คลังเรื่องเด่น
-
เนกขัมมบารมี เหตุที่หลวงปู่คำคะนิงได้ออกบวช
เรื่อง “เนกขัมมบารมี เหตุที่หลวงปู่คำคะนิงได้ออกบวช”
(ประวัติ หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี) ตอนที่ ๑
(วัดถ้ำคูหาสวรรค์ อ. โขงเจียม จ. อุบลราชธานี)
นามเดิม : คำคะนิง
เกิด : ที่บ้านหนองบัว แขวงคำม่วน ประเทศลาว
เมื่อวันพุธ เดือน ๔ ปีกุน พ.ศ ๒๔๓๗
โยมบิดามารดา : ชื่อนายดิน ทะโนราช และนางนุ่น
หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี ก่อนจะบวชเป็นพระภิกษุ
ท่านเคยเป็นฤาษีชีไพรมาก่อน ๑๕ ปี
บรรพชา : เมื่ออายุได้ ๑๘ ปี บวชได้ ๙ วัน เพื่อทดแทนคุณบิดามารดาที่ตายไป หลังจากนั้นพบครบก็ต้องลาสึก แม้ว่าอยากจะบวชต่อเพียงไรแต่เพราะมีหน้าที่ความจำเป็นต้องเลี้ยงดูครอบครัว (ท่านแต่งงานเมื่ออายุ ๑๘ ปี มีบุตร ๒ คน ) แต่ท่านก็ยังยึดมั่นในการปฏิบัติธรรมโดยการทำงานหาเงินให้เมียกับลูกตอนกลางวัน พอกลางคืนท่านก็ไปนอนที่วัด ถือศีลปฏิบัติธรรมบำเพ็ญเพียรภาวนาไม่กลับไปอยู่ที่บ้าน เพียงดูแลลูกและเมียไม่ให้อดอยาก ทำเช่นนี้จนภรรยาทนไม่ได้ที่เห็นสามีปฏิบัติตัวแบบนี้ จึงอนุญาตให้หลวงปู่บวชได้ตามใจปรารถนา เมื่อเป็นดังนั้นท่านจึงกลับไปวัดที่ตนเคยบวชเณรอีกครั้ง เพื่อพักอาศัยปฏิบัติธรรม อยู่ต่อมาได้ไม่นานท่านก็ได้เพื่อนสหมิกธรรมร่วมอีกสองคน... -
“ฌานจริง ฌานหลอก” (บันทึกธรรมพระราชพรหมยาน)
ฌานจริง ฌานหลอก บันทึกธรรมพระราชพรหมยาน
“..คำว่าเป็นฌานให้สังเกตตามนี้ ถ้าฌานเฉพาะเวลานั่งสมาธิน่ะ ไม่จริง ไม่ใช่ฌานจริง
เขาเรียกว่า ฌานหลอก
ถ้าฌานจริงๆ ต้องเป็นอย่างนี้ ถึงเวลานี้เราเคยบูชาพระ ถ้าเวลานั้นไม่ได้บูชาพระ เราไม่สบายใจ ต้องบูชาพระ ถ้าไม่มีพระจะบูชาก็นึกในใจนึกบูชาเอาเอง ถ้าเป็นอย่างนี้ถือว่าจิตมีฌานในการบูชาพระ
การบูชาพระมีอะไรบ้าง
๑. พุทธานุสสติใช่ไหม นึกถึงพระพุทธเจ้า
๒. ธัมมานุสสติ นึกถึงคำสวดมนต์นี่เป็นธรรมะ
๓. สังฆานุสสติ นึกถึงพระสงฆ์ที่เราชอบใจ
ก็รวมความว่า ในเมื่อจิตมันทรงตัวแบบนี้ เป็นอนุสสติแบบนี้ ถ้านึกอยู่เสมอว่า ถ้าถึงเวลา ถ้า
เราไม่ได้ทำ ใจไม่สบายนี่ ละฌานแท้…”
จาก โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๔ หน้า ๗๙ โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
ที่มา บันทึกธรรมพระราชพรหมยาน -
นินทา สรรเสริญ (บันทึกธรรมพระราชพรหมยาน)
นินทา สรรเสริญ
บันทึกธรรมพระราชพรหมยาน
ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายได้ยินชาวบ้านเขานั่งนินทา หรือว่ามีคนมาบอกข่าว เราก็นั่งดูใจ
พิจารณาใจของเราว่าเราโกรธคนนินทาไหม ถ้าเรามีความรู้สึกโกรธก็จงทราบได้ว่านี่เรายัง
ไกลพระนิพพานอยู่ เรียกว่าเรายังแพ้กิเลส เรียกว่าการนินทาเป็นการสอบจิตนี่เป็นของดี
ถ้าหากว่าเราได้ยินเขาสรรเสริญว่าเราดีแบบนั้น เราดีแบบนี้ เราดีใจไหม ถ้าหากว่าเราดีใจ ก็จง
ทราบไว้ว่ากำลังใจของเรานี่ใช้ไม่ได้ เป็นทาสของกิเลสเสียแล้ว ทั้งนี้ก็เพราะว่าองค์สมเด็จพระประทีปแก้วบอกว่าให้เราโยนทิ้งไป นี่เราจะมาเก็บนินทาและสรรเสริญไว้เพื่อประโยชน์อันใด
จากหนังสือ ธัมมวิโมกข์ฉบับที่ ๔๐๕ หน้า ๓๔
โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
ที่มา บันทึกธรรมพระราชพรหมยาน -
อาหารเรปฎิกูลสัญญา (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
อาหารเรปฎิกูลสัญญา
ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกมีความถนัดและพิจารณา “อาหารเรปฎิกูลสัญญา” เป็นประจำ ก่อนทานอาหารทุกครั้งต้องพิจารณาเสียก่อน แล้วจึงค่อยรับประทาน ตอนพิจารณาก็เห็นเป็นซากสกปรก เลอะเทอะสะอิดสะเอียนมาก พาลทำให้กินไม่ได้ผ่ายผอมลงทุกวัน ๆ จึงใคร่ถามหลวงพ่อว่า วิธีพิจารณาฉบับของหลวงพ่อ บริโภคได้โดยไม่สะอิดสะเอียนนั้น หลวงพ่อพิจารณาแบบไหนเจ้าคะ ?
หลวงพ่อ พิจารณาเป็น “อาหาเรปฎิกูลสัญญา” แล้วนะ ต่อไปฉันก็ภาวนา “กินหนอ ๆ” มันเลอะเทอะกูกินก็มึง กูจะกินเสียอย่าง คือพิจารณาเป็น “ อาหาเรปฎิกูลสัญญา ” คือของทุกอย่างเกิดจากของสกปรก มีความสกปรก อาหารของสัตว์ก็สกปรก ร่างกายของสัตว์ก็สกปรก แต่ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น ร่างกายของเราก็สกปรก เมื่อของสกปรกกับสกปรกอยู่ด้วยกันก็ช่างมันปะไร ถืออุเบกขา กินดะเลย คือ ว่าอย่าเห็นเฉพาะเวลานั้นซิ เวลานั้นเขาพิจารณาให้เห็น ไห้เกิดเป็น “ นิพพิทาญาณ”
“นิพพิทาญาณ” หมายถึง ความเบื่อหน่าย เห็นร่างกายสกปรก หลังจากนั้นต้องใช้ พิจารณาแบบนั้นต้องใช้ “ สังขารุเปกขาญาณ ” เข้าควบคุม อารมณ์ใจวางเฉย มันสกปรกแล้วก็ไม่เป็นไร... -
พระโพธิสัตว์ที่ทรงเคียงข้างคนไทยเสมอ ..ไม่หวั่นภัยที่มุ่งชีวิต
อยู่เคียงข้างคนไทย "พ่อหลวง" เคยถูกลอบวางระเบิด รับสั่งกับปชช. "หากจะต้องตายก็ขอตายด้วยกัน"
เฟซบุ๊คของผู้ใช้ชื่อ Pimuk Simaroj โพสต์เล่าเรื่อง " คราวหนึ่ง พ่อหลวงของไทยถูกลอบวางระเบิด ที่ยะลา" โดยระบุว่า ในหลวงทรงอยู่เคียงข้างคนไทยเสมอ...ด้วยพระสติที่ตั้งมั่นของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ เสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจในจังหวัดภาคใต้
และเมื่อในวันนั้น .. ในวันที่ 22 กันยายน 2520 เวลา 15.15 น. ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระบรมราชินีนาถและสมเด็จพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์ทรงประทับบนพลับพลาที่ประทับ ซึ่งมีประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จฯราว 30,000 คน ก็ได้มีราษฏรที่มาเฝ้ารับเสด็จฯไปหยิบไฟแช็คจุดไฟขึ้นมา เป็นเหตุให้ระเบิดลูกแรกเกิดระเบิดขึ้น !!
ราษฏรต่างพากันแตกตื่นและเหยียบกับระเบิดลูกที่สอง ทำให้ระเบิดลูกที่สองเกิดระเบิดขึ้น ระเบิดลูกแรกห่างจากพลับพลาที่ประทับ 60.15 เมตร... -
“ความบริสุทธิ์หลุดพ้น มีค่ากว่าเงินเป็นล้านๆ”(หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก)
เรื่อง “ความบริสุทธิ์หลุดพ้น มีค่ากว่าเงินเป็นล้านล้าน”
(คติธรรม หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก)
หลวงพ่อควักหัวใจออกให้ดูได้เลยว่า หลวงพ่อมีภูมิใจมาก มีความสุขในจิตใจที่ได้ดำรงทรงศาสนาผ่านมาถึงขนาดนี้ ไม่ได้เบียดเบียนใคร ไม่ได้รังแกใคร ไม่ได้เอารัดเอาเปรียบใคร อยู่อย่างพระของพระพุทธเจ้า ไม่ได้หวังลาภยศสรรเสริญอะไรทั้งหมด ถึงจะได้อะไรมาก็ตาม สักวันก็ต้องทิ้งทั้งหมด เราต้องคิดว่าร่างกายเราก็ต้องทิ้งทั้งหมด แล้วเราจะไปมุ่งหวังอะไร มีแต่มุ่งหวังอรรถธรรมเข้าสู่จิตใจเท่านั้น อรรถธรรม คือความบริสุทธิ์หลุดพ้น ดีกว่าได้อะไรมาทั้งหมด ได้เงินร้อนล้านพันล้าน ถึงจะได้ลาภได้ยศขนาดไหน ผลที่สุดก็แบมือเอาไปด้วยไม่ได้ ให้เราพิจารณาดูว่าเป็นอย่างนั้นไหม
ให้พวกเรานั่งสมาธิ จนจิตใจนิ่งเสียก่อน เมื่อจิตใจออกจากสมาธิแล้วพิจารณาตามสิ่งที่หลวงพ่อบอกกล่าวว่าจริงไหม เว้นแต่เราจะมีกิเลสราคะโทสะโมหะพอกพูนหัวใจมาคิดตามก็อาจจะเข้าข้างกิเลสตัวเองก็ได้ เพราะกิเลสตัวเองอยู่ในหัวใจ ชักเย่อไปชักเย่อมา ผลที่สุดแรงกว่าเก่า ธรรมถูกชักเย่อไปสู้แรงกิเลสในจิตใจไม่ได้ นี่คือกิเลสเป็นผู้นำคิด แต่ถ้าธรรมเป็นผู้นำคิด... -
ประสบการตายแล้วฟื้นของหลวงปู่จันทา
ประสบการตายแล้วฟื้นของหลวงปู่จันทา
สมัยหนึ่ง (ปี 2494) ไปจำพรรษาอยู่ที่บ้านตะเบาะ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ มีพระจำพรรษาอยู่ด้วยกัน 3 รูป สามเณร 1 รูป และผ้าขาวเฒ่า 1 คน (ผ้าขาวคือฆราวาสผู้รักษาศีล 8 อยู่ที่วัด)
อยู่มาวันหนึ่ง เป็นวันเพ็ญเดือน 10 หลังจากฉันอาหารเช้าแล้ว กลับมาที่กุฏิ เอาผ้าคลุมจะไปฟังธรรม ก็พอดีไข้มาลาเรียมันกำเริบหนักขึ้นสมองล้มลงกับพื้นที่กุฏิซึ่งปูด้วยฟากไม้ไผ่ เณรได้ยินเสียงล้มลง จึงออกมาดูแล้วถามว่า
“ครูบา…เป็นอะไร” (ครูบาเป็นคำเรียกพระที่พรรษาหย่อน 10)
“ไม่รู้…มันมึนตึ๊บ แล้วก็ล้มลงเลย”
เณรก็วิ่งไปบอกญาติโยมว่า
“ครูบาจันทาล้มลงนะ…เป็นอะไรก็ไม่ทราบ”
ทั้งพระและโยมเขาก็เข้ามาดู เอาหมอมาด้วย หมอก็ตรวจดูแล้วบอกว่า เป็นไข้มาลาเรียขึ้นสมองอย่างหนัก อีก 5 นาทีก็จะสิ้นลม
โยมทายกวัดเขาก็ว่า จะเป็นหรือตายอย่างไรก็ตามต้องฉีดยาช่วยเหลือไว้ก่อน
พอฉีดยาเสร็จแล้วไม่นานก็สิ้นลม เมื่อสิ้นลม ดวงจิตนั้นยังไม่ยอมออกจากร่าง ยังห่วงใยเสียดายร่างกายอยู่ ไม่นานมีเพื่อนคนหนึ่งมายืนอยู่ข้างๆ ร้องบอกว่า
“เพื่อนๆ รีบออกจากเรือนเถอะ ไฟมันจะไหม้ทับหัว”
ก็เลยออกจากร่างมายืนติดกับเพื่อน... -
พระอริยสงฆ์ที่ในหลวงร. ๙ ทรงนิมนต์เข้าไปพระราชวังเพื่อ“ถวายกัมมัฏฐาน”จากบันทึกของพล.ต.อ.วสิษฐ
พระอริยสงฆ์ที่ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงนิมนต์ให้เข้าไปในพระราชวังเพื่อ “ถวายกัมมัฏฐาน” จากบันทึกของพล.ต.อ.วสิษฐ
พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร เคยกล่าวในหนังสือ”สองธรรมราชา” ตอนหนึ่งไว้ว่า
ในครั้งแรกที่ทราบว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติธรรมก็เป็นตอนที่ผมเข้าไปอยู่ในวัง ในปี ๒๕๑๐ ผมเริ่มเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แต่ตอนนั้นยังปฏิบัติหน้าที่อยู่นอกวัง ได้รับคำสั่งให้เข้าเฝ้าฯ เพื่อตามเสด็จฯ เวลาเสด็จฯ ไปเยี่ยมตำรวจ ทหาร เป็นบางครั้งบางคราว ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๑๓ ผมจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายตำรวจประจำ หมายความว่าได้เข้าไปอยู่ในสำนักพระราชวัง พอเข้าไปถึงจึงได้รู้ตั้งแต่ตามเสด็จฯ ทันทีว่า พระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติเจริญสมาธิอยู่เสมอ
ความจริงแล้ว ตัวผมเองนั้นก็มีความสนใจเกี่ยวกับการปฏิบัติสมาธิก่อนหน้าที่จะมีโอกาสเข้าไปอยู่ในวัง แต่ว่าไม่มีโอกาสปฏิบัติอย่างจริงจัง ครั้นพอได้เข้าไปอยู่ในวัง เข้าไปได้เห็นว่า พระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติ และเห็นนายตำรวจนายทหารหลายๆ ท่านที่รับราชการอยู่ใกล้กัน เขาปฏิบัติกัน เจริญรอยตามพระยุคลบาท พากันฝึกสมาธิอย่างขะมักเขม้น ผมจึงถือปฏิบัติตาม... -
คนรัสเซียพากันฮือฮา แสงลูกกลมประหลาดโผล่อยู่ท้องฟ้า
แสงประหลาดเป็นรูปกลมโผล่อยู่เหนือท้องฟ้ายามค่ำคืนในเมืองแถบไซบีเรียของรัสเซีย กลายเป็นประเด็นพิศวงในโลกออนไลน์ บ้างเชื่อว่าเป็นสัญญาณของเอเลี่ยน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ช่างภาพชาวรัสเซียสามารถถ่ายภาพปรากฏการณ์ประหลาดเหนือท้องฟ้า เมื่อปรากฏเห็นเป็นลูกกลมๆ ประหลาดอยู่เหนือท้องฟ้าปะปนไปกับแสงเหนือ กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เมื่อภาพดังกล่าวถูกแชร์ในโลกโซเชียลมีเดีย
ภาพดังกล่าวถูกถ่ายเอาไว้โดย นายอเล็กซีย์ ยาคอฟเลค ที่ได้แชร์ภาพนี้เอาไว้ในเพจส่วนตัวของเขา โดยระบุว่าเป็นภาพที่ถ่ายได้ขณะอยู่ใกล้ๆ เมืองนิซนีร์วาตอฟสก์ในแถบไซบีเรีย แสงที่กลายเป็นลูกบอลกลมอย่างประหลาดใจเกิดขึ้นบนฟากฟ้า ในช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ตามเวลาในท้องถิ่น
ขณะที่ผู้คนในโลกโซเชียลมีเดียก็ยังได้เห็นปรากฏการณ์นี้จากหลายๆ มุมภาพ หลังจากที่ชาวเมืองหลายคนก็ได้เห็นปรากฏการณ์ดังกล่าวเช่นเดียวกัน บางมุมมองเห็นเป็นแสงกลมๆ สีขาวคล้ายควันอยู่บนท้องฟ้าในยามค่ำคืน เป็นสิ่งที่แปลกตาและไม่เคยพบเห็นมาก่อน ถึงขั้นร่ำลือว่าเป็นการมาเยือนของมนุษย์ต่างดาวหรือไม่
อย่างไรก็ตาม หลังจากปรากฏการณ์ประหลาดดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึง... -
พระองค์ทีฯ สนทนาธรรมพระอาจารย์ ฌอน ชยสาโร ณ บ้านไร่ทอสี พร้อมศึกษาเส้นทางธรรมชาติ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 ต.ค. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จโดยรถยนต์ที่นั่งไปบำเพ็ญพระกุศล และสนทนาธรรมกับพระอาจารย์ ฌอน ชยสาโร ณ สถานปฏิบัติธรรมบ้านไร่ทอสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ครั้นเสด็จถึง เสด็จไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธรัตนมหาปัญญาประทีป พระประธานภายในสถานปฏิบัติธรรม จากนั้นเสด็จไปยังศาลาปฏิบัติธรรม เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล
พระอาจารย์ฌอน ชยสาโร ถวายศีล จบแล้ว พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ กล่าวคำถวายสังฆทาน ทรงประเคนเครื่องสังฆทาน ทรงหลั่งทักษิโณทก เสร็จแล้ว ทรงสนทนาธรรม และทรงพระดำเนินทอดพระเนตรศึกษาเส้นทางธรรมชาติ โดยรอบสถานปฏิบัติธรรม ร่วมกับพระอาจารย์ ฌอน ชยสาโร สมควรแก่เวลาจึงทรงลาพระอาจารย์ฌอนฯ เสด็จกลับ
ขอบคุณที่มา
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_599918 -
ภัยธรรมชาติ เกิดจากกรรมไม่ดีที่เราทำ
ถาม : เห็นต่างประเทศเกิดพายุทอร์นาโดบ่อยมาก และบางทีก็มีเสียงดังมากและน่ากลัวลอยโหยหวนมาตามท้องฟ้า แต่หาต้นตอของเสียงไม่ได้ แต่ทำไมที่เมืองไทยถึงไม่ค่อยจะเจอกับพายุขนาดใหญ่หรือเหตุการณ์ประหลาดแบบนั้นสักเท่าไรครับ ?
ตอบ : เมืองไทยของเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองป้องกันอยู่มาก เพราะว่าบุคคลยังอยู่ในศีลในธรรมมากอยู่ โปรดดีใจเสียเถิดว่าเราเกิดในปฏิรูปเทส คือ แผ่นดินที่เหมาะสม มีภัยธรรมชาติน้อย แต่ถ้าคนของเรายังเพลิดเพลิน ไหลตามกระแสกิเลสไปเรื่อย ๆ ต่อไปภัยธรรมชาติก็จะหนักขึ้นไปเรื่อย ๆ เหมือนกัน
ที่มา วัดท่าขนุน -
“บุญ” คือความดี สร้างความดี (หลวงปู่ชา สุภัทโท)
การทำบุญสุนทานเรียกว่า “บุญ” “บุญ” คือความดี สร้างความดี สร้างความดีเมื่อใดนั้นแหละท่านเรียกว่ามันเป็นบุญ เรียกว่าได้บุญ คนเราไม่เข้าใจเรื่องบุญ มาทำบุญก็นึกว่าได้บุญ กลับบ้านก็ไม่เอาบุญไปด้วย พระพุทธองค์ท่านสอนว่าให้เอาบุญกลับไปด้วย จึงได้มาฟังธรรมกัน ฟังธรรมแล้วก็รู้จักผิด รู้จักถูกแล้วก็จำคำนั้นไปปฏิบัติ รักษากาย รักษาวาจา รักษาใจเรา อยู่ที่บ้าน เรียกว่าเป็นผู้มีบุญ ถ้าใครเป็นผู้มีบุญก็จะมีความสุขความสบายในครอบครัวตลอดถึงหมู่บ้าน ถ้าบ้านไหนมีบุญ ไม่ใช่บุญแบบบุญบ้องไฟ ซึ่งมีแต่การตีรันฟันแทงกัน อันนี้ชื่อว่าบุญแต่ว่าไม่เป็นบุญ
คำที่ว่าบุญคือความดี พี่น้องทั้งหลายก็ว่ามาเอาบุญ กลับไปบ้านลูกหลานถามว่ามาแต่ไหนแม่ ตอบลูกว่ามาจากการเอาบุญแล้วลูกถามต่อไปอีกว่า บุญอยู่ไหนแม่ ตอบลูกไม่ได้ซะแล้ว ได้แต่ถ้วยเปล่ากลับบ้าน ได้แต่กล่องข้าวเปล่ากลับบ้าน พระฉันหมด เพราะพวกเราไม่รู้จักคำว่าบุญกัน จึงตอบลูกไม่ได้ เลยไม่เคยได้บุญกัน แล้วก็มีคนบางคนเคยบ่นว่าทำบุญไม่เคยเห็นได้บุญอะไร เอาข้าวไปก็หมดข้าว เอาแกงไปก็หมดแกง ไม่ได้บุญอะไร อย่างนี้เรียกว่า คนไม่รู้จักบุญ เลยไม่ได้บุญสักที
คำว่า “บุญ” ก็... -
ภาพบรรยากาศงานถวายอาลัยในหลวง ร.9 ที่อินเดีย ผู้รับบท 'พระราม' จาก 'หนุมาน' เป็นเจ้าภาพ
เป็นเรื่องราวสุดประทับใจเมื่อเพจเฟซบุ๊ก India Actors Thailand FC. ได้โพสต์เรื่องราวของกาแกน มาลิค (Gagan Malik) นักแสดงนำของซีรีส์หนุมานสงครามมหาเทพ จัดงานถวายอาลัยในหลวงรัชกาลที่ 9 พร้อมภาพชุดเเละระบุข้อความว่า
ภาพงานถวายความอาลัยองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่จัดที่ Deshpande Hall เมือง Nagpur ประเทศอินเดีย เมื่อวานนี้ แอดมินเห็นภาพคุณกาแกน มาลิค ที่ติดเข็มกลัดองค์ในหลวงรัชกาลที่ 9 แล้วตื้นตันใจ ขอขอบคุณแทนคนไทยทุกๆ คนที่จัดงานนี้เพื่อพ่อของเรา
“อยากให้เห็นถึงความผูกพันของพระพุทธศาสนากับงานนี้ คุณ Gagan นับถือศาสนาพุทธ จึงทำให้งานนี้มีพิธีสงฆ์ด้วย และงานนี้จะสำเร็จลุล่วงไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับความกรุณาจากท่านรัฐมนตรี SHRI RAJ KUMAR JI BADOLE MINISTER OF SOCIAL JUSTICE AND SPECIAL ASSISTANCE, MAHARASHTRA ซึ่งท่านเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดงานในครั้งนี้ แอดมินเองขอกล่าวขอบพระคุณอย่างสุดหัวใจอีกครั้งที่จัดงานนี้ขึ้น ถึงแม้จะอยู่ต่างชาติ ต่างภาษา แต่ใจของเราเหมือนกัน คือศรัทธาและรักในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ของเราค่ะ It is a great honor and thanks to all... -
สิบชาติก่อนเป็นพระพุทธเจ้า ตอน พระมหาชนกผู้ล่วงทุกด้วยความเพียร
สิบชาติก่อนเป็นพระพุทธเจ้า ตอน พระมหาชนกผู้ล่วงทุกด้วยความเพียร
ณ เมืองมิถิลาแห่งรัฐวิเทหะ พระเจ้าแผ่นดิน ทรงพระนามว่า พระเจ้ามหาชนกทรงมีพระโอรสสององค์ คือ เจ้าอริฏฐชนก และ เจ้าโปลชนก เจ้าอริฏฐชนกทรงเป็นอุปราชส่วนเจ้าโปลชนกทรงเป็นเสนาบดี
เมื่อพระราชบิดาสวรรคต เจ้าอริฏฐชนกผู้เป็นอุปราชก็ได้ครองบ้านเมืองต่อมา เจ้าโปลชนกทรงเป็นอุปราช ทรงเอาใจใส่ดูแลบ้านเมืองช่วยเหลือพระเชษฐาอย่างดียิ่ง มีอำมาตย์คนหนึ่งไม่พอใจพระเจ้าโปลชนกจึงหาอุบายให้ พระราชาอริฏฐชนกระแวงพระอนุชา โดยทูลพระราชาว่า เจ้าโปลชนกคิดขบถจะปลงพระชนม์พระราชา พระราชาทรงเชื่อคำอำมาตย์จึงให้จับเจ้าโปลชนกไปขังไว้
เจ้าโปลชนกเสด็จหนีไปจากที่คุมขังได้หลบไปอยู่ที่ชายแดนเมืองมิถิลา เจ้าโปลชนกทรงคิดว่าเมื่อครั้งที่ยังเป็นอุปราชนั้น มิได้เคยคิดร้ายต่อพระราชาผู้เป็นพี่เลยแต่ก็ยังถูกระแวงจนต้องหนีมา ถ้าพระราชาทรงรู้ว่า อยู่ที่ไหนก็คงให้ทหารมาจับไปอีกจนได้ บัดนี้ผู้คนมากมายที่ชายแดนที่เห็นใจและพร้อมที่จะเข้าเป็นพวกด้วย ควรที่จะรวบรวมผู้คนไปโจมตีเมืองมิถิลาเสียก่อนจึงจะดีกว่า... -
นร.ไทยนานกิง เจ้าอาวาส-ภิกษุณีวัดจีหมิงซื่อ สวดมนต์ถวายพระราชกุศล ร.9
เจ้าอาวาสวัดจีหมิงซื่อ พร้อมภิกษุณี 120 รูป และตัวแทนสมาคมนักเรียนไทยแห่งนานกิง ร่วมสวดมนต์กรณีพิเศษถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “ในหลวง รัชกาลที่ 9” ในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
เฟซบุ๊ก สมาคมนักเรียนไทยแห่งนานกิง 南京泰国留学生会 โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 60 ซึ่งเป็นวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ว่า
“ข้าพเจ้าเป็นตัวแทนสมาคมนักเรียนไทยแห่งนานกิง ไปติดต่อวัดหลวงประจำเมืองหนานจิง คือวัดจีหมิงซื่อ (鸡鸣寺) แปลว่าวัดไก่ร้อง ว่าจะจัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศล ในวันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ นี้ เพื่อถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ในตอนแรกเจ้าหน้าที่ดูแลวัดบอกว่าไม่ได้ เพราะทางวัดจะจัดเฉพาะวันเสาร์เท่านั้น และจะจัดรวมกับการทำบุญอุทิศส่วนกุศลอื่นๆ ด้วย ข้าพเจ้าเลยแจ้งเขาไปว่า วันนี้เป็นวันถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระเจ้าอยู่หัว ชาวไทยอยากทำบุญจริงๆ ทางเจ้าหน้าที่จึงไปเรียนถามเจ้าอาวาสทางเจ้าอาวาสยินดีจะจัดให้เป็นกรณีพิเศษ เราก็ขอบคุณ และคิดว่าน่าจะเป็นพิธีเล็กๆ เรียบๆ แต่ว่าหาเป็นเช่นนั้นไม่
เมื่อเข้าไปในพระอุโบสถ... -
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่อง พระภิกษุ 500 รูปพิจารณาดอกมะลิ
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่อง พระภิกษุ 500 รูปพิจารณาดอกมะลิ
Buddhism Channel
Published on Oct 27, 2017 -
เมื่อในหลวง ร.๙ เสด็จเยี่ยมหลวงตามหาบัวครั้งแรก
๏ เมื่อในหลวง ร.๙ เสด็จเยี่ยมหลวงตามหาบัวครั้งแรก ๏
ในตอนเช้าของวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๒ องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้สั่งกำชับพระเณรในวัดว่า ” วันนี้จะมีบุคคลสำคัญเข้ามา พวกท่านทั้งหลายจงพากันทำความสะอาดวัดวาอาวาสให้เรียบร้อยอย่าให้บกพร่อง ”
พระทั้งหลายเมื่อได้ฟังดังนั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไร ต่างก็ทำข้อวัตรปฏิบัติไปตามปกติ
ในบ่ายวันนั้นเองชาวนาคนหนึ่งเดินสะพายแห เพื่อออกไปทอดแหหาปลามาเป็นอาหาร มีรถยนต์คันงามคันหนึ่งวิ่งบึ่งมาจอดเทียบ แล้วเรียกถามด้วยเสียงอันนุ่มนวลว่า ” ลุงๆ รู้ทางที่จะไปวัดหลวงตาบัวไปทางไหน ? ”
” ไปทางนี้เด้อ !!! ” เขากล่าวห้วนๆ แบบสำนวนชาวบ้าน พร้อมทั้งชี้มือและแหงนหน้าดูผู้ที่ถามไถ่
เมื่อเขาเพ่งมองดูใบหน้าบุคคลที่ถามทางอย่างพินิจพิจารณา ภาพแห่งบุคคลผู้สง่ายิ่งใหญ่เทียมฟ้าในสมองเริ่มปรากฏในห้วงลึก เขาเริ่มเข่าอ่อนและทรุดตัวนั่งลงกับพื้นดิน พร้อมกับพนมมือขึ้นเหนือเศียรเกล้า กล่าวถ้อยคำแสดงความปลาบปลื้มใจเป็นล้นพ้นล้นเกล้าล้นกระหม่อมที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้สัมผัสสมมุติเทพ ด้วยตาเนื้อใกล้ๆเพียงแค่เอื้อม
” โอ !!! ในหลวง สาธุเด้อในหลวง สาธุ สาธุ... -
หมั่นทำบุญให้มาก (ครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา)
เรื่องโชคต่าง ๆ เรื่องเงิน เป็นเรื่องเล็ก โชคบุญเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าบุญมีกับตัวแล้วนั่นแหละเงินก็มาเอง หมั่นทำบุญให้มาก
การทำบุญไม่ใช่ทำจนหมดตัว มีเงินน้อยทำน้อย มีเงินมากทำมาก แต่ถ้าไม่มีเงิน ก็เอาแรงกายเข้าไปช่วยงานบุญก็จะได้บุญเช่นเดียวกัน การทำบุญเหมือนกับการทำประกันชีวิต บุญนั้นจะเสมือนเกราะแก้วที่จะคอยคุ้มครองตัวเราได้ บุญจึงไม่หนีหายไปไหน เราทำบุญเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่ว่าจะเห็นผลทันตาเสมอไป บุญกุศลที่เราทำจะสะสมไปเรื่อย ๆ เปรียบเสมือนการปลูกข้าว ไม่ใช่ว่าจะได้ข้าวทันที
การสร้างบุญควรจะรีบเสียแต่ตอนที่เรามีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน ควรสร้างเสียแต่เดี๋ยวนี้ หากพ้นจากโลกนี้ไปแล้ว เราต้องเสวยกรรมอย่างเดียว
ครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา
ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น -
มหาจุฬาฯจัดปฏิบัติธรรมบูชาส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย
มหาจุฬาฯจัดปฏิบัติธรรมบูชาส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย
ระหว่างวันที่ 23-27 ตุลาคม 2560 สถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ได้จัดกิจกรรมปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 องค์สถาปนามหาวิทยาลัย และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร องค์ผู้เป็นพุทธมามกะ อุปถัมภ์ค้ำชูมหาจุฬาฯ ตามแนวทางของรัชกาลที่ 5 มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และประชาชนทั่วไป ร่วมปฏิบัติ
นอกจากกิจกรรมปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานแล้ว ยังมีการบริบายพิเศษอาทิ พระราชปริยัติกวี ศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มจร บรรยายพิเศษ เรื่อง "วิปัสสนากรรมฐานในชีวิตประจำวัน" พระโสภณวชิราภรณ์ รองอธิการบดี ฝ่ายกิจการต่างประเทศ เรื่อง "งานคือชีวิตชีวิตคืองาน วิปัสสนากัมมัฎฐานคือคำตอบ" รศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป เรื่อง "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระผู้สถาปนา มจร"
ทั้งนี้พระอาจารย์หรรษา ธมฺมหาโส ผู้ช่วยอธิการบดี ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ (IBSC)... -
"นิสิตมจร"ทั้งไทยเทศเจริญจิตภาวนาส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย
"นิสิตมจร"ทั้งไทยเทศเจริญจิตภาวนาส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย
เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2560 เวลา 17.00 น.นิสิตทั้งชาวไทยและต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งพักอยู่ที่พักนิสิต ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ต่างร่วมสวดมนต์ เจริญจิตภาวนา ปฏิบัติธรรม ถวายพระราชกุศล น้อมส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สู่สวรรคาลัย โดยมีพระมหาราชัน จิตฺตปาโล ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต และรองผู้อำนวยการสถาบันภาษา เป็นประธาน การนี้มีผู้บริหาร เจ้าหน้าที่และนิสิตทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ร่วมกิจกรรมโดยพร้อมเพรียงกัน
ขอบคุณที่มา
http://www.banmuang.co.th/news/education/94237 -
‘พระองค์ที’ ทรงทำกิจกรรมจิตอาสาวัดประยุรวงศาวาส
‘พระองค์ที’ ทรงทำกิจกรรมจิตอาสาวัดประยุรวงศาวาส
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จไปทรงบำเพ็ญพระกุศลและสนทนาธรรมกับเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร พร้อมทรงทำกิจกรรมร่วมกับเหล่าจิตอาสา
เมื่อเวลา 12.27 น. วันที่ 27 ตุลาคม 2560 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ประทับรถยนต์ที่นั่งเสด็จออกจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร การนี้ฉลองพระองค์จิตอาสาสีดำ พระมาลาสีฟ้า และผ้าพันพระศอจิตอาสาสีเหลือง เมื่อเสด็จถึงทรงโบกพระหัตถ์ทักทายจิตอาสาที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ สร้างความปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่ง
จากนั้นเสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเพื่อนมัสการบูชาพระพุทธธรรมวิเชษฐศาสดา พระประธานประจำพระอุโบสถ ทรงกราบ เสด็จออกจากพระอุโบสถไปยังกุฏิพระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมมจิตโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงกราบ ประทับราบ ทรงศีล ขณะนั้นเจ้าหน้าที่อารธนาศีล จากนั้น พระพรหมบัณฑิต ถวายศีลจบ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติทรงกล่าวคำถวายเครื่องสังฆทาน... -
สิ้นเกจิดังลพบุรี 'หลวงปู่ใส' มรณภาพสงบอายุ 101 ปี
สิ้นเกจิดังลพบุรี 'หลวงปู่ใส' มรณภาพสงบอายุ 101 ปี
'หลวงปู่ใส ปัญญาพโล' เกจิดังลพบุรี มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 101 ปี ลูกศิษย์รับร่าง บำเพ็ญกุศลที่วัดเขาตำบล โดยจะมีพิธีรดน้ำในเวลา 16.00 น. ...
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 27 ต.ค.2560 นพ.ประดิษฐ์ ธนาเดชากุล ผอ. รพ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เปิดเผยว่า พระครูบวรชัยกิจ หรือหลวงปู่ใส ปัญญาพโล อายุ 101 ปี อดีตเจ้าคณะอำเภอชัยบาดาล และอดีตเจ้าอาวาสวัดเขาตำบล ต.นาโสม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ได้มรณภาพ ละสังขารด้วยความสงบ เมื่อเวลา 10.29 น. ที่ผ่านมา
โดยช่วงบ่ายได้มีลูกศิษย์ลูกหาทั้งข้าราชการ ทหารตำรวจ พ่อค้าประชาชนจำนวนมากที่ทราบข่าวต่างเดินทางไปร่วมรับศพยังที่ รพ.ชัยบาดาล เพื่อนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเขาตำบล และมีกำหนดการรดน้ำศพเวลา 16.00 น.
ส่วนประวัติของหลวงปู่ใส ปัญญาพโล อายุ 100 ปีเศษ อดีตเจ้าคณะอำเภอชัยบาดาล และอดีตเจ้าอาวาสวัดเขาตำบลนั้นท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของ จ.ลพบุรี เป็นที่นับถือของบรรดาลูกศิษย์อย่างมากมาย เนื่องจากอดีตท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อคง วัดถนนหักใหญ่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกันกับหลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่... -
ก้าวต่อไป! คู่มือ ‘ออกทุกข์’ สำหรับประชาชนหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีฯ
อัพเดตการปฏิบัติตัวเรื่องการออกทุกข์ สำหรับข้าราชการ และสำหรับประชาชนทั่วไป จากการสอบถามครั้งล่าสุด มีคำแนะนำจาก กอร.พระราชพิธีฯ ว่าให้ประชาชนไว้ทุกข์ถึงคืนวันที่ 29 ต.ค. 2560 และออกทุกข์เช้าวันที่ 30 ต.ค. 2560
พ่อกลับสวรรค์แล้ว! หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ 9 และประชาชนไทยทั่วประเทศได้ถวายดอกไม้จันทน์ตามจุดต่างๆ เสร็จสิ้นในคืนวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา จากนี้ไปรัฐบาลประกาศให้คนไทยไว้ทุกข์ไปจนถึงวันที่ 29 ต.ค. 2560 และออกทุกข์ในเช้าวันที่ 30 ต.ค. 2560
ไทยรัฐออนไลน์ รวบรวมคู่มือการปฏิบัติตัวในการ ‘ออกทุกข์’ สำหรับประชาชนมาให้ทราบกัน ดังนี้
1. ข้าราชการ แต่งกายไว้ทุกข์ถึงวันที่ 29 ต.ค.
จากข้อมูลเมื่อต้นเดือนตุลาคม มติครม. ระบุว่า ให้ขยายเวลาการไว้ทุกข์ของข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ จากเดิมวันที่ 13 – 27 ต.ค. 2560 (วันเก็บพระบรมอัฐิ) เปลี่ยนเป็น ขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 29 ต.ค. 2560 (ให้ยังคงแต่งกายไว้ทุกข์จนถึง 29 ต.ค.)
2. ประชาชนทั่วไป ไว้ทุกข์ถึง 29 ต.ค. เช่นกัน
วันนี้ (27 ต.ค.) มีคำแนะนำจาก กอร.พระราชพิธีฯ... -
“วัดราชบพิธฯ-วัดบวรฯ” สถานที่ประดิษฐานพระบรมราชสรีรางคาร “ร.9”
“วัดราชบพิธฯ-วัดบวรฯ” สถานที่ประดิษฐานพระบรมราชสรีรางคาร “ร.9”
การเก็บพระบรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคาร จะประกอบพิธี ณ พระจิตกาธาน เมื่อเสด็จขึ้นพระเมรุมาศเจ้าพนักงานภูษามาลาเปิดผ้า คลุมพระบรมราชสรีรางคาร ทรงสรงพระบรมอัฐิด้วยน้ำ พระสุคนธ์เจ้าพนักงานแจงพระบรมอัฐิ โดยเชิญพระบรมอัฐิ พระบรมราชสรีรางคาร เรียงเป็นลำดับให้มีลักษณะ เหมือนรูปคน หันพระเศียรไปทางทิศตะวันตก จากนั้นหันพระบรมอัฐิ พระบรมราชสรีรางคารที่แจงไว้มาทางทิศตะวันออกเรียกว่า แปรพระบรมอัฐิ แล้วจึงถวายคลุมด้วยผ้า เช่น พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถวายคลุมด้วยผ้า 3 ชั้น คือ แพรขาว ผ้าตาด และผ้ากรองทอง ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการทองน้อย ทรงกราบถวายบังคม พระบรมอัฐิ แล้วเสด็จลงมาประทับพระที่นั่งทรงธรรม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เหล่าราชนิกุล ข้าราชการ เดินสามหาบ
ต่อมาเปลี่ยนเป็นการทำสำรับภัตตาหารสามหาบตั้งถวาย พระสงฆ์สดับปกรณ์พระบรมอัฐิ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองน้อย ทรงทอดผ้าไตร สมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะสดับปกรณ์ ทรงโปรยเหรียญทองเหรียญเงินพระราชทาน... -
หลวงปู่แหวน..พระอริยสงฆ์ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก ในหลวง ร.๙
หนึ่งความผูกพันระหว่าง "พระป่า-พระมหากษัตริย์" หลวงปู่แหวน..พระอริยสงฆ์ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก ในหลวง ร.๙
นับแต่โบราณกาลมาจนถึงยุคปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่า ยังไม่มีครูบาอาจารย์รูปใดที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" เท่ากับ "หลวงปู่แหวน สุจิณโณ" ในระหว่างที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
นอกเหนือจากการเสด็จพระราชดำเนินถึงวัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนมัสการและสนทนาธรรมกับหลวงปู่แหวนหลายครั้งหลายคราแล้ว ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจัดสร้างสิ่งมงคลโดยใช้รูปของหลวงปู่เพื่อนำมาแจกในพระราชพิธีสำคัญ
หลวงปู่แหวนจึงเป็นพระสงฆ์องค์แรกในประเทศไทยที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงส่ง!!
มีข่าวอีกครั้งหนึ่งว่า สมัยที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงพระประชวรและประทับรักษาพระองค์ที่เชียงใหม่นั้น ข้าราชบริพารได้นำเฮลิคอปเตอร์มานิมนต์หลวงปู่แหวนให้ไปที่พระตำหนักเพื่อแผ่พลังจิตช่วยรักษาอาการประชวรของพระองค์ท่าน แต่หลวงปู่แหวนปฏิเสธการนิมนต์และได้บอกว่า
"อยู่ที่ไหนฮาก็ส่งใจไปถึงพระองค์ได้ ... ก็ส่งไปทุกวันอยู่แล้ว!"
และนอกจากล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์แล้ว... -
"บทสนทนาจอมปราชญ์ เรื่องพุทธภูมิ"
"บทสนทนาจอมปราชญ์ เรื่องพุทธภูมิ"
เมื่อพระเจ้าอยู่หัวฯ ถามหลวงตามหาบัวฯ "เรื่องพุทธภูมิ"
เป็นบทความที่พิมพ์ในนิตยาสารน่านฟ้า
ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 ประจำเดือนธันวาคม 2550 หน้า 18
เนื่องในวโรกาสมหามิ่งมงคลของชาวไทยทั้งชาติ นิตยสารน่านฟ้าขออาราธนาบทสนทนาที่เหนือคำบรรยาย ที่เล่าโดย พระอาจารย์ภูสิต (จันทร์) ขันติธโร เจ้าอาวาสวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ในสมัยที่ท่านเป็นพระอุปัฏฐากองค์หลวงตา ณ วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ในขณะนั้น ...
" ... เหตุการณ์ที่น่าทึ่งที่สุดคือ เมื่อปี พ.ศ.2531 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้เสด็จไปนิมนต์หลวงตาไปในงานในวัง ปกติหลวงตาท่านไม่ค่อยไปไหน แต่ตอนที่พระเจ้าอยู่หัวฯ ไปนิมนต์ ท่านไปนิมนต์ด้วยพระองค์เอง เรายังจำได้ .. วันนั้นเป็นวันที่ 7 มกราคม 2531 เป็นปีเฉลิมราชรัชมังคลาภิเษกที่ทรงครองราชย์มากกว่ากษัตริย์ใดในประวัติศาสตร์ไทย ท่านนิมนต์หลวงตาเข้าวัง มาเป็นขบวนใหญ่ หลวงตาท่านจะอยู่ที่กุฏิ ท่านให้เราควบคุมดูแลญาติโยม ดูแลพวกทหารที่มา พระเจ้าอยู่หัวฯ จะเสด็จมาตอน 6 โมงเย็น
เมื่อขบวนพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จมาถึง เรายืนตรงนี้ ผู้ว่าฯ สายสิทธิ์ยืนตรงนี้... -
ภาพชุดพระราชพิธีประวัติศาสตร์ ถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงร.9
เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนนับแสนคนหลั่งไหลเดินทางมาร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยทยอยผ่านจุดคัดกรอง 9 จุด คือแยกสะพานมอญ, ท่าช้าง, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, พระแม่ธรณีบีบมวยผม, ถนนกัลญาณไมตรี, แยกสะพานช้างโรงสี, แยกพระเชตุพน, แยกท่าพระจันทร์ และใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะปิดจุดคัดกรองในเวลา 06.00 น. โดยมีประชาชนเข้าพื้นที่แล้วประมาณ 110,000 คน
ส่วนบรรยากาศที่บริเวณถนนราชดำเนินกลาง ประชาชนยังคงทยอยเดินทางเข้ามาในพื้นที่สนามหลวงอย่างเนืองแน่น เพื่อจับจองพื้นที่ที่ใกล้ที่สุดแม้จะเข้าไปในส่วนพระราชพิธีไม่ได้ก็ตาม โดยส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมงในการเดินเข้ามาพื้นที่ด้านใน แม้จะไม่สามารถหาที่นั่งได้ แต่ส่วนใหญ่ไม่ย่อท้อ โดยระบุว่าขอพยายามเดินเข้าไปให้ใกล้สนามหลวงมากที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรยากาศก่อนริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศเคลื่อนผ่าน มีประชาชนมาเฝ้าชมตลอด 2 ข้างฝั่งบริเวณฟุตปาธเป็นจำนวนมาก ทั้งถนนมหาราช ถนนท้ายวัง ถนนสนามไชย หน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ถนนสนามไชย... -
อัศจรรย์ฝูงนกสีขาว 9 ตัวบินวนเหนือพระเมรุมาศ ระหว่างถวายพระเพลิงพระบรมศพ
ในช่วงก่อนพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ รวมถึงพสกนิกรที่มาแสดงความอาลัยรอบท้องสนามหลวง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ได้มีการประกาศให้หยุดการแสดงมหรสพทุกเวที ทำให้ท้องสนามหลวงได้เงียบสงัด แต่จากนั้นประชาชนที่มาเฝ้ารอส่งเสด็จฯ ได้สังเกตเห็นฝูงนกสีขาว 9 ตัว บินวนอยู่บริเวณยอดนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ สร้างความอัศจรรย์ในให้กับประชาชนที่มาเฝ้ารอ
ขอขอบคุณที่มา
https://www.khaosod.co.th/the-royal-cremetion/news_596432 -
ให้มี "สติปัญญา"ตามรอยพระบาท พระธรรมเทศนา"สมเด็จพระสังฆราช" ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ร.๙
ให้ ปชช.มี "สติปัญญา" ตามรอยพระบาท พระธรรมเทศนา "สมเด็จพระสังฆราช" ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
สมเด็จพระสังฆราชแสดงพระธรรมเทศนา พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙ ขอประชาชนตามรอยพระบาทในหลวงรัชกาลที่ ๙ มีสติและปัญญา ดำรงตนด้วยความไม่ประมาท ทำคุณประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น ย่อมทำให้พระองค์ทรงอิ่มพระราชหฤทัย
วันนี้ (26 ต.ค.) ที่พระที่นั่งทรงธรรม มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ถวายพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ แด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประมุขและผู้แทนรัฐ พระบรมวงศานุวงศ์ มีใจความโดยสรุปว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรทรงดำรงพระชนมชีพด้วยพรหมวิหารธรรม คือมีพระเมตตากรุณาต่อพระประยูรญาติ พระบรมวงศานุวงศ์ และอาณาประชาราชโดยไม่แบ่งแยก ตามพระปฐมพระบรมราชโองการ หากทรงทราบว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงคุ้มครองประชาชนโดยธรรม... -
เปิดที่มา...การเผาหลอก-การเผาจริง ธรรมเนียมโบราณ ที่เริ่มในสมัยรัชกาลที่ 5
เว็บไซต์นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ได้เปิดเผยข้อมูลที่มาที่ไป และเกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพระมหากษัตริย์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา และสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งแต่เดิมจะถวายพระเพลิง หรือพระราชทานเพลิงเสร็จภายในครั้งเดียว ไม่ได้มีพิธีศพ 2 ครั้ง หรืออย่างเรียกที่เรียกกันว่า การเผาหลอก และ การเผาจริง
วิธีการเผาหลอก และ การเผาจริงนั้น เริ่มต้นขึ้นเมื่อราว ๆ ปลายสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยในขณะนั้น เรียกวิธีการนี้ว่า เปิดเพลิง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้บันทึกเกี่ยวกับที่มาและความแพร่หลายของพิธีนี้ว่า
"แท้จริงเปนความคิดของพวกเจ้าพนักงานเผาศพหลวง ในตอนปลาย ๆ รัชกาลที่ 5 เพื่อมิให้ผู้ที่ไปช่วยงานเผาศพ เดือดร้อนรำคาญเพราะกลิ่นแห่งการเผาศพ ในเวลาที่ทำพิธีพระราชทานเพลิง จึงปิดก้นโกษฐ์หรือหีบไว้เสีย และคอยระวังถอนธูปเทียนออกเสียจากภายใต้เพื่อมิให้ไฟไหม้ขึ้นไปถึง ต่อตอนดึกเมื่อผู้คนที่ไปช่วยงานกลับกันหมดแล้ว จึงเปิดไฟและทำการเผาศพจริง ๆ ในเวลาที่เผาจริง ๆ เช่นว่านี้ มักมีพวกเจ้าภาพอยู่ที่เมรุบ้าง...
หน้า 341 ของ 432