Featured เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

สุขแล้วสุขอีก ราบรื่นชื่นมื่นยกกำลังสองกับพรดีศรีสุพรรณฯที่เดินทางมาทุกวันจันทร์ รับพรนี้แล้ว จักบังเกิดความปลอดโปร่งโล่งในงานอย่างไม่ติดขัดตลอดทั้งสัปดาห์

 

ผ้ายันต์รัตนจักร หรืออาจเรียกว่า "ไตรจักร" ก็ยังไหว เป็นจักรแห่งสามโลก ความหมายยิ่งใหญ่ครอบคลุมครบด้าน "หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน" ทำได้ขึ้น-ขลัง ฉมังเดชระดับผ้ายันต์แถวหน้าเมืองไทย ผืนก็พอเหมาะกำลังดีสำหรับใส่กระเป๋าพกพาสะดวก

มีจักรแห่งพระรัตนตรัย เสมือน "จักรนารายณ์" ไม่ทำร้ายใคร แต่ผู้ใดบังอาจคิดมุ่งร้ายหมายขวัญ ให้คุณไสยต่ำช้าใส่ มีหวังโดน "จักร" สะบั้นหั่นขาด และสะท้อนกลับย่อยยับอัปราชัยน่าเวทนา!

โมทนาน้องเส ขออนุญาตจัดท่านเดินทางวันอังคาร วันนี้ออกบ้านเร็ว ลืมหยิบท่านติดกระเป๋าเอกสาร

 

วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันอังคาร แรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

ฝนหนาวโปรยปรายมาตามคำทำนายแม่นยำกรมอุตุฯที่บอกว่า 17-18 นี้จะมีฝนหลายจังหวัด ทางใต้ก็เห็นชัดว่าพระบิณฑบาตยามเช้าบนพื้นถนนเปียกชุ่ม

เมื่อเทวดาพรมน้ำมนต์พอประมาณ เราก็ร่วมอนุโมทนารับน้ำศักดิ์สิทธิ์จากฟากฟ้า ให้เป็นวันอันสดชื่นอิ่มเอิบบุญ กลางลมหนาวโชยและสายฝนพรำ

 

สมเด็จขาโตะฝังพลอย-เกศา
'หลวงปู่โต๊ะ-พ่อกวย'เสก ปี12
===============

เป็นที่ทราบกันดีในประวัติ "สมเด็จวัดราชนัดดา" สร้างโดย "มหาโกเมศ" มีจำนวนหลากหลายพิมพ์และรูปแบบในปี 2512 รวบรวมคณาจารย์ระดับแถวหน้าประเทศไทยช่วงนั้นร่วมเสก และต่อเนื่องในพิธีใหญ่ปี 2515 งานพระพุทธบาทอีกครั้ง

พระสมเด็จเนื้อผงพุทธคุณและผสมผงน้ำมันส่วนใหญ่นำจำหน่ายองค์ละสิบบาทหลายพิมพ์ แต่มีพิมพ์พิเศษ "สร้างเฉพาะตน" ไม่จำหน่ายก็มาก

ยกมาให้ชมคือ "พระสมเด็จจัมโบ้-ขาโต๊ะ-ฝังพลอย-เกศา" เข้มข้นเนื้อหาผงพุทธคุณล้วน

สร้างเพื่อมอบเป็นพระสมเด็จบรรจุ "พลอยประจำวัน" ตามราศี 7 วัน 7 อย่าง มอบผู้มีอุปการะคุณ จำนวนหลักสิบ ไม่มีจำหน่ายเพราะ เนื้อผงล้วน พลอยเสกทีละเม็ด ไม่ใช่พลอยโปรยเลอะเทอะสะเปะสะปะอย่างที่เห็นกัน

องค์นี้ เป็นพระสมเด็จฝังพลอยม่วง(แอเมธีสต์-Amethyst)เพื่อคนเกิดวันเสาร์!!!

"ภาพเล่าเรื่อง"...ชมเป็นความรู้ ดูเพลิน อยากบูชาเป็นสิริตามราศีวัน ก็เชิญ...

=======1,500=======

ขาโต๊ะ จัมโบ้ เนื้อผงพุทธคุณสีน้ำตาลล้วนๆ สร้างได้น้อยเพราะสิ้นเปลืองเนื้อหาที่ไม่มีส่วนผสมนอกตำรา

อายุความเก่าที่เกินกว่าครึ่งศตวรรษ ส่งคราบแป้งโรยพิมพ์ผุดขึ้นประปรายตามซอกอย่างงดงาม ลึกซึ้งนวลตา แป้งโรยพิมพ์เหล่านี้จะบังเกิดเฉพาะในเนื้อผงพุทธคุณยุคเก่าและผง 5 ประการ ที่สร้างถูกต้องตามตำราเท่านั้น !!!

คณาจารย์ร่วมพิธียิ่งใหญ่ไม่น้อยหน้าพิธีอื่นใด...

--หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
--หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
--หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
--หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง
--หลวงพ่อพุธ เจ้าคณะจ.อุทัย
--ลพ.เชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ
--หลวงปู่นาค วัดหนองโปร่ง
=====ฯลฯ=====

ขยายชมพลอยม่วง'แอเมธีสต์'
กับเส้นเกศาสวยเด่นชัดที่ฐาน

เนื้อผงที่มีเม็ดผงพุทธคุณลอยฟ่องชวนส่องตื่นตาทั้งแผ่น ยืนยันว่าพระผงชั้นยอดล้วน ไม่มีส่วนผสมอื่นเข้ามาช่วย นอกจากตัวยึดประสานเนื้อ

เป็นสมเด็จจัมโบ้ขาโต๊ะ ที่เนื้อผงพุทธคุณอลังการงานสร้างที่สุด คือคำตอบว่า ทำไมสร้างได้น้อยองค์?!?

พลอยสีม่วงเม็ดโต
กลางองค์ด้านหลัง

2ด้านข้าง
สุดยอดผง
เห็นตาเปล่า
สวยสมบูรณ์
ไม่มีหักซ่อม

ขนาดจัมโบ้ โตกว่าพิมพ์ทั่วไป
แต่ไม่ใหญ่เกินจนเสียความงาม

เคล็ดของ "พลอยสีม่วง" เป็นอัญมณีเสริมด้าน "อำนาจ" เสริมเรื่องบริวาร และผู้คนรักใคร่ ยำเกรง!!!

ยิ่งเป็นอุปเท่ห์ "เอบวก" ถูกโฉลก คล้องจองเหลือหลายกับ "คนวันเสาร์" ซึ่งจะใช้ พลอยสีดำ จำพวก "นิล" ก็ได้!

 

เลขจัดส่งวันนี้

--ED 6643 8585 2 TH จตุจักร

 

วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันพุธ แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

* ลมหนาวโชย..โปรยฝนพรำ
ลมเริงรำ.........นำร้อนหนี
สีสันหม่น......บนบทกวี
แท้หนาวนี้...ที่รอคอย!

อากาศยามเช้าเย็นชื่นใจ สมองโปร่งโล่ง บทกวีน้อยปะทุขึ้นมาง่ายๆ ถือซะว่าต้อนรับลมหนาวที่จะมาเยือนสักกี่วันก็มิทราบ แต่ยังดีกว่าไม่มาเยี่ยมเอาเสียเลย

สบายกาย สบายใจแล้ว ไปร่วมอนุโมทนาบุญใส่บาตรยามเช้า ให้จิตเสวยอารมณ์เป็นหนึ่งเดียว มีความอิ่มเอิบกับพลังบุญเล็กๆ แต่สั่งสมไว้นานเข้าก็เป็นบุญกองโต อย่าประมาทอย่าทำเป็นเล่น!

 

หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา
"ผงนางพญาซุ้มเส้นคู่"-ปี 11
===============

ปี 2511 หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา สร้างพระหลากหลายเข้าขั้น "ทิ้งทวน" มีพระเนื้อผงจำนวนมากพิมพ์ อาทิ...

--พระนางพญาสามเหลี่ยม หลังเรียบ-หลังยันต์อุ
--พระสมเด็จหลังกดเหรียญ
--พระสมเด็จหลังยันต์อุ
--พระสมเด็จหลังเรียบ
--เหรียญรุ่นสุดท้าย ฯ

มวลสารประเดประดังด้วย ผงพุทธคุณที่ท่านสร้าง-เสก สะสมไว้ยาวนาน ผงว่าน 108, เกสรดอกไม้มงคลหลากสายพันธุ์,ผงธูปบูชาพระประธานในโบสถ์,ผงตะไบพระหน้าเสือราคาหลักล้าน,แร่อาถรรพ์เกาะล้าน บดละเอียด ฯลฯ

หลวงพ่อน้อย (ควรเรียกจริงๆว่า"หลวงปู่) เพราะท่านทุ่มเทพลังญาณบารมี ไม่สนสังขารปัจฉิมวัยเพื่อเสกรุ่นนี้ ก็อายุ 81 ปีเข้าไปแล้ว และมรณภาพ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2513 สิริอายุ83 ปี พรรษา 67

เดือนนี้เพิ่งผ่านวันมรณภาพท่านมาได้ 2-3 วัน (ครบรอบละสังขาร 55 ปีพอดี) ถือเป็นการรำลึกถึงยอดเกจิอาจารย์ผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองเจดีย์ใหญ่ ข้าวหลามอร่อย มีวัตถุมงคล "หลักล้าน" ไม่เคยด้อยกว่าท่านใด!!!

มอบ "พระสมเด็จนางพญาซุ้มเส้นคู่" องค์งาม เคารพ ศรัทธา รำลึกหนึ่งยอดคณาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่...

=======800=======

เนื้อผงนางพญาองค์งามจัด ใบหน้าติดชัดทุกส่วนสัด ซุ้มเส้นคู่เต็มไม่เว้าแหว่ง หลายจุดมีผงพุทธคุณเห็นชัด กับผงตะไบทอง!

หลังเรียบไม่มียันต์ ขอบข้าง "ลั่น" ตามตำราและประสา พระเนื้อผงชั้นดีที่มีอายุสร้างเกินกว่า 57 ปี การลั่นนั้นไม่ชำรุดแต่อย่างใด

2 ข้างหนาสมบูรณ์
ตั้งได้ เนื้อหาเยี่ยม

ขนาดเหมาะเจาะ ผู้หญิงบูชาได้
ผู้ชายใช้ดีเป็นมหาเสน่ห์-องค์จริง
งามกว่ามาก-ภาพถ่ายสะท้อนแสง

 

เมื่อวานฝนพรำๆ วันนี้ฟ้าครึ้มๆ ช่วงก่อนค่ำขณะนี้ 17.00 น.อากาศเย็นเหมือนติดแอร์เลยครับ

 

พ่อแม่บางคนก็ไม่มีศีล เป็นครอบครัวไม่มีศีล
ติดการพนัน เสพสุรา ยาเมา เที่ยวกลางคืน
ด่าเช้า ด่าเย็น นี่ เห็นกันอยู่
เหล่านี้ก็ไปโทษเวร โทษกรรม
นี่ก็เรียกว่า มีเหตุผลอยู่บ้าง
อาจเป็นเพราะ เวรกรรมส่งผล
ฉนั้น ต้องหยุดเวร หยุดกรรม
โดยการ เป็นพ่อเป็นแม่ที่ดี เป็นตัวอย่างที่ดี
ไม่เล่นการพนัน ไม่เสพสุรา ไม่เที่ยวกลางคืน
ไม่ด่าเช้า ด่าเย็น คือมีศีลห้า มีอาชีพสุจริต
ทำบุญทำกุศล ตามฐานะของเรา
รักษาศีล กาย วาจาใจ นี่ทำได้ไม่ยาก
จะได้เป็นแบบอย่าง แก่ลูกๆ หลานๆ
ควรทำอย่างยิ่ง

(หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี)

 

วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

อากาศติดแอร์เมืองเหนือ เป็นอากาศในฝันของคนเมืองกรุงป่าคอนกรีต ได้เจอแบบนั้นนานหน่อย ประหยัดค่าไฟแอร์แต่ละวันได้มาก อีกสักพักเมืองเหนือคงเย็นจัดเข้าขั้นยะเยือก

ช่วงนี้เมืองกรุงสวิงมาเย็นบ้าง แต่ก็ยัง 20 กว่าองศา ไม่ถึงกับหนาว แค่เย็นชื่นรื่นฤดีเล็กน้อย ดีกว่าไม่เย็นเอาสียเลย อยากเห็นอุณหภูมิ "ต่ำสิบ" สักครั้งใน "กรุงเตป" คงได้แต่ฝัน-ฮ่า

 

อุตุฯเธอบอก ปักษ์ใต้จะมีฝนชุกไปถึง 23 พ.ย. เช้าวันนี้ถนนหนทางแห้งน้ำ เต้นท์บุญริมบาทวิถี มีชีวิตชีวา ทำบุญสบายใจไร้ฝนรบกวน ชวนกันร่วมอนุโมทนาวันนี้ รับบุญดีๆวันธรรมสวนะ

 

'หลวงปู่' ตักเตือนพ่อปู-แม่ปู
จงทำตนเป็นแบบอย่างลูกๆ...

** พ่อแม่ปู...เดินดูเป๋
ออกทะเล.....หันเหหลง
ผุยผงพ่าย...วอดวายวงศ์
ยากยืนยง...ส่งสืบสาย
--พ่อแม่ครู.........ลูกดูเยี่ยง
--ประพฤติเที่ยง..เลี่ยงเลวร้าย
--อบายชั่ว.........มัวเมามาย
--มิกล้ำกราย......ทำลายลง!

 

"ท่านท้าวเวสสุวรรณ"-เนื้อนวะ
"อาจารย์วร"ตำรับ"เจ้าคุณศรี"
===============

"อะ แมน บีฮายด์ ( A Man Behide) คนที่ชอบอยู่เบื้องหลัง ไม่ชอบออกหน้า แต่เป็นบุคคลสำคัญท่านหนึ่งในการ กระทำพิธีกรรม รูปหล่อ กริ่ง และวัตถุมงคลเนื้อโลหะทุกชนิดตามตำรับตักศิลาเสาชิงช้า"วัดสุทัศน์" คือ...ท่าน"อาจารย์วร" !!!

ลูกศิษย์ลูกหาคนยุคเก่ารู้ดี งานใหญ่ของท่านเจ้าคุณศรี(สนธ์) ตั้งแต่ก่อนปี 2500 ขาด "มือขวา" คือท่านอาจารย์วรไม่ได้เลยทุกขั้นตอน

"ท้าวเวสสุวรรณ" ท่านเจ้าศรี(สนธ์) ที่เล่นกันแพงเป็นอันดับ 1 ประเทศไทย และเข้มขลังพลังเทพสาย"มู"ที่สุด ก็มีท่านอาจารย์วร ดูแลทุกกรรมวิธี ผสมเนื้อตามตำราสมเด็จพระสังฆราชแพ ดูแลเตาหลอม ดูแลความเรียบร้อย รวมทั้งพิธีปลุกเสกมิให้บกพร่อง

ท้าวเวสสุวรรณองค์ใหญ่ องค์จริงนั้น สถิตอยู่ที่วัดสุทัศน์ฯ เสาชิงช้ามาเนิ่นนานแล้ว ก่อนที่จะบังเกิด "ท้าวเวสสุวรรณ ฟีเวอร์" ในหมู่นักสะสมสาย"มู" ประเทศนี้

เมื่อท่านเจ้าคุณศรี(สนธ์) ละสังขาร อาจารย์วร ก็เป็น "จอมขมังเวทย์-เร้นกาย" มีลูกศิษย์ลูกหาเคารพเชื่อถือในฝีมือ มากกว่า พวกอุปโลกน์ กะโหลกกะลาที่อาศัยผ้าเหลืองหากินหลายรูป

ในวาระที่อาจารย์วรอายุครบ"แซยิด" ปี 252-กว่า เหล่าศิษย์ที่มีฐานะ รวมตัวกันจัดหาโลหะมีค่า ทองคำ เงิน และทุกชนิดตามตำราให้หล่อ "ท้าวเวสสุวรรณ" ตามตำรับวัดสุทัศน์ฯดั้งเดิมเป็นที่ระลึก แต่ละเนื้อสร้างเพียง 60 ตนเท่านั้น!!!

เนื้อนวะโลหะ 1 ใน 60 ตามพิธีมหาเวทย์สาย"มู" ตำรับเสาชิงช้าขนานแท้ มีมาให้ชมและให้ร่วมบุญบูชา ด้วยราคาที่ต่ำกว่าเหล่าศิษย์บูชากันวงในนับสิบเท่า...

ชมชุด "ภาพเล่าเรื่อง" ต้องการนำท่านไป "มู" ให้สัมฤทธิ์ผลในเรื่องที่ปรารถนาก็เชิญ...

=======2,500=======

เปิดหน้าเทียบกับ "ท้าวเวสฯ" เจ้าคุณศรี(สนธ์) ซึ่งอจ.วร เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสร้างในปี 2491ต่อเนื่อง 2492 ราคาหลักแสน

ขอบคุณภาพชุดจาก "พจนานุกรมภาพพระเครื่อง" ชนะประกวดปี 2530 ห้างพาต้า ปิ่นเกล้า หนังสือเล่มแรกที่พลิกโฉมปฏิวัติการจัดทำหนังสือ"ประกวดพระ" ให้ทุกสำนักเดินตามเป็นแบบอย่าง และไม่มีภาพ "พระเก๊" แม้แต่องค์เดียว!!!

อ้อ...ปีที่ประกวดงานใหญ่สุดของประเทศ "สมาคมพระเครื่องฯ" ไม่ทราบเป็นวุ้นอยู่หนใด???

ชม "ท่านท้าวเวสฯ-อาจารย์วร" ให้เต็มตา ยกไปเทียบกับของ "เจ้าคุณศรี(สนธ์)ได้เลยว่า...เป็น "คู่แฝด-คนละฝา" ชัดเจน แตกต่างเพียงเนื้อหา "ท้าวเวสฯ-เจ้าคุณศรีฯ" ส่วนใหญ่เป็นเนื้อทองผสม โลหะผสม เนื้อออกเหลืองอมแดงตามตำรับวัดสุทัศน์ฯ

ของ "อาจารย์วร" องค์นี้ พิเศษเป็น "นวโลหะเต็มสูตร" แต่เนื้อใน คงเอกลักษณ์แก่ทองคำไว้ ตามสูตรดั้งเดิม ที่ยากจะมีใครเลียนแบบได้เหมือน หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ผ่านงานด้านนี้มาอย่างโชกโชน!

"ท้าวเวสสุวรรณ" นวโลหะรูปนี้งดงามมาก เพราะวางท่านไว้ในกล่องแท่นบูชาเทพเฉยๆ ไม่เคยหยิบท่านออกมาพกติดตัว เพราะเสียดายความงาม เท่ากับเสริมเพิ่มพลังเทพให้ท่านจากการสวดมนต์ทุกบทมาหลายสิบปี!!!

งามทุกอณู ไม่ว่าด้านหน้าหรือแผ่นหลัง ไม่เลียนแบบสำนักใด เพราะ "ท้าวเวสฯ" ต้นตำรับองค์จริงนั้น กำเนิดมาจาก วัดสุทัศน์ฯนี่เอง การออกแบบสร้างของสำนักเสาชิงช้า ถอดรูปแบบมาจากองค์ใหญ่องค์จริงในวัด

"ท้าวเวสฯ" ทุกสำนักในประเทศ เกิดทีหลังทั้งสิ้น!!!

ชมภาพเต็มขนาด ท่านเล็กประมาณข้อนิ้วก้อย แต่ไม่ "จิ๋ว" ขนาดเท่ากับต้นฉบับดั้งเดิมที่แสนแพง จ่ายทีไรตากลับ และมีโอกาสโดน"น็อคคาเขียง" กับฝีมือเลียนแบบขั้นเทพเช่นกัน

ชมสีผิวใต้ฐาน"นวโลหะเต็มสูตร"
ทิ้งเคล็ด"แก่ทองคำ"ไว้ให้ศึกษา
ฝีมือระดับบรมครูผู้อยู่เบื้องหลัง

แถมความงาม
ด้านข้างทุกมิติ
ดูเพลินจำเริญตา
1ใน60รูปเมืองไทย!

 

รับครับ
ได้โอนร่วมบุญและแจ้งคุณน้ำฝนแล้ว ครับ
ขอบคุณครับ

 

ท้าวเวสฯแสนงาม เนื้อหาจัดจ้านตรงตามตำราโลหะศาสตร์ขนานแท้แห่งตักศิลาเสาชิงช้า อยู่หน้าจอไม่นาน ก็รับการนิมนต์ไปโดยท่านเจ้าคุณศรี...เอ้ย ประทานโทษ คุณศรีฯ

ให้ชมเปรียบเทียบระหว่างของท่านอาจารย์วร กับองค์ชนะเลิศประกวด 3 องค์ปี 2491 ที่สร้างโดย"เจ้าคุณศรีฯ" มีอาจารย์วรเป็นมือขวาไปแล้ว

ขอชี้ให้สังเกตุดูที่การ "วางแขนจับกระบอง" ทั้ง 2 ยุคสมัยซึ่งสร้างโดยคนเดียวกัน

จะเห็นว่า วิธีวางแขนทั้ง 2 ข้างเหมือนกันเด๊ะทั้งยุคใหม่กับยุคเก่า...แขนแนบชิดลำตัวไม่มีช่องโหว่เป็นรูแขน ซึ่งเป็นสไตล์สำคัญ แตกต่างจากท้าวเวสฯสำนักอื่นๆ

ส่วนการยืนก็แนบชิด ขาทรงเดียวกัน "แท่นประทับ"ยืนวางกระบอง โครงสร้างเหมือนทุกอย่าง เว้นแต่เครื่องทรงที่อาจารย์วรเพิ่มเติมเข้าไปเล็กน้อยประสายุคหลังที่ต้องสวยงามอลังการกว่า นอกนั้นก็เหมือนกันหมด

ยืนยัน ฝีมือช่างคนเดียวกัน แม้จะสร้างห่างกันเกิน 20 ปี!!!

โมทนาและยินดีกับคุณศรีฯผู้ครอบครองดูแลท่านต่อไป จัดส่ง "จ้าวแห่งขุมทรัพย์" และ"นายหัว" ของเหล่าภูติผีปิศาจทั้งหลาย เดินทางเข้าบ้านเป็นศิริมงคลพรุ่งนี้ครับ

 

เมืองชุมพรโชคดีมากครับ ตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันที่ 18 เริ่มมีลมพัดมาค่อนข้างแรง ฝนหยุดตั้งแต่ช่วงนั้นมา จนถีงขณะนี้ ทำให้เมื่อวานกลุ่มฝนเลื่อนขยับลงใต้แทน ตั้งแต่หลังสวน พะโต๊ะ ละแม ลงไปสุราษฎร์ฯ และนครศรีฯ ต้องขอบคุณลมที่ช่วยดันฝนลงไป

เช้าวันนี้มีแต่ลมอ่อน ๆ และอากาศที่เย็นลง ดูจากเรดาร์ชุมพรยังไม่มีกลุ่มฝนครับ



ฝนได้เคลื่อนลงภาคใต้ตอนล่างแทน

 

วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือนอ้าย(๑) ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล