร วัดป่าเรไร , หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว

หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม , หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี

หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน , หลวงพ่อผิว วัดสง่างาม

หลวงพ่อทอง วัดสระแก้ว

ปู่สุข , อาจารย์ ฝั้น ฯลฯ


พระสวดคาถาพุทธาภิเษก-สวดคาถาจักรพรรดิ์ตราธิราชและสวดภาวณา 12 รูป พระคณาจารย์สวดคาถาดับเทียนชัยและเจริญพระ
พุทธมนต์ฉลอง 29 รูป โดยมีท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพน เป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย และฯพณฯจอมพลถนอมกิตติขจร เป็นประธานจุดเทียนชัยบูชาพระรัตนตรัย ท่านเจ้าคุณพระธรรมรัตนากร วัดมหาธาตุ เป็นประธานดับเทียนชัย ท่านพลตรี ศรีศักดิ์ ธรรนรักษ์ ผู้ว่าราชการปราจีนบุรี เป็นประธานบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

พระอาจารย์ไสว สุมโน วัดราชนัดดา เป็นเจ้าพิธีฝ่ายสงฆ์ พระราชครูวามเทพมุนี ประธานพราหมณาจารย์แห่งประเทศไทย เป็นเจ้า พิธีฝ่ายพราหมณ์ จึงนับเป็นพิธีมหาพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเมื่อประกอบพิธี และมีการฉลองสมโภช 5 วัน 5 คืน สร้างเพื่อหารายได้ สร้างอาคารศูนย์การเรียนการศึกษาคณะสงฆ์ปราจีนบุรี คุณเกษม มงคลเจริญ ช่างสร้างพระเครื่องชั้นหนึ่งของประเทศไทย เป็นผู้ออกแบบพระกริ่งและพระชัยสันติสุข เหรียญพระแก้ว พระ ผงสันติสุข เหรียญสันติสุข และออกแบบได้อย่างวิจิตรงดงามมาก

 

ปิด



No115 / 350 บาท

พระปิดตาชนะจน เขียวพระอินทร์ หลวงพ่อหนุน สุวิชโย เลข ๑๙๗๔

 

ปิด



No116 / 350 บาท

พระปิดตาชนะจน หลวงพ่อหนุน สุวิชโย เลข ๑๙๒

 

ปิด



No117 / 350 บาท


พระสมเด็จเพิ่มบารมี เพิ่มมงคล

หลังยันต์นะครอบจักรวาล มีเกศา หายาก ปกติจะเจอแต่ไม่มีเกศา บางคนขายเป็นหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว จริงแล้วเป็นหลวงพ่อเพิ่ม ครับ

หลวงพ่อเพิ่ม วัดถ้ำไตรรัตน์ จังหวัดนครราชสีมา

ประวัติโดยย่อ

หลวงพ่อเพิ่มนั้น เป็นชาวจังหวัดสุรินทร์โดยกำเนิด บ้านนาเสือก ตำบลนาบัว อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เป็นคนในสกุลสุขสมาน บุตรคนโตของ นายแป้ง นางเก็ย สุขสมาน มีพี่น้องรวมกัน 7 คน

บรรพชาเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2494 ณ วัดบูรพาราม อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ กับพระครูรัตนากรวิสุทธิ์ สมณศักดิ์ขณะนั้นของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของหลวงพ่อเพิ่มเมื่อครั้งยังเป็นสามเณร มีเหตุอยากจะลาเพศสมณะ หลังออกพรรษา พ.ศ.2497 พรรษาที่ 3 ไปขอลากับหลวงปู่ดูลย์
ถึง 3 ครั้งด้วยกันจนครั้งที่ 4 เกิดเหตุพูดไม่ออกในเหตุที่จะลาสิกขาเปลี่ยนประเด็นขอไปเรียนหนังสือที่วัดสุทธจินดาจังหวัดนครราชสีมา และวัดบรมนิวาส กรุงเทพมหานคร

สุดท้าย หลวงปู่ดูลย์ได้ฝากให้มาเรียนยังสำนักวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร โดย หลวงปู่โชติ คุณสมฺปนฺโน หรือ พระเทพสุทธาจารย์ เป็นผู้พา สามเณรเพิ่ม ไปฝากตัวกับ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศในสมัยนั้น

ในพระอารามหลวง วัดบวรนิเวศวิหาร นั้นหลวงพ่ออยู่ในการปกครองของ พระโสภณคณาภรณ์ (เจริญ สุฑฺฒโน) ซึ่งต่อมาคือ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร องค์ปัจจุบัน และได้รับเลือกให้เป็นสามเณรหัวหน้าซ้อมสวดมนต์ในปี 2498

ช่วงเป็นสามเณรเพิ่มนั้น ในสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหารนี้เอง หลวงพ่อเพิ่มริเริ่มจัดกิจกรรมเล็ก ๆ ภายในกลุ่มสามเณรด้วยกันเรียกว่า “วันสามเณร” ภายหลังกิจกรรมวันสามเณรเป็นที่นิยมแพร่หลายในวัดอื่น ๆ และต่างจังหวัดในปัจจุบัน

เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ใน พ.ศ.2499 พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภรณ์ทิพยนิภาพระธิดาในรัชกาลที่ 4 ทรงรับอุปถัมภ์ในการอุปสมบทสามเณรของวัดบวรนิเวศฯ สามเณรเพิ่มสุขสมาน จึงได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในความอุปถัมภ์ของท่าน โดยการอุปสมบทครั้งนั้นตามกำหนดการ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น สุจิตฺโต) จะทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ แต่ระหว่างนั้นทรงประชวรไม่อาจเสด็จประกอบพิธีได้ จึงได้รับความเมตตาจากพระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระโสภณคณาภรณ์ (เจริญ สุวฑฺฒโน) สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระสาธุศีลสังวร (สนธิ์ กิจฺจกาโร) ภายหลังคือ พระญาณวโรดม เป็นพระอนุสาวนาจารย์โดยได้สมณฉายาว่า “กิตฺติวฑฺฒโน” เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2499

ช่วงเวลาการอุปสมบทของหลวงพ่อเป็นมงคลอย่างยิ่ง ด้วยในปีนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ทรงผนวชและเสด็จประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร นับเป็นพระนวกะร่วมสมัยกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

หลวงพ่อเรียนอยู่สำนักวัดบวรนิเวศวิหารจนจบนักธรรมชั้นเอก และเปรียญธรรม 4 ประโยคเมื่อ พ.ศ.2512 สมัยนั้นสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยในปัจจุบัน ได้แต่งตั้งให้พระมหาเพิ่ม กิตฺติวฑฺฒโน เป็นพระธรรมทูตประจำจังหวัดเชียงรายและในปี พ.ศ.2513 เป็นพระธรรมทูตประจำจังหวัดสุรินทร์ ก่อนจะมาช่วยงาน หลวงปู่โชติคุณสมฺปนฺโน วัดวชิราลงกรณ์วราราม โดยปฏิบัติหน้าที่เป็นพระธรรมทูตประจำอำเภอปากช่องจังหวัดนครราชสีมา

จนกระทั่งได้รับความไว้วางใจจาก หลวงปู่เจ้าคุณโชติ-พระเทพสุธาจารย์ ให้เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดวชิราลงกรณ์วรวิหาร และได้รับแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ให้เป็นเจ้าอาวาสวัดวชิราลงกรณ์วราราม ต่อจาก หลวงปู่โชติ เมื่อ พ.ศ.2519 และเจ้าคณะตำบลปากช่อง และเจ้าคณะอำเภอปากช่อง ตามลำดับ พร้อมกับเป็นพระอุปัชฌาย์

ช่วงอยู่วัดวชิราลงกรณ์วราราม หลวงพ่อได้ริเริ่มทำวารสาร พญาเย็น โดยเป็น สาราณียกรและเริ่มเผยแพร่บทกลอนต่าง ๆ ลงในวารสารดังกล่าว ก่อนจะปิดตัวลงโดยใช้นามปากกาว่า ลุงเพิ่ม, หญ้า เขาใหญ่ จนกระทั่งมีงานกลอนลงอย่างต่อเนื่องในวารสาร ดอกบัว ของคณะสงฆ์ธรรมยุตภาคตะวันออกเฉียงเหนือคอลัมน์ลานกวีใช้นามปากกา “พญาเย็น” คอลัมน์เพลินเพลง ใช้นามปากกา “หญ้า เขาใหญ่”

เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดวชิราลงกรณ์วราราม พร้อมกับเป็นพระอุปัชฌาย์ ย่อมมีสัทธิวิหาริก อันเตวาสิก และญาติโยมผู้นับถือเป็นจำนวนมากอยากจัดมุทิตาสักการะในวันคล้ายวันเกิดจึงชักชวนกันจัดถวาย

หลวงพ่อจึงแนะนำว่าถ้าจะทำบุญวันเกิดอย่างเดียวดูจะเป็นการส่วนตัวเกินไป จึงเปลี่ยนให้จัดเป็นงานบุญมีฟังเทศน์มหาชาติบ้าง บรรยายธรรมะ ทำบุญอุทิศบูรพาจารย์ ถวายพระภัตตาหารแด่พระภิกษุ – สามเณร ถวายไทยธรรมแด่สามเณร ผู้เป็นเหล่ากอของสมณะ จึงถือเอาวันที่ ๗ ตุลาคมของทุกปี เป็นประเพณีของพระนวกะพระบวชใหม่ ช่วยกันทำโดยมีพระเถรานุเถระ เป็นที่ปรึกษา และเรียกวันนี้ว่า “วันเพิ่มบารมี” และยังเป็นประเพณีจัดเรื่อยมาอย่างสม่ำเสมอจนถึง พ.ศ.2545 ที่หลวงพ่อเริ่มอาพาธหนัก แต่กิจกรรมบำเพ็ญบุญยังมีอยู่ต่อเนื่อง

พ.ศ.2519 หลวงพ่อจะลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดวชิราลงกรณ์ฯ เพื่อมาพัฒนาวัดถ้ำไตรรัตน์ และเป็นเจ้าอาวาส ณ วัดแห่งนี้ ให้เป็นสถานที่สำหรับปฏิบัติธรรม ปลีกวิเวก สร้างลานธรรม โดยวัดถ้ำไตรรัตน์อยู่ห่างจากวัดวชิราลงกรณ์ฯ ประมาณ 1 กิโลเมตร ที่หลวงปู่โชติมาบุกเบิกไว้และค้นพบถ้ำที่เชื่อมโยงกันเป็นสามถ้ำ จึงเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า “ถ้ำไตรรัตน์” คือ ถ้ำพุทธรังสี และ ถ้ำธรรมรังสี ซึ่งหลวงพ่อเป็นผู้มาพัฒนาบุกเบิกและพบถ้ำ ส่วนถ้ำแห่งแรกคือ ถ้ำสังฆรังสีหรือ ถ้ำพระราชสุธาจารย์ ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติสำหรับ หลวงปู่โชติ คุณสมฺปนฺโน ที่มาพบ จึงเป็นที่มาของ “วัดถ้ำไตรรัตน์” ในปัจจุบัน

คุณสมศักดิ์ จิตติพลังศรี ประธานบริษัทซัยโจเด็นกิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ถวายเงินในการก่อสร้างประมาณ 9,000,000 บาท ร่วมกับคณะศรัทธาในส่วนต่าง ๆ เป็นเจ้าภาพอุปถัมภ์ในการก่อสร้างอุโบสถ วัดถ้ำไตรรัตน์ ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ใช้ประกอบกิจของสงฆ์ได้อย่างสมบูรณ์

นักท่องเที่ยวมาเที่ยวและทำบุญไม่ขาดสายถึงแม้ว่า พ.ศ.2544 หลวงพ่อเพิ่ม กิตฺติวฑฺฒโน จะได้รับมติของคณะสงฆ์ให้มาดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดป่าสาละวัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ก็ได้รับการสานต่อธรรมทายาทโดยมีพระครูวิสุทธิคุณากร (ศักดิ์เกษม สุทธเขโม น.ธ.เอก, ศ.นบ., M.A.) แต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสเมื่อวันที่ 9 เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2545 และได้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลปากช่อง (ธ) เขต 2 ซึ่งดูแลรับผิดชอบต่อจากพระเดชพระคุณพระมงคลวัฒนคุณ จนถึงปัจจุบัน

ด้านสมณศักดิ์ พ.ศ.2519 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นโท ในราชทินนามที่ พระครูกิตติวัฒนคุณ พ.ศ.2524 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอกในราชทินนามเดิม วันที่ 12 สิงหาคม 2535 ได้รับพระราชทานเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระมงคลวัฒนคุณ

งานด้านการปกครอง พ.ศ.2519 เป็นเจ้าอาวาสวัดวชิราลงกรณ์วราราม

หลวงพ่อเพิ่มบารมี ตามที่คนใกล้ชิดลูกศิษย์ลูกหาที่ศรัทธามหาเถระรูปนี้เรียกขานกัน ท่านเป็นพระอารมณ์ดี มีเมตตาธรรมสูง คนใกล้ชิดจะรู้สึกอบอุ่น ไม่เคยแสดงอาการโกรธหรือโมโหให้ได้เห็น ในแง่การอธิบายธรรมก็เชื่อมโยงให้เข้าใจง่าย ๆ มีอุปมาเปรียบเทียบ รวมทั้งกวีโวหารเรียกว่า “นักกลอนมือฉกาจ” เลยทีเดียว

ผลงานกวีนิพนธ์ของหลวงพ่อมีเป็นจำนวนมาก กลอนแบบนิราศที่เขียนถึงจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศไทยที่รวบรวมเอาอำเภอ จุดเด่นของแต่ละจังหวัด แทรกแง่ข้อคิดเชิงปรัชญาไว้ด้วยหรือบทธรรมทัวร์ทั่วไทย หรือชุดดอกไม้ในแดนธรรม ซึ่งรวบรวมชื่อดอกไม้มาเขียนเป็นกลอนดอกสร้อยไว้ครบครัน รวมทั้งบท มงคล ๓๘ ที่หลวงพ่อมักทำเป็นใบปลิวแจกญาติโยม ซึ่งออกแบบเป็นรูปพระเจดีย์ อ่านขึ้นตั้งแต่ฐานจนถึงบทจบของกลอน

นอกจากนี้ยังบทอื่น ๆ อีกหลายสำนวน รวมเป็นเล่มก็เล่มหนาเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น บทหมอดูแม่น ๆ

สุขหรือทุกข์ หมอดู รู้ที่จิต

ถูกหรือผิด หมอดู รู้ที่ผล

ดีหรือชั่ว หมอดู รู้ที่ตน

มีหรือจน หมอดู รู้ที่ใจ

นอกจากนี้คติธรรมประจำใจของหลวงพ่อเพิ่มบารมี คือ “ทำดีเป็นทุน ผลบุญเป็นกำไร ความสุขใจเป็นรางวัล” หลายคนพบหลวงพ่อมักขอวัตถุมงคล หลวงพ่อมักจะมีพระมาแจกเสมอ ๆ ไม่ว่าจะเป็น พระที่ชอบแจก หลวงพ่อยิ้ม, หลวงพ่อแย้ม, หลวงพ่อแจ่ม, หลวงพ่อใส, หลวงพ่อสด, หลวงพ่อสติ, หลวงพ่ออภัย

วัดกาย ตำบลขันธ์ 5 อำเภอใจ จังหวัดจิตรนคร เป็นพระที่ดัง ขลัง ศักดิ์สิทธิ์ ชนิดยิงไม่ออกฟันไม่เข้า แต่ต้องปฏิบัติดังนี้ เวลาเขายิงกันที่ไหนอย่าออกไป เรียกว่า ยิงไม่ออก เวลาเขาฟันกันที่ไหนอย่าเข้าไป เรียกว่า ฟันไม่เข้า

นอกจากนี้หลวงพ่อยังมีธรรมชวนชิม…สูตรอาหารสมานไมตรี โดยมีการเตรียมเครื่องปรุงเป็นอภัย 3 ส่วน, ความหวังดี 3 ส่วน, วาจาไพเราะพอประมาณ ความปรารถนา 3 ส่วน, ความเห็นใจ 3 ส่วน, ความโอบอ้อมอารี 3 ส่วน และยิ้มแฉล้มตามต้องการ

วิธีปรุง คนความหวังดีและอภัยให้เข้ากันเตรียมวาจาไพเราะพอประมาณ แล้วค่อย ๆ ผสมความปรารถนาดีลงไป ส่วนความเห็นใจและความโอบอ้อมอารีนั้นบรรจงคนให้เข้ากับส่วนอื่น นำไปอบในหัวใจที่อบอุ่น (อย่าให้ร้อนนัก เดี๋ยวส่วนผสมจะไหม้) โดยมีน้ำใจหรือยิ้มแฉล้มเป็นครีมราดหน้าแล้วแจกจ่ายรับประทานบ่อย ๆ โดยทั่วกันหมายเหตุ 3 ส่วน คือ

1. คนที่เรารัก

2. คนที่เราไม่รัก

3. คนทั่วไป

นี่ถือว่าเป็นการสอนธรรมะทางอ้อมโดยแบบฉบับ หลวงพ่อเพิ่มบารมี

#รับประกันพระแท้ครับ

 

ปิด



No118 / 350 บาท


พระสมเด็จเพิ่มบารมี เพิ่มมงคล องค์ที่ 2

หลังยันต์นะครอบจักรวาล มีเกศา หายาก ปกติจะเจอแต่ไม่มีเกศา บางคนขายเป็นหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว จริงแล้วเป็นหลวงพ่อเพิ่ม ครับ

 

ท่าน shaj จองครับ



No119 / 350 บาท

พระผงรูปเหมือนสมเด็จโต วัดระฆัง ออกวัดอุดมธัมมรังษี ปี 2516

เลี่ยมโบราณมาสวยครับ

หลวงปู่คำแสน วัดดอนมูล เชียงใหม่ เมตตาปลุกเสกให้ตลอดไตรมาส 2516 และยังได้นำไปให้หลวงพ่อเกษม สุสานไตรรัตน์ อธิฐานจิตปลุกเสกให้ด้วย
ด้านหลังเป็นยันต์หัวใจพระพุทธเจ้า 16 พระองค์อ่านบาลีได้ว่า นะ มะ นะ อะ นอ กอ นะ กะ กอ ออ นอ อะ นะ อะ กะ อัง ผู้ใดสวดหรือภาวนาหรือมีพระยันต์นี้ย่อมไม่ตกอบายภูมิและอยู่สูงกว่าคนทั่วไปมีพุทธคุณ 108 พันประการ ครอบจักรวาลแล้วแต่ผู้ใช้อธิษฐาน