เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

​

เจ้าของพระธาตุกายสิทธิ์ หรือแร่โคตรเศรษฐี ​

 

ของปลอม ของหลอกลวง หมายความรวมถึง พระเครื่องวัตถุมงคล ที่ไม่เคยมีในยุคนั้น สมัยนั้น แล้วนำมาอุปโลก หลอกลวงชาวบ้านว่า ทัน หรือ อยู่ในยุคนั้น สมัยนั้น และหมายความรวมถึง ทำของเทียม เลียนแบบ ออกมาคล้ายของจริง แต่ไม่เหมือน ผิดทางธรรม มุสาวาทา ผิดทางโลก ฉ้อโกง หวังเพียงเพื่อให้ได้ทรัพย์จาก กระเป๋าของผู้อื่น มาอยู่ในกระเป๋าของตนเอง ​

 

กราบพระศรีวิไล สมเด็จพระศรีอาริยะเมตไตรย สมเด็จองค์ปฐม ​

 

โคตรเศรษฐี รุ่น ๑ ของแท้

ยังพอหาได้

 

เล่าด้วยภาพ




จะไม่เน้นแล้วว่า ทำอะไรทำจริง มีหลักฐาน แต่เอาว่าผมมาเล่าประวัติศาสตร์ดีกว่าครับ

ไปค้นเอกสารเก่า เก็บไว้ อ้างอิงในอนาคต

ภาพแพมาอยู่ที่หน้าวัด หมดเงินชาวบ้านและ ผม ไป แค่ ๑๐๗,๘๓๘ บาทครับ

ท่านที่เป็นช่างคงไม่เชื่อ ค่าเหล็ก ค่าถัง ค่าเสาก็ไม่พอแล้ว สำหรับสองแพ

แต่ไม่ต้องจ่ายสักบาท บารมีหลวงตาเล็ก เขาบริจาคฟรีหมด หมดแต่ค่าแรงครับ

ไปทำพ.ศ. นี้ยกไปลงน้ำด้วย ตอกเสาในน้ำเพื่อตึงแพ ทั้งหมด ต้องถึง ๑๐ ล้านบาทขึ้น ตัวแพใหญ่หนักประมาณ สี่สิบกว่าตันครับ

และถ้าแพชะทำใหม่ ไม่รู้จะช่างที่ไหนได้ครับ คนมีฝีมือหายไปหมดแล้ว มีแต่ พม่า เขมร ลาว เต็มเมืองครับ คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง พยักหน้า แต่ ไม่สื่น อีกหน่อยเมืองไทย มีแต่คนพูดไทยไม่ชัด...แหะๆ อีกสองปีครับ จะมีคุณ สมชาย นามสกุล หม่องวิน อะไรแบบนั้นน่ะ เกิดในประเทศ สัญชาติ ไทยซ่ะด้วย...เหอๆๆ

 

เล่าด้วยภาพ

ก่อนจะมาวัด เอาถังมาจากแม่กลอง เขาบริจาค มาประกอบแพ ที่ นครสวรรค์ ท่าข้าวกำนันทรง กราบขอบพระคุณท่าน เป็นอย่างสูง ยังระลลึกถึงความมีน้ำใจของท่าน และ เจ๊ ( ลูกสาวท่านเสมอครับ )

View attachment IMG_0001.jpg

มาคนมาประกอบ กันที่หน้าท่า ไม่เสียค่าท่า รู้จักกันกับ เพื่อนของเพื่อนของเพื่ออีกที ตอนแรกเจ๊บอกจะเก็บค่าไฟ ค่าน้ำ แต่พอจะไปเคลียร์ เจ๊ แกไม่เอา บอกของวัด ทำฟรี ตกลง ได้ฟรี ค่าน้ำ ค่าไฟ ไม่ต้องจ่าย...แหะๆ

ประกอบเสร็จ สั่งเครนมา สองตัว เพื่อนของเพื่อนอีกเหมือนกัน มาต๋งกันสองตัว แล้วยกลงน้ำที่หน้าท่า สูงประมาณ สามเมตรกว่าๆ ผมประชุม ช่างเครนมาซักซ้อมความเข้าใจ ว่าใครให้สัญญาณ คอยดูใครและ การตั้งเครนให้ถูกตำแหน่ง ( สำคัญมาก ) และ ระยะการเอื้อมของเครน ( สำคัญมาก ) แล้วยืนคุม อยู่ ลุ้นเต้มที่ ( จะบรรยายเพิ่มอีกหน่อยว่า ในมหาวิทยาลัยจุฬา ภาควิศวกรรมปิโตรเลี่ยม ผมเป็นอาจารย์พิเศษ สอนเกี่ยวกับการขุดเจาะแก็สและน้ำมัน ผมจะสอนลูกศิษย์ เรื่องการยกเครนด้วย เอาว่า ถนัดพอสมควรด้านเทคนิค ตอนนี้ไม่ได้สอนแล้ว มันแก่และ เหนื่อย สอนมา น่าจะเจ็ด แปดปี ไม่เอาเงินที่เขาให้แม้แต่บาทเดียว เอาบริจาคกับคืนคณะเขา ให้เด็กเอาไว้ใช้ ซื้ออุปกรณ์การเรียน ได้หลายแสน อาจารย์ที่ถูก ลูกศิษย์ กรีดและ แทง เป็นเพื่อนรุ่นน้องผมเอง คนสมัยนี้มัน...เฮ้อ สุดจะบรรยาย )

ยางรถยนตร์ ที่ผูกรอบแพ ผมซื้อไปจาก กทม ก็มี ไปกว้านซื้อจาก นครสวรรค์ก็มี จ้างให้เขามาส่งเสร็จแล้ว ผูกรอบแพ ช่วยกันผูก เป็น กันชน ระหว่างการเดินทาง ยังจำได้ ว่าซื้อขึ้นรถ cameo ผม ยกมาเองจากบ้าน หลายเส้น หนักมากครับ ผมเน้น ผุกถี่ยิบ กลัวแพไปชนกับขอบท่าน ที่เป็นเหล็ก

จากภาพ มองไม่เห็นว่าผมผูกผ้ายันต์เขียวของหลวงตาที่ บนแพ การยก สดวกโยธิน ผ้ายันต์นี้ คนขี่มอเตอร์ไซด์ อุบัติเหตุ ยัดไปใต้ท้องรถ สิบล้อ ไม่เป็นไร มาบวชกับหลวงตา นอกจากนั้น ยังยิงไม่ติด แต่จะไม่โชว์ ตอนนี้ เดี๋ยวจะเข้าทางพวก ขาย วัตถุ ได้ ดันขายกัน ผ้ายันต์ผืนนี้ ก่อนมายกแพ ผมขอหลวงตา ท่านลงให้พิเศษ บอกว่าผมจะไปเอาแพมาให้ ราบรื่น ท่านเสกว้ำให้ ผมเอาไปผูกกับแพไว้ อธิษฐานของให้รื่น เป็นไปตามนั้น งานยากๆ กลับง่าย ทีมงาน ไม่เคยทำกันมาก่อน กับพูดภาษากันรู้เรื่องเข้าใจ เข้าขาเหมือน ทีมวอลเล่ย์หญิงของไทย สดวกโยธินทุกอย่าง เสร็จ งานผมมีทิบ ให้พอใจทุกคน

View attachment IMG_0002.jpg

ยกเสร็จแพลงน้ำ จ้างเรือมาลาก ไปที่หน้าวัดใหม่ ผมขับรถไปรอ มาถึงบ่ายแก่ ตรึงแพ เสร็จ เย็นพอดี

พอแพมาถึงผมโดดลงไปดูดความเรียบร้อย รีบปลดผ้ายันต์เก็บ เพราะเดี๋ยวพวกมาแจม จะเอาไปกินเสีย เพราะตอนนั้นมีคนและ ชาวบ้านยืนรอแพกันหลายสิบคน ว่างๆจะเอารูปมาโชว์ต่อไป ระดับน้ำก็พอดี เอาแพเข้าเทียบสบาย น้ำก็ไหลไม่แรง มันลื่นไปมด หลวงตามายืนดู ยิ้มกริ่มทีเดียว

ตอนแรก ท่านจะไปดูตอนยก ผมเห็นว่าไกล ( จากวัดถึงนครสวรรค์ )และ ไปนาน จะรอทั้งวัน ( ทำกัน สองวัน ) ที่รอก็ไม่มี ยืนตากแดด หรือ รอในรถ เลยกราบเรียนท่านว่า หลวงปู่ รอที่วัดดีกว่าครับ เดี๋ยวสันติ จัดการเอง หลวงปู่เมตตา ช่วยเพ่งที่วัดดีกว่า ตกลงตามนั้น ทานให้พรมา

ส่วนผ้ายันต์ เก็บอย่างดี ยังไม่โชว์ ให้ถึงเวลาอันควร เรื่องภาค วัตถุมงคล ที่ท่านแจกฟรี ไม่ต้องการมาขาย รอไปก่อนน่ะจ้ะ

แต่เรื่องผ้ายันต์นี่เล่าต่อหน่อย เพราะมีทหารหลายนาย ทหารอากาศจากตาคลี บุกมาที่วัด จะเอาผ้ายันต์แบบหนึ่ง หลวงตาแจกไปหมดแล้ว ไม่มี พวกทหารตามไปตามกุฏิ ขอต่อจากพระบอกเอาแบบนี้ พระท่านถามว่าทำไมรุ่นนี้ รุ่นอื่นยังมี ไปขอท่านได้ พี่ทหาร ตอนแรกไม่บอก แต่ตอนหลังหลังจากได้ผ้ายันต์ไปแล้ว เขาเอา ปืนทหารไปลองยิง ยิงไม่ติด แม้แต่กระบอกเดียวครับ ผมไปถึงวัด พระท่านรีบมาบอก ผมจะได้เก็บไว้ถูก

ตกลงพวกทหาร นี่แหละ พี่จ่าทำมาถวายหลวงตาอีกเป็นลังๆ ของหลวงตามีเป็นลังน่ะครับ มีหลายลัง อย่าไปฟังใครว่ามีน้อย เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา ลังตั้งกันเป็นชั้น ผมค้นมาทุกลังแล้ว เพราะท่านให้เอาไปแจก พวกที่บริษัท ตอนหลัง ทำเองซ่ะเลย ...เหอๆ สำนักแม่ชี ท่านก็ให้เป็นลังๆเอาไปจำหน่ายเลี้ยงตัวเอง เพราะคุณแม่ชี ท่านไม่อยู่ กลัวว่าสำนักจะลำบาก

ป.ล. วัดใหม่ศรีสุทธาวาส สกด ผิดเป็น วัดใหม่สุทราวาส ...แหะๆ ความรู้น้อยครับ

 

เล่าด้วยภาพ



เจออะไรเล่าอย่างนั้นก็แล้วกัน ที่เอานี่มา เพราะมีวันที่บันทึกไว้ ผมสั่งบานเกล็ด มาจากทางเหนือ ส่งแฟกซ์ ระหัส ๐๕๓ พี่เป็ดน้อยเป็นคนช่วยประสานงานให้ ช่วยๆกัน เป็นบานเกล็ดไม้สัก จำนวน ๘๐๐๐ แผ่นด้วยเงิน ๗๒,๐๐๐ บาท ตกราคาแผ่นล่ะ ๙ บาท รวมค่าขน พ.ศ. นี้ไม่มีทางหาซื้อได้ พวกรื้อทิ้งเฉยเลย...แหะๆ

เขียนแผนที่วัดใหม่ให้เขามาส่งเสร็จแล้ว ผมไปรอรับ จ่ายเงินครับ ได้ครบ คุณภาพดี มีแผนที่บอก ลงวันที่ 6 กันยายน 2537 ครับ ประมาณ สองปี ก่อนลูกผมเกิด ช่วงหลังๆเหรียญ รุ่น ๒ วัดสร้า่ง ( พัดยศ ) ออกมาครับ

 

วันนี้เอาแค่นี้ก่อน ผมจะเล่าไปเรื่อยๆ ตามสไตล์ พี เสาวภาน่ะครับ อะไรมาก่อน มาหลังอย่าว่ากัน

เหตุการณ์มันหลายปี ทำหลายโครงการณ์ ตามที่เสนอไปก่อน จารย์ช้างคงพอจำได้ เพราะเหนื่อยมาด้วยกัน

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ครับ
ขอโมทนากับพี่พีและคณะทำงานสร้างแพโบสถ์น้ำทุกๆท่านครับ

วันนี้ไปกราบหลวงพ่อสวง วัดเขาพระอีกครั้งมีโอกาสเวลาพูดคุยกับท่านพอสมควร ได้สอบถามท่านถึงเรื่องครูบาอาจารย์ของท่านเพราะแอบเห็นที่โต๊ะหมู่ของท่านมีพระบูชาเป็นองค์ปฐม และรูปหล่อหลวงพ่อปาน รูปหล่อหลวงพ่อฤาษีลิงดำ จึงได้รับคำตอบว่าท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และอีกหลายๆท่าน และสอบถามท่านถึงหลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อสวงบอกว่า "หลวงปู่บุญศรี เราก็รู้จักและเคยให้ท่านอธิษฐานจิตพระให้ด้วย โดยท่านได้ทำพระผงที่เกิดจากนิมิตของท่านแล้วนำไปให้ครูบาอาจารย์ที่ท่านนับถือ อธิษฐานจิตให้ โดยหนึ่งในนั้นมีหลวงปู่บุญศรี รวมอยู่ด้วยโดยท่านเล่าว่าก่อนไปได้จุดธูปอธิษฐานถึงหลวงปู่บุญศรีว่าขอให้พบหลวงพ่อและขอให้ปลอดจากแขกที่จะมาพบหลวงปู่ด้วยแล้วจึงเดินทางไปหาหลวงปู่ พอมาถึงพบว่าหลวงปู่มายืนรอ แล้วก็บอกว่า "มาแล้วหรือ เรากำลังรอท่านอยู่เลย" ฟังแล้วก็ขนลุก ที่นำมาเล่าสู่ทุกท่านฟังเพราะไม่น่าเชื่อว่าจะได้พบกับสายทางที่เกี่ยวข้องกับครูบาอาจารย์ของพวกเราครับ (และก็ไม่พลาดที่จะขอพระผงพุทธนิมิตกลับมาด้วยครับ แหะๆๆ)

 

เปรตนี่ร้อง หวีดๆ น่ะครับ กรี้ดๆๆๆ ไปตามแรงทุกข์ และ แรงอาฆาต

เขาว่ามีคนเห็นมาเดิน แถวหน้าบ้านผม หมาเห่ากันเกลียว ผมไม่แน่ใจว่าเป็นทางผ่าน หรือ มาขอส่วนบุญ

ไม่แน่ใจ เอาน้ำมนต์กับมีดหมอหลวงตาไป ไล่ก่อน เอาน้ำมนต์ สาดกั้นอาณาเขต เอามีดหมอกรีด ชี้ไปตามพื้น ท่องคาถา กันไว้ก่อน

ต่อมาจะเอาแบบ มานั่งคิด ว่าพวกผีชักจะเยอะ ( ดันมีคนเห็นอีก ) ต้องเอาแบบ แรงมาแรงไป ถ้ามาแรง เลยเอาวัวธนู ไปติดไว้ หน้าบ้าน สอง ตัว เขาเงิน กับ เขาทอง บอกว่ามาไม่ดี ใส่ให้เต็ม สี่เขาไปเลย

หลังจากนั้น เงียบ...ฉี่

เปรต หายเงียบ .....คนเงิบของสงฆ์ จะเป็นเปรตแบบนี้แหละครับ

 

พระนี่หลวงตาเล็ก เสกให้หรือครับ...แหะๆ ชักสนใจครับ ติดต่ออย่างไรครับ หรือ ว่างๆไปขอเผื่อให้สักองค์ซิครับ

ที่ผม highlight สีแดงตัวโตไว้ ท่านนี้ไม่ได้เจอแบบนี้ท่านเดียว ท่านแรก

เจอกันประจำ ครับ จิ้บๆ

 

หลวงพ่อสวงท่านบอกว่าหลวงปู่เสกให้ด้วยครับ หากพี่ใหญ่อยากได้เดี๋ยวจัดให้ครับผม

 

พี่น้องที่ต้องการวัตถุมงคลหลวงปู่ บุญศรี แท้ๆ ของวัดสร้าง

เชิญที่วัดเลยครับ

 

กราบหลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง และครู อาจารย์ทุกท่านครับ

สวัสดีครับ พี่พี พี่ช้าง และทุกๆท่าน

ผมเองคืนก่อนไปเช่าพระหลวงปู่ฯ ที่สำนักท่านแม่ชีประทุม ผมก็ขอให้ท่านดูแลให้เดินทางได้ราบรื่นและอีกหลายอย่าง น่าทึ่งจริงครับ ช่วงใกล้ถึงดันไปผิดทาง แต่ดันไปโผล่พ้นช่วงที่เขากำลังซ่อมถนนอยู่ซะอย่างนั้น ไม่ต้องเจอรถติดเลยครับ

 

ดึกสงัด..ค่ำคืนนี้ ขออนุญาตเล่าเรื่องเกี่ยวกับเปรต
ประมาณ 5 ปีที่ผ่านมาแล้ว ผมได้ไปปฏิบัติธรรมทั้งพรรษาที่ ป่าภูวัว จ.หนองคาย
เป็นถ้ำเล็กๆบนยอดภู มีพระอยู่ด้วยรูปหนึ่ง กิจวัตรประจำคืนสวดมนต์ทำวัตรเช้า และเย็น
ตอนเย็นวันนั้น ระหว่างที่สวดคุณพระรัตนตรัยนั้น มีสิ่งผิดสังเกตุคือ ป่าทั้งป่า เงียบสนิท
เงียบจริงๆไม่มีแม้เสียงสัตว์ป่าน้อยใหญ่ดั่งเช่นเคย พอเริ่มสวดบทกรณียเมตตสูตรเท่านั้นเอง
มีเสียงกรี๊ดแหลมดังก้องทั่วทั้งป่าขึ้น 2 เสียงในเวลาไล่เรี่ยกัน เสียงเปรต 2 ตน
มาขอส่วนบุญ ก็สวดอุทิศให้เขาไป คืนนั้นทั้งคืนก็ทำสมาธิแผ่ให้ทั้งคืน ป่าทั้งป่าก็ยังคงเงียบสงบ
จนกระทั่งเช้า บทสวดกรณียเมตตสูตรนี้สำคัญอีกบทหนึ่ง เพราะเป็นบทสวดที่............
พระพุทธเจ้า ท่านได้ทรงประทานไว้ให้กับหมู่พระภิกษุสงฆ์เมื่อครั้งพุทธกาล แต่ความศักดิ์สิทธิ์ ยังคงมีอยู่ตลอดกาล

 

มากราบหลวงตาเล็ก วัดใหม่ ขอโชค ขอลาภ ​

 

​

 

​

 

การสร้างวัดนี้ ผมมาเข้าใจ ตอนเป็นศิษย์ หลวงตา หลวงตาท่านไม่ใช่นักก่อสร้าง ไม่สร้างมาก เอาแค่ใช้ได้ แต่ ลงมือเอง ทุกขั้นตอน แก่แล้วถึงคอยกำกับ เมื่อผมมาเจอท่าน ตอนจะไป ซื้อต้นสน ถามทางดูแผนที่เสร็จ ไปหาท่าน ท่านบอก ว่า ฉันจะไปด้วยท่านคว้าย่าม เดินขึ้นรถเอง ตกลงไปกันสองคน เพราะมีแค่นั้น ที่เข้าป่าไป ผมมีหลวงตาและ ปืนพก หนึ่งกระบอก แค่มีให้อุ่นใจ เพราะตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

เลยได้สร้างวัดจริงๆกับมือ สมัยหลวงตา หาวัสดุเอง ทำเองแทบทุกขั้นตอน เพียงแต่ไม่ได้ ตัด ไม่ได้เลื่อย ไม่ได้เทปูนเอง และไม่ใช่แต่บริจาคเงินอย่างเดียว

เพราะคนยุคนี้น่าเห็นใจ ต้องทำมาหากิน แค่หากินก็เหนื่อยหมดเวลาไปวันแล้ว จะไป ซื้อเสา ซื้อปูน แบกเข้าวัดเอง มันยาก แต่อย่างไรก็ตาม ก็เป็นเงินบริสุทธิ์ที่เราหามาด้วยน้ำพัก น้ำแรง ไม่ไ่ด้ โกหก หลอกลวงใคร ปล้นใคร โกงใครมา จะทำบุญที อธิษฐานหนักๆหน่อยน่ะครับ

แต่แน่ะนำ ว่าท่านไหน จะไปช่วยเขาสร้างวัด สร้า่งโรงพยาบาล สร้างโรงเรียน สร้างสถานีอนามัย ฯลฯ ช่วยแรงได้ ให้ช่วย หยิบจับ ซื้อปูนใส่รถแบกไปช่วย ซื้อตะปู ซื้อทรายไปช่วย สักถุงสองถุงก็ดี แล้วจึงค่อยช่วยบริจาคเงินตามกำลังทรัพย์ บารมีมันจะหนักแน่นครับ แบบหลวงตา เพราะสติ กำหนดไปตามงานนั้นๆ

คนโบราณ เขาทำไร่ทำนาเสร็จ ไปช่วยกันสร้างวัด เขาใช้แรงกาย แบกหิน เลื่อยไม้ ตามฝีมือและ กำลัง จึงเป็นวัดสวยงามมาได้ เขาไม่ได้มีเงินมาก แต่เขามีกำลังใจมากครับ

เราก็ทำตามแบบหลวงตา ท่านจะทำอะไร ท่านลงมือเอง แม้จะอายุมากขนาดนั้น นั่งรถก็เมื่อยแล้ว แต่ท่านก็ทำเองครับ ตามสไตล์หลวงตาเล็ก พูดน้อย แต่ทำมาก ครับ

 

มีมังกร คือ งูใหญ่ซ่ะด้วย เนื่องกับหลวงตาเล็ก เพราะท่าน ชาตะ ปี มะเส็งครับ
อะไรที่ท่านทำๆ ถ้าจะขลังจะมีพญานาค มาเกี่ยวข้อง เช่น แพโบสถ์น้ำ ครับ

ต้องไปเอาครับ...แหะๆ

ท่านที่มองหา วัตถุมงคลหลวงตาเล็ก ไปเอาที่วัด หลวงพ่อ สรวงเลยครับ ประวัติชัดเจนมาก หรือไป ที่สำนัก ดีกว่าไปเอาที่พ่อค้าครับ ...บอกชัดๆ ของแบบนี้มาจากวัด มาจากมือพระ ขลังแน่ เพราะเงินทุกบาท ที่ท่านซื้อ ไปเข้าวัดตรงๆ ไปสร้างวิหารทาน ไม่ใช่เข้ากระเป๋าใครครับ

ของที่วัด คงมีเหลืออีก เหมือนที่สำนัก ใสบริสุทธิ์ แน่นอนครับ