เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

รับทราบครับน้องคัมภีร์ ยันต์ดวงเล็ก ดวงงามอร่ามแท้แลตะลึง กำลังเดินทางสู่ฝั่งทะเลตะวันออก พรุ่งนี้คงถึงที่หมาย

โมทนาอีกครั้ง บารมีปวงอริยเจ้าผู้ผนึกพลังจิต พลังปราณบรรจุวัตถุมงคลล้ำค่าชุดนี้ จงคุ้มครองให้พบความสุข ราบรื่นการทำมาหากิน แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทุกที่ทุกสถานครับ

 

"หลวงพ่อไปล่ ฉนฺทสโร" วัดกำแพง
ปาฏิหาริย์"อุลกมณี"เหรียญหล่อ2478
===============

■ หลวงพ่อไปล่ ฉนฺทสโร ■...ขอบคุณภาพจากเพจ "วัดกำแพง

"หลวงปู่ไปล่"....เกรียงไกรเกจิ
ชาญชำนิ..........วิชาขลัง
หนังเนื้อเหนียว..เคี่ยวทรงพลัง
ฉายาฉมัง.........'รถถัง'ฝั่งธนฯ
~~~~~~~~~~~~~~~~~

"รถถังฝั่งธนฯ" องค์จริงเสียงจริง เจ้าของ เหรียญหล่อจอบแพงที่สุดในวัตถุมงคลเมืองหลวง ทั่วทั้งประเทศถูกจัดให้เป็นรองแค่เหรียญจอบ "หลวงพ่อเงิน บางคลาน" เท่านั้น!!!

"หลวงพ่อไปล่ ฉนฺทสโร" โด่งดัง เด็ดขาด เฉียบขาดที่สุดยาวนาน ดังนั้น ประวัติท่านไม่ต้องเขียนมาก เหมือนเอาผักมาขายชาวสวนฝั่งธนฯ

แต่จะไม่มีประกอบเรื่องราวไว้บ้างก็กระไร นำมาทบทวนเล็กน้อย พอเป็นกระสัย...

ท่านเกิด ปี 2403 ตรงกับรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ในวัยหนุ่มห้าวหาญ ออกทางนักเลงโบราณไม่กลัวใคร พรรคพวกวัยเดียวกันยกย่องให้เป็นลูกพี่ ทางบ้านกลัวใจว่า จะไปทางเสื่อมกับการคบคนไม่เลือกหน้า จึงขอให้ท่านบวชเรียนสงบใจใฝ่ธรรมสัก ๑ พรรษา

ปี 2426 อายุได้ 23 ปีท่านอุปสมบทที่วัดกำแพง พระอาจารย์ทัด วัดสิงห์" เกจิเด่นดังเป็นพระอุปัชฌาย์ ส่วนพระกรรมวาจาจารย์ก็เป็นยอดแห่งสรรพวิชาไม่เป็นสองรองใคร "หลวงพ่อพ่วง วัดกก" และ หลวงพ่อดิษฐ์ วัดกำแพง" ซึ่งชาวบ้านนับหน้าถือตามาก เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ตั้งใจบวชพรรษาเดียว แต่ "หลวงพ่อไปล่" คนจริง ทำอะไรจริง ศึกษาธรรมะพระธรรมวินัยแข็งขัน กระทั่งจิตใจเลื่อมใสศรัทธาในผ้าเหลืองถึงขนาดไม่ยอมสึก แค่พรรษาที่2 ท่านก็ท่องพระปาฏิโมกข์แตกฉาน ทั้งร่ำเรียนสรรพวิชาที่เด็กหนุ่มสมัยโบราณใฝ่ฝันคือ สักยันต์กับ หลวงพ่อดิษฐ์ วัดกำแพง รับวิชาครบถ้วนไม่เสียชื่อครูอาจารย์

วิชาอื่นก็ศึกษาทุกด้าน ทั้ง วิปัสนากรรมฐาน เรียนผูกหุ่นพยนต์กับพระอาจารย์คง เรียนคงกระพันชาตรีกับ หลวงพ่อหรุ่น วัดบางปลา และวิชามหาเสน่ห์เมตตามหานิยมกับ หลวงพ่อพ่วง วัดกก

คนเก่งได้ครูดีฝีมือฉกาจครบถ้วน ก็ดั่งพยัคฆ์ติดปีก จึงไม่ต้องกังขาเลยว่า "หลวงพ่อไปล่ ฉนฺทสโร "จะเก่งกาจขนาดไหนเมื่อวันเวลาผ่านไป ทั้งความน่าเลื่อมใสก็คือวัตรปฏิบัติของท่านคงเส้นคงวาขยันทำวัตรสวดมนต์ บิณฑบาตไม่เคยขาด กวาดวัด กวาดกุฏิเอง มีความเป็นอยู่สมถะอย่างยิ่ง ไม่ทะเยอทะยานในลาภยศสรรเสริญ

ปี 2431 ท่านรับเป็นเจ้าอาวาสวัดกำแพง และเป็นพระอุปัชฌาย์จารย์ที่มีลูกศิษย์ทั้งย่านบางขุนเทียน ครองวัดยาวนานถึง 58 ปี เป็นประวัติการณ์

เมื่อมรณภาพในปี 2489 เกิดปรากฏการณ์อัศจรรย์ สรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย มิหนำซ้ำยังหนังเหนียว สัปเหร่อแต่งศพใช้มีดเฉือนไม่เข้า แม้จะมีการจุดธูปเทียนบอกกล่าวก็ยังเฉือนไม่เข้าอยู่ดี ร่างของท่านแห้งไปเฉยๆ ปราศจากกลิ่นเหม็นเน่า สมความเป็นพระอริยที่ทรงศีลบริสุทธิ์ผุดผ่องชั่วชีวิต!

วัตถุมงคลอันระบือลือลั่นของท่าน รุ่นแรกก็คือ เหรียญหล่อพิมพ์จอบใหญ่ ปี 2478 เป็นเอกลักษณ์เอกบุรุษซึ่งนักสะสมบูชาใฝ่ฝัน แต่หายากมากถึงยากที่สุด รุ่นหลังๆวัดกำแพงมีการสร้างตามรอยเหรียญจอบ [จอบ2-3-4] ได้รับความนิยมชนิด "วัดแตก" ทุกครั้งที่จัดสร้าง ให้เห็นว่าบารมี "หลวงพ่อไปล่" ทั้งในยามทรงสังขาร และจากไปจะกี่สิบปี ก็คงสุดยอดเอกอุ สมเป็นเพชรน้ำหนึ่งขนานแท้

คราวนี้มาชมเหรียญจอบใหญ่ รุ่นแรกปี 2478 ซึ่งเกี่ยวข้องกับ "อุลกมณี" อย่างมหัศจรรย์สมที่จั่วหัวไว้

เป็นแบบใด?...เชิญชม "ภาพเล่าเรื่อง" ต้อนรับค่ำคืนวันศุกร์ ให้มีความสุขตามอัธยาศัย

จอบใหญ่ 2478 หลวงปู่ไปล่ (ควรเรียกท่าน "หลวงปู่" เพราะท่านมรณภาพอายุ 86 ปี พรรษา 63)

ดูตรงเบ้าตาขวา (ซ้ายมือเรา) บรรจุด้วยวัสดุบางอย่างฝังลงไป เมื่อเอากล้อง 10 x หรือมากกว่ากี่เท่าก็ตามแต่ส่องขยายชมชัดๆ ก็เห็นกระจ่างตาเลยว่า...

โอ้...พระเจ้าจ็อดที่ฝังอยู่นั่นคือ "อุลกมณี" ดี ๑-ประเภท๑ "สะเก็ดดาว" งดงามชวนหลงใหลจากห้วงอวกาศ "อุลกมณีแท้" ที่มิใช่ อุลกมณีเทียม จำพวกหินดิบตามหลักวิทยาศาสตร์

คำถามก็มีว่า ท่านฝัง "อุลกมณี" เม็ดนี้ลงไปได้อย่างไร?...

ในเมื่อนี่เป็น "เหรียญหล่อ" ที่ต้องเทโลหะหลอมละลายความร้อนสูงสุดลงเบ้า!!!

ซึ่งในการเทเหรียญหล่อจอบ 2478 รุ่นนี้ ยังมีการบันทึกไว้อีกว่า...ขณะ "หลวงปู่ไปล่" ทำพิธีปลุกเสกกำกับไปด้วยนั้น สายสิญจน์ที่โยงจากมือท่านในพิธีเกิดหล่นลงเบ้าหลอม และไม่ละลาย จนจบพิธีก็ยังไม่ไหม้ดังเดิม ให้แย่งกันโกลาหล

กลับมาที่ เหรียญหล่อองค์นี้ คงสันนิษฐานได้อย่างเดียวว่า "หลวงปู่ไปล่" รับ "อุลกมณี" มาจากลูกศิษย์ ท่านเห็นว่ามีชิ้นเดียว ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร เมื่อหล่อเหรียญเทออกจากเบ้า ท่านจึงสำแดงปาฏิหาริย์ วิชากสิณไฟ หยิบเหล็กร้อนมือเปล่า อัด "อุลกมณี" เม็ดนี้ ลงในเบ้าตาขวารูปหล่อ ผนึกติดแน่นคงทนมานานเกือบร้อยปี

(((นี่เป็นเพียงข้อสันนิษฐานส่วนตัว เพราะคนสมัยนี้ต่างเกิดกันไม่ทัน และคงไม่มีโอกาสเห็น "วิชาที่แท้" จากครูอาจารย์ผู้ทำได้ถึง ได้จริงอีกแล้ว)))

สำหรับ "เหรียญหล่อจอบ" องค์นี้ ท่านผู้อ่านที่ชมชอบ การชี้ตำหนิ ก็ทดลองหา "พระองค์ครู" ที่พวกเสี้ยนชอบเอามาชี้ช่อง ชี้ตำหนิไว้ ทั้งที่พระหล่อโบราณอายุหย่อนร้อยปีนิดหน่อย โอกาส "ชี้ตำหนิ" ให้ตรงเผงทุกจุดเหมือน "เหรียญปั้ม" หลังปี 2500 นั้น...ยากเสียยิ่งกว่ายาก!?!

ทว่า...เหรียญหล่อองค์นี้ จะเอาตัวอย่างจากเสี้ยน จากครูคนไหนมาประกบเทียบตำหนิ รับประกันว่า มีร้อยจุดก็ตรงเผงทั้งร้อยจุด อาจแตกต่างบ้างที่เนื้อหาเล็กๆน้อยๆตามการเก็บรักษา

คราบไคลของ "สนิมโบราณ" ก็แผ่คลุมพื้นผิวได้ดี มีทั้ง "เนื้อเน่า" และริ้วรอย "ตามุ้ง" โลหะโบราณไม่บานบุรีครบถ้วน!!!

ด้านหลังที่อุดมด้วย "เนื้อเน่า" หลายจุด ประสาโลหะเก่าที่ผ่านใช้บูชาบ้าง ต้องเกิดตามุ้ง เกิดความเก่าของสีสนิมเข้มหรือจางตามธรรมชาติ หนัก-เบาไม่เท่ากัน ไม่ใช่เกิดจากการแช่สารเคมีซึ่งจะเป็นคราบสีเดียวกันทุกจุด

อีกหนึ่ง "เคล็ดลับ" ดูแท้ ได้แก่ พื้นผิวเหรียญ เป็น "รูพรุน-เท่าปลายเข็ม" ยุบยิบยับ เรียก "รอยตามด" เกิดจากการเทหล่อโลหะโบราณเท่านั้น สมัยใหม่ไม่เกิดสิ่งเหล่านี้ เป็นร่องรอยที่ปลอมแปลงยากอีกขั้นหนึ่ง อาจทำปลอมได้แต่ต้องใช้ต้นทุนสูงและคนควบคุมที่เก่งระดับ "เทพ" ในปัจจุบัน

เพราะเป็น "ร่องรอย-ธรรมชาติ" บังเกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ!!!


ย้ำภาพ "อุลกมณี" ในดวงตาข้างขวา ให้ดูกันชัดๆ ความมหัศจรรย์ของครูอาจารย์ยุคโบราณที่เกินจะบรรยายได้ถ้วน ต้องเห็นเอง หรือรู้เอง เป็น "ปัจจัตตัง" ขืนเขียนถ่ายทอดมากไป เดี๋ยวจะโดนหาว่า เพี้ยน หรือ บ้าไปแล้ว!!!

ยิ่งคนสมัยใหม่ อะไรมันก็ไม่เชื่อ สิ่งที่มันไม่เคยเห็นหลังจากเกิดจากท้องแม่ไม่กี่ฝน เอาไปเขียน ไปบรรยาย จะถูกตอกกลับทันทีว่า...มีจริง แสดงให้ข้าดูหน่อยเถอะ

เด็กหัวฝน คนสมัยใหม่ เรียกเท่ๆว่า เจ้นท์เอ็ก เจ้นวาย บ้าบอคอแตก มันจึงคลอดออกมาพร้อมความโง่เง่า มักด่วนตัดสินสิ่งที่ตนเองไม่เคยพบเห็นเพราะความไม่รู้ ไร้ประสบการณ์ชีวิต เป็นแบบนี้มากคน ทำให้สังคมมีแต่ความขัดแย้ง เสื่อมทราม!
วงตำแหน่ง "เนื้อเน่า" บางจุดที่เสี้ยนยืนยันว่า ต้องมี...เอ้า มีก็มี ไม่เห็นจะเป็นไรไป

ขนาดจอบใหญ่ เข้มขลัง
กับขอบข้างสวยสมบูรณ์
ท่านอยู่ในกรอบพลาสติก
แกะออกรักษามาหลายปี
ได้ฤกษ์อาราธนามาเขียน
เข้าเรื่อง"อุลกมณี"ตอนจบ
ตบท้ายความมหัศจรรย์ ให้
คุ้มค่าการเสียเวลาตามอ่าน!

เหรียญจอบหลวงปู่ไปล่ กับ อุลกมณี เป็นการส่ง "บทจบ" ให้ครบครัน ซึ่งการันตีด้วยหัวไอ้เรืองว่า ท่านผู้อ่านคงไม่เคยเห็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์เช่นนี้แน่ เชิญชมให้เพลิน อ่านให้มีความสุข

ขอส่งทุกท่านนิทรากับ บารมียิ่งใหญ่ หลวงปู่ไปล่ ฉนฺทสโร รถถังฝั่งธนฯหมายเลข ๑ นำหัวขบวนรถถังทั้งปวง หากมียอดเกจิที่รับสมญานาม"รถถัง" มากเป็นกองทัพ

ก็รับประกันอีกทีว่า "หลวงปู่ไปล่" ต้องเป็น "แม่ทัพ" นำหัวขบวน ชนิดไม่มีใครกล้ายกมือคัดค้าน!!!

หลวงปู่ไปล่ เมตตาคุ้มครองสมาชิกชาวเราทุกท่าน ราตรีสวัสดิ์ครับ!

 

การ ทำ บุญ นี่
ไม่ใช่ ต้อง ให้ สิ่งของ
นี่ เข้า ใจ ไม่ กระจ่าง
บุญ ทำได้ หลาย วิธี
การ ให้ ทาน ๑
รักษา ศีล ๑
เจริญสมาธิ ภาวนา ๑
ทำใจ ให้ สงบ ๑
มี เมตตา กรุณา ๑
และมี อีก หลายประการ
นี่ควร ศึกษา
บุญ ทำ ได้ หลาย วิธี
จำไว้

(หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี)

 

วันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันเสาร์ แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

เช้าวันพระ ผู้คนเรียงแถวใส่บาตรพร้อมเพรียง ร่วมอนุโมทนาบุญก่อนเพลส่งกระแสและพลังบุญ แด่ชาวพุทธที่ร่วมแรงรวมใจต้านไอ้พวกมารศาสนาที่มุ่งทำลายพระศาสนาไม่หยุด

โดยเฉพาะพวกสื่อเดรัจฉาน สื่อขยะ สื่อโสโครก สื่อจากนรกอเวจีที่ตั้งหน้าตั้งตาหากินกับ "ข่าวพระ" ในขณะเดียวกันก็แฝง "วาระซ่อนเร้น" คือการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาอย่างเป็น "รูปธรรม" ไม่สนและไม่เกรงกลัวบาปกรรม

สื่อรียำเหล่านั้น ไม่เคยทำบุญ ทำคุณให้กับสังคม มีแต่ตั้งเป้าช่วยกระทืบซ้ำ กระหน่ำสังคมให้จมลงในน้ำโสโครก มันไม่มี "ชาติ พระศาสนาพุทธ พระมหากษัตริย์" มันยืนหยัดทำลาย "สถาบันชาติ" ทุกวิถีทาง

ชาวพุทธสังเกตเห็นไอ้พวกสื่อน้ำเน่าเหล่านี้ได้ไม่ยาก หากเป็นเจ้าของกิจการ อย่าลงโฆษณาเอาเงินให้มัน เป็นคนดูก็กดรีโมทผ่านช่องพวกมัน แล้วช่วย "บอกต่อ" พี่น้องเพื่อนฝูงมิตรสหาย ให้แอนตี้ ปล่อยมันไม่มีคนดู ไม่ช้าก็จอดำ ไม่มีเงินต่อสัมปทานสัญญา ซึ่งเกิดขึ้นมาแล้ว สำหรับสื่อห่วยแตกหลายช่อง

ฝากไว้ในเช้าวันพระ เรายังไม่ละกิเลส ต้องฟาดฟันกับพวกมันต่อไป ให้มันรู้ว่า ชาวพุทธตื่นรู้และรุกกลับ ไม่ปล่อยพุทธศาสนาตกเป็น "เหยื่ออธรรม " เหมือนที่อินเดียสมัยโบราณ!!!

 

"หลวงปู่" แนะทำบุญให้เกิดผล
มีมากมาย-ปฏิบัติง่ายไม่ยาก...

***บุญวิถี.....วิธีหลาก
'ทาน'ทำมาก..ฝากผลไว้
ใฝ่ฝึกฝน......'ศีล'พ้นภัย
'ภาวนามัย'...หัวใจธรรม
--มี'เมตตา'..'กรุณา'ครบ
ส่ง'จิต'สงบ....สบ'บุญ'ล้ำ
จดจำเถิด........เลิศกระทำ
หลีกกงกรรม......ฉ่ำเสบียงบุญ!

หมายเหตุ..ภาวนามัย = บุญที่สำเร็จด้วยการจริญภาวนา

 

ท่านวันวิ ผมมีแบบนี้พอไปรอดใหมครับ

 

เหรียญหล่อ "หลวงปู่ไปล่" เดินทางไปซะไกล เมื่อพินิจพิเคราะห์ ทั้ง "จุดตาย-ตำหนิลับ" ที่เหล่าเสี้ยน...เอ้ย เซียนเขายึดถือกันว่าเป็นส่วนสำคัญของจุดจ่ายตังค์

ต้องแสดงความยินดีกับคนไกลบ้าน ที่จุดสำคัญเหล่านั้นมีครบ เนื้อหาเก่าถึงยุค การเกิดอ็อกไซด์ของโลหะ คราบเบ้าก็ดูดีตามภาพ คิดว่าโอกาสข้ามฝั่งมีเกิน 70% ถือว่าประสบความสำเร็จ สามารถอาราธนาบารมีท่านคุ้มครอง "ขึ้นคอ" ได้ไม่อายใคร ใครจะว่ายังไงก็ช่างหัวมัน ใช้ตาดูที่องค์พระ ไม่ใช้หูเล่น

 

"สมเด็จพระญาณฯ+หลวงปู่โต๊ะ"
ปิดตา"ยันต์ดวงเล็ก"วัดบวรฯ23
===============

ก่อนปิดตู้ ปิดกล่อง ก็ขอจัด พระปิดตาเนื้อผงใบลาน พิมพ์ยันต์ดวงเล็ก ปี 2523 ฉลองชนมายุ สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรฯ ซึ่งเสกร่วมกับ "หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี" และสุดยอดคณาจารย์ของประเทศหลายสิบท่าน ให้ร่วมบุญอีกสักองค์

ราคาเดิม ไม่เพิ่มเติมใดๆ เติมแค่ความสวยงามดั้งเดิม ไม่ผ่านการใช้...

=======1,500=======

งามเต็มร้อย พระตามภาพ ไม่นำเอาภาพของเก่ามาแทนกัน ตะกรุดเนื้อทองฝาบาตร ชัดเจน สวยคลาสสิคมากๆ

คราบไขใบลาน เนื้อมวลสารเก่าที่ "หลวงปู่โต๊ะ" มอบให้ ปะทุไขขาวคลุมผิวระเรื่อพองามตา


ยันต์ดวงหรือ "สุกิตติมา" เหนือยันต์เป็นพระนามองค์สมเด็จพระญาณสังวร แทนชื่อ "หลวงปู่โต๊ะ" ด้านล่างยันต์เป็นชื่อวัดบวรฯ แทนชื่อ วัดประดู่ฉิมพลี !

ส่วนอื่นๆนอกเหนือจากนี้ก็คือ "แฝดคนละฝา" กับยันต์ดวงเล็กราคาแสนแพงวัดประดู่ฯ เหมือนชนิดร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งเนื้อ+พิมพ์+ผู้เสกอันบันลือนาม!!!

ขอบข้างหนาเต็มทรง
เนื้อหาจัดเต็มคาราเบล

ความกะทัดรัดที่งามจัดขององค์ท่าน
เป็น "ยอดพระปิดตา" เมืองกรุงอีกรุ่น
มีอนาคตจัดจ้านเหมาะบูชาและสะสม