Featured เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

วันที่ ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

ยันต์เด็ดดวง "ดาวเงินพิชิตวิกฤติ" รวมกรอบแผ่นนี้ ทำบุญรับกับมือ "ท่านสรรเพชร" โดยตรง ไม่ได้ซื้อมาจากสำนักหรือร้านค้าที่ไหน ถือเป็น "ออริจินอล" ดั้งเดิมก็ว่าได้ ผมแขวนอยู่ในห้องพระนานกว่าสามสิบปี สมควรขยับขยายมอบให้สมาชิกไปดูแลบูชาต่อ ตามประสา ของดีมีคุณค่า ผลัดกันบูชา!

มุมซ้ายกรอบรูป "แยก" ออกเล็กน้อย ใช้เทปกาวปิดไว้ คุณเทพซ่อมก็ดี ไม่ซ่อมก็ได้ เพียงแต่ระวังเวลาหยิบจับ อย่าจับตรงด้านมุมนั้น แขวนต่อได้อีกหลายสิบปียันลูกบวช

โมทนาครับ ดาวเงินอลังการงานสร้าง เดินทางขึ้นอีสานใต้วันนี้จ้า

 

อีกหนึ่งแผ่นพระยันต์ที่อลังการงานพิธียื่งใหญ่ไม่แพ้ดาวเงิน เพราะงาน "ไหว้ครู" ระดับเสาหลักเมืองจังหวัดคือการรวม "ครู" ทุกแขนงมาร่วมประสิทธิ์ประสาท ทั้งศิลป วิทยาการ ไสยเวทย์ มนตราทรงพลัง ความศักดิ์สิทธิ์ ครบถ้วนในตน!!!

ไม่ได้บูชากับมือ ก็เหมือนไปเอง เพราะฝากปิยมิตรทางธรรมไปร่วมบุญ แบกจากเมืองใต้ขึ้นมามอบให้ด้วยน้ำใจไมตรีดีงาม ทำบุญไปหลาย แต่มอบร่วมบุญหลังผ่านไป 20 ปี เท่าที่เห็นก็พอ เผื่อสมาชิกจะนำไปเป็น "เคล็ด" เป็นอุปเท่ห์บูชา "แรงครู" ตามอธิษฐาน ตามต้องการ

"ขอได้ ไหว้รับ" พร้มสรรพวิชา เดินทางวันนี้ ต้องไปแพ็คที่ไปรษณีย์อย่างดี กันกระจกแตก...อ้อ ด้านหลัง ตัวค้ำเวลาตั้ง หลุดออกมา แต่ไม่ทำให้ส่วนสำคัญชำรุด ผมใช้เทปกาวปิดไว้ให้แล้ว ตรงนี้จะมีหรือไม่มีไม่เป็นไร เพราะที่แขวนบูชาอย่างดีอยู่ครบ

โมทนาน้องภาส บารมี "องค์ครู" ดูแล เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานยิ่งๆขึ้นครับ

 

จำได้ว่าน้องภาสเคยเล่า ไปจอง "จอบ 4-หลวงปู่ไปล่" ไว้บูชาเมื่อ 2 ปีก่อน ถือเป็นรุ่นล่าสุดที่วัดสร้างออกมาย้อนยุคบารมีหลวงปู่ และเหมาะสมกับการบูชาอย่างยิ่ง เพราะวัดสร้างโดยอัญเชิญญาณบารมีหลวงปู่ถูกต้อง ครบสรรพศาสตร์ ไม่ตกหล่น แม้เป็นของใหม่ แต่ก็มีอนาคต

สวดมนต์ ไหว้พระมีรูปหลวงปู่ที่เคารพนับถือศรัทธา ก็เป็นพลังบวกด้านดีอย่างยิ่ง

โมทนาน้องภาสเด็กแจ้งให้ทราบแล้ว แต่เมื่อคืนปวดตาเข้ามากล่าวราตรีสวัสดิ์ไม่ไหว ยกยอดมาเช้านี้

 

เช้าวันจันทร์ พรสุพรรณฯผันมาไม่รีรอ ได้ตอบเร็วไวก่อนไปทำงาน ขอบคุณน้องน้อต เฮง เฮง มีโชคลาภที่ดี โชคดีหน้าที่การงานอย่าได้หยุดยั้ง เข้าตำรา "เก่งกับเฮง"!

 

คนใส่บาตรยามเช้ายังมั่นคงและสม่ำเสมอ แม้จะมึสื่อชั่วคอยกระหน่ำซ้ำเติมเรื่องพระสงฆ์องค์เจ้าขุดคุ้ยราวกับท่านเป็นอาชญากรของแผ่นดิน เป็นพ่อค้ายาบ้า เป็นนักต้มตุ๋นคอลเซ็นเตอร์ ฯลฯ

สารพัดที่มันจะหาประเด็นขุดขึ้นมา ยิ่งกว่าขุดค้นประวัติโคตรเหง้าศักราชตัวเองว่าเป็นใครมาจากไหน?

เมื่อหลายสิบปีก่อนที่ "โรคเอดส์" ระบาดใหม่ๆ ผู้คนหวาดกลัวทั้งประเทศ ยิ่งกว่า "โควิด" สมัยนี้หลายร้อยหลายพันเท่า!!!

เพราะ "เอดส์" คือความตายอันเชื่องช้า ทารุณและทรมาน สร้างความวิปโยคคนอยู่ข้างหลังพลอย "ตายทั้งเป็น" ไปด้วย...!

คนเป็นเอดส์ช่วงแรก จึงถูกรังเกียจทั้งจากครอบครัว คนที่พบเห็น คนรอบข้าง กระทั่งอาหาร น้ำ พาชนะ ก็ไม่มีใครสัมผัสด้วย ในความกลัวการติดต่อที่ ไม่มียาชนิดใดรักษาได้

ผู้ติดเอดส์ จึงถูกทอดทิ้งยิ่งกว่าสุนัขขี้เรื้อนข้างถนน บางรายถูกพ่อแม่ญาติพี่น้องลากไปนอนรอความตายเหมือนหมาขี้เรื้อน คนที่รู้ก็ไม่กล้าเข้าใกล้ ไม่กล้าช่วยเป็นเรื่องสุดแสนน่าเอน็จอนาถที่สุดของสังคมในยุคนั้น

เมื่อ "หลวงพ่ออลงกต" ริเริ่มโครงการต่อสู้ ดูแล รักษาคนเป็นโรคเอดส์ โดยไม่รังเกียจว่าจะแปดเปื้อนโรคร้าย ท่านจึงได้รับความชื่นชม ความยินดี รับเสียงสรรเสริญ รับความนิยมจากทุกสารทิศ รวมทั้งจากทั่วโลก!!!

ผลงานของท่านที่ผ่านมา อาจไม่เทียมเท่า "แม่ชีเทเรซ่า" ผู้เป็นเทพธิดาแห่งการเสียสละดูแลรักษาคนป่วยชั่วชีวิตจนได้รับรางวัลโนเบล...

แต่ถ้าเทียบกับการคลุกคลีผจญโรคร้าย นำความหวังใหม่ในชีวิตมาสู่สังคมเป็นโรคสังคมรังเกียจที่สุด พ่อแม่ญาติพี่น้องยังไม่เอา ตัดสินด้วยความเป็นธรรม...

ผลงาน... "หลวงพ่ออลงกต" ไม่ด้อยกว่าผู้ได้รางวัล "โนเบล" สักคน!!!

ความดีมีคุณค่า ทำคุณประโยชน์ต่อสัตว์มนุษย์ผู้ทุกข์เทวษแสนสาหัสจาก "โรคเอดส์ " และ "ยาเสพติด" ของ "หลวงพ่ออลงกต" อาจผิดพลาดบ้าง เพราะการเติบโตของสถานที่และเงินรายได้ที่คนบริจาคเข้ามา ทำให้การบริหารผิดพลาด เพราะท่านเป็นพระไม่ใช่นักบริหารต้องอาศัยยืมมือ "อาสาสมัคร" กับผู้ที่มีใจเสียสละ อยากเข้ามาช่วย

เมื่อผลประโยชน์มาก ก็ย่อมมี"คนโลภ" พวกผีเปรต อมนุษย์หวังผลประโยชน์ แฝงเข้ามาทำให้เกิดความผิดพลาดเรื่องเงินๆทองๆของบาดใจ

ส่วนด้านอื่น ขอตะโกนถามดังๆว่า...

--หลวงพ่ออลงกตเป็นอาชญากร ฆ่าคนตายหรือเปล่า?
--ท่านเป็นพ่อค้ายาบ้า ยาเสพติดหรือไม่??
--ท่านเป็นพวกค้ามนุษย์ ส่งเสริมประเวณี หรือเปล่า???
--ท่านเล่นการพนัน ผันเงินไปเล่นพนันออนไลน์-เข้าบ่อนหรือไม่???
--ท่านกินเหล้าเมายา เสพยาบ้าหรือเปล่า???
--ท่านบ้าผู้หญิง ทุ่มเงินให้หญิง ผิดประเภทหรือไม่???

ขอตะโกนถามไอ้สื่อชั่วเนรคุณแผ่นดินทั้งหลายที่พยายามขุดคุ้ย "หลวงพ่ออลงกต" เป็นยิ่งกว่าอาชญากร เป็นยิ่งกว่า "นักการเมืองขายชาติ"...!

ความดีที่ทำกับมนุษย์นับไม่ถ้วน ทำให้สังคมสะอาดมากมาย นำคนเข้าวัด เลิกยาเสพติดนับไม่ถ้วน...มันหายไปไหนหมด???

หลวงพ่ออลงกตจะเรียนจบไม่จบ มีชื่อเดิมมาจากผีหรือเปรต...สิ่งเหล่านั้นมันสร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมเส็งเคร็งยิ่งกว่าเป็นโรคสังคังตรงไหน?

คนทุกคนในโลกนี้ ล้วนมีชื่อซ้ำกับคนตาย และบางคนก็เอาชื่อคนตายมาตั้งถมเถ นับไม่หวัดไม่ไหว

ชื่อเหล่านั้น มันหนักกบาลจนกระทั่งพวกบิดามารดาของสื่อมันร้อนรุ่มกินนอนไม่หลับเชียวหรือ???

คนที่ใช้วุฒิการศึกษาผิด แต่ไม่เคยเอาไปปล้น จี้ คดโกงผู้อื่น...เขาเอาไปทำความเดือดร้อนกับสังคมเส็งเคร็งซังกะบ๊วยห่วยแตกทุกวันนี้...ตรงไหน?

หากเป็นพระก็แค่ "อาบัติ" ข้อโกหกหากเป็นคนธรรมดาทั่วไปในสังคม ใครมันจะสนใจว่า คุณมึงเปลี่ยนชื่อ ตั้งชื่อ เอาชื่อใครมาใช้ ใช้วุฒิการศึกษาจากสถาบันไหน...

ตราบที่เอ็งไม่ไปปล้นแบ็งค์ ปล้นร้านทอง ฆ่าคนตาย ขายยาเสพติด เปิดบ่อน เปิดซ่องค้าหญิง ค้ายาบ้า ฯลฯ ก็ไม่มีใครเดือดร้อนสักราย

นี่แหละคือ "มุมที่แท้" ของความจริงอันเป็นสิ่งพิสูจน์ได้ เห็นได้ และไม่ตาย ซึ่งสื่อน้ำเน่า สื่อขยะ สวะสังคมมันไม่เคย "มองมุมกลับ-เขียนเรื่องจริง" ให้สังคมเข้าใจ ได้แต่โขกสับคนดีอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยเฉพาะกับพระสงฆ์ที่ไม่มีทางสู้

ต้องจัดการกับสื่อเดรัจฉานพวกนี้เสียที ขุดคุ้ยดูว่า ไอ้พวกเล่นแรง เล่นข่าวข้ามเส้นความเป็นสื่อมวลชนที่ดีนั้น...

ระดับ "หัวหน้าข่าว" ของสำนักนั้นเป็นใคร? นับถือศาสนาหรือลัทธิผีเปรตอะไร??และรับงานเดรัจฉาน เดียรถีย์ตัวไหนมาทำลาย "พระสงฆ์-ศาสนาพุทธ"???

คุ้ยมันบ้างให้ถึงแก่น ถึงกึ๋นแล้วหาวิธีจัดการลงโทษพวกมัน!!!!

และอย่าลืม ช่วยส่งข้อเขียนนี้ไปให้พวกแก่ใกล้ตะบันน้ำข้าวกินใน "มหาเถรสมาคม" บางคนที่แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน หลงเหลี่ยมพวกต่างศาสนา จนออกกฏทุบหม้อข้าว ทำลายทำร้ายศาสนาพุทธที่ตัวเองอาศัยเติบโต ได้ดีมียศช้าง ขุนนางพระ ให้คนเหล่านั้นอ่านด้วย

ไม่ต้องเกรงอกเกรงใจกันละว่าเป็นเถระหรือผีห่มเหลือง ตราบใดที่ไม่ออกมาปกป้อง "พระสงฆ์-วัด-ศาสนาพุทธ" ต้องด่าและด้อยค่าให้มันตายคาชามข้าวไม่มีคำว่ากลัวบาปหรือหยุด

เพราะคนที่ทำร้ายทำลายพระศาสนามันเข้าข่าย "อนันตริยกรรม" บาปสาหัสไม่มีบุญใดมาลบล้างได้ ตกนรก ห้าร้อยชาติ พันชาติ โกฏชาติ ขุมลึกที่สุดยิ่งกว่าพวกเราที่ออกมาปกป้องพระกับพระศาสนา เทียบความบาปกันไม่ติด

เราอาจตกนรกเป็นเปรตปากเท่ารูเข็ม ข้อหาด่าพระหงำเหงือกบ้าง ก็ช่างมัน ต่อสู้เพื่อพระพุทธศาสนาจะไปเกรงกลัวอะไร???

 

เลขจัดส่งวันนี้

--ED 4475 2934 9 TH สังขะ
--ED 4475 2937 0 TH สังขะ
--ED 4475 2938 3 TH ภาษีเจริญ

 

วันที่ ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

บุญใส่บาตรเป็นปกติยามเช้า ช่วงนี้ข่าวใหญ่ในความสนใจคนไทย หนีไม่พ้นเรื่องชายแดนที่เขมรมันเริ่มก้ำเกินทุกวิถีทาง ใช้ชาวบ้านตาดำๆคนยากไร้เป็นหัวหอก ยั่วยุทหารไทย ด่าว่าคนไทย ไม่ยอมเว้นวรรค มีการกำแหงรื้อลวดหนามที่จะตัดสินอย่างไร มันก็ผิดเต็มประตู

ส่วนระดับบน จัดประชุมเจรจาความเมือง มันเล่นมาตอนเที่ยงคืน สงสัยโคตรบิดามารดามันชำนาญประชุมเจรจาเรื่องสำคัญตอนมิดไนท์ ประชุมเสร็จแล้วถอดเสื้อผ้าขึ้นเตียงนางบำเรอประสาไอ้เจ้าเจี้ยวแต่งตั้งตัวเอง "ฮุนชั่ว" มันถนัด!!!

ยังดีที่เรื่อง "ชาติ" เรามีทหารที่เข้มแข็ง ระดับล่าง-บนล้วนเลือดนักรบเลือดรักชาติระอุ พร้อม "บวก" กับชนเผ่าอดีตทาสอดีตขี้ข้าทุกเมื่อ และท่าทีอาจต้องมีรอบสองจริงๆ แถว "สระแก้ว" ที่มันหนักข้อทุกวัน

นั่นเป็นเรื่อง "ชาติ" มาดูอีกสถาบันคือ "ศาสนา" น่าเสียดายที่ถูกคุกคาม ขยี้ป่นปี้ด้วยน้ำมือไทยชาวพุทธบางคนที่ใช้สถานะผู้ใหญ่ไม่ถูกเรื่อง กลายเป็น "เครื่องมือ" ของพวกบ่อนทำลายที่ทำทุกวิถีทางในการทำให้ วัด+พระสงฆ์ อ่อนเปลี้ยเสียศูนย์ ไปเข้าทางมารศาสนาที่ป่านนี้ นั่งสุมหัว หัวร่อกันชนิด "ผ้าคลุมหัว" กระเด็นเพราะสะใจกับความโง่เขลาเบาปัญญาของ "ผู้ใหญ่ชาวพุทธ" !!!

ที่น่าห่วงก็คือเรื่องการต่อสู้เพื่อปกป้องพระกับวัดและใหญ่สุดคือ "พระศาสนา" เราไม่มี "หัวหอก" ออกมาเป็นฝ่ายต้านจริงจัง ต่างคนต่างทำ แล้วยังมีพวก "มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ" ผสมโรงเหยียบซ้ำอีกต่างหาก

คนที่ต่อสู้อยู่เวลานี้ ยังขาดพลังและสถานะทางสังคมก็ไม่เพียงพอต่อกร ชาวพุทธอีกมากส่วนใหญ่ได้แต่มองเฉย เข้าตำรา"คนดีนิ่งเฉย สังเวยคนชั่ว"

บ้างก็คิดว่า ประเทศเรา พุทธศาสนาเป็นใหญ่อยู่แล้ว ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครล้มได้ ช่างเป็นความคิดที่ผิดพลาดมหันต์ และทำให้ศัตรูแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน กว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ว!!!

ร่วมอนุโมทนาบุญวันนี้ ฝากไว้แด่ชาวพุทธที่แท้ พระพุทธศาสนาเป็นอีกหนึ่งสถาบันหลัก ถูกคุกคามรุนแรงเห็นๆไม่แพ้ "สถาบันชาติ" หาก 2 เสาหลักนี้ล้มครืนไป นึกหรือว่า ปราการด่านสุดสุดท้ายอีกสถาบันจะอยู่รอดฤาไหว?!?

 

รูปนาง"อัปสร"ลายดุนทอง
เทวีผู้เลอโฉมแห่งสวรรค์!
===============

จัดมอบภาพยันต์จตุคามพร้อมกรอบรูปอย่างงามสูงค่าไปแล้ว 2 รายการ ขอต่อกันด้วย ภาพ "นางอัปสร" เทวีเลอโฉมสำนักองค์อินทร์แห่งดาวดึงส์ ความงามที่แลตะลึงทั้งเทวดาและอสูรล้วนสยบ

ตำนาน "นางอัปสร" เริ่มจากศาสนา "พราหมณ์" ปัจจุบันศาสนา "ฮินดู" พวกเธอเกิดจากการกวน "เกษียรสมุทร"(มหาสมุทรน้ำนม)เพื่อหาน้ำอมฤต

เหล่า "นางอัปสร" ล้วนเลอโฉมใน 3 โลก มีความสามารถด้านดนตรี ร้องบรรเลงและร่ายรำ บางนางมีหน้าที่ นำ...

***"ดวงวิญญาณบุรุษที่สละชีพในสมรภูมิขึ้นสู่สรวงสวรรค์"!***

ข้อหลังนี้ทำให้ "นางอัปสร" แม้จะไม่มีอิทธิพลมากในด้านความนับถือเรื่องขลังศักดิ์สิทธิ์มีอิทธิฤทธิ์ แต่ก็ทำให้พวกเธอมีอิทธิพลต่อคุณค่าสูงลิ่วในจิตใจของบุรุษตั้งแต่ชาวดินถึงชาวฟ้า

การสร้างรูปปั้น และรูปแทนตัว "นางอัปสร" จึงกำเนิดมาหลายพันปี ด้วย "ศิลปะขอม"...!

*** อนึ่ง พึงทราบให้ชัดเจนว่า คนไทยเคยชินกับการเขียนถึง "ศิลปะขอม" ว่าเป็น "ศิลปะเขมร" ในระยะหลัง...ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างมหันต์ที่สุด เพราะ เขมรไม่มีศิลปะ เป็นชนชาติมาจาก "ทาส" ที่ถูกจับมารับใช้ "ขอม" กับ "เสียม"(สยาม)

ดังนั้นเขมรชาวป่าดง ชาวเกาะ จึงไม่เคยมี "ศิลป+วัฒนธรรม" ใดๆเป็นของตนเอง หรือมีจิตวิญญาณรังสรรค์สิ่งล้ำค่าทางวัตถุ ทางวัฒนธรรมประเพณีขึ้นมาได้ ทุกอย่างล้วนรับสืบทอดมาจาก "นายทาส" คือ "ขอม" กับ "เสียม"(สยาม) ทั้งสิ้น!!!

กรุณาทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ถูกต้อง และหวังว่า สืบต่อไป คงไม่มีใครเผลอเรอเขียนถึง "ศิลปะขอม" ว่าเป็น "ศิลปะเขมร" อีกเป็นอันขาด ไม่ว่าจะเป็น..."พระเครื่อง-วัตถุมงคล-ปราสาทหิน-ภาพแกะสลัก-เทวรูปขอมทุกยุคทุกขนาด" !!!

กลับมาชม ภาพแอนทีคงดงามล้ำค่า สูงค่าในหมู่นักสะสม ซึ่งออกประมูลขายกันทาง เว็ป "อีเบย์" ระดับอินเตอร์ ราคาหลักหมื่น..

สำหรับภาพ "นางอัปสร-ดุนลายทอง-ลงทอง" ฝีมือสุดวิจิตรเลอเลิศของช่างชาวไทย อายุไม่ต่ำกว่า 70 ปี ภาพนี้ มอบให้เป็นสิ่งประดับงดงามที่สุดในห้องทำงาน หรือห้องรับแขก หรือประดับเป็นเฟอร์ฯที่มีรสนิยมในบ้าน ด้วยราคาอยากจะมอบให้เพียง...

=======2,000=======

ภาพขนาดใหญ่ ความสูง 30 นิ้ว หากรวมกรอบไม้สักอย่างดีอายุเกิน 60 ปี ก็จะสูงกว่าสามสิบนิ้ว

ความกว้างจากด้านในภาพ 15 นิ้ว เป็นภาพที่สูงน้องๆเด็กอายุ3-4 ขวบรวมแล้ว 15 นิ้ว × 30 นิ้ว

*** "นางอัปสร" หรือ "อัปสรา" (Apsara) แปลว่า "ผู้ที่เคลื่อนไหวในน้ำ" หรือ "ผู้อาศัยอยู่ในน้ำ" เป็นคำมาจากภาษาสันสกฤต***!

ถ่ายทอดฝีมือการ "ดุนทอง-ลงทอง" ฝีมือช่างวิจิตรศิลป์รุ่นก่อนปี 2500 งาน "แฮนด์ เมด" ทั้งดุ้น ให้ชม ด้วยการจับภาพชัดๆทีละส่วนมาต่อกัน

ทองที่ลงยังติดเต็ม เพราะใส่กรอบกระจกรักษาไว้อย่างดีเกินครึ่งร้อยปี !

อีกหนึ่งภาพจับตั้งพิงกับข้างฝา ถ่ายให้ชัดยากพอควรกับเครื่องมือที่ล้าหลังและฝีมือสมัครเล่น ด้านหลังกรอบ มีที่แขวนอย่างดีแข็งแรง

สำหรับการจัดส่ง ถือว่าไม่ง่ายนัก เช่น กรอบภาพยันต์จตุคาม 2 ชิ้นหลังสุด นำไปแพ็คที่ไปรษณีย์ไทย ก็ไม่ยอมแพ็คให้เพราะเป็นกรอบใหญ่เกินพัสดุที่เขามี และเป็นกระจก เจ้าหน้าที่กลัวแตก ไม่อยากรับผิดชอบ ต้องให้เรานำไปแพ็คเอง เรื่องจัดส่งไม่มีปัญหา

ดีที่ว่าม้าด่วนมีความชำนาญการพลิกแพลง ตระเวณหากล่องใหญ่ที่เหมาะสม ตัดให้พอดีกับภาพแล้วอัดโฟม อัดกระดาษกันกระแทก แพ็คได้ชนิดต้องปาดเหงื่อพักใหญ่

สำหรับภาพนี้ ม้าด่วนคนเก่งบอกว่า สามารถแพ็คส่งได้ เพราะจับทางได้ จึงตัดสินใจนำลงให้สมาชิกชมและพิจารณา เนื่องด้วยอายุมากแล้ว การดูแลรักษาเริ่มยุ่งยากสำหรับข้าวของชิ้นใหญ่ สู้มอบให้คนรุ่นหลังต่อไปดีกว่า

เชิญพิจารณาตามอัธยาศัย ชอบและมีเป้าหมายที่จะแขวนให้งดงามในบ้าน หรือจะนำไปทำกำไรก็ตามสบาย จะชื่นชมความงาม "อัปสรเทวี" เป็นกำไรทางสายตา เสริมความรู้ประดับเล็กน้อย ก็มิหวงห้าม ไม่ผิดกติกา!

และส่งท้ายขอฝาก "เทวีอัปสร" ทำหน้าที่สำคัญ ช่วยนำดวงวิญญาณทหารกล้าชาวไทยที่สละชีพเพื่อชาติสมรภูมิชายแดน ขึ้นสู่สรวงสวรรค์ทุกท่านด้วยเทอญ !!!