พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet626, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    9,391
    ค่าพลัง:
    +490
    3713.พระผงว่านรูปเหมือนหลังพระอานนท์ พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อน่วม วัดหลวงครู ที่สุดแห่งเมตตาแดนใต้ ให้บูชา 1150 บาท




    upload_2025-5-17_21-59-50.png

    upload_2025-5-17_22-5-12.png


    หลวงพ่อน่วม วัดหลวงครูไว้ วัตถุมงคลทั้งหลายของท่าน ไม่ว่า สาริกา พระปิดตา ผ้ารอยมือรอยเท้า เหรียญรุ่น 1 2 และพระผงหลังพระอานนท์ ต่างเป็นของดีมีประสบการณ์ ทางคงกระพัน มหาอุด ชนิดที่รียกได้ว่ายิงไม่ออก ฟันกับมีดขายหมูไม่เข้า พวกทหาร 3 จังหวัดทางใต้ขึ้นกันมาก ทางด้านเมตตาก็ถือเป็นสุดยอดแดนใต้
    ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงปู่น่วม ตั้งแต่อุโบสถหลังเก่ายังอยู่เมื่อประมาณปีพ.ศ.2525 ครั้งยังรับราชการที่ค่ายวชิราวุธ เล่า วัตถุมงคลของท่านผมมีทุกรุ่น ตั้งแต่เริ่มสร้างรับรองว่าสุดยอดจริงๆ โดยเฉพาะผ้ารอยเท้ายิงไม่ออก

    หลวงพ่อน่วม วัดหลวงครู เจ้าตำหรับสาริกาแดนใต้
    ถ้าในดินแดนภาคใต้ ไม่มีสาริกาสำนักใด ที่เป็นที่นิยมแก่คนทั้งหลาย เท่าสาริกาหลวงพ่อน่วม วัดหลวงครู สาริกาท่านนั้นมีประวัติการสร้างที่มหัศจรรย์พันลึก จนเป็นตำนาน
    .หลวงพ่อน่วมเริ่มสร้างครั้งแรกใน วันอังคาร ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ตรงกับ วันที่ 1 เมษายน 2517 โดยหลวงพ่อน่วมได้รับมอบตำราการสร้างมาจาก 'ท่านขุนพันธ์รักษ์ราชเดช' ซึ่งเป็นตำราเก่าแก่ของสำนักเขาอ้อที่ตกทอดสืบต่อกันมา เนื่องจากลุงสวัสดิ์และท่านขุนพันธ์ฯ ต่างรู้จักกันดีและเป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกัน เมื่อปรึกษากันแล้วได้ความว่า ผู้ที่พอจะเรียนและสืบทอดตำราวิชาเล่มนี้ได้ ด้วยจริยาวัตรที่เคร่งครัดและเพียบพร้อมไปด้วยตบะบารมี เห็นจะไม่มีท่านอื่นใดนอกจาก 'หลวงพ่อน่วม วัดหลวงครู' ที่ลุงสวัสดิ์นับถือเป็นอาจารย์และฝากตัวเป็นศิษย์อยู่ ท่านขุนพันธ์ฯ จึงได้มอบตำราวิชาการสร้างนกสาลิกาให้หลวงพ่อน่วมได้ศึกษา หลังจากหลวงพ่อน่วมได้รับตำราและได้ศึกษาฝึกฝนอยู่เป็นเวลานานพอสมควร กระทั่งมั่นใจแล้วว่าแตกฉานจริงพอที่จะสร้างเป็นวัตถุมงคลเพื่อสืบทอดวิชา โดยไม่ให้สำนักเขาอ้อซึ่งเป็นต้นวิชาเสียชื่อได้ จึงได้สร้างสาลิกาชุดแรกพร้อมด้วยวัตถุมงคลอื่นๆ ตามวันเวลาดังกล่าว และก่อนหน้านั้นในปี 2516 ได้มีการสร้างถนน รพช. ซึ่งเป็นถนนลูกรังจาก อ.ท่าแพ ไป อ.พรหมคีรี คนงานที่ขับรถขุดดินในขณะนั้น ได้ไปปัสสาวะที่จุดๆหนึ่งในบริเวณที่ทำถนน แต่ปัสสาวะยังไงก็ไม่ออก เกิดความสงสัยจึงใช้รถขุดดินขุดลงไปดูว่ามีอะไร เมื่อขุดไปได้ความลึกระดับหนึ่ง ได้พบไหโบราณ 4 ใบ ภายในบรรจุเม็ดดินกลมๆ ชาวบ้านเรียกว่า 'เม็ดว่านนางตรา' จึงนำมาถวายหลวงพ่อน่วมไว้ตั้งแต่ครั้งนั้น ครั้นเมื่อท่านจะสร้างนกสาลิกาชุดแรก หลวงพ่อน่วมได้เอาเม็ดว่านนางตราดังกล่าวมาใช้เป็นส่วนผสม ในการสร้างนกสาลิการวมถึงวัตถุมงคลอื่นๆ ซึ่งมวลสารที่ใช้สร้างนั้น ได้แก่ เม็ดว่านนางตรา, ชันโรง, เส้นเกศาของหลวงพ่อน่วม, ผงวิเศษต่างและว่านยาตามตำราเขาอ้อ เป็นต้น และตามคำบอกเล่าของลุงสวัสดิ์ ยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่หลวงพ่อน่วม ท่านได้เริ่มสร้างวัตถุมงคลในครั้งแรกนั้นก็คือ ในการนั่งสมาธิของหลวงพ่อน่วมครั้งหนึ่ง ท่านเกิดนิมิตว่าได้พบกับพระอานนท์ และพระอานนท์ได้บอกให้ใช้คาถา 'หัวใจพระอานนท์' ในการปลุกเสกพระปิดตาและวัตถุมงคลต่างๆ การสร้างนกสาลิกายุคแรกนั้น ท่านจะใส่ไว้ในปากคราวละ 7 ตัว แล้วดำลงน้ำที่เขื่อนหลังวัด เพื่อเสกนกสาลิกาให้ได้ตามตำรา เมื่อผ่านพ้นคราวแรกนี้ไปแล้วก็มีการสร้างมาอีกเรื่อยๆ แต่ได้คราวละน้อยๆเพียงไม่กี่ตัว แต่การดำลงเสกใต้น้ำนั้น มาภายหลังลุงสวัสดิ์และลูกศิษย์ใกล้ชิดได้ขออนุญาตให้ท่านยกเลิกเสีย เนื่องจากหลวงพ่อน่วมท่านอายุมากแล้ว แต่ขอให้ท่านมาเสกภายในโบสถ์แทน ซึ่งในสมัยนั้นโบสถ์ยังไม่มีหลังคา เมื่อถึงเวลาตามฤกษ์ยามที่กำหนดไว้แล้ว ก็ตั้งปะรำพิธี มีเสา 4 เสา ข้างบนขึงด้วยผ้ายันต์ ขณะปลุกเสกท่านจะนั่งสมาธิและร่างกายท่านจะค่อยๆส่ายไปมา เหมือนกับท่านจะลอยได้ และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้นกสาลิกาของหลวงพ่อน่วมโด่งดังไปทั่วพื้นที่ เพราะระหว่างที่ท่านทำการปลุกเสกในโบสถ์นั้น ชาวบ้านและลูกศิษย์ที่อยู่ข้างนอก ต่างได้ยินเสียงนกร้องในโบสถ์ชนิดที่ชุลมุนวุ่นวายไปหมด ในการปลุกเสกนกสาลิกาและวัตถุมงคลต่างๆ ลุงสวัสดิ์จะมานั่งสมาธิร่วมอยู่ด้วยเกือบทุกคราวไป โดย 'ลุงสวัสดิ์ โมราศิลป์' ท่านเป็นศิษย์สายฆราวาสแห่งเขาอ้อ ลูกศิษย์ของ 'อาจารย์เอียด วัดดอนศาลา' ซึ่งมีท่านขุนพันธ์ฯเป็นศิษย์ผู้พี่ อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันและรู้จักรักใคร่สนิทสนม ในฐานะศิษย์พี่ศิษย์น้องกันมาอย่างยาวนาน วัตถุมงคลที่หลวงพ่อน่วมสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2517 นั้นประกอบไปด้วย นกสาลิกา, พระบูชารุ่นแรก, พระพิมพ์ท่าเรือ, พระรูปเหมือนพิมพ์หลังพระอานนท์, ผ้ายันต์รอยมือรอยเท้า, พระปิดตาก้นถ้วยฝังตระกรุดและไม่ฝังตระกรุด ส่วนเรื่องการทายางหรือชุบรักนั้น จริงๆแล้วเมื่อสร้างออกมาแจกในคราวแรกๆ ไม่ได้มีการทารักหรือปิดทองใดๆ เพียงแต่ทำเสร็จก็แจกเฉพาะเป็นคนๆไปตามที่ท่านเห็นสมควร ภายหลังเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง ลูกศิษย์จึงได้เอามาแต่งตะไบพิมพ์แล้วลงรักทายางเสียใหม่ เพราะมักเกิดปัญหาเนื้อพระหลุดยุ่ยง่าย นกสาลิกาแบบที่แต่งพิมพ์แล้วทายางรักจึงมีจำนวนไม่มาก บางคนเรียกว่า 'พิมพ์กรรมการ' และนี่คือสาเหตุที่นกสาลิกาของท่าน มีทั้งแบบทายางรักและไม่ทา และที่หลายท่านสงสัยว่า 'นกสาลิกาของหลวงพ่อน่วม' ห้อยรวมกับพระได้หรือเปล่า บางคนบอกว่าต้องห้อยเดี่ยวเพราะเป็นเครื่องราง สบายใจได้เลยครับว่าห้อยรวมกันได้แน่นอน เพราะเป็นวัตถุที่ปลุกเสกด้วยอำนาจแห่งพระพุทธคุณ ไม่ได้เป็นของต่ำมนต์ดำแต่อย่างใด จะห้อยเดี่ยวห้อยรวมหรือเหน็บใส่กระเป๋าก็ได้แต่ไม่ควรห้อยต่ำกว่าเอว และที่มีรูปลักษณ์เป็น 'นกสาลิกา' ก็เป็นเพียงกุศโลบายแห่งพิมพ์ทรง ที่ต้องการสื่อว่ามีพุทธคุณเด่นทางด้านใด เช่นเดียวกับเครื่องรางทุกชนิดที่ปลุกเสกด้วยคุณพระ ไม่ว่าจะเป็น นางกวัก, เขี้ยวเสือ, หรือตะกรุดต่างๆ เป็นต้น ด้วยพุทธคุณที่เด่นชัดในเรื่องเมตตา มหาเสน่ห์ โชคลาภ ค้าขาย เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ และงานต่างๆที่ต้องใช้ปากเจรจา ส่งผลให้นกสาลิกาของท่านได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่จะหาของแท้ๆสักตัวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจำนวนการสร้างที่น้อยนิด และของเก๊ของเสริมก็ออกมาเรื่อยๆ เล่นหาต้องระวังให้มาก และปิดท้ายด้วยคาถาสาลิกาของหลวงพ่อน่วม 'กอหนอ ยอตอ เมตตา สัพพะเสน่หา จะปุริถิตัง สัพพะลาภัง วินาศสันติ' คาถาบทนี้ได้มาจากภรรยาของลุงสวัสดิ์ โมราศิลป์ ให้ตั้งนะโม 3 จบ แล้วบอกกล่าวแก่หลวงพ่อน่วม และครูบาอาจารย์สายเขาอ้ออันเป็นเจ้าของวิชาก่อน และหากได้นกสาลิกาของหลวงพ่อน่วมมา ก่อนอื่นท่านว่า 'ให้เอาแผ่นทองปิดที่ปากนก' โดยถือเคล็ดว่าเป็นการเปิดปากนก
     
  2. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    9,391
    ค่าพลัง:
    +490
    ..........
     
  3. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    9,391
    ค่าพลัง:
    +490
    3714.พระผงเสด็จกลับ หลวงพ่อแดง พุทโธ วัดถ้ำเขาเงิน จ.ชุมพร ปี2511 พิธีใหญ่สายเขาอ้อ ขุนพันธ์ พระอาจารย์นำ อาจารย์ชุม ไชยคีรี เนื้อว่านสบู่เลือด ให้บูชา 900 บาท


    upload_2025-5-18_10-17-10.png

    upload_2025-5-18_10-17-17.png

    upload_2025-5-18_10-17-23.png

    upload_2025-5-18_10-17-29.png


    พระรุ่นนี้ สร้างจากเนื้อว่านยา 108 ชนิด ผงเลขยันต์ตำราวัดเขาอ้อ 108 ดวง เป็นพิมพ์พระขุนแผน จัดสร้างพร้อมกับพระรูปเหมือนอาจารย์ทองเฒ่า และ ปิดตานอโม พิธีแรกที่วัดบ้านสวน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง พระอาจารย์ รวม 108 อาจารย์ เชิญวิญญาณอาจารย์สมภารนอโมและวิญญาณอาจารย์เฒ่า เข้าประทับทรงปลุกเศก เกิดเป็นตัวต่อจำนวน 1,000 ตัว มาปิดรอบปริมณฑลพิธี มีความอัศจรรย์อย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน พิธีวันที่ 12 มีนาคม 2510 ปลุกเศกอยู่ 33 วัน แล้วเก็บไว้ไปเข้าพิธีที่วัดถ้ำเขาเงินในปีต่อมา เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2511 เมื่อปลุกเสกเสร็จแล้ว พิมพ์นี้ได้จัดถวายหลวงพ่อแดง วัดอุทัยธรรม (วัดเขาถล่ม) จ.ชุมพร
    ในพิธีกรรมเมื่อปี พ.ศ. 2511 ที่วัดถ้ำเขาเงิน อาจารย์ชุมได้กำหนดพิธีกรรมในการปลุกเสกให้เป็นไปตามแบบโบราณอย่างแท้จริงด้วยการ “เสกเปิด” ไม่มีสิ่งใดถูกห่อหุ้มปิดบังเลย พระภาวนาจารย์ที่มาร่วมงานในครั้งนั้น ก็ล้วนเป็นอาจารย์ที่อาจารย์ชุมได้ทำการคัดมาแล้วเป็นอย่างดีด้วยตัวท่านเองว่า “มือถึง” และยังรู้ใจกันดีอีกต่างหาก พิธีพุทธาภิเศกที่วัดถ้ำเขาเงิน ชุมพร เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ ปี 2511 เป็นพิธีใหญ่ที่รวมศิษย์สายเขาอ้อร่วมกันปลุกเสก ขุนพันธ์ฯเป็นประธานจัดสร้าง อ.ชุมและหลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน ร่วมกันสร้างเพื่อแจกจ่ายทหาร ตำรวจ ประชาชนที่ศรัทธา
    โดยพระภาวนาจารย์ที่มาร่วมงานในครั้งนั้นมีรายนามต่อไปนี้
    พระอาจารย์นำ ชินวโร วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
    หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน จ.พัทลุง
    พระอาจารย์ปาล วัดเขาอ้อ
    หลวงปู่หมุน วัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง
    พระครูปลัดพวง วัดประสาทนิกร หลังสวน จ.ชุมพร
    หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน หลังสวน จ.ชุมพร
    อาจารย์ชุม ไชยคีรี เขาไชยสน จ.พัทลุง
    ปลุกเสกตามตำรับไสยเวทย์ของเขาอ้อ โดยพิธีมหาพุทธาภิเษกคราวนี้จัดทำขึ้นที่ถ้ำ จปร. เป็นเวลา 8 วัน 8 คืน นับตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2511 ถึงวันที่ 19 ปีเดียวกัน ทุกองค์ต่างทุ่มเทให้กับงานพิธีเป็นที่สุด และเมื่อ “บรรจบคุณ” ครบสูตรตามตำราบังคับแล้ว ในวันสุดท้ายของพิธี อาจารย์ชุม ไชยคีรี ก็แสดงความมหัศจรรย์ของอำนาจจิตให้ปรากฏแก่สายตาผู้มาร่วมพิธี ด้วยการให้ศิษย์และพยานนำเอาพระจำนวน 1,000 องค์ ไปทิ้งลงทะเลบริเวณปากน้ำหลังสวน ส่วนตัวท่านก็นั่งบริกรรมภาวนาเรียกพระด้วยอำนาจจิตที่กล้าแข็ง น่าอัศจรรย์เหลือจะกล่าว เพราะพระทั้ง 1,000 องค์ ที่จมดิ่งลงสู่ก้นทะเล กลับปาฏิหาริย์ตกลงมาในบริเวณพิธีจนครบ 1,000 องค์ ทุกองค์เปียกชุ่มไปด้วยน้ำทะเล อันเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า “กลับมาจริง” ทั้งที่ปากน้ำหลังสวนกับถ้ำ จปร. ห่างกันถึง 10 กว่ากิโล โดยคุณแม่บุญสืบ ไชยคีรี ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของอาจารย์ชุม กรุณาเล่าให้ฟังว่า ทีแรกตำรวจนับร้อยนายก็มาล้อมกันเต็ม เพราะอาจารย์ชุมถูกกล่าวหาว่าแสดงกลโกหก ดังนั้นตามเวลาที่อาจารย์ชุมกำหนดไว้ หากพระไม่กลับมา ท่านจะถูกจับทันทีฐานหลอกลวงประชาชน แต่ก็ไม่มีใครได้จับ เมื่อพระตกลงมาต่อหน้าต่อตาคนร่วมพันในพิธี ผู้เคยหมิ่นประมาทท่านไว้ก็กลับใจมาเป็นศิษย์ภายหลัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...