หลวงพ่อสำเร็จศักดิสิทธิ / ผันทชาดก - การผูกเวรของหมีและไม้ตะคร้อ

ในห้อง 'ประวัติและนิทานธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 12 สิงหาคม 2017.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
    ว่าด้วยเรื่อง “อนาคตวงศ์” คัมภีร์พรรณนาถึงพระพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต 10 พระองค์

    THE BACKGROUND - ความเป็นมา
    Apr 26, 2021

    อนาคตวงศ์ เป็นคัมภีร์พรรณนาถึงประวัติของพระพุทธเจ้าในอนาคต 10 พระองค์ ซึ่งอันที่จริงก่อนหน้านี้ก็มีวรรควรรณคดีบาลี ที่ว่าด้วยเรื่องพระพุทธเจ้าในอนาคตอยู่บ้างเช่นกันนะครับ ส่วนสำหรับอนาคตวงศ์นี้ เป็นคัมภีร์อนาคตวงศ์ฉบับร้อยแก้ว สถานที่แต่งและสมัยที่แต่งในเนื้อหาของคัมภีร์อนาคตวงศ์นี้ มิได้กล่าวถึงผู้แต่งและประวัติการแต่ง บ้างก็ว่ารจนาก่อนสมัยสุโขทัย เพราะในบานแผนกของหนังสือไตรภูมิพระร่วง พระราชนิพนธ์ของพระยาลิไทนั้น ได้มีการระบุชื่อคัมภีร์อนาคตวงศ์ไว้ด้วย เนื้อหาสาระก็คือ พระสารีบุตรเถระ ทูลอาราธนาให้พระพุทธเจ้าโคดม ตรัสแสดงเรื่องว่าที่พระพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต 10 พระองค์ ซึ่งจัดเป็นอุเทศ ตั้งแต่ที่ 1-10 โดยรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ติดตามในคลิปนี้ครับ -------------------------------------------------------------------------
    - *ข้อมูลอ้างอิง* พระคัมภีร์ อนาคตวงศ์ . นายประภาย สุระเสน คัดถ่ายทอด-แปล. ภิกษุสามเณรวัดตรีทศเทพ พิมพ์โดยเสด็จพระราชกุศล ในการเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพ พระเทพวัชรธรรมาภรณ์. พิมพ์ครั้งที่ 12540.
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
    ไอน์สไตน์พบพระพุทธเจ้าเห็น "ทฤษฎีควอนตัม&พุทธศาสนา"

    อ.แขก Studio
    Jan 24, 2022
    เป็นเรื่องราวที่อ่านจากบทความในหนังสือ "ไอสไตล์พบ พระพุทธเจ้าเห็น" ที่เขียนโดย ทัตแพทย์สม สุจารี
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
    โปรดปัญจวัคคีย์ : ธัมมจักกัปปวัตนสูตร

    เศษดิน ที่ปลายเล็บ
    Jul 23, 2021
    ที่มา : พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔ มหาวรรค ภาค ๑ บรรทัดที่ ๓๕๕-๔๔๕ หน้าที่ ๑๕-๑๙. https://84000.org/tipitaka/attha/v.ph...

    หนังสือ พุทธประวัติ โดย สุรีย์ มีผลกิจ
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
    หลวงปู่ทวด "พระศรีอริยเมตไตรย" ตัวจริง

    พระครูอินเดีย
    Apr 18, 2021

    หลวงปู่ทวด "พระศรีอริยเมตไตรย" ตัวจริง บอกเล่าเรื่องราวอันเป็นตำนานของ "หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด" อย่างละเอียด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราเกิดความรัก และศรัทธา ผสมผสานกับความผูกพันที่จะมีกับท่านมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ควรรู้สำหรับผู้ศรัทธาในองค์หลวงปู่ทวด ที่สักครั้งจะได้ทราบถึงประวัติที่มาที่ไปของท่านอย่างชัดเจน และ เรื่องราวสำคัญที่บ่งบอกว่า หลวงปู่ทวด คือ "พระศรีอริยเมตไตรย" ตัวจริงในอนาคต อีกทั้งภายในวีดีโอ ยังมีภาพสถูปอันเป็นสถานที่ละสังขาร และ สถานที่หยุดพักสรีระ ของท่านในประเทศมาเลเซียให้ชมด้วย
    สามารถติดตามได้อีกช่องทางหนึ่ง คือ facebook_1x.png / พระครูอินเดีย-234306454625132
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
    พระอุบลวรรณาเถรี

    Siriporn.
    Jun 12, 2017
    พระอุบลวรรณาเถรี อัครสาวิกาผู้เลิศทางฤทธิ์
    จาก หนังสือ สร้างพลังบุญ รวย สวย ฉลาด สุขภาพดี โดย พระไพศาล วิสาโล
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
    พระศรีมหาโพธิ์ : ฆ่าต้นโพธิ์เพราะอิจฉา และ ต้นโพธิ์ที่อายุยืนที่สุดในโลก

    เศษดิน ที่ปลายเล็บ
    May 2, 2021
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
    พระอภิญญา ครูบาธรรมชัย...!!!

    หลวงตา
    Jun 1, 2025
    พระอภิญญา ครูบาธรรมชัย...!!! วัดทุ่งหลวง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
    ธัมมิกอุบาสก l เทวดา 6 ชั้น นำราชรถมารอรับ #นิทานธรรมบท #พระอรหันต์ #คนตื่นธรรม #พระพุทธเจ้า

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Jan 16, 2025

    ธรรมิกอุบาสก เป็นหัวหน้าอุบาสกชาวสาวัตถีประมาณ 500 คน ที่อุปถัมภ์ค้ำชูสงฆ์และพระศาสนา เขามีภรรยาและบุตรด้วยกัน 14 คน เป็นครอบครัวที่มีศรัทธามาก พวกเขาจะจัดเตรียมถวายภัตตาหารแก่ภิกษุสงฆ์อย่างละ 16 ที่สม่ำเสมอ ได้แก่ สลากยาคู, สลากพัด, ปักขิกัต, สังฆพัต, อุโปสติกัส, อาคันตุกพัส และวัดสาวาสิกพัสด ในกาลต่อมา ธรรมิกอุบาสกมีอายุมากขึ้น เกิดอาการเจ็บป่วยกำเริบ จึงคิดจะฟังธรรมก่อนตาย เขาให้ลูกไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าในพระเชตวันมหาวิหาร แล้วกราบทูลขอภิกษุ 8 รูป หรือ 16 รูปก็ได้ เพื่อสาธยายธรรมและแสดงธรรมในเรือน ธรรมิกอุบาสกนิมนต์ให้ภิกษุทั้งหลายสาธยายธรรม *สติปัฏฐานสูตร* ขณะที่ภิกษุกำลังสาธยายธรรม ธรรมิกอุบาสกมองเห็นเทวรสจากเทวโลกจำนวน 6 คัน ปรากฏขึ้นในอากาศ แต่ละคันเทียมด้วยม้าสินธพ 1,000 ตัว เทวดาจากสวรรค์ 6 ชั้น ได้แก่ จาตุมหาราชิกา, ดาวดึงส์, ยามา, ดุสิต, นิมมานรดี และปรนิมมิตวสวัตตี มาเชื้อเชิญให้เขาไปอุบัติในภพของตน ธรรมิกอุบาสกเห็นว่าพวกเทวดากำลังรบกวนการฟังธรรมของตน จึงกล่าวว่า “ท่านทั้งหลาย พวกท่านจงรอก่อน จงหยุดก่อน” ภิกษุทั้งหลายเข้าใจผิดคิดว่าอุบาสกพูดกับตน จึงหยุดการสาธยายลง ภรรยาและบุตรธิดาของธรรมิกอุบาสกคิดว่าเขากลัวตายจึงห้ามภิกษุสาธยายธรรม ทำให้พวกเขาร้องไห้เสียใจ เมื่อภิกษุเห็นดังนั้นจึงพากันลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วกลับไป ธรรมิกอุบาสกอธิบายให้ภรรยาและบุตรธิดาฟังว่า เขาไม่ได้พูดห้ามภิกษุ แต่พูดห้ามพวกเทวดาต่างหาก ลูกๆ ของเขาไม่เห็นเทวรส จึงไม่เชื่อ ธรรมิกอุบาสกให้ลูกโยนพวงมาลัยขึ้นไปในอากาศ โดยตั้งใจขอให้พวงมาลัยไปคล้องที่เทวรสชั้นดุสิต พวงมาลัยลอยไปคล้องที่แอกของเทวรสชั้นดุสิต ลูกๆ ของเขาเห็นแต่พวงมาลัยห้อยอยู่ แต่ไม่เห็นเทวรส ธรรมิกอุบาสกกล่าวว่า “พ่อจะไปเกิดในภพดุสิต พวกเจ้าอย่าได้คร่ำครวนไปเลย ถ้าพวกเจ้าปรารถนาจะเกิดร่วมกับพ่อ ก็จงพากันทำบุญต่าง ๆ ตามที่ครอบครัวของเราทำกันมาต่อไปเถิด” เมื่อธรรมิกอุบาสกสิ้นใจ เขาได้อุบัติเป็นเทพบุตรนั่งอยู่บนเทวรสดุสิต มีอัฏฐภาพขนาดความสูง 3 คาวุธ มีนางเทพอัปสร 1,000 แวดล้อม มีที่อยู่คือวิมานรัตนะขนาด 25 โยชน์ในสวรรค์ชั้นดุสิต

     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
    มิคารเศรษฐี "อุบาสก ผู้นับถือนางวิสาขาเป็นมารดา" #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก #คนตื่นธรรม #ชาดก 500

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    May 30, 2025

    เรื่องราวของ *มิคารเศรษฐี* ผู้ซึ่งเป็นชาวสาวัตถีและนับถือพวกชีเปลือยเป็นศาสนา *ปุณวัฒนะ บุตรชายของท่าน* ไม่ต้องการมีภรรยา แต่เมื่อถูกบิดามารดาคะยั้นคะยอ จึงยอมตกลงหากหาหญิงสาวที่มีคุณสมบัติเบญจกัลยาณีได้ *พราหมณ์แปดคน* ได้ออกตามหา และพบ *นางวิสาขา* ที่เมืองสาเกต ผู้ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความงามทั้งห้าและสติปัญญาเมื่อฝนตก นางวิสาขาถูกสู่ขอและแต่งงานกับปุณวัฒนะ ทำให้เกิดเหตุการณ์สำคัญเมื่อนางปฏิเสธที่จะไหว้ชีเปลือยและแสดงความเลื่อมใสต่อพระพุทธเจ้าในที่สุด *มิคารเศรษฐี* ได้รับการสั่งสอนธรรมะจากพระพุทธเจ้าและบรรลุโสดาบัน ซึ่งทำให้นางวิสาขาได้รับการยกย่องว่าเป็น *มารดาผู้ประเสริฐ* และครอบครัวก็หันมาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
    นายกาละ l ไปฟังธรรมเพราะพ่อจ้าง #อนาถบิณฑิกเศรษฐี #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก #คนตื่นธรรม

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    May 28, 2025

    *นายกาละ* เป็นบุตรชายของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี แม้ว่าบิดาของเขาจะเป็นผู้มีศรัทธามาก แต่ตัวนายกาละเองกลับไม่ได้เป็นเหมือนบิดาในเรื่องนี้ เขาไม่ปรารถนาที่จะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ไม่ต้องการพบพระสงฆ์ในเรือน ไม่ต้องการฟังธรรม และไม่ช่วยเหลือสงฆ์ แม้บิดาจะว่ากล่าวพร่ำสอน เขาก็ไม่ฟัง ท่านเศรษฐีผู้เป็นบิดาเห็นว่า ถ้าลูกชายยังมีความคิดเห็นเช่นนั้น ก็จะมีนรกอเวจีเป็นที่ไป ด้วยความกังวลว่าในขณะที่ตนยังมีชีวิตอยู่ ลูกชายไม่ควรไปอเวจี ท่านเศรษฐีจึงคิดหาทางปรับเปลี่ยนทิฐิของลูกชาย ท่านได้เรียกนายกาละมาและยื่นข้อเสนอว่า ถ้าเขายอมรักษาอุโบสถและไปฟังธรรมที่พระวิหารเชตวันเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน *บิดาจะให้เงิน 100 กหาปณะ* นายกาละซึ่งต้องการเงินจึงรับปากบิดา ในวันอุโบสถ เขาได้สมาทานรักษาอุโบสถแล้วไปอยู่ที่พระวิหาร แต่ได้หลบซ่อนตัวนอนอยู่ในที่ที่ไม่มีใครเห็น เมื่อถึงเวลาเช้า เขาก็กลับมาที่บ้าน เศรษฐีเห็นลูกชายกลับมาก็สั่งให้คนรับใช้นำอาหารมาให้ แต่นายกาละกล่าวว่าถ้ายังไม่ได้รับเงินก็จะไม่กินข้าว บิดาจึงนำเงิน 100 กหาปณะมาให้ตามสัญญา
    วันรุ่งขึ้น เศรษฐีได้ยื่นข้อเสนออีกว่า นายกาละจะได้ *เงิน 1,000 กหาปณะ* หากเขายอมไปยืนฟังธรรมต่อหน้าพระพักตร์พระศาสดา และเรียนจำบทธรรมมาได้หนึ่งบท นายกาละรีบไปพระวิหาร ยืนอยู่ต่อหน้าพระพุทธเจ้า ตั้งใจว่าจะเรียนจำให้ได้บทหนึ่งแล้วจะกลับไปเอาเงิน แต่พระพุทธเจ้าได้ทรงทำให้นายกาละไม่สามารถกำหนดจำบทธรรมใดๆ ได้เลย เขายิ่งพยายามต่อไปจนกระทั่งตกค่ำ ในขณะที่พยายามอยู่นั้น เขาก็เกิดความเข้าใจธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไปตามลำดับ จนกระทั่ง**บรรลุโสดาปฏิผล** และได้เป็นพระโสดาบัน ในวันรุ่งขึ้น พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ได้เสด็จมาที่เรือนของท่านเศรษฐี โดยมีนายกาละตามมาด้วย ท่านเศรษฐีเห็นอาการของลูกชายแล้วก็ดีใจมาก ส่วนนายกาละเองก็คิดว่าหวังว่าบิดาคงจะไม่พูดเรื่องค่าจ้างในการรักษาอุโบสถและฟังธรรม ท่านเศรษฐีได้ถวายยาคูและของเคี้ยวของบริโภคแก่พระสงฆ์ เมื่อพระพุทธเจ้าเสวยเสร็จแล้ว ท่านเศรษฐีได้นำเงิน 1,000 กหาปณะ มาวางตรงหน้าลูกชาย พร้อมกล่าวว่าเป็นเงินที่เคยบอกว่าจะให้หากรักษาอุโบสถและฟังธรรมที่พระวิหาร แต่นายกาละกลับกล่าวว่า *"ผมไม่ต้องการเงินแล้ว"* ท่านเศรษฐีปลาบปลื้มใจมาก จึงกราบทูลพระพุทธเจ้าว่า วันนี้ข้าพระองค์พอใจในความประพฤติของลูกชายมาก แล้วจึงกราบทูลเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทรงทราบ พระศาสดาตรัสว่า *"วันนี้โสดาปฏิผลเป็นของบุตรท่านแล้ว"* พระองค์ยังได้อธิบายว่า การได้โสดาปฏิผลนั้น *ประเสริฐกว่าจักพรรดิสมบัติ* (ความได้เป็นเอกราชาบนพื้นปฐพี คือ การได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ) ยิ่งกว่าการได้สมบัติในเทวโลกและพรหมโลกเสียอีก ทั้งนี้เพราะโสดาปฏิผลทำให้พ้นจากนรกเป็นต้น และจะไม่เกิดอีกเป็นภพที่ 8 ในขณะที่การได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิหรือการเป็นอธิบดีในโลกทั้งปวง (หมายถึงโลกทั้งหมดพร้อมด้วยโลกของนาค ครุฑ และเวมานิกะ ซึ่งก็คือสวรรค์ 26 ชั้น เว้นอบายสี่และมนุษย์หนึ่ง) ก็ยังไม่พ้นจากการเกิดในนรกเป็นต้น เรื่องราวของนายกาละจึงแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต จากผู้ที่ไม่มีศรัทธาและเห็นแก่เงิน จนกระทั่งได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าโดยตรงและบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน ซึ่งเป็นการบรรลุธรรมขั้นต้นที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์ในที่สุด และมีคุณค่าประเสริฐยิ่งกว่าทรัพย์สมบัติหรือความเป็นใหญ่ในโลกทั้งปวง แหล่งข้อมูลยังกล่าวถึงคติธรรมว่า บัณฑิตย่อมปรารถนาอภิชาตบุตร (ผู้มีคุณความดีสูงกว่าพ่อแม่) และอนุชาตบุตร (ผู้มีคุณความดีเสมอพ่อแม่) และไม่ปรารถนาอวชาตบุตร (ผู้มีคุณความดีน้อยกว่าพ่อแม่) การที่นายกาละเปลี่ยนแปลงตนเองจนบรรลุธรรมเช่นนี้ อาจถือได้ว่าเขาได้พัฒนาตนเองจากผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นอวชาตบุตรไปสู่การเป็นอภิชาตบุตรหรืออนุชาตบุตรในที่สุด.
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
    นางธนัญชานี พราหมณี l "ตำนาน นะโมตัสสะ" ผู้ชอบนอบน้อมพระรัตนตรัย #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    May 14, 2025

    *นางธนัญชานี พราหมณี* ผู้ซึ่งมีความศรัทธาในพระรัตนตรัยอย่างแรงกล้า ต่างจากสามีซึ่งเป็น *มิจฉาทิฏฐิ* แม้ทั้งสองจะมีมุมมองทางศาสนาที่แตกต่างกันแต่ก็ยังคงรักใคร่กัน นางพราหมณีแสดงความเคารพต่อพระพุทธเจ้าและหมู่ภิกษุสงฆ์อย่างเปิดเผย ในขณะที่สามีหลีกเลี่ยงและไม่พอใจอย่างมากเมื่อได้ยินคำสรรเสริญพระรัตนตรัย แม้สามีจะขู่ด้วยความโกรธ แต่นางพราหมณีก็ไม่ละทิ้งความศรัทธาของตน เหตุการณ์ในวันหนึ่งที่นางพราหมณีเผลอเปล่งเสียง *นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ* ท่ามกลางพราหมณ์จำนวนมาก ทำให้พราหมณ์เหล่านั้นไม่พอใจและจากไป เหตุการณ์นี้ผลักดันให้สามีของนางไปท้าทายพระพุทธเจ้า แต่กลับกลายเป็นว่าเขาได้รับคำตอบที่ชาญฉลาดเกี่ยวกับ *การฆ่าความโกรธ* และในที่สุดก็เกิดศรัทธาจนได้บวชเป็นพระภิกษุและบรรลุอรหันต์ในที่สุด
     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
    พระพุทธเจ้าสอนธรรม ท้าวสักกเทวราช(พระอินทร์)บรรลุธรรม สักกปัญหสูตร

    ธรรมะธรรมชาติ
    Oct 1, 2023
    ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้ สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในถ้ำอินทสาละที่ภูเขาเวทิยกะ ทางทิศเหนือ ของหมู่บ้านพราหมณ์ชื่ออัมพสัณฑ์ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกแห่งกรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ เวลานั้น ท้าวสักกะจอมเทพทรงเกิดความขวนขวายเพื่อจะเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค ทรงมีความดำริดังนี้ว่า “บัดนี้ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ ที่ไหนหนอ” ทอดพระเนตรเห็นพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ใน ถ้ำอินทสาละ ที่ภูเขาเวทิยกะ ทางทิศเหนือของหมู่บ้านพราหมณ์ชื่ออัมพสัณฑ์ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก แห่งกรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ จึงรับสั่งเรียกพวกเทพชั้นดาวดึงส์มาตรัสว่า “ท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในถ้ำอินทสาละที่ภูเขาเวทิยกะ ทางทิศเหนือของหมู่บ้านพราหมณ์ชื่ออัมพสัณฑ์ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกแห่งกรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ ทางที่ดี ชาวเราควรเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น”..

    . โดยเรื่องราวในตอนนี้จะเป็นอย่างไรเชิญรับฟังได้เลยครับ

     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
    กูฏทันตพราหมณ์ l ผู้ทูลถามยัญสมบัติ 3 บริวาร 16 #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก #คนตื่นธรรม

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Jun 10, 2025

    พิธีบูชายัญเป็นประเด็นสำคัญโดยเริ่มต้นจากกุฏทันตพราหมณ์ผู้เป็นพราหมณ์ผู้ครอบครองหมู่บ้านชื่อขาณุมัตตาในแคว้นมคธ. *บริบทเริ่มต้นของพิธีบูชายัญของกุฏทันตพราหมณ์*
    • กุฏทันตพราหมณ์กำลังให้คนจัดเตรียมประกอบพิธีบูชายัญ.
    • ในการเตรียมพิธีนั้น มีการนำสัตว์จำนวนมากมาผูกไว้กับเสา ได้แก่ **โคตัวผู้ 700 ตัว, โคตัวเมีย 700 ตัว, ลูกโค 700 ตัว, แพะ 700 ตัว และแกะ 700 ตัว**.
    • กุฏทันตพราหมณ์ปรารถนาที่จะบูชา *มหายันต์* (การบูชายัญอันยิ่งใหญ่).
    • เมื่อกุฏทันตพราหมณ์คิดที่จะเข้าเฝ้าพระสมณโคดมเพื่อทูลถามเกี่ยวกับยันต์สมบัติ 3 ประการซึ่งมีบริวาร 16 พราหมณ์ 100 คนที่พักอยู่ในบ้านขาณุมัตตาซึ่งหวังจะบริโภคมหายันต์ของกุฏทันตพราหมณ์ได้พากันมาห้ามปรามไม่ให้ไปเฝ้าพระสมณโคดม เพราะจะเสียเกียรติยศ โดยอ้างคุณสมบัติต่างๆ ของกุฏทันตพราหมณ์ เช่น ชาติตระกูลดี มีทรัพย์มาก คงแก่เรียน และมีรูปงาม. แต่กุฏทันตพราหมณ์กลับเห็นว่าพระสมณโคดมต่างหากที่มีคุณสมบัติควรแก่การเข้าไปหา.
    *มหายันต์ในอดีตกาลที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง* กุฏทันตพราหมณ์ได้ทูลถามพระพุทธเจ้าว่าทรงทราบยัญสมบัติ 3 ประการซึ่งมีบริขาร 16 อย่างหรือไม่ และขอให้ทรงแสดงแก่ตน. พระพุทธเจ้าได้ทรงเล่าเรื่องในอดีตกาลสมัยพระเจ้ามหาวิชิตาที่ทรงต้องการบูชามหายัญ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์และความสุข. ก่อนการบูชายัญ พราหมณ์ปุโรหิตได้แนะนำให้พระเจ้ามหาวิชิตาทรงปราบโจรผู้ร้ายด้วยวิธีการทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นก่อน โดย:
    • แจกพันธุ์พืชแก่เกษตรกร.
    • ให้ทุนแก่พ่อค้าที่ขยัน.
    • ให้อาหารและค่าจ้างแก่ข้าราชการ.
    เมื่อพระราชาทรงทำตามนั้นก็เกิดผลดี. จากนั้น ปุโรหิตได้ขออนุญาตบูชามหายันต์จากบุคคล 4 เหล่า ซึ่งถือเป็น *ฝ่ายอนุมัติ 4* ซึ่งเป็นเครื่องประกอบของยันต์นั้น: 1. กษัตริย์ที่เป็นเมืองขึ้น. 2. อำมาตย์และข้าราชการที่อยู่ในชนบท. 3. พราหมณ์ในชนบท. 4. คฤหบดีในชนบท. นอกจากนี้ ยันต์ยังมีองค์ประกอบจากคุณสมบัติอีก 2 ส่วน ได้แก่:
    • *คุณสมบัติของพระราชา 8 ประการ* ซึ่งเป็นเครื่องประกอบของยันต์:
    1. มีชาติตระกูลดี. 2. มีรูปงาม. 3. มีทรัพย์มาก. 4. มีกำลังมาก. 5. มีศรัทธาบริจาคทาน. 6. มีการสดับรับฟัง. 7. รู้ความหมายของภาษิตต่างๆ. 8. ฉลาดมีปัญญา.
    • *คุณสมบัติของพราหมณ์ปุโรหิตอีก 4 ประการ* ซึ่งเป็นเครื่องประกอบของยันต์:
    1. มีชาติตระกูลดี. 2. ท่องจำมนต์ได้. 3. มีศีล. 4. ฉลาดมีปัญญา. รวมทั้งหมดเป็น *16 ประการ* (ฝ่ายอนุมัติ 4, คุณสมบัติของพระราชา 8, และคุณสมบัติของปุโรหิต 4). *ลักษณะของมหายันต์ที่ถูกต้องตามธรรม* ปุโรหิตได้แสดงญาณ 3 แก่พระราชาเพื่อมิให้ทรงมีความร้อนพระทัยว่าทรัพย์จะหมดไป. การบูชายัญในครั้งนี้เป็นยันต์ที่:
    • **ไม่มีการฆ่าสัตว์**.
    • *ไม่มีการตัดทำลายต้นไม้* เพื่อสร้างปราสาทต้อนรับผู้มาร่วมพิธี.
    • พวกทาสกรรมกร *ไม่ต้องถูกขู่เข็ญ* มีน้ำตานองหน้า.
    • ยันต์นั้นสำเร็จด้วย **เนยใส น้ำมัน เนยข้น น้ำส้ม น้ำผึ้ง และน้ำอ้อย**.
    • พระเจ้ามหาวิชิตา *ไม่ทรงรับเครื่องบรรณาการ* ที่มีผู้นำมา แต่ทรงให้เพิ่มแก่พวกเขาด้วย และพวกเขาก็ร่วมสละบริจาคไป.
    • เป็นยันต์ที่กระทำโดยธรรม ไม่มีผู้ใดติเตียนได้เลย.
    *ยันต์อื่นที่มีผลมากกว่า* กุฏทันตพราหมณ์ทูลถามต่อไปว่ามียันต์อื่นที่เลิศน้อยกว่าแต่มีผลมากกว่าอีกหรือไม่ พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่ามี ได้แก่:
    1. **การให้ทานเป็นนิจแก่ผู้มีศีล**.
    2. *การสร้างวิหารอุทิศสงฆ์จาตุรทิศ* (พระสงฆ์ทั้ง 4 ทิศ).
    3. *การถึงพระรัตนตรัย* (พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์).
    4. **การสมาทานศีล**.
    5. **การออกบวชประพฤติพรหมจรรย์จนบรรลุวิชชา 8**. *ผลลัพธ์หลังจากพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม* เมื่อทรงแสดงพระเทศนาจบ กุฏทันตพราหมณ์เกิดความเลื่อมใสอย่างยิ่ง.

    • ประกาศตนเป็น *อุบาสก* ถึงพระรัตนตรัยตลอดชีวิต.
    • สั่ง **ปล่อยสัตว์ทั้งหลายให้เป็นอิสระ**.
    • เมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงอนุปุพพิกถาและอริยสัจ 4 กุฏทันตพราหมณ์ก็ **บรรลุเป็นพระโสดาบัน**.


     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
    ปิงคิยานีพราหมณ์ l "อุบาสก ผู้เผยแผ่ธรรมในวัชชี" #พระไตรปิฏก #คนตื่นธรรม #พระพุทธเจ้า

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Jun 18, 2025

    การณปาลีสูตร - ปิงคิยานีพราหมณ์ทูลสรรเสริญพระพุทธเจ้า *ปิงคิยานีพราหมณ์* อุบาสกผู้เผยแผ่ธรรมะในวัชชี โดยเน้นย้ำถึงศรัทธาอันแรงกล้าของท่านต่อพระพุทธเจ้า ท่านมักจะไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์แต่เช้าตรู่ และได้สนทนากับ *กาลณปาลีพราหมณ์* เพื่อชี้แจงถึงคุณประโยชน์ของการฟังธรรม โดยยกอุปมาเปรียบเทียบต่างๆ เช่น การเปรียบธรรมะกับการได้น้ำผึ้ง หอมไม้จันทน์ การรักษาโรค หรือการได้ลงอาบน้ำในสระน้ำเย็น อันนำมาซึ่งความสงบและปิติยินดี บทความยังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ปิงคิยานีพราหมณ์ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าพร้อมกับเจ้าลิจฉวี และได้ถวายผ้า 500 ผืนแด่พระพุทธองค์ ซึ่งเป็นโอกาสให้พระพุทธเจ้าทรงตรัสถึงรัตนะ 5 ประการที่หาได้ยากยิ่งในโลก ซึ่งรวมถึงพระตถาคต ผู้แสดงธรรม ผู้รู้แจ้งธรรม และผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม รวมถึงผู้ที่มีความกตัญญู บทความนี้จึงเน้นย้ำถึง *ความสำคัญของพระธรรม* และ *ความประเสริฐของพระพุทธเจ้า* ผ่านเรื่องราวของปิงคิยานีพราหมณ์และพราหมณ์อื่นๆ
     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
    พระวังคีสเถระ l ผู้รับจ้างดีดกระโหลก "เอตทัคคะฝ่ายผู้มีปฏิภาณ" #คนตื่นธรรม #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Jun 21, 2025

    พระวังคีสะ (Phra Vangisa) เป็นพระเถระที่ได้รับการยกย่องจากพระบรมศาสดาในตำแหน่งเอตทัคคะ คือเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทางผู้มีปฏิภาณ
    *ภูมิหลังและวิชาชีพเดิม* เดิมที พระวังคีสะเกิดในตระกูลพราหมณ์ที่นครสาวัตถี ท่านได้รับการศึกษาจนจบไตรเพทและมีความชำนาญเป็นที่พอใจของอาจารย์ อาจารย์จึงได้สอนมนต์พิเศษที่ชื่อว่า "ชวสีสมมุน" ให้ ซึ่งเป็นมนต์ที่ใช้พิสูจน์ศีรษะซากศพมนุษย์ที่ตายไปแล้วถึง 30 ปีได้ โดยการใช้นิ้วหรือดีดที่กะโหลกก็สามารถรู้ได้ว่าเจ้าของกะโหลกนั้นตายไปเกิดเป็นอะไรและเกิดที่ไหน พระวังคีสะมีความเชี่ยวชาญในมนต์นี้มาก จึงอาศัยมนต์นี้เป็นเครื่องเลี้ยงชีวิต และเริ่มมีชื่อเสียงเลื่องลือมากขึ้น ต่อมาท่านได้ตั้งคณะมีผู้ร่วมงานทำกันเป็นระบบ มีการโฆษณาชักชวนให้คนมาใช้บริการ และเดินทางไปทั่วตามเมืองต่าง ๆ ผู้คนจะนำกะโหลกของญาติที่ตายไปแล้วมาให้พิสูจน์กันมากมาย ทำให้คณะของวังคีสะได้รับสิ่งตอบแทนมากมาย ทั้งสิ่งของ อาหาร และเงินจำนวนมาก จนมีฐานะร่ำรวยขึ้น
    *การพบพระพุทธเจ้า* ขณะที่คณะของพระวังคีสะเดินทางท่องเที่ยวไปตามเมืองต่าง ๆ แล้วย้อนกลับมายังเมืองสาวัตถี พักอยู่ในที่ไม่ไกลจากประตูพระเชตวันมหาวิหารมากนัก พวกเขาเห็นประชาชนถือดอกไม้และเครื่องสักการะไปยังวัดพระเชตวัน จึงถามว่าไปไหนกัน ประชาชนตอบว่า "จะไปฟังเทศน์ที่วัดพระเชตวัน" คณะของวังคีสะจึงชักชวนว่า "มาหาบังคีสาร จะดีกว่า เพราะท่านสามารถรู้ว่าคนที่ตายไปแล้วไปเกิดเป็นอะไร ไปเกิดที่ไหน" พุทธบริษัทโต้แย้งว่า "ในโลกนี้ไม่มีผู้ใดจะรู้เท่าเทียมพระพุทธเจ้าของพวกเราได้หรอก" การโต้ตอบนี้กลายเป็นการโต้เถียงที่รุนแรงขึ้นและไม่เป็นที่ยุติ กลุ่มของวังคีสะจึงตามไปที่พระเชตวันมหาวิหารเพื่อพิสูจน์ความสามารถว่าใครจะเหนือกว่ากัน
    *การทดสอบและข้อจำกัดของมนต์*
    พระพุทธเจ้าทรงทราบวัตถุประสงค์ของกลุ่มวังคีสะเป็นอย่างดี จึงรับสั่งให้นำกะโหลกคนตายมา 5 กะโหลก ได้แก่:
    1. กะโหลกของคนตายที่ไปเกิดในนรก
    2. กะโหลกของคนตายที่ไปเกิดในสวรรค์
    3. กะโหลกของคนตายที่ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
    4. กะโหลกของคนตายที่ไปเกิดเป็นมนุษย์
    5. กะโหลกของพระอรหันต์
    เมื่อได้กะโหลกศีรษะครบแล้ว ได้มอบให้วังคีสะตรวจสอบว่าเจ้าของกะโหลกเหล่านั้นไปเกิดที่ไหน วังคีสะตรวจสอบกะโหลกเหล่านั้นไปตามลำดับ และสามารถทราบสถานที่ไปเกิดได้อย่างถูกต้องทั้ง 4 กะโหลกแรก แต่พอมาถึงกะโหลกสุดท้ายซึ่งเป็นกะโหลกของพระอรหันต์ ท่านไม่สามารถทราบได้ ไม่มีเสียงตอบจากเจ้าของกะโหลกว่าไปเกิดที่ไหน วังคีสะจึงนิ่งอยู่คู่หนึ่ง พระพุทธเจ้าจึงตรัสถามว่า "วังคีสะรู้หรือไม่" วังคีสะตอบว่า "ข้าพระพุทธเจ้าไม่รู้ พระเจ้าข้า" พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ตถาคตรู้" และเมื่อวังคีสะถามว่าทรงทราบด้วยมนต์อะไร พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ด้วยกำลังมนต์ของตถาคตเอง"
    *การอุปสมบทและการบรรลุอรหัตผล*
    จากนั้น วังคีสะได้กราบทูลขอเรียนมนต์นั้นจากพระบรมศาสดา ซึ่งพระพุทธองค์ก็ทรงรับจะสอนให้ แต่มีข้อแม้ว่า "ผู้เรียนจะต้องบวช จึงจะสอนให้" วังคีสะคิดว่าถ้าเรียนมนต์นี้จบก็จะไม่ใครเทียมได้ จะเป็นประโยชน์แก่อาชีพของตนเป็นอย่างยิ่ง จึงบอกให้พราหมณ์ร่วมคณะเหล่านั้นรออยู่สัก 2-3 วัน เมื่อบวชเรียนมนต์จบแล้วก็จะสึกออกไปร่วมคณะกันต่อไป เมื่อวังคีสะบวชแล้ว พระบรมศาสดาประทานกรรมฐานมีอาการ 32 เป็นอารมณ์ รับสั่งให้สาธยายท่องบริกรรมพร้อมทั้งพิจารณาไปด้วย ฝ่ายพราหมณ์ที่คอยอยู่ก็มาถามเป็นระยะ ๆ ว่าเรียนมนต์จบหรือยัง วังคีสะก็ตอบว่ากำลังเรียนอยู่ ไม่นานนัก ท่านก็ได้บรรลุพระอรหัตผล เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา พวกพราหมณ์เหล่านั้นเห็นว่าท่านไม่หวนกลับมาสึกออกไปประกอบอาชีพฆราวาสเช่นเดิมอีกแล้ว จึงได้แยกย้ายกันไปตามอัธยาศัยของตน
    *บทบาทหลังการบรรลุธรรมและปรินิพพาน*
    พระวังคีสะเมื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ได้เป็นกำลังช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนา และเมื่อเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคครั้งใดก็จะกล่าวสรรเสริญพระพุทธคุณบทหนึ่งอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ พระบรมศาสดาจึงทรงยกย่องท่านในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทางผู้มีปฏิภาณ คือมีความสามารถในการผูกบทกวีคาถา ท่านดำรงอายุสังขารสมควรแก่กาลเวลาแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
    สุปปพุทธกุฏฐิ l "คนจนผู้ยิ่งใหญ่" คนโรคเรื้อนบรรลุโสดาบัน #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก #คนตื่นธรรม

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Jun 6, 2025

    สุปพุทธกุฏฐิ เป็นบุคคลที่มีชื่อว่า สุปพุทธะ
    *เขาเป็นชายยากจนขัดสน ผู้ยิ่งใหญ่* เขาเป็นคนกำพร้า ขัดสน ยากไร้ ในกรุงราชคฤห์ *เขาเป็นโรคเรื้อน อย่างหนัก* ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ถูกเรียกว่า สุปพุทธกุฏฐิ *เขาเป็นผู้ที่ยากจนเข็ญใจกว่าใครๆ ในกรุงราชคฤห์* ชีวิตความเป็นอยู่ของเขายากลำบากมาก เขาใช้ผ้าเก่าที่ผู้คนทิ้งไว้ที่กองขยะมานุ่งห่ม และถือกระเบื้อง (ชาม) เที่ยวไปตามบ้านเรือนเพื่อขออาหาร แต่ไม่เคยได้ของหรือได้กินตามที่ชอบใจต้องการเลย สภาพชีวิตที่ยากลำบากและโรคเรื้อนของสุปพุทธกุฏฐิ เกิดจาก *อกุศลกรรมในปางก่อนเบียดเบียน* มีสองเหตุการณ์สำคัญที่กล่าวถึง:
    1. *เหตุการณ์ฆาตกรรม:* ในอดีตชาติ สุปพุทธะเคยเกิดเป็นบุตรเศรษฐีในกรุงราชคฤห์ เขาและเพื่อนสนิทอีก 3 คน ซึ่งเป็นบุตรเศรษฐีเช่นกัน ได้พาหญิงโสเภณีผู้มีเครื่องประดับมากไปร่วมอภิรมย์ด้วยตลอดวัน เมื่อถึงเวลาค่ำ *พวกเขาได้ร่วมกันฆ่าหญิงนั้นเพื่อชิงเอาทองคำมูลค่า 1,000 กหาปนะ* และเครื่องประดับอื่นๆ ไป ก่อนตาย หญิงนั้นได้ตั้งความปรารถนาด้วยความอาฆาตว่า คนเหล่านี้ไร้ยางอาย ไร้ความกรุณา ทำสันทวะด้วยอำนาจกิเลสแล้วยังฆ่าตนผู้ไม่มีความผิดเพราะความโลภในทรัพย์ พวกเขาฆ่าตนได้เพียงครั้งเดียว แต่ตนจะขอเกิดเป็นนางยักษ์เพื่อจะได้ฆ่าพวกเขาทั้งสี่คนได้หลายครั้ง หญิงนั้นเมื่อตายไปได้ไปเกิดเป็นนางยักษินีในสมัยพุทธกาล ในพุทธกาลนั้น บุคคลทั้งสี่ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์นี้ ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ ได้แก่ ปุคุสาติกุลบุตร (บรรลุอนาคามิผล), สุปพุทธกุฏฐิ (บรรลุโสดาปัตติผล), พาหิยะ ทารุจิริยะ (บรรลุพระอรหันต์), และนายเพชรฆาตข่าวแดง บุคคลทั้งสี่ท่านนี้ *ถูกนางยักษินีซึ่งแปลงร่างเป็นแม่ครูกิด (แม่โคป่า) ฆ่าตายทั้งหมด*
    2. *เหตุการณ์ดูหมิ่นพระปัจเจกพุทธเจ้า:* ในอดีตชาติอีกครั้ง สุปพุทธะเคยเกิดเป็นบุตรเศรษฐีในกรุงราชคฤห์ ขณะเที่ยวเล่นในสวน เขาได้พบเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ตักสิกขี ผู้กำลังบิณฑบาตในเมือง เขาคิดดูหมิ่นว่า "คนโรคเรื้อนเที่ยวไปขอเขากิน" เขาได้ *กล่าวหาว่าท่านเป็นโรคเรื้อน ถ่มน้ำลาย แล้วหลีกหนีไปทางด้านซ้าย* ซึ่งเป็นการแสดงความดูหมิ่นไม่ให้ความเคารพ การให้ความเคารพที่ถูกต้องคือการหลีกไปทางขวา ด้วยบาปกรรมนั้น *ทำให้เขาต้องตกนรกหมกไหม้อยู่สิ้นแสนปี*
    *ผลกรรมที่ยังคงเหลืออยู่ (เศษอกุศล)* เมื่อเขาได้เกิดเป็นมนุษย์แล้ว จึงทำให้เขาขัดสน กำพร้า ยากไร้ และต้องเป็นโรคเรื้อน วันหนึ่ง สุปพุทธะเดินผ่านมาทางวิหารเวฬุวัน เห็นมหาชนจำนวนมากมาประชุมกันอยู่ เขาเกิดความหิว จึงคิดว่าถ้าเข้าไปในวัด อาจจะได้ของกินบ้าง เมื่อเข้าไปภายในวิหารแล้ว เขาก็พบว่าไม่มีของกิน มีแต่ผู้คนมานั่งฟังธรรม แต่ถึงกระนั้น เขาก็ตัดสินใจว่าจะลองฟังธรรมดูบ้าง พระพุทธเจ้าผู้ทรงรู้แจ้งในใจของพุทธบริษัท ทรงพิจารณาว่าจะมีใครบ้างที่ควรจะรู้แจ้งธรรมได้ *พระองค์ทรงทราบว่า สุปพุทธกุฏฐิมีความสามารถที่จะรู้แจ้งธรรมได้* จึงได้ตรัส *อนุบุพพิกถา* ซึ่งเป็นการแสดงธรรมไปตามลำดับ คือ เรื่องทาน ศีล สวรรค์ โทษของกามอันต่ำทรามเศร้าหมอง และอานิสงส์ของการออกจากกาม (เนกขัมมะ) เมื่อทรงทราบว่าจิตของสุปพุทธกุฏฐิมีความพร้อมสำหรับธรรมที่สูงขึ้นแล้ว *พระองค์ก็ทรงแสดงอริยสัจ 4* ผลจากการได้ฟังพระธรรมเทศนา *สุปพุทธกุฏฐิก็ได้เกิดธรรมจักสุขึ้นในใจ และได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน* *เขาเป็นผู้มีธรรมที่ได้บรรลุแล้ว มีธรรมที่ได้รู้แจ้งแล้ว มีธรรมที่ได้หยั่งถึงแล้ว* เขาข้ามพ้นความสงสัยได้แล้ว ปราศจากความเคลือบแคลง ถึงความเป็นผู้แกล้วกล้า และ *ไม่เชื่อต่อผู้อื่นในศาสนาของพระศาสดา (พระพุทธเจ้า) อีกต่อไป* พระพุทธเจ้าได้ตรัสยืนยันว่า สุปพุทธกุฏฐิเป็นพระโสดาบัน เพราะได้สิ้นไปแห่งสังโยชน์เบื้องต่ำ 3 ประการ *เขาเป็นผู้มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา และเป็นผู้เที่ยงที่จะได้ตรัสรู้ (บรรลุธรรมที่สูงขึ้น) ในภายหน้า* หลังจากบรรลุธรรมแล้ว สุปพุทธกุฏฐิได้ลุกจากที่นั่ง เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าถึงที่ประทับ ได้ถวายบังคมและกราบทูลชมเชยพระธรรมเทศนา พร้อมทั้ง *ประกาศตนเป็นอุบาสกผู้นับถือพระรัตนตรัยตลอดชีวิต* พระพุทธเจ้าได้ทรงชี้แจงให้เขาเห็นแจ้ง ให้สมาทาน อาจหาญ ร่าเริงด้วยธรรม จากนั้น เขาจึงลุกจากที่นั่ง ถวายบังคมพระพุทธเจ้า และกระทำประทักษิณ (เดินเวียนขวา 3 รอบ) แล้วเดินกลับออกจากวิหาร หลังจากออกจากวิหารไปไม่นานนัก *สุปพุทธกุฏฐิก็ถูกแม่โคแม่ลูกอ่อนขวิดจนถึงแก่ความตาย* เหตุการณ์นี้สอดคล้องกับคำอธิษฐานของนางยักษินีในอดีตชาติที่ต้องการฆ่าเขาทั้งสี่คน เมื่อภิกษุทั้งหลายเข้าเฝ้าและกราบทูลเรื่องการตายของสุปพุทธกุฏฐิ และทูลถามถึงภพชาติของเขาหลังจากตายแล้ว พระพุทธเจ้าได้ตรัสตอบว่า *สุปพุทธกุฏฐิเป็นบัณฑิตผู้มีปัญญา ปฏิบัติธรรมตามสมควรแก่ธรรม* และไม่ทำให้พระองค์ต้องลำบากในการแสดงธรรมแก่เขา พระองค์ตรัสย้ำอีกครั้งว่า สุปพุทธกุฏฐิได้เป็นพระโสดาบันแล้ว *เมื่อตายแล้ว เขาจึงไปสู่สุคติโลกสวรรค์ เข้าถึงความเป็นเทวดาในชั้นดาวดึงส์*
     
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084
    พระอุปวาณเถระ l หนึ่งในพุทธอุปัฏฐากพระพุทธเจ้า #พระยสะ #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Jun 22, 2025

    พระอุปวาเถระ เป็นพระภิกษุรูปหนึ่งในสมัยพุทธกาล ผู้มีบทบาทสำคัญในฐานะอดีตพุทธอุปัฏฐากของพระพุทธเจ้า ท่านเป็นผู้บรรลุอรหัตผลและมีอภิญญา 6
    *ภูมิหลังและบุพกรรม*
    ในอดีตกาลหลายแสนกัปที่ผ่านมา ในสมัยพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ พระอุปวาเถระในชาตินั้นเกิดในตระกูลคนรับจ้างในนครหังสาวดี ด้วยผลของอกุศลกรรมบางอย่าง เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพาน มหาชนได้สร้างพระมหาเจดีย์สูง 7 โยชน์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เทวดาได้แต่งตั้งเสนาบดีชื่ออภิสัมมัตกะเป็นผู้รักษาเครื่องบูชา ท่านเห็นมหาชนเลื่อมใสในการบูชาพระเจดีย์ จึงปรารถนาจะเป็นทายาทในธรรมของพระองค์ในอนาคต ท่านจึงนำผ้าห่มที่ซักสะอาดแล้วผูกกับไม้ไผ่ทำเป็นธงถวายเป็นพุทธบูชา ยักษ์อภิสัมมัตกะได้นำธงนั้นลอยขึ้นไปในอากาศกระทำประทักษิณพระเจดีย์ 3 รอบ เมื่อเห็นดังนั้น ท่านมีจิตเลื่อมใสยิ่งนัก ได้เข้าหาภิกษุรูปหนึ่งถามถึงผลของการถวายธง พระเถระได้พยากรณ์ว่า ท่านจะได้ท่องเที่ยวอยู่ในเทวโลกตลอด 30,000 กัป ได้เป็นจอมเทวดาเสวยเทวราชสมบัติ 80 ครั้ง และเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 1,000 ครั้ง รวมถึงเป็นพระเจ้าประเทศอันไพบูลย์โดยนับมิได้ เมื่อพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลกและปรินิพพาน พระธาตุสรีระของพระองค์มีอยู่แห่งเดียว และผู้คนได้สร้างพระเจดีย์สูง 1 โยชน์ ท่านก็ได้จุติมาเป็นอารักขเทวดาในพระเจดีย์นั้น ตามคำอธิษฐานที่ตั้งไว้ การที่ท่านเคยเป็นอารักขเทวดาในพระเจดีย์ของพระพุทธเจ้ากัสสปะมาก่อน เป็นเหตุให้ท่านมีอานุภาพและอำนาจมากในภายหลัง *การเป็นพุทธอุปัฏฐาก*
    พระอุปวาเถระเคยเป็นพุทธอุปัฏฐากอยู่ระยะหนึ่งในช่วงต้นพุทธกาล ในสมัยที่พระผู้มีพระภาคเจ้ายังไม่มีพระพุทธอุปัฏฐากประจำ ในบางครั้งพระนาคสมาระ พระนาคิตะ พระสุนักขัตตะ พระจุนทะสามเณร และพระเมคิยะก็เคยเป็นผู้อุปัฏฐากเช่นกัน พระอุปวาเถระได้อุปัฏฐากพระผู้มีพระภาคเจ้าในทุกอย่าง เช่น กวาดบริเวณ ถวายไม้ชำระพระทนต์ จัดถวายน้ำสงฆ์ ถือบาตรจีวรตามเสด็จ มีครั้งหนึ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันวิหาร ทรงประชวรด้วยลมในท้อง อาการนี้มีมาตั้งแต่ครั้งที่ทรงกระทำทุกรกิริยา 6 พรรษา โดยการเสวยถั่วเขียวและถั่วพูเพียงเล็กน้อย ทำให้ลมในพระอุทรกำเริบ แม้ภายหลังบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณและเสวยโภชนะอันประณีตแล้ว อาพาธนั้นก็ยังปรากฏเป็นระยะๆ ครั้งนั้น พระอุปวาเถระได้เป็นอุปัฏฐากอยู่ ท่านได้ตื่นแต่เช้าตรู่ และเมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกให้ต้มน้ำร้อนเพื่อฉัน ท่านก็รับบัญชา ในสมัยนั้น พระพุทธเจ้ายังมิได้ทรงอนุญาตการต้มน้ำแก่ภิกษุทั้งหลาย ท่านจึงเข้าไปยังที่อยู่ของเทวหิตพราหมณ์ ซึ่งเป็นสหายเก่าแก่สมัยเป็นคฤหัสถ์ พราหมณ์ผู้นี้เลี้ยงชีพด้วยการตั้งโรงอาบน้ำร้อน เมื่อพราหมณ์ทราบว่าพระโคดมไม่สบายด้วยโรคลมในท้อง ก็แนะนำยาให้ละลายน้ำอ้อยด้วยน้ำร้อนเล็กน้อยถวายให้ดื่มในเวลาสนธยา เขาบอกว่าพระเสโทจะซึมออกมาภายนอกพระสรีระ และลมในท้องจะหายไปด้วยยา เทวหิตพราหมณ์ได้ให้คนใช้ถือกาต้มน้ำร้อนและห่อน้ำอ้อยตามไปถวายพระอุปวาเถระ ท่านจึงนำไปถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า และเมื่อทรงเสวยน้ำอ้อยนั้น พระองค์ก็ทรงหายประชวร
    *เหตุการณ์ปรินิพพาน*
    แม้หลังจากที่พระพุทธองค์ทรงโปรดให้พระอานนท์เป็นพุทธอุปัฏฐากประจำแล้ว ในวาระสุดท้ายเมื่อพระพุทธเจ้าจะเสด็จปรินิพพานที่สารวโนทยาน เมืองกุสินารา พระอุปวานะก็ได้ยืนทำหน้าที่ถวายงานอยู่เบื้องพระพักตร์พระพุทธองค์ เทวดาในหมื่นโลกธาตุที่มาประชุมกันเพื่อเข้าเฝ้าและถวายบังคมพระพุทธองค์เป็นครั้งสุดท้ายไม่สามารถเข้าเฝ้าได้ เพราะเห็นท่านอุปวานะยืนขวางอยู่ พระเถระมีรูปร่างใหญ่เหมือนลูกช้าง และเมื่อห่มผ้าบังสุกุลจีวรก็ยิ่งทำให้ดูตัวใหญ่มาก เทวดาไม่สามารถมองทะลุพระอรหันต์ (พระขีณาสก) ได้ และไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ เพราะพระเถระมีอานุภาพมาก เทวดาเหล่านั้นจึงติเตียนพระเถระ พระพุทธองค์ทรงทราบเหตุที่เทวดาติเตียนพระเถระ จึงได้รับสั่งให้ท่านพระอุปวาหลีกไป ด้วยพระดำรัสคำเดียวเท่านั้น พระเถระก็วางพัดใบตาลแล้วยืนอยู่ ณ ส่วนข้างหนึ่ง พระอานนท์เห็นดังนั้นก็บังเกิดความสงสัยว่าเหตุใดพระพุทธองค์จึงทรงขับไล่ท่านอุปวาผู้อุปัฏฐากใกล้ชิดมานานในวาระสุดท้ายเช่นนั้น พระผู้มีพระภาคจึงตรัสตอบว่า เทวดาในหมื่นโลกธาตุมาประชุมกันเพื่อจะเห็นพระตถาคตในเมืองกุสินารา สารวันของพวกเจ้ามัลละนั้นมีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 12 โยชน์รอบด้าน ตลอดทุกแห่งหนไม่มีที่ว่างแม้เพียงปลายขนทรายจะจรดลง พวกเทวดาเหล่านั้นกล่าวโทษอยู่ว่าพวกเขามาแต่ที่ไกลเพื่อจะเห็นพระตถาคต แต่ภิกษุผู้มีศักดิ์ใหญ่รูปนี้ยืนบังอยู่เบื้องพระพักตร์ทำให้พวกเขาไม่ได้เห็นพระตถาคตในกาลเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยเหตุนี้เอง พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงขับพระเถระเพื่อมิให้ขัดขวางการเข้าชมพระบารมีของเหล่าเทวดาทั้งหลาย
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,084

แชร์หน้านี้

Loading...