คลังเรื่องเด่น
-
ทางธรรมพระฝรั่ง “พระอาจารย์ชยสาโร” ณ บ้านบุญ-บ้านไร่ทอสี
สืบเนื่องจากวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งไปทรงบำเพ็ญพระกุศล และสนทนาธรรมกับพระอาจารย์ ฌอน ชยสาโร ณ สถานปฏิบัติธรรมบ้านไร่ทอสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
เรื่องนี้ สร้างความปลาบปลื้มปีติแก่พสกนิกชาวไทย ที่ได้เห็นพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ทีฯ พร้อมกันนั้นหลายคนก็มีความสนใจที่จะรับทราบเรื่องราวของพระอาจารย์ฌอน ชยสาโร มากยิ่งขึ้น
พระอาจารย์ชยสาโร มีนามเดิมว่า ฌอน ชิเวอร์ตัน เป็นบุตรของนายเค็น และนางจูน ชิเวอร์ตัน กำเนิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2501 ณ เกาะไอล์ออฟไวต์ ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ อยู่ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ
จากนั้นผู้เป็นบิดาและมารดาจึงได้อพยพครอบครัวไปอยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศอังกฤษ โดยมีข้อมูลระบุว่า เมื่อยังเล็กท่านมีสุขภาพไม่ดี มีอาการหอบหืด แม้จะต้องหยุดโรงเรียนบ่อย แต่ก็ได้ใช้เวลาในการศึกษาด้วยตนเอง
และด้วยความขยันบากบั่น จึงมีผลการเรียนที่ดีเยี่ยม จนครอบครัวตั้งความหวังให้ท่านสอบชิงทุนเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในประเทศอังกฤษ แต่สิ่งที่ท่านสนใจ กลับเป็นเรื่องของ “การแสวงหาสัจธรรมความจริง”... -
ชวนส่งโครงการขอรับหนุนงบ”กองทุนในหลวงร.9เผยแผ่พุทธ”
วันอังคาร ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560, 16.01 น.
ชวนส่งโครงการขอรับหนุนงบ”กองทุนในหลวงร.9เผยแผ่พุทธ”
สมเด็จพระวันรัตร่วมแถลงข่าวกองทุนเผยแผ่พระธรรมในพระพุทธศาสนา ตามพระราชประสงค์ ๒๕๕๑ ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมอนุโมทนาและร่วมสมทบทุน พร้อมเชิญชวนองค์กรหรือเครือข่ายทางพระพุทธศาสนาที่สนใจสามารถส่งโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ
วันอังคารที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เวลา ๐๙.๐๐ น. สมเด็จพระวันรัต กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนเผยแผ่พระธรรมในพระพุทธศาสนา ตามพระราชประสงค์ พ.ศ.๒๕๕๑ เป็นประธานแถลงข่าวงานกองทุนเผยแผ่พระธรรมในพระพุทธศาสนา ตามพระราชประสงค์ ๒๕๕๑ นายสมเกียรติ ธงศรี ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ร่วมแถลงข่าวกองทุนเผยแผ่พระธรรมในพระพุทธศาสนา ตามพระราชประสงค์ ๒๕๕๑ ณ ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่
กองทุนเผยแผ่พระธรรมในพระพุทธศาสนา ตามพระราชประสงค์ ๒๕๕๑ จัดตั้งขึ้น โดยที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินจำนวน... -
คาถาสืบชะตา-ต่ออายุ
คาถาสืบชะตา-ต่ออายุ เป็นพระคาถาที่อยู่ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้ทรงเมตตาให้เทวดาองค์หนึ่งที่กำลังหมดอายุขัย จะต้องลงไปเสวยกรรมในนรก แต่เทวดาองค์นี้มีความกลัวมาก ที่จะต้องลงไปเกิดในเมืองนรก จึงดิ้นรนทุกวิถีทางที่จะไม่ไป แต่ก็ไม่มีใครจะช่วยเหลือได้ แม้แต่องค์พระอินทร์ แต่ยังโชคดีที่พระพุทธเจ้า ทรงแนะนำให้ภาวนาคาถาบทนี้ จะได้มีอายุยืนยาวต่อไป เพื่อที่จะได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่นี้บำเพ็ญภาวนา ใช้หนี้กรรมที่มีอยู่ให้หมดไป
พระคาถาบทนี้จึงมีอานุภาพมากในเรื่องของการมีอายุยืนยาว และยังทำให้สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยอย่างง่ายๆ อีกด้วย สำหรับผู้ที่มีสุขภาพไม่ดี มีอาการป่วยแล้วรักษาหายยาก ควรหมั่นท่องภาวนาเป็นประจำ จะหายได้โดยเร็ววัน
อัตถิ อุณหิสสะ วิชะโย ธัมโม โลเก อะนุตตะโร
สัพพะสัตตะหิตัตถายะ ตัง ต์วัง คัณหาหิ เทวะเต
ปะริวัชเช ราชะทัณเฑ อะมะนุสเสหิ ปาวะเก
พะยัคเฆ นาเค วิเส ภูเต อะกาละมะระเณนะ วา
สัพพัส์มา มะระณา มุตโต ฐะเปต์วา กาละมาริตัง
ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุขี สะทา
สุทธะสีลัง สะมาทายะ ธัมมัง สุจะริตัง จะเร
ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุขี สะทา
ลิกขิตัง จินติตัง... -
ดวงถึงฆาต!!ดวงตก ทำบุญไม่ขึ้น มีวิธีแก้อย่างไร
1. ให้หมั่นปล่อยชีวิตสัตว์ที่ชะตากำลังถึงฆาต..อธิษฐาน อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรของเราและชาวโลกและภพสามโลกันตร์ เช่นอย่าให้เกิดการเวียนว่ายตายเกิด..อย่าให้เกิดภัยพิบัติไม่ว่าจากธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ เช่นคลื่นยักษ์สึนามิ แผ่นดินไหว วาตภัย อัคคีภัย ภัยนอกโลกหรือในโลก นำการอธิษฐานอุทิศบุญแบบตัดรากถอนโคนมาประยุกต์ทำด้วย
ส่วนใหญ่จะเป็นพวกสัตว์ในตลาดสดที่กำลังถูกฆ่า ถูกทุบหัว ถูกชำแหละเช่น ปลาดุก ปลาช่อน กบ หอยขม เขียด ปลาที่คนจะกินเป็นอาหาร ควรเน้นตัวมีไข่ มีท้องเท่ากับจะได้ช่วยอีกเป็นล้านๆ ชีวิต ถ้ามีกำลังทรัพย์ก็ให้ไถ่ชีวิตโค กระบือ หมู หรือสัตว์ใหญ่ที่จะถูกฆ่าชำแหละ
กรณีบุคคลอันเป็นที่รักป่วย อาการแย่ ลองทำดูติดๆกันช่วยกันทั้งครอบครัวทั้งตระกูลเลย อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณคนป่วย อย่างต่ำๆทำติดต่อกัน สิบเก้าครั้ง และหลังจากนั้นทำตลอดอายุขัย แต่ละครั้งควรจุดธูปกลางแจ้งบอกพระรัตนตรัยเทวดาฟ้าดินสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บอกว่าขอต่ออายุขัยคนป่วยหรือคนชะตาขาดคนนี้ด้วยและภัยพิบัติต่างๆที่เรา กำลังกังวลกัน
ไปไถ่ชีวิตสัตว์ให้รอดพ้นความตายแล้วให้บอกคนป่วยอนุโมทนาด้วย ให้นะโม สามจบ... -
อย่าให้เสียทีที่เกิดมา ( พระครูวิลาศกาญจนธรรม,ดร. )
อย่าให้เสียทีที่เกิดมา
.............................
"ช่วงนี้พระพุทธศาสนาของเราค่อนข้างจะสั่นคลอน เพราะว่าสื่อสังคมต่างๆ ทำให้ข่าวไปถึงได้เร็วแล้วก็ง่าย แต่การรับข่าวของพวกเราก็ควรที่จะรับอย่างมีสติ คำว่ามีสติในที่นี้ก็คือ อย่าไปใส่อารมณ์ตามเนื้อข่าว ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่เป็นจริงก็ตาม ถ้าเราไปใส่อารมณ์ตามเนื้อข่าวเมื่อไร โอกาสที่เราจะขาดทุนมีสูงมาก
โดยเฉพาะบรรดาท่านทั้งหลายที่ไปลงความเห็นในลักษณะของการตำหนิติเตียนหรือด่าว่าพระสงฆ์ การที่เราตำหนิติเตียนหรือด่าว่าพระสงฆ์ ท่านยิ่งบริสุทธิ์เท่าไร โทษก็ยิ่งหนักเท่านั้น
ถ้าหากว่าจะดูตัวอย่างในพระธรรมบท ซึ่งเศรษฐีไปด่าพระที่ต้องอาบัติปาราชิก ขาดความเป็นพระไปแล้ว ปรากฏว่าเศรษฐีต้องไปเกิดเป็นเปรตอยู่ในหลุมขี้ ก็เพราะว่าคนอื่นทำผิดทำชั่วก็จริง แต่พอเราไปด่าว่า เราก็ทำชั่วไปด้วย ก็คือทำชั่วด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจนั่นเอง การไปจ้องจับผิดผู้อื่นเป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำอยู่แล้ว การด่าว่าจิตก็ต้องประกอบไปด้วยโทสะ โมหะ
ดังนั้น...เมื่อตายไปเศรษฐีก็เลยกลายเป็นเปรต เหมือนอย่างกับว่าคนอื่นหาทางลงอบายภูมิ เราเห็นเข้าเราก็โดดตามลงไปด้วย ทั้งๆ... -
อรหันต์ ชั่วคราว ( โอวาทหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง)
เรื่อง..* อรหันต์ ชั่วคราว *
..." พระอรหันต์ มีความสำคัญอยู่อย่างเดียว คือ "สังขารุเปกขาญาณ"
.. หลวงพ่อวัดพระพุทธบาทตากผ้า ท่านบอกว่า "อรหันต์ชั่วคราว" หรือ "ขณิกอรหันต์" หรือ "ขณิกนิพพาน" แต่ว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นบ่อย ๆ อารมณ์มันจะชิน
.. อย่าลืมนะคุณนะ บางครั้ง เราอาจจะเห็นว่า ร่างกายของเรานั้น ไม่เป็นเรื่อง ร่างกายมีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น มีความแปรปรวนไปในท่ามกลาง มีการสลายตัวไปในที่สุด
* การมีชีวิตอยู่ ก็ประกอบการงานมีความลำบาก แล้วในที่สุดก็ต้องตาย ถ้ายังเวียนว่ายตายเกิดอยู่เราก็ต้องเกิดอย่างนี้ต่อไป จิตใจเกิดวางเฉยในร่างกายขึ้นมา คิดว่า ร่างกายอย่างนี้มันจะตายเมื่อไหร่ก็เชิญตาย แต่ฉันจะไปนิพพาน
* อารมณ์อย่างนี้เคยมีไหม นี่แหละ เวลานี้ถ้าจิตแบบนี้ มันเป็น "อรหันต์บางครั้ง" หรือ "อรหันต์ชั่วคราว"
.. แต่ขณะที่เป็น "อรหันต์ชั่วคราว" นี่ ใครจะมาด่าที่หลังบ้านนี่ ไม่ได้นะ เดี๋ยวอรหันต์ลากลับ นักเลงมาแทน ( หัวเราะ ) แต่ไม่แน่นะ เพราะจิตมันมีอารมณ์หนักกว่า
.. คำว่า "หนัก" นี่เรียกว่า "บุญมากกว่า"
* ฉนั้น การเจริญพระกรรมฐาน และการทำบุญของบรรดาญาติโยมพุทธบริษัท... -
“วิธีระงับดับความคิดฟุ้งซ่าน” พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
“วิธีระงับดับความคิดฟุ้งซ่าน”
ความคิดฟุ้งซ่าน คิดเรื่อยเปื่อย คิดแล้วก็ทำให้เกิดความวุ่นวาย ความวิตกกังวลอะไรต่างๆ ขึ้นมา อารมณ์ว้าวุ่นขุ่นมัวขึ้นมาก็เพราะเกิดจากการเผลอสติปล่อยให้ใจคิดไปก็ต้องใช้การเจริญสติ จำเป็นจะต้องเจริญสติตลอดเวลา เพราะความคิดนี้เขาทำงานตลอดเวลา เขาจะหยุดก็ต่อเมื่อมีสติมาระงับไว้ เหมือนกับรถยนต์ที่วิ่งอยู่ ถ้าต้องการให้รถยนต์หยุดวิ่งก็ต้องใช้เบรค เหยียบเบรคไปเรื่อยๆ เหยียบไปจนกว่ารถยนต์จะหยุดวิ่งถึงจะปล่อยเบรคได้ การเจริญสตินี้ก็เป็นเหมือนกับการใช้เบรค หยุดความคิดปรุงเเต่งต่างๆ ถ้ามีสติแล้วความคิดปรุงเเต่งจะสงบตัวลงได้ ถ้าความคิดปรุงเเต่งหยุดสงบตัวลงได้ เราก็หยุดบริกรรมได้ เช่น เราใช้คำบริกรรมพุทโธๆ เวลาที่ใจยังคิดถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่ เราก็ต้องใช้คำบริกรรมพุทโธๆเพื่อหยุดความคิดเหล่านั้น เวลาที่เราเริ่มต้นใหม่ๆนี้ ความคิดเขาจะไม่หยุดไปทันทีทันใด เวลาที่เราบริกรรมพุทโธๆ มันเหมือนจะต้องเเข่งกันความคิดเขาก็ยังคิดอยู่ เราก็ต้องใช้พุทโธมาแข่งกับเขา เราไม่ต้องไปสนใจกับความคิดที่เรายังมีอยู่ที่เรายังดับไม่ได้ ให้เราสนใจอยู่กับคำบริกรรมพุทโธๆไปเรื่อยๆ... -
หลวงปู่เจี๊ยะ เทศนาธรรมแท้ซัดเต็มเหนี่ยว
เรื่อง “หลวงปู่เจี๊ยะ เทศนาธรรมแท้ซัดเต็มเหนี่ยว”
(วิสัชนาธรรมโดย หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท)
(ปุจฉาธรรมโดย หลวงปู่เฟื้อง โชติโก)
ครั้งหนึ่งหลวงปู่เจี๊ยะท่านสนทนา กับ ท่านอาจารย์เฟื่อง โชติโก ผู้เป็นสหธรรมิก ท่านทั้งสองได้ปุจฉาวิสัชนาธรรมดังนี้
อาจารย์เฟื่อง : “เจี๊ยะ! ไปสอนเขาแบบนี้ เขาก็หนีหมดซิ ผู้หญิงฯ สอนให้พิจารณาแต่ของเน่าของเหม็น”
อาจารย์เจี๊ยะ : “ไอ้ฉิบหาย! กูไม่เชื่อเลย ไอ้พวกนั่งจับลมๆ แม่งมึงก็หลับซิ พระพุทธเจ้าไปอยู่กับอาฬารดาบส และอุททกดาบส จนสำเร็จฌานแปด รูปฌาน ๔ อรูปฌาน ๔ ถึงมาเจริญอานาปานสติในตอนหลัง
นี่ยังไม่ได้อะไรเลย จะมาจับลม เข้าพุท โธออก ไม่ทันหรอก อยู่กับหลวงปู่มั่น ๓ ปี ๔ แล้ง ไม่เคยสอนซักที จับลมนี่ มีแต่ให้พุทโธเร็วๆ บริกรรมพุทโธเร็วๆ เฟื่อง! สอนอย่างไรวะ”
อาจารย์เฟื่อง : “ไอ้ฉิบหาย! สอนเขาอย่างนี้ให้เหม็นเน่า ตัดคอตัดแขน ตัดขา แลบลิ้นออกมาตัด คอขาด แขนขาด เน่าเฟะ เรี่ยราดอยู่กลางศาลา แค่ฟังเขาก็กลัวแล้ว แล้วใครเขาจะมาฟังเทศน์เล่า
ใครเขาจะเข้ามาใกล้ มีเพลงเดียว กัณฑ์เดียว ๑๐ ปี ก็เอาอย่างเก่า ปรับปรุงสำนวนให้มันนุ่มนวลหน่อยไม่ได้หรือ?... -
เกิดฟ้าผ่า1.7แสนครั้งที่รัฐควีนส์แลนด์
ภาพฟ้าผ่าเมืองบริสเบนถ่ายโดยอเล็กซ์ เกร็ก
เมื่อคืนวันอาทิตย์ถึงเช้าวันจันทร์ เกิดพายุฝนฟ้าคะนองในเขตตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย และฟ้าผ่าราว 176,000 ครั้ง
บีบีซีรายงานว่าเกิดฟ้าผ่าที่รัฐควีนส์แลนด์เมื่อคืนวันอาทิตย์ถึงเช้าวันจันทร์กว่า 176,000 ครั้ง ด้านเว็บไซต์ช่อง 9 นิวส์ ของออสเตรเลียรายงานว่า เกิดฟ้าผ่าคืนวันอาทิตย์ราว 130,000 ครั้ง ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยารัฐควีนส์แลนด์เตือนจะเกิดฝนฟ้าคะนองรุนแรงขึ้นอีก และมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บขนาดใหญ่ พายุเมื่อคืนวันอาทิตย์ทำให้ต้นไม้จำนวนมากโค่นล้ม และสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนหลายหลัง
สภาพอากาศที่แปรปรวนสร้างความสนใจต่อช่างภาพ และนักล่าพายุ โดยหลายคนเผยภาพฟ้าผ่าในรัฐควีนส์แลนด์ทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก สเตป ดอยล์ ช่างภาพชาวเมืองบริสเบน รัฐควีนส์แลนด์เผยกับบีบีซีว่า เกิดฟ้าผ่าเต็มท้องฟ้าอยู่หลายชั่วโมง ซึ่งมีฟ้าผ่ามากกว่าพายุปกติ
มีรายงานว่าเกิดฟ้าผ่าในเมืองบริสเบนอยู่ราว 3 ชั่วโมง ช่วงค่ำวันอาทิตย์ และฟ้าเริ่มผ่าอีกครั้งในช่วงเช้ามืดวันจันทร์
เอนเนอร์เจ็กซ์บริษัทผลิตไฟฟ้าท้องถิ่นเผยกับช่อง 9 นิวส์ว่า... -
ถ้าอาชีพที่ทำอยู่ขวางต่อการปฏิบัติพระท่านแนะนำดังนี้…
ถ้าอาชีพที่ทำอยู่ขวางต่อการปฏิบัติพระท่านแนะนำดังนี้…
“… ถ้าเราเป็นคนฉลาดสักหน่อยหนึ่ง ก็คิดว่าขึ้นชื่อบาปเราเว้นไม่ได้
บาปบางอย่างบรรดาท่านพุทธบริษัทบางคนเว้นไม่ได้ นั่นคือบุคคลที่ปลูกต้นไม้ ปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหาร ย่อมซื้อยาฆ่าแมลงฆ่าสัตว์ อันนี้มีความจำเป็น พระก็เห็นใจคน คนก็เห็นใจพระ ในเมื่อมีความจำเป็นอย่างนี้ ทำอย่างไรถ้าเราไม่หาสิ่งที่มาแก้ มาค้าน มันก็ไปอบายภูมิก่อนแน่เราก็ต้องหาทาง แก้ในสิ่งที่ง่าย ๆ คือ
….หนึ่งศีล จะรักษาศีลให้บริสุทธิ์ทุกข้อ เรารักษาไม่ได้ แต่ว่าข้อใดที่รักษาได้ก็ทรงให้มั่นคง
….ประการที่สอง พระพุทธเจ้ายึดไว้เป็นอารมณ์นี่เป็นสำคัญมาก อย่าทิ้งพระพุทธเจ้า นึกถึงพระพุทธเจ้าทุกวันทุกคืน พอตื่นขึ้นมาเช้านึกถึงท่านสัก ๕ นาที หรือ ๑๐ นาที ก็พอ ให้แน่นอน เวลาจะหลับนึกถึงพระพุทธเจ้าสัก ๔ – ๕ นาที ก็พอ เอาให้แน่นอนเป็นประจำ หรือว่าบุคคลใดอยู่บ้านชอบบูชาพระ บูชาพระนี่เป็นการนึกถึงพระพุทธเจ้าด้วยเป็นการ เข้าถึงไตรสรณคมน์ที่พึ่ง ๓ ประการ คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
…ก็มีตัวอย่าง หลายคนที่ตายไปแล้ว เมื่อต้องการอยากจะทราบว่า เวลานี้
เขาไปไหนก็เชิญเขามา... -
การนำของสงฆ์ไปเป็นทรัพย์ส่วนตัวนั้นต้องระวัง (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
“… การนำของสงฆ์ไปเป็นทรัพย์ส่วนตัวนั้นต้องระวัง แม้แต่เศษกระเบื้องแตก ๆ เล็ก ๆ ชิ้นเดียวหรือดอกไม้เล็ก ๆ ชิ้นเดียว ใบไม้ที่ไร้ค่าจริง ๆ แล้วใบเดียว ท่านนำไปโดยที่สงฆ์ไม่ได้อนุญาต
ก็ถือว่าเป็นการขโมยของสงฆ์ ผลที่จะพึงได้รับก็คือ อเวจีมหานรก
….ฉะนั้น ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกคน ถ้าเป็นลูกเป็นหลานพระ เป็นญาติของพระเป็นผู้ที่รับมรดกจากพระ เมื่อพระตายแล้ว บอกให้พระที่มีส่วนสำคัญของท่านมอบเสียก่อนตาย ถ้ายังไม่
สามารถจะยกให้ไปได้ ให้ทำพินัยกรรม แล้วก็มีฆราวาสและมีพระเป็นพยาน ว่าของส่วนนี้เมื่อท่านตายไปแล้วเป็นสมบัติที่บุคคลนั้นจะพึงได้ บุคคลนี้จะพึงได้ ถ้าไม่ทำอย่างนั้น ถ้าพระตายไปก่อนแล้วท่านนำเอาไปบ้านของท่าน..
…อย่าลืมว่าโทษลักของสงฆ์ เป็นของไม่เล็กเลย ความจริงเราได้มาเราก็ตาย เราไม่ได้มาเราก็ตาย ทางที่ดีก็ควรจะตายแบบประเภทที่เรียกว่าไปอยู่ในแดนที่มีความสุขดีกว่า ถ้านำของสงฆ์ไปอย่างน้อยท่านก็ลงอเวจีแน่นอน ไม่มีทางพ้น
….ที่นี้ของที่จะพึงรับได้ก็ต้องดูว่า ของที่พระท่านให้ว่าเป็นทรัพย์สินมาจากอะไร เป็นทรัพย์สินดั้งเดิมจากฆราวาสหรือว่าเขาถวายเมื่อสมัยเป็นพระ... -
อาการของอุปจารสมาธิ และอาการของฌาน ที่ ๑ , ๒, ๓ ,๔ (หลวงพ่อพระราชพรหมยาน)
อาการของอุปจารสมาธิ และอาการของฌาน ที่ ๑ , ๒, ๓ ,๔
โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
……อาการและอารมณ์ของอุปจารสมาธิ…..
“….อาการของอุปจารสมาธิคือ ปีติได้แก่อารมณ์ความอิ่มใจเมื่อทำมาถึงตอนนี้อารมณ์จะชุ่มชื่นมาก อารมณ์สะอาดเยือกเย็น มีความเป็นสุขอย่างยอดเยี่ยม ไม่เคยพบความสุขอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต ตอนนี้เวลาภาวนาลมหายใจจะเบากว่าปกติมาก อารมณ์เป็นสุขร่างกายของนักปฏิบัติที่เข้าถึงระดับนี้ ผิวหนังจะนวลขึ้นเพราะอารมณ์ที่มีความสุขแต่อาการทางร่างกายนี่สิที่ทำให้นักปฏิบัติตกใจกันมากนั่นก็คือ
….๑. อาการขนลุกซู่ซ่า เมื่อเกิดอาการอย่างนี้หรืออย่างอื่นที่กล่าวถึงต่อไปจะมีอารมณ์ใจเป็นสุข ขอให้ทุกท่านปล่อยอาการอย่างนั้นไปตามสภาพของร่างกาย จงอย่าสนใจ เมื่อสมาธิสูงขึ้น หรือลดตัวลงต่ำกว่านั้น อาการอย่างนั้นก็จะหมดไปเอง อาการขนลุกพองถ้ามีขึ้นพึงควรภูมิใจว่า เราเข้าถึงอาการของปีติระดับหนึ่งแล้ว อย่ากังวลอาการของร่างกาย ….
….๒. อาการของปีติขั้นที่ ๒ ได้แก่อาการน้ำตาไหล”
…..๓. อาการของปีติขั้นที่ ๓ คือร่างกายโยกโคลง โยกไปข้างหน้าบ้างข้างหลังบ้างบางคราวโยกแรง จนศีรษะใกล้ถึงพื้น….
….๔.... -
ฮือฮา!สังขาร'หลวงพ่อรวย' มรณภาพ100วันไม่เน่าเปื่อย
ฮือฮา!สังขาร'หลวงพ่อรวย' มรณภาพ100วันไม่เน่าเปื่อย | เดลินิวส์
ศิษยานุศิษย์หลวงพ่อรวย วัดตะโก อยุธยา ตะลึงสังขารหลวงพ่อมรณภาพมา 100 วันไม่เน่าไม่เปื่อย เชื่อผลจากการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบสายกรรมฐาน เตรียมเคลื่อนสังขารไว้ในโลงแก้วให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะ จันทร์ที่ 30 ตุลาคม 2560 เวลา 17.53 น.
วันนี้ (30 ต.ค.) ที่วัดตะโก จ.พระนครศรีอยุธยา คณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์ พระมงคลสิทธาจารย์ หรือหลวงพ่อรวย ปาสาทิโก อดีตเจ้าอาวาสวัดตะโก อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลครบรอบ 100 วันมรณภาพ พร้อมดำเนินการเปิดโลงที่บรรจุสรีระสังขารหลวงพ่อรวย ปาสาทิโก เพื่อเปลี่ยนผ้าไตรจีวร โดยมีคณะสงฆ์ และศิษยานุศิษย์ต่างเฝ้ารอดูสรีระสังขารของหลวงพ่อรวย เป็นจำนวนมาก โดยเมื่อเปิดโลงออกมาแล้ว ปรากฎว่า สรีระสังขารของหลวงพ่อรวยไม่เน่าไม่เปื่อย คล้ายคนนอนหลับ เพียงแต่ผิวจะคล้ำลงไปเท่านั้น สร้างความตื่นตะลึงแก่คณะศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก
นายสมนึก จันทร์ศรีทอง ไวยาวัจกร วัดตะโก กล่าวว่า ในวันนี้เป็นวันครบรอบ 100 วันมรณภาพของหลวงพ่อรวย ทางวัดจึงได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่หลวงพ่อรวย... -
สองวัดสำคัญที่คนไทยต้องไป
วัดบวรนิวเศวิหาร และ วัดราชบพิธ สองพระอารามหลวงที่คนไทยอยากไปมากในห้วงเวลานี้ เพราะอะไร?
เรื่อง : แมงโก้หวาน ภาพ : วิศิษฐ์ แถมเงิน
ในห้วงเวลานี้ถ้าถามความรู้สึกของคนไทยอยากไปวัดไหนมากที่สุด ก็น่าจะเป็น 2 พระอารามหลวงนี้มากที่สุด วัดแรก คือ วัดบวรนิเวศวิหาร อีกวัดคือ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ซึ่งทั้งสองวัดไม่ไกลจากพระบรมมหาราชวัง โดยเฉพาะวัดราชบพิธฯ ถือว่าอยู่ใกล้มาก
ทำไมคนไทยถึงอยากไปสองวัดนี้ ทั้งที่หลายๆ คนก็เคยไปมานับครั้งไม่ถ้วน
นั่นเพราะวันที่ 29 ต.ค.จะมีพระราชพิธีอัญเชิญ พระบรมราชสรีรางคารจากพระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ไปบรรจุ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดบวรนิเวศวิหาร ในเวลา 17.30 น.
ขบวนกองทหารม้านำและตามจะอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร มายังสุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ก่อนทรงบรรจุพระบรมราชสรีรางคารที่ฐานพุทธบัลลังก์พระพุทธอังคีรสในพระอุโบสถ จากนั้นอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารมายังวัดบวรนิเวศวิหาร ทรงบรรจุพระบรมราชสรีรางคารที่ฐานพุทธบัลลังก์พระพุทธชินสีห์
เชื่อว่า 29 ต.ค. ปวงพสกนิกรชาวไทยจะเฝ้าชมริ้วขบวนตลอดเส้นทางที่ริ้วขบวนผ่าน... -
การตัดกิเลสครั้งแรกเข้าถึงจุดพระโสดาบัน หรือสกิทาคามี
การตัดกิเลสครั้งแรกเข้าถึงจุดพระโสดาบัน หรือสกิทาคามี
๑. ไม่ลืมความตาย
๒. มีความเคารพในพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยความจริงใจ
๓. ถ้าพระโสดาบันขั้นอ่อนมีศีล ๕ บริสุทธิ์ ที่เรียกว่า สัตตขัตตุง ถ้าพระโสดาบัน
ชั้นกลางหรือชั้นสูงก็มีกรรมบถ ๑๐ ครบถ้วน
กรรมบถ ๑๐ บวก ศีล ๕ คือ
๑. ไม่ฆ่าสัตว์
๒. ไม่ลักทรัพย์
๓. ไม่ประพฤติผิดในกาม
๔. ไม่ดื่มสุราเมรัย นี่ทางกาย
* ไม่พูดปด
* ไม่พูดคำหยาบ
* ไม่พูดส่อเสียด
* ไม่พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล นี่ทางวาจา
* จิตใจไม่อยากได้ทรัพย์สมบัติของใครโดยไม่ชอบธรรม
* ความโกรธมีอยู่ แต่ไม่จองล้างจองผลาญ
* และมีอารมณ์ไม่ฝืนคำสอนของพระพุทธเจ้า นี่ทางใจ
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นนักปฏิบัติจริง ก่อนที่จิตจะเข้าถึงพระโสดาบัน ตอนเข้าสู่โคตรภูญาณ คำว่า โคตรภูนี่ อยู่ระหว่างโลกีย์กับโลกุตตระ มันใกล้นิดเดียว เวลานั้นจิตใจจะรักพระนิพพานเป็นอย่างยิ่ง คืออารมณ์ไม่ต้องการอย่างอื่น ต้องการอย่างเดียวคือนิพพาน อย่างนี้เป็น โคตรภูญาณ
ถ้าอารมณ์เข้าถึงพระโสดาบันจริง ๆ คำว่าธรรมดาย่อมเกิดกับใจ อารมณ์อ่อนลง ความรักในระหว่างเพศก็อ่อนลง ยังมีความร่ำรวยก็ยังมี... -
'อัปปมาเทนะ สัมปาเทถะ' องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้พวกเราไม่ประมาท
วันนี้วันพระตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีมะเมีย
ขอให้ทุกท่านมีความสุขในธรรม
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้พวกเราไม่ประมาท ตามปัจฉิมโอวาทที่องค์สมเด็จพระบรมโลกนาถตรัสเป็นปัจฉิมวาจา วันใกล้จะปรินิพพาน ตรัสแก่พระอานนท์ว่า
อานันทะ ดูก่อนอานนท์ พระธรรมคำสั่งสอนที่เราสอนพวกเธอนั้น ย่อมรวมอยู่ในความไม่ประมาท แล้วองค์สมเด็จพระบรมโลกนาถ ตรัสว่า อัปปมาเทนะ สัมปาเทถะ ซึ่งแปลเป็นใจความว่า ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม
นี่เป็นอันว่า พระพุทธเจ้าสอนให้เราไม่ประมาทในการที่จะละความชั่ว หมายความว่า จงอย่าคิดว่านี่เราไม่ชั่ว พระบาลีที่องค์สมเด็จพระชินศรีสอนไว้บอกว่า อัตตนา โจทยัตตานัง จงเตือนตนด้วยตนเอง นี่ก็หมายถึงว่าพระองค์ไม่ให้เราประมาท จงมองดูความชั่ว มองดูความผิด มองดูความเสียหายของตนเองไว้เป็นปกติ
ถ้าเรามองความชั่ว มองความเสียหายของตัวไว้แล้ว เราก็มีจะแต่ความดี เราอย่าเป็นคนเข้าข้างตัว เอาพระวินัยมากาง เอาธรรมะมากางเข้าไว้ ดูพระวินัย ดูธรรมะว่าอะไรมันผิดบ้าง แม้แต่นิดหนึ่งก็ต้องตำหนิ เหมือนกับผ้าขาวทั้งผืน มีจุดดำอยู่จุดหนึ่ง ก็ชื่อว่าทำผ้าขาวนั้นให้สิ้นราคา... -
สำเร็จด้วยใจ (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
สำเร็จด้วยใจ
ถาม : อย่างของคู่บุญของพระโพธิสัตว์ที่ว่ากำเนิดมาพร้อมกับตัวท่านนี่ แล้วคนอื่นไปฆ่าท่านแล้วเอามาเป็นของขลังนี่มันจะมีผลหรือครับ ?
ตอบ : พูดง่าย ๆ ถ้าหากว่าไปฆ่าเอามาไม่น่าจะมี แต่ว่าของพวกนี้ถึงวาระถึงอายุขัยของเขาก็จะต้องทิ้ง ในเมื่อทิ้งอยู่คนรุ่นหลังที่เอาไปด้วยความศรัทธาเลื่อมใส...ใช่มั้ย ? สิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านทำมาในลักษณะ พุทโธ อัปปมาโณ คุณที่ไม่สามารถจะประมาณได้ก็แผ่ปกลงมาถึงเราด้วย ของเราเองถ้าหากว่าเราไปยึดถือเลื่อมใสในสิ่งนั้น ๆ ก็มีผลเหมือนกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่ใจของเรา เป็นมโนมยา คือสำเร็จด้วยใจ คือใจของเราไปยึดก็ทำให้มีผล
แบบเดียวกับที่เขาว่า ไปออกรบอมพระเอาไว้แล้วพระหลุดออกจากปาเขียดตัวนั้นซวยจริง ๆ ก ไปคว้าเอาลูกเขียดมาใส่ปากแทน พอลูกเขียดดิ้นก็ได้ใจ หลวงพ่อไม่ต้องช่วย..ผมเองก็ได้ พอรบชนะเสร็จคายออกมา ลูกเขียดตายแหงแก๋ไปแล้ว อมนานไปหน่อย นั่นแหละก็คือตัวมโนมยา สำเร็จด้วยใจ กำลังใจของตัวเองเกินครึ่งไปแล้วนี่
ถึงได้ว่าวัตถุมงคลทุกอย่างที่ทำมา ถ้าถูกต้องตามพิธีกรรม ก็เหมือนกับเครื่องส่ง เครื่องส่ง ๆ พลังงานเต็มที่แล้ว... -
โกรธได้…แต่อย่าไปผูกโกรธ
โกรธได้…แต่อย่าไปผูกโกรธ
ถาม : เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วโดนเตะแขนซะเต็มที่ ก็เลยไม่รู้จะทำอย่างไรดี ?
ตอบ : ให้คิดพิจารณาอย่าง พระปุณณะเถระ โดนเตะแขนดีกว่าโดนเตะก้านคอ …(หัวเราะ)… พระปุณณะเถระท่านเป็นคนเมืองสุนาปะรันตะปะ ที่ชื่อว่าเป็นเมืองของคนดุร้าย เมื่อท่านบรรลุธรรมแล้วก็กราบทูลขออนุญาตพระพุทธเจ้า เพื่อไปโปรดคนในเขตของท่าน
ก่อนไปพระพุทธเจ้าก็ตรัสถามท่านว่า “คนเขาด่า เธอจะว่าอย่างไร ?”
พระปุณณะเถระท่านตอบว่า “เขาด่าก็ดีกว่าเขาตีพระเจ้าข้า”
พระพุทธเจ้าท่านตรัสถามต่อไปว่า “ถ้าหากคนเขาตี ?”
พระปุณณะเถระท่านตอบว่า “ถ้าคนเขาตีก็ดีกว่าเขาฆ่าพระเจ้าข้า”
พระพุทธเจ้าท่านตรัสถามต่อว่า “แล้วถ้าหากคนเขาฆ่าเธอล่ะ ?”
พระปุณณะเถระท่านตอบว่า “ถ้าหากคนเขาฆ่าก็ถือว่าเป็นความกรุณาพระเจ้าข้า เพราะข้าพระพุทธเจ้าก็ไม่ต้องการมีชีวิตอยู่แล้ว”
พระพุทธเจ้าท่านถึงได้สาธุการให้ และบอกว่า “ถ้าเธอคิดอย่างนี้ก็ไปได้” ของเราก็ทำในลักษณะเดียวกัน เขาเตะแขนดีกว่าโดนเตะก้านคอ
ถาม : จะต้องเห็น จะต้องเจอกันอยู่ทุกวัน ก็เลยลงบันทึกประจำวันไว้นิดหนึ่ง ?
ตอบ : แบบนั้นจะเป็นการป้องกันตัวอย่างหนึ่ง สมควรที่จะทำ... -
บาปไล่ไม่ทัน..เคราะห์ยังไม่เกิด
บาปไล่ไม่ทัน..เคราะห์ยังไม่เกิด
ถาม : เรื่องของการสวดมนต์ อย่างในหนังสือสวดมนต์ที่เขาบอกกันว่า พระคาถาอาการวัตตาสูตร สำหรับผู้ที่ชะตาขาด สวดครั้งหนึ่งหมดเคราะห์ไป ๔ เดือน อย่างนี้..จริงเท็จเป็นประการใด ?
ตอบ : ก็ต้องดูว่าสวดเป็นไหม ? ถ้าหากว่าสวดเป็น กำลังใจทรงตัวจริง ๆ อาจจะมากกว่า ๔ เดือนก็ได้ ถ้าหากว่าสวดสักแต่ว่าให้จบ ๆ ไปดีไม่ดี ๔ วันยังไม่ได้เลย..!
ขึ้นอยู่กับคุณภาพของใจของเราตอนนั้น ถ้าคุณภาพของใจของเราขึ้นถึงสูงสุด เป็นต้นว่า..ยกจิตไปสวดถวายพระบนพระนิพพานเลย แบบนี้ตัวบุญก็จะมาก ตัวบุญที่มากกำลังก็สูง ก็จะทำให้ห่างบาปออกไป บาปไล่ไม่ทัน ในเมื่อบาปไล่ไม่ทัน ผลของบาปที่เราเรียกว่าเคราะห์ ก็ไม่เกิดกับเรา ถ้ายิ่งทำบ่อย ๆ ยิ่งดี ไม่ใช่สวดทีแล้วเว้นไป ๔ เดือน เดี๋ยวก็โดนไป ๓ เดือนครึ่ง..!
ถาม : เรื่องของอานิสงส์ของคาถา อย่างที่เขาระบุไว้ จริงอย่างที่เขาระบุไว้หรือเปล่า ?
ตอบ : ถ้ากำลังใจของเรายึดมั่นจริง ๆ ก็จะเป็นไปตามนั้น ผลของคาถาจะขึ้นอยู่กับคุณภาพใจของเรา
ใจยิ่งมีสมาธิสูงเท่าไร ผลของคาถาก็ยิ่งเกิดมากเท่านั้น แต่จะเกิดในลักษณะมโนมยา สำเร็จด้วยใจ คือเราคิดให้เป็นอย่างนั้น... -
๓๐ตค.ครบ ๒๕ ปีหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ พระที่ในหลวง ร.๙ ทรงอุปถัมภ์
๓๐ตค.ครบ ๒๕ ปีหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ เผยชื่อพระอริยะชื่อดัง ทั้ง ๖ รูปในไทยที่ต่างรับรองคุณธรรมของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ...พระที่ในหลวง ร.๙ ทรงอุปถัมภ์
ในบรรดาพระอริยสงฆ์หลายองค์ บางรูปมีคำกล่าวว่าได้บรรลุซึ่งอรหันต์แล้วก็มีนั้น ได้เคยกล่าวไว้ว่า “หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ(พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี เป็นพระอริยสงฆ์ที่เป็นพระอรหันต์” ได้มีการบันทึกถึงคำกล่าวเหล่านั้นไว้ โดยขอรวบรวมมาแค่เท่าที่รวบรวมได้ดังนี้
๑.หลวงปู่ดู่ กล่าวถึง หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง
ท่านมหาวีระ ท่านมีบารมีสูง มีข้างบนเป็นกำลังหนุน เป็นอาจารย์ใหญ่สอน คนได้จำนวนมาก ข้าขอโมทนา พวกแกเกิดมาพบพระอรหันต์ ที่มีบารมีสูง อย่าให้เสียทีที่ได้พบ เอาสิ่งที่ตนปฏิบัติได้(ญาณ) มาอบรมตนเอง
๒.หลวงปู่ดาบส สุมโณ พูดถึงหลวงพ่อฤๅษีฯ ว่า
"พระคุณเจ้าองค์นั้นเป็นอรหันต์องค์เอกองค์หนึ่งของโลกในปลายศาสนา ๕๐๐๐ ปี จะหาใครสอนเสมอเหมือนพระคุณท่านหาไม่ได้แล้ว พระคุณท่านองค์นั้นสอนได้คล้ายพระพุทธเจ้าสอน เพราะท่านปรารถนาพระโพธิญาณ ถ้าท่านไม่ลาพุทธภูมิหักใจเป็นพระอรหันต์สาวกเสียก่อน ท่านเทศน์คราวไร เรา..พวกเรานี้ที่บำเพ็ญบารมีตามท่านมา... -
อินเตอร์เน็ตส่งผลต่อชาวพุทธในทิเบต
อินเตอร์เน็ตส่งผลต่อชาวพุทธในทิเบต
กงล้อมนตรา เป็นเครื่องมือสวดมนต์ของชาวทิเบต เชื่อกันว่าหมุนหนึ่งรอบเท่ากับสวดมนต์ได้หนึ่งจบ ปัจจุบัน อินเตอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนนับวันเข้ามาแทนที่ พระสงฆ์จะใช้สมาร์ทโฟนจดและท่องคัมภีร์ พุทธศาสนิกชนใช้สมาร์ทโฟนบันทึกภาพพิธีสำคัญทางพุทธศาสนาและเผยแพร่ผ่านอินเตอร์เน็ต คลิปวีดีโอการสวดมนต์แพร่หลายอย่างกว้างขวางผ่านสมาร์ทโฟน อินเตอร์เน็ตนับวันส่งผลต่อชีวิตประจำวันของชาวพุทธในทิเบตมากขึ้น
ขอบคุณที่มา
http://thai.cri.cn/247/2017/09/22/226s258439_1.htm -
ธรรมะจาก Hulk ยักษ์เขียว
ยักษ์ฮัลค์ให้ดูเพลินๆ แต่อย่าโกรธแบบฮัลค์ก็แล้วกัน
เรื่อง : แมงโก้หวาน ภาพ : เอพี-Fb พระศักดา สุนทโร
เชื่อว่าหลายคนคงเคยฟังธรรมะของอาจารย์ศักดา พระศักดา สุนทโร วัดไร่ป่าธรรมภิมุข จ.ตราด
ท่านเป็นพระนักเผยแผ่ธรรมะที่คนฟังแล้วเข้าใจง่ายดี วิธีการเผยแผ่ของท่านจะมีจุดเด่นอยู่ที่การยกอุปมาอุปไมยมาประกอบให้เห็นภาพ ธรรมะที่ยกมาสอนก็เป็นธรรมะง่ายๆ ร่วมสมัย เข้ากับสถานการณ์ ที่สำคัญน้ำเสียงของท่านก็เรียบๆ นุ่มนวล น่าฟัง
ครั้งหนึ่งท่านสอนถึงความโกรธของคนเราแล้วยกเอาฮัลค์ (Hulk) จากภาพยนตร์เรื่อง The Hulk มนุษย์ยักษ์จอมพลัง มาประกอบให้เห็นภาพว่า เวลาที่ฮัลค์โกรธนั้นเป็นอย่างไร และถ้าคนเราโกรธแบบฮัลค์บ่อยๆ จะเกิดอะไรขึ้น
อาการเส้นเลือดสมองแตก เส้นเลือดสมองตีบ ความดันโลหิตสูง โรคกระเพาะ อาเจียนเป็นเลือด กล้ามเนื้อสมองเกร็ง กล้ามเนื้อร่างกายเสียสมดุล เป็นไปหมดทุกอย่าง
มีสิทธิ์เป็นได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะโกรธแบบแสดงอารมณ์ออกมา หรือโกรธแบบเก็บอารมณ์ไว้ข้างใน ก็มีสภาวะส่งผลถึงกายไม่ต่างกันมากนักหรอก
พระศักดา
พระศักดา บอกว่า อารมณ์ของคนจะมีหลายอย่าง เช่น โกรธ ดีใจ เศร้าใจ กลัว ตกใจ... -
สมเด็จพระวันรัต พระเถระที่หาได้ยากในยุคนี้
โดย…ส.สต
สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นพระเถระที่หาได้ยากในกรุงรัตนโกสินทร์ เพราะได้รับนิมนต์ให้ปฏิบัติหน้าที่พระเถระชั้นผู้ใหญ่ นั่งเสลี่ยงกลีบบัว (พระยานมาศพระนำ) และราชรถน้อย (รถพระนำ) อ่านพระอภิธรรมนำขบวนพระอิสริยยศ ในการเคลื่อนพระศพ หลายครั้งด้วยกัน ทั้งๆ ที่หน้าที่นี้เป็นของสมเด็จพระสังฆราช
ล่าสุด รับนิมนต์นั่งเสลี่ยงกลีบบัว อ่านพระอภิธรรมนำพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สู่พระเมรุมาศ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2560
การได้รับเกียรติที่หาได้ยาก มิใช่ครั้งแรก หากแต่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่คล้ายคลึงกันนี้หลายครั้งในอดีต เช่น พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ วันที่ 15 พ.ย. 2551 ขณะที่ดำรงสมณศักดิ์ที่พระพรหมมุนี
พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี วันที่ 9 เม.ย. 2555 ซึ่งดำรงสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระวันรัต
ถ้าย้อนไป เมื่อ พ.ศ. 2516... -
“ธ ทรงครองแผ่นดินโดยทศพิธราชธรรม”
ทศพิธราชธรรม ราชธรรม 10 ประการ แห่งองค์อริยราชัน
เรื่อง : วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ : อภิชาติ จินากุล
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2489 พระองค์ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
คำว่า “ครองแผ่นดินโดยธรรม” หมายถึง “ครองแผ่นดินโดยทศพิธราชธรรม” ความหมายของธรรมะแห่งพระราชา ที่ขอเชิญชวนชาว 40+ใคร่ครวญให้ถึงแก่น
พระพรหมบัณฑิต พระมหาประยูร ธมฺมจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้ให้ความหมายของการครองแผ่นดินโดยธรรมไว้อย่างแยบยล เมื่อในคราวประชุมสงฆ์ พระนักเทศน์และนักเผยแผ่ทั่วประเทศ เนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยเฉพาะในเรื่องของทาน
“ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทแฝงด้วยคติธรรมเป็นเครื่องเตือนใจในเรื่องต่างๆ แก่พสกนิกรตามสถานะและวาระโอกาสอยู่เสมอ ในท้องถิ่นที่ต้องการความรู้ ได้พระราชทานความรู้และตรัสแนะนำในสิ่งอันจะทำประโยชน์มาให้... -
‘ธรรมโอสถ’ ช่วยป้องกันโรคเครียด
ขึ้นชื่อว่าฟังธรรมะย่อมดีต่อสุขภาพ เพราะนั่นเท่ากับเป็นการให้ยาป้องกันโรคภัยไข้เจ็บทั้งด้านร่างกายและจิตใจ “โรงพยาบาลหัวเฉียว” ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการฟังเทศน์ฟังธรรม จึงได้จัดโครงการธรรมโอสถให้กับผู้ที่สนใจมาตลอดเวลา 8 ปี ครั้งนี้ได้เชิญ พระครูสิริวิหารการ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร มาร่วมบรรยายในหัวข้อ “สติ…ก้าวแรกของความสุข” และให้ข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของการเรียนรู้ธรรมะต่อกับผู้ปฏิบัติทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคุณตาคุณยายหลายคนที่หันมาดูแลสุขภาพด้วยฟังธรรมและการเจริญสติ เพื่อป้องกันโรคทางกายและจิตควบคู่กันไป
พระครูสิริวิหารการ อธิบายว่า “การฟังธรรมะ” มีประโยชน์กับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพราะคนสูงวัยมักประสบปัญหาทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต เช่น ความกังวลต่อลูกหลาน หน้าที่การงาน และเครือญาติ ซึ่งหลักของ “ธรรมะ” นั่นคือการพูดถึงความจริง ซึ่งการที่เราเป็นทุกข์เนื่องจากว่าเราไม่ตระหนักถึงความจริงของชีวิต จึงทำให้จิตของเรายึดโยงในสิ่งที่ผิด แต่ถ้าผู้สูงอายุได้ฟังธรรมะที่พระบรรยาย เช่น จากเรื่องเล่าในอดีตของ “พระนางปฏาจาราเถรี”... -
"ของขลังภายนอก ภายใน" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
"ของขลังภายนอก ภายใน"
คุณสุภาพ : เหตุผลที่หลวงตาไม่ยอมคืออะไรขอรับ "เหตุผลที่หลวงตาไม่ยอมให้มีเหรียญ" ให้มีอะไรเพื่อเป็นตัวแทนของคนที่นับถือหลวงตา
หลวงตา : เราไม่อยากอธิบายไปมาก "เพราะเวลานี้มันขลังมากเต็มโลกเต็มสงสาร" พูดไปเดี๋ยวไปกระทบคนนั้นกระทบคนนี้ "ไม่อยากเอาธรรมะพระพุทธเจ้ากระทบกระแทกกระทั้นคนนั้นคนนี้" ไม่ค่อยดีละ
ถ้าพูดตามเหตุผลของมันก็คือว่า "การมีของขลังอยู่นอก ๆ ไม่ได้เป็นของขลังอยู่ภายในจิตใจนี้ ไม่เห็นมีอะไรเป็นสาระ ดีไม่ดีทำคนให้ลืมเนื้อลืมตัว" บางรายไปปล้นเขา มีพระห้อยคอไปด้วยก็ยังมี
"เวลาเขาฆ่าตายแล้วพระยังห้อยคออยู่นั่น อย่างนั้นก็มี" มันขลังไปแบบนั้น มันทำให้ลืมเนื้อลืมตัว "ให้ขลังภายในซิ" มี "พุทโธ ธัมโม สังโฆ อยู่ภายในใจ" มีหลักฐานของใจเป็นตัวของตัวอยู่ภายในใจนี้แล้ว "นี้คือเครื่องระลึก" ระลึกอยู่ที่นี้แล้ว .. "
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=1381&CatID=2 -
ชื่นชมพระฉายาลักษณ์ พระอิริยาบถของเจ้าชายน้อยแห่งภูฏาน
30 ตุลาคม 2560 | โดย ภาพจากเฟสบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck
ชื่นชมพระฉายาลักษณ์เจ้าชายน้อยแห่งภูฏาน ที่พสกนิกรชาวภูฏานหลงรัก
หลังจากที่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และ สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก เสด็จพระราชดำเนินไปทรงร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ณ พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร สร้างความซาบซึ้งใจให้กับพสกนิกรชาวไทย
วันนี้ (30 ตุลาคม 2560) จึงขอนำพระบรมฉายาลักษณ์ครอบครัวแสนอบอุ่นของกษัตริย์จิกมี พร้อมด้วยพระราชโอรสองค์แรก “เจ้าชายเกลเซย์ จิกมี นัมเกล วังชุก” เจ้าชายน้อยแห่งภูฏาน ประสูติเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 โดยสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ทรงมีพระราชดำรัสถึงที่มาในการตั้งพระนามเจ้าชายน้อยแห่งภูฏานว่า เจ้าชายไม่ได้เป็นเพียงโอรสของพระราชาและพระราชินีเท่านั้น แต่ยังเป็นบุตรของประชาชนชาวภูฏานทุกคนด้วย หลังจากที่ได้ใคร่ครวญมาอย่างดี ข้าพเจ้าจึงขอตั้งชื่อให้เขาว่า “จิกมี นัมเกล วังชุก”
โดย “จิกมี” หมายถึงความกล้าหาญปราศจากความกลัว “นัมเกล” คือ... -
สิบชาติก่อนเป็นพระพุทธเจ้า ตอน สุวรรณสามผู้มากด้วยเมตตาบารมี
สิบชาติก่อนเป็นพระพุทธเจ้า ตอน สุวรรณสามผู้มากด้วยเมตตาบารมี
ครั้งหนึ่ง มีสหายสองคนรักใคร่กันมากต่างก็ตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้เคียงกันไปมาหาสู่กันอยู่เสมอทั้งสองคนตั้งใจว่า ถ้าฝ่ายหนึ่งมีลูกสาวอีกฝ่ายหนึ่งมีลูกชายก็จะให้แต่งงานเพื่อครอบครัวทั้งสองฝ่ายจะได้ผูกพันใกล้ชิดกันไม่มีเสื่อมคลาย อยู่ต่อมาฝ่ายหนึ่งก็มีลูกชายชื่อว่า ทุกูลกุมาร อีกฝ่ายหนึ่งมีลูกสาวชื่อว่า ปาริกากุมารี เด็กทั้งสองมีรูปร่างหน่าตางดงาม สติปัญญาฉลาดเฉลียว และมีจิตใจมั่นอยู่ในศีล
เมื่อเติบโตขึ้นพ่อแม่ของทั้งสองก็ตกลงจะทำตามที่เคยตั้งใจไว้ คือให้ลูกของทั้งสองบ้านได้แต่งงานกัน แต่ทั้งทุกูลกุมารและปาริกากุมารีต่างบอกกับพ่อแม่ของตนว่าไม่ต้องการแต่งงานกัน แม้จะรู้ดีว่าฝ่ายหนึ่งเป็นคนดี รูปร่างหน้าตางดงาม และเป็นเพื่อนสนิทมาตั้งแต่เด็กก็ตาม
ในที่สุด พ่อแม่ของทั้งสองก็จัดการแต่งงานให้จนได้ แต่แม้ว่าทุกูลและปาริกาจะแต่งงานกันแล้ว ต่างยังคงประพฤติ ปฏิบัติเสมือนเป็นเพื่อนกันตลอดมา ไม่เคยประพฤติต่อกันฉันสามีภรรยายิ่งไปกว่านั้นทั้งสองคนมีความปราถนาตรงกัน... -
“ทำจิตให้เหมือนธรรมชาติ”หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต
“ทำจิตให้เหมือนธรรมชาติ”
(กิจวัตรช่วงอยู่กับพระอาจารย์ชอบ ฐานสโม)
พระอาจารย์บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต ไปอยู่จำพรรษากับ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ครั้งแรก ที่ภูผาแด่น อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ นั้น ท่านยังเป็นพระบวชใหม่ที่เรียกว่าพระนวกะอยู่ เพราะเพิ่งบวชได้ ๔ พรรษา
พระอาจารย์ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า
ในปีนั้น อากาศหนาว ความจริงสภาพชีวิตเคยได้สัมผัสกับความหนาวจากประเทศทางยุโรปมาแล้ว แต่ครั้งนั้นอุปกรณ์กันหนาวดูครบครัน ครั้งนี้ แม้อากาศจะหนาวไม่เท่ายุโรป แต่อาศัยจีวร อังสะ บางๆ แค่นั้น ก็ย่อมสะท้านเข้าไปถึงจิตใจ นอกจากความหนาวแล้ว ยังมีน้ำค้างพรั่งพรมส่งเสริมความชื้นเยือกเย็นเข้าไปอีก
กิจวัตรของอาตมาต้องปรนนิบัติหลวงปู่ชอบ ฐานสโม
อากาศหนาวแค่ไหนก็ตาม ก่อนสว่างอาตมาจะต้องต้มน้ำ ดังนั้นจะต้องก่อไฟเสียก่อน เวลาทำงานจะต้องเงียบนะไม่มีเสียงเลย
การไปหาฟืนมาสำรองไว้นั้น ทำเวลากลางคืน บนเขาน่ะมันมืดมากนะโยม หาฟืนน่ะต้องค่อยๆ คลำหา แล้วก็เก็บมารวมไว้ ได้มาแล้วต้องมาผ่าไม้ฟืน ตักน้ำถวาย ถังน้ำเป็นสังกะสีต้องเงียบไม่กระทบให้ดัง ต้องมีสติระวังตัวไม่เผลอ
อาตมาต้มน้ำ-ก่อไฟเสร็จ ก็พอดีใกล้สว่าง... -
เราโกรธเขา เราไม่ดีแล้ว : หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
เราโกรธเขา เราไม่ดีแล้ว : หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
อันนี้เรื่องของเครื่องผูกพันเรื่องไม่ให้ทำดีไป ไม่ให้ทำดีล่วงไปได้ เรียกว่า มาร ให้น้อมเข้ามาถึงตัวของเรานี่ เห็นตัวของเรานี่แหละ อยู่ที่ตัวของเราทั้งนั้นน่ะ
อย่าง “เกลียดคนอื่นโกรธคนอื่นชังคนอื่น” แล้วว่าเขาหูยอย่างนั้นอย่างนี้อะไรต่างๆ พูดหยาบคายว่าคนนั้นไม่ดี คนนี้ไม่ดี ..มันตัวเราไม่ดีอยู่แล้ว มันก็ไม่ดีอย่างนั้น เราโกรธเขาแล้วเราไม่ดีแล้ว เรายังไปว่าเขา อันนั้นมันเป็นอุปสรรคของเรา ไม่ให้เราลุล่วงความดีไปได้
ครั้นหากว่าเราไม่โกรธ คนอื่นจะทำเท่าไร ก็ทำไปเถอะทำอะไร้..ก็ทำไปเถอะ .. เราสบาย เราไม่ต้องโกรธเขา ความโกรธของเขาต่างหาก เราอย่าไปชิงเอาความโกรธของเขามาเป็นของเรา ไปชิงเอาความไม่ดีของเขามาเป็นความไม่ดีของเรา มันก็เป็นมารของเราล่ะซี่
พระพุทธเจ้าจึงว่า “ยินดีพอใจในวิสัยของมาร” ท่านว่าอย่างนั้น ยินดียังไง เช่นความโกรธนี่แหละ โกรธนั้นเป็นมารแล้วไปยินดีกับความโกรธ พอใจในความโกรธอันนั้น อยากโกรธเขานั่นน่ะ นั่นแหละเขาเรียกว่า ยินดีกับกิเลสของมาร เราไปพอใจไปยินดีกับเขา เราเลยโกรธเขา อันนี้เรื่องยินดีกับวิสัยของมารแล้วครานี้
…...
หน้า 340 ของ 432