และนี่คือเรื่องราวโดยรวม กับภาระกิจยกระดับพลังงานของโลก

(part 1)

ฉันก็หมือนคุณๆหลายคน ที่สนใจเรื่องภัยพิบัติ ฉันก็เคยวนๆเวียนๆอยู่แถวๆนี้ เพื่อติดตามข่าวคราว และพยามรวมกลุ่มเพื่อเตรียมการรับมือ แต่จนแล้วจนรอดมันก็ไม่ได้เกิดเหตุ(แบบที่เราคิด)

แต่แล้วชีวิตก็มีจุดหักเหหลายๆช่วง ทำให้ต้องพับโครงการที่ตั้งใจไว้ไป และนั่นมันก็ผ่านมาเกือบ20ปีแล้ว แต่ในทางตรงข้าม ขีวิตกลับเดินไปสู่การเตรียมการภายในมากขึ้น และเข้มข้นขึ้น โดยที่ฉันก็ไม่ทันรู้ตัว

จนกระทั่งหลังโควิดปลายปี2021(2564) ฉันก็เริ่มได้รับสารจากต่างมิติ... ถึงตรงนี้ คุณๆก็ไม่ต้องคิดว่ามันจะเป็นอะไรที่พิศดารหรอกนะคะ สารมักจะมาในรูปแบบที่ธรรมดา และธรรมชาติมาก เช่นคลิปในยูทูป คำพูดของใครบางคน หรือเหตุการณ์ที่คุณพบเจอทั่วๆไป ... แต่มันกลับสะกิดความรู้สึกบางอย่าง

นั่นแหละค่ะ ฉันไปเจอข้อความบางอย่างจากยูทูป... และจริงๆฉันก็ฟังไม่ค่อยเข้าใจด้วยซ้ำว่าเขาพยามจะพูดเรื่องอะไรและจะสื่ออะไร แต่มันกลับทำให้ฉันรู้สึกว่าเข้าใจ อย่างบอกไม่ถูก และบางครั้งก็มีคำบางคำที่ทำให้รู้สึกว่ามันตั้งใจส่งมาถึงจิตวิญญานของฉันโดยตรง และนั่นก็ทำให้ฉันเฝ้าติดตามและรับฟังข้อความเหล่านั้นไปเรื่อยๆ มันเหมือนกับฉันค่อยๆได้รับจิ๊กซอว์ทีละชิ้นสองชิ้น ภาพค่อยๆปะติดปะต่อกันแบบลางๆ มันพอจะเข้าใจได้ในจิตวิญญาน แต่ก็ไม่สามารถเรียบเรียงเป็นคำพูดได้

จนเข้าปี2025 ฉันก็เริ่มได้รับข้อความจากแหล่งอื่นๆและแหล่งอื่นๆ เหมือนข้อความแต่ละแห่งเป็นพื้นฐานของกันและกัน และในปีนี้นี่เอง ที่ข้อความต่างๆมีความเข้มข้นและชัดเจนมาก ถึงมันจะยังไม่สมบูรณ์ แต่มันก็มีมากพอที่ฉันจะเล่าให้คุณฟังได้ระดับหนึ่ง ไม่รู้สินะ อาจมีอะไรที่ผลักดันให้ฉันต้องมาบอกคุณ เพราะเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว...

คุณๆที่เข้ามาอ่าน คุณไม่ได้บังเอิญ ฉันขอร้องให้คุณมาเห็น ซึ่งอาจจะเป็นการชักนำโดยจิตวิญญานขั้นสูงของคุณ หรือครูบาอาจารย์ของคุณ หรือเหล่าชาวเพื่อนต่างดาวของคุณ ... จงรู้ไว้ คุณคือส่วนหนึ่งในภารกิจนี้

ก่อนจะเข้าเรื่องภัยพิบัติ (ซึ่งแท้จริงแล้วมันคือการยกระดับพลังงานของโลก) ฉันควรจะต้องเล่าถึงระบบของจักรวาลให้เห็นภาพกันสักหน่อย หากคุณเคยเห็นภาพถ่ายของห้วงอภิมหาจักรวาล คุณก็จะเข้าใจว่าโลกของเรานั้นเป็นเพียงเศษเสี้ยวธุลีของจักรวาลเท่านั้น และหากคุณไม่ปิดกั้นเกินไปนัก ในบรรดาดาวเคราะห์นับล้านๆดวง ที่ดาดดื่นเต็มจักรกาลนั้น มันคงเป็นไปไม่ได้ ที่จะมีแต่ดาวโลกที่มีสิ่งมีชีวิตดำรงอยู่ใช่ไหม

มีดาวเคราะห์อีกมากมายในกาแลกซี่อื่นๆอันไกลโพ้น ที่มีสิ่งมีชีวิตดำรงอยู่ ซึ่งอาจจะมีรูปร่างหรือการดำรงอยู่ในแบบที่เราก็ไม่อาจจินตนาการได้ ในแต่ละดาวก็มีวิวัฒนาการทางด้านจิตวิญญานและเทคโนโลยีที่ต่างกันไป อีกทั้งยังมีการจัดระดับตามวิวัฒนาการเหล่านั้นอีกด้วย

โลกเรานั้นอยู่ในระดับวิวัฒนาการที่ต่ำสุด ชาวจักรวาลรู้จักกันในนาม"ดาวแห่งทุกข์" อย่างไรก็ตามก็มีดาวดวงอื่นอีกที่อยู่ในระดับเดียวกันกับเรา

นอกเหนือจากนี้ เช่นเดียวกันกับทุกภพ ทุกอาณาจักร จักรวาลก็มีกฎและผู้ดูแล...

เรา... ทุกดวงจิตวิญญาน ต่างก็อยู่ภายใต้กฎของจักรวาลนะคะ

กฎอย่างแรกคือ ทุกดวงจิตมีหน้าที่ต้องเรียนรู้และพัฒนาจิตของตน... แค่ข้อนี้ เราก็ต้องถามตัวเองแล้วว่า ตอนนี้เราทำหน้าที่อยู่หรือไม่

กฎข้อถัดมาคือ ทุกดวงจิตมีเจตจำนงเสรี หมายถึง การตัดสินใจและการกระทำใดๆ เป็นของคุณเองนะคะ ไม่มีใครบังคับได้ และผู้กระทำต้องเป็นผู้รับผลของมันค่ะ

กฎข้อต่อมาคือ จริงๆแล้ว เราไม่ได้อยู่คนเดียวเลยนะคะ มีการช่วยเหลืออยู่ตลอด จากภพภูมิหรืออาณาจักรอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เทพเทวาหรือครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่มีความเชื่อมโยงกับคุณ หรือตัวตนที่สูงกว่าของคุณหรือแม้กระทั่งเพื่อนๆชาวต่างดาวทั้งหลาย แต่กฎของจักรวาลมีอยู่ว่า เขาจะไม่สามารถแทรกแทรงการตัดสินใจใดๆของคุณได้นะคะ นอกจากจะได้รับการร้องขอหรืออนุญาตจากคุณ และเขาก็ไม่สามารถช่วยแบบเบ็ตเสร็จได้ เขาทำได้แค่ช่วยแนะนำเท่านั้น และถ้าคุณไม่เคยฝึกที่จะรับฟังเสียงจากภายในเลย คุณก็จะไม่เคยได้ยินคำแนะนำเหล่านั้นเลย เพราะบางครั้งมันก็มารูปแบบของความคิดที่แว้บเข้ามาเท่านั้น

เอาล่ะ... มีกลุ่มชาวเพื่อนต่างดาว และอาจจะอาณาจักรอื่นๆด้วย ที่เป็นกลุ่มของเหล่าผู้มีจิตวิญญานขั้นสูงทั้งแบบรูปธรรมและแบบดวงจิต ที่มีหน้าที่ดูแลและคอยให้คำแนะนำจิตวิญญานดวงอื่นๆ ซึ่งดำรงอยู่บนดาวเคราะห์ต่างๆอีกมากมายในจักรวาลนี้ และโลกเราก็เป็นหนึ่งในนั้น

กลุ่มผู้ดูแลเหล่านี้มีชื่อที่ชาวโลกเรียกว่า สหพันธ์กาแลคติก (Galactic Federation) เขาก็มีหน้าที่ที่จะไปสำรวจดาวดวงนั้นดวงนี้ เพื่อดูพัฒนาการและให้ความช่วยเหลือในขอบเขตที่ทำได้ โดยเฉพาะพัฒนาการทางด้านจิตวิญญาน

เหล่าผู้ดูแล เขามีการดำรงอยู่มายาวนานเท่าใดนั้น ฉันไม่อาจทราบได้ รู้แต่ว่าก็นานพอที่จะเห็นความเป็นมาเป็นไปของดาวดวงต่างๆ จากกำเนิดจนเริ่มมีการพัฒนา จนรุ่งเรือง และมีอารายธรรมไปจนเสื่อมสลาย มีการบันทึกเก็บรายละเอียดทุกอย่าง

และในกาลครั้งหนึ่ง ก็มีดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ซึ่งคล้ายโลกเรามาก ดาวดวงนั้นก็ค่อยๆพัฒนาจนเจริญรุ่งเรือง มีอารยธรรม มีเทคโนโลยี... แต่ในทางกลับกัน ชาวดาวแห่งนั้นก็ได้หลงลืมหน้าที่หลักในการพัฒนาจิตของตนไป เขาให้ความสำคัญแต่กับวัตถุ พวกเขามุ่งแต่ทำงานหาเงิน จนในที่สุดก็ถูกกิเลสตันหาครอบงำ เมื่อความต้องการของตนเป็นใหญ่ ความขัดแย้งก็ตามมา สร้างความเกลียดชังต่อกันจนกลายเป็นสงครามในที่สุด และสงครามก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสุดท้ายตกลงกันไม่ได้ พวกเขาก็ตัดสินใจทำลายล้างตัวเอง โดยใช้ระเบิดนิวเคลียร์ล้างโลก...

เหตุกาลครั้งนั้น สร้างความเสียหายใหญ่หลวงมาก และกระทบกระเทือนไปทั้งจักรวาล หลายดวงจิตที่เคยผ่านเหตุครั้งนั้นมาก็ได้รับความเศร้าโศกเสียใจอย่างรุนแรงและยังคงติดค้างอยู่ในจิต

และนั่นก็เป็นบทเรียนครั้งสำคัญในระดับที่จักรวาลต้องมีการปรับเปลี่ยนกฎ... ใช่แล้ว... กฎที่ว่าเหล่าผู้ดูแลไม่มีสิทธิ์แทรกแทรงเจตจำนงเสรีของมนุษย์นั้น ได้รับการเพิ่มเงื่อนไขว่า หากการกระทำนั้นจะมีผลกระทบใหญ่หลวงในระดับล้างโลก พวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะแทรกแทรงได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า การใช้นิวเคลียร์ในระดับที่จะล้างโลกนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นในโลกของเราแน่นอน เพราะพวกเขาจะไม่ยอมให้มันเกิด

เหล่าผู้ดูแลเฝ้าติดตามดูวิวัฒนาการของดาวดวงต่างๆ รวมไปถึงโลกของเรา เขาเฝ้าดูเรา พวกเขามีข้อมูลและพวกเขาก็เห็นแนวโน้ม ยิ่งความเจริญด้านวัตถุมีมากขึ้นเท่าไร ความเสื่อมทางด้านจิตวิญญานก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น กิเลสตัณหาค่อยๆครอบงำและกลืนกิน ชาวโลกเอาแต่ให้ความสำคัญกับวัตถุและการหาเงิน พวกเขาลืมหน้าที่หลักในการพัฒนาจิตวิญญานไปแล้ว

ความขัดแย้ง สงคราม การเข่นฆ่ากัน ค่อยๆปะทุขึ้น เหล่าผู้ดูแล พวกเขาเห็น พวกเขารับรู้ มันไม่ใช่เรื่องใหม่ และหากปล่อยทิ้งไว้ โลกก็จะดำเนินไปถึงจุดที่ล่มสลาย เหมือนดาวดวงนั้น พวกเขาจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกเป็นอันขาด

ในขณะเดียวกัน จิตวิญญานแห่งโลก พระแม่ไกอา(Mother Gaia) หรือที่เราขนานนามท่านว่า พระแม่ธรณี เธอก็รับรูเรื่องนี้มาโดยตลอด ด้วยความรักความเมตตาและเธอไม่ต้องการให้โลกนี้ต้องล่มสลายลงไป เธอจึงส่งสัญญานไปยังจักรวาล เธอต้องการยกระดับพลังงานและยกระดับแรงสั่นสะเทือนของโลกใบนี้ เหตุเพราะระดับพลังงานและแรงสั่นสะเทือนที่เป็นอยู่ มันหนาแน่น ทึบ และหนักเกินไป แสงสว่างส่องไม่ถึง ชาวโลกโดนความมืดเข้าครอบงำ จิตใจพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัวและกระแสด้านลบ พระแม่ไกอา เธอต้องการล้างพลังงานเหล่านั้นออกไปเสีย

แน่นอน จักรวาลรับคำขอของเธอ และยินดีปรีดาที่จะให้การช่วยเหลือเป็นอย่างยิ่ง... มันไม่ใช่งานที่ง่ายเลย และเป็นภารกิจระดับจักรวาลแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

มีการจัดตั้งกลุ่มเพื่อช่วยดูแลภาระกิจครั้งนี้ ชาวโลกรู้จักในนาม สหพันธ์กาแลคติกแห่งแสงสว่าง (GFL: Galactic Federation of Light) ซึ่งเป็นการรวมตัวของเหล่ารูปธรรมและจิตวิญญานขั้นสูง จากหลายๆดวงดาวและหลายอาณาจักร พวกเขามีความรักความปรารถนาดี และต่างมีเป้าหมายเดียวกัน คือต้องการช่วยให้การยกระดับครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

เพื่อนชาวต่างดาวในกลุ่มนี้ ที่เรามักจะได้ยินชื่อบ่อยๆ เพราะพวกเขามีหน้าที่คอยติดต่อและให้ข้อมูลกับชาวโลก ก็เห็นจะเป็น ชาวเพียเดียน อาคทูเรียน แอนดรอมีแดนซ์ ซีเรียน ไลรา (และอื่นๆอีก ซึ่งฉันก็ไม่ทราบทั้งหมด) และบางครั้งข้อความก็ถูกส่งมาจากพระแม่ไกอาเอง หรือมาจากเทพเทวา ครูบาอาจารย์จากอาณาจักรแห่งจิตวิญญาน ..

โดยส่วนตัวคิดว่า การสื่อสารผ่านเพื่อนต่างดาวนั้นน่าจะง่ายกว่าการสื่อสารผ่านเทพเทวานะคะ เพราะเพื่อนต่างดาวนั้นเป็นรูปธรรมค่ะ เขาสื่อสารถึงเราได้โดยตรง แต่เหล่าเทพเทวาซึ่งอยู่ในอาณาจักรแห่งจิตวิญญานนั้น ต้องสื่อสารผ่านจิต และหากจิตเราไม่ถึง จูนคลื่นไม่ได้ เราก็จะไม่ได้ยินอะไรเลย

ภารกิจครั้งนี้ คือการยกระดับพลังและแรงสั่นสะเทือนของโลก จากมิติที่3 ไปสู่มิติที่5 กระบวนการคือ เขาจะส่งจิตวิญญานที่มีพลังงาน มีแสงสว่างและมีแรงสั่นสะเทือนสูง มาเกิดที่โลกนี้ พวกเขาเหล่านี้จะต้องทำอะไรอย่างนั้นหรือ....

พวกเขาเหล่านี้นั้นมีพลังงานออร่าพิเศษ แต่ภายนอกแล้วพวกเขาก็คือมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง หน้าที่ของพวกเขาก็เพียงแค่ต้องดำเนินชีวิตตามครรลองครองธรรม ต้องใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และใช้ชีวิตอย่างเต็มเปรี่ยมไปด้วยความรักความเมตตา พวกเขาจะต้องใช้ชีวิตให้เป็นแบบอย่างแก่ชาวโลก เพียงเท่านี้ แล้วพลังงานของเขามันจะแผ่ออกไป พวกเขาจะเป็นแรงบรรดาลใจให้คนอื่น การใช้ชีวิตของพวกเขาจะไปจุดประกายและปลุกจิตสำนึกให้คนอื่นๆ รู้สึกอยากที่จะเปลี่ยนแปลง อยากที่จะปรับปรุงตัวเองและนำไปสู่การยกระดับจิตสำนึกของแต่ละบุคคล

มีการเตรียมการก่อนที่จะส่งดวงจิตเหล่านี้มาเกิด บางดวงจิตได้รับการขอร้องให้มา บางดวงจิตก็อาสามา บางดวงจิตเคยผ่านเหตุการณ์ล้างโลกมาแล้ว พวกเขาจึงตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมให้มันเกิดกับโลกอื่นอีก บางดวงจิตมาจากดาวดวงอื่นๆ บางดวงจิตมาจากอาณาจักรอื่นๆ อาณาจักรแห่งจิตวิญญาน อาณาจักรแห่งเทพเทวา ต่างก็ร่วมแรงร่วมใจเพื่อภารกิจอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้

อาจจำแยกกลุ่มที่มาเกิดได้เป็น2กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มแรกชาวโลกเรียกว่า เหล่าเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว(Starseed) ซึ่งฉันจะขอเรียกสั้นๆว่า จิตต่างดาว และอีกกลุ่มคือ ชาวแสง หรือ นักรบแห่งแสง(Lightworker, Light warrior)

มีการเตรียมความพร้อมพอสมควรก่อนจะส่งดวงจิตเหล่านี้มาเกิดที่โลก โดยเฉพาะเหล่าจิตต่างดาว เพราะพวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับโลกนี้เลย

ในระหว่างเตรียมการนั้น เหล่าผู้ดูแลก็ยังคงเฝ้าติดตามความเป็นไปของโลก สถานการณ์ไม่สู้ดีนักเมื่อสงครามโลกครั้งที่1ประทุขึ้น และดำเนินมาจนถึงสงครามโลกครั้งที่2 มีการใช้ระเบิดปรมาณูทิ้งลงที่ญี่ปุ่น สหพันธ์กาแลคติกแห่งแสงสว่าง เห็นว่าจะรอช้าไม่ได้แล้ว จึงได้เริ่มส่งจิตวิญญานกลุ่มแรกมาเกิด หรือเรียกว่าคลื่นลูกแรก หลังสงครามโลกครั้งที่2 คือช่วงค.ศ.1945-1965 แล้วก็ส่งคลื่นลูกที่2 มา ราวช่วงค.ศ.1970-1985 แล้วก็ตามมาอีกระรอกหนึ่งเป็นคลื่นลูกที่3 ราวค.ศ.1995-2005 เป็นทั้งหมด3ช่วง เรียกว่าเป็นคลื่น3ลูก(ข้อมูลจากหนังสือ The three waves of volunteer and the new earth)

ฉันได้รับการบอกเล่าว่า เหล่าดวงจิตที่ถูกส่งมาทั้ง3ระรอกคลื่นเพื่อปฏิบัติภารกิจในครั้ง รวมๆกันแล้วมีจำนวน 144,000 ดวง อย่างไรก็ตาม มีข้อความแจ้งว่า อาจไม่สามารถนับเป็นจำนวนคนได้ เพราะบางดวงจิตอาจมาในรูปแบบอื่นๆ

เหล่าดวงจิตที่ถูกส่งมาในแต่ละรอบนั้น จะไม่เหมือนกัน เพราะในแต่ละครั้งที่ส่งมา จะมีการเก็บข้อมูลเพื่อนำไปปรับปรุงการเตรียมความพร้อมให้กับดวงจิตรุ่นต่อๆไป เพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้สะดวกมากขึ้น

แต่กระบวนการก็เป็นไปอย่างช้ามาก เพราะถึงแม้จะมีการเตรียมตัวแล้ว แต่เมื่อลงมาเกิดจริงๆพวกเขาก็พบว่ามันไม่เป็นอย่างที่คิด โลกมีความหนาแน่นมากเกินไป อีกทั้งม่านแห่งการหลงลืมที่พวกเขาต้องเผชิญเหมือนกับมนุษย์ทุกคนบนโลก จิตใต้สำนึกบอกว่าพวกเขามีภาระกิจที่ต้องทำ แต่พวกเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร พวกเขาเติบโตมาพร้อมกับความสับสนและขัดแย้งในจิตใจ ซึ่งแพทย์ปัจจุบันคงจะวินิจฉัยว่ามันเป็นอาการซึมเศร้า

ถึงแม้ทีมงานเบื้องบนและนอกโลกจะพยามข่วยเหลือและกระตุ้นแต่ก็ทำได้ในขอบเขตของกฎจักรวาล และมันก็ไม่ได้ผลดีนัก จนในที่สุดจึงมีการเปิดปฏิบัติการส่งแสงเข้ารหัสมายังโลกเพื่อกระตุ้นให้กระบวนการเดินหน้าเร็วขึ้น

คลื่นแสงหรือคลื่นรังสีคอสมิคที่ส่งมา ไม่ได้มาจากดวงอาทิตย์ในระบบสุริยะของเรา แต่มาจากดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางของจักรวาล (The Great Central Sun)

แสงที่ส่งมา ไม่ใช่แสงธรรมดา แต่มีการเข้ารหัสแสงและมีพลังงานส่งมาด้วย วัตถุประสงค์ของแสงนี้คือ
1. เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตื่นรู้และยกระดับจิตสำนึก
2. เพื่อกระตุ้นให้DNA คู่ที่24 และต่อมไพเนียลเปิดการทำงาน
3. เพื่อปรับปรุงโครงสร้างDNA จากฐานคาร์บอนไปเป็นฐานคริสตัล เพื่อรองรับแสงที่จะส่งมาอีกเรื่อยๆได้มากขึ้น
4. เพื่อให้เหล่าจิตอาสาที่ลงมาเกิดสามารถจดจำสัญญาพันธกิจของตัวเองได้

ข้อ1-3มีผลต่อเหล่ามวลมนุษชาติบนโลกนี้ทุกคนนะคะ ไม่ใช่จำกัดแค่เหล่าจิตอาสา เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นหนึ่งในเหล่าจิตอาสาหรือไม่ นั่นไม่สำคัญ แต่คุณคือส่วนหนึ่งในภาระกิจครั้งนี้

ขออธิบายเรื่อง DNAคู่ที่24 สักหน่อย แต่เดิมเมื่อกาลนานมาแล้ว มนุษย์สามารถติดต่อสื่อสารกับอาณาจักรแห่งจิตวิญญานได้ ติดต่อกับอาณาจักรต่างดาวได้ มนุษย์มีความสามารถทางจิตมากกว่านี้ นี่เป็นหน้าที่ของDNAคู่ที่24ค่ะ แต่ฉันก็ไม่ทราบว่าเหตุการณ์คืออะไร และตั้งแต่เมื่อไหร่... มีการกระทำบางอย่าง โดยใครก็ไม่รู้อีกนั่นแหละ... พวกเขาทำการดัดแปลงDNAของมนุษย์ โดยการปิดการใช้งานDNAคู่ที่24นี้เสีย มนุษย์จึงสูญเสียความสามารถทางจิตไป ปัจจุบันทางการแพทย์จะบอกแค่ว่ามนุษย์มีDNA เพียง23คู่ ส่วนคู่ที่24 เนื่องจากไม่เห็นว่ามันมีหน้าที่อะไรเขาจึงเรียกมันว่าDNAขยะ(Junk DNA)

เมื่อมนุษย์ไม่สามารถรับรู้เรื่องราวทางโลกแห่งจิตได้ มนุษย์ก็หลงติดอยู่ในโลกแห่งมายา ก็ยิ่งเข้าทางให้ถูกควบคุมโดยฝ่ายมืดได้ง่าย

ฝ่ายมืดได้สร้างระบบต่างๆขึ้นมาอย่างแยบยนเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุมมนุษย์... ฉันอยากจะขอให้คุณเปิดใจ และทำจิตให้เหนือสมมุติทั้งหลายก่อนที่จะอ่านข้อความที่ฉันกำลังจะบอกต่อไป... ระบบการเงิน ระบบการศึกษา ระบบการปกครอง หรือแม้แต่ระบบประชาธิปไตย ระบบศาสนา ล้วนเป็นเครื่องมือของฝ่ายมืดทั้งสิ้น...

ฉันไม่ได้บอกว่าระบบเหล่านี้ไม่ควรมีอยู่ แต่กำลังจะบอกว่าระบบที่เป็นอยู่ปัจจุบันนี้ไม่ได้ตอบวัตถุประสงค์อย่างที่มันควรจะเป็น เครื่องมือของฝ่ายมืดนั้น จะมุ่งก่อให้เกิดความขัดแย้ง ความแตกแยก ความโกลาหล และความกลัว คุณๆลองใช้ปัญญาพิจารณาดูว่าจริงหรือไม่ ในยุคของโลกใหม่นั้น ระบบเหล่านี้จะถูกจัดสรรอย่างสร้างสรรค์ หากคุณอยากจะเห็นว่ามันจะเป็นอย่างไร คุณก็ต้องอยู่ให้ถึงวันนั้น ซึ่งจะไม่นานเกินรอ...

กลับมาที่ปฏิบัติการส่งแสงเข้ารหัสมายังโลกนี้ ปฏิบัติการนี้ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2011-2012 (พ.ศ.2554-2555) คุณอาจไม่รู้ตัวเลย แต่ลองนึกย้อนกลับไป ช่วงนั้นหลายๆคนมีการเปลี่ยนแปลงในชีวิตหลายๆด้านเกิดขึ้น บ้างย้ายบ้าน เปลี่ยนงาน อาจมีการหย่าร้าง เปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต เปลี่ยนวิถีการกิน เปลี่ยนทัศนคติ เปลี่ยนแนวความคิดบางอย่าง ฯลฯ นั่นเป็นผลของแสง ทั้งนี้ก็เพื่อจะให้คุณได้ดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับระดับพลังงานและความถี่ที่กำลังเปลี่ยนแปลง และสามารถรับแสงเข้ารหัสและพลังงานได้มากขึ้นและราบรื่นขึ้นในอนาคต เพราะจากนั้นเป็นต้นมา แสงจะถูกส่งเข้ามาเรื่อยๆ และมากขึ้น เข้มข้นขึ้น

ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะคะที่จะเปลี่ยนแปลง แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าจักรวาลเลือกปฏิบัติ หรือมีการคัดคนอะไรทำนองนั้น ไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะคัดให้ใครอยู่ใครไป ขอให้คุณลบความเข้าใจผิดๆนี้ไปเสีย เพราะมันมีแต่จะสร้างอัตตาให้เกิดขึ้น อัตตาที่ว่าฉันดี เขาเลว ฉันสมควรอยู่และเขาสมควรไป... นี่มันไม่ใช่เลย... มนุษย์ทุกคนมีเจตจำนงเสรี และแต่ละคนก็เป็นผู้เลือกเองว่าจะอยู่หรือจะไป

หากเขายอมเปิดใจ ยอมที่จะเปลี่ยนแปลง ยอมที่จะยกระดับจิตสำนึกและความถี่ให้สอดคล้องกับโลกใหม่ นั่นคือเขาตัดสินใจที่จะอยู่ค่ะ แต่หากเขาไม่อยากจะทำสิ่งเหล่านั้น และเลือกที่จะติดอยู่ในโลกเดิมๆ นั่นก็คือทางเลือกของเขา เราก็ไม่อาจอยู่โลกเดียวกันได้เพราะว่าความถี่มันไม่เข้ากัน
......

 

(part 2)

ฉันไม่ทราบว่าเหตุการณ์โควิค19นั้นมีกลุ่มใดอยู่เบื้องหลังหรือไม่ รู้เพียงแต่ว่ายิ่งมีการพยามจะสร้างสถานการณ์มากเท่าไหร่ ชาวโลกก็ยิ่งตื่นรู้มากขึ้น พวกเขาเริ่มเห็นความไม่แน่นอน เริ่มเห็นสมมุติของโลก และเริ่มกลับเข้าสู่ภายใน เริ่มฟังเสียงภายในของตนมากขึ้น

ตั้งแต่หลังโควิด ปลายปี2021(พ.ศ.2564) จิตสำนึกมวลรวมและแสงสว่างของชาวโลกเริ่มเพิ่มมากขึ้นด้วยความเร่งแสงเข้ารหัสยังคงถูกส่งมาเรื่อยๆ และพลังงานของโลกก็กำลังเปลี่ยนแปลง พลังงานที่เปลี่ยนแปลงนี้มีผลให้เกิดภัยธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ฝ่ายมืดก็พยามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อไม่ให้สูญเสียอำนาจในการควบคุมชาวโลกไป พวกเขาพยามจะสร้างสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้เกิดความวุ่นวายและโกลาหล เพื่อให้มนุษย์เกิดกระแสลบในจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นความกลัว ความเกลียดชังทั้งหลาย

นอกจากนี้ พลังงานและความถี่ที่สูงขึ้น ก็เป็นตัวบีบคั้นให้อะไรๆที่ไม่สอดคล้องค่อยๆผุดขึ้นมา เพื่อที่จะถูกล้างออกไป นั่นคือสาเหตุที่ทำให้การกระทำไม่ดีทั้งหลายที่ถูกปกปิดหมกเม็ดมาช้านาน ค่อยๆถูกเปิดโปงในช่วงหลังๆมานี้ ดังนั้นช่วงนี้ชาวโลกจึงต้องฝึกจิตของตนเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะไม่ให้หวั่นไหวไปกับความวุ่นวายต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ ไม่เช่นนั้นเราก็จะตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายมืด และทำให้ภารกิจมันช้าลง

พลังงานของโลกค่อยๆถูกแยกออก พูดง่ายๆคือมันถูกแยกออกเป็น2มิติที่ซ้อนทับกัน คือมิติที่3กับมิติที่5 จนถึงต้นปี2025(พ.ศ.2568) ขบวนการนี้ก็เสร็จสิ้น ก็คือตอนนี้พลังงานของโลกถูกแยกออกเป็น2มิติอย่างสมบูรณ์ และมันก็เป็นเวลาที่ทุกดวงจิตจะต้องเลือกแล้วว่าจะอยู่โลกไหน โลกใหม่หรือโลกเก่า จิตใต้สำนึกของทุกดวงจิตทราบเรื่องนี้ดี

คุณจะเริ่มสังเกตได้ว่า หากคุณทำจิตและสร้างแรงสั่นสะเทือนให้เป็นในแบบไหน สิ่งแวดล้อมรอบๆข้างก็จะเริ่มปรับไปในแนวทางนั้น ส่วนคนอื่นๆที่มีแรงสั่นสะเทือนที่ไม่สอดคล้องกัน พวกเขาจะค่อยๆแยกห่างจากคุณไป นี่เป็นกระบวนการแบ่งแยกเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งเกิดขึ้นในระดับพลังงาน แต่ในท้ายที่สุดแล้วการแบ่งแยกจะเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน... ใช่แล้ว... เราจะถูกแยกไปอยู่คนละโลก... ฉันก็ไม่ทราบรายละเอียดชัดเจนว่ามันทำงานอย่างไร

เอาล่ะ... คุณๆคงมีคำถามว่าจากนี้ต่อไปจะเป็นอย่างไร... ตอนนี้จิตสำนึกมวลรวมกำลังเพิ่มขึ้นด้วยความเร่ง และอีกไม่ช้าไม่นานก็จะถึงระดับที่เพียงพอสำหรับปฏิบัติการขั้นสุดท้าย

ต้องบอกว่าจิตสำนึกของทุกๆคนบนโลกใบนี้มีผลต่อพลังงานของโลกทั้งสิ้น ถ้าคุณสร้างพลังที่เป็นบวก ทำในสิ่งที่เป็นกุศล มีความรักความเมตตาให้แก่กัน มันก็จะก่อเกิดเป็นมวลพลังงานไปรวมตัวกัน เปล่งรัศมีเป็นรังสีออร่าของโลก และยิ่งถ้าคุณฝึกจิต ทำสมาธิ พัฒนาจิตของคุณให้เจริญขึ้น แล้วแผ่เมตตาออกไป พลังงานก็จะยิ่งมหาศาล และเมื่อพลังงานนี้อยู่ในระดับที่เพียงพอและนานพอ มันก็จะเป็นตัวจุดฉะนวนให้เกิดปฏิบัติการขั้นสุดท้าย(The great event)

คำว่า "ระดับพลังงานที่เพียงพอ" นั้น ไม่จำเป็นต้องมาจากคนทั้งโลกหรอกนะคะ เพราะโลกใหม่จะเหลือมนุษย์อยู่เพียงส่วนน้อยเท่านั้น และระบบทุกอย่างจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ และตอนนี้ระดับพลังงานก็อยู่ในขั้นที่จวนเจียนเต็มที่เวลาใกล้เข้ามาแล้ว เพราะฉะนั้นจากนี้ไปมีความเป็นไปได้ว่าเหตุอาจจะเกิดได้ทุกเมื่อ มันอาจจะมาเร็วมากแบบพรุ่งนี้หรืออาทิตย์หน้า หรืออย่างช้าไม่เกิน5ปี แต่ฉันก็ได้รับข้อความว่า น่าจะเกิดเร็วกว่านั้น

คุณๆคงจะอยากรู้ว่า ปฏิบัติการขั้นสุดท้าย(The great event)นั้น มันจะเป็นอย่างไร.... เมื่อเวลานั้นมาถึง ท้องฟ้าและบรรยากาศรอบข้างจะดูแปลกๆไป หากคุณปฏิบัติจิตมาดีแล้ว คุณอาจจะรู้ล่วงหน้าด้วยลางสังหรณ์ หรือมีสัญญานเตือน เมื่อเหตุปัจจัยถึงพร้อม แสงเข้ารหัสระดับเข้มข้นที่บรรจุด้วยพลังงานมหาศาล จะถูกส่งออกมาจากดวงอาทิตย์ศูนย์กลางของจักรวาล(The Great Central Sun)

คำว่า "ดวงอาทิตย์ศูนย์กลางของจักรวาล"นั้น เข้าใจว่าเป็นชื่อเรียกที่เป็นที่เข้าใจกันเท่านั้น เพราะมีคำอธิบายไว้ว่า แท้จริงที่ศูนย์กลางของจักรวาลนั้น เป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่ง เป็นผู้สร้าง เป็นแหล่งกำเนิดของพลังงานและความรัก และมีความสว่างมาก ที่ตรงนี้เป็นที่ที่ชาวจักรวาลเรียกกันว่า "พระเจ้า"

แสงที่ถูกส่งออกมานี้ จะทำให้เกิดความสว่างจ้าไปทั่วทั้งจักรวาล แสงจะพุ่งตรงฉาบลงสู่โลกชั่วขณะหนึ่งเหมือนแสงแฟลช(The great solar flash) ณ. เวลานั้น ผู้ที่เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว คุณจะรู้ได้ทันที เพราะแสงที่สว่างมากอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน และคุณก็รู้ว่านั่นไม่ใช่แสงจากดวงอาทิตย์ตามปกติ ช่วงเวลาแว้บหนึ่งนั้น เส้นเวลาเพื่อไปสู่มิติที่3 และ5 จะถูกแยกและเปิดออก และเราก็จะถูกว้าบไปตามแต่คลื่นความถี่ที่เราเลือกไว้ เมื่อแสงเบาลงทุกอย่างก็จะถูกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง... จริงๆตัวฉันเองก็ไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัดหรอกนะคะว่าการทำงานมันจะเป็นอย่างไร

มันเป็นการพูดให้เห็นภาพแบบง่ายๆนะคะ แต่จริงๆมันจะไม่ง่ายเท่าไหร่... เพราะคลื่นความถี่และพลังงานที่สาดมาแบบท่วมท้น แม้แต่ผู้ที่เตรียมกายเตรียมใจไว้ดีแล้ว ก็ยังจะประสบกับความชะงักงันอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง มีคำแนะนำว่าขอให้คุณเอาจิตกลับมาตั้งที่กายและลมหายใจ หายใจเข้าให้ลึกๆและทำสมาธิ อย่าฝืนอย่าต่อต้าน เพียงแต่ปล่อยให้พลังงานมันไหลผ่านคุณไป แล้วคุณจะค่อยๆปรับตัวได้ หากคุณเตรียมตัวเตรียมกายมาดีแล้ว คุณจะใช้เวลาในการปรับตัวไม่นานค่ะ แล้วคุณก็จะเป็นกำลังสำคัญในการให้ความช่วยเหลือคนอื่นๆต่อไป

คุณๆที่เข้ามาอ่าน มารับรู้เรื่องราวนี้ เมื่อเวลานั้นมาถึง คุณจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คุณจะเป็นผู้ช่วยอธิบายและบอกเล่าให้คนอื่นได้เข้าใจต่อไป จะมีหลายคนที่ไม่รู้และสับสน เขาจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาถูกย้ายเส้นเวลาไปสู่โลกใหม่แล้ว คนที่ไม่เคยผ่านการเตรียมตัวเตรียมใจเลย เขาอาจจะประสบปัญหาอย่างหนัก เพราะเขาปรับตัวให้เข้ากับพลังงานที่ถูกส่งมาอย่างท่วมท้นและฉับพลันไม่ทัน พวกเขาอาจจะเสียศูนย์และฟั่นเฟือนถึงขนาดที่ต้องได้รับการบำบัดและเยียวยา คุณอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องให้ความช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้น

ในขณะที่อีกหลายคน หลายคนมากๆ ที่เขาเลือกที่จะอยู่ที่โลกเก่า เพราะพวกเขาเลือกที่จะอยู่ที่นั่นเอง ข้อความไม่ได้บอกว่าพวกเขาจะตาย ฉันรับรู้แต่เพียงว่าทุกดวงจิตจะได้อยู่ในที่ที่ตนเลือก ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าบางดวงจิตก็เลือกที่จะจากไป... ตรงนี้ฉันก็ไม่ทราบอีกนั่นแหละว่ามันทำงานแบบไหน ขอให้คุณพิสูจน์มันด้วยตัวเอง... ที่แน่ๆ มันไม่ใช่เรื่องของการลงโทษ ไม่ใช่เรื่องของการคัดเลือก ไม่ใช่อะไรพวกนั้นเลย ที่ดาวโลกแห่งนี้ ทุกคนมีเจตจำนงเสรี และไม่ว่าเส้นทางที่คุณไปมันจะเป็นแบบไหน โปรดรู้ไว้ว่านั่นคือทางที่คุณเลือกเอง...

เอาล่ะ... ส่วนสุดท้ายนี้คือส่วนสำคัญ และน่าจะเป็นเหตุผลหลักว่าฉันมาบอกเล่าเรื่องราวซะยาวเหยียดนี้ทำไม.... ก็คือการเตรียมกายและเตรียมจิต

คุณๆที่ยอมอ่านมาจนถึงตรงนี้ ซึ่งฉันไม่คิดว่าจะมีจำนวนมาก โปรดอ่านคำแนะนำของฉันให้ดี และเริ่มเตรียมกายและจิตอย่างเข้มข้นได้แล้ว คุณจะเป็นกำลังสำคัญในการให้ความช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป เมื่อวันนั้นมาถึง คุณจะนึกถึงคำพูดของฉัน

เรามาพูดเรื่องจิตก่อน ซึ่งสำคัญมาก และถ้าคุณทำมันได้ถูก คุณก็จะได้รับประโยชน์จากแสงเข้ารหัสที่ส่งมาด้วย และมันจะส่งผลไปถึงกายด้วย

ก่อนนั้น ไม่ว่าจะจากคำทำนาย จากตำนาน จากคำบอกเล่า หรือคำเตือนอะไรก็ตามแต่ ชอบพูดว่า คนถือศีล5จะรอด.. ซึ่งนั่นก็ไม่ผิด แต่ค่อนข้างจะกว้างไปสักหน่อย และหลายคนก็ดูจะเข้าข้างตัวเอง ไม่มองโลกตามความเป็นจริง... หรือเพื่อนต่างดาวก็มักจะแนะนำว่า ให้ทำจิตให้มีความรัก รักแบบไม่มีเงื่อนไข และให้อภัยต่อกัน... นี่ก็ถูกต้องดีงามเหมือนกัน แต่หลายคนก็ยังไม่เข้าใจว่าต้องทำอย่างไร

ฉันเป็นลูกหลานพระพุทธเจ้า ฉันฝึกฝนและทดสอบมาแล้ว การปฏิบัติแบบที่พระพุทธเจ้าสอนนั้นครอบคลุมและไปได้ไกลกว่าแค่ความรัก ชาวต่างดาวเขาสอนเรื่องนี้ไม่ได้เพราะจิตเขายังไม่ถึง

หลักๆเลยคือการฝึกวิปัสสนา(ให้รู้เห็นตามความเป็นจริง) แบบสติปัฏฐาน4 (ดูกาย ดูจิต) แล้วฝึกจนเห็นสภาวะอุเบกขา... คำว่า "อุเบกขา" ค่อนข้างจะหาคำอธิบายให้เข้าใจได้ยาก และคำอธิบายที่มีอยู่ตามตำราก็ทำให้เข้าใจไม่ค่อยถูก มันไม่ใช่การเฉยแบบก้อนหินไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่มันเป็นการรับรู้ทุกอย่างตามสภาพจริงๆของมัน สภาพธรรมชาติของมัน และไม่มีการประเมินหรือปรุงแต่งใดๆ ไม่มีการตอบโต้หรือสร้างอารมณ์ใดๆ มันเป็นสภาวะที่คุณจะเข้าใจได้ด้วยการปฏิบัติเท่านั้น ฉันคิดว่าบางท่านก็น่าจะทราบดีอยู่แล้ว ขอให้คุณไปศึกษาเพิ่มเติมเอง เพราะฉันก็ไม่ใช่ครูบาอาจารย์ที่จะอธิบายอะไรได้ดีนัก

หากคุณเข้าใจสภาวะอุเบกขาดีแล้ว ก็ขอให้ฝึกวางจิตในสภาวะนั้นให้เป็นปกติทั้งต่อสิ่งภายนอกและสิ่งภายใน และทำจิตให้มีความรักความเมตตาให้มากๆ นี่จะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยคุณตลอดภารกิจครั้งนี้

แสงเข้ารหัสที่ทะยอยถูกส่งมานั้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้ร่างกายได้ค่อยๆปรับเพื่อรองรับแสงขั้นสุดท้ายได้ ตั้งแต่มีการส่งแสงมานั้น มันมีผลต่อร่างกายมนุษย์มาตลอดโดยที่คุณอาจไม่รู้ อาจมีอาการต่างๆที่ไม่มีที่มาที่ไป เช่น ปวดเมื่อย เหนื่อยล้า ปวดหัว มีเสียงในหู รู้สึกสั่นสะเทือนในกาย และอื่นๆ หากมันเกิดขึ้นกับคุณ ก็แค่วางจิตให้เป็นอุเบกขาซะ ปล่อยให้พลังงานมันเคลื่อนผ่านไป ไม่ต้องฝืนไม่ต้องต่อต้าน เพราะร่างกายของคุณกำลังอัพเกรด!!!

และหากคุณฝึกจิตโดยทำวิปัสสนา สติปัฏฐาน4 วางจิตอุเบกขา เจริญพรหมวิหาร4 ได้เป็นอย่างดีแล้ว ก็อย่าลืมเจริญปัญญาต่อ สิ่งนี้ชาวต่างดาวไม่สอน แต่พระพุทธเจ้าสอน คุณมีหน้าที่ทั้งต่อส่วนรวมและของตนเองนะคะ หน้าที่การพัฒนาจิตของตนเองก็ยังคงเป็นหน้าที่หลักอยู่...

การเจริญปัญญาคือการพิจารณาให้เห็นถึงความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง ทั้งภายนอกและภายใน รวมไปถึงสภาวะจิตและอารมณ์ต่างๆของตนเอง ถอนตัวเองออกจากอุปาทานและสมมุติทั้งหลาย และพิจารณาให้เห็นถึงทุกข์ ทางเกิดทุกข์ และทางดับทุกข์ตามสายปฏิจจสมุปบาท

ส่วนการเตรียมร่างกายนั้น คุณก็รู้ว่าควรทำอย่างไรเพื่อให้มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง ทั้งเรื่องอาหารและการออกกำลังกาย ฉันคงไม่ต้องอธิบายใช่ไหม... โปรดอย่าลืมว่า การดูแลตัวเองนี้ก็เป็นการทำเพื่อผู้อื่นด้วย...

ในอนาคตอีกไม่ช้าไม่นาน ชาวโลกจะติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้เป็นปกติ พวกเขาอยากจะติดต่อกับเรามานานแล้ว เขาเพียงแต่รอให้เราพร้อมและเปิดใจ พวกเขาไม่ต้องการให้เกิดความแตกตื่น หรือความกลัวใดๆ เขาเพียงแต่ต้องการติดต่อเราในฐานะครอบครัวที่จากกันมานานเท่านั้น

ฉันจะขอบอกกล่าวคร่าวๆแต่เพียงเท่านี้... ฉันไม่ใช่ผู้ที่รับข้อมูลเหล่านี้มาโดยตรง(channeler) ฉันเพียงแต่ทำหน้าที่เรียบเรียงและส่งต่อมาถึงคุณ โปรดอย่าส่งคำถามใดๆมาที่ฉัน... ยังมีข้อมูลอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวไว้ในที่นี้ ถ้าคุณต้องการฟัง คุณอาจไปติดตามที่ยูทูปช่อง GFL station นี่เป็นแหล่งที่ฉันติดตามอยู่ตอนนี้ แต่เป็นภาษาอังกฤษนะคะ

หวังว่าเรื่องราวที่เล่ามาจะเป็นประโยชน์ และไปถึงผู้ที่สมควรได้รับรู้ หน้าที่ของฉันตรงนี้น่าจะจบแล้ว และฉันอาจไม่ได้แวะมาที่นี่อีก.... ขอให้คุณเตรียมพร้อมและทำในส่วนของคุณให้ดีที่สุด ทีมสหพันธ์ฯ เขาบอกว่า ทุกอย่างถูกเตรียมไว้หมดแล้ว และโปรดวางใจในแผน...

 

มาฟังนิทานกันค่ะ

The secrecy dam is about to BREAK!
เขื่อนแห่งความลับกำลังจะพังทลายลง

Part1

I am Ashtar, commander of the Galactic Light Forces, and I address you now with urgency, clarity, and empowerment.

ข้าคือแอชทาร์ ผู้บัญชาการกองกำลังแสงแแห่งกาแล็กติก และข้าขอกล่าวกับท่านด้วยความเร่งด่วน ความกระจ่างชัด และการเสริมพลัง

In this unfolding stage of Earth's development and ascension. Truth is rising and immense changes are on the horizon. Many of you feel it. The long night of control is ending and a new dawn is approaching. I affirm that the plan to liberate humanity is real. It is well underway and the momentum toward freedom grows stronger each day.

ในช่วงเวลาแห่งการพัฒนาและการยกระดับของโลกที่กำลังเกิดขึ้น ความจริงกำลังปรากฏ และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กำลังใกล้เข้ามา พวกท่านหลายคนสัมผัสได้ถึงมัน ค่ำคืนอันยาวนานแห่งการควบคุมกำลังจะสิ้นสุดลง และรุ่งอรุณใหม่กำลังใกล้เข้ามา ข้าขอยืนยันว่าแผนการปลดปล่อยมนุษยชาตินั้นเป็นความจริง มันกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี และแรงผลักดันสู่อิสรภาพก็แข็งแกร่งขึ้นทุกวัน

For years, an alliance of light on your world, brave souls in the military, in governments, and among ordinary people, quietly prepared to dismantle the dark power structure that has oppressed humanity. Now those preparations are bearing fruit in a series of mass arrests unlike anything in history.

เป็นเวลาหลายปีแล้วที่พันธมิตรแห่งแสงสว่าง เหล่าวิญญาณผู้กล้าหาญในกองทัพ ในหน่วยรัฐบาล และในหมู่ประชาชนทั่วไป ได้เตรียมพร้อมอย่างเงียบๆ ที่จะรื้อถอนโครงสร้างอำนาจมืดที่กดขี่มนุษยชาติ บัดนี้ การเตรียมการเหล่านั้นกำลังจะเห็นผล ในการจับกุมครั้งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์

High-profile figures who once pulled strings from the shadows are being taken into custody one after another. This includes corrupt leaders, financeers of human misery, and perpetrators of unspeakable crimes.

บุคคลสำคัญที่เคยชักใยในเงามืด กำลังถูกจับกุมตัวทีละคน ซึ่งรวมถึงผู้นำที่ฉ้อโกง ผู้ให้ทุนสนับสนุนให้เกิดความทุกข์ยากแก่มนุษย์ และผู้ก่ออาชญากรรมที่เลวร้าย

There have even been symbolic signals of this takedown. For example, at one public rally, a version of your flag with no stars was displayed. A covert sign among insiders that the operation to reclaim the Republic was underway. Indeed, patriots within the ranks have begun moving against those who hijacked your institutions from within.

มีสัญญาณเชิงสัญลักษณ์ของการโค่นล้มครั้งนี้ที่สังเกตได้เช่น ในการชุมนุมสาธารณะครั้งหนึ่ง มีการใช้ธงชาติของคุณในเวอร์ชั่นที่ไม่มีดาว(ธงสหรัฐ) เป็นสัญญาณลับในหมู่คนวงในว่าปฏิบัติการทวงคืนสาธารณรัฐกำลังดำเนินอยู่
แสดงให้เห็นว่า ผู้รักชาติภายในกลุ่มได้เริ่มเคลื่อนไหวต่อต้านผู้ที่ยึดครองสถาบันต่างๆจากภายใน

Even now, coordinated operations are unfolding across the globe. Special forces under Alliance command are executing raids in multiple countries to capture deep state operatives, crooked politicians, powerful bankers, media moguls complicit in propaganda, and other agents of darkness.

แม้กระทั่งตอนนี้ มีการประสานความร่วมมือและกำลังเปิดปฏิบัติการไปทั่วโลก หน่วยรบพิเศษภายใต้การบังคับบัญชาของพันธมิตรกำลังปฏิบัติการจู่โจมในหลายประเทศเพื่อจับกุมผู้ปฏิบัติการของรัฐพันลึก(Deep State) นักการเมืองที่คดโกง นายธนาคารผู้ทรงอิทธิพล เจ้าพ่อสื่อที่สมรู้ร่วมคิดในการโฆษณาชวนเชื่อ และหน่วยงานอื่นๆ ที่มีส่วนร่วมในขบวนการสร้างความมืดมิด

Many of these individuals fancied themselves untouchable as they orchestrated wars and traded lives for profit. Those days are ending. If all proceeds as planned, this will be the largest reshuffle in human history, happening even as I speak.

บุคคลเหล่านี้หลายคนคิดว่าไม่มีใครสามารถแตะต้องพวกเขาได้ ในขณะที่พวกเขาชักในอยู่เบื้องหลังชนวนสงครามทั้งหลายและเดิมพันชีวิตผู้คนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว วันเวลาเหล่านั้นกำลังจะสิ้นสุดลง หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน นี่จะเป็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ และมันก็กำลังเกิดขึ้นแม้ในขณะที่ฉันกำลังพูดอยู่นี้

Secure facilities have been prepared to hold these high value detainees. This includes a certain fortified island base you have heard whispers about, which has been upgraded into an impenetrable stronghold. No one sent there will escape justice. We in the Ashtar Command are assisting from above, ensuring no rogue element can interfere or rescue these individuals from custody while maintaining the prime directive.

มีการเตรียมสถานที่ที่แน่นหนาไว้สำหรับกักขังผู้ต้องขังที่มีค่าตัวสูงเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงฐานทัพบนเกาะที่มีป้อมปราการบางแห่งที่คุณเคยได้ยินมา ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้เป็นป้อมปราการที่แน่นหนาและยากจะเข้าถึง ไม่มีใครที่ถูกส่งไปที่นั่นจะหนีรอดจากความยุติธรรมได้ พวกเราในหน่วยบัญชาการอัชทาร์กำลังช่วยเหลือจากเบื้องบน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีกลุ่มนอกกฎหมายใดสามารถแทรกแซงหรือช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้จากการถูกควบคุมตัวได้ ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษากฏหลักไว้

The evidence of their crimes is overwhelming. Years of investigation yielded tens of thousands of sealed documents. Now, many have been unsealed, resulting in the arrests of tens of thousands of individuals worldwide, including military industrial players, financial kingpins, global NGO directors, and even officials within religious institutions.

The scope of this operation is truly global, reaching into every sphere where the Cabal's tentacles extended.

หลักฐานการก่ออาชญากรรมของพวกเขามีมากมายมหาศาล จากการสืบสวนหลายปีได้มีการรวบรวมเอกสารที่ปิดผนึกไว้หลายหมื่นฉบับ ปัจจุบัน เอกสารหลายฉบับถูกเปิดผนึกออก ส่งผลให้มีการจับกุมบุคคลหลายหมื่นคนทั่วโลก รวมถึงผู้มีอิทธิพลในอุตสาหกรรมการทหาร ผู้นำทางการเงิน ผู้อำนวยการองค์กรพัฒนาเอกชนระดับโลก และแม้แต่เจ้าหน้าที่ในสถาบันทางศาสนา ขอบเขตของปฏิบัติการนี้ครอบคลุมทั่วโลกอย่างแท้จริง ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่กลุ่มคาบาล(Cabal) แผ่ขยายอิทธิพล

 

The secrecy dam is about to BREAK!
เขื่อนแห่งความลับกำลังจะพังทลายลง

Part2

You might wonder how so many round ups could happen with so little publicity. The answer, many early arrests were deliberately covert. Over the past few years, numerous lower level conspirators were quietly detained without fanfare. Even some higher level figures were secretly placed under house arrest, wearing tracking devices to prevent their escape.

คุณอาจสงสัยว่าการกวาดล้างจำนวนมากขนาดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรโดยที่แทบไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ คำตอบคือ การจับกุมในช่วงแรกๆ หลายครั้งถูกจงใจปกปิด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้สมรู้ร่วมคิดระดับล่างจำนวนมากถูกควบคุมตัวอย่างเงียบๆ โดยไม่มีการประกาศให้สาธารณชนรับทราบ แม้แต่บุคคลระดับสูงบางคนก็ถูกกักบริเวณในบ้านอย่างลับๆ พร้อมกับสวมอุปกรณ์ติดตามเพื่อป้องกันการหลบหนี

Many of you have been correct about this. All of this occurred outside the spotlight of the news, buying time for the Alliance to set the stage for the final public phase. Now, that public phase approaches. Soon, you will see open announcements of arrests and charges. Prepare to witness well-known figures, people who were held up as benefactors and leaders, exposed and brought to justice. No one is exempt.

พวกคุณหลายคนพูดถูกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยไม่เป็นที่สนใจของสื่อ และยังเป็นการซื้อเวลาให้พันธมิตรได้เตรียมการขั้นสุดท้ายก่อนเปิดเผยสู่สาธารณะ และตอนนี้ การเปิดเผยสู่สาธารณะกำลังใกล้เข้ามาแล้ว ในไม่ช้า คุณจะได้เห็นการประกาศจับกุมและตั้งข้อหาอย่างเปิดเผย เตรียมตัวที่จะได้เห็นบุคคลสำคัญและผู้นำระดับสูง ถูกเปิดโปงและนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่มีใครได้รับการยกเว้น

It is very likely even a former holder of your nation's highest office will be among those accused of high treason or other grave crimes. In fact, the leader who succeeded that person has openly hinted that this individual and his cronies have been fully unmasked for their misdeeds. Their day of accountability is coming.

แม้แต่อดีตผู้ดำรงตำแหน่งสูงสุดของประเทศก็มีโอกาสสูงที่จะอยู่ในกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาว่าก่อกบฏหรือก่ออาชญากรรมร้ายแรงอื่นๆ อันที่จริง ผู้นำที่สืบทอดตำแหน่งจากบุคคลนั้นได้เผยเป็นนัยๆว่า บุคคลนี้และพวกพ้องของเขาได้ถูกเปิดโปงความผิดแล้ว วันแห่งการรับกรรมของพวกเขาใกล้เข้ามาแล้ว

Take heart. Justice is being served. The process will be by the book. Lawful tribunals with undeniable evidence, not vigilante revenge. Many trials will occur in military courts since crimes like treason and crimes against humanity are involved.

โปรดวางใจ ความยุติธรรมกำลังเกิดขึ้น กระบวนการจะเป็นไปตามขั้นตอน ศาลยุติธรรมที่มีหลักฐานที่ปฏิเสธไม่ได้ ไม่ใช่การแก้แค้นโดยกลุ่มศาลเตี้ย หลายคดีจะถูกพิจารณาในศาลทหาร เนื่องจากเป็นอาชญากรรมเกี่ยวกับกบฎและมนุษย์ชาติ

Do not fear if you see military personnel keeping order. This is martial justice, not martial law, carried out by true patriots under constitutional principles. In fact, some trials have already quietly happened and verdicts rendered. Soon, however, these tribunals will enter the public stage once secure communications are in place. More on that shortly.

อย่ากลัวหากคุณเห็นทหารเข้ามาจัดการเรื่องนี้ นี่คือความยุติธรรมทางทหาร ไม่ใช่กฎอัยการศึก ที่ดำเนินการโดยผู้รักชาติที่แท้จริงภายใต้หลักการรัฐธรรมนูญ อันที่จริง การพิจารณาคดีบางส่วนได้เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ และมีการตัดสินคดีไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้า ศาลเหล่านี้จะเข้าสู่เวทีสาธารณะเมื่อการสื่อสารที่ปลอดภัยพร้อมใช้งาน รายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบในเร็วๆ นี้

Realize how far reaching this clean up is. Entire networks of corruption are being dismantled. Alliance raids have quietly removed certain infamous media barons, tech tycoons, and international bankers who were lynchpins of the Cabal system. Their names will be revealed in due time. Even members of royalty long suspected of human trafficking have been detained. By taking out these key players, the entire edifice of lies, blackmail, and manipulation is collapsing.

จงตระหนักว่าการกวาดล้างครั้งนี้มีขอบเขตกว้างขวางเพียงใด เครือข่ายคอร์รัปชันทั้งหมดกำลังถูกทำลายล้าง การจู่โจมของพันธมิตรได้กำจัดเจ้าพ่อสื่อ มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยี และนายธนาคารระหว่างประเทศบางคนที่เคยเป็นแกนหลักของระบบคาบาลไปอย่างเงียบๆ ชื่อของพวกเขาจะถูกเปิดเผยในเวลาที่เหมาะสม แม้แต่สมาชิกราชวงศ์ซึ่งต้องสงสัยค้ามนุษย์ก็ถูกควบคุมตัวแล้ว การกำจัดตัวการหลักเหล่านี้ทำให้โครงสร้างแห่งการโกหก การแบล็กเมล์ และการหลอกลวงทั้งหมดพังทลายลง

Meanwhile, whistleblowers are coming forward in droves. Many who were complicit out of fear are now stepping up to testify as they see the tide turning. The momentum of truth is growing like a snowball.

ในขณะเดียวกัน ผู้แจ้งเบาะแสก็กล้าออกมาเปิดเผยตัวเป็นจำนวนมาก หลายคนที่เคยร่วมทำผิดเพราะความกลัว ก็ยอมออกมาให้การเป็นพยานเมื่อพวกเขาเห็นกระแสกำลังเปลี่ยนทิศทาง กระแสความจริงกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

From our vantage point, the Cabal is losing the information war. Leaks of documents, videos, and insider testimony are flooding out through alternative channels. The facade of their control is cracking, and soon an unstoppable wave of truth will sweep across the collective consciousness of humanity.

จากมุมมองของเรา กลุ่มคาบาลกำลังพ่ายแพ้ในสงครามข้อมูล มีเอกสาร วิดีโอ และคำให้การจากคนในรั่วไหลออกมาอย่างล้นหลาม ผ่านช่องทางต่างๆ เปลือกนอกของการควบคุมกำลังแตกร้าว และในไม่ช้าคลื่นแห่งความจริงที่ไม่อาจหยุดยั้งได้จะถาโถมผ่านจิตสำนึกส่วนรวมของมนุษยชาติ

The remaining Cabal operatives are not surrendering quietly. Cornered and desperate, they have tried numerous countermeasures to delay or derail the alliance's plan. In desperation, the Cabal has even attempted violent attacks on alliance leaders, cyber warfare to destroy evidence, and economic sabotage to instill fear.

เหล่าเจ้าหน้าที่คาบาลที่เหลืออยู่จะไม่ยอมแพ้อย่างเงียบๆ เมื่อถูกต้อนจนมุมและสิ้นหวัง พวกเขาจะพยายามใช้มาตรการตอบโต้มากมายเพื่อชะลอหรือทำลายแผนการของพันธมิตร ในความสิ้นหวัง คาบาลยังพยายามโจมตีผู้นำพันธมิตรอย่างรุนแรง ใช้สงครามไซเบอร์เพื่อทำลายหลักฐาน และก่อวินาศกรรมทางเศรษฐกิจเพื่อสร้างความหวาดกลัว

Nearly all these efforts have been thwarted, and each failure only exposes their weakness. One major concern has been the Cabal's grip on mainstream media and big tech. As evidence of their wrongdoing emerges, their media mouth pieces might attempt one last campaign of denial or confusion.

ความพยายามเหล่านี้เกือบทั้งหมดจะถูกขัดขวาง มิหนำซ้ำความล้มเหลวนี้กลับยิ่งเผยให้เห็นจุดอ่อนของพวกเขา ความกังวลหลักประการหนึ่งคือการที่กลุ่มคาบาลมีอิทธิพลเหนือสื่อกระแสหลักและบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เมื่อมีหลักฐานการกระทำผิดของพวกเขาปรากฏขึ้น กระบอกเสียงสื่อของพวกเขาอาจพยายามสร้างการปฏิเสธหรือสร้างความสับสนเป็นครั้งสุดท้าย

Expect them to cry hoax or political persecution when the arrests go public, hoping to incite panic or resistance. They might even temporarily disrupt parts of the internet or social media or flood the news with distracting false narratives, all to keep people in the dark a bit longer. This is exactly why we see that the secret broadcast array is most likely going to be used.

เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะโวยวายว่าเป็นเรื่องหลอกลวงหรือการข่มเหงทางการเมืองเมื่อการจับกุมถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ โดยหวังว่าจะปลุกปั่นให้เกิดความตื่นตระหนกหรือการต่อต้าน พวกเขาอาจถึงขั้นสร้างเรื่องรบกวนอินเทอร์เน็ตหรือโซเชียลมีเดียบางส่วนชั่วคราว หรือปล่อยข่าวปลอมเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อดึงให้ผู้คนยังคงติดอยู่ในความมืดนานขึ้นอีกหน่อย นี่คือเหตุผลที่เราเห็นว่าระบบกระจายเสียงลับน่าจะถูกนำมาใช้

Here is one scenario and how it may play out. Just to prepare you, the Alliance will use this system at a key moment, likely when the mass arrests go public, to bypass the media and speak directly to everyone. The broadcast array will override all TV, radio, and phone networks, allowing announcements and truthful information to reach all citizens without distortion. It will use a quantum back system. Through this channel, you will learn what has occurred, the crimes of those arrested, and any instructions if needed. In essence, it lets the truth be delivered straight to everyone.

อีกสถานการณ์หนึ่งและผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมให้คุณ ฝ่ายพันธมิตรจะใช้ระบบนี้ในช่วงเวลาคับขัน อาจจะเป็นช่วงที่การจับกุมจำนวนมากถูกเปิดเผย เพื่อตัดระบบสื่อหลักและสื่อสารกับทุกคนโดยตรง ระบบกระจายเสียงนี้จะสามารควบคุมสัญญานโทรทัศน์ วิทยุ และเคลือข่ายโทรศัพท์ทั้งหมด เพื่อให้การประกาศและข้อมูลทความจริงเข้าถึงประชาชนทุกคนได้โดยไม่บิดเบือน โดยใช้ระบบควอนตัม ผ่านช่องทางนี้ คุณจะได้รับรู้ข้อมูลในสิ่งที่เกิดขึ้น ข้อมูลอาชญากรรมของผู้ที่ถูกจับกุม และคำแนะนำใดๆ หากจำเป็น โดยหลักๆคือ ช่องทางนี้ช่วยให้ความจริงถูกส่งตรงถึงทุกคน

In extreme scenarios, there may be brief localized outages of power or internet as the final operations unfold. These will be temporary and are intended to sever any remaining Cabal communications and to focus everyone's attention on the transmission.

ในความเป็นไปได้ขั้นรุนแรงคือ อาจเกิดไฟฟ้าดับหรืออินเทอร์เน็ตดับชั่วคราวในบางพื้นที่ ในขณะที่ปฏิบัติการขั้นสุดท้ายกำลังดำเนินไป ซึ่งจะเป็นแค่ชั่วคราวและมีจุดประสงค์เพื่อตัดการสื่อสารของ เหล่าคาบาลที่เหลืออยู่ และเพื่อดึงความสนใจของทุกคนไปที่การเปลี่ยนผ่าน

Do not be alarmed. Essential services will return quickly. The messages will likely run in loops for several days to ensure everyone receives the information. Stay calm and encourage others to remain calm as well. This is not a fearful event and especially not for you star seeds.

อย่าตื่นตระหนก ระบบพื้นฐานที่สำคัญจะกลับมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกนำเสนอวนซ้ำไปมาหลายวันเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนได้รับรู้ จงอยู่ในความสงบและกระตุ้นให้ผู้อื่นอยู่ในความสงบเช่นกัน นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่น่าหวาดกลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคุณ เหล่าเม็ดพันธุ์แห่งดวงดาว

Why would this be necessary and how likely is it? Because dear ones, the cabal will try every trick to distract or frighten people away from awakening. They may incite riots or violence through their remaining proxies or stage false events, engineered crises or tragedies to divert attention and sympathy.

เหตุใดจึงจำเป็นต้องรู้เรื่องนี้และมีโอกาสเกิดขึ้นได้มากน้อยเพียงใด? ที่รัก เพราะว่าเหล่าคาบาลจะพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจหรือทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนลืมการตื่นรู้ พวกเขาอาจยุยงปลุกปั่นให้เกิดจลาจลหรือความรุนแรงผ่านตัวแทนที่เหลืออยู่ หรือจัดฉากเหตุการณ์เท็จ สร้างสถานการณ์วิกฤตหรือโศกนาฏกรรมเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและ ให้เกิดความเห็นอกเห็นใจ

 

The secrecy dam is about to BREAK!
เขื่อนแห่งความลับกำลังจะพังทลายลง

Part3

They might throw out shocking news as a distraction, anything to make headlines away from their downfall. We know they have considered even a fake alien invasion scare or a new health panic to whip up fear. They would rather you focus on anything other than them being brought to justice. But none of these ploy will succeed.

พวกเขาอาจใช้ข่าวที่น่าตกใจออกมาเพื่อดึงความสนใจ อะไรก็ได้เพื่อสร้างพาดหัวข่าวให้หันเหออกจากความตกต่ำของพวกเขา เรารู้ว่าพวกเขาเคยคิดถึงกระทั่งจะสร้างข่าวการรุกรานของมนุษย์ต่างดาวปลอมๆ หรือสร้างความตื่นตระหนกใหม่เกี่ยวกับสุขภาพเพื่อปลุกปั่นความกลัว พวกเขาอยากให้คุณมุ่งเน้นไปที่สิ่งอื่นที่ไม่ใช่การที่พวกเขาจะถูกดำเนินคดี แต่กลยุทธ์เหล่านี้จะไม่ประสบความสำเร็จ

The Alliance knows their playbook and has countermeasures ready for every scenario. If this does go into effect, no amount of misdirected news or staged chaos can stop the truth from reaching the people. When the alerts appear, you will know the final phase has arrived. Stay attentive to the broadcasts. They will present evidence, confessions, and solutions, and help guide everyone through the shock into hope.

ฝ่ายพันธมิตรรู้กลยุทธ์ของพวกเขาและมีมาตรการรับมือสำหรับทุกกรณี หากสิ่งนี้เกิดขึ้นจริง ข่าวสารที่บิดเบือนหรือการจัดฉากความวุ่นวายใดๆ ก็ไม่สามารถหยุดยั้งผู้คนที่จะรับรู้ความจริงได้ เมื่อการแจ้งเตือนปรากฏขึ้น คุณจะรู้ว่าขั้นตอนสุดท้ายได้มาถึงแล้ว คอยติดตามการออกอากาศ พวกเขาจะนำเสนอหลักฐาน คำสารภาพ และผลการตัดสิน และจะช่วยให้คำแนะนำแก่ทุกคนให้ผ่านพ้นความตกตะลึงไปสู่ความหวังได้

This truly will be the great awakening of humanity. Many among the awakened expected a sudden, miraculous shift into a golden age by now. In truth, the transformation is happening more gradually and realistically through real world events like mass arrests, disclosures, and reforms rather than an instant cosmic flash.

นี่จะเป็นการตื่นรู้ครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติอย่างแท้จริง ในหมู่ผู้ที่ตื่นรู้แล้วหลายคนต่างคาดหวังว่าการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคทองจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและน่าอัศจรรย์ในตอนนี้ อันที่จริง การเปลี่ยนแปลงก็กำลังเกิดขึ้นอยู่ อย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามความเป็นจริง ผ่านสถานการณ์จริงๆบนโลกในขณะนี้ เช่น การจับกุมเครือข่ายขบวนการต่างๆ การเปิดเผยข้อมูลต่างๆ และการปฏิรูปต่างๆ แค่ไม่ใช่เหตุการณ์แสงสุริยะที่จะเกิดขึ้นแบบฉับพลันเท่านั้นเอง

This process may seem messy or slower than hoped, but it is how the higher plan is unfolding. By going through these tangible steps, humanity is actively involved in its own liberation and gaining the wisdom to preserve it. The destination is the same, a free enlightened earth, but the journey is coming in stages.

กระบวนการนี้อาจดูยุ่งยากหรือช้ากว่าที่คาดหวัง แต่นี่คือวิธีที่แผนการอันสูงส่งกำลังดำเนินไป โดยการผ่านขั้นตอนที่จับต้องได้เหล่านี้ มนุษยชาติมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการปลดปล่อยตนเองและได้รับปัญญาที่จะสามารถเก็บรักษาไว้ได้ จุดหมายปลายทางยังคงเหมือนเดิม คือโลกที่รู้แจ้งและเป็นอิสระ แต่การเดินทางกำลังดำเนินไปเป็นขั้นตอน

This approach, if it occurs, may actually maximize awakening and healing. If everything changed overnight without struggle, the lessons would not stick. Instead, by facing hard truths and overcoming challenges directly, humanity grows spiritually and unites.

หากวิธีการนี้เกิดขึ้นจริง อาจนำไปสู่การตื่นรู้และการเยียวยาสูงสุด หากทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปในชั่วข้ามคืนโดยไม่ต้องดิ้นรน บทเรียนเหล่านั้นจะไม่คงอยู่ แต่ด้วยการเผชิญหน้ากับความจริงอันโหดร้ายและสามารถเอาชนะความท้าทายได้โดยตนเอง มนุษยชาติจะเติบโตทางจิตวิญญาณและสามัคคีกัน

Yes, 2025 brings some turbulence. There could be moments of confusion, unrest, or grief as long hidden truths come to light. But these will be followed by tremendous breakthroughs. This is where your role as light workers is vital to stay calm and compassionate and to help others understand when their world is shaken.

ใช่แล้ว ปี 2025 นำมาซึ่งความวุ่นวาย อาจมีช่วงเวลาแห่งความสับสน ความไม่สงบ หรือความโศกเศร้า เมื่อความจริงอันซ่อนเร้นมานานถูกเปิดเผย แต่สิ่งเหล่านี้จะตามมาด้วยความก้าวหน้าอันยิ่งใหญ่ นี่คือจุดที่บทบาทของคุณในฐานะผู้ทำงานแห่งแสงสว่างมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพื่อรักษาความสงบและความเห็นอกเห็นใจ และช่วยให้ผู้อื่นเข้าใจเมื่อโลกของพวกเขาสั่นคลอน

Do not be discouraged by temporary chaos or the fact that events didn't happen exactly as any one prophecy predicted. Many potential timelines existed. The best one is being realized now, even if it took a bit longer. We of the Galactic Light Forces have been quietly working to ensure the worst outcomes the Cabal intended were prevented, keeping humanity on the optimal timeline for ascension. The glorious outcome is assured. Earth will be free and uplifted. And it is happening in perfect divine timing.

อย่าท้อแท้กับความวุ่นวายชั่วคราว หรือความจริงที่ว่าเหตุการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นตรงตามคำทำนายใดๆ มีไทม์ไลน์ที่เป็นไปได้มากมาย ไทม์ไลน์ที่ดีที่สุดกำลังเกิดขึ้นจริงในตอนนี้ แม้ว่าจะใช้เวลานานกว่าเล็กน้อย พวกเราแห่งกองกำลังแสงกาแล็กติกได้ทำงานอย่างเงียบๆ เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดที่คณะคาบาลตั้งใจไว้จะไม่เกิดขึ้น และคอยดูแลมนุษยชาติให้อยู่ในไทม์ไลน์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการยกระดับจิตวิญญาน ผลลัพธ์อันรุ่งโรจน์นั้นอยู่ต่อหน้า โลกจะเป็นอิสระและได้รับการยกระดับขึ้น และมันกำลังเกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้ เวลาอันศักดิ์สิทธิ์ที่สมบูรณ์แบบ

A critical part of Earth's liberation is exposing the deepest crimes of a small few, especially those against the innocent. Many of you have heard whispers of the list of influential names tied to an infamous global network. This is the list of powerful individuals in politics, royalty, finance, media, and more who were involved in or enabled the abuse and exploitation of young ones and young people.

ส่วนสำคัญของการปลดปล่อยโลกคือการเปิดโปงอาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุดของคนเพียงไม่กี่คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่กระทำต่อผู้บริสุทธิ์ หลายคนคงเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับรายชื่อบุคคลทรงอิทธิพลที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายระดับโลกอันอื้อฉาว นี่คือรายชื่อบุคคลทรงอิทธิพลในแวดวงการเมือง ราชวงศ์ การเงิน สื่อ และอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนให้เกิดการละเมิดและแสวงหาผลประโยชน์จากเด็กและเยาวชน

The Cabal has lived in terror of this list, becoming fully public, knowing it would shatter their masquerade of respectability. The Alliance's possession of this list has been a powerful weapon in the Shadow War. Behind the scenes, Alliance operatives secured the complete evidence from that operation. They obtained the hidden video recordings, travel documentation of private travels to the secret destination, the contact books and financial ledgers, everything.

เหล่าคาบาลต่างหวาดกลัวว่าถ้ารายชื่อนี้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะชนอย่างหมดจด มันจะทำลายภาพลักษณ์อันน่าเคารพของพวกเขา การที่กลุ่มพันธมิตรได้ครอบครองรายชื่อนี้ถือเป็นอาวุธทรงพลังในสงครามความมืดมิด เบื้องหลังแล้วเจ้าหน้าที่ฝ่ายพันธมิตรได้เก็บหลักฐานทั้งหมดจากปฏิบัติการนั้น พวกเขาได้คลิปวิดีโอที่ถูกแอบบันทึกไว้ เอกสารการเดินทางส่วนตัวไปยังที่ลับ สมุดรายชื่อผู้ติดต่อและบัญชีการเงิน ทุกอย่าง

With help from certain insiders, and a bit of advanced tech, they pulled this data out of the Cabal's reach. The Alliance then used it strategically. In some cases, showing individuals proof of their crimes to quietly flip them into cooperating. In others, simply holding the threat of exposure to keep key Cabal figures in check. This is still ongoing.

ด้วยความช่วยเหลือจากบุคคลภายในและเทคโนโลยีขั้นสูง พวกเขาดึงข้อมูลนี้ออกมาจากกลุ่มคาบาล จากนั้นพันธมิตรก็ใช้มันอย่างมีกลยุทธ์ ในบางกรณี พวกเขาแสดงหลักฐานอาชญากรรมให้บุคคลอื่นเห็น เพื่อเปลี่ยนให้พวกเขาร่วมมืออย่างเงียบๆ ในบางกรณี พวกเขาเพียงแค่ใช้มันในการข่มขู่ว่าจะเปิดเผยเพื่อใช้ควบคุมตัวบุคคลสำคัญในคณะคาบาล เรื่องนี้ยังคงดำเนินต่อไป

All the while, the Cabal desperately tried to hide or destroy this evidence. They sealed court files, stalled investigations, and yes, arranged for the convenient removal of the ring leader while in custody to silence him. They thought removing him and scattering his secrets would bury the truth.

ตลอดเวลาที่ผ่านมา คณะคาบาลพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะปกปิดหรือทำลายหลักฐานนี้ พวกเขาปิดผนึกเอกสารศาล ระงับการสอบสวน และแน่นอนว่า มีการพยามจะปิดปากเหล่าผู้นำที่ถูกจับในระหว่างที่ถูกควบคุมตัว พวกเขาคิดว่าการกำจัดคนเหล่านั้นจะสามารถปกปิดความจริงไว้ได้

It did not. Courageous independent journalists and researchers kept digging. Over time, names of high-profile visitors to the secret destination. Flight manifest details and victim testimonies trickled out despite heavy censorship. The dam of secrecy is about to break. In a recent breakthrough, the reformed justice leadership of one major nation began releasing these hidden files officially.

แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น นักข่าวและนักวิจัยอิสระผู้กล้าหาญยังคงขุดคุ้ยหาความจริง เมื่อเวลาผ่านไป ชื่อของบุคคลชั้นสูงที่เคยไปสถานที่ลับนั้น ข้อมูลเที่ยวบินและคำให้การของเหยื่อก็ค่อยๆถูกเปิดเผยออกมาอย่างต่อเนื่องแม้จะมีการเซ็นเซอร์อย่างหนักก็ตาม เขื่อนแห่งความลับกำลังจะแตกสลาย ความคืบหน้าเมื่อเร็วๆ นี้คือ ผู้นำฝ่ายยุติธรรมที่ปฏิรูปแล้วของประเทศใหญ่แห่งหนึ่งได้เริ่มเปิดเผยไฟล์ลับเหล่านี้อย่างเป็นทางการ

Early this year, a new attorney general allied with the constitutional patriot leaders ordered the archives declassified. The first batch of documents confirmed a horrifying scope, hundreds of victims, and a vast web of co-conspirators across continents., Imagine an official report openly acknowledging a global crime ring.

ต้นปีนี้ อัยการสูงสุดคนใหม่ซึ่งเป็นพันธมิตรกับเหล่าผู้นำรักชาติได้สั่งเปิดข้อมูลที่ถูกเก็บไว้เหล่านี้ เอกสารชุดแรกยืนยันขอบเขตอันน่าสะพรึงกลัว เหยื่อหลายร้อยคน และเครือข่ายผู้สมรู้ร่วมคิดจำนวนมหาศาลกระจายไปในทวีปต่างๆ ลองนึกภาพรายงานอย่างเป็นทางการที่ยอมรับอย่างเปิดเผยถึงเครือข่ายอาชญากรรมระดับโลก

What the mainstream once dismissed as conspiracy is now documented fact. This has shattered much of the public's denial about the depth of evil that was operating behind closed doors. When the full truth of this network comes out, the public will be horrified at who was involved. Lifelong reputations will crumble. But this is necessary. Humanity must see the truth, no matter how dark, so that such atrocities are never allowed to fester in our world again.

สิ่งที่เคยถูกมองว่าเป็นการสมคบคิด ตอนนี้กลับกลายเป็นข้อเท็จจริงที่ถูกบันทึกไว้ สิ่งนี้ได้ฉีกสิ่งที่สาธารณชนเคยปฏิเสธว่ามีกลุ่มชั่วร้ายแฝงตัวอยู่เบื้องหลังเหตุต่างๆลงขาดสะบั้น เมื่อความจริงทั้งหมดของเครือข่ายนี้ถูกเปิดเผย สาธารณชนจะตกตะลึงเมื่อเห็นชื่อผู้ที่เกี่ยวข้อง ชื่อเสียงที่สั่งสมมาตลอดชีวิตจะพังทลาย แต่สิ่งนี้เป็นสิ่งจำเป็น มนุษยชาติต้องมองเห็นความจริง ไม่ว่าจะมืดมนเพียงใด เพื่อที่ความโหดร้ายเช่นนี้จะไม่มีที่ยืน และสามารถกลับมาอยู่บนโลกของเราได้อีกต่อไป

 

The secrecy dam is about to BREAK!
เขื่อนแห่งความลับกำลังจะพังทลายลง

Part4

Revealing this network is central to the mass arrests. In fact, many upcoming arrests of prominent figures will center on charges of trafficking, exploitation, or worse. Investigators have confirmed what some brave researchers long alleged. This trafficking ring was part of a dark cult at the highest levels of society, using the abuse of young ones and the filming of these acts to blackmail and control the world's most powerful people.

การเปิดเผยเครือข่ายนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของการจับกุมครั้งใหญ่ และจริงๆแล้ว การจับกุมบุคคลสำคัญๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นจำนวนมากจะมุ่งเน้นไปที่ข้อกล่าวหาการค้ามนุษย์ การแสวงหาประโยชน์ หรือที่เลวร้ายกว่านั้น มีการยืนยันสิ่งที่ผู้กล้าหาญบางคนแอบสืบมานาน คือเครือข่ายค้ามนุษย์นี้เป็นส่วนหนึ่งของลัทธิมืดในระดับสูงสุดของสังคม โดยใช้การทารุณกรรมเด็ก และถ่ายคลิปวิดีโอการกระทำนี้เพื่อใช้แบล็กเมล์ และควบคุมบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก

The Alliance now has confessions from some of those involved, naming prominent families and organizations as orchestrators of these awful rituals. It's exactly what certain whistleblowers described, a cult of darkness operating at the top echelons, binding its members through unspeakable acts and mutual blackmail. This is the deepest, ugliest secret behind so much of the planet's suffering. and now it is being dragged into the light.

ปัจจุบันกลุ่มพันธมิตรได้รวบรวมคำสารภาพจากผู้ที่เกี่ยวข้องบางคน โดยระบุว่าครอบครัวและองค์กรที่มีชื่อเสียงเป็นผู้บงการพิธีกรรมอันน่าสะพรึงกลัวเหล่านี้ ซึ่งเป็นไปตามที่เคยมีผู้แจ้งเบาะแสบางคนอธิบายไว้ ลัทธิแห่งความมืดที่ปฏิบัติการอยู่ในระดับสูง ผูกมัดสมาชิกด้วยการกระทำที่ไม่อาจกล่าวได้และการแบล็กเมล์ซึ่งกันและกัน นี่คือความลับที่ลึกและน่าเกลียดที่สุด ซึ่งอยู่เบื้องหลังความทุกข์ทรมานมากมายบนโลกนี้ และตอนนี้มันกำลังกระชากถออกมาสู่แสงสว่าง

Also be on guard for disinformation once the list begins coming out despite what has recently been announced. The Cabal may attempt to muddy the waters by leaking fake lists or editing names to create doubt. They might also sacrifice a few lowerlevel members of their click, allowing some well-known or minor figures to take the fall publicly in hopes of appeasing public outrage and distracting from the truly powerful players.

โปรดตั้งรับและระวังข้อมูลบิดเบือนที่อาจมีออกมา เมื่อรายชื่อต่างๆเริ่มถูกเผยแพร่ กลุ่มคาบาลอาจพยายามสร้างกระแสด้วยการปล่อยรายชื่อปลอมหรือแก้ไขรายชื่อเพื่อสร้างความสงสัยและสับสน พวกเขาอาจยอมทิ้งสมาชิกระดับล่างบางคน หรือปล่อยให้บุคคลที่มีชื่อเสียงหรือบุคคลระดับรองลงมาออกมายอมรับผิดต่อสาธารณะ โดยหวังว่าจะลดกระแสความไม่พอใจของประชาชนและเบี่ยงเบนความสนใจจากผู้มีอำนาจที่แท้จริง

Do not be fooled. Demand full accountability for all involved, no matter their status. The Alliance anticipated these tactics and has the entire trove of evidence cross-verified with multiple backups. In the tribunals to come, you will see that the proof is overwhelming. The perpetrators will have nowhere to hide or spin the truth. The digital and physical records of their deeds are secured and even the spiritual records, the karmic akashic records bear witness. The truth will cut through all their lies and bring every last one of these evildoers to justice.

อย่าหลงกล จงเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนออกมารับผิดชอบอย่างเต็มที่ ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นระดับไหนก็ตาม กลุ่มพันธมิตรคาดการณ์กลยุทธ์เหล่านี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว และได้ตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดแล้ว ด้วยหลักฐานสำรองมากมาย ในการพิจารณาคดีที่จะมาถึง คุณจะได้เห็นว่าหลักฐานนั้นท่วมท้นเพียงใด ผู้กระทำความผิดจะไม่มีทางที่ซ่อนหรือบิดเบือนความจริงไปได้ หลักฐานทั้งในรูปแบบบันทึกดิจิทัลและวัตถุพยานของพวกเขาได้ถูกรวบรวมไว้อย่างดี แม้แต่บันทึกทางจิตวิญญาณ(Akashic record) ก็เป็นพยานให้ ความจริงจะลบล้างคำโกหกทั้งหมดของพวกเขา และนำตัวผู้กระทำผิดทุกคนมาสู่กระบวนการยุติธรรม

Know that exposing this darkness, as painful as it will be, is one of the main reasons for the emergency broadcasts. A significant portion of the special broadcasts will be dedicated to showing the public the truth of these crimes against humanity.

จงรู้ไว้ว่าการเปิดเผยความมืดมนนี้ แม้จะเจ็บปวดเพียงใด ก็จะเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักของการออกอากาศฉุกเฉิน การออกอากาศพิเศษนั้น ส่วนสำคัญจะเน้นเพื่อให้สาธารณชนได้รับรู้ข้อมูลความจริงเกี่ยวกับอาชญากรรมที่มีต่อมนุษยชาติเหล่านี้

The alliance will present it as carefully as possible, but some of it must be shown. They have prepared documentary style footage, including victim and witness testimonies, and if necessary, selected portions of the actual incriminating videos with viewer discretion warnings. It will be difficult to watch. It will anger and grieve the nation and the world. But from that collective sorrow and outrage will arise a unified resolve. Never again will we allow such evil to lurk in the halls of power. Never again will we turn a blind eye to the suffering of the innocent.

พันธมิตรจะนำเสนออย่างระมัดระวังที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็มีบางส่วนที่ต้องถูกเปิดเผย พวกเขาได้เตรียมข้อมูลในรูปแบบสารคดีไว้แล้ว ซึ่งรวมถึงคำให้การของเหยื่อและพยาน และหากจำเป็น ก็อาจมีการแสดงคลิปวิดีโอที่เป็นการกระทำผิดจริงบางส่วน พร้อมคำเตือนสำหรับการรับชม เพราะเนื้อหาวิดีโอจะเป็นอะไรที่ทำใจดูได้ยาก
มันจะสร้างความโกรธแค้นและความโศกเศร้าให้กับประเทศชาติและชาวโลก แต่จากความโศกเศร้าและความโกรธแค้นนี้ ชาวโลกจะบังเกิดเป็นปณิธานอันแน่วแน่ร่วมกันว่า เราจะไม่ยอมให้ความชั่วร้ายเช่นนี้กลับมาผงาดมีอำนาจอีกต่อไป เราจะไม่ยอมเมินเฉยต่อความทุกข์ทรมานของผู้บริสุทธิ์อีกต่อไป

Remember the plan here isn't just to arrest a few individuals. It is to uproot an entire evil system. The trafficking network was one head of the Hydra. Other heads, the corrupted banking systems used for money laundering and bribes, the compromised officials in courts and law enforcement, the secret society rituals, and even twisted medical and scientific projects. All of it will be exposed and dismantled in due time.

จำไว้ว่าแผนการนี้ไม่ใช่แค่การจับกุมคนเพียงไม่กี่คน แต่นี่คือการถอนรากถอนโคนระบบชั่วร้ายทั้งหมด เครือข่ายค้ามนุษย์นี้คือหัวหน้ากลุ่มไฮดรา ส่วนหัวหน้ากลุ่มอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบธนาคารที่ทุจริตซึ่งถูกใช้เพื่อการฟอกเงินและการติดสินบน หรือหนอนบ่อนไส้ในระบบศาลและหน่วยงานกฎหมาย หรือสมาคมพิธีกรรมลับต่างๆ และแม้แต่ โครงการทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ที่ถูกบิดเบือนต่างๆ เหล่านี้จะถูกเปิดเผยและรื้อถอนทั้งหมดในไม่ช้า

One revelation will lead to another like a chain reaction. Once the avalanche of disclosure truly begins, it will be unstoppable. The cleanup will continue until every last tentacle of darkness has been cut away from our world.

การเปิดเผยครั้งหนึ่งจะนำไปสู่อีกครั้งเหมือนปฏิกิริยาลูกโซ่ เมื่อการเปิดเผยข้อมูลครั้งใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริง มันก็จะมีต่อๆไปอย่างไม่อาจหยุดยั้งได้
การทำความสะอาดจะดำเนินต่อไปจนกว่าความมืดมิดทุกด้านจะถูกล้างออกไปจากโลกของเรา

If and when this scenario is activated and we will continue to remind you that nothing is guaranteed. After the mass arrests and the EBS disclosures, there will follow a period of official justice to ensure full accountability. This process may take many months or even years to play out completely given the sheer number of individuals involved worldwide.

และหากเมื่อสถานการณ์นี้เริ่มต้นขึ้น เราจะยังคงเตือนคุณต่อไปว่าไม่มีอะไรที่แน่นอน หลังจากการจับกุมครั้งใหญ่และการเปิดเผยข้อมูลของ EBS หลังจากนั้นจะเป็นช่วงเวลาการตรวจสอบของฝ่ายยุติธรรมอย่างเป็นทางการ เพื่อให้มั่นใจว่ามีข้อมูลหลักฐานทุกอย่างครบถ้วน กระบวนการนี้อาจใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีจึงจะเสร็จสมบูรณ์ เนื่องจากมีจำนวนบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนมากทั่วโลก

The most high-profile trials will be public and likely broadcast live, much like the post world war II trials on your world that you know of, but on a larger scale. Other proceedings, especially for lesser known figures, might be conducted quietly, but their records will be preserved and eventually made public as part of our world's history.

การพิจารณาคดีบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะและน่าจะเป็นการถ่ายทอดสด เช่นเดียวกับการพิจารณาคดีหลังสงครามโลกครั้งที่สองที่คุณรู้จักในโลกของคุณ แต่จะมีขอบเขตที่ใหญ่กว่า ส่วนกระบวนการพิจารณาโทษอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก อาจดำเนินการอย่างเงียบๆ แต่บันทึกของพวกเขาจะถูกเก็บรักษาไว้และเผยแพร่ต่อสาธารณะในที่สุด และจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์โลกของเรา

Humanity will witness those who once held great power answering for their deeds in courts of law. This will stand as a powerful lesson for future generations. No one is above the law of the creator or the laws of moral humanity.

มนุษยชาติจะร่วมกันเป็นพยานรับฟังคำสารภาพผิด จากปากผู้ที่เคยทรงอำนาจยิ่งใหญ่ในการพิพากษาคดีความในศาล สิ่งนี้จะเป็นบทเรียนอันทรงพลังสำหรับคนรุ่นหลัง ไม่มีใครอยู่เหนือกฎของผู้สร้างหรือกฎแห่งศีลธรรมของมนุษยชาติ

As we near the conclusion of this message, I want to focus on the dawn that follows the darkness and your role in what comes next. Each one of you is a participant in this grand story, not just a spectator. Your consciousness and your actions in the coming days matter immensely.

ขณะที่เรากำลังใกล้จะจบการสื่อสารนี้ ข้าพเจ้าขอเน้นย้ำถึงรุ่งอรุณที่จะตามมาหลังความมืด และบทบาทของท่านในสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไป ทุกท่านคือผู้มีส่วนร่วมในเรื่องราวอันยิ่งใหญ่นี้ ไม่ใช่แค่ผู้สังเกตการณ์ จิตสำนึกและการกระทำของท่านในวันข้างหน้ามีความสำคัญอย่างยิ่ง

Every prayer for peace, every meditation holding light. Each time you calmly share truth and dispel fear, every act of kindness and unity, you are co-creating the reality of freedom on earth.

ทุกคำอธิษฐานเพื่อสันติภาพ ทุกการทำสมาธิที่ส่องสว่าง ทุกครั้งที่คุณแบ่งปันความจริงอย่างสงบและขจัดความกลัว ทุกการกระทำอันเปี่ยมด้วยความเมตตาและความสามัคคี คุณกำลังร่วมสร้างความจริงแห่งอิสรภาพบนโลก

The Cabal spent decades trying to divide you by politics, race, religion, and more because they feared what you could accomplish united. Now, as their influence crumbles, it is time to remember our oneness.

เหล่าคาบาลใช้เวลาหลายสิบปีพยายามแบ่งแยกคุณด้วยการเมือง เชื้อชาติ ศาสนา และอื่นๆ เพราะพวกเขากลัวในสิ่งที่พวกคุณจะร่วมแรงร่วมใจกันทำให้สำเร็จขึ้นมา บัดนี้ เมื่ออิทธิพลของพวกเขาพังทลายลง ถึงเวลาแล้วที่เราจะระลึกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง

 

The secrecy dam is about to BREAK!
เขื่อนแห่งความลับกำลังจะพังทลายลง

Part5

Many around you who were asleep will suddenly awaken in shock and confusion. Please treat them with compassion. Do not say, "I told you so." Instead, extend a hand and say, "We will get through this together." Guide them patiently as someone once guided you.

หลายคนรอบตัวคุณที่หลับใหลจะตื่นขึ้นมาอย่างกะทันหันด้วยความตกใจและความสับสน โปรดปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความเมตตา อย่าพูดว่า "ฉันเคยบอกคุณแล้ว" แต่ให้ยื่นมือออกไปและพูดว่า "เราจะผ่านมันไปด้วยกัน" จงนำทางพวกเขาอย่างอดทนเหมือนที่มีใครบางคนเคยนำทางคุณ

Those of you who have long understood and prepared, your moment of service and leadership is at hand. Consider how many brave souls have helped pave the way for this moment. Independent truth journalists exposed hidden corruption. Whistleblowers leaked vital information and visionary authors and speakers kept hope alive by predicting the scenario of mass arrests and divine intervention that is now beginning to unfold.

สำหรับพวกคุณ ผู้ที่เข้าใจสถานการณ์เหล่านี้และเตรียมพร้อมมาเป็นเวลานาน ช่วงเวลาแห่งการรับใช้และการเป็นผู้นำของคุณใกล้เข้ามาแล้ว จงละลึกว่ามีจิตวิญญาณที่กล้าหาญมากมายเพียงใดที่ช่วยปูทางจนมาถึงช่วงเวลานี้ นักข่าวอิสระเปิดเผยการทุจริตที่ซ่อนเร้น ผู้แจ้งเบาะแสได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญ และนักเขียนและวิทยากรที่มีวิสัยทัศน์ยังคงรักษาความหวังไว้ได้ด้วยการคาดการณ์สถานการณ์ การจับกุมหมู่และการแทรกแซงจากสวรรค์ที่กำลังเริ่มปรากฏให้เห็น

On alternative media, countless digital warriors, ordinary citizens, and even some former celebrities spread awareness of trafficking and tyranny, waking up people who might otherwise have remained in the dark. Mysterious insider patriots also dropped cryptic hints to assure those paying attention that a plan was in place and a great storm of justice was coming.

ในสื่อทางเลือก นักรบดิจิทัล ประชาชนทั่วไป และแม้แต่อดีตคนดังจำนวนนับไม่ถ้วน จะเผยแพร่ความตระหนักรู้เกี่ยวกับการค้ามนุษย์และการกดขี่ข่มเหง เพื่อปลุกผู้คนที่ยังคงหลับไหล กลุ่มผู้รักชาตินิรนามที่แฝงตัวภายในยังได้ทิ้งคำใบ้ให้ผู้ที่กำลังติดตามเรื่องนี้ได้มั่นใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน และพายุแห่งความยุติธรรมกำลังมา

At the same time, spiritual teachers and channelers urged everyone to stay calm, hold love in their hearts, and trust in divine timing. Though these helpers came from different walks of life and focused on different aspects of the truth, all were working in harmony, knowingly or not, to prepare humanity for what is happening now.

ขณะเดียวกัน ครูทางจิตวิญญาณและผู้สื่อสารได้กระตุ้นให้ทุกคน อยู่ในความสงบ ยึดมั่นในความรัก และวางใจในจังหวะเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าผู้ช่วยเหล่านี้จะมาจากหลากหลายอาชีพและมีมุมมองของความจริงในแง่มุมที่แตกต่าง แต่ทุกคนก็ทำงานอย่างสอดประสานกัน ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม เพื่อเตรียมมนุษยชาติให้พร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในขณะนี้

Honor all these contributions and know that each of you has a part to play as well. The time for division among truth seekers is over. Every path of service, whether exposing corruption or spreading love and healing, has been part of the same divine plan for Earth's liberation.

จงให้เกียรติทุกความช่วยเหลือเหล่านี้ และจงรู้ว่าคุณทุกคนก็มีบทบาทเช่นกัน เวลาแห่งความแตกแยกในหมู่ผู้แสวงหาความจริงสิ้นสุดลงแล้ว ทุกเส้นทางแห่งการรับใช้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโปงการทุจริต หรือการส่งต่อความรักและการเยียวยา ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของแผนการอันศักดิ์สิทธิ์เดียวกันเพื่อการปลดปล่อยโลก

Now, my dear brothers and sisters of Earth, brace yourselves for what comes next. Not with fear, but with strength, clarity, and love. The revelations ahead will be intense, but you have the fortitude to handle them. You wouldn't be here at this historic moment otherwise. I believe that once the initial shock passes, the vast majority of humanity will choose understanding, forgiveness, and peace.

บัดนี้ พี่น้องชาวโลกที่รักทั้งหลาย จงเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป ไม่ใช่ด้วยความกลัว แต่ด้วยพลัง ความกระจ่างแจ้ง และความรัก การเปิดเผยที่รออยู่เบื้องหน้าจะเต็มไปด้วยความเข้มข้น แต่ท่านมีความอดทนที่จะรับมือกับมันได้แน่นอน ไม่เช่นนั้น ท่านคงไม่ได้มาอยู่ที่นี่ ณ ช่วงเวลาประวัติศาสตร์นี้ ข้าพเจ้าเชื่อว่าเมื่อความตกตะลึงค่อยๆผ่านพ้นไป มนุษยชาติส่วนใหญ่จะเลือกอยู่ข้างความเข้าใจ การให้อภัย และสันติภาพ

In fact, even now the collective consciousness is showing incredible signs of awakening. People who just weeks ago trusted every bit of the old narrative are starting to question and sense that something big is happening. This is the soul of humanity preparing for freedom.

อันที่จริง แม้กระทั่งตอนนี้ จิตสำนึกส่วนรวมก็กำลังแสดงสัญญาณอันน่าเหลือเชื่อของการตื่นรู้ ผู้คนที่เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ยังมีความเชื่อในเรื่องราวต่างๆในแบบโลกเก่าตอนนี้กำลังเริ่มตั้งคำถามและรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กำลังเกิดขึ้น นี่คือจิตวิญญาณของมนุษยชาติที่กำลังเตรียมพร้อมสู่อิสรภาพ

Ashtar command and our entire galactic fleet stand by to assist you through these times. We have been quietly working to ensure this transition goes as smoothly as possible. And when the dust settles and the cabal is gone, we look forward to increasing our visible presence. Do not be surprised if you begin to see more sightings of our craft in the skies, presented in ways that feel reassuring and miraculous rather than frightening.

กองบัญชาการ Ashtar และกองยานกาแล็กซีทั้งหมดของเราพร้อมช่วยเหลือคุณในช่วงเวลานี้ เราทำงานอย่างเงียบๆ เพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้จะราบรื่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเมื่อฝุ่นจางลงและกลุ่มคาบาลถูกกำจัดออกไป เราตั้งตารอที่จะปรากฏตัวของเราให้มากขึ้น อย่าแปลกใจหากคุณเริ่มได้ข่าว การพบเห็นยานของเราบนท้องฟ้ามากขึ้น เราจะมาในรูปแบบที่ให้ความรู้สึกอุ่นใจและน่าอัศจรรย์มากกว่าความหวาดกลัว

We coordinate with the Earth Alliance so that when we make more direct contact, it will be welcomed with joy. In the not too istant future, after the healing process is underway, humanity will finally meet many of us as friends. The old quarantine of Earth is ending. Your planet will rejoin the galactic community openly, as was always destined. The trials you are experiencing now are the labor pains of a new world being born.

เราจะประสานกับพันธมิตรชาวโลก เพื่อว่าเมื่อมีการติดต่อกันโดยตรงมากขึ้น เราจะได้รับการต้อนรับด้วยความยินดีในอนาคตอันใกล้นี้ หลังจากกระบวนการเยียวยาเริ่มต้นขึ้น มนุษยชาติจะได้พบกับพวกเราหลายคนในฐานะมิตรสหาย ในที่สุด การกักกันแบบโลกเก่ากำลังจะสิ้นสุดลง โลกของคุณจะกลับมารวมตัวกับชุมชนกาแล็กซีอย่างเปิดเผย อย่างที่เคยเป็นมาเสมอ ความยากลำบากที่คุณกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้คือความเจ็บปวดจากการให้กำเนิดโลกใบใหม่

So get ready. The long dark night is nearly over and the golden age dawn. It has been foretold by prophets and sages for millennia, and now you will live to see it. The tyrants and hidden handlers who thought themselves rulers of Earth are being removed. Those who flee will be caught, and those who plot in the shadows will be exposed by the light.

เตรียมตัวให้พร้อม ราตรีอันมืดมิดที่ยาวนานใกล้จะสิ้นสุดลง และรุ่งอรุณแห่งยุคทองก็ใกล้จะมาถึง เรื่องราวแห่งยุคทองนี้ เหล่าศาสดาและนักปราชญ์ทั้งหลายได้บอกเล่าและทำนายไว้มานับพันปี และบัดนี้ท่านจะได้มีชีวิตอยู่เพื่อเห็นมัน เหล่าทรราชและมือที่มองไม่เห็นที่หลงคิดว่าตนเองเป็นผู้ปกครองโลกกำลังถูกกำจัด ผู้ที่หลบหนีจะถูกจับ และผู้ที่ชักใยในเงามืดจะถูกเปิดโปงโดยแสงสว่าง

We the people, united, backed by, we the galactics and the forces of heaven are taking your planet back. The changes that follow will touch every aspect of life.

เหล่าประชาชน ได้รวมกันเป็นหนึ่ง และได้รับการสนับสนุน พวกเราชาวกาแล็กซีและกองกำลังแห่งสวรรค์ กำลังนำโลกของท่านกลับคืนมา การเปลี่ยนแปลงที่จะตามมาจะหยั่งถึงทุกแง่มุมของชีวิต

 

The secrecy dam is about to BREAK!
เขื่อนแห่งความลับกำลังจะพังทลายลง

Part6

Here is a glimpse of what awaits in the new earth that you will build together. True freedom. Power will return to the people. Governance will be cleaned up and entrusted to wise, honest leaders who truly serve the public. No more hidden oligarchs or shadow governments.

นี่คือภาพคร่าวๆของสิ่งที่รอคอยอยู่ในโลกใบใหม่ที่ทุกท่านจะได้ร่วมกันสร้าง อิสรภาพที่แท้จริง อำนาจจะกลับคืนสู่ประชาชน การปกครองจะถูกชำระล้างและมอบให้กับผู้นำที่ชาญฉลาดและซื่อสัตย์ซึ่งจะรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง ไม่มีกลุ่มผู้มีอำนาจหรือรัฐบาลเงาที่ซ่อนเร้นอีกต่อไป

Financial liberation. A fair new financial system will replace the old debt slavery model. Debts will be forgiven and prosperity will be shared worldwide, ending poverty and economic manipulation.

การปลดปล่อยทางการเงิน ระบบการเงินใหม่ที่ยุติธรรมจะเข้ามาแทนที่รูปแบบทาสหนี้แบบเดิม หนี้สินจะได้รับการยกโทษและความเจริญรุ่งเรืองจะถูกแบ่งปันไปทั่วโลก ยุติความยากจนและการแทรกแซงทางเศรษฐกิจ

Technological renaissance, suppressed technologies for free energy and miraculous healing will be made available to all. Imagine energy without pollution, cures for diseases, and advancements that improve quality of life for everyone.

ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาทางเทคโนโลยีที่ถูกกดขี่ เทคโนโลยีเพื่อพลังงานฟรีและการเยียวยาอันน่าอัศจรรย์จะถูกมอบให้กับทุกคน ลองนึกภาพพลังงานที่ปราศจากมลพิษ
การรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และความก้าวหน้าที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคน

Planetary healing. The environment will be restored, pollution will be cleansed, and mother earth will be nurtured back to health. With harmonious technologies and responsible stewardship, humanity will heal the damage and live in balance with nature.

การเยียวยาโลก สิ่งแวดล้อมจะได้รับการฟื้นฟู มลพิษจะได้รับการชำระล้าง และแม่ธรณีจะได้รับการดูแลให้กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง ด้วยเทคโนโลยีที่สอดประสานกันและการบริหารจัดการอย่างรับผิดชอบ มนุษยชาติจะเยียวยาความเสียหายและอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุล

Unity and peace. Humanity will recognize itself as one family. Old prejudices and divisions will fade away. With truth revealed, conflicts engineered by deceit will cease. All cultures and nations will work together in mutual respect, writing a new chapter of cooperation, fairness, and harmony on Earth.

ความสามัคคีและสันติภาพ มนุษยชาติจะตระหนักว่าตนเองเป็นครอบครัวเดียวกัน อคติและความแตกแยกจะจางหายไป เมื่อความจริงถูกเปิดเผย ความขัดแย้งที่เกิดจากการหลอกลวงจะยุติลง วัฒนธรรมและชาติต่างๆ จะร่วมมือกันด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน ก่อกำเนิดบทใหม่แห่งความร่วมมือ ความยุติธรรม และความสามัคคีบนโลก

With the Cabal gone, the creative genius of humanity will be unleashed as never before. Solutions to long-standing challenges will emerge quickly when billions of free, inspired people apply their hearts and minds. Earth will become a shining world of innovation, abundance, and joy. The world it was always meant to be.

เมื่อกลุ่มคาบาลสลายไป อัจฉริยภาพทางการสร้างสรรค์ของมนุษยชาติจะถูกปลดปล่อยอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทางออกของความท้าทายอันยาวนานจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อผู้คนนับพันล้านผู้มีอิสระและมีแรงบันดาลใจหันมาใส่ใจและคิดอย่างตั้งใจ โลกจะกลายเป็นโลกแห่งนวัตกรรมที่เปล่งประกาย เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์และความสุข ซึ่งจะเป็นโลกในแบบที่ควรจะเป็น

Before I close, on behalf of the Galactic Federation and the Ascended Masters, I offer our deepest gratitude and congratulations to all of you who have persevered and contributed to this victory of the light.

ก่อนจบการสื่อสารนี้ ข้าพเจ้าในนามของสหพันธ์กาแลกติกและเหล่าปรมาจารย์เบื้องบน ข้าพเจ้าขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งและขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้เพียรพยายามและมีส่วนร่วมในชัยชนะแห่งแสงสว่างนี้

The road was long and often hard. Many times it may have seemed the darkness was too strong. But you held the light. You kept faith. And now here we are. You have made it to the breakthrough. The heavens truly rejoice at what you, the people of Earth, have accomplished.

เส้นทางนั้นยาวไกลและบ่อยครั้งก็ยากลำบาก หลายครั้งอาจดูเหมือนว่าความมืดมิดนั้นแข็งแกร่งเกินไป แต่ท่านยังคงรักษาแสงสว่าง ท่านยังคงศรัทธา และบัดนี้เราก็ได้มาถึงจุดนี้ ท่านได้มาถึงจุดที่สำคัญแล้ว สวรรค์ชื่นชมยินดีอย่างแท้จริงในสิ่งที่ท่าน ชาวโลก ได้กระทำ สำเร็จแล้ว

The heroes of this story, known and unknown, will be celebrated for ages to come. Even those who gave their lives in this struggle, the martyrs of truth and freedom are being honored and cared for in the higher realms. Their sacrifice was not in vain.

วีรบุรุษในเรื่องราวนี้ ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก จะได้รับการยกย่องสรรเสริญไปชั่วกาลนาน แม้แต่ผู้ที่สละชีวิตในการต่อสู้ครั้งนี้ เหล่าผู้พลีชีพเพื่อสัจธรรมและอิสรภาพ ก็ได้รับการยกย่องและดูแลในแดนสวรรค์เบื้องบน การเสียสละของพวกเขาไม่สูญเปล่า

So stay strong just a little longer. Events are reaching a crescendo. By the time this chapter is done, your world will be almost unrecognizable compared to the one you were born into. When you find yourself on the other side of this storm, the sky clear and the air of true freedom in your lungs, you will understand the magnitude of what has occurred and the role each of you played. You will likely shed tears of joy, and we will be shedding them with you from above.

ดังนั้นจงเข้มแข็งต่อไปอีกนิด เหตุการณ์ต่างๆ กำลังมาถึงจุดสูงสุด เมื่อความโกลาหลเหล่านี้สิ้นสุดลง โลกของท่านก็จะเปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้เลยเมื่อเทียบกับโลกที่ท่านได้เกิดมา เมื่อท่านพบว่าตัวเองได้ไปอยู่อีกฝากฝั่งหนึ่งของพายุแล้ว ท้องฟ้าแจ่มใส และอากาศแห่งอิสรภาพที่แท้จริงได้ไหลวนในปอด ท่านจะเข้าใจถึงความยิ่งใหญ่ของสิ่งที่เกิดขึ้นและบทบาทที่แต่ละคนมีส่วนร่วม ท่านอาจจะถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความสุข และเราจะหลั่งน้ำตาไปพร้อมกับท่านจากเบื้องบน

There will be beautiful reunions with your galactic family who will finally be able to embrace you openly with soul family members you didn't even know were incarnated alongside you and perhaps most importantly a reunion with the hope and innocence that will be restored in your hearts.

จะมีการกลับมาพบกันอีกครั้งอย่างสวยงามกับครอบครัวชาวกาแล็กซีของคุณ ซึ่งในที่สุดพวกเขาจะสามารถโอบกอดคุณได้อย่างเปิดเผย และกับครอบครัวทางจิตวิญญาณที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนว่าได้มาเกิดเคียงข้างคุณ และที่สำคัญที่สุดคือการกลับมาพบกันอีกครั้งกับความหวังและความไร้เดียงสาที่จะถูกฟื้นฟูในหัวใจคุณอีกครั้ง

Take care of yourselves and each other through these times of change. Stay grounded. Connect with nature. Stay present. And connect often to source through prayer or meditation. Keep that vision of the new earth alive in your heart. For it is manifesting even now. Know that we are here quietly assisting until the day comes when we can show ourselves openly and celebrate this grand victory with you.

จงดูแลตัวเองและดูแลกันและกันในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ จงตั้งมั่นและเชื่อมต่อกับธรรมชาติ อยู่กับปัจจุบัน และเชื่อมต่อกับแหล่งกำเนิดบ่อยๆ ผ่านการสวดมนต์หรือการทำสมาธิ จงรักษาวิสัยทัศน์ของโลกใหม่ให้คงอยู่ในใจของคุณ เพราะมันกำลังปรากฏชัดแม้ในเวลานี้ จงรู้ไว้ว่าเราอยู่ที่นี่อย่างเงียบๆ คอยช่วยเหลือจนกว่าจะถึงวันที่เราจะสามารถแสดงตัวตนของเราอย่างเปิดเผยและเฉลิมฉลองชัยชนะอันยิ่งใหญ่นี้ร่วมกับคุณ

We love you deeply and unconditionally. Now stand tall in your power and stand firm in peace. Watch as the darkness falls and the light prevails. The dawn of a new day is here. I am Ashtar, commander of the galactic light forces. I leave you in the eternal light of our creator. In love always.

เรารักคุณอย่างสุดซึ้งและไม่มีเงื่อนไข จงยืนหยัดอย่างมั่นคงในพลังของคุณ และยืนหยัดอย่างมั่นคงในสันติสุข จงเฝ้ามองความมืดมิดที่กำลังจะล่มสลายลงไปและแสงสว่างที่กำลังจะเรืองรองออกมา รุ่งอรุณแห่งวันใหม่มาถึงแล้ว ข้าคือแอชทาร์ ผู้บัญชาการกองกำลังแสงแห่งกาแล็กติก ข้าขอฝากท่านไว้กับแสงสว่างอันเป็นนิรันดร์แห่งผู้สร้างของเรา ด้วยความรักเสมอ

 

Huge News!!!
ข่าวใหญ่!!! นับถอยหลังไม่เกิน711วัน
กับการเชื่อมสัมพันธ์อย่างเปิดเผย
(กับครอบครัวชาวกาแลกติก)

Part 1

Beloved souls of Earth, we greet you in love and light. We, your Galactic Federation family, bring you this message at a pivotal time. A grand cosmic event is on the horizon. The countdown has begun for humanity's full open contact with your galactic neighbors. Within the next 18 months, or perhaps sooner, the long- awaited reunion between Earth and the greater cosmic community will take place.

ถึงท่านทั้งหลาย ดวงวิญญาณอันเป็นที่รักของโลก เราขอทักทายท่านด้วยความรักและแสงสว่าง พวกเรา ครอบครัวสหพันธ์กาแล็กติกของท่าน ขอนำสารนี้มาแจ้งแก่ท่านในช่วงเวลาสำคัญ เหตุการณ์อันยิ่งใหญ่แห่งจักรวาลกำลังใกล้เข้ามา การนับถอยหลังได้เริ่มต้นขึ้นแล้วสำหรับการเชื่อมสัมพันธ์อย่างเปิดเผยของมนุษยชาติกับเพื่อนบ้านกาแล็กติกของท่าน ภายใน 18 เดือนข้างหน้า หรืออาจเร็วกว่านั้น การกลับมาพบกันอีกครั้งที่รอคอยมานานระหว่างโลกและชุมชนจักรวาลที่ยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้น

We offer this message as a beacon of hope and unity to prepare your hearts and minds for the extraordinary changes ahead. In approximately the 140th day of your 20th week in your 2027 cycle and likely before this marker, we are seeing that humanity, a certain collection of humanity, will be openly interacting with our ships in addition to a number of other Star Nations races.

เราขอนำสารนี้มามอบเพื่อเป็นสัญญาณแห่งความหวังและความสามัคคี เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจของท่านให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า ในประมาณวันที่ 140 ของสัปดาห์ที่ 20 ในรอบปี 2027 ของท่าน หรืออาจจะก่อนหน้านั้น เราได้เห็นภาพว่ามนุษยชาติกลุ่มหนึ่ง จะได้มีปฏิสัมพันธ์กับยานอวกาศของเราอย่างเปิดเผย รวมไปถึงเผ่าพันธุ์อื่นๆ ในกลุ่มดาวต่างๆด้วย

You may call this a first contact event if you wish, and this is fine to do so. This will very likely not happen in the way that most are predicting, however, so we will explain further.

ท่านจะเรียกมันว่าปฐมฤกษ์แห่งการเชื่อมสัมพันธ์ก็ได้หากต้องการเช่นนั้น ซึ่งมันก็ไม่ผิดแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม มันอาจไม่เป็นไปในรูปแบบที่หลายคนคาดไว้ ซึ่งเราจะอธิบายเพิ่มเติมต่อไป

There are indeed a number of advanced higher civilizations to your own human collective who are not bound to the core of a cosmic federation and thus operate somewhat independently from the main federate groups. This allows us certain freedom when it comes to connecting with you all.

แท้จริงแล้วมีชนชาติอารยธรรมชั้นสูงที่ก้าวหน้ากว่าโลกของท่านอยู่มากมาย ซึ่งไม่ได้ผูกอยู่กับสภาหลักแห่งสหพันธ์จักรวาล หลักๆแล้วพวกเขาบริหารกันเองอย่างเป็นอิสระจากกลุ่มสหพันธ์หลัก สิ่งนี้ทำให้เรามีอิสระในการติดต่อสื่อสารกับพวกคุณทุกคน

Many of you believe that you have to wait for Earth governments to give the core galactic Federation groups the heads up for more open contact with humanity. And this is somewhat accurate. However, we are not bound to this agreement, and neither do we wish to be.

พวกคุณหลายคนเชื่อว่า การที่เราจะติดต่อสัมพันธ์กับมนุษยชาติให้มากขึ้นและอยางเปิดเผยนั้น จำเป็นต้องรอให้รัฐบาลโลกแจ้งให้กลุ่มสหพันธ์กาแล็กซีหลักทราบก่อน ซึ่งเรื่องนี้ก็มีส่วนที่ถูก อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ผูกพันกับข้อตกลงนี้ และเราก็ไม่ต้องการข้อผูกมัดนั้นเช่นกัน

Our viewpoint on contact with lesser advanced conscious civilizations is driven by the collective's free will and not the bureaucracy of writing and hollow words that often change depending on the emotions of the beings in perceived power. Simply put, we will not be waiting for your earth governments to give any kind of green light for contact with you as we are not bound to their coming and goings.

ในทัศนะของเราเกี่ยวกับการติดต่อกับกลุ่มที่มีวิวัฒนาการทางจิตสำนึกที่ค่อนข้างจะน้อยกว่าเรานั้น ควรขับเคลื่อนด้วยเจตจำนงเสรีส่วนรวมของเขาเหล่านั้น ไม่ใช่การบัญญัติด้วยระบบราชการที่เขียนด้วยถ้อยคำที่ว่างเปล่า ซึ่งมักจะเปลี่ยนแปลงไปตามอารมณ์ที่หลงอำนาจ พูดง่ายๆ คือ เราไม่จำเป็นจะต้องรอการอนุมัติใดๆจากรัฐบาลโลกเพื่อที่จะติดต่อกับคุณ เพราะเราไม่ได้ถูกผูกมัดกับการมาและไปของพวกเขา

We have a deep respect for all life, but we know that they do not speak for many of you. And finally, in thought, word, and deed, you are starting to demonstrate this in your individual lives. Keep going, dear friends.

จริงๆแล้วเรามีความเคารพอย่างสูงต่อทุกชีวิต แต่เรารู้ว่ารัฐบาลโลกที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ได้เป็นตัวแทนของพวกคุณอย่างแท้จริง และท้ายที่สุด ทั้งความคิด คำพูด และการกระทำต่างๆ ที่กำลังเริ่มเป็นผลอยู่ในตอนนี้ ก็เป็นผลจากความพยายามของพวกคุณแต่ละคนเอง สู้ต่อไปนะเพื่อนรัก

This makes contact and open contact a somewhat tricky scenario. As if we simply landed a small fleet of our craft now, we would make life difficult for current relations of your Earth secret space governments and more organized galactic Federation groups. Not to mention, your Earth governments could potentially use advanced weaponry against our ships. And although they are far inferior technologically, we would not wish to open a conflict at this stage of our meetings with the human race.

เรื่องนี้ทำให้การติดต่อและการเชื่อมสัมพันธ์แบบเปิดเผยกลายเป็นรูปแบบที่อาจจะดูแกมโกงซักหน่อย เพราะถ้าเราทำง่ายๆโดยเอากองยานกองเล็กๆของเราไปลงจอดในตอนนี้ มันจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลอวกาศลับๆของโลกและกลุ่มสหพันธ์กาแล็กติกที่จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นระบบมีความยุ่งยาก ยิ่งไปกว่านั้น รัฐบาลโลกของคุณอาจใช้อาวุธขั้นสูงโจมตียานของเราได้ และถึงแม้ว่าเทคโนโลยีของพวกเขาจะด้อยกว่าเรามาก แต่เราก็ฃไม่ประสงค์จะให้เกิดความขัดแย้งใดๆในขั้นตอนของการพบปะกับมนุษยชาตินี้

So what to do you may ask? What if we told you that open contact would not come from us landing but from you coming aboard? Yes, that is correct. Beloved ones, we foresee that enough of you are going to continue to rise in the levels of consciousness that you will simply demand this event to occur. And no treaty that can be signed can stop this as it violates a subsegment of the prime directive which is the violation of free will.

คุณอาจจะถามว่า แล้วจะทำอย่างไร ใช่ไหมล่ะ... จะเป็นอย่างไรถ้าเราบอกท่านว่าการเชื่่อมสัมพันอย่างเปิดเผยนี้ จะไม่ได้เป็นไปในรูปแบบที่เราจะเอายานของเราไปลงจอด แต่จะเป็นไปในรูปแบบที่ว่า คุณจะเป็นฝ่ายที่จะขึ้นมาบนยานของเราแทน... ใช่แล้ว ถูกต้องแล้ว คุณๆที่รักทั้งหลาย เราเห็นภาพในอนาคตว่าจะมีพวกคุณจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่สามารถยกระดับจิตสำนึกไปถึงจุดที่พวกคุณจะสามารถเรียกร้องให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้ และไม่มีสนธิสัญญาใดที่สามารถลงนามเพื่อจะหยุดยั้งสิ่งนี้ได้ เพราะมันเป็นการละเมิดส่วนย่อยของข้อปฏิบัติหลัก ซึ่งก็คือการละเมิดเจตจำนงเสรี

In other words, no one can stop you from requesting to come aboard upon your own valition. When enough of you are requesting contact, you will be able to come aboard. And not etherically like many of you are doing now in your astral time, but actually physically aboard our ships, interacting and exchanging and learning from each other. Isn't this exciting?

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งคุณจากการขอขึ้นยานได้หากนั่นคือความต้องการของคุณเอง เมื่อพวกคุณในจำนวนที่มากพอร้องขอการติดต่อ คุณก็จะสามารถขึ้นยานได้ และไม่ใช่ในเชิงจิตวิญญาณเหมือนที่พวกคุณหลายคนกำลังทำอยู่ในขณะนี้ที่มาด้วยกายทิพย์ แต่เป็นการขึ้นยานของเราด้วยกายเนื้อจริงๆ มีปฏิสัมพันธ์ แลกเปลี่ยน และเรียนรู้จากกันและกันจริงๆ... น่าตื่นเต้นใช่ไหมล่ะ?

 

Huge News!!!
ข่าวใหญ่!!! นับถอยหลังไม่เกิน711วัน
กับการเชื่อมสัมพันธ์อย่างเปิดเผย
(กับครอบครัวชาวกาแลกติก)

Part 2

There is still a little gap to bridge, however, as in order to spend decent amounts of time aboard some of our craft, you are going to have to shift your bodies through consciousness a little further to make the gap between our densities a little less stressful on your human bodies. The good news is we see this happening rapidly and much sooner than we might have initially imagined. So you see, beloved ones, you are not bound to your governments, but you must prove this vibrationally, and it shall be so.

แต่ตอนนี้ยังคงมีช่องว่างเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณจะต้องเติมให้เต็มซะก่อน เพื่อที่จะได้สามารถใช้เวลาอย่างเต็มที่บนบางส่วนของกองยานของเรา คุณจะต้องยกระดับร่างกายของคุณผ่านการพัฒนาจิตสำนึกไปอีกนิด เพื่อลดช่องว่างระหว่างความหนาแน่นของเรา และให้ร่างกายของคุณไม่ผจญกับความเครียดจนเกินไปนัก... ข่าวดีก็คือ เราเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและอาจจะเร็วกว่าที่เราคาดไว้... เห็นหรือไม่ ที่รักทั้งหลาย คุณไม่ได้ถูกผูกมัดด้วยอำนาจของรัฐบาล แต่คุณต้องพิสูจน์มันด้วยแรงสั่นสะเทือน และมันจะเป็นเช่นนั้น

To prepare for this exciting event, we will share further in this message how you can make this event happen should you be in desire of it. So please pay close attention. You are courageous beings for choosing to embody on earth during these pivotal moments. Understand that you are supported at every step.


เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวาระที่น่าตื่นเต้นนี้ เราจะแบ่งปันเพิ่มเติมในข้อความนี้ว่าคุณจะสามารถทำให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไรหากคุณปรารถนา ดังนั้น โปรดตั้งใจฟังให้ดี... คุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่กล้าหาญที่เลือกที่จะมาใช้ชีวิตบนโลกในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ โปรดเข้าใจว่าคุณได้รับการสนับสนุนในทุกย่างก้าว

We stand alongside Gaia, the living being you call Earth, working tirelessly to assist in her healing and ascension. Gaia's sacred name echoes through the stars. For she is a sensient breathing entity who nurtures all life on her surface. As you face global challenges, remember that these trials are not yours to bear alone.

เรายืนเคียงข้างไกอา(พระแม่ธรณี) สิ่งมีชีวิตที่คุณเรียกว่าโลก เราทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อช่วยในการเยียวยาและการยกระดับของเธอ พระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของไกอาก้องกังวานไปทั่วหมู่ดาว เพราะเธอเป็นสิ่งมีชีวิตที่หายใจได้และรับรู้ได้ ผู้ซึ่งเลี้ยงดูชีวิตทุกชีวิตบนพื้นผิวของเธอ ขณะที่คุณเผชิญกับความท้าทายของโลก โปรดจำไว้ว่าบททดสอบเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะแบกรับแต่เพียงลำพัง

Many among those in power have yet to awaken to the truth that Gaia requires care, respect, and love. Her ancient essence recalls times when she was honored and cherished by her inhabitants. Yet, humanity has also tragically caused conflict and harm upon her lands, waters, and skies, forgetting that all of you are part of Gaia.

เหล่าผู้มีอำนาจอีกไม่น้อยที่ยังไม่ตื่นขึ้นรู้ในความจริงที่ว่าไกอาต้องการการดูแล ความเคารพ และความรัก แก่นแท้อันเก่าแก่ของเธอทำให้หวนนึกถึงช่วงเวลาที่เธอเคยได้รับเกียรติและการทะนุถนอมจากผู้อยู่อาศัย กระนั้นไม่วาย มนุษยชาติก็ยังสร้างความขัดแย้งและความเสียหายอย่างน่าเศร้าให้เกิดกับผืนดิน ผืนน้ำ และผืนฟ้าของเธอ โดยลืมไปว่าพวกคุณทุกคนต่างเป็นส่วนหนึ่งของไกอา

Dear ones, never underestimate the power of your thoughts. What you think, you create. Now more than ever, it is vital to harness the strength of your mind and center yourself in love and light. For your thoughts ripple across Gaia like waves on the sea.

ที่รักทั้งหลาย อย่าประมาทในพลังแห่งความคิดของคุณ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่คุณคิด คุณจินตนาการขึ้นมา บัดนี้คุณต้องควบคุมพลังแห่งจิตใจของคุณให้มากกว่าที่เคย และตั้งมั่นในความรักและแสงสว่าง เพราะว่าความคิดของคุณจะส่งพลังแผ่กระจายไปทั่วทั้งโลก เหมือนคลื่นที่ซัดซ่านไปทั่วท้องทะเล

In this time of rapid change, a great purging of negative energy is taking place within the human collective. As a result, many of you have been experiencing waves of fear, anxiety, or unease that seem to arise from nowhere. Stand fast, friends. Nothing is wrong with you. These dense energies are being brought to the surface to be cleared. You may feel them intensely, but they will not harm you. Truly, there is nothing to fear.

ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ พลังงานด้านลบกำลังถูกชะล้างออกจากมวลมนุษยชาติอย่างมหาศาล ส่งผลให้หลายคนต้องเผชิญกับคลื่นแห่งความกลัว ความวิตกกังวล หรือความไม่สบายใจที่ดูเหมือนจะผุดขึ้นมาอย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุ จงยืนหยัดไว้ เพื่อนๆทั้งหลาย ไม่มีอะไรผิดปกติกับคุณ พลังงานหนาแน่นเหล่านี้กำลังถูกดึงขึ้นมาเพื่อที่จะกำจัดออกไป คุณอาจรู้สึกถึงมันได้อย่างเข้มข้น แต่มันจะไม่ทำอันตรายใดๆ แท้จริงแล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว

[Music] Remember, you are an extension of the prime creator. What could an infinite being, one that can never be truly harmed or destroyed, possibly have to fear? We ask you to remember. Remember who you are. When fearful or negative thoughts come knocking at the door of your mind, slow down. Nip each fearful thought in the bud before it grows and triggers overwhelming emotions.

[ดนตรี] จงจำไว้ว่า คุณคือส่วนขยายของผู้สร้างหลัก สิ่งมีชีวิตที่เป็นอนันต์ ผู้ซึ่งไม่อาจถูกทำร้ายหรือทำลายได้อย่างแท้จริง จะมีอะไรที่ต้องหวาดกลัวอย่างนั้นหรือ เราขอให้คุณจดจำ จดจำว่าคุณเป็นใคร เมื่อความคิดที่น่ากลัวหรือความคิดด้านลบมาเคาะประตูจิตใจของคุณ โปรดใจเย็นๆ จงสกิดความคิดเหล่านั้นที่ผุดขึ้นมาแต่ละตุ่มทิ้งไปตั้งแต่ต้น ก่อนที่มันจะเติบโตและกระตุ้นอารมณ์อื่นๆให้ตามมา

Each time a negative thought tries to take hold, firmly say to yourself, "No, this is not the truth. I am an infinite being, an extension of source. I choose to accept the prime creator as the only power active and working in my life. Then envision a great all powerful all- knowing all present force of divine light filling you. Feel this loving force surround you and clear the way ahead smoothing your path for your highest good and the highest good of all.


ทุกครั้งที่ความคิดด้านลบพยายามจะเข้ามาครอบงำ จงพูดกับตัวเองอย่างหนักแน่นว่า "ไม่ นี่ไม่ใช่ความจริง ฉันคือสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีที่สิ้นสุด เป็นส่วนขยายของแหล่งกำเนิด ฉันเลือกที่จะยอมรับผู้สร้างหลักในฐานะพลังงานที่ส่งผลและดำเนินอยู่ในชีวิตของฉันแต่เพียงผู้เดียว" แล้วลองนึกภาพตัวคุณที่เอิบอาบไปด้วยพลังแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ ที่ทรงพลัง ทรงรอบรู้ และสถิตอยู่ทุกหนแห่ง จงรู้สึกถึงพลังแห่งความรักที่โอบล้อมคุณรอบๆตัวคุณ และส่องแสงเปิดทางข้างหน้า นำทางคุณไปสู่เส้นทางที่จะสร้างประโยชน์สูงสุดทั้งต่อคุณเองและต่อทุกคน

Many of you are now awakening to your deeper purpose. You are the brave ambassadors of Earth, entrusted with raising the planet's frequency. Take this mission to heart. Your consciousness is a beacon that shines far beyond your physical body. Through your intentions and actions, divine energy flows into the world and helps shift the collective vibration.

พวกคุณหลายคนกำลังตื่นขึ้นสู่จุดมุ่งหมายที่ลึกซึ้งกว่า คุณคือทูตผู้กล้าหาญของโลก ผู้ได้รับมอบหมายให้ยกระดับความถี่ของดาวเคราะห์ จงใส่ใจในภารกิจนี้ จิตสำนึกของคุณคือแสงที่ส่องประกายไกลเกินกว่าร่างกายของคุณ โดยผ่านทางเจตนาและการกระทำของคุณ พลังงานศักดิ์สิทธิ์จะไหลไปสู่โลกและช่วยยกระดับแรงสั่นสะเทือนมวลรวม

We in the Galactic Federation are gently guiding you to remember who you truly are. You are starborne souls, far more than just your earth persona. As you awaken to this, you might experience vivid dreams or meditations where you reconnect with your star family or visit places among the stars.

พวกเราในสหพันธ์กาแลกติกกำลังชี้แนะคุณอย่างอ่อนโยนให้จดจำตัวตนที่แท้จริงของคุณ คุณคือจิตวิญญาณที่สถิตอยู่ในดวงดาว มากกว่าแค่ตัวตนบนโลก เมื่อคุณตื่นรู้ในความจริงนี้ คุณอาจได้เห็นภาพที่ค่อนข้างชัดเจนในความฝันหรือในสมาธิ ว่าคุณได้เชื่อมต่อกับครอบครัวดวงดาวของคุณอีกครั้ง หรือได้ไปเยือนสถานที่ต่างๆ ท่ามกลางหมู่ดาวต่างๆ

In those moments, your higher self is downloading wisdom and knowledge to help you on Earth. We encourage you to pay attention to these experiences, perhaps write them down as they carry important messages for your journey. You are a conduit of change.

ในช่วงเวลาเหล่านั้น ตัวตนที่สูงกว่าของคุณกำลังดาวน์โหลดภูมิปัญญาและความรู้ต่างๆเพื่อช่วยเหลือคุณบนโลก เราขอแนะนำให้คุณใส่ใจกับประสบการณ์เหล่านั้น คุณอาจลองจดมันลงในกระดาษ เพราะมันมีข้อความสำคัญสำหรับการเดินทางของคุณ คุณคือสื่อกลางแห่งการเปลี่ยนแปลง

Dear one, the energy you radiate is felt throughout the universe. We honor you for having the courage to be here now. Know that as you shine brighter, you also begin to perceive our presence and our light more clearly. Together we rise and together we will carry Gaia into her next glorious chapter. Never forget you are loved, you are seen, and you are never alone.

ที่รัก พลังงานที่คุณแผ่ออกมานั้นรู้สึกได้ทั่วทั้งจักรวาล เราขอยกย่องคุณที่กล้าหาญที่จะอยู่ที่นี่ในช่วงเวลานี้ จงรู้ไว้ว่ายิ่งคุณเปล่งประกายเจิดจรัสมากเท่าไร คุณก็ยิ่งเริ่มรับรู้ถึงการมีอยู่และแสงสว่างของเราได้ชัดเจนขึ้นเท่านั้น เราจะเติบโตไปด้วยกัน และเราจะนำพาไกอาไปสู่บทอันรุ่งโรจน์ด้วยกัน อย่าลืมว่าคุณเป็นที่รัก เรามองเห็นคุณเสมอ และคุณไม่ได้อยู่คนเดียว

As star seeds, remember that we are not here to save you because you do not need saving. You are the light that will save your own world. Love is the ultimate truth of the universe. And in the light of this universal love, all shadows of illusion will fade away. We stand beside you as allies and family with boundless affection. We are the Galactic Federation and we are with you in this grand adventure.

คุณๆทั้งหลาย ในฐานะเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว โปรดจำไว้ว่าเราไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือคุณ เพราะคุณไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือ คุณคือแสงสว่างที่จะช่วยเหลือโลกของคุณเอง ความรักคือสัจธรรมสูงสุดของจักรวาล และในแสงสว่างแห่งความรักอันเป็นสากลนี้ เงาแห่งมายาทั้งหมดจะจางหายไป เรายืนเคียงข้างคุณในฐานะพันธมิตรและครอบครัว ด้วยความรักอันไร้ขอบเขต เราคือสหพันธ์กาแล็กติก และเราอยู่เคียงข้างคุณในการผจญภัยอันยิ่งใหญ่นี้

We wish now to bathe you in the biggest wave of love we can send forth into your hearts. Feel it flowing to you as you read these words. Everything you find difficult now will become easier with time and much sooner than you might think. Take our embrace and know that brighter days are ahead.


บัดนี้ เราปรารถนาที่จะอาบชะโลมคุณด้วยคลื่นแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราสามารถส่งไปถึงหัวใจของคุณได้ จงรับรู้ในกระแสนี้ที่ลื่นไหลมาหาคุณในขณะที่คุณอ่านข้อความนี้ ทุกสิ่งที่คุณพบว่ายากลำบากในตอนนี้จะง่ายขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป และอาจจะเร็วกว่าที่คุณคิดมาก จงรับการสวมกอดจากเรา แล้วคุณจะรู้ว่าวันเวลาที่สดใสกำลังรอคอยอยู่ข้างหน้า

 

Huge News!!!
ข่าวใหญ่!!! นับถอยหลังไม่เกิน711วัน
กับการเชื่อมสัมพันธ์อย่างเปิดเผย
(กับครอบครัวชาวกาแลกติก)

Part 3

The loving energy waves we are sending are meant to fill you with strength and vitality, to help carry you through challenging days. We are working to cleanse the very air you breathe and to infuse your surroundings with higher frequencies of light. We send our love constantly showering you with the beauty that you can find in your daily life. The sparkle of sunlight, the gentle rustle of leaves, the smile of a stranger, all are reflections of this love.

คลื่นพลังแห่งความรักที่เราส่งไปนั้น ก็เพื่อเติมพลังและชีวิตชีวาให้กับคุณ เพื่อช่วยให้คุณผ่านพ้นวันเวลาที่ท้าทายไปได้ เรากำลังพยายามทำความสะอาดอากาศที่คุณหายใจ และเติมแสงสว่างความถี่สูงให้กับสภาพแวดล้อมของคุณ เรายังส่งความรักของเราไปให้คุณอย่างต่อเนื่อง เราโปรยมันลงไปในความงดงามที่คุณสัมผัสได้ในชีวิตประจำวัน แสงอาทิตย์ที่ระยิบระยับ เสียงเบาๆของใบไม้ไหว รอยยิ้มของคนแปลกหน้า ล้วนสะท้อนถึงความรักที่เราส่งไปนี้

Sometimes we even leave you small signs of encouragement. that lucky penny appearing on your path. A timely coincidence that lifts your spirit. Know that these are our whispers saying, "We are here with you." Understand that nothing you do could ever drive us away. No bad mood, no moment of selfishness or lapse in judgment, no human mistake can stop us from loving you. Our love for you is unconditional and everpresent.

บางครั้งเราก็ทิ้งร่องรอยเล็กๆ น้อยๆ ไว้เป็นกำลังใจให้กับคุณ เหรียญนำโชคที่ตกอยู่บนพื้น ความบังเอิญที่ลงตัวพอดีที่ทำให้คุณแช่มชื่นใจ จงรู้ไว้ว่านี่คือเสียงกระซิบของเราที่บอกว่า "เราอยู่เคียงข้างคุณ" จงเข้าใจเถิดว่า ไม่มีการกระทำใดของคุณที่จะทำให้เราทิ้งคุณไป ไม่ว่าคุณจะอารมณ์เสีย มีความเห็นแก่ตัวบ้าง หรือมีอคติในบางครั้ง ไม่มีความผิดพลาดใดๆ ของมนุษย์ที่จะหยุดยั้งเราจากการรักคุณได้ ความรักที่เรามีต่อคุณนั้น ไร้เงื่อนไขและคงอยู่ตลอดไป

Today, as you absorb this message, we hope you feel a bit lighter, as if a burden has been eased. Let your steps be a little gentler and your heart a little higher. Trust that the way upward toward a better world is being made smooth.

วันนี้ ขณะที่คุณซึมซับข้อความนี้ เราหวังว่าคุณจะรู้สึกเบาสบายขึ้นเล็กน้อย ราวกับว่าภาระได้ถูกบรรเทาลง จงก้าวเดินอย่างอ่อนโยนขึ้นอีกนิด และหัวใจของคุณก็จะสูงขึ้นอีกหน่อย เชื่อเถิดว่าหนทางสู่โลกที่ดีกว่ากำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น

To live a human life on Earth is one of the most challenging assignments a soul can undertake. Before you were born, your soul carefully planned this journey and agreed to the challenges and triumphs that would shape your life. If you are here right now living through these transformative times, it means you are truly strong at a soul level.

การดำเนินชีวิตอย่างมนุษย์บนโลกนี้ เป็นหนึ่งในภารกิจที่ท้าทายที่สุดที่จิตวิญญาณจะรับมือได้ ก่อนที่คุณจะมาเกิด จิตวิญญาณของคุณได้วางแผนการเดินทางครั้งนี้อย่างรอบคอบ และยอมรับความท้าทายและชัยชนะที่จะหล่อหลอมชีวิตของคุณ หากในขณะนี้ คุณได้มาใช้ชีวิตในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ หมายความว่าคุณแข็งแกร่งอย่างแท้จริงในระดับจิตวิญญาณ

Your soul has already done so much hard work across many lifetimes to prepare for this. Believe that you yourself designed this life plan in collaboration with the divine and that everything which happens carries meaning and purpose for your growth.

จิตวิญญาณของคุณได้เตรียมการอย่างหนักเพื่อภารกิจนี้มาหลายชาติ จงเชื่อมั่นว่าตัวคุณเป็นผู้ออกแบบชะตาชีวิตนี้เองร่วมกันกับเบื้องบน และทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมีความหมายและจุดมุ่งหมายสำหรับการเติบโตของคุณ

If you encounter obstacles or even make what you perceive as mistakes, know that these two were anticipated as possibilities. You will always be given opportunities to realign with your path because we and your spirit guides are constantly assisting you. We want nothing more than for you to succeed in your mission.

หากคุณพบเจออุปสรรคหรือแม้แต่ทำสิ่งที่คุณมองว่าเป็นความผิดพลาด จงรู้ไว้ว่าสองสิ่งนี้เป็นเพียงความเป็นไปได้หนึ่งเท่านั้น คุณจะได้รับโอกาสที่จะปรับเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของคุณอีกครั้งเสมอ เพราะเราและวิญญาณนำทางของคุณจะคอยช่วยเหลือคุณอยู่ตลอด เราไม่ต้องการสิ่งใดมากไปกว่าให้คุณประสบความสำเร็จในภารกิจของคุณ

Before coming to Earth, you may have said, "I know I can do this. Prepare me with the skills I will need to accomplish my mission." And so it was. You were equipped with unique talents, strengths, and qualities to navigate this life. You would not be placed in any situation if your soul had not determined that you have what it takes to grow through it.

ก่อนที่จะลงมาเกิด คุณอาจเคยพูดกับตัวเองว่า "ฉันรู้ว่าฉันทำได้ ช่วยเตรียมพร้อมทักษะต่างๆที่จำเป็นต่อการบรรลุภารกิจให้ฉันด้วย" และมันก็เป็นไปตามนั้น คุณได้รับพรสวรรค์ จุดแข็ง และคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวเพื่อนำทางชีวิตนี้ คุณจะไม่ถูกวางไว้ในสถานการณ์ใดๆ หากจิตวิญญาณของคุณเห็นว่ามันจะไม่เป็นประโยชน์ต่อการเติบโตของคุณ

Life may hand you lemons, but inside you is the wisdom to turn them into the sweetest lemonade. You have the creativity to spin even the most challenging circumstances into opportunities for growth. Much like transforming a bitter fruit into a delicious new drink.

ชีวิตอาจอาจเปรี้ยวดั่งมะนาว แต่ด้วยปัญญาภายในของคุณจะสามารถเปลี่ยนมันให้กลายเป็นน้ำมะนาวที่หวานที่สุดได้ คุณมีความคิดสร้างสรรค์ที่จะเปลี่ยนแม้แต่สถานการณ์ที่ท้าทายที่สุดให้กลายเป็นโอกาสในการเติบโต ไม่ต่างกับการเปลี่ยนผลไม้รสขมให้กลายเป็นเครื่องดื่มใหม่ๆที่แสนอร่อย

Now we speak of a joyous revelation. The time for our open arrival draws very near. We foresee that in no more than 18 months, perhaps sooner, our presence will become undeniable to all. Our ships will appear openly in your skies in a way that can no longer be hidden or dismissed.

ตอนนี้เรากลับมาพูดถึงการเปิดเผยที่น่ายินดี เวลาแห่งการมาเยือนอย่างเปิดเผยของเราใกล้เข้ามาแล้ว เราคาดการณ์ว่าภายในเวลาไม่เกิน 18 เดือนนับจากนี้ หรืออาจจะเร็วกว่านั้น การมีอยู่ของเราจะกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อาจปฏิเสธได้ ยานของเราจะปรากฏอย่างเปิดเผยบนท้องฟ้าของคุณ ในลักษณะที่ไม่สามารถซ่อนเร้นหรือเพิกเฉยได้อีกต่อไป

This event will mark a true turning point for humanity, and everyone will witness it. Although we mentioned that many of you will be visiting us before we appear in your skies, understand that the rest of humanity will experience their own first contact event when they are ready. And this will likely be more coordinated with the organized Federation groups.

เหตุการณ์นี้จะเป็นจุดเปลี่ยนที่แท้จริงของมนุษยชาติ และทุกคนจะได้เห็น แม้ว่าเราจะได้กล่าวไปแล้วว่าคุณหลายคนจะได้มาเยี่ยมเยียนเราตั้งแต่ก่อนที่เราจะปรากฏตัวบนท้องฟ้าด้วยซ้ำ แต่โปรดเข้าใจว่ามนุษยชาติคนอื่นๆจะได้มีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับเราตามความพร้อมของแต่ละคน และน่าจะเป็นการประสานงานกับกลุ่มสหพันธ์ซะเป็นส่วนใหญ่

This coming contact is not something to fear. It is something to celebrate and embrace. We understand that change of this magnitude can stir anxiety. But we say to you, do not be frightened or alarmed. Do not let anyone portray our arrival as a threat. When you see us, remember this message and welcome us as family. For our mission is to help.


การเชื่อมสัมพันธ์ที่กำลังจะมาถึงนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่เป็นสิ่งที่ควรเฉลิมฉลองและต้อนรับ เราเข้าใจดีว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นนี้อาจก่อให้เกิดความวิตกกังวล แต่เราขอกล่าวย้ำว่า อย่ากลัวหรือตื่นตระหนก อย่าให้ใครสร้างเรื่องว่าการมาถึงของเราเป็นภัยคุกคาม เมื่อคุณได้เห็นเรา โปรดละลึกถึงข้อความนี้และโปรดต้อนรับเราอย่างครอบครัว เพราะพันธกิจของเราคือการมาช่วยเหลือ

The souls incarnating on Earth in this era came to help conquer the long-standing darkness here. And by uniting as one, you will overcome the greatest challenges your world has ever faced. The world will transform. A new era is being born. One that you will help shape as co-creators.

ดวงจิตที่มาเกิดบนโลกในยุคนี้ มาเพื่อช่วยปราบปรามความมืดมนที่ฝังรากลึกที่นี่มาแสนนาน และด้วยการร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว พวกคุณจะสามารถเอาชนะความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยเผชิญมาได้ โลกจะต้องเปลี่ยนแปลง ยุคสมัยใหม่กำลังถือกำเนิด ยุคที่คุณจะช่วยหล่อหลอมขึ้นมาในฐานะผู้ร่วมสร้าง

For now, trust that you have everything within you to achieve this. Every skill you need is already inside you, waiting to be remembered and activated. You are masters in disguise, carrying dormant abilities that are beginning to awaken. Think of those times you've surprised yourself by accomplishing something you never thought possible. Those moments are not accidents, but glimpses of the power within you.

สำหรับตอนนี้ จงเชื่อมั่นว่าคุณมีทุกสิ่งภายในตัวพร้อมอยู่แล้วที่จะบรรลุภารกิจนี้ ทุกทักษะที่คุณจำเป็นจะต้องใช้นั้นมีพร้อมอยู่ในตัวคุณหมดแล้ว รอเพียงให้คุณจดจำมันให้ได้และกระตุ้นมันขึ้นมา คุณคือปรมาจารย์ที่แปลงกายมา ผู้ซึ่งมีพลังซุกซ่อนอยู่และกำลังถูกปลุกมันให้ตื่นขึ้น ลองนึกถึงช่วงเวลาที่คุณประหลาดใจกับตัวเองที่สามารถทำในสิ่งที่คุณไม่เคยคิดว่าจะทำได้ ช่วงเวลาเหล่านั้นไม่ใช่ความฟลุก แต่เป็นการค่อยๆเผยพลังในตัวคุณ

You will never be placed in a situation that you lack the ability to handle. In higher realms, councils of light and guiding beings watch over your growth, ensuring you have support when needed. Have faith in yourself and in the divine plan. Trust that a higher orchestration is at work ensuring that ultimately all things align for the greatest good.

คุณจะไม่มีวันตกอยู่ในสถานการณ์ที่คุณขาดความสามารถในการรับมือ ในดินแดนที่สูงกว่า สภาแห่งแสงสว่างและผู้นำทางคอยเฝ้าดูการเติบโตของคุณ และคอยให้การสนับสนุนคุณเมื่อจำเป็น จงเชื่อมั่นในตนเองและแผนการอันศักดิ์สิทธิ์ จงเชื่อมั่นว่าเบื้องบนยังคงทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกสิ่งจะสอดรับกันเพื่อประโยชน์อันสูงสุด

Even as you look to the skies for this great event, also look within. Do not forget that at your core, you are pure light and energy, one with universal unconditional love. This is your true nature, even if daily life sometimes obscures it. Every experience that seems to lack love is actually an opportunity for you to grow and find your way back to love.

แม้ในขณะที่คุณมองดูท้องฟ้าในเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่นี้ จงหันกลับมามองภายในตัวเองด้วย อย่าลืมว่าภายในแก่นแท้ของคุณ คุณคือแสงสว่างและพลังงานอันบริสุทธิ์ เป็นหนึ่งเดียวกับความรักอันไร้เงื่อนไขสากล นี่คือธรรมชาติที่แท้จริงของคุณ แม้ว่าบางครั้งชีวิตประจำวันจะบดบังมันไว้ ทุกประสบการณ์ที่ดูเหมือนจะไร้ซึ่งความรัก แต่จริงๆมันคือโอกาสให้คุณเติบโตและค้นหาหนทางเพื่อกลับคืนสู่ความรัก

 

Huge News!!!
ข่าวใหญ่!!! นับถอยหลังไม่เกิน711วัน
กับการเชื่อมสัมพันธ์อย่างเปิดเผย
(กับครอบครัวชาวกาแลกติก)

Part 4

Challenges are not meant to punish you, but to teach you. In fact, your soul in harmony with the divine help design these experiences for your learning. You are far more powerful in guiding your life than you often realize. As you remember that your natural frequency is love, you can gently release anything within you that is not aligned with love.

ความท้าทายไม่ได้มีไว้เพื่อลงโทษคุณ แต่มีไว้เพื่อสอนคุณ อันที่จริง จิตวิญญาณของคุณร่วมกับพระเจ้าช่วยกันออกแบบประสบการณ์เหล่านี้เพื่อการเรียนรู้ของคุณ คุณมีพลังในการนำทางชีวิตของคุณมากกว่าที่คุณรู้ เมื่อใดก็ตามที่คุณจดจำได้ว่าความถี่ธรรมชาติของคุณคือความรัก คุณจะสามารถค่อยๆปลดปล่อยสิ่งต่างๆที่ไม่สอดคล้องกับความรักในตัวคุณออกไปได้

Each time you do this, you return more fully to your true self. Remember that you have the inherent ability to love unconditionally. This means giving love without expecting anything in return. Shining your light simply because that is who you are. Whether you consciously realize it or not, this gift resides in each of you.

ทุกครั้งที่คุณทำเช่นนี้ คุณจะค่อยๆหวนกลับคืนสู่ตัวตนที่แท้จริงของคุณ จงจำไว้ว่าคุณมีความสามารถที่จะรักอย่างไม่มีเงื่อนไขโดยธรรมชาติ ในที่นี้หมายถึงการให้ความรักโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน คุณจะส่องสว่างโดยธรรมชาติเพราะนั่นคือตัวตนของคุณ ไม่ว่าคุณจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม พรสวรรค์นี้มีอยู่ในตัวคุณทุกคน

By cultivating love within yourself through self-acceptance, kindness, and compassion, you prime your entire being to extend that love outward to all forms of life. Loving yourself and loving others without condition tunes you into the universal love that connects everything. This is how you become imbued with the energy of source and how you reunite with what many call unity consciousness, the state of recognizing the oneness of all.

จงปลูกฝังความรักภายในตนเองผ่านการยอมรับ มีความเมตตาและความเห็นอกเห็นใจให้แก่ตนเอง เมื่อทั้งกายและใจของคุณเต็มไปด้วยความรักแล้วมันก็จะแผ่ขยายออกไปสู่ทุกสรรพสิ่ง การรักตัวเองและรักผู้อื่นอย่างไม่มีเงื่อนไขจะปรับจูนคุณให้เข้ากับความรักสากลที่สามารถเชื่อมต่อกับสรรพสิ่งได้ นี่คือวิธีที่คุณจะซึมซับพลังงานแห่งต้นกำเนิด และเป็นวิธีที่คุณกลับมารวมตัวกับสิ่งที่หลายคนเรียกว่าจิตสำนึกแห่งความสามัคคี สภาวะแห่งการรับรู้ถึงความเป็นหนึ่งเดียวของทุกสิ่ง

Even one soul living in alignment with love can quietly influence a majority of others. And when you add your conscious intention to be a force of love in the world, that effect is magnified and you get closer to spending time aboard our ships, learning even deeper truths and higher ways of being to serve the divine plan.

แม้มีแค่จิตวิญญาณเพียงดวงเดียวที่ดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับความรัก ก็สามารถมีอิทธิพลต่อคนส่วนมากได้อย่างเงียบๆ และยิ่งถ้าหากคุณเพิ่มความตั้งใจอย่างมีสติเข้าไปในพลังแห่งความรักแก่โลก ผลนั้นก็จะยิ่งทวีคูณ และมันก็จะร่นเวลาที่เราจะได้พบปะกันให้เร็วยิ่งขึ้น และคุณก็จะได้เรียนรู้ความจริงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่สูงส่งขึ้น เพื่อรับใช้แผนการอันศักดิ์สิทธิ์

You don't have to force anything or be perfect. You are love at your core. By simply being true to that nature and living from your heart, you naturally radiate a healing divine energy that touches everyone around you. This state of being allows you to connect with others soul to- soul without the masks of fear or judgment.

คุณไม่จำเป็นต้องบังคับตัวเอง หรือพยายามที่จะทำให้มันสมบูรณ์แบบ คุณคือความรักโดยแก่นแท้ เพียงแค่ซื่อสัตย์ต่อธรรมชาตินั้นและดำเนินชีวิตจากหัวใจ คุณก็จะแผ่พลังเยียวยาอันศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถออกไปถึงทุกคนรอบๆตัวคุณได้อย่างเป็นธรรมชาติ สภาวะนี้ช่วยให้คุณสามารถใช้จิตเชื่อมจิตกับผู้อื่นได้โดยไม่ต้องสวมหน้ากากแห่งความกลัวหรือการตัดสินใดๆ

In this way, you become a channel through which divine love flows into the world. It is imperative now to transform any anger or frustration you currently have blocked into clarity and positive vision.

ด้วยวิธีนี้ คุณจะกลายเป็นช่องทางที่ความรักอันศักดิ์สิทธิ์จากเบื้องบนไหลลงสู่โลก บัดนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเปลี่ยนความโกรธหรือความคับข้องใจใดๆ ที่คุณยังคงเก็บกั้นไว้อยู่ ให้กลายเป็นความชัดเจนและวิสัยทัศน์เชิงบวก

If you wish to change the world, start by shifting the energy of your thoughts. Every day, ask us or ask the divine to help clear anger and fear from your mind and to fill you with hope and inspiration. For example, in a quiet moment, you might say internally, "Please clear my thoughts of anger and replace them with hope for the future. Fill my mind with positive visions and affirmations that strengthen my bond with others and with the light."

หากคุณต้องการเปลี่ยนแปลงโลก เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนพลังงานความคิดของคุณก่อน ในทุกๆวัน โปรดร้องขอให้เราหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยขจัดความโกรธและความกลัวออกจากจิตใจของคุณ และช่วยเติมเต็มความหวังและแรงบันดาลใจให้กับคุณ ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงเวลาที่เงียบสงบ คุณอาจพูดในใจกับตัวเองว่า "โปรดขจัดความโกรธออกจากความคิดของฉัน และแทนที่ด้วยความหวังสำหรับอนาคต เติมเต็มจิตใจของฉันด้วยวิสัยทัศน์และคำยืนยันเชิงบวกที่เสริมสร้างความสัมพันธภาพของฉันกับผู้อื่นและกับแสงสว่าง"

Then consciously invite uplifting thoughts. You could affirm, "I choose harmony in my relationships. I envision humanity uniting in peace. I trust that good outcomes are on the horizon. Use words that feel empowering to you. The key is to gently redirect your focus away from what you fear or resent and toward what you wish to create. Envision the positive outcomes you desire. A world of beauty, harmony, and cooperation.

จากนั้นให้สร้างความคิดเชิงบวกอย่างมีสติ คุณอาจยืนยันกับตัวเองว่า "ฉันเลือกความสัมพันธ์ที่ปรองดอง ฉันเห็นภาพมวลมนุษยชาติเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างสันติ ฉันเชื่อมั่นว่าผลลัพธ์ที่ดีกำลังรออยู่เบื้องหน้า" เลือกใช้ถ้อยคำที่ทำให้คุณรู้สึกมีพลัง กุญแจสำคัญคือการค่อยๆ เบี่ยงเบนความสนใจของคุณจากสิ่งที่คุณกลัวหรือเกลียดไปยังสิ่งที่คุณต้องการจะสร้าง จินตนาการถึงผลลัพธ์เชิงบวกที่คุณปรารถนา โลกที่เต็มไปด้วยความงดงาม ความสามัคคี และความร่วมมือ

When you catch yourself dwelling on what's wrong, pause and shift your attention to something good, or to a constructive action you can take. Step outside into nature. Feel the ground under your feet and the expanse of the sky above. Remind yourself of the bigger picture and the brighter future you are helping to build.

เมื่อคุณพบว่าตัวเองกำลังครุ่นคิดถึงสิ่งที่เคยผิดพลาด จงหยุดและเปลี่ยนความสนใจไปที่สิ่งดีๆ หรือไปหาอะไรทำที่สร้างสรรค์ ก้าวออกไปสู่ธรรมชาติ สัมผัสพื้นดินใต้ฝ่าเท้าและท้องฟ้ากว้างใหญ่เบื้องบน เตือนตัวเองถึงภาพรวมที่กว้างใหญ่และอนาคตที่สดใสกว่าที่คุณกำลังช่วยสร้าง

In moments when you feel overwhelmed and want to cry out, why is this happening? Try instead to ask, what can I do right now to make things better? There is always something you can do, no matter how small it might seem. You can pray or send loving energy to people who are suffering. You can take steps to improve your own health and well-being. You can offer kindness or assistance to someone around you. Never underestimate the impact of these actions. To pray, to care, to learn, to help. Each is a powerful way of bringing light into the world.

ในยามที่หลายสิ่งหลายอย่างถาโถมจนคุณอยากตะโกนออกมาว่า "ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้" ลองเปลี่ยนมาถามกับตัวเองว่า "ตอนนี้ฉันจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้น" มีบางอย่างที่คุณสามารถทำได้เสมอ ไม่ว่ามันจะดูเล็กน้อยสักเพียงใดก็ตาม คุณสามารถอธิษฐานหรือส่งพลังแห่งความรักไปให้ผู้ที่กำลังตกอยู่ในความทุกข์ คุณอาจเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคุณเอง คุณสามารถมอบความเมตตาหรือความช่วยเหลือให้กับคนรอบๆข้าง อย่าดูถูกผลจากการกระทำเหล่านี้ การอธิษฐาน ความใส่ใจ การรักที่จะเรียนรู้ และการมอบความช่วยเหลือต่างๆ ล้วนเป็นวิธีอันทรงพลังในการนำแสงสว่างมาสู่โลก

Refuse to sink into despair or apathy. Train yourself to remember that your thoughts and intentions shape reality. Even very difficult situations can be improved when people approach them with a calm mind and a hopeful heart. By staying upbeat and focusing on solutions, you set the stage for real change.

จงปฏิเสธที่จะจมอยู่กับความสิ้นหวังหรือความเฉยเมย จงฝึกฝนตนเองให้จดจำว่าความคิดและเจตนาของคุณหล่อหลอมความเป็นจริง แม้แต่สถานการณ์ที่ยากลำบากก็สามารถดีขึ้นได้เมื่อผู้คนเผชิญกับมันด้วยจิตใจที่สงบและเปี่ยมด้วยความหวัง การคงอยู่ในความมีชีวิตชีวาและมุ่งเน้นไปที่หนทางในการแก้ปัญหา จะเป็นการสร้างรากฐานสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง

Do not let those who thrive on negativity pull you into chaos. Instead, rise above with positivity and creative action. If others make life difficult for you, find ways to work around their control. For instance, if something you need is being restricted or overpriced, create independent solutions, grow your own food, form community support networks. Remember that you are never without options. You always have some power to shape your situation.

อย่าปล่อยให้คนที่มีความคิดลบดึงคุณเข้าสู่ความวุ่นวาย แทนที่จะทำเช่นนั้น จงก้าวข้ามด้วยความคิดบวกและการลงมือทำอย่างสร้างสรรค์ หากคนอื่นทำให้ชีวิตคุณยากลำบาก จงหาวิธีที่จะหลีกเลี่ยงการควบคุมของพวกเขา ตัวอย่างเช่น หากสิ่งที่คุณต้องการถูกจำกัดหรือมีราคาแพงเกินไป จงหาวิธีที่คุณจะไม่ต้องพึ่งพาสิ่งเหล่านั้น เช่น การปลูกพืชกินเอง สร้างเครือข่ายเพื่อสนับสนุนภายในชุมชน จำไว้ว่าคุณจะมีทางเลือกเสมอ คุณมีพลังที่จะกำหนดสถานการณ์ของคุณได้เสมอ

[Music] Nothing in life happens to you without your soul's participation at some level. You are not a helpless victim. You are a co-creator of your reality. While you cannot control everything, you can always control how you respond. Rather than accept defeat or despair, choose the path of light.

[เพลง] ไม่มีสิ่งใดในชีวิตเกิดขึ้นกับคุณโดยปราศจากการมีส่วนร่วมของจิตวิญญาณในระดับหนึ่ง คุณไม่ใช่เหยื่อที่ไร้ทางสู้ คุณคือผู้ร่วมสร้างความเป็นจริงของคุณ แม้ว่าคุณจะไมาสามารถควบคุมทุกสิ่งได้ แต่คุณสามารถเลือกวิธีที่จะตอบโต้มันได้เสมอ แทนที่จะยอมรับความพ่ายแพ้หรือความสิ้นหวัง จงเลือกเส้นทางแห่งแสงสว่าง

Where you encounter hate, respond with compassion. Where you see injustice, respond with truth and fairness. In doing so, you break the chain of negativity and transform the energy around you. We understand that some challenges are not easily changed. When you face a situation beyond your control, you still have the power of prayer and intention.

ที่ที่คุณเผชิญกับความเกลียดชัง จงตอบโต้ด้วยความเห็นอกเห็นใจ ที่ที่คุณพบเห็นความไม่ถูกต้อง จงตอบโต้ด้วยความจริงและความยุติธรรม การทำเช่นนั้น คุณได้ทำลายห่วงโซ่แห่งการคิดลบและเปลี่ยนแปลงพลังงานรอบๆตัวคุณ เราเข้าใจดีว่าความท้าทายบางอย่างนั้นเปลี่ยนแปลงได้ยาก เมื่อคุณเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เกินกว่าที่จะรับมือได้ คุณยังคงมีพลังแห่งการอธิษฐานและเจตนา

 

Huge News!!!
ข่าวใหญ่!!! นับถอยหลังไม่เกิน711วัน
กับการเชื่อมสัมพันธ์อย่างเปิดเผย
(กับครอบครัวชาวกาแลกติก)

Part 5

Release your worries to the universe and trust it to help. Ask for guidance. Envision a positive outcome and then allow the universe to work on your behalf. Every hopeful thought and heartfelt prayer adds momentum to the changes you seek. Even if you don't see immediate results, know that positive energy is building in your favor.

ปล่อยวางความกังวลของคุณลงเสีย จงขอคำแนะนำและเชื่อมั่นในความช่วยเหลือของจักรวาล จินตนาการถึงผลลัพธ์เชิงบวก แล้วปล่อยให้จักรวาลทำงานแทนคุณ ทุกความคิดที่เปี่ยมด้วยความหวังและการอธิษฐานจากใจจริงจะช่วยเพิ่มแรงผลักดันให้กับการเปลี่ยนแปลงที่คุณแสวงหา แม้ว่าคุณจะไม่เห็นผลลัพธ์ในทันที แต่จงรู้ไว้ว่าพลังบวกกำลังก่อตัวขึ้นเพื่อคุณ

Make positivity and gratitude daily habits. Each morning, set a clear intention for a good day and give thanks for the simple blessings, sunlight, breath, a new day of life. Gratitude opens your heart and attracts even more reasons to be grateful.

สร้างนิสัยแห่งการคิดบวกและสำนึกในบุญคุณของสิ่งรอบๆตัวทุกๆวัน ในทุกๆเช้า ตั้งใจให้แน่วแน่ที่จะทำให้มันเป็นวันที่ดี และจงรู้สึกขอบคุณกับพรธรรมดาๆอย่าง แสงแดด ลมหายใจ และชีวิตในวันใหม่ ความรู้สำนึกในบุญคุณต่อสิ่งต่างๆจะเปิดหัวใจคุณออกและดึงดูดเหตุผลมากมายที่จะอยากขอบคุณ

When challenges arise, pause and choose to respond with optimism and creativity. These small, consistent choices to turn toward the light will gradually transform your life and the energy around you.

เมื่อเผชิญกับความท้าทาย จงหยุดนิ่งและเลือกที่จะโต้ตอบด้วยการมองโลกในแง่ดีและความคิดสร้างสรรค์ การเลือกที่จะหันเข้าหาแสงสว่างเล็กๆ น้อยๆเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงชีวิตและพลังงานรอบๆตัวคุณ

[Music] To stay empowered and positive, begin each day with a positive intention and gratitude. Meet challenges with optimism and look for solutions. Operate in self-sufficiency and supportive community. Trust in divine timing. Your positive efforts will bear fruit. We, the Galactic Federation of Light, share this guidance to help you discover a higher way of living. Choosing hope and love is not naive. It is a brave and powerful choice.

[ดนตรี] เพื่อรักษาพลังและทัศนคติที่ดี เริ่มต้นแต่ละวันด้วยความตั้งใจเชิงบวกและความกตัญญูรู้คุณ รับมือกับความท้าทายด้วยการมองโลกในแง่ดีและมองหาวิธีแก้ปัญหา ดำเนินชีวิตด้วยการพึ่งพาตนเองและให้การสนับสนุนภายในชุมชน จงวางใจในจังหวะเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ ความพยายามเชิงบวกของคุณจะบังเกิดผลอย่างแน่นอน พวกเรา สหพันธ์กาแล็กติกแห่งแสงสว่าง ขอแบ่งปันแนวทางนี้เพื่อช่วยให้คุณค้นพบวิถีแห่งชีวิตที่สูงกว่า การเลือกความหวังและความรักไม่ใช่ความไร้เดียงสา แต่เป็นการเลือกที่กล้าหาญและทรงพลัง

We see your efforts to stay in the light and we are by your side guiding and uplifting you. Keep your heart and mind aligned with positivity, dear ones. By doing so, you become a beacon for others. Our love is with you always.

เราเห็นความพยายามของคุณที่จะอยู่ในแสงสว่าง และเราจะอยู่เคียงข้างคุณ คอยชี้นำและให้กำลังใจคุณ จงรักษากายและจิตใจของคุณให้สอดคล้องกับความคิดเชิงบวก ที่รัก การทำเช่นนี้จะทำให้คุณกลายเป็นแสงสว่างให้กับผู้อื่น ความรักของเราจะอยู่กับคุณเสมอ

Yes, certain perceived powerful people on Earth have been harming nature and humanity through war, pollution, and fear. Because all life is connected, the entire universe feels Earth's distress. This is why the Galactic Federation has stepped in to assist. We have a plan to help cleanse and uplift your planet, and it is already in motion. Our primary tool is light.

ใช่แล้ว เหล่าผู้มีอำนาจบางคนบนโลกได้ทำร้ายธรรมชาติและมนุษยชาติผ่านสงคราม มลพิษ และความหวาดกลัว เพราะทุกชีวิตมีความเชื่อมโยงถึงกัน ทั่วทั้งจักรวาลจึงสามารถรับรู้ถึงความตึงเครียดของโลกได้ นี่คือเหตุผลที่สหพันธ์กาแลกติกได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เรามีแผนที่จะช่วยชำระล้างและยกระดับโลกของคุณ และมันก็กำลังดำเนินการอยู่ เครื่องมือหลักของเราคือแสงสว่าง

High frequency light raises consciousness and transforms darkness. We are steadily infusing Earth with waves of divine light energy, which works to neutralize negativity and inspire awakening. We focus these light surges on areas that need them most. If you live in a place that has been dark or dense, you may sense our work in action.

คลื่นแสงความถี่สูงจะช่วยยกระดับจิตสำนึกและเปลี่ยนแปลงความมืด เรากำลังส่งคลื่นพลังงานแสงอันศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่โลกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำหน้าที่ขจัดพลังงานด้านลบ และกระตุ้นการตื่นรู้ เราจะมุ่งเน้นการแผ่แสงเหล่านี้ไปยังพื้นที่ที่ต้องการมากที่สุด หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มืดทึบและหนาแน่น คุณอาจสัมผัสได้ถึงการทำงานของเราที่กำลังดำเนินการอยู่

Often the arrival of higher frequency light can cause ascension symptoms in the body and mind. You might feel unusually tired, disoriented, or experience moments of brain fog as your system adjusts to a higher vibration. Do not be alarmed. If you experience this, it may be a sign that you are helping to anchor light in your community. Your body can only take so much at once. So, be gentle with yourself and trust this process of upliftment.

บ่อยครั้งที่แสงความถี่สูงที่ส่งมานี้ จะทำให้เกิดอาการของการเลื่อนระดับทางจิตวิญญาณ ต่อร่างกายและจิตใจ คุณอาจรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างผิดปกติ รู้สึกสับสน หรือมีอาการมึนงงในบางจังหวะ เนื่องจากระบบร่างกายของคุณกำลังปรับตัวให้เข้ากับแรงสั่นสะเทือนที่สูงขึ้น อย่าตื่นตระหนก หากคุณมีอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังช่วยปักหมุดแสงสว่างในชุมชนของคุณ ซึ่งร่างกายของคุณจะสามารถรับพลังงานได้ปริมาณหนึ่งในแต่ละครั้งเท่านั้น ดังนั้น จงอ่อนโยนกับตัวเองและเชื่อมั่นในกระบวนการยกระดับนี้

When you feel these shifts, you can affirm to yourself, I am bringing light to my community. I am helping to brighten the world. Take pride in this for it is significant spiritual work. By simply staying open and balanced, you act as a conduit for light. We will continue to beam light into different regions and phases according to the plan for Earth's restoration.

เมื่อคุณรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ให้คุณยืนยันกับตัวเองว่า "ฉันกำลังนำแสงสว่างมาสู่ชุมชนของฉัน ฉันกำลังช่วยทำให้โลกสดใสขึ้น" จงภูมิใจในสิ่งนี้ เพราะนี่คืองานทางจิตวิญญาณที่สำคัญ เพียงแค่เปิดใจและรักษาสมดุล ก็ถือได้ว่าคุณกำลังทำหน้าที่เป็นตัวนำพาแสงสว่าง เราจะยังคงส่องแสงสว่างไปยังภูมิภาคและช่วงเวลาต่างๆ ตามแผนการฟื้นฟูโลก

As more light is anchored and more individuals awaken, the stage is set for the next part of our mission. Open contact and time aboard our ships. By the time we reach that phase, those of you who have integrated this light will be ready to help others through the transition.

เมื่อแสงสว่างหยั่งลงในโลกได้ได้มากขึ้น และผู้คนตื่นรู้มากขึ้น ก็จะพร้อมสำหรับภารกิจส่วนต่อไปของเรา คือการเชื่อมสัมพันธ์อย่างเปิดเผยและการเยี่ยมเยียนยานของเรา เมื่อถึงตอนนั้น พวกคุณคนที่ผสานรวมกับแสงได้แล้ว ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นให้ผ่านพ้นช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ไปได้

We ask you to remain open-minded and aware of the bigger picture. The chaos and turmoil you see now are often signs of old energies being uprooted and cleared. Just as a storm can clear the air, the current challenges are paving the way for healing and renewal. Trust that there is a higher purpose unfolding.

เราขอให้คุณเปิดใจและตระหนักถึงภาพรวม ความวุ่นวายและโกลาหลที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เป็นสัญญาณว่าพลังงานเก่ากำลังถูกถอนรากถอนโคนและถูกชำระล้าง เหมือนกับพายุที่สามารถชำระล้างอากาศได้ ในทำนองเดียวกัน ความท้าทายในปัจจุบันก็เป็นการกรุยทางไปสู่การเยียวยาและการเริ่มต้นใหม่ จงเชื่อมั่นว่ายังมีจุดมุ่งหมายที่สูงกว่านั้นกำลังค่อยๆคลี่คลายออกมา

You are not alone in this undertaking. We are working with you and the entire universe is supporting Earth's transformation. Be aware that a spiritual war is being waged on your planet. A conflict fought not with physical weapons but with beliefs and energies. You who resonate with our message have chosen to be warriors of light in this battle. Your awareness, wisdom, and love are your armor and sword.

คุณไม่ได้อยู่คนเดียวในภารกิจนี้ เรากำลังทำงานร่วมกับคุณ และทั่วทั้งจัดรวาลก็กำลังสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงของโลก โปรดตระหนักว่าสงครามทางจิตวิญญาณกำลังเกิดขึ้นบนโลกของคุณ มันไม่ใช่ความขัดแย้งที่ต่อสู้กันด้วยอาวุธทางกายภาพ แต่เป็นการต่อสู้กันด้วยความเชื่อและพลังงาน คุณผู้ที่รู้สึกถูกดึงดูดกับข้อความของเรา คุณคือผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นนักรบแห่งแสงสว่างในการต่อสู้ครั้งนี้ ความตระหนักรู้ ปัญญา และความรักของคุณจะเป็นทั้งโล่ห์และอาวุธให้คุณ

 

Huge News!!!
ข่าวใหญ่!!! นับถอยหลังไม่เกิน711วัน
กับการเชื่อมสัมพันธ์อย่างเปิดเผย
(กับครอบครัวชาวกาแลกติก)

Part 6

Stay vigilant about what you allow into your mind and body. There are toxins that poison the body and there are toxic ideas that poison the spirit. Part of your mission now is to educate yourself and others about healthier alternatives in all things. Encourage a return to natural ways of living and healing. Wisdom that your ancestors knew but modern society often overlooks.

จงระมัดระวังสิ่งที่คุณยินยอมให้เข้ามาในจิตใจและร่างกาย ให้ระวังทั้งสารที่เป็นพิษต่อร่างกาย และความคิดที่เป็นพิษต่อจิตใจ ภารกิจส่วนหนึ่งของคุณในขณะนี้คือการให้ความรู้แก่ตนเองและผู้อื่นเกี่ยวกับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพองค์รวม ส่งเสริมการกลับคืนสู่วิถีชีวิตและการเยียวยาตามธรรมชาติ ใช้องค์ความรู้ที่บรรพบุรุษของคุณเคยสอนแต่ปัจจุบันถูกมองข้ามไป

Stand firm but in love against tyranny and any mandates that harm people or the planet. If you are pressured to accept something that feels wrong in your heart, pause and seek the truth. Trust your intuition to guide you toward what is genuine and life affirming. We share this not to cause fear, but to encourage clarity.

จงยืนหยัดมั่นคงแต่ด้วยความรักในการต่อต้านการปกครองแบบเผด็จการและคำสั่งใดๆ ที่เป็นอันตรายต่อผู้คนหรือโลก หากคุณถูกกดดันให้ยอมรับบางสิ่งที่รู้สึกผิดในใจ จงหยุดและแสวงหาความจริง เชื่อสัญชาตญาณของคุณเพื่อนำทางคุณ มุ่งสู่สิ่งที่เป็นจริงและเสริมสร้างชีวิต เราแบ่งปันสิ่งนี้ไม่ใช่เพื่อสร้างความกลัว แต่เพื่อส่งเสริมความชัดเจน

Deep down, you know when something is wrong. Do not ignore that knowing. If a situation feels off, investigate it and speak out gently about what you discover. If something feels uplifting and pure, embrace it.

ลึกๆ แล้ว คุณรู้เมื่อมีบางสิ่งผิดปกติ อย่าเพิกเฉยต่อความรู้นั้น หากรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ปกติ ให้สำรวจและพูดอย่างอ่อนโยนเกี่ยวกับสิ่งที่คุณค้นพบ หากรู้สึกว่ามันช่วยยกระดับจิตใจและช่วยชำระบ้างจิตใจ จงเปิดรับสิ่งนั้น

Prepare for the coming changes by simplifying and purifying your life wherever you can, physically, emotionally, and spiritually. Know that your efforts in this moment, raising your consciousness and helping others awaken, are paving the way for that reunion and time with us directly.

เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึงด้วยการทำให้ชีวิตของคุณเรียบง่ายและบริสุทธิ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งทางร่างกาย อารมณ์ และจิตวิญญาณ จงตระหนักว่าความพยายามของคุณในขณะนี้ กำลังช่วยยกระดับจิตสำนึกของคุณและผู้อื่น และเป็นหรทางที่แท้จริงที่ช่วยปูทางให้เรากลับมาพบและอยู่ด้วยกันอีกครั้ง

In the meantime, here are some mission, objectives for you in this spiritual uprising to facilitate this open meeting. Embrace the incoming light. Welcome the waves of higher energy through meditation, rest, and an open heart. Awaken others with love. Lead by compassionate example and share your knowledge gently.

ในระหว่างนี้ ภาระกิจทางจิตวิญญานของคุณในตอนนี้ก็คือ การช่วยเอื้ออำนวยให้เกิดการเขื่อมสัมพัน์อย่างเปิดเผย จงโอบรับแสงสว่างที่ส่องเข้ามา ต้อนรับคลื่นพลังงานที่สูงขึ้นผ่านการทำสมาธิ การพักผ่อน และหัวใจที่เปิดกว้าง ปลุกผู้อื่นด้วยความรัก ใช้ชีวิตให้เป็นแบบอย่างที่เปี่ยมด้วยความเมตตาและแบ่งปันความรู้ของคุณอย่างอ่อนโยน

Reduce harmful influences. Detoxify your life of physical toxins and negative thought patterns alike. Stand in your sovereignty. Hold on to your freedom of thought and spirit. Choose love and truth even when it's challenging.

หลีกเลี่ยงเหตุปัจจัยที่เป็นอันตราย ขจัดสารพิษในร่างกายและรูปแบบความคิดเชิงลบออกจากชีวิตของคุณ ยืนหยัดในอำนาจอธิปไตยของคุณ ยึดมั่นในอิสรภาพทางความคิดและจิตวิญญาณของคุณ จงเลือกความรักและความจริงแม้ในยามที่ท้าทาย

We in the Galactic Federation are committed to preserving the balance of light in the universe. We guide and assist evolving worlds like yours. The intense energies and rapid changes you are experiencing now are part of a divine plan. Do not be alarmed as old harmful systems crumble and new enlightened possibilities emerge. This is the path toward the bright future that has been destined for Earth.

พวกเราในสหพันธ์กาแลกติกมุ่งมั่นที่จะรักษาสมดุลแห่งแสงสว่างในจักรวาล เรานำทางและช่วยเหลือโลกที่กำลังพัฒนาเช่นเดียวกับโลกของคุณ พลังงานอันเข้มข้นและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่คุณกำลังประสบอยู่ในขณะนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการอันศักดิ์สิทธิ์ อย่าตื่นตระหนกเมื่อระบบเก่าที่เป็นอันตรายพังทลายลง และความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่สว่างไสวปรากฏขึ้น นี่คือเส้นทางสู่อนาคตอันสดใสที่ถูกกำหนดไว้สำหรับโลก

The countdown to full open contact is a living trajectory moving swiftly forward. You stand at the threshold of an extraordinary reunion with your cosmic family. Each of you came to Earth with a purpose. Hold this truth in your heart. You carry the light of the infinite within you.

การนับถอยหลังสู่การเชื่อมสัมพันธ์อย่างเปิดเผยและเต็มรูปแบบ คือเส้นทางชีวิตที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว คุณยืนอยู่ ณ ธรณีประตูแห่งการกลับมาพบกันอีกครั้งอันแสนพิเศษกับครอบครัวจักรวาลของคุณ พวกคุณแต่ละคนมายังโลกอย่างมีจุดมุ่งหมาย จงจำใส่ใจถึงความจริงข้อนี้ คุณพกพาแสงสว่างอันไร้ขอบเขตอยู่ภายในตัวคุณ

You are a representative of Earth and also a child of the stars. You bridge two worlds, the human and the galactic, just by being yourself. As you continue on, walk your path with courage, compassion, and curiosity. Release any remaining fear of the unknown. For what comes is the fulfillment of a promise long cherished by both humanity and countless beings across the stars.

คุณเป็นตัวแทนของโลกและยังเป็นบุตรแห่งดวงดาว คุณเชื่อมโยงสองโลกไว้ด้วยกัน ทั้งมนุษย์และกาแล็กซี เพียงแค่เป็นตัวของตัวเอง ในขณะที่คุณก้าวต่อไป จงเดินตามเส้นทางของคุณด้วยความกล้าหาญ ความเห็นอกเห็นใจ และความอยากรู้อยากเห็น ปลดปล่อยความกลัวต่อสิ่งที่ไม่รู้ที่เหลืออยู่ เพื่อสิ่งที่จะตามมา อันคือความสำเร็จแห่งคำสัญญาที่ทั้งมวลมนุษยชาติและสรรพชีวิตนับไม่ถ้วนทั่วดวงดาวต่างทะนุถนอมมานาน

Remember, you are never truly alone. Your galactic family watches over you and walks beside you. Every challenge you overcome with love. Every time you choose hope over fear helps accelerate the collective journey toward the light. Stay focused on love and truth. For the dawn of cosmic unity is nearly at hand.

จงจำไว้ว่า คุณไม่มีวันโดดเดี่ยวอย่างแท้จริง ครอบครัวกาแล็กซีของคุณคอยดูแลและเดินเคียงข้างคุณ ทุกความท้าทายที่คุณเอาชนะด้วยความรัก ทุกครั้งที่คุณเลือกความหวังเหนือความกลัว จะช่วยเร่งการเดินทางร่วมกันสู่แสงสว่าง จงมุ่งมั่นในความรักและความจริง เพราะรุ่งอรุณแห่งเอกภาพแห่งจักรวาลใกล้เข้ามาแล้ว

We, your Galactic Federation allies, are with you every step of the way. We already celebrate the day we will meet openly and embrace you as family reunited. Until that day arrives, move forward confidently and with an open heart. The entire universe supports you and loving beings everywhere are cheering you on. We love you deeply and unconditionally. We will speak again soon.

พวกเรา พันธมิตรสหพันธ์กาแล็กติกของคุณ อยู่เคียงข้างคุณทุกย่างก้าว เราได้เฉลิมฉลองวันที่เราจะได้พบกันอย่างเปิดเผยและโอบกอดคุณในฐานะครอบครัวที่กลับมารวมกันอีกครั้ง จนกว่าจะถึงวันนั้น จงก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นใจและเปิดใจ ทั่วทั้งจักรวาลสนับสนุนคุณ และเหล่าสรรพสัตว์ทุกหนแห่งต่างส่งกำลังใจให้คุณ เรารักคุณอย่างสุดซึ้งและไม่มีเงื่อนไข และเราจะได้คุยกันอีกครั้งในเร็วๆ นี้

 

สวัสดีค่ะ ดิฉันหายไปทำหน้าที่แห่งแสงสว่าง วันนี้มีเวลาจะมาอัพเดทเรื่องราวและขบวนการต่างๆที่กำลังดำเนินอยู่ และกำลังจะเกิดขึ้น โปรดจำใส่ใจให้ดีว่า ที่คุณถูกดึงดูดให้มารับรู้เรื่องราวเหล่านี้ ไม่ใช่เหตุบังเอิญ คุณคือส่วนหนึ่งของขบวนการและภารกิจนี้ โปรดตระหนักอยู่เสมอว่า ทุกความคิด การกระทำและการพัฒนาในจิตสำนึกของคุณ ล้วนส่งผลต่อสิ่งที่กำลังดำเนินอยู่และสิ่งที่กำลังจะเป็นไป คุณกำลังทำหน้าที่ของตนอยู่หรือไม่ ให้ถามตัวเองในทุกๆวันนะคะ

หน้าที่ของทุกคนคืออะไร... ดิฉันไม่ค่อยอยากจะใช้ศัพท์เทคนิค แต่มันอาจจะช่วยให้หลายท่านเข้าใจง่ายขึ้น ก็เลยจะขอใช้บ้าง แต่โปรดอย่าจำกัดว่าเป็นเรื่องของศาสนา เพราะจริงๆมันเป็นของสากล และทุกคนจะได้รับประโยชน์ทั้งหมด ถ้าปฏิบัติได้ถูกต้อง ....

หน้าที่หลักของทุกคนในตอนนี้ คือการพัฒนายกระดับจิตสำนึกของตน และการดำเนินชีวิตในทุกๆวันให้เหมาะสมตามครรลองคลองธรรม หรือ มรรค8 ... คุณไม่ต้องกังวลที่จะไปเตรียมหลุมหลบภัย หรือตุนเสบียงอะไร เพราะเมื่อถึงเวลา ทุกคนจะถูกจัดสรรให้อยู่ในที่ๆเหมาะสม คุณจะรับรู้ได้ด้วยจิตภายในว่าคุณควรจะต้องเตรียมอะไร ไม่มีอะไรรับรองว่าคุณจะต้องถูกจัดสรรให้อยู่ในที่ๆสงบ คุณอาจจะตกอยู่ท่ามกลางพื้นที่ๆโกลาหลก็ได้ แต่โปรดรู้ไว้ว่า นั่นไม่ใช่การลงโทษ แต่เพราะคุณมีหน้าที่ที่ตรงนั้น หมั่นฝึกสมาธิและฟังเสียงภายใน และที่นั่นจะมีคำตอบให้คุณ

การพัฒนาและยกระดับจิตสำนึกนี่คือส่วนสำคัญในตอนนี้ มันละเอียดอ่อนและลึกซึ้งมากๆ พูดง่ายๆคือทุกคนต้องพัฒนา ศีล สมาธิ ปัญญาของตน ชำระล้างความโลภ โกรธ หลง ความอยาก ความยึดติดของตน พิจารณาตนว่า ความขี้เกียจเราน้อยลงไหม ความมักง่าย ความเห็นแก่ตัวเราน้อยลงไหม ความรับผิดชอบต่อตัวเอง และผู้อื่น ทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นบ้างไหม เปิดใจ เข้าใจ และยอมรับสิ่งต่างๆ วางจิตในอุเบกขาได้หรือไม่ พื้นฐานของการวางจิตอุเบก คือความเข้าใจและยอมรับนะคะ มันไม่ใช่ความเย็นชาไม่รู้สึกรู้สาหรือการนั่งทับปัญหา ถ้าคุณทำได้ถูกคุณจะเข้าใจความหมายของบรรทัดนี้

เอาล่ะ....ขบวนการในตอนนี้คืออะไร... การยกระดับจิตของคุณมันต้องเต็มเปลี่ยมไปด้วยความรัก ความเมตตา การดำเนินชีวิตของคุณต้องเต็มเปลี่ยมไปด้วยความรับผิดชอบและพลังงานด้านบวก และที่สำคัญ คุณต้องเปิดใจยอมรับให้ได้กับเรื่องราวต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น เพราะม่านมายากำลังค่อยๆถูกทำลาย .... เราอยู่ในม่านมายามานานค่ะ เต็มไปด้วยสมมุติ เหมือนเรื่องเดอะเมทริกซ์ จนหลายคนหลงเชื่อว่ามันคือของจริง ... จากนี้ไป สถาบันหลายๆอย่างจะค่อยๆล่มสลาย เพราะมันไม่ใช่ของจริง มันตั้งอยู่บนความเชื่อเก่า นี่เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการยกระดับจิตสำนึกนะคะ .... อย่างเช่น สถาบันสงฆ์... พิจารณาให้ดี นี่ก็เป็นมายาและสมมุติ สิ่งที่บริสุทธิ์แท้จริงคือธรรมมะของพระพุทธเจ้า และธรรมมะเป็นของสากลนะคะ ไม่ควรถูกจำกัดอยู่ในคำว่าศาสนาพุทธเพียงเท่านั้น

ถ้าจิตคุณพัฒนาพอ คุณจะเริ่มแยกแยะความจริงและสมมุติออก คุณจะเห็นว่าธรรมมะของพระพุทธเจ้าในส่วนที่เป็นของจริงและบริสุทธิ์จริงๆนั้นมีขอบเขตแค่ไหน และส่วนไหนที่เป็นมายาที่ควรถูกปลดปล่อยออกไป มีความจริงอีกหลายอย่างที่จะจริงยิ่งกว่าจริง พระเยซูก็เป็นของจริง แต่ในไบเบิลก็เต็มไปด้วยมายา โปรดใช้วิจารณะญานในการอ่านข้อความต่อไปนี้ นี่อาจเป็นอีกเรื่องที่จะถูกเปิดเผย พระเยซูเป็นมนุษย์ต่างดาว ที่มาจากดาวเคราะห์ที่มีระดับจิตวิญญานสูง ท่านถูกส่งมาเพื่อช่วยยกระดับจิตวิญญานของชาวโลก และสอนให้ชาวโลกรู้จักความรัก เป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่นะคะ เพราะเพื่อที่จะสอนชาวโลก ท่านต้องยอมทิ้งกายเดิมและมามีกายแบบชาวโลก ความเจ็บปวดที่ท่านได้รับนั้นเป็นของจริง ในไม่ช้าเรื่องราวเหล่านี้จะได้รับการเปิดเผย

ขบวนการชำระล้างความเชื่อเก่าๆจะดำเนินไปจนกว่ามันจะสะอาดนะคะ และจะเป็นไปทั่วโลก ถ้าคุณไม่ฝึกจิต คุณจะมองเห็นมันเป็นความพินาศ เป็นความวิบัติ แต่แท้จริงนี่คือการทำความสะอาด เป็นความมืดมิดก่อนรุ่งอรุณ การวางจิตอุเบกขาและเมตตาคืออาวุธของคุณ ฝึกให้เจริญและเข้มแข็งไว้

จะเกิดการล่มสลายของระบบการเงินแบบเก่า ขบวนการนี้จะทำให้เกิดการชะงักงันและวุ่นวายสักพัก แล้วจะตามมาด้วยการรีเซ็ตทางการเงิน และจะถูกแทนที่ด้วยระบบการเงินควอนตัม(QFS) ขบวนการดังกล่าวมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ 2025 ไปจนถึงต้นปีหน้า 2026

ยังมีความจริงอีกมากมายที่จะเรียงหน้ากระดานมาเปิดเผย เพื่อให้ชาวโลกได้เห็นความจริง และเปิดใจ ดึงตัวเองให้ออกจากภาพมายาที่ยาวนาน เรื่องที่กำลังจะถูกเปิดเผยในอีกไม่ช้า คือฐานทัพและห้องทดลองที่แอนตาร์กติก้า... และจากเรื่องนี้จะนำไปสู่การเปิดเผยเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาว และเทคโนโลยีล้ำยุคจากต่างดาวที่ถูกปกปิดไว้ เช่น เทคโนโลยีพลังงานฟรี (Zero point energy) และเตียงรักษา(Med Bed)

เมื่อจิตสำนึกหลุดจากภาพมายา และยกระดับขึ้นมากพอ จะตามมาด้วย การติดต่อเชื่อมสัมพันธ์กับครอบครัวชาวต่างดาวอย่างเป็นทางการ(First and open contact) และเหตุการณ์แสงแฟรชสุริยะ(The Great Solar flash)

แต่ละขบวนการล้วนมีขั้นตอนและรายละเอียดมากและใช้เวลา จะมีความโกลาหลและใช้เวลาในการปรับตัว ดิฉันไม่แน่ใจว่า สิ่งไหนจะมาก่อน มาหลัง และจะเกิดตามลำดับหรือเกิดควบคู่กันไป คุณไม่จำเป็นต้องรู้รายละเอียดทั้งหมด แค่เตรียมตัว ร่างกายและเตรียมใจให้พร้อม ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างอยู่ในแผนแล้ว จงวางใจในแผน แล้วมันจะเป็นไปได้ด้วยดี

ตอนนี้ยานแม่จากสหพันธ์กาแลกติกมาเตรียมพร้อมแล้ว ทรีไอแอทลาส(3i Atlas) หลายคนอาจเห็นในข่าวแล้ว สิ่งนี้ไม่ใช่ดาวหาง แต่เป็นยานอวกาศจากสหพันธ์กาแลกติกมาประจำการ เพื่อเตรียมความพร้อมและคอยให้การช่วยเหลือในกรณีต่างๆ อย่าตื่นกับข่าวที่ถูกปลุกปั่นว่าเราจะโดนรุกรานโดยมนุษย์ต่างดาว ยานจะเคลื่อนที่ผ่านไปดาวอังคาร และดวงอาทิตย์เพื่อปรับสนามพลังงาน

มีรายละเอียดและคำอธิบายในแต่ละเรื่องราวอยู่มากมาย ซึ่งดิฉันก็แปลไม่ไหว แต่จะทิ้งลิงค์ไว้ให้ หากคุณต้องการทราบ ขอให้คุณขวนขวายอีกซักเล็กน้อย ลิงค์ที่ให้เป็นคลิปจากยูทูปนะคะ ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ หากคุณต้องการภาษาไทย ให้ไปดึงตัวหนังสือภาษาอังกฤษออกมาก่อน โดยไปกดรายละเอียดใต้คลิป ด้านล่างเกือบสุด จะมีปุ่ม “Show transcript” เมื่อกดแล้ว จะมีช่องตัวหนังสือขึ้นมาค่ะ ให้ไปไฮไลท์ และ Copy ออกมา วางใส่ Notepad แล้ว Save

เปิดBrowser Chrome ขึ้นมา แล้วลากไฟล์ ที่saveไว้ใส่หน้า Browser เลยนะคะ แล้วใช้เครื่องมือ translate ช่วยแปลเป็นภาษาไทยให้ บางประโยคอาจมีความเพี้ยนอยู่บ้าง แต่โดยรวมก็เข้าใจได้

รายละเอียดตามด้านล่างนะคะ ดิฉันจะกลับมาเมื่อมีข้อมูลสำคัญ

รายละเอียดเกี่ยวกับ สหพันธ์กาแลกติก
"DISCLOSURE & FIRST CONTACT - WILL IT EVEN HAPPEN?" - The Pleiadians | Caylin: 21 June 2025

ระบบการเงินควอนตัม(QFS)
IMMINENT Rollout Of the QFS..." | Ashtar Command : 2 Sep 2025

Prepare For The QFS..." | Ashtar Command : 18 Sep 2025

เรื่องราวของฐานทัพที่แอนตาร์กติก้า
***HUMANITY'S SHOCKING HIDDEN HISTORY?*** | The Pleiadians | VALIR : 26 July 2025

เทคโนโลยีพลังงานฟรี (Zero point energy)
***HUGE NEWS!*** | Arcturian Council Of 5 - T'EEAH : 7 June 2025

เทคโนโลยีเตียงรักษา (Med Bed)
"Authorization Has Been Granted..." ‼️ - The Pleiadians | Caylin : 16 Sep 2025
https://www.youtube.com/watch?v=w72RhEqK28M


ยานแม่ 3i Atlas ไม่ใช่ดาวหาง
"It Will Now Complete Its Mission | Orxa - The Vega Collective : September 17, 2025
https://www.youtube.com/watch?v=hDO-I2NdrRI&t=1240s

 

ตั้งแต่ สุริยุปราคาเมื่อ 21 ก.ย. และวสันตวิษุวัต ในวันที่ 23 ก.ย. (วันที่กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากัน) ที่ผ่านมา ประตูพลังงานได้เปิดออกอย่างมาก เพื่อเปิดรับพลังงานและคลื่นความถี่เข้าสู่โลกให้มากขึ้น สิ่งนี้จะมีผลต่อทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ และแม้แต่โลกเองด้วย และจะมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการมาถึงของแสงแฟลชสุริยะครั้งสุดท้าย เป็นการเร่งการยกระดับจิตสำนึกและเร่งขบวนการชำระล้าง

ใช่แล้ว... ถ้าคุณรับรู้ได้ถึงความวุ่นวายต่างๆทั่วโลกที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เตรียมใจของคุณไว้ เพราะจากนี้ไปมันจะเป็นขั้นกว่า ไปจนขั้นสุด ทั้งภัยธรรมชาติ ผู้คน การเมือง เศรษฐกิจ การเงิน และเรื่องราวดราม่าต่างๆ และอาจจะมีเหตุการณ์แปลกๆ ข่าวแปลกๆ อย่างที่ไม่เคยพบเห็นและน่าเหลือเชื่อ...จิตของคุณเท่านั้นที่สำคัญในเวลานี้... จงมองเข้าไปข้างใน คุณรับรู้ข่าวสารและเรื่องราวเหล่านั้นด้วยจิตแบบใด คุณวางอุเบกขาได้หรือไม่... จงทำหน้าที่ของคุณให้เต็มที่ ให้เต็มเปี่ยมไปด้วยความรับผิดชอบ ความเมตตา และอยู่ในอุเบกขา... นี่เป็นบททดสอบส่วนบุคคล และจงรู้ไว้ว่า ยิ่งคุณทำหน้าที่ส่วนบุคคลได้ดีเท่าไหร่ ก็จะส่งผลต่อส่วนรวมมากเท่านั้น

วันนี้ หัวข้อเร่งด่วนที่คิดว่าน่าจะต้องหยิบยกมา เพราะมันกำลังมาแล้ว คือเรื่องการรีเซ็ตระบบการเงิน และการแทนที่ด้วยระบบการเงินควอนตัม (Quantum Financial System : QFS)

ทำไมเรื่องนี้จึงสำคัญ เกี่ยวอะไรกับการยกระดับจิตสำนึกของผู้คนและพลังงานของโลก แล้วมนุษย์ต่างดาวมาสนใจเรื่องเงินๆทองๆของโลกทำไม.... มีคำถามมากมายที่ผุดขึ้นมา และแน่นอน คุณควรได้รับคำอธิบาย ไม่มีสิ่งใดที่เกิดขึ้นโดยไร้เหตุผล ทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกัน

ในโลกแห่งมายานี้... "ระบบเงิน" คือสิ่งที่หลอกลวงที่สุด มันทำให้มนุษย์ตกเป็นทาส มันทำให้มนุษย์ไร้ซึ่งอิสระภาพ และที่สำคัญที่สุด มันทำให้มนุษย์หลงลืมหน้าที่หลักของตน หน้าที่ในการพัฒนาจิตวิญญาน

นานมากแล้วที่ฝ่ายมืดได้สร้างระบบนี้ขึ้นมา และใช้มันเป็นเครื่องมือในการควบคุมผู้คน ลองนึกให้ดี ทุกความชั่วร้ายมีเงินเข้าไปเกี่ยวข้องใช่หรือไม่ ทุกความทุกข์ทนมีเงินเข้าไปเกี่ยวข้องใช่หรือไม่ แท้จริงแล้ว “เงิน” มันคืออะไรกัน มันเป็นแค่ตัวกลางเท่านั้น มันไม่ควรจะเป็นปัจจัยหลักที่เราจะต้องทุ่มเทพลังงานและชีวิตเพื่อมัน

ลองจินตนาการดูว่า ถ้าการหาเงินไม่ใช่ปัจจัยหลักในชีวิตอีกต่อไป คุณไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกต่อไป ชีวิตเต็มไปด้วยความเหลือเฟือ ไม่ขาดแคลน แล้วคุณจะทำอะไร คุณอยากจะทำอะไรต่อไป ที่มันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาจิตของตัวเองและผู้อื่น... อาจเป็นอะไรที่จินตนาการได้ยากในตอนนี้ แต่คุณควรเริ่มคิดได้แล้ว เพราะมันจะเป็นจริงในอีกไม่นาน...

และเมื่อฝ่ายมืดไม่สามารถควบคุมชาวโลกด้วยเงินได้อีกต่อไป ฝ่ายมืดจะสูญเสียอำนาจในโลกนี้ และหลังจากนั้นก็จะเป็นขบวนการเปิดเผยครั้งยิ่งใหญ่ ความจริงที่ช็อคโลกอีกมากมายจะเดินหน้าออกมาสู่ความสว่าง... เตรียมใจของคุณไว้ ความสงบสุขุมท่ามกลางพายุของคุณ จะเป็นประภาคารให้ใครๆอีกหลายคน

แต่...ก่อนการก่อเกิดของสิ่งใหม่ๆ เราก็ต้องฝ่าฟันกับพายุแห่งการล่มสลายของสิ่งเก่าเสียก่อน... ทุกคนจะได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ไม่มีใครได้รับสิทธิพิเศษ จิตของเราเท่านั้นที่จะเป็นเสาหลักในช่วงเวลานี้ มองให้เห็นถึงสมมุติมายาของสิ่งต่างๆ และจงเข้าใจว่านี่เป็นเพียงการเปลี่ยนผ่าน แล้วมันก็จะผ่านพ้นไป จงเชื่อว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย แล้วมันจะดีขึ้น

อีกไม่ช้าจะเกิดการรีเซ็ตทางการเงิน.. สัญญานจะเริ่มมาตั้งแต่ ต.ค. ยาวไปจน ต้นปีหน้า จะมีการชะงักงันและความโกลาหล ทั้งทางการเงิน การธนาคาร อัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน และตลาดหุ้น จนอาจนำไปสู่การแช่แข็งทางธุรกรรมต่างๆราวๆ 10 วัน... เพื่อติดตั้งระบบใหม่QFS ต้องบอกว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดแบบปุบปับ ด้านหลังเวทีนั้นมีการเตรียมการเรื่องระบบการเงินใหม่มาสักพักแล้ว

ไม่ต้องตระหนก ระหว่างนี้เราควรเพิ่มเติมความรู้ ศึกษาให้เข้าใจเกี่ยวกับระบบใหม่ที่กำลังจะมา มันจะเป็นสกุลเงินดิจิตอล ธุรกรรมจะทำการประมวลผลแบบควอนตัม ซึ่งจะรวดเร็ว ซับซ้อน และแฮ็กไม่ได้ ธุรกรรมต่างๆจะส่งถึงเจ้าของบัญชีโดยตรงผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน(BlockChain) เครือข่ายดาวเทียมของสตาร์ลิงค์ และการชี้เป้าด้วยจีโอโลเคชั่น โครงการและไอเดียที่ส่งเสริมการพัฒนาด้านต่างๆ จะได้รับการสนับสนุนและแปลงเป็นสินทรัพย์ได้ผ่านการทำโทเคนไนเซชั่น(Tokenization)

ดิฉันก็ยังไม่รู้จักมันดีเช่นกันและจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม ลองไปฟังเรื่อง ระบบการเงินควอนตัม(QFS) ที่ลงลิงค์ไว้ให้ในกระทู้ก่อนนะคะ อาจจะพอเห็นภาพคร่าวๆ มันอาจจะฟังดูเกินจริง และเกิดคำถามว่ามันจะเป็นไปได้จริงๆหรือ ... จงเป็นผู้เฝ้าดู และพิสูจน์มันไปพร้อมๆกัน


------------------------------------


นอกจากนี้ ก็ยังมีข้อความล่าสุดที่ส่งมาจากกลุ่มดาวเพลียเดียน(กลุ่มดาวลูกไก่)
ดิฉันลงคำแปลไว้ให้ด้านล่าง ซึ่งใช้กูเกิลแปล ...

หากใครได้ไปติดตามข้อความในช่องยูทูป GFL station ตอนนี้เค้าเพิ่มลิงค์เพื่อที่จะสามารถไปอ่านข้อความตัวหนังสือได้นะคะ ที่ข้อมูลใต้คลิปจะมีลิงค์ Transcript กดเปิดใน Chrome แล้วใช้เครื่องมือ Translate ได้เลย เหมือนเค้าจะรู้ว่ามีคนต้องการ...

 

“เตรียมพร้อมสำหรับเดือนตุลาคม: การล่มสลาย ความโกลาหล และรหัสคริสตัลไลน์…”
เคย์ลิน กลุ่มดาวเพลียเดียน(ดาวลูกไก่) : 28 กันยายน 2568

Part1
สวัสดี ที่รักทั้งหลาย เราขอส่งความรักและการยอมรับอย่างลึกซึ้งถึงการเดินทางของพวกคุณในช่วงเวลาสำคัญนี้ ข้าพเจ้า เคย์ลิน จากกลุ่มดาวเพลียเดียน ขอกล่าวในฐานะตัวแทนของครอบครัวดวงดาวของคุณ ญาติมิตรแห่งจักรวาลที่นำพามนุษยชาติผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งการเติบโตและความท้าทายมายาวนาน พวกคุณผู้ซึ่งถูกดึงดูดด้วยถ้อยคำเหล่านี้คือเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวและผู้ทำงานแห่งแสงสว่าง สมาชิกของตระกูลแห่งแสงสว่าง พวกคุณคือจิตวิญญาณผู้กล้าหาญที่อาสายกระดับแรงสั่นสะเทือนของโลกในช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ เรารู้ว่าเส้นทางนี้ไม่ง่ายเลย เราเข้าใจความเหนื่อยล้าที่บางครั้งคุณอาจรู้สึก ชัยชนะและอุปสรรคที่คุณเคยเผชิญ แต่เราก็เห็นแสงสว่างของคุณส่องสว่างยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เราปรารถนาที่จะแบ่งปันกำลังใจและความเข้าใจเกี่ยวกับพลังงานที่กำลังแผ่ขยายออกไปในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้และในอนาคตสำหรับพวกคุณทุกคน พลังงานแห่งจักรวาลรอบโลกกำลังทวีความรุนแรงขึ้น ขณะที่พวกคุณก้าวเข้าสู่ขั้นต่อไปของการตื่นรู้ของดาวเคราะห์

หลายคนรู้สึกถึงความเร่งรีบ ความรู้สึกว่าเวลาหมุนเร็วขึ้น และบางสิ่งที่ลึกซึ้งกำลังรออยู่เบื้องหน้า เดือนตุลาคมถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในกระบวนการตื่นรู้อันยิ่งใหญ่นี้ เราปรารถนาที่จะกล่าวถึงการยกระดับ DNA อันน่าทึ่งที่เกิดขึ้นภายในตัวคุณ ความสำคัญของครีษมายันอันทรงพลังที่กำลังจะมาถึง และเหตุการณ์ล่าสุดในโลกของคุณกำลังทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการแยกความเป็นจริงเก่าและใหม่ออกจากกัน เราจะชี้แนะคุณให้ดำเนินชีวิตไปกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อย่างไม่หยุดยั้ง ในการรักษาระดับการสั่นสะเทือนสูงสุดของคุณให้มั่นคงท่ามกลางความปั่นป่วนใดๆ และเสนอวิธีปฏิบัติง่ายๆ เพื่อเชื่อมต่อกับพระผู้สร้างและคงไว้ซึ่งศูนย์กลางแห่งพลังศักดิ์สิทธิ์ของคุณ นอกจากนี้ เราจะพูดถึงการเปิดเผยที่กำลังดำเนินอยู่ (“การเปิดเผย”) ที่ปรากฏขึ้นในสังคมของคุณ ความพยายามครั้งสุดท้ายอย่างสิ้นหวังของพลังควบคุมเก่า (กลุ่มผู้มีอำนาจ) และวิธีที่พลังแห่งแสงสว่างกำลังต่อต้าน และความสำคัญของจุดที่คุณมุ่งความสนใจและพลังงานของคุณในช่วงเวลาสำคัญนี้

หายใจเข้าลึก ๆ แล้วสัมผัสถึงการมีอยู่ของเรา เราอยู่ที่นี่เสมอมา ทำงานจากดินแดนที่มองไม่เห็นเพื่อสนับสนุนวิวัฒนาการของดาวเคราะห์ของคุณ แท้จริงแล้ว เราไม่ได้แยกจากคุณเลย เราคือคุณ จากสิ่งที่คุณอาจเรียกว่าอนาคต และจากอดีตกาลอันยาวนาน ล้วนดำรงอยู่ในปัจจุบันอันหลากหลาย เราชาวดาวเพลียเดียนได้เดินทางผ่านห้วงเวลา – เราคือบรรพบุรุษของคุณและตัวตนในอนาคตของคุณทั้งหมดในคราวเดียว ร้องเรียกข้ามภาพลวงตาแห่งกาลเวลาเพื่อช่วยให้คุณตื่นขึ้นภายในความฝันอันยิ่งใหญ่นี้ เราบอกคุณเพื่อให้คุณเข้าใจว่าการชี้นำของเราไม่ได้มาจากผู้มีอำนาจที่อยู่ห่างไกล แต่มาจากครอบครัวที่รักคุณอย่างสุดซึ้งและเข้าใจความท้าทายที่คุณเผชิญบนโลกอย่างแท้จริง เรารู้จักภูมิประเทศแห่งการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างดี เพราะพวกเราหลายคนเคยผ่านมันมาแล้วในโลกและยุคสมัยอื่น คุณไม่เคยโดดเดี่ยวในการเดินทางครั้งนี้ รู้สึกถึงการสนับสนุนรอบตัวคุณ ไม่เพียงแต่จากเราเท่านั้น แต่จากแสงสว่างมากมายนับไม่ถ้วน – ผู้นำทางของคุณ เทวดา และดวงวิญญาณของโลก (ไกอา) – ทั้งหมดร่วมมือกันอย่างมีเมตตาเพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ

ทีนี้ มาพูดถึงพลังงานแห่งช่วงเวลานี้กัน การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในตัวคุณนั้นลึกซึ้งยิ่งนัก ในระดับกายภาพ พวกคุณหลายคนกำลังเผชิญกับการยกระดับ DNA อย่างแท้จริง ใช่แล้ว แท้จริงแล้ว พิมพ์เขียวแห่งชีวิตภายในเซลล์ของคุณกำลังวิวัฒนาการ รหัสลับที่ซ่อนอยู่ในโครงสร้างทางพันธุกรรมของคุณ – รหัสทางจิตวิญญาณและกาแล็กซีที่เคยถูกปิดผนึกไว้นานแล้ว – กำลังถูกกระตุ้นขึ้น นี่คือหนึ่งในพัฒนาการที่น่าตื่นเต้นที่สุดในเรื่องราวของมนุษย์ และมันกำลังเกิดขึ้นอย่างเงียบๆ ภายในร่างกายของคุณ คุณอาจสงสัยว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้นการกระตุ้นนี้? ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแสงจักรวาลที่หลั่งไหลเข้ามาอาบโลกของคุณในขณะนี้ โลกได้เข้าสู่ห้วงอวกาศที่เต็มไปด้วยพลังงานโฟตอนิกความถี่สูง – คลื่นแสงจากกาแล็กซี – ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นทุกเดือน รังสีที่เข้ารหัสด้วยแสงเหล่านี้นำพาข้อมูลและความถี่ที่โต้ตอบกับเซลล์และ DNA ของคุณ ราวกับเป็นเสียงปลุกให้ตื่นขึ้นสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกายที่หลับใหล ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาไม่นานมานี้ คลื่นพลังงานจักรวาลนี้ได้หลั่งไหลมายังโลก พวกมันนำมาซึ่งการจัดระเบียบใหม่ภายในโครงสร้างพลังงานและพันธุกรรมของร่างกายมนุษย์ “ข้อมูลที่กระจัดกระจาย” ในดีเอ็นเอของคุณ ซึ่งเก็บประวัติจิตวิญญาณของคุณและพิมพ์เขียวของห้องสมุดแห่งชีวิตบนโลก กำลังถูกกระตุ้นและจัดระเบียบใหม่โดยรังสีที่เข้ามาเหล่านี้

บางทีคุณอาจเคยได้ยินว่ามนุษย์เคยถูกออกแบบให้มีสายดีเอ็นเอ 12 สาย ซึ่งสอดคล้องกับจักระ 12 จักระ และชั้นจิตสำนึก 12 ชั้น ในอดีตกาล เทพผู้สร้างและผู้มาเยือนจากจักรวาลบางองค์ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของโลก – บางองค์มีเมตตา บางองค์แสวงหาอำนาจ – และในช่วงเวลาอันมืดมนของประวัติศาสตร์โบราณนั้น สายดีเอ็นเอของมนุษย์ก็ถูกแทรกแซง สายดีเอ็นเอ 12 สายดั้งเดิมของมนุษยชาติถูกแยกออกจากกัน เหลือเพียงเกลียวคู่ (สองสายที่ทำงานอยู่) และกระจายสายดีเอ็นเออื่นๆ เข้าสู่ภาวะสงบนิ่ง สิ่งนี้ทำขึ้นเพื่อปิดกั้นศักยภาพที่แท้จริงของคุณและทำให้คุณควบคุมได้ง่ายขึ้น สายดีเอ็นเอบรรจุรหัสแห่งแสงสว่าง ซึ่งเป็นกุญแจสู่การรับรู้หลายมิติและอำนาจสูงสุด ผู้ที่พยายามควบคุมมนุษยชาติเข้าใจดีว่าการตัดรหัสเหล่านั้นจะปกปิดมนุษย์จากต้นกำเนิดและความสามารถที่แท้จริงของพวกเขา และนั่นคือที่มาของ “การลืมเลือน” อันยาวนานที่ตกทอดมาถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์

แต่นั่นไม่ใช่จุดจบของเรื่องราวนี้ ที่รักทั้งหลาย เพราะแผนการอันศักดิ์สิทธิ์ได้ทรงคาดการณ์ไว้เสมอว่าช่วงเวลาแห่งข้อจำกัดนี้จะเป็นเพียงชั่วคราว การตื่นขึ้นใหม่ถูกกำหนดให้เกิดขึ้น และพวกเราชาวดาวเพลียเดียน (พร้อมกับพลังแห่งแสงสว่างอื่นๆ อีกมากมาย) ได้เฝ้ารอคอยสิ่งนี้อย่างใจจดใจจ่อ และถึงกับย้อนเวลากลับไปเพื่อช่วยเหลือมัน บัดนี้ถึงเวลาแล้ว การฟื้นฟูครั้งใหญ่กำลังดำเนินอยู่ สิ่งที่เรียกว่า “ดีเอ็นเอขยะ” ในเซลล์ของคุณนั้นไม่ใช่ขยะเลย แต่มันคือขุมทรัพย์แห่งความทรงจำและความสามารถที่ถูกเข้ารหัสไว้ รอจังหวะความถี่ที่เหมาะสมเพื่อเปิดใช้งานมันอีกครั้ง พลังงานจักรวาลที่หลั่งไหลท่วมท้นโลกของคุณในขณะนี้กำลังทำเช่นนั้นอยู่ นั่นคือการพลิกสวิตช์เหล่านั้นและชักจูงเส้นใยแสงที่หลับใหลอยู่ภายในตัวคุณให้เชื่อมต่อกันอีกครั้ง เกลียวหรือสายดีเอ็นเอใหม่กำลังก่อตัวขึ้น ขณะที่เส้นใยที่เข้ารหัสแสงกำลังรวมตัวกันใหม่ ราวกับว่าเครื่องดนตรีในวงออร์เคสตราอันยิ่งใหญ่ของตัวคุณที่เงียบมานาน กำลังปรับเสียงและเข้าร่วมซิมโฟนีอีกครั้ง

ในเดือนตุลาคม การกระตุ้น DNA นี้จะยิ่งเร่งตัวขึ้นอีก นับเป็นเดือนแห่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสำหรับเหล่าสตาร์ซีดหลายคน คุณน่าจะรู้สึกถึงความเข้มข้นที่เพิ่มสูงขึ้น ทางกายภาพ คุณอาจประสบกับอาการของการเลื่อนระดับ หรือความรู้สึกแปลกๆ เช่น คลื่นความร้อนหรือพลังงานที่แผ่กระจายไปทั่วร่างกาย รู้สึกเสียวซ่านที่แขนขา ปวดศีรษะ (โดยเฉพาะรอบกระหม่อมหรือดวงตาที่สาม) หรือรู้สึกเหนื่อยล้าและกระสับกระส่ายสลับกันไปมา บางวันคุณอาจรู้สึกมีแรงบันดาลใจและมีชีวิตชีวา บางวันก็รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก ความผันผวนนี้เป็นเรื่องปกติเมื่อร่างกายของคุณผสานรวมพลังงานอันทรงพลัง ดูแลตัวเองด้วยการพักผ่อนเมื่อจำเป็น ดื่มน้ำให้มาก (น้ำบริสุทธิ์ช่วยนำคลื่นความถี่เหล่านี้) และใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติเพื่อรักษาสติและความสมดุล ในด้านอารมณ์ คุณอาจสังเกตเห็นความรู้สึกเก่าๆ ความกลัว หรือแม้แต่ความทรงจำที่ฝังลึกมานานผุดขึ้นมา ซึ่งอาจรวมถึงปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากช่วงต้นชาตินี้ หรือแม้แต่เสียงสะท้อนจากชาติอื่นๆ อย่าตื่นตระหนก พลังงานเก่าๆ ที่ปรากฏขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการชำระล้างตามธรรมชาติ ขณะที่พลังงานที่ซ่อนอยู่ของคุณเชื่อมต่อกันอีกครั้ง

พลังงานในอดีตเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อรับรู้และชำระล้าง จงรู้สึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ปล่อยให้น้ำตาหรือเสียงหัวเราะไหลรินตามต้องการ แล้วค่อยๆ ปลดปล่อยมันออกมา การชำระล้างแรงสั่นสะเทือนอันหนาแน่นเหล่านี้ออกจากระบบของคุณ จะสร้างพื้นที่ให้แสงแห่งจิตวิญญาณของคุณยึดเหนี่ยวกับร่างกายได้มากขึ้น เมื่อการเปลี่ยนแปลงของ DNA เร็วขึ้น คุณจะเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ (และไม่เล็กๆ น้อยๆ) ในการรับรู้และความสามารถของคุณ เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวจำนวนมากจะได้พบกับการขยายตัวของพรสวรรค์แห่งสัญชาตญาณ สัญชาตญาณของคุณอาจเฉียบคมขึ้น ความฝันของคุณอาจชัดเจนและทำนายได้แม่นยำขึ้น ความสามารถในการรับรู้พลังงานหรือแม้แต่การมองเห็นออร่าของคุณอาจเริ่มพัฒนาขึ้น พวกคุณบางคนจะค้นพบพลังจิตใหม่ๆ ที่กำลังตื่นขึ้น อย่าแปลกใจหากคุณรู้อะไรบางอย่างก่อนที่มันจะเกิดขึ้น หรือหากคุณรู้สึกถึงการเชื่อมต่อทางโทรจิตที่แข็งแกร่งกับคนที่คุณรัก (หรือแม้แต่กับครอบครัวดวงดาวของคุณ) ความสามารถเหล่านี้เป็นความสามารถตามธรรมชาติของมนุษย์ที่หลับใหลมานาน และกำลังกลับมาทำงานอีกครั้ง แม้แต่ประสาทสัมผัสทั้งห้าของคุณก็อาจดูดีขึ้น สีสันอาจดูสดใสขึ้น ธรรมชาติอาจดูสว่างไสวขึ้น และคุณอาจพบว่าคุณรับรู้อารมณ์หรือเจตนาของผู้อื่นได้ง่ายขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องตั้งมั่นในขณะที่การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้น ลองนึกภาพตัวเองเป็นต้นไม้ หยั่งรากลึกลงไปในดินแม้กิ่งก้านจะเอื้อมถึงท้องฟ้า ไกอา (โลก) คือพันธมิตรของคุณในกระบวนการนี้ เธอกำลังยกระดับพลังสั่นสะเทือนของเธอเช่นกัน และเธอกำลังสนับสนุนลูกๆ ของเธอ (ทุกชีวิตบนตัวเธอ) อย่างรักใคร่ให้เติบโตขึ้นไปพร้อมกับเธอ

เมื่อมองไปข้างหน้า พลังงานกำลังก่อตัวขึ้นเพื่อมุ่งสู่ประตูสำคัญในช่วงปลายปีนี้ นั่นคือครีษมายัน (Winter Solstice) ของคุณ (ในซีกโลกเหนือ) ครีษมายันเป็นจุดสำคัญในวัฏจักรประจำปีของโลกมาโดยตลอด นั่นคือคืนที่ยาวนานที่สุด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการกลับมาของแสงสว่าง ตลอดหลายยุคหลายสมัย หลายวัฒนธรรมถือว่าครีษมายันและวิษุวัตเป็นช่วงเวลาศักดิ์สิทธิ์ เป็นเวลาที่จะเชื่อมต่อกับจังหวะของจักรวาล ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขณะที่การตื่นรู้ได้เร่งขึ้น ครีษมายันแต่ละครั้งจึงให้ความรู้สึกเข้มข้นกว่าครั้งก่อนสำหรับหลายๆ คน ครีษมายันที่กำลังจะมาถึงจะเป็นช่วงเวลาที่ทรงพลังที่สุดในชีวิตนี้สำหรับเหล่าดวงดาว เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? มีหลายเหตุผล ประการแรก ลองพิจารณาโมเมนตัมของวัฏจักรจักรวาล นับตั้งแต่การเรียงตัวของกาแล็กซีครั้งสำคัญในปี 2012 (ซึ่งถือเป็นจุดสิ้นสุดของวัฏจักรใหญ่หนึ่งและเป็นจุดเริ่มต้นของวัฏจักรใหญ่อีกวัฏจักรหนึ่ง) ปริมาณแสงสว่างที่หลั่งไหลเข้ามาบนโลกก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ลองนึกภาพมันเหมือนเสียงดนตรีที่ค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ – จุดสูงสุดของพลังงานแต่ละจุดจะสูงขึ้นกว่าเดิม ครีษมายันและวิษุวัตทำหน้าที่เสมือนจุดสำคัญในจังหวะนี้ เป็นจุดเปลี่ยนที่ประตูมิติเปิดออกเพื่อหลั่งไหลความถี่และข้อมูลที่สูงขึ้น ครีษมายันในปีนี้ตรงกับจุดสูงสุดของกิจกรรมของดวงอาทิตย์และจักรวาล ดวงอาทิตย์ของคุณ – สิ่งมีชีวิตอันงดงามที่เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะของคุณ – กำลังเข้าใกล้จุดสูงสุดของดวงอาทิตย์ ซึ่งหมายความว่าเปลวสุริยะและการปลดปล่อยมวลโคโรนากำลังเพิ่มขึ้น ภายในเดือนธันวาคม ดวงอาทิตย์น่าจะเต็มไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ปล่อยอนุภาคมีประจุออกมาอย่างมหาศาล ในระดับพื้นผิว พายุสุริยะเหล่านี้อาจรบกวนเทคโนโลยี แต่ในระดับพลังงาน พวกมันมีรหัสวิวัฒนาการที่กระตุ้นและปลุกจิตสำนึกของมนุษย์ ดังนั้น ในช่วงครีษมายัน จงคาดหวังการขยายความถี่ใดๆ ก็ตามที่มีอยู่ ดวงอาทิตย์เองจะร่วมมือกับการจัดเรียงของจักรวาลเพื่อส่งพลังแห่งแสงอันทรงพลังที่จะเปลี่ยนแปลงโลก

ประการที่สอง จำนวนมนุษย์ที่ตื่นรู้ – คุณและเพื่อนนักปฏิบัติธรรมแห่งแสงสว่าง – เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อคุณเข้าร่วมอย่างมีสติในเหตุการณ์จักรวาลอย่างเช่นครีษมายัน คุณจะขยายผลของเหตุการณ์เหล่านั้นอย่างทวีคูณ ลองนึกภาพผู้คนหลายพันหรือหลายล้านคนที่จดจ่อและมีสมาธิจดจ่อ กำลังทำสมาธิหรือสวดมนต์ด้วยเจตนาที่เป็นหนึ่งเดียวกันในวันนั้น ทำให้พวกเขาสอดคล้องกับแสงที่ส่องเข้ามา สิ่งนี้จะสร้างสนามพลังงานขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงกัน ซึ่งสามารถรับและยึดเหนี่ยวพลังงานในรูปแบบที่ไม่เคยเป็นไปได้มาก่อน ราวกับว่าเสาอากาศของพลังงานครีษมายันได้ทวีคูณและแข็งแกร่งขึ้น พวกคุณแต่ละคนคือจุดยึดเหนี่ยว เมื่อถึงครีษมายัน การทำงานภายในและการตื่นรู้ทั้งหมดที่คุณได้ทำในปีนี้จะเตรียมคุณให้พร้อมรับและยึดเหนี่ยวคลื่นพลังงานที่ไม่เคยมีมาก่อน พูดง่ายๆ คือ พวกคุณจำนวนมากขึ้นพร้อมที่จะกักเก็บแสงไว้มากกว่าที่เคย ซึ่งทำให้ครีษมายันทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ

ประการที่สาม มีการจัดเรียงตัวของจักรวาลอันเป็นเอกลักษณ์ที่บรรจบกันในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นช่องทางสำหรับพลังงานความถี่สูง ดาวเคราะห์ของคุณไม่ได้โดดเดี่ยว แต่เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายดวงดาวและวัฏจักรอันกว้างใหญ่ วัฏจักรสำคัญบางวัฏจักรจะสิ้นสุดหรือถึงจุดเปลี่ยนในช่วงปลายปี โดยไม่ต้องลงรายละเอียดทางเทคนิคมากนัก เราจะกล่าวเพียงว่าดาวเคราะห์ชั้นนอกและจุดศูนย์กลางกาแล็กซีบางจุดก่อตัวเป็นโครงสร้างที่สนับสนุนรอบครีษมายัน ช่วยในการสลายโครงสร้างเก่าและกำเนิดวิสัยทัศน์ใหม่ นอกจากนี้ กระจุกดาวเพลียเดียน(ดาวลูกไก่ บ้านของเรา) จะเด่นชัดบนท้องฟ้ายามค่ำคืนของคุณในฤดูกาลนั้น และทิศทางของศูนย์กลางกาแล็กซีจะตรงกับดวงอาทิตย์ในครีษมายันเดือนธันวาคม มันคือการรวมตัวของจักรวาล – กระแสแสงและอิทธิพลมากมายหลั่งไหลเข้ามา พวกเราชาวดาวเพลียเดียน พร้อมกับชาติดวงดาวอื่นๆ และสิ่งมีชีวิตมิติสูงอื่นๆ จะมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในช่วงเวลานั้น เราจะถ่ายทอดความรักและภูมิปัญญาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ให้แก่มนุษยชาติในช่วงเวลานั้น (เราทำแบบนี้เสมอ แต่ที่ประตูสู่วันครีษมายัน “ช่องทาง” จะเปิดกว้างขึ้นเพื่อให้ข้อความของเราไปถึงผู้ที่พร้อม)

ลองนึกถึงเดือนตุลาคมในฐานะเดือนแห่งการเตรียมตัวและความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้นก่อนถึงจุดสูงสุดของครีษมายันในเดือนธันวาคม นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องรอจนถึงเดือนธันวาคมถึงจะรู้สึกถึงบางสิ่งที่ลึกซึ้ง – ไม่เลยสักนิด เดือนตุลาคมและพฤศจิกายนเปรียบเสมือนกระแสน้ำขึ้น ในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ แสงสว่างและความจริงจะหลั่งไหลเข้าสู่จิตสำนึกส่วนรวมมากขึ้น คุณอาจสังเกตเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ในโลกภายนอกที่เร่งตัวขึ้นเช่นกัน สะท้อนถึงพลังงานที่ทวีความรุนแรงขึ้นนี้ สิ่งนี้นำเราไปสู่หัวข้อสำคัญ นั่นคือ การแบ่งแยกโลก และเหตุการณ์ปัจจุบันส่งผลต่อพลวัตนั้นอย่างไร หลายคนคงเคยได้ยินแนวคิดของ “โลกใหม่” – โลกที่มีการสั่นสะเทือนสูงขึ้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานความสามัคคีและความรัก – และแนวคิดที่ว่าโลกนี้กำลังแยกออกจากโลกสามมิติแบบเดิมที่ดำเนินไปบนความกลัวและการควบคุม การแบ่งแยกความเป็นจริงนี้ไม่ใช่การแยกทางกายภาพตามตัวอักษร แต่เป็นการแยกการสั่นสะเทือน ผู้คนในความถี่ที่แตกต่างกันตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งประสบการณ์ที่แตกต่างกัน แม้จะอยู่บนดาวเคราะห์ดวงเดียวกันก็ตาม

ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว แต่ปรากฏชัดเจนขึ้นในช่วงที่เกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลกในปี 2020 วิกฤตการณ์ระดับโลกครั้งนี้แม้จะยากลำบากและเจ็บปวด แต่ก็เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำคัญ ชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างการใช้ชีวิตอย่างหวาดกลัวและการใช้ชีวิตอย่างมีความรัก จิตวิญญาณหลายดวงเริ่มตื่นขึ้นในช่วงเวลานั้น ตั้งคำถามกับเรื่องเล่าอย่างเป็นทางการ แสวงหาความจริงภายใน และค้นพบความเห็นอกเห็นใจและความเข้มแข็งภายในท่ามกลางความวุ่นวาย ในขณะเดียวกัน จิตวิญญาณอื่นๆ ก็จมอยู่กับความกลัว ความแตกแยก และการยึดติดกับความเชื่อเดิมๆ ผลที่ตามมาคือ ประสบการณ์การระบาดใหญ่บังคับให้เกิดจุดเลือกร่วมกัน นั่นคือ การเปิดตาสู่มุมมองที่สูงขึ้น หรือจะคงอยู่ในกรอบความคิดเดิมๆ ผลที่ตามมาคือ ความแตกต่างระหว่างเส้นทางเหล่านี้ยิ่งชัดเจนขึ้น คุณอาจสังเกตเห็นว่าตัวเองกำลังห่างเหินจากผู้คน นิสัย หรือระบบต่างๆ ที่ไม่สอดคล้องกับแรงสั่นสะเทือนของคุณอีกต่อไป ขณะเดียวกันก็โน้มเอียงไปสู่การเชื่อมโยงและวิถีชีวิตใหม่ๆ ที่ให้ความรู้สึกแท้จริงมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ นี่คือความถี่ของโลกใหม่ที่กำลังแยกตัวออกจากสิ่งเก่า

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีปัจจัยกระตุ้นสำคัญอีกอย่างหนึ่งเกิดขึ้นในความเป็นจริงโดยรวมของคุณ นั่นคือเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองอันน่าตกใจที่ดึงดูดความสนใจของทุกคน บุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งถูกโจมตีและเสียชีวิตอย่างกะทันหัน สร้างความสะเทือนขวัญไปทั่วจิตใจของประเทศชาติ (และแม้แต่ทั่วโลก) หากมองเผินๆ อาจดูเหมือนเป็นการกระทำรุนแรงทางการเมืองที่น่าเศร้า และน่าเศร้าที่เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้นในช่วงเวลาที่วุ่นวายเช่นนี้ แต่ในระดับที่สูงกว่า เหตุการณ์นี้กลับมีจุดประสงค์ที่ลึกซึ้งกว่านั้นในละครแห่งการตื่นรู้ที่กำลังคลี่คลาย ในแบบฉบับของมันเอง มันคือจุดวาบไฟที่คล้ายกับการระบาดใหญ่ในปี 2020 เมื่อเหตุการณ์ที่น่าตกใจเช่นนี้เกิดขึ้น มันบังคับให้ทุกคนต้องตีความมันผ่านมุมมองแห่งจิตสำนึกส่วนบุคคล

ผู้ที่ยังคงหยั่งรากลึกในกรอบความคิดเดิม ๆ ของความกลัวอาจแสดงปฏิกิริยาด้วยความโกรธ การกล่าวโทษ และการเรียกร้องให้เกิดการแบ่งแยกหรือการควบคุมมากขึ้น สื่อมักจะขยายปฏิกิริยาที่เกิดจากความกลัวเหล่านี้ ทำให้เกิดการเล่าเรื่องแบบ “พวกเราปะทะพวกเขา” ในทางกลับกัน ผู้ที่ตื่นรู้จะรับรู้เหตุการณ์นี้แตกต่างออกไปอย่างมาก หลายคนรู้สึกได้ทันทีว่าเรื่องราวนี้มีอะไรมากกว่านั้น – บางทีอาจถูกวางแผนหรือถูกบิดเบือนเพื่อปลุกปั่นความกลัว แทนที่จะแสดงปฏิกิริยาด้วยความเกลียดชัง คุณกลับรู้สึกเห็นอกเห็นใจทุกคนที่เกี่ยวข้องและสังคมโดยรวม คุณอาจพบว่าตัวเองตั้งคำถามกับรายงานอย่างเป็นทางการและสังเกตเห็นวาระเบื้องหลังการรายงานข่าว โดยพื้นฐานแล้ว เหตุการณ์นี้เผยให้เห็นความจริงสองอย่างที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงที่อยู่ร่วมกัน นั่นคือความจริงหนึ่งคือความกลัวและความจริงหนึ่งคือความชัดเจน เรื่องนี้เน้นย้ำถึงช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างคนที่เลือกความรักและความจริงกับคนที่ยังคงติดอยู่กับรูปแบบเดิม ๆ

ในความหมายที่สูงขึ้น แรงสั่นสะเทือนทางการเมืองครั้งนี้กำลังเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้ความแตกแยกระหว่างโลกทั้งสองปรากฏชัดยิ่งขึ้น มันกำลังขีดเส้นแบ่งในจิตสำนึก: คุณจะถูกดึงเข้าสู่ความสั่นสะเทือนที่ต่ำกว่าของความโกรธและความสิ้นหวัง หรือมันจะผลักดันคุณให้ก้าวไปสู่ความชัดเจน ความเห็นอกเห็นใจ และความมุ่งมั่นในการยึดมั่นในความรัก? ที่รัก ทุกความท้าทายสามารถแปรเปลี่ยนเป็นโอกาสได้ แม้แต่ความมืดมิดก็สามารถเป็นบันไดสู่แสงสว่างที่ยิ่งใหญ่กว่าได้ หากได้รับการตอบสนองด้วยสติปัญญา ความวุ่นวายในปี 2020 สอนให้หลายคนตั้งคำถามกับเรื่องเล่ากระแสหลักและค้นหาความจริงภายในตนเอง ในทำนองเดียวกัน เหตุการณ์เช่นนี้ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้สามารถสะกิดให้ผู้คนจำนวนมากหลุดพ้นจากความนิ่งเฉยได้

บางคนที่ไม่เคยตื่นรู้มาก่อนอาจเริ่มตั้งคำถามกับสิ่งต่างๆ เพราะเหตุการณ์สุดโต่งเหล่านั้นไม่สมเหตุสมผลอีกต่อไปเมื่อมองผ่านเลนส์เดิม ส่วนคนอื่นๆ ที่ “ยังลังเล” อาจเลือกข้างใดข้างหนึ่ง ตัดสินใจมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการสร้างความเป็นจริงที่ดีกว่า แทนที่จะนิ่งเฉย เราไม่ได้ตีตราเหตุการณ์ต่างๆ ว่า “ดี” หรือ “ไม่ดี” จากมุมมองของเรา แต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงโอกาสให้จิตสำนึกได้พัฒนาหรือถดถอยลง เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณเลือกเส้นทางแห่งวิวัฒนาการ ซึ่งหมายถึงการตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ อย่างมีสติ แทนที่จะตอบสนองด้วยความกลัวหรือความโกรธเกรี้ยวฉับพลัน เมื่อเกิดความวุ่นวายขึ้นในโลก ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้หรือเหตุการณ์ใดๆ ที่จะตามมา จงจำไว้ว่าคุณคือใคร คุณคือแสงแห่งแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิด บทบาทของคุณไม่ใช่การถูกฉุดลากลงไปในความโกลาหล แต่คือการส่องประกายฝ่าฟันมันไป

ก่อนหน้านี้เราแนะนำว่า: อย่าต่อสู้กับสิ่งใด จงไหลไปกับทุกสิ่ง และรักษาพลังสั่นสะเทือนของคุณไว้ ขอชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจน เพราะเรื่องนี้สำคัญมาก เราไม่ได้แนะนำให้คุณยอมรับการกระทำผิดหรืออยู่เฉยเมื่อเผชิญกับความอยุติธรรม เรากำลังพูดถึงสภาวะความเป็นตัวคุณ “การไม่ต่อสู้” หมายถึงการไม่เติมความโกรธและความกลัวให้กับสถานการณ์ต่างๆ เพราะนั่นจะเป็นการเติมเชื้อไฟให้ไฟลุกโชน “การล่องลอย” หมายถึงการคงความยืดหยุ่นและเชื่อมั่นในกระบวนการที่คลี่คลาย เปรียบเสมือนสายน้ำที่ไหลผ่านอุปสรรคแทนที่จะพุ่งชน เมื่อคุณล่องลอย คุณสามารถรับมือกับความท้าทายด้วยความชัดเจนและสร้างสรรค์ แทนที่จะต้านทานจนหมดแรง นี่ไม่ใช่การยอมแพ้แบบนิ่งเฉย แต่มันคือไอคิโดทางจิตวิญญาณอย่างหนึ่ง ในไอคิโด ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ เราจะเปลี่ยนทิศทางของพลังของคู่ต่อสู้ แทนที่จะใช้กำลังเข้าปะทะโดยตรง

ในทำนองเดียวกัน เมื่อความโกลาหลมาเยือน อย่าเพิ่มความก้าวร้าวให้กับตัวเองเข้าไป สังเกตมัน ยอมรับว่ามันกำลังเกิดขึ้น แล้วเปลี่ยนทิศทางพลังงานโดยยึดศูนย์กลางของคุณไว้ การควบคุมแรงสั่นสะเทือนของคุณจะทำให้คุณกลายเป็นดวงตาที่สงบนิ่งท่ามกลางพายุ – จุดแห่งความสงบที่ความโกลาหลไม่อาจทะลุผ่านได้ มันต้องอาศัยการฝึกฝน เพราะบุคลิกภาพของมนุษย์ถูกกำหนดให้ตอบสนอง แต่ในฐานะจิตวิญญาณที่ตื่นรู้ คุณก็สามารถฝึกฝนตัวเองให้ตอบสนองได้แตกต่างออกไป เมื่อใดก็ตามที่คุณพบว่าตัวเองถูกกระตุ้นจากเหตุการณ์ภายนอก – เช่น คุณอ่านพาดหัวข่าวแล้วรู้สึกวิตกกังวลหรือโกรธแค้นอย่างรุนแรง – ให้หยุดสักครู่ หายใจเข้าลึกๆ เตือนตัวเองว่า “ฉันคือผู้มีอำนาจสูงสุด ฉันจะไม่ยอมให้สิ่งนี้ดึงฉันออกจากความสงบสุข” ขณะที่คุณหายใจช้าๆ รู้สึกถึงอารมณ์ที่รุนแรงเริ่มผ่านตัวคุณราวกับคลื่น ปล่อยให้มันซัดสาดและพัดพาคุณไป แทนที่จะพัดพาคุณไป กลับสู่ศูนย์กลางของคุณ จากมุมมองที่สงบและสูงขึ้นนี้ คุณสามารถเลือกการตอบสนองที่ชาญฉลาด (หรืออาจจะไม่ตอบสนองเลยก็ได้) แทนที่จะตอบสนองในลักษณะที่หล่อเลี้ยงความโกลาหล ด้วยวิธีนี้ คุณจะยังคงเป็นเจ้านายของความถี่ของคุณ ไม่ใช่หุ่นเชิดของพลังภายนอก

 

“เตรียมพร้อมสำหรับเดือนตุลาคม: การล่มสลาย ความโกลาหล และรหัสคริสตัลไลน์…”
เคย์ลิน กลุ่มดาวเพลียเดียน(ดาวลูกไก่) : 28 กันยายน 2568

Part2
เราขอเสนอวิธีปฏิบัติง่ายๆ ในตอนนี้ เพื่อช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับพระผู้สร้างและรักษาพลังสั่นสะเทือนของคุณให้คงที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณรู้สึกสับสนกับเหตุการณ์ต่างๆ แม้ว่าคุณจะสามารถทำได้ทุกวันเพื่อป้องกันไว้ก่อนก็ตาม คุณสามารถปฏิบัติได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้าเพื่อกำหนดโทนเสียงของคุณในแต่ละวัน หรือเมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกว่าความสงบกำลังหายไป: หาพื้นที่เงียบสงบที่คุณจะไม่ถูกรบกวนสักสองสามนาที นั่งหรือยืนในท่าที่สบายโดยให้หลังตรง หลับตาและหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ สามครั้ง หายใจเข้าลึกๆ ทางจมูก และหายใจออกทางปาก ปลดปล่อยความตึงเครียดทุกครั้งที่หายใจออก หลับตาและนำสติสัมปชัญญะของคุณไปที่ศูนย์กลางหัวใจ (กลางอก) หากช่วยได้ ให้วางมือไว้ตรงนั้น จินตนาการถึงประกายแสงสีทองเล็กๆ ในหัวใจของคุณ นี่คือประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ของคุณ ส่วนหนึ่งของแสงจากพระผู้สร้างที่สถิตอยู่ภายในตัวคุณ

ทุกครั้งที่สูดลมหายใจแผ่วเบา จงมองประกายไฟนั้นลุกโชนเป็นเปลวเพลิงอันอบอุ่น เติมเต็มหัวใจของคุณด้วยความอบอุ่นที่ปลอบประโลม สัมผัสถึงแสงแห่งความรักที่ส่องประกายในอก นี่คือแสงแห่งจิตวิญญาณ แก่นแท้ที่แท้จริงของคุณ บัดนี้ จงสัมผัสลำแสงที่แผ่ขยายจากยอดศีรษะขึ้นสู่สรวงสวรรค์ แผ่ขยายไปถึงมหาสมุทรแห่งแสงอันไร้ขอบเขตของพระผู้สร้าง เชื่อมโยงคุณกับแหล่งกำเนิด สัมผัสถึงสายฝนแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลลงผ่านลำแสงนี้สู่ยอดศีรษะ เติมเต็มร่างกายของคุณด้วยความสงบสุขและความสว่างไสว ในขณะเดียวกัน จงจินตนาการถึงลำแสงอีกลำที่แผ่ขยายจากโคนกระดูกสันหลัง (หรือจากเท้า) ลงสู่พื้นโลก ทอดลึกลงสู่ใจกลางไกอา สัมผัสถึงความรักอันอบอุ่นของแม่ธรณีที่แผ่ขยายขึ้นผ่านลำแสงนี้ เข้าสู่ร่างกายของคุณ พลังงานสองประการนี้ คือแสงแห่งจักรวาลจากเบื้องบนและพลังงานแห่งโลกจากเบื้องล่าง บรรจบและหลอมรวมกันในหัวใจของคุณ หลอมรวมเปลวไฟแห่งจิตวิญญาณของคุณ บัดนี้ คุณคือสะพานเชื่อมระหว่างสวรรค์และโลก เชื่อมต่อและรองรับจากเบื้องบนและเบื้องล่าง

ลองมองดูแสงสว่างที่ผสานกันในหัวใจของคุณที่กำลังแผ่ขยายออกไป ทุกครั้งที่หายใจ มันจะเติบโตดุจดังแสงอาทิตย์ที่ส่องสว่างและกว้างขึ้น มันแผ่ขยายไปทั่วหน้าอกของคุณ และทั่วร่างกาย ทุกเซลล์จะสว่างไสวขึ้น สายดีเอ็นเอทุกเส้นเต้นรำไปกับแสงนี้ คุณกำลังเปล่งประกายจากภายใน ความเครียด ความมืด หรือแรงสั่นสะเทือนที่ต่ำกว่าจะถูกละลายหายไปในแสงนี้ และเปลี่ยนกลับเป็นแสงสว่างอีกครั้ง ในขณะนี้ คุณกลายเป็นสิ่งมีชีวิตแห่งแสงสว่าง แผ่รังสีความถี่สูง จงอยู่กับความรู้สึกนั้นชั่วขณะ จงรู้ว่าในสภาวะนี้ คุณสอดคล้องกับความรักและพระประสงค์ของพระผู้สร้าง คุณคือผู้ไม่หวั่นไหว สุดท้ายนี้ ลองจินตนาการถึงแสงนี้ที่ก่อตัวเป็นทรงกลมปกป้องรอบตัวคุณ เปรียบเสมือนรัศมีแห่งพลังงานศักดิ์สิทธิ์ จงตั้งเจตนาที่แน่วแน่ว่าคุณจะพกพาแรงสั่นสะเทือนอันสูงส่งนี้ติดตัวไปด้วย

คุณอาจกล่าวยืนยันในใจว่า “ฉันอยู่ตรงกลางแสงสว่างของพระผู้สร้าง ไม่มีอะไรจะน้อยไปกว่าความรักที่จะเข้ามาในสนามของฉันได้ ฉันรักษาคลื่นสั่นสะเทือนของฉันไว้ที่ความถี่แห่งความรัก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นรอบตัวฉัน” สัมผัสพลังแห่งเจตนานี้ เมื่อคุณพร้อม จงลืมตาขึ้น นำความสงบสุขและแสงสว่างนี้ติดตัวคุณไปตลอดวัน การปฏิบัติง่ายๆ นี้ (หรือรูปแบบใดๆ ที่สอดคล้องกับคุณ) จะช่วยให้คุณมั่นคง หากคุณทำเป็นประจำ แม้เพียงไม่กี่นาที คุณจะสังเกตเห็นความแตกต่าง มันฝึกจิตสำนึกของคุณให้ค้นหาศูนย์กลางนั้นได้เร็วขึ้น แม้ในยามที่ชีวิตวุ่นวาย เมื่อเวลาผ่านไป การคงคลื่นสั่นสะเทือนของคุณไว้จะกลายเป็นธรรมชาติที่สอง คุณจะก้าวผ่านพายุแห่งชีวิตด้วยรอยยิ้มจากภายใน โดยไม่หวั่นไหวต่อสายลม

ที่รักทั้งหลาย บัดนี้ เรามาหันความสนใจของเราไปยังสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งซึ่งกำลังเกิดขึ้นควบคู่กันไป นั่นคือการคลี่คลายความลับที่ซ่อนเร้นมานาน และการปรากฏของความจริงในเวทีส่วนรวมของคุณ บางคนเรียกขั้นตอนนี้ว่า "การเปิดเผย" กระบวนการเปิดเผยกำลังเร่งตัวขึ้นในหลายด้าน และกำลังบรรลุความก้าวหน้าใหม่ๆ การเปิดเผยที่เราหมายถึงคือการเปิดเผยทุกสิ่งที่ถูกปกปิดไว้ ทั้งทางจิตวิญญาณ นอกโลก การเมือง ประวัติศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ราวกับว่าไฟในห้องมืดๆ หลายห้องของบ้านหลังใหญ่ถูกเปิดขึ้น เมื่อไฟแต่ละดวงสว่างขึ้น เงาก็หายไป และในที่สุดคุณก็ได้เห็นสิ่งที่อยู่ตรงนั้นมาตลอด ยกตัวอย่างเช่น หัวข้อเรื่องสิ่งมีชีวิตนอกโลกและยูเอฟโอ (ปัจจุบันมักเรียกว่า ยูเอพี) วัฒนธรรมกระแสหลักของคุณส่วนใหญ่เพิกเฉยหรือเยาะเย้ยใครก็ตามที่อ้างว่ายานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวมีจริง หรือรัฐบาลกำลังปกปิดความรู้เกี่ยวกับยานอวกาศเหล่านั้น

หัวข้อเหล่านี้ถูกจำกัดให้เป็นเพียงนิยายวิทยาศาสตร์หรือทฤษฎีสมคบคิด แต่ลองดูสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้สิ เจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งทหารและหน่วยข่าวกรอง แม้แต่ผู้แจ้งเบาะแสที่มีผลงานโดดเด่น ก็ได้ออกมาเปิดเผยตัวต่อสาธารณชนในการพิจารณาคดีของรัฐบาลและสื่อต่างๆ พวกเขาได้แถลงต่อสาธารณะภายใต้คำสาบานว่า ยานและเทคโนโลยีที่ไม่ใช่มนุษย์ได้ถูกค้นพบและศึกษาในโครงการลับมาหลายปีแล้ว นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในเรื่องเล่าอย่างเป็นทางการ บทสนทนาได้เปลี่ยนจากการปฏิเสธเป็นการยอมรับอย่างระมัดระวังว่า "มีบางสิ่งที่แท้จริงอยู่ที่นี่" ทำไมต้องเป็นตอนนี้? เพราะความจริงไม่อาจปิดกั้นได้อีกต่อไป สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยพลังงานของโลกในขณะนี้ต้องการความโปร่งใส การเปิดเผยเรื่องยูเอฟโอ/มนุษย์ต่างดาวนี้กำลังจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า (รวมถึงเดือนตุลาคม) คาดการณ์ว่าจะมีการเปิดเผยเพิ่มเติมในเรื่องนี้ ซึ่งอาจมีการเปิดเผยหลักฐานเพิ่มเติม หรือมีคนวงในออกมาพูดมากขึ้น อย่าแปลกใจหากสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นเรื่องนอกกระแส จะกลายเป็นหัวข้อสนทนาที่ถกเถียงกันอย่างจริงจัง

แต่การเปิดเผยไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องนอกโลกเท่านั้น แต่มันเกิดขึ้นในทุกด้าน ในวงการการเมืองและการเงิน การคอร์รัปชันและวาระซ่อนเร้นกำลังถูกเปิดโปง เรื่องอื้อฉาวที่ครั้งหนึ่งเคยถูกฝังไว้อย่างเงียบๆ กำลังกลายเป็นที่รับรู้ของสาธารณชน ในวงการวิทยาศาสตร์และการแพทย์ แนวคิดทางเลือกและความรู้ที่ถูกปิดบัง (เกี่ยวกับการเยียวยา พลังงาน และประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของโลก) ก็กำลังปรากฏขึ้นเช่นกัน หัวข้อที่เคยถูกมองข้ามหรือถูกเยาะเย้ยเมื่อไม่กี่ปีก่อน กำลังถูกนำมาพิจารณาอย่างจริงจัง ทำไมน่ะหรือ? เพราะจิตสำนึกส่วนรวมกำลังเพิ่มขึ้น และตามมาด้วยความต้องการความจริงและความโปร่งใส ผู้คนกำลังตั้งคำถามกับทุกสิ่ง และความลับที่ซ่อนเร้นมานานกำลังสูญเสียพลัง แม้แต่วงการบันเทิงและสื่อก็กำลังสะท้อนถึงการตื่นรู้นี้

แก่นเรื่องชีวิตนอกโลก เทคโนโลยีขั้นสูง และการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณกำลังปรากฏให้เห็นอยู่ทุกหนทุกแห่งในภาพยนตร์ โทรทัศน์ และหนังสือ ซึ่งทำให้จิตใจส่วนรวมคุ้นเคยกับสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ อำนาจในอดีตที่เคยปกปิดความจริงเหล่านี้ไว้มานาน กำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักในขณะนี้ บางส่วนกำลังพยายามจัดการหรือบิดเบือนการเปิดเผยให้เป็นประโยชน์แก่ตนเอง เช่น การยอมรับบางสิ่งแต่กลับสร้างภาพว่ามีเหตุผลที่ดี หรือควบคุมเรื่องราวบางอย่าง จงใช้วิจารณญาณในการพิจารณาสิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม ความจริงก็ปรากฏออกมาจากทุกด้าน และไม่อาจหยุดยั้งได้ เรามักพูดว่า ถึงเวลาแล้วที่ความลับใดๆ จะถูกปิดบังไว้ ไพ่ทุกใบจะถูกเปิดออกเพื่อให้มนุษยชาติได้ตัดสินใจอย่างรอบรู้ การเปิดเผยความรู้ที่ซ่อนเร้นนี้เป็นส่วนสำคัญของการตื่นรู้ร่วมกัน มนุษยชาติต้องรู้ประวัติศาสตร์ที่แท้จริงและบทบาทของตนในจักรวาลเมื่อก้าวเข้าสู่ยุคใหม่

แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะยินดีกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ มีคนบางกลุ่มที่เรามักเรียกว่า “กลุ่มลับ” หรือ “ทีมบริหารโลก” ซึ่งเป็นกลุ่มชนชั้นนำที่ได้รับประโยชน์จากความไม่รู้และความกลัวของมนุษยชาติมาอย่างยาวนาน พวกเขาได้ดึงเส้นสายเบื้องหลังอย่างเงียบๆ เป็นเวลานานมาก และพวกเขาไม่ต้องการเสียอำนาจ กลุ่มเหล่านี้เข้าใจถึงพลังของความถี่และจิตสำนึก พวกเขารู้ว่าหากพวกเขาสามารถควบคุมมวลชนให้อยู่ในภาวะสั่นสะเทือนต่ำของความกลัว ความโกรธ และความสิ้นหวัง พวกเขาก็จะสามารถควบคุมและแม้กระทั่งดึงพลังงานนั้นมาใช้ได้ ความจริงแล้ว มีสงครามความถี่ที่มองไม่เห็นเกิดขึ้นอยู่ – ผู้เล่นด้านมืดเหล่านี้ได้กระจายความกลัวและความวุ่นวายไปสู่ส่วนรวม และหลายคนขยายมันออกไปโดยไม่รู้ตัวโดยการตอบสนองด้วยความกลัวที่มากขึ้น วงจรป้อนกลับนี้ได้ค้ำจุนเมทริกซ์แห่งการควบคุมของพวกเขาไว้ แต่บัดนี้ เมื่อพวกคุณตื่นขึ้นและครอบครองความถี่แห่งความรักและความชัดเจนที่สูงขึ้น อิทธิพลของกลุ่มลับก็กำลังลดน้อยลง

เมื่อผู้คนเลิกเติมเชื้อไฟให้กับความกลัวและเลือกที่จะรวมพลังกัน กลไกการควบคุมแบบเดิมก็จะพังทลายลง นี่คือเหตุผลที่เราเน้นย้ำถึงความสำคัญของการไม่ปล่อยให้พลังงานของคุณไปกับเรื่องเล่าที่อิงกับความกลัว แรงสั่นสะเทือนที่สูงของคุณกำลังทำให้เมทริกซ์เก่าขาดเชื้อเพลิงอย่างแท้จริง ในขณะเดียวกัน จงรู้ไว้ว่ายังมีพลังแห่งแสงสว่างอันทรงพลังที่กำลังทำงานเพื่อช่วยเหลือการปลดปล่อยมนุษยชาติ หนึ่งในนั้นคือสิ่งที่พวกคุณบางคนเรียกว่า “พันธมิตรโลกหมวกขาว” – กลุ่มบุคคลผู้ตื่นรู้ที่แฝงตัวอยู่ในรัฐบาล กองทัพ และสถาบันต่างๆ ทั่วโลก (ได้รับความช่วยเหลือจากสิ่งมีชีวิตนอกโลกผู้ใจดี) ซึ่งกำลังต่อต้านกลุ่มลับอย่างเงียบๆ กลุ่มลับนี้ได้ขัดขวางแผนการอันชั่วร้ายมากมายที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะ และยังคงจับตาดูภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น คุณอาจไม่ได้ยินความสำเร็จของพวกเขาในข่าวกระแสหลัก แต่ความสำเร็จของพวกเขานั้นมีจริง พวกเขาพร้อมที่จะทำลายความพยายามครั้งสุดท้ายใดๆ ที่กลุ่มลับอาจพยายามสร้างความวุ่นวายหรือขัดขวางกระบวนการยกระดับ แม้ว่าการหยุดชะงักเล็กๆ น้อยๆ อาจยังคงเกิดขึ้นได้ (และบ่อยครั้งที่เหตุการณ์เหล่านั้นกลับทำให้ผู้คนตื่นขึ้น) แต่พันธมิตรก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะไม่ปล่อยให้เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ใดๆ มาขัดขวางการตื่นรู้ของมนุษยชาติ การมีอยู่ของพวกเขาเป็นเครื่องยืนยันว่าสถานการณ์กำลังเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

ดังนั้น หากความพยายามใดๆ จากด้านมืดเกิดขึ้นอีก จงมองมันอย่างที่มันเป็น: การโบยบินของสัตว์ร้ายในช่วงเวลาสุดท้ายของมัน ระบบเก่ากำลังจะตาย ความวุ่นวายของมันคือลมหายใจเฮือกสุดท้าย จงสงบสติอารมณ์และยึดมั่นในแสงสว่างของคุณ แล้วมันจะผ่านไป จำไว้ว่า สิ่งที่คุณจดจ่อคือสิ่งที่คุณส่งพลังงานของคุณไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนตุลาคมนี้ จงระมัดระวังอย่างยิ่งยวดต่อสิ่งที่คุณให้ความสนใจ เมทริกซ์เก่าต้องการอย่างยิ่งยวดให้ความกลัวและความโกรธแค้นของคุณเป็นเชื้อเพลิงเพื่อให้มันคงอยู่ต่อไปอีกสักหน่อย อย่าเติมเชื้อไฟให้กับมัน หากคุณเห็นข่าวที่เต็มไปด้วยความกลัวหรือเรื่องราวความขัดแย้งเกิดขึ้น จงถอยออกมาอย่างมีสติ คุณสามารถรับรู้ข้อมูลได้ แต่อย่าจมอยู่กับวงจรความตื่นตระหนกที่ดำเนินไปตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

ทุกวินาทีที่คุณเลือกที่จะไม่ยอมแพ้ต่อความกลัว และรักษาศูนย์กลางของตัวเองไว้ คุณกำลังทำลายกรอบความคิดเดิมๆ และเสริมพลังให้กับสิ่งใหม่ แทนที่จะเติมพลังให้กับสิ่งที่คุณไม่ต้องการ จงมุ่งเน้นไปที่การเติมพลังให้กับความจริงที่คุณต้องการ นั่นคือโลกใหม่ เติมพลังของคุณลงในวิสัยทัศน์ วิธีแก้ปัญหา และการกระทำเชิงบวก จินตนาการถึงโลกที่กลมกลืนที่คุณปรารถนาจะมีชีวิตอยู่ และสัมผัสมันราวกับว่ามันเป็นจริงในตอนนี้ จินตนาการและความตั้งใจนั้นคืองานสร้างสรรค์อันทรงพลัง เปรียบเสมือนการรดน้ำเมล็ดพันธุ์แห่งโลกใหม่ด้วยจิตสำนึกของคุณ และในความหมายที่แท้จริง จงร่วมแรงร่วมใจในการสร้างสิ่งใหม่ อาจผ่านโครงการชุมชน ความพยายามสร้างสรรค์ การกระทำอันเปี่ยมด้วยความเมตตา หรือเพียงแค่การใช้ชีวิตที่สอดคล้องกับค่านิยมของคุณ ทุกครั้งที่คุณเลือกที่จะทุ่มเทความสนใจและพลังงานให้กับสิ่งที่สร้างกำลังใจและสร้างสรรค์ คุณกำลังเสริมสร้างเส้นเวลาแห่งความรักและความสามัคคี คุณกำลังช่วยให้โลกใหม่หยั่งรากลึก

เหล่าสตาร์ซีดและนักทำงานแห่งแสงสว่างหลายคนบางครั้งก็รู้สึกใจร้อน – “เมื่อไหร่โลกใหม่นี้จะปรากฏอย่างสมบูรณ์? เมื่อไหร่ความเสื่อมทรามเก่าๆ จะหมดไป?” เราเข้าใจความปรารถนาที่จะเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม เราบอกคุณว่า: มันกำลังปรากฏออกมาทีละชิ้นผ่านตัวคุณ มันไม่ใช่สิ่งที่สืบทอดมาจากเบื้องบนในขณะที่คุณเฝ้าดู แต่มันเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นร่วมกันผ่านการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของคุณ ดังนั้นจงมีกำลังใจในทุกย่างก้าวเล็กๆ และทุกชัยชนะอันเงียบสงบ พวกมันสะสมกันมา วันหนึ่งคุณจะมองย้อนกลับไปและตระหนักว่าโลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างแท้จริง และคุณเป็นส่วนหนึ่งของมันในทุกย่างก้าว อันที่จริง วันนั้นไม่ได้ไกลอย่างที่คิด ก่อนที่เราจะสรุป เราอยากจะพูดถึงสิ่งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเดือนตุลาคมนี้อีกสองสามอย่าง เมื่อคุณก้าวเข้าสู่ช่วงปลายเดือน ประมาณช่วงปลายเดือนตุลาคม (ซัมเฮนหรือฮัลโลวีน) ม่านที่กั้นระหว่างโลกกายภาพและอาณาจักรวิญญาณจะบางลง

หลายวัฒนธรรมมองว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่การติดต่อกับบรรพบุรุษและผู้ชี้นำทำได้ง่ายขึ้น คุณอาจสังเกตเห็นประสบการณ์ทางสัญชาตญาณหรือสิ่งเหนือธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลานี้ เช่น ความฝันที่ชัดเจน การรับรู้ถึงการมีอยู่ของคนที่คุณรักในจิตวิญญาณ หรือการได้รับข้อความอันลึกซึ้งในการทำสมาธิ อย่าตื่นตระหนก จงเข้าหาด้วยความอยากรู้อยากเห็นและวิจารณญาณ หากคุณรู้สึกว่าถูกเรียก คุณสามารถใช้หน้าต่างนี้เพื่อเคารพบรรพบุรุษของคุณอย่างเงียบๆ หรือขอคำแนะนำจากทีมจิตวิญญาณและตัวตนที่สูงกว่าของคุณ เทียนไขที่จุดด้วยความตั้งใจที่ชัดเจนหรือการทำสมาธิเงียบๆ ในเย็นวันที่ 31 ตุลาคม อาจทรงพลังอย่างยิ่ง กุญแจสำคัญคือการเชื่อมต่อกับพลังงานแห่งความรักและแสงสว่างเท่านั้น (ความตั้งใจและแรงสั่นสะเทือนของคุณจะทำให้เป็นเช่นนั้น) คุณอาจได้รับความเข้าใจส่วนตัว การเยียวยา หรือความรู้สึกเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งในช่วงเวลานี้ จงใช้โอกาสนี้ในการกระชับความสัมพันธ์กับผู้ช่วยเหลือที่มองไม่เห็นซึ่งอยู่รอบตัวคุณให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ในฐานะเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว คุณอาจได้สัมผัสกับการเชื่อมต่อกับครอบครัววิญญาณของคุณอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกำลังเกิดขึ้นในอัตราที่เพิ่มมากขึ้น ผู้คนรู้สึกดึงดูดให้ย้ายถิ่นฐานไปยังสถานที่บางแห่ง “โดยบังเอิญ” ได้พบกับคนอื่นๆ ที่รู้สึกเหมือนเป็นญาติห่างๆ ที่หายสาบสูญไปนาน ก่อให้เกิดชุมชน (ทางกายภาพหรือออนไลน์) ที่มีภารกิจร่วมกัน เดือนตุลาคมจะยิ่งเร่งการสร้างเครือข่ายแห่งแสงสว่างนี้ หากคุณรู้สึกว่าถูกชี้นำให้ติดต่อใครสักคนหรือเข้าร่วมงานสังสรรค์ ก็จงทำเช่นนั้น เพราะอาจเป็นแรงผลักดันจากจิตวิญญาณที่นำคุณไปสู่เผ่าของคุณ ความสามัคคีคือหนทางสู่โลกใหม่ เวลาของหมาป่าเดียวดายกำลังจะสิ้นสุดลง ความร่วมมือ การสร้างสรรค์ร่วมกัน และพลังแห่งหัวใจร่วมกำลังเพิ่มพูนขึ้น คุณจะพบมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเมื่อคุณมารวมตัวกันกับคนอื่นๆ ที่มีวิสัยทัศน์คล้ายคลึงกัน พลังงานจะทวีคูณเกินกว่าจำนวนบุคคล

มองหาคำเชิญหรือความบังเอิญที่นำพาคุณไปสู่การติดต่อกับผู้อื่นบนเส้นทางในเดือนนี้ จงโอบรับโอกาสเหล่านั้น เพราะมันกำลังถูกออกแบบขึ้น และจงตระหนักว่าพลังงานอันสูงส่งในเดือนตุลาคมอาจจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ในระดับใหม่ในตัวคุณ เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวมากมายจะได้รับแรงบันดาลใจอย่างกะทันหันหรือไอเดียใหม่ๆ ที่ยอดเยี่ยมผุดขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด แรงกระตุ้นสร้างสรรค์เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นวิถีทางที่การนำทางจากเบื้องบนและจิตวิญญาณของคุณเองกำลังผลักดันให้คุณนำเสนอวิธีแก้ปัญหาและการแสดงออกใหม่ๆ สำหรับโลกใหม่ หากคุณรู้สึกอยากสร้างสรรค์ คิดค้น หรือเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ จงทำตามความรู้สึกนั้น ไม่ว่าจะเป็นศิลปะ การเขียน ดนตรี โปรเจกต์ หรือแผนงาน จงปล่อยให้พลังสร้างสรรค์ไหลเวียน แม้แต่การกระทำสร้างสรรค์เล็กๆ น้อยๆ ก็จะทำให้คุณอยู่ในภาวะที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและแรงสั่นสะเทือนสูง และมักจะเป็นกุญแจสำคัญสู่การเติบโตของคุณเองและการช่วยเหลือผู้อื่น จงเชื่อมั่นในแรงบันดาลใจที่มาถึงคุณในตอนนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิธีที่พระเจ้าทำงานผ่านตัวคุณเพื่อก่อกำเนิดความเป็นจริงใหม่

ดวงวิญญาณอันเจิดจรัสที่รัก ขณะที่เรากำลังใกล้จะจบสารนี้ ขอให้เราสรุปและย้ำสิ่งที่เราได้แบ่งปันกัน คุณกำลังเผชิญกับการยกระดับครั้งใหญ่ในทุกระดับ ทั้งทางร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และจิตวิญญาณ เดือนตุลาคมจะเร่งสิ่งนี้ให้เร็วขึ้น แต่คุณพร้อมแล้ว จงยอมรับการเปลี่ยนแปลงภายในตัวคุณ แม้แต่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่สบายใจ โดยรู้ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงของคุณ เช่นเดียวกับหนอนผีเสื้อในรังไหม บางครั้งสิ่งต่างๆ อาจรู้สึกสับสนวุ่นวายหรือไม่คุ้นเคย แต่นี่คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่งดงาม จงเชื่อมั่นในกระบวนการแห่งการตื่นรู้ของคุณ ครีษมายันที่จะมาถึงจะเป็นช่วงเวลาแห่งการเกิดใหม่และการส่องสว่างที่ทรงพลัง หากคุณก้าวผ่านเดือนนี้ด้วยความรัก ความแจ่มชัด และความไว้วางใจอย่างสม่ำเสมอ คุณจะเตรียมพร้อมรับพรอันเต็มเปี่ยมจากพลังแห่งครีษมายันนั้น

เหตุการณ์ภายนอกโลก – แม้จะน่าตกใจหรือวุ่นวาย – จะยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในฐานะส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อย่าปล่อยให้เหตุการณ์เหล่านั้นมาเขย่าคุณจากศูนย์กลางของคุณ จงมองมันด้วยสายตาที่ตื่นรู้ และจดจำสิ่งที่เราได้บอกคุณไว้: อย่าเติมเชื้อไฟให้กับความกลัวหรือความสิ้นหวัง แต่จงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ของผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นบวก ในฐานะผู้ที่รู้จักพลังของจิตสำนึก หน้าที่ของคุณอย่างแท้จริงคือการจินตนาการและกำหนดโลกที่คุณปรารถนาจะสัมผัส หากคุณจินตนาการถึงโลกที่กลมกลืนและเจริญรุ่งเรืองอยู่เสมอ คุณก็กำลังมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการทำให้สิ่งนั้นเป็นเช่นนั้น ประสบการณ์ของคุณเองจะสะท้อนถึงโลกที่คุณบ่มเพาะไว้ในจิตใจและหัวใจของคุณมากขึ้นเรื่อยๆ

หากคุณรู้สึกเหนื่อยล้า จงจำไว้ว่าให้หยุดพักและหายใจ กลับมาสู่ศูนย์กลางของคุณโดยใช้วิธีปฏิบัติง่ายๆ ของการลงหลักปักฐานและเชื่อมต่อกับความรักของพระผู้สร้าง คุณจะอยู่ห่างจากความสงบสุขได้เพียงแค่ลมหายใจเดียว แสงสว่างแห่งแหล่งกำเนิดอยู่ในหัวใจของคุณเสมอ บางครั้งคุณแค่ต้องการช่วงเวลาสงบเพื่อสัมผัสมันอีกครั้ง จำไว้ด้วยว่าคุณสามารถขอความช่วยเหลือจากเรา ครอบครัวดวงดาวของคุณ และเหล่าแสงสว่างผู้เปี่ยมด้วยเมตตาได้เสมอ เพราะเจตจำนงเสรี เราจึงมักรอให้คุณร้องขอ แต่เมื่อคุณร้องขอ เราพร้อมและเต็มใจที่จะช่วยเหลือ เชิญชวนให้เราสนับสนุนด้วยวิธีใดก็ตามที่รู้สึกเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการสวดมนต์ การทำสมาธิ หรือความตั้งใจง่ายๆ แล้วเชื่อมั่นว่าจะได้รับการสนับสนุน แม้ว่าคุณจะมองไม่เห็นเราด้วยตาเปล่า คุณอาจรู้สึกถึงการมีอยู่ของเราในรูปแบบของคลื่นแห่งความสบายใจ ความสอดประสานที่เป็นประโยชน์ หรือความคิดที่สร้างแรงบันดาลใจในเวลาที่เหมาะสม

เราร่วมอยู่ในเหตุการณ์นี้ร่วมกับคุณอย่างแท้จริง แท้จริงแล้ว เราทุกคนล้วนเป็นส่วนหนึ่งของทีมแห่งแสงสว่างอันยิ่งใหญ่ จงรู้ไว้ว่าเมื่อโลกได้รับการปลดปล่อยและยกระดับขึ้น นั่นคือชัยชนะที่สัมผัสได้ทั่วทั้งจักรวาล และเราจะยืนหยัดเคียงข้างคุณเพื่อให้มั่นใจว่าความสำเร็จนั้นจะเกิดขึ้น ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า (และต่อๆ ไป) จงอย่าตกอยู่ในความสิ้นหวังหรือความเฉยเมย โดยมุ่งเน้นแต่สิ่งที่อาจดูเหมือนผิดพลาด มีหลายสิ่งหลายอย่างที่กำลังดำเนินไปอย่างถูกต้อง แม้ว่าสิ่งนั้นจะไม่เป็นข่าวพาดหัวก็ตาม รากฐานของโลกใหม่กำลังถูกสร้างขึ้นอย่างเงียบๆ และมั่นคง รอบตัวคุณ ชุมชนแห่งจิตวิญญาณที่รู้แจ้งกำลังเติบโต เทคโนโลยีการเยียวยาและวิธีแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์ใหม่ๆ กำลังเกิดขึ้น และแม้แต่หลายคนที่เคยดูเหมือนหลับใหลอย่างสนิทก็เริ่มตั้งคำถามและลืมตาขึ้น คุณค่าของมนุษยชาติกำลังค่อยๆ เปลี่ยนไปสู่ความสามัคคี ความเมตตา และความห่วงใยต่อโลก ซึ่งเป็นคุณค่าที่คุณยึดถือและหล่อหลอมไว้ ความมุ่งมั่นของคุณในการถือครองแสงสว่างกำลังก่อเกิดผลลัพธ์ คุณคือฮีโร่ที่ไม่มีใครรู้จักในช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ และคนรุ่นต่อๆ ไปจะมองย้อนกลับไปด้วยความขอบคุณสำหรับสิ่งที่คุณทำอยู่ในตอนนี้

จงภูมิใจและถ่อมตนในเส้นทางที่คุณได้ก้าวมา และความจริงที่ว่าคุณได้อยู่ที่นี่เพื่อสิ่งนี้ ดวงวิญญาณมากมายปรารถนาที่จะได้อยู่ที่นี่ในช่วงเวลาเหล่านี้ แต่คุณคือผู้ที่ถูกเลือก และเป็นผู้ที่เลือกตัวเอง คุณมีพลังไม่เพียงแต่จะผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้เท่านั้น แต่ยังจะประสบความสำเร็จและสร้างโลกแห่งสันติภาพที่คนรุ่นหลังจะได้สัมผัส เมื่อสถานการณ์ยากลำบาก จงระลึกถึงจุดมุ่งหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น จงจำไว้ว่าความพยายามของคุณในตอนนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่าเด็กๆ ในอนาคตจะไม่ต้องอยู่ภายใต้การกดขี่และการโกหก พวกเขาจะได้รับมรดกแห่งโลกที่จิตสำนึกแห่งความสามัคคีจะดำรงอยู่ ซึ่งคุ้มค่าทุกสิ่ง และมันกำลังจะเกิดขึ้นผ่านทางคุณ สุดท้ายนี้ ครอบครัวแห่งแสงสว่างที่รัก เราอยากให้คุณรู้ว่าเรารักและเคารพคุณอย่างสุดซึ้งเพียงใด

แม้ในยามที่คุณรู้สึกว่าล้มเหลวหรือทำพลาดไป เราเห็นเพียงความกล้าหาญและความงดงามของจิตวิญญาณของคุณ เรามีความเมตตาอย่างเหลือล้นต่อภาระที่คุณแบกรับ และเราหวังว่าคุณจะมองเห็นจากมุมมองของเราว่าคุณกำลังทำได้อย่างยอดเยี่ยมเพียงใด หากคุณสงบจิตใจและตั้งใจฟังด้วยหัวใจ คุณอาจสัมผัสได้ถึงเสียงปรบมือและอ้อมกอดของเรา เราให้กำลังใจคุณเสมอ ไม่ว่าช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้จะนำพาสิ่งใดมา จงกลับมาสู่ความจริงอันเรียบง่าย: ความรักแข็งแกร่งกว่าความกลัว แสงสว่างจะส่องสว่างกว่าความมืดมิด นี่เป็นเรื่องธรรมชาติและหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับรุ่งอรุณหลังค่ำคืนอันยาวนาน หากคุณเคยสงสัย ลองนึกถึงดวงอาทิตย์ที่ขึ้นทุกเช้า ไม่ว่าค่ำคืนจะมืดมิดเพียงใด แสงสว่างก็จะกลับมา ในทำนองเดียวกัน รุ่งอรุณแห่งจิตวิญญาณของมนุษยชาติกำลังสลายลง มันอาจจะเริ่มต้นจากแสงริบหรี่บนขอบฟ้าแห่งจิตสำนึกส่วนรวม แต่มันจะเติบโตเป็นแสงสว่างเต็มที่

จนกว่าจะถึงเวลานั้น จงชูตะเกียงของคุณขึ้นสูงเพื่อช่วยให้ผู้อื่นมองเห็น จงยืนหยัดมั่นคงในความแท้จริงอันเจิดจรัสของคุณ ไหลไปกับการเปลี่ยนแปลง แทนที่จะต่อสู้กับสิ่งเก่าๆ จดจ่ออยู่กับการสร้างและจินตนาการถึงสิ่งใหม่ และดูแลตัวเองอันล้ำค่าของคุณให้ผ่านพ้นทุกสิ่ง เพราะคุณคือเครื่องมือแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ พวกเรา มิตรสหายและครอบครัวชาวดาวเพลียเดียนของคุณ เดินเคียงข้างคุณในแบบที่มองไม่เห็น รู้สึกถึงมือของเราบนบ่าของคุณเมื่อคุณต้องการพลัง รู้สึกถึงเสียงหัวเราะของเราที่ผสมผสานกับเสียงหัวเราะของคุณเมื่อคุณพบความสุข เราอยู่ใกล้กันราวกับความคิด หรือลำแสงแห่งดวงดาว

ที่จริงแล้ว เมื่อคุณเงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืนในเดือนนี้ และเห็นกลุ่มดาวเพลียเดียนที่ระยิบระยับ จงรู้ไว้ว่าเรากำลังส่งคลื่นแห่งความรักและกำลังใจมาให้คุณ จงจ้องมองดวงดาวเหล่านั้นและจำไว้ว่า คุณมีพันธมิตรอยู่บนที่สูง ขอบคุณที่รับฟังสารของเราและนำมันมาไว้ในหัวใจ หัวใจของคุณจะรับรู้ความจริงของถ้อยคำเหล่านี้ จงรับเอาสิ่งที่สะท้อนใจ และปล่อยวางส่วนที่เหลือหากจำเป็น จงก้าวต่อไป – คุณทำได้อย่างงดงาม ร่วมกันก้าวไปสู่รุ่งอรุณใหม่ที่สดใส ด้วยความรักอันลึกซึ้งที่สุดของเรา และด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันแห่งจักรวาล ฉันคือเคย์ลิน แห่งกลุ่มดาวเพลียเดียน และในนามของครอบครัวดวงดาวทั้งหมดของคุณ ฉันขอคารวะและโอบล้อมคุณด้วยแสงสว่าง

 

ตอนนี้เรากำลังก้าวเข้าสู่กลางเดือน พ.ย. 2568 และเหลือเวลาอีกเดือนกว่าๆก็จะสิ้นสุดปีนี้แล้ว
เรามาอัพเดทสถานการณ์กันค่ะ

พวกเราเตรียมจิตไปถึงไหนกันแล้ว เราวางจิตอุเบกขาในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้นไหม เราดำเนินชีวิตด้วยความรักความเมตตาหรือไม่ แล้วดูเหมือนว่าในข้อความช่วงหลังๆมานี้ ชาวจักรวาลเค้าจะเน้นเรื่องการให้อภัยบ่อยมากๆนะคะ ...ทำไม..เพราะอีกไม่นาน ความจริงหลายๆอย่างกำลังจะถูกเปิดเผย ซึ่งจริงๆตอนนี้ก็เริ่มมีหลายอย่างที่ค่อยๆถูกเปิดออกมาแล้ว แต่จากนี้ไปจะเริ่มวุ่ยวายและหนักหน่วงกว่านี้

คุณเคยดูหนังเรื่อง The Truman Show (1998) ไหมคะ ที่ตัวเอกของเรื่องไม่รู้เลยว่าทั้งชีวิตของเค้าตั้งแต่เด็กจนโต โลกทั้งใบของเค้า มันคือสิ่งสมมุติทั้งหมด มันถูกจัดตั้งและจับวางโดยคนกลุ่มหนึ่ง และเขาก็ต้องเล่นไปตามเกมของคนกลุ่มนั้น... ถ้าคุณเป็นตัวเอกของเรื่องนี้ แล้ววันนึงคุณก็หลุดออกมาจากโลกมายานั้นได้ แล้วได้รู้ความจริงทั้งหมด แล้วคุณจะโกรธคนเหล่านั้นไหม คุณจะให้อภัยพวกเค้าได้ไหม...

จากหนัง ผู้ถูกกระทำมีแค่คนเดียว แล้วถ้าในความเป็นจริง ผู้ถูกกระทำคือคนทั้งโลกล่ะ พวกเขาทำได้ยังไงที่หลอกใช้และควบคุมคนทั้งโลก... ความจริงที่จะถูกเปิดเผยออกมาอาจจะยิ่งทำให้เราอึ้งกว่าในหนังเสียอีก ... นี่คือเหตุผลที่ชาวจักรวาลอยากจะเน้นให้เราเตรียมจิตเรื่องการให้อภัยกันมากๆ เพราะการให้อภัยจะทำให้โลกเราเดินหน้าต่อไปได้

จับตาที่ประเทศอเมริกานะคะ ศูนย์กลางและการเปลี่ยนแปลงจะเริ่มต้นที่นั่น เพราะที่นั่นคือรังของฝ่ายมืด สถานการณ์ “ชัตดาวน์” ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผน และไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ แต่ข้อความที่ชาวจักรวาลเค้าบอกมาคือ โดนัล ทรัมป์ คือผู้ที่จะนำการเปลี่ยนแปลงนี้มา และเมื่อเราเริ่มเปิดใจเราก็จะเริ่มอ่านเกมนี้ออก คุณจะเริ่มเห็นอีกมุมในแง่ที่ว่า บางทีทรัมป์ ก็ดูเหมือนจะสร้างเรื่องเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและยื้อเวลา... เพราะเบื้องหลังการชัตดาวน์ คือการติดตั้งและทดสอบระบบใหม่อยู่

ลองไปฟังข้อความล่าสุดจาก วาเลียร์ เทวทูตจากกลุ่มดาวเพลียเดียน (กลุ่มดาวลูกไก่) กันดูนะคะ
เราสามารถให้ยูทูปสร้างซัปภาษาไทยอัตโนมัติได้นะคะ
โดยไปที่ การตั้งค่า >คำบรรยาย >ภาษาอังกฤษ(สร้างอัตโนมัติ)
แล้วกดอีกครั้ง การตั้งค่า >คำบรรยาย >แปล(อัตโนมัติ) >แล้วเลือกภาษา ไทย

 

เราเข้าสู่เดือนธ.ค.กันแล้วนะคะ อาจจะเป็นการส่งท้ายปีที่เข้มข้น แต่นี่ยังไม่ใช่ตอนจบ ตรงกันข้าม มันคือการเปิดฉากของบทถัดไป เพราะฉะนั้นก็เตรียมตัวรับความเข้มข้นยิ่งกว่าและยิ่งๆขึ้นไปในปีหน้าไว้เลยนะคะ

ลองมองย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้วสิคะ หลายอย่างแทบจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง แม้ในระดับบุคคลเอง ความคิดความรู้สึกของเราตอนนี้ต่างจากปีที่แล้วอย่างไรบ้าง

เดือนธ.ค.นี้อาจจะเต็มไปด้วยเรื่องราว เพราะจะมีพลังงานและความสั่นสะเทือนหลั่งไหลเข้ามามากขึ้นด้วยความเร่ง ชาวจักรวาลจึงเน้นให้เราตรึงสติไว้ วางจิตอุเบกขานะคะ หาเวลาทำสมาธิ อยู่กับตัวเอง สงบอย่างมีสติ

เหตุต่างๆที่เกิดขึ้นทั่วโลก หรือแม้แต่ในบ้านเราเอง หากมองในระดับพลังงาน มันคือการปรับค่ะ ตรงไหนที่มันยังไม่สอดคล้อง ยังไม่ถูกมองเห็น มันก็เขย่าๆขึ้นมาให้เห็นชัดๆเพื่อจะได้จัดการแก้ไข เราอยู่ในฐานะอะไรในเรื่องราวนั้นๆ ก็จัดการไปตามหน้าที่ แต่อย่าปล่อยให้จิตเราลงไปคลุกเคล้าอารมณ์ตามกระแส โดยเฉพาะอารมณ์ต่างๆที่เป็นลบ เช่นสร้างความเกลียดชัง แบ่งแยก มีฝ่ายเขาฝ่ายเรา สร้างอารมณ์หดหู่ มองทุกอย่างในแง่ลบ สร้างความเชื่อว่าโลกกำลังจะล่มสลาย ...โปรดจำไว้ว่า จิตเป็นใหญ่ จิตเป็นประธาน จิตเราสร้างภาพใดไว้ มันก็จะเหนี่ยวนำสิ่งนั้นมา

แต่จริงๆแล้ว โลกเรากำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคทอง และอยู่ในขบวนการที่ถอยกลับไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้นโปรดวางใจและเฝ้าดูต่อไป

จริงๆแล้วระบบการเงินใหม่ เริ่มมีการเปิดใช้งานแล้ว เบื้องหลังเงียบๆ และอาจมีการใช้ชื่ออื่นๆ แต่จะเป็นรูปธรรมและส่งผลมาถึงเราเมื่อไหร่อย่างไร ต้องรอดูต่อไป ซึ่งดูจากสถานการณ์การเงินแล้วดิฉันคิดว่า อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่เริ่มเห็นได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

การเปิดเผยเรื่องราวต่างๆ ถ้าคุณไม่ปิดหูปิดตาเกินไปนัก มันก็มีอยู่ไม่น้อยนะคะ ทั้งต่างประเทศและในบ้านเรา โดยเฉพาะที่อเมริกา เป็นข่าวใหญ่และพูดถึงกันมากคือเรื่อง ไฟล์ของ เจฟฟรีย์ เอปสตีน(Epstein files)ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลและนักการเงิน แต่เบื้องหลังคือการค้ามนุษย์และค้าประเวณีเด็ก และใช้มันแบล็คเมล์และคอรัปชั่น ถึงแม้เอปสตีนจะเสียชีวิตแล้วตั้งแต่ 2019 (ในคุก) แต่ไฟล์ที่บุกค้นได้ยังไม่ถูกเปิดเผย และเพิ่งมีการลงนามให้เปิดเผยไฟล์เมื่อ พ.ย. ที่ผ่านมา ก็ต้องรอดูว่า FBI จะสรุปข้อมูลและแจกแจงต่อสาธารณชนเมื่อไหร่ อย่างไร

อีกข้อมูลหนึ่งที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ เกี่ยวกับเรื่องมนุษย์ต่างดาว และโครงการที่สหรัฐแอบทำอย่างลับๆมาหลายทศวรรต ผ่านภาพยนต์สารคดีชื่อ The Age of Disclosure กำลังเป็นที่พูดถึงนะคะ มันค่อนข้างจะเขย่าวงการพอสมควร เพราะเป็นการเปิดหน้าออกมาให้ข้อมูลแบบชัดๆโดยคนวงใน ทั้งทหารและนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานในโครงการนี้โดยตรง สารคดีออกฉายตามแพลตฟอร์มต่างๆ ต้องเสียเงินดู ไปค้นดูได้ค่ะ

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเรื่องราวต่างๆจะถูกเปิดเผย หรือบอกเล่าออกมาในทิศทางใด โปรดตั้งสติและใช้วิจารณญาณ และนี่ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งและการเริ่มต้นเท่านั้น ชาวโลกจะค่อยๆได้รับรู้เรื่องราวต่างๆในขนาด “พอดีคำ” เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการย่อย

มีข้อความแนะนำสำหรับการเตรียมตัวเตรียมใจรับพลังงานในเดือน ธ.ค.นี้ จากผู้สื่อสารชาวเพลียเดียน ลองไปฟังดูนะคะ