Featured Threads Archive
-
พระบัวขาว ขอตั้งใจบวชถวายเป็นพระราชกุศล คนบันเทิงร่วมอนุโมทนา
เมื่อเวลา 9.00 น. วันที่ 19 ต.ค ที่วัดบางแวก นายสมบัติ หรือ บัวขาว บัญชาเมฆ อายุ 34 ปี นักมวยชื่อดัง ได้เข้าพิธีอุปสมบท เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้กับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยบรรยากาศในงานจัดอย่างเรียบง่าย มีคนในวงการมวยและวงการบันเทิงมาร่วมงาน อย่าง เอกพันธ์ และบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์,เต๋า สมชาย,ผู้กำกับหนัง ปื้ด ธนิตย์ จิตนุกูล และทีมงานจากภาพยนต์ นายทองดีฟันขาว , กลุ่มนักกีฬาวอลเล่บอลชาติไทย , ค่ายมวยบัญชาเมฆและญาติพี่น้องคนสนิท
ด้าน บัวขาว กล่าวว่า ในการบวชครั้งนี้เป็นการบวชครั้งที่ 2 ในชีวิต โดยการบวชครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งก่อน เพราะตนตั้งใจไว้จะบวชเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้กับในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อทดแทนบุญคุณและจะนำคำสอนที่พระองค์ท่านสอนได้นำมาปรับใช้ เป็นสิ่งสุดท้ายที่ตนจะสามารถทำได้และหลักจากบวชเสร็จแล้วตนก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดและทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติต่อไป
โดยพระบัวขาว บัญชาเมฆ ได้รับฉายาว่า ฐิระวิระโย แปลว่า ผู้มีความเพียร ซึ่งมีกำหนดบวช 9 วัน
ขอขอบคุณที่มา
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_579774 -
"ปฏิบัติธรรม เหมือนเราเลี้ยงควาย"
"ปฏิบัติธรรม เหมือนเราเลี้ยงควาย"
" .. เปรียบเหมือนกับเราเลี้ยงควาย "หนึ่งต้นข้าว สองควาย สามเจ้าของ" ควายจะต้องกินต้นข้าว ต้นข้าวเป็นของที่ควายจะกิน "จิตของเราก็เหมือนควาย อารมณ์คือต้นข้าว ผู้รู้ก็เหมือนเจ้าของ"
การปฏิบัติเป็นเหมือนอย่างนี้ไม่ผิด "เปรียบเทียบดู เวลาเราไปเลี้ยงควาย ทำอย่างไร" ปล่อยมันไป แต่เราพยายามดูมันอยู่ ถ้ามันเดินไปใกล้ต้นข้าว เราก็ตวาดมัน ควายได้ยินก็จะถอยออก
แต่เราอย่าเผลอนะ "ถ้ามันดื้อไม่ฟังเสียงก็เอาไม้ค้อนฟาดมันจริง ๆ มันจะไปไหนเสีย มันจะได้กินต้นข้าวหรือ" แต่เราอย่าไปนอนหลับกลางวันก็แล้วกัน ถ้าขืนนอนหลับ ต้นข้าวหมดแน่ ๆ
เรื่องปฏิบัติก็เช่นกัน "เมื่อเราดูจิตของเราอยู่ ผู้รู้ดูจิตเจ้าของ ผู้ใดตามดูจิต ผู้นั้นจักพ้นจากบ่วงของมาร" .. "
"๔๘ พระธรรมเทศนา"
หลวงปู่ชา สุภัทโท -
“…วิธีเจริญสมาธิภาวนาตามแนวการสอน ของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล…”
“…วิธีเจริญสมาธิภาวนาตามแนวการสอน ของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล…”
๑. เริ่มต้นด้วยอิริยาบถที่สบาย ยืน เดิน นั่ง นอน ได้ตามสะดวก ทำความรู้ตัวเต็มที่ และ รู้อยู่กับที่ โดยไม่ต้องรู้อะไร คือ รู้ตัว หรือรู้ “ตัว” อย่างเดียว รักษาจิตเช่นนี้ไว้เรื่อยๆ ให้ “รู้อยู่เฉยๆ” ไม่ต้องไปจำแนกแยกแยะ อย่าบังคับ อย่าพยายาม อย่าปล่อยล่องลอยตามยถากรรม เมื่อรักษาได้สักครู่ จิตจะคิดแส่ไปในอารมณ์ต่างๆ โดยไม่มีทางรู้ทันก่อน เป็นธรรมดาสำหรับผู้ฝึกใหม่ ต่อเมื่อจิตแล่นไป คิดไปในอารมณ์นั้นๆ จนอิ่มแล้ว ก็จะรู้สึกตัวขึ้นมาเอง
เมื่อรู้สึกตัวแล้วให้พิจารณาเปรียบเทียบสภาวะของตนเอง ระหว่างที่มีความรู้อยู่กับที่ และระหว่างที่จิตคิดไปในอารมณ์ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อเป็นอุบายสอนจิตให้จดจำ
จากนั้นค่อยๆ รักษาจิตให้อยู่ในสภาวะรู้อยู่กับที่ต่อไป ครั้นพลั้งเผลอรักษาไม่ดีพอ จิตก็จะแล่นไปเสวยอารมณ์ข้างนอกอีกจนอิ่มแล้ว ก็จะกลับรู้ตัว รู้ตัวแล้วก็พิจารณาและรักษาจิตต่อไป..ด้วยอุบายอย่างนี้ ไม่นานนัก ก็จะสามารถควบคุมจิตได้และบรรลุสมาธิในที่สุด และจะเป็นผู้ฉลาดใน “พฤติแห่งจิต” โดยไม่ต้องไปปรึกษาหารือใคร
ข้อห้าม..... -
ปล่อยวาง ปล่อยวาง จงปล่อยวาง (หลวงปู่หา สุภโร)
ปล่อยวาง ปล่อยวาง จงปล่อยวาง
โยม ; หลวงปู่ครับ ทำไมไปที่ไหนๆ พระท่านก็สอนแต่ให้ปล่อยวาง ปล่อยวาง ถ้าทุกคนปล่อยวางหมด ถ้าอะไร อะไรก็ปล่อยวาง แล้วประเทศชาติจะพัฒนาเหรอครับ
หลวงปู่ ; หือ คุณเข้าใจคำว่าปล่อยวางแค่ไหน
โยม ; ก็…. ผมคิดว่าการปล่อยวาง คือการละทิ้งทุกอย่าง ไม่สนใจอะไรเลย ไม่ยึดไม่ติด เอาตัวเองรอดอย่างเดียว
หลวงปู่ ; นั้นคุณกำลังยึดติด
โยม ; อ้าว ผมยึดติดยังไงครับหลวงปู่ ก็ในเมื่อผมวางทุกอย่าง ไม่สนใจอะไร ไม่สนใจใคร
หลวงปู่ ; นั้นหล่ะยึดติด ยึดติดในความคิดของคุณไง ยึดติดในความเห็นผิดไง การปล่อยวางแบบที่คุณว่าเป็นการปล่อยปละละเลย ไม่ใช่การปล่อยวาง บ้านสกปรก คุณไม่กวาดคุณก็บอกว่าปล่อยวาง ลูกทำตัวไม่ดีคุณก็ไม่ยอมบอกเตือน ไม่ยอมสอน คุณบอกว่าปล่อยวาง หนักๆเข้า อะไรมากระทบกายกระทบใจก็ปล่อยไป ปัญหาเข้ามาสุมหัวมากมาย ก็ไม่แก้ไข เพราะคุณปล่อยวาง แบบนี้ไม่เรียกปล่อยวาง เรียกว่าปล่อยปละละเลย ปล่อยวางอย่างนี้หลวงปู่ยังไม่เชื่อว่าคุณปล่อยวาง คุณขี้เกียจกวาดบ้านก็บอกว่าปล่อยวาง จะให้หลวงปู่เชื่อคุณต้องมานอนกลางลานดินอันนี้หลวงปู่ถึงจะเชื่อ แต่การปล่อยแบบคุณ มันจะมีแต่ปัญหา... -
ประสบการณ์โลกทิพย์ ในการออกธุดงค์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ประสบการณ์โลกทิพย์ ในการออกธุดงค์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
เรื่องนักบุญฟรานซิสแห่งคริสตศาสนานี้ ทำให้นึกถึงเรื่องของท่านพระครูอุดมธรรมคุณ (พระมหาทองสุก สุจิตฺโต ) ท่านได้เดินธุดงค์ขึ้นภาคเหนือเพื่อจะไปกราบนมัสการท่านพระอาจารย์ใหญ่ ซึ่งกำลังบำเพ็ญเพียรอยู่ที่บ้านกกกอก เชียงใหม่ ในระหว่างเดินทางคืนวันหนึ่ง ขณะที่ท่านพระครูอุดมธรรมคุณกำลังเดินจงกรมอยู่ในป่า ณ ที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่สาขาร่มครื้ม
ท่ามกลางแสงเดือนหงาย ได้ยินเสียงสุนัขป่าฝูงหนึ่งส่งเสียงเห่าหอนสนั่นป่ารอบๆ เสียงนั้นบอกว่าจะต้องเป็นสุนัขป่าฝูงใหญ่ทีเดียว เพราะมันเห่าหอนรับกันเซ็งแซร่ก้องไปทั้งป่าเป็นเวลานานกว่าจะหยุด พอหยุดสักครู่ก็เห่าหอนอีกเกรียวกราวน่ากลัวมาก เพราะเป็นที่รู้กันมานานแล้วว่า ถ้าสุนัขป่ารวมฝูงกันเมื่อไหร่ แม้แต่เสือ ช้าง หมี ซึ่งเป็นสัตว์ใหญ่เจ้าป่าก็จะต้องรีบเร้นหนีทันทีด้วยความเกรงกลัว สุนัขป่ารวมฝูงกัน มีความดุร้ายเ**้ยมหาญมาก มันจะสู้ดะไม่เลือกหน้า สู้อย่างบ้าคลั่งไม่กลัวตาย
ท่านพระครูอุดมธรรมคุณเล่าว่า ฝูงสุนัขป่าได้เข้ามาล้อมท่านไว้เป็นวงกลมรอบด้านมีประมาณยี่สิบตัวแต่ละตัวใหญ่มาก... -
นักบวชฮินดูทุ่มงบ2,100ล้านรูปีพัฒนาพุทธสถาน
นักบวชฮินดูทุ่มงบ2,100ล้านรูปีพัฒนาพุทธสถาน
โยคีอาทิตยานาถนักบวชฮินดู ทุ่มงบ 2,100 ล้านรูปีพัฒนาพุทธสถานรัฐอุตตรประเทศอินเดีย ยกพระพุทธศาสนานั้นเป็นศาสนาแห่งสันติภาพ
วันที่ 17 ตุลาคม 2560 ที่เมืองกุสินารา รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย สถานที่ปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โยคี อาทิตยานาถ (Yogi Adityanath) มุขมนตรีรัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย นักบวชฮินดู เจ้าอาวาสวัดโครักคนาถ เมืองโครักคปูร์ พร้อมด้วยรัฐมนตรีการท่องเที่ยว และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เดินทางมาเป็นประธานเปิดการท่องเที่ยว เพื่อดูแลอำนวยความสะดวกแก่ผู้แสงบุญ และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในรัฐอุตตรประเทศ ซึ่งมีประชากรมากที่สุดกว่า 199 ล้านคน โดยมีพระสงฆ์นานาชาติจากวัดต่างๆ ในเมืองกุสินาราได้รับนิมนต์ให้เดินทางไปร่วมงานในครั้งนี้
โยคีอาทิตยานาถ มุขมนตรีแห่งรัฐอุตตรประเทศ ได้กล่าวว่า พระพุทธศาสนานั้นเป็นศาสนาแห่งสันติภาพ มีพุทธศาสนิกชนอยู่ทั่วโลก ซึ่งจุดกำเนินนั้นอยู่ในประเทศอินเดีย ในรัฐอุตตรประเทศนี้มีพุทธสถานมากที่สุด 6 ที่ ทั้งกุสินารา สารนาถ สาวัตถี โกสัมพี สังกัสสะ กบิลพัสดุ์... -
โล่ง!อุดรอยแตกสระเก็บน้ำ โคกสำโรงได้แล้ว!
โล่ง!อุดรอยแตกสระเก็บน้ำ โคกสำโรงได้แล้ว!
กรมชลฯ ชี้ปริมาณน้ำที่ไหลจากสระเก็บน้ำ อ.โคกสำโรง ลพบุรี จะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในเขตเมือง พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำ Big bag ปิดทำนบดินที่ชำรุด
จากกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับอ่างเก็บน้ำโคกสำโรงแตก จังหวัดลพบุรี ประกาศประชาชนรีบเก็บของหนีน้ำ ซึ่งเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์นั้น นายสมเกียรติ ประจำวงษ์อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กรมชลประทานลงพื้นที่อย่างเร่งด่วนเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ ขอเรียนว่า อ่างเก็บน้ำที่ระบุในข่าวคือ สระเก็บน้ำภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตลพบุรี เป็นงานจัดหาแหล่งน้ำสนับสนุนพื้นที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ความจุ 700,000 ลูกบาศก์เมตร ลักษณะโครงการเป็นสระเก็บน้ำ ไม่ใช่อ่างเก็บน้ำตามที่ปรากฏในข่าว
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 04.00 น. ของเช้าวันที่ 18 ตุลาคม 2560 ขณะเกิดเหตุมีน้ำอยู่ประมาณ 600,000 ลูกบาศก์เมตร คาดการณ์ว่าจะมีน้ำไหลออกจากสระ ประมาณ 320,000 ลูกบาศก์เมตร คงเหลือค้างสระประมาณ 280,000 ลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำดังกล่าวจะไหลหลากผ่านทุ่งนา ประมาณ 200 ไร่ ความลึก เฉลี่ยประมาณ 25... -
หลวงพ่อชวนลา “พุทธภูมิ”(หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
หลวงพ่อชวนลา “พุทธภูมิ”
ที่แนะนำเรื่องพระพุทธเจ้า ก็เพราะว่า พวกเรานี้ติดอำนาจ พุทธานุสสติ มาหลายแสนกัป ทำอย่างไรๆ ก็ตาม ถ้าเราทิ้ง พุทธานุสสติ เมื่อไร พวกเราก็พลาดทางเมื่อนั้น การที่พวกเรายึด พุทธานุสสติ เป็นปัจจัย ฉะนั้น พวกเราจึงมีความมุ่งมั่นกันในขณะนั้น คือหลายสมัยผ่านมา คืออยากเป็นพระพุทธเจ้า
ตัวนี้แหละสำคัญมาก ความอยากเป็นพระพุทธเจ้า การบำเพ็ญบารมีต้องใช้ระยะยาว นี้เมื่อใช้การบำเพ็ญบารมีระยะยาว การสั่งสมบารมีก็มีมาก มาในชาติปัจจุบัน.. พวกเราเห็นว่า การเป็นพระพุทธเจ้าลำบาก ต้องบำเพ็ญบารมีกันนานๆ
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การบำเพ็ญบารมีเป็นพระพุทธเจ้าในสมัย “ปรมัตถบารมี” นี่เราจะต้องประสบกับความทุกข์ยากอย่างหนัก ที่ชาวบ้านธรรมดาเขาไม่มีกัน ถึงแม้ว่าจะมีเงิน จะมีทอง จะมีของใช้เพียบพร้อมอย่างใดก็ตาม แต่ว่าอันตรายทางใจมันจะมีมาก จะต้องใช้ “ขันติ” มาก ขันติบารมีต้องสูง เมตตาบารมีต้องสูง
ในเมื่อเราเห็นความยากลำบากมันจะเข้ามาถึงขนาดนี้ แล้วต้องมาดูตัวนะ..ว่าเวลานี้ “ตุ่มน้ำ” คือบุญ คือกำลังใจที่ขังบุญเหมือนกับตุ่ม ที่ขังน้ำมันก็ใกล้จะเต็มปากเข้ามาแล้ว แต่หากว่าจะต้องการเป็นพระพุทธเจ้า... -
ชาวพุทธเอเซีย ร่วมประชุมที่เมียนมาร์ ตั้งประชาคมพุทธศาสนิกชนเอเชีย ต่อยอดโครงการธรรมยาตราห้าแผ่นดิน
ชาวพุทธกลุ่มประเทศเอเซีย ร่วมประชุมที่เมียนมาร์ ตั้งประชาคมพุทธศาสนิกชนเอเชีย ต่อยอดโครงการธรรมยาตราห้าแผ่นดิน
(12 ต.ค.60) ที่นครย่างกุ้ง สหภาพเมียนมาร์ คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนในกลุ่มประเทศเอเซีย จัดประชุมเพื่อจัดตั้งประชาคมพุทธศาสนิกชนเอเซีย (Asian Buddhist Community – ABC) โดยมีพระสงฆ์และชาวพุทธสหภาพเมียนมาร์ เป็นแกนนำในการจัดตั้ง โดยมีเป้าหมายในการช่วยจรรโลงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้มีความมั่นคงในภูมิภาคเอเซีย
การประชุมครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างพระพุทธศาสนาเถรวาทและมหายาน ซึ่งมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ได้ส่งคณะผู้บริหารเข้าร่วมสังเกตการณ์ในการประชุมครั้งนี้ พร้อมกันนี้ ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือในการส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์ทั้งเถรวาทและมหายานให้ดำเนินไปในทิศทางที่เหมาะสมถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา ระหว่าง ดร.คินฉ่วย และคณะ ในนามชาวพุทธสหภาพเมียนมาร์ และชมรมโพธิคยาวิชชาลัย 980 โดยมี ดร.ศุภชัย วีรภุชงค์ และคณะ ลงนามความร่วมมือโดยต่อยอดจากโครงการธรรมยาตราห้าแผ่นดินและนำมาเสริมต่อให้มีความต่อเนื่องต่อไป
-------------------
ขอบคุณที่มา... -
นะ มะ ระ อะ นะ เท วะ อะ..จารึกพระคาถาบนฝ่ามือ "หลวงพ่อวัดบ้านแหลม" ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก
นะ มะ ระ อะ นะ เท วะ อะ..จารึกพระคาถาบนฝ่ามือ "หลวงพ่อวัดบ้านแหลม" ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ผู้ใดจะแก้บนต้องรำถวายมือหลวงพ่อก่อน..
หลวงพ่อวัดบ้านแหลม
หลวงพ่อบ้านแหลมเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวสมุทรสงคราม ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง คงมีแต่ตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า มีพระพุทธรูป๓ องค์ เป็นพี่น้องกัน ลอยตามน้ำมา หลวงพ่อบ้านแหลมเป็นพี่ใหญ่ อัญเชิญขึ้นประดิษฐาน ณ วัดบ้านแหลม หรือวัดเพชรสมุทรวรวิหาร สมุทรสงคราม องค์กลางคือ หลวงพ่อโสธร อัญเชิญขึ้นประดิษฐานที่วัดโสธรวราราม ฉะเชิงเทรา ส่วนองค์น้องสุดท้อง คือหลวงพ่อโต อัญเชิญขึ้นประดิษฐาน ณ วัดบางพลีใหญ่ใน สมุทรปราการ
เมื่อได้หลวงพ่อมาแล้ว ชาวบ้านก็ได้อาราธนานำท่านไปประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ วัดบ้านแหลม และทำพิธีจัดงานสมโภชฉลององค์หลวงพ่อกันอย่างครึกครื้น แล้วพากันขอความศักดิ์สิทธิ์จากหลวงพ่อให้ช่วยคุ้มครองปกปักรักษาไม่เว้นแต่ละวัน หลวงพ่อวัดบ้านแหลม มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพนับถือของประชาชน ความศักดิ์สิทธิ์ประการใดบ้างนั้น เหลือที่จะพรรณนาให้ละเอียดได้มีผู้เล่าให้ฟังว่า
สมัยก่อนเมื่อผู้ใดได้รับความเจ็บป่วย... -
มหัศจรรย์ใต้ทะเลลึก!! อินโดนีเซียค้นพบเมืองพุทธโบราณอายุนับ 1000 ปี
มหัศจรรย์ใต้ทะเลลึก!! อินโดนีเซียค้นพบเมืองพุทธโบราณอายุนับ 1000 ปี
ใต้ทะเลลึกอินโดนีเซีย ได้มีพระพุทธรูปสงบนิ่งอยู่เป็นพันปี..ย่อมแสดงว่าดินแดนแห่งนี้เคยมีศาสนาพุทธเข้ามาเผยแพร่ก่อนศาสนาอื่นจะเข้ามาแทนที่ หลังจากศาสนาพุทธที่ประเทศอินเดียถูกทำลายลงศาสนาพุทธได้มาลงหลักปักฐานมั่นคงที่ดินแดนอินโดนีเซีย
แต่แล้วมุสลิมก็ส่งคนแทรกเข้าสู่ในวังสำเร็จพร้อมดึงมกุฎราชกุมารเข้ารีตนับถืออิสลาม เมื่อมงกุฏราชกุมารเข้านับถืออิสลามได้ทำการยึดอำนาจจากพระราชบิดาพร้อมสั่งทำลายพระพุทธศาสนาขนย้ายพระพุทธรูปและเทวรูปต่างๆไปทิ้งทะเลลึก พระพุทธศาสนาในประเทศอินโดนีเชียก็ถูกทำลายย่อยยับจากนั้นจนถึงปัจจุบัน
ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ หนังสือประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาระบุว่า “ถึงแม้ว่าในปัจจุบันประเทศอินโดนีเซียจะเป็นประเทศนับถือศาสนาอิสลาม แต่อดีตเคยมีพระพุทธศาสนาแบบมหายานเข้ามาประดิษฐานอยู่ พระพุทธศาสนาได้รุ่งเรืองมาก ประมาณพุทธศตวรรษที่ 12 มีโบราณสถานที่สำคัญสองแห่งอยู่ในอินโดนีเซียคือ โบโรบุดูร์ หรือ บรมพุทโธ ตั้งอยู่ที่ราบเกตุ (kedu)ในภาคกลางของชวา ห่างจากเมืองยอกยาการ์ตา (Jogjagata)... -
สะพรึง! “หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก” เผยคำทำนายเตือนภัยพิบัติครั้งใหญ่ในไทย
สุดสะพรึง เมื่อคำทำนายเตือนเหตุการณ์ล่วงหน้าของ “หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก” แห่งวัดทุ่งสามัคคีธรรม จังหวัดสุพรรณบุรี ว่าจะมีเรื่องที่ต้องระวังเกี่ยวกับภับพิบัติที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งคำทำนายได้บอกเล่าผ่าน หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ เจ้าอาวาสวัดสังฆทาน จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นพระลูกศิษย์ไว้ มีรายละเอียดดังนี้
ไม่ช้าพวกเราก็ตายแล้ว แต่โลกนี้จะเดือดร้อน แต่ถ้าเราอยู่ถึงก็จะเห็นภัย 3 อย่าง
1) น้ำจะท่วมภาคใต้ ฝั่งตะวันตกตายกันเยอะ เป็นครั้งที่ 1 แต่ก็ตายไม่มากเท่าน้ำท่วมกรุงเทพ กรุงเทพนี่ น้ำท่วมมาก ท่วมตึก 4 ชั้นเลยให้เตรียมน้ำมันรถไว้ให้ดีนะ เตรียมรถให้ดี อย่าใช้รถเก่านะ ถ้าน้ำท่วมกรุงเทพ ฝนจะตก 7 วัน 7 คืน ฟ้าจะมืดหมด ไม่มีแสงอาทิตย์ แสงตะวัน แล้วไฟดับหมด เงินจะไม่มีค่า ไม่มีความหมาย เอาข้าวตากไว้ดีกว่า ตอน 7 วัน 7 คืน
2) ท่านบอกหลวงพ่อสนอง ที่วัดอีกครั้งว่า เวลาฝนตก 7 วัน 7 คืน ถ้าน้ำท่วมมาถึงชลบุรี โกยได้เลยนะ ไปสระบุรี ไปเขาใหญ่ จะไม่ตาย คลื่นยักษ์เมื่อมาถึงชลบุรีท่วมภูเขาเลย ท่วมไปจนถึงวัดทุ่งสามัคคีธรรม วัดทุ่งนี่เรานั่งพื้นน้ำเปียกหัวเรือเลยนะ น้ำไปสุดนครสวรรค์... -
“หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี” แนะวิธีป้องกันวิปลาสเพราะการเจริญภาวนา อย่างง่ายและแก้ไขได้ตนเอง
“หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี” แนะวิธีป้องกันวิปลาสเพราะการเจริญภาวนา อย่างง่ายและแก้ไขได้ตนเองเพียงเท่านี้ก็ผ่านสบายๆ
วิธีแก้วิปลาส
อาจารย์ผู้สอนก็ดี ลูกศิษย์ผู้เจริญภาวนาก็ดี เมื่อเข้าใจวิถีจิตที่เข้าเป็นฌานแล้ว จงระวังอุปกิเลส ๑๐ จะเกิดขึ้น ถ้าจิตเข้าถึงฌานแล้ว อุปกิเลสไม่ทั้งหมดก็อย่างใดอย่างหนึ่งจะต้องเกิดขึ้นสำหรับนิสัยของบางคน แต่บางคนก็ไม่มีเลย ถ้ามันเกิดขึ้นเราควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
๑. เมื่ออุปกิเลสเกิดขึ้นแล้ว พึงทำความรู้เท่าว่า นี่เป็นอุปกิเลส เป็นอุปสรรคแก่วิปัสสนาปัญญา และอุปกิเลสนี้เกิดจากฌาน หาใช่อริยมรรคไม่ ถึงแม้วิปัสสนาญาณ ๙ แปดข้อเบื้องต้นก็เช่นเดียวกัน อย่าได้น้อมจิตส่งไปตาม ด้วยเข้าใจว่าเป็นของจริงของแท้ พึงเข้าใจว่านั่นเป็นแต่เพียงภาพอันเกิดจากมโนสังขาร คือจิตปรุงแต่งขึ้นด้วยอำนาจของฌานเท่านั้น
พึงหยิบยกเอาพระไตรลักษณญาณขึ้นมาตัดสินว่า อุปกิเลสทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะฌาน ฌานก็เป็นโลกิยะ อุปกิเลสก็เป็นโลกิยะ โลกิยะทั้งหลายเป็นของไม่เที่ยง สิ่งที่ไม่เที่ยงแท้ถาวรนั้นแหละเป็นทุกข์ เพราะทนต่อความเที่ยงแท้ถาวรไม่ได้ แล้วก็แตกสลายดับไปตามสภาพของมันเอง... -
"ปัญญา ควบคุมความคิด" (สมเด็จพระญาณสังวร)
"ปัญญาควบคุมความคิด"
" .. ความคิดย่อมพ่ายแพ้แก่อำนาจของปัญญา "ปัญญาควบคุมความคิดได้" ความคิดย่อมพ่ายแพ้แก่อำนาจของปัญญา "ดังนั้นผู้มีปัญญาเท่านั้นที่จะสามารถควบคุมความคิดมิให้ก่อให้เกิดความทุกข์ได้" นั่นคือผู้มีปัญญาเท่านั้นที่จะสามรถพาใจหลีกพ้นความเศร้าหมองของกิเลสได้ ผู้ไม่มีปัญญาหาทำได้ไม่
ความทุกข์ทั้งหลายหลีกไกลด้วยปัญญา "ปัญญามีอำนาจเหนือความคิด ก็คือปัญญาที่มีอำนาจเหนือกิเลสนั่นเอง" เพราะเมื่อปัญญาควบคุมความคิดได้ ความคิดก็จะไม่ปรุงแต่งไปกวนกิเลสที่มีอยู่เต็มโลก ให้โลดแล่นเข้าประชิดติดใจ จึงเป็นการควบคุมกิเลสได้พร้อมกับควบคุมความคิด .. "
"รสแห่งความเมตตา ชุ่มเย็นยิ่งนัก"
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๙
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=11913 -
ด่วนที่สุด!! เขื่อนอุบลรัตน์ เพิ่มการระบายน้ำเป็นระดับสูงสุด ประกาศแจ้งเตือน!
ด่วนที่สุด!!! เขื่อนอุบลรัตน์ เพิ่มการระบายน้ำเป็นระดับสูงสุด ประกาศแจ้งเตือนขนย้ายสิ่งของไว้ที่สูง ทุกพื้นที่ได้รับผลกระทบหมด!!!
จากกรณีคณะกรรมการจัดการน้ำจังหวัดขอนแก่น ประชุมร่วมกันและมีมติให้เขื่อนอุบลรัตน์ เพิ่มการระบายน้ำเป็นช่วงๆ โดยช่วงวันที่ 15-16 ต.ค. จะปรับเพิ่มการระบายเป็น 40 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ในช่วงวันที่ 17-18 ต.ค. จะปรับเพิ่มการระบายเป็น 43 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค. เป็นต้นไป จะปรับเพิ่มการระบายเป็น 45 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จากปัจจุบันเขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำอยู่ในระดับเก็บกัก ประมาณ 2,590 ล้านลูกบาศก์เมตร มีการระบายน้ำวันละ 34 ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมากกว่าวันละ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร
ขณะนี้น้ำหลังเขื่อนอุบลรัตน์เพิ่มระดับขึ้นสูง รถต่ำๆ ไม่สามารถผ่านได้ เครื่องน็อคแล้วหบายคันและ ตอนนี้เจ้าหน้าที่บำรุงทางหลวงชนบทหนองเรือ ได้ปิดเส้นทางแล้ว
ล่าสุดได้มีรายงานจากเพจเฟซบุ๊ก "คนขอนแก่น" โดยมีเนื้อหาว่า
#ด่วนที่สุด
วันนี้ (17/10/60) เวลา 06.00 น. เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 54 ล้าน... -
บวช 28,262 รูปถวายรัชกาลที่ 9 ทั่วประเทศ
บวช 28,262 รูปถวายรัชกาลที่ 9 ทั่วประเทศ
“ธนะศักดิ์” มอบผ้าไตรบวชพระ 138 รูป วัดยานนาวา ถวายพระราชกุศลรัชกาลที่ 9 พร้อมอัญเชิญพระบรมราโชวาทด้านพระพุทธศาสนาให้ผู้บวชนำไปปฏิบัติในชีวิต ขณะที่ประชาชนกว่า 2 หมื่นคนเข้าโครงการบวชของ มส.-พศ. พร้อมกันทั่วประเทศถวายพ่อหลวง 15-30 ต.ค. ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จันทร์ที่ 16 ตุลาคม 2560 เวลา 10.23 น.
วันนี้( 16 ต.ค.) ที่วัดยานนาวา มหาเถรสมาคม(มส.) รัฐบาล โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) จัดพิธีบรรพชาอุปสมบทโครงการบรรพชาอุปสมบทหมู่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จำนวน 138 รูป โดยมีพระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กรรมการมส. เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลพศ.เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ทั้งนี้พล.อ.ธนะศักดิ์ ได้มอบผ้าไตรแก่ผู้อุปสมบทจำนวน 9 ไตร พร้อมอัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้านพระพุทธศาสนา ในโอกาสเปิดประชุมใหญ่ครั้งที่ 17 ของสมาคมพทธศาสนาทั่วราชอาณาจักร ณ ศาลาการเปรียญบนภูสิงห์ อำเภอสหัสขันธ์... -
“ธรรม ๔ ประการ ของชีวิตคู่”( พระอาจารย์สุชาติ)
“ธรรม ๔ ประการ ของชีวิตคู่” พระอาจารย์สุชาติแนะวิธีการครองคู่ให้มีความสุขป้องกันการทำให้ครอบครัวแตกแยก
“ธรรม ๔ ประการ ของชีวิตคู่”
ถาม : กรรมอันใดที่ทำให้ชีวิตคู่ต้องล้มเหลว เพราะผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย
พระอาจารย์ : ชีวิตคู่ล้มเหลวมันอยู่ที่คนสองคนนั่นแหละ มันไม่อยู่ที่ใครหรอก ถ้าคนสองคนมีความจริงใจต่อกัน ต่อให้ฟ้าดินถล่มมันก็ไม่เลิกกันหรอก แต่ถ้าไม่จริงใจต่อกันมีใครมายุมาแย่หน่อยเดี๋ยวก็เลิกกันได้ ฉะนั้นตัวการสำคัญนี้อยู่ที่ใจของคนทั้งสองคน พระพุทธเจ้าบอกว่าถ้ามีธรรม ๔ ประการแล้วจะอยู่ด้วยกันไปได้อย่างถาวร คือหนึ่งต้องมีจาคะ มีการเสียสละให้ต่อกันและกัน เอาใจกันและกัน ไม่ใช่เอาใจของตัวเอง จาคะ แล้วก็มีสัจจะมีความจริงใจมีความซื่อสัตย์ต่อกัน ไม่ไปมีนอกใจไปมีคนอื่น แล้วก็มีขันติความอดทน เวลาเจอความทุกข์ยากลำบากต่างๆ ก็ฟันฝ่ากันไปอยู่ด้วยกันไปไม่ทอดทิ้งกัน แล้วก็มีทมะความอดกลั้น เวลามีอารมณ์ไม่ดีเวลาเห็นเขาทำอะไรไม่ถูกใจก็ต้องอดกลั้นไว้อย่าระบายออกมา ต้องมีความเมตตาสูงให้อภัยกัน ถ้าอย่างนี้แล้วต่อให้ใครมายุยงมาสั่งมาห้ามอะไรก็ไม่มีวันที่จะทำให้ให้สองคนนี้แยกกันได้
แต่ถ้าไม่มีธรรมทั้ง ๔... -
คุณพระรัตนตรัย (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
คุณพระรัตนตรัย
…พ.ศ. ๒๕๑๙ ที่จะเข้ามาถึงจัดว่าเป็น พ.ศ. ที่มีความวิกฤติที่สุดของชีวิตประเทศไทยในยุคนี้ เพราะว่าตกอยู่ในเขตที่มีความวิกฤติอย่างหนัก ความแปรปรวนเป็นไปของโลก ของชีวิตมนุษย์
อันนี้ก็ถือว่าเป็นปกติธรรมดา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า โลกมีอันจะต้องฉิบหายไปในที่สุด ไม่มีอะไรทรงตัว ทีนี้สำหรับเราเหล่าพุทธบริษัท ในฐานะที่ท่านทั้งหลายเป็น “พุทธมามกะ” คือ นับถือพระพุทธเจ้าเป็นสำคัญ พระบาลีกล่าวว่า บุคคลผู้เข้าถึงพระรัตนตรัยย่อมจะไม่สลาย…คือจะต้องไม่พินาศไปด้วยอำนาจของโลกซึ่งเต็มไปด้วยความแปรปรวน ทั้งนี้ก็เพราะว่าองค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้ว่าสิ้นเวลา ๒,๕๐๐ ปีเศษ สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ทรงมีพระพุทธฎีกาตรัสแก่พระอานนท์ว่า
“อานันทะ ดูก่อนอานนท์ เมื่อพระพุทธศาสนาล่วงไป ๒,๕๐๐ ปีเศษ คือหลังจากกึ่งพุทธกาล ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี คือ พ.ศ. ๒๔๘๔ เป็นต้นมา โลกจะเต็มไปด้วยความวิกฤต ไฟจะตกจากอากาศ ไฟจะลุกในอากาศ ฝนเหล็กจะตกจากอากาศ บรรดาคนจะมีความทุกข์ยากล้มตายเป็นอันมาก..”
และองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงกล่าวต่อไปอีกว่า “อานันทะ ดูก่อนอานนท์... -
เจตนาในการถวายทาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
เจตนาในการถวายทาน
การมาของบรรดาท่านพุทธบริษัทในวันธรรมสวนะนี้ รู้สึกว่าเป็นมหากุศล เพราะว่าบรรดาท่านพุทธศาสนิกชนมีการเตรียมตัวมาก่อน ว่าวันใดที่องค์สมเด็จพระชินวรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศเป็นวันธรรมสวนะ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ก็เริ่มตั้งใจไว้แต่ก่อนวันนั้นว่า วันพรุ่งนี้หรือวันมะรืนนี้จะเป็นวันพระ เป็นวันธรรมสวนะ คือวันฟังธรรม เราตั้งใจจะไปบำเพ็ญกุศลที่วัดนั้น ในสถานที่นี้เป็นต้น
การที่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนตั้งใจไว้ก่อนอย่างนี้ สมเด็จพระชินสีห์กล่าวว่าเป็น “ปุพพเจตนา”
คำว่า “ปุพพเจตนา” แปลว่า ตั้งใจไว้ก่อน ว่าเราจะไปทำความดี คือทำบุญ คำว่า “บุญ” นั้นก็แปลว่า ดี
ถึงวันนั้นก็โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายที่มีความเคารพในองค์สมเด็จพระชินสีห์ ก็จัดแจงวัตถุทั้งหลายที่มีประโยชน์ในการบำเพ็ญกุศล ตั้งใจไปทำบุญในวันนั้น และการจะทำบุญในครั้งนั้น ก็เต็มไปด้วยความเต็มใจ อย่างนี้เรียกว่า “มุญจเจตนา” คือตั้งใจในปัจจุบันว่าเราจะได้บุญ
หลังจากที่ทำบุญทำกุศลแล้ว ก็มีความปลื้มใจอย่างนี้ องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาตรัสว่าเป็น “อปรเจตนา” และ “อปราปรเจตนา” นี้หมายความว่า... -
“ความไม่สมหวัง จะทำให้ค่าของใจเพิ่มพูนขึ้น” ( สมเด็จพระญาณสังวร )
“ความไม่สมหวัง จะทำให้ค่าของใจเพิ่มพูนขึ้น”
” .. ผู้ไม่สมหวังในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้วเกิดความทุกข์เพราะความไม่สมหวังนั้น มีวิธีคิดที่น่าจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่จิตใจของตนอย่างที่สุด คือคิดว่า “ถ้านำความไม่สมหวังนั้นมาเป็นทางดำเนินไปถึงความมีค่าเพิ่มพูนขึ้นของจิตใจ” ก็จะได้ประโยชน์กว่า ถ้าสมหวังแล้วจิตใจไม่มีค่าขึ้น คือไม่ดีขึ้นกว่าระดับเดิม
“ความไม่สมหวังจะทำให้ค่าของจิตใจเพิ่มขึ้นอย่างไร” มีอธิบายดังนี้ “ถ้าความไม่สมหวังเกิดขึ้น แล้วทำสติให้รู้ทันว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ผ่านไปแล้ว ไม่ควรเข้าไปยึดมั่นถือมั่น” อยากให้ไม่เกิดขึ้นเช่นนั้น แต่อยากให้เกิดเป็นอีกอย่างหนึ่งคือเป็นความสมหวัง เช่นนี้นับว่า “เป็นการเพิ่มค่าให้แก่จิตใจ คือทำให้จิตใจปล่อยวางได้ ไม่ยึดมั่นถือมั่นได้”
แม้เพียงในเรื่องเดียวก็นับว่าเป็นการดีอย่างยิ่งของจิตใจ “ทำให้จิตใจดีขึ้น เพิ่มค่าขึ้น” ดังนั้นเมื่อความไม่สมหวังเกิดขึ้นในเรื่องใด แทนที่จะปล่อยใจให้ต่ำลงเพราะความเสียใจ ก็ควรรีบคิดเสียในทันที่ว่า “ค่าของใจสำคัญกว่าความสมหวัง” ไม่ว่าในเรื่องยิ่งใหญ่เพียงใดทั้งนั้น... -
สะสมบุญ..สะสมความดี(พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.๙)
สะสมบุญ..สะสมความดี’
“…กิจการทุกอย่างรวมทั้งการดำรงชีวิตที่ดีจะต้องปรับปรุงตัวตลอดเวลา และการปรับปรุงตัวนี่จะต้องมีความเพียรและความอดทนเป็นที่ตั้ง
ถ้าคนเราไม่มีความเพียร ไม่มีความอดทน ก็อาจจะท้อใจไปโดยง่าย
เมื่อท้อใจไปแล้วไม่มีทางที่จะมีชีวิตเจริญรุ่งเรืองแน่ๆ นอกจากจะเป็นคนที่เคราะห์ดีเหลือเกิน หรืออย่างที่เขาว่ากันว่า คนนี้เขาฟันฝ่าอุปสรรคมาได้ด้วยดี เขาไม่ได้ทำอะไรเลย..เขากินบุญเก่า
เราทำบุญมาถึงมีชีวิตขึ้นมาได้ มีกินมีอยู่ มีทางที่จะได้ศึกษาเล่าเรียนโดยดี เรากินบุญเก่า…เราจะต้องสร้างต่อไปเพื่อที่จะไม่ให้บุญที่กินนี่หมดไป…
…เพราะว่าถ้าคนเราไม่สร้างบุญต่อไป..คือทำความดี ย่อมหมดเช่นเดียวกับเราสะสมอาหารเอาไว้สำหรับไม่ให้อด แต่ว่าถ้าเราไม่หากินต่อไป..ไม่หาอาหารมา… อาหารที่สะสมเอาไว้ก็ย่อมหมดไป..แล้วเราก็ผอมโซและอดตาย…
ฉะนั้น…ความรู้..หรือความสามารถ..ความดีทั้งหลาย เราต้องสะสม และเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ ถึงจะสามารถที่จะมีชีวิตดำรงอยู่ได้ ถ้าขาดอาหารเราก็ผอมลง..หิว..เป็นทุกข์…
…ถ้าทำดี..ทำสิ่งที่สุจริตด้วยความสามารถ..ด้วยความอดทนพากเพียร เราอาจจะไม่ผอมโซ... -
พระเมรุมาศจำลอง 85 แห่ง ทั่วประเทศ เสร็จ 100% แล้ว
ความคืบหน้า ในการเตรียมการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ที่คนทั้งประเทศมองเห็นได้ชัดเจนอย่างหนึ่ง คือ การสร้างพระเมรุมาศจำลอง 85 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งวันนี้นับได้ว่า เสร็จสิ้นแล้วทั้ง 85 แห่งทั่วประเทศ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชานุญาตให้รัฐบาลจัดสร้างพระเมรุมาศจำลอง 85 แห่ง เพื่อให้คนไทยทุกคน ได้มีส่วนร่วมถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ออกแบบอย่างงดงามและสมพระเกียรติ เช่นเดียวกับพระเมรุมาศจริง โดยให้แผนกสถาปนิกในพระองค์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมศิลปากร ได้ร่วมกันจัดทำแบบก่อสร้างจำลองขึ้น
รูปแบบเป็นสถาปัตยกรรมไทยรูปทรงบุษบก 7 ชั้น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 16 เมตร สูงจากพื้น 45 เซนติเมตร มีองค์พระเมรุมาศตั้งอยู่กึ่งกลาง ขนาด 4.50 คูณ 4.50 เมตร ความสูงรวมฐานประมาณ 22.35 เมตร ซึ่งมีกำหนดต้องสร้างให้เสร็จสินทั้งหมด ตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2560
กรุงเทพฯ จะมีพระเมรุมาศจำลองทั้งหมด 9 แห่ง ที่พิเศษสุด คือ พระเมรุมาศจำลองที่บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต เป็นพระเมรุมาศจำลององค์เดียวที่ทำจากไม้สักทองทั้งหลัง... -
ท้องฟ้าเหนือ “กรุงลอนดอน” เปลี่ยนเป็นสีเหลืองผิดปกติ
ท้องฟ้าเหนือกรุงลอนดอนแปรเปลี่ยนเป็นโทนสีเหลืองผิดปกติ หลังพายุโอฟีเลียพัดฝุ่นทรายจากซาฮารา และควันจากเหตุไฟป่าโปรตุเกส
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ท้องฟ้าเหนือกรุงลอนดอนกลายเป็นสีเหลือง หลังจากที่พายุโอฟีเลียได้พัดพาเอาฝุ่นทรายจากทะเลทรายซาฮาราในแอฟริกาเหนือ และควันไฟจากไฟป่า ที่เกิดขึ้นในโปรตุเกสและสเปนทางตอนใต้ของยุโรปเข้าสู่เกาะอังกฤษ ขณะที่ได้บดบังแสงจากดวงอาทิตย์ ชาวลอนดอนต่างประหลาดใจต่อปรากฏการณ์ดังกล่าว และได้พากันแชร์รูปในสื่อออนไลน์
ทั้งนี้ พายุโอฟีเลียได้ลดระดับความรุนแรงจากพายุเฮอร์ริเคนในวันนี้ แต่ก็ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายในไอร์แลนด์ โดยพายุโอฟีเลีย นับเป็นพายุที่มีความรุนแรงมากที่สุดในรอบ 50 ปี
โฆษกสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอังกฤษกล่าว “ตอนที่โอฟีเลียเคลื่อนตัวมาจากกลุ่มเกาะอะโซร์ส พายุลูกนี้หอบเอาฝุ่นทะเลทรายซาฮารามาจากแอฟริกาเหนือด้วย เช่นเดียวกับฝุ่นจากไฟป่าในสเปนและโปรตุเกส สีเหลืองนี้มาจากฝุ่นที่ลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศ และองค์ประกอบสีน้ำเงินของแสงอาทิตย์กระเจิงออกไปเพราะฝุ่น แต่องค์ประกอบสีแดงลอดผ่านมาได้ ดังนั้นแสงอาทิตย์จึงแดงกว่าเดิม... -
อย่าหลงสมาธิอย่างเดียว
...ถ้าหลงระเริงเล่นแต่อารมณ์สมาธิอย่างเดียว จะคิดว่าเราตายคราวนี้หวังได้สวรรค์ พรหมโลก นิพพานนั้น (เอาแน่เอานอนไม่ได้) เพราะถ้าก่อนตายมีทุกขเวทนามาก จิตอาจจะทรงอารมณ์ไม่อยู่ ถ้าจิตเศร้าหมองขุ่นมัวเมื่อก่อนตาย อาจจะไปอบายภูมิ คือนรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดียรัจฉานได้ ตัวอย่างพระเทวทัต ท่านได้อภิญญาโลกีย์มีฤทธิ์มาก แต่ก่อนจะตายเกิดมีอารมณ์หลงผิดคิดประทุษร้ายพระพุทธเจ้า เมื่อตายแล้วลงอเวจีมหานรกไป พวกเราเองก็เหมือนกันถ้าหลงทำเฉพาะสมาธิ ไม่หาทางเอาธรรมะอย่างอื่นเข้าประคับประคอง ถ้าเมื่อเวลาตายเกิดมีอารมณ์เศร้าหมองเข้าครองใจ สมาธิก็ไม่สามารถช่วยได้ จึงต้องใช้ธรรมมะอย่างอื่นเข้าประคองใจด้วย ธรรมะที่ช่วยประคองใจให้เกิดความมั่นคงไม่ต้องลงอบายภูมิ มีนรกเป็นต้นนี้ก็ได้แก่ กรรมบถ ๑๐ ประการ คือ
๑. ไม่ฆ่าสัตว์หรือไม่ทรมานสัตว์ให้ได้รับความลำบาก
๒. ไม่ลักทรัพย์ คือไม่ถือเอาทรัพย์ของผู้อื่นที่เขาไม่ให้ด้วยความเต็มใจ
๓. ไม่ทำชู้ในบุตรภรรยาและสามีของผู้อื่น (ขอแถมนิดหนึ่ง ไม่ดื่มสุราเมรัยที่ทำให้มึนเมาไร้สติ)
๔. ไม่พูดวาจาที่ไม่ตรงความเป็นจริง
๕. ไม่พูดวาจาหยาบคายให้สะเทือนใจผู้รับฟัง
๖.... -
ขมวดท้ายเป็นไปนิพพานได้ทุกกอง(พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
ขมวดท้ายเป็นไปพระนิพพานได้ทุกกอง
ถาม : มาฝึกกสิณตอนนี้รู้สึกว่าจะสายไปหรือเปล่า ?
ตอบ : ไม่มีคำว่าสาย พร้อมจะเริ่มเมื่อไรก็เอาเลย การปฏิบัติทุกอย่างลงมือเมื่อไรก็เป็นคุณแก่ตัวเมื่อนั้น
ถาม : ถ้าเราตั้งใจปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้น แล้วการที่มาเล่นกสิณนี่จะถูกทางไหมครับ ?
ตอบ : กรรมฐานทุกกองในกรรมฐาน ๔๐ หรือมหาสติปัฏฐานก็ตาม ถูกทางทั้งนั้น เพียงแต่ว่าเราจะขมวดปลายเป็นไหม ? เราเล่นกสิณพอถึงวาระสุดท้ายเราก็พิจารณาเป็นวิปัสสนาญาณว่า รูปภาพกสิณจริง ๆ ก็มีความไม่เที่ยง เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ แรก ๆ ก็เป็นภาพของอุคหนิมิตคือ เป็นรูปกสิณตามนั้น หลังจากนั้นมาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป จากสีเดิมก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ กลายเป็นสีขาวจากสีขาวก็เจิดจ้าไป ถึงวาระสุดท้ายก็อธิษฐานให้มาก็ได้ให้ไปก็ได้ ไม่มีความเที่ยงแท้แน่นอนแม้แต่อย่างเดียว
ถ้าเราตั้งความปรารถนาว่าจะให้ดำรงอยู่ตลอดกาลสมัย เราก็ประกอบไปด้วยความทุกข์ แล้วในที่สุดแม้กระทั่งตัวเราเองที่เป็นผู้ทรงกสิณอยู่เราก็ตาย ภาพกสิณที่เราเห็นก็สลายตัวได้ วัตถุที่เราเอามาทำเป็นดวงกสิณ ก็สลายตัวได้ ไม่มีอะไรเหลืออยู่ ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรดำรงอยู่ได้... -
ถ้าหากเข้าใจว่าความตายเป็นเรื่องปกติแล้ว เราจะหมดความกลัวทุกอย่างเลย
ถ้าหากเข้าใจว่าความตายเป็นเรื่องปกติแล้ว เราจะหมดความกลัวทุกอย่างเลย
(คุยกับพระ) ผมตามดูมาเป็นปี ๆ เรื่องกลัวตาย เช่น กลัวผี ผีหลอกแล้วจะทำอย่างไร ? ก็บีบคอเรา แล้วเราจะเป็นอย่างไร ? เราก็ตาย หรือเข้าป่ากลัวงูกัด กัดแล้วเป็นอย่างไร เดี๋ยวก็ตาย ท้ายสุดมาลงที่ตายหมดเลย เพราะฉะนั้น..ผมเลยมาสรุปว่าความกลัวทั้งหมด ไม่ว่ากลัวจากภายในหรือภายนอก เกิดจากกกลัวตายอย่างเดียว
กลัวแล้วก็ปรุงแต่ง ผมไปนั่งกรรมฐานในป่าช้า พอดึก ๆ เสียงอะไรดัง จะได้ยินชัดมาก เราก็ฟัง..เสียงดังอย่างนี้เหมือนเสียงงูเลื้อย ตัวน่าจะโตประมาณนิ้วมือ ก็ถือไฟฉายจะไปส่องดู ที่ไหนได้...ยังไม่ทันได้ส่องเลย เกิดคิดแวบขึ้นมาว่า “ตัวขนาดนั้น ถ้ามีพิษเราโดนกัดก็ตายนะ” คราวนี้คิดไปใหญ่เลย “อาจจะใหญ่กว่าขนาดที่เราคิดไว้อีก” คิดไปเรื่อย ปรุงไปเรื่อย ประมาณชั่วโมงเดียวงูตัวนั้นใหญ่เท่าเสาเลย ก็คือจิตคิดปรุงแต่งเพิ่มไปเรื่อย
ในสถานการณ์จริงนั้นสิ่งที่เราซ้อมมายังใช้ไม่ได้ ยังเป็นแค่เราจำได้ ยังไม่ใช่ทำได้ เพราะฉะนั้น..เราจะทำอย่างไร ? เราก็สมมติสถานการณ์แล้วก็ซ้อมบ่อย ๆ เขาถึงได้บอกว่าต้องออกธุดงค์ ต้องเข้าป่า ต้องนอนป่าช้า... -
ชาวน่านแห่รับ ครูบาน้อย ถ้ำเชตวัน หลังตัดขาดโลก จำพรรษาในถ้ำ 3 ปี
เป็นความเชื่อและพลังศรัทธาของชาวน่าน สำหรับ ครูบาน้อย จ.น่าน หรือ พระญาณวิไชย ภิกขุ หรือ “ครูบาน้อย” แห่ง พุทธสถานถ้ำเชตวัน ต.สันทะ อ.นาน้อย จ.น่าน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ประกาศตัดทางโลก 3 ปี เข้ากรรมฐานในถ้ำ ไม่พบใคร และ ไม่ให้ใครพบ
ซึ่งพบว่าในวันนี้ (15 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.33 น. ครูบาน้อย ได้ออกถ้ำหลังจากจำพรรษา 3 ปี 3 เดือน 3 วัน โดยฉันแต่ผลไม้ และน้ำเท่านั้น ซึ่งพบว่าประชาชนได้เดินทางมารอรับจำนวนทำให้รถติดยาวเป็นกิโลเลยทีเดียว
รถติดเป็นกิโล!! ชาวบ้านแห่รับ 'ครูบาน้อย' หลังจำพรรษาในถ้ำ 3 ปี โดยไม่พบใครตัดขาดโลกภายนอก
ชาวบ้านชาวน่านแห่รับ ครนูบาน้อย ด้วยความเชื่อและแรงศรัทธา สำหรับ ครูบาน้อย จ.น่าน หรือ พระญาณวิไชย ภิกขุ หรือ “ครูบาน้อย” แห่ง พุทธสถานถ้ำเชตวัน ต.สันทะ อ.นาน้อย จ.น่าน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ประกาศตัดทางโลก 3 ปี เข้ากรรมฐานในถ้ำ ไม่พบใคร และ ไม่ให้ใครพบและเมื่อวานที่ผ่านมา ครูบาน้อยนั้นได้ออกจากถ้ำ
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา เวลา 13:33 ครูบาน้อย ได้ออกถ้ำหลังจากจำพรรษา 3 ปี 3 เดือน 3 โดยครูบาน้อยเองได้ฉันแต่ผลไม้และน้ำเท่านั้น... -
“ใครที่ถือวิสาสะบังอาจไปลบไปตัดไปทอนพระอภิธรรมและพระธรรมวินัย นั่นละมันจะลงนรก”หลวงตามหาบัว
“ใครที่ถือวิสาสะบังอาจไปลบไปตัดไปทอนพระอภิธรรมและพระธรรมวินัย นั่นละมันจะลงนรก”
(เทศนาโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
(เมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๓)
ศาสนาพุทธเรามีกฎมีระเบียบเรียบร้อย ไม่ว่าขั้นใดของประชาชนผู้เป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า ขั้นนี้ ๆ เป็นลำดับ ขั้นนี้เป็นแกงหม้อใหญ่ก็ควรให้เหมาะสมกับแกงหม้อใหญ่ อันนี้แกงหม้อเล็กก็เหมาะสมกับแกงหม้อเล็ก แกงหม้อจิ๋วก็เหมาะสมกับแกงหม้อจิ๋ว ธรรมพระพุทธเจ้าวางระเบียบเรียบไปหมดหาที่ต้องติไม่ได้
แต่ผู้ทำลายธรรมพระพุทธเจ้าก็คือพวกเราเสียเอง สำคัญตรงนี้นะ ท่านสอนให้ทำอย่างนั้นกลับทำอย่างนี้ ให้ทำอย่างนี้กลับไปทำอย่างนั้น มันเป็นข้าศึกของศาสนาก็คือพวกเรา และมิหนำซ้ำก็จะตัดทอนคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร ออกมาเป็นการประกาศไปก็ได้ มันเริ่ม ๆ มีแล้วเวลานี้ ที่จะทำลายศาสนาพระพุทธเจ้าด้วยวิธีการต่าง ๆ มีเยอะ เอ้า ภายในวัดก็ทำลายอีกแบบหนึ่ง ส่วนมากเป็นวัดเป็นผู้ที่จะชี้แจงแสดงอรรถธรรมออกสู่ประชาชน
ถ้าทางวัดทางพระศึกษามาด้วยดี ปฏิบัติมาโดยชอบธรรมแล้วออกมาไม่ค่อยผิดพลาด ถ้าไปศึกษาเฉย ๆ ไม่สนใจกระทั่งว่าศีลเป็นยังไง ศีลเป็นยังไงไม่สนใจ... -
นักปฏิบัติด้วยกัน จะทราบภูมิธรรมของกันและกัน
นักปฏิบัติด้วยกัน จะทราบภูมิธรรมของกันและกัน
“…ในวงพระปฏิบัติระหว่างเพื่อนนักปฏิบัติด้วยกัน และระหว่างลูกศิษย์กับอาจารย์ จะทราบภูมิของกันและกันได้ และทำให้เกิดความเคารพเลื่อมใสต่อกันมาก ย่อมทราบจากการสนทนาธรรมกันทางภาคปฏิบัติ เมื่อเล่าความจริงที่จิตประสบและผ่านไปสู่กันฟัง ย่อมทราบถึงภูมิจิตภูมิธรรมของผู้นั้นทันทีว่าอยู่ในภูมิใด
บรรดาศิษย์ที่ทราบภูมิของอาจารย์ได้ ย่อมทราบในขณะที่เล่าธรรมภายในจิตของตนถวายท่าน หรือเล่าตอนที่จิตติดขัดอยู่กับอารมณ์ที่ยังแยกจากกันไม่ออก ว่าจะควรปฏิบัติต่อกันอย่างไร ถ้าอาจารย์เป็นผู้รู้หรือผ่านไปแล้ว ท่านจะต้องอธิบายเพิ่มเติมต่อจากที่ตนเล่าถวายท่านแล้วนั้น หรือชี้แจงตอนที่ตนกำลังติดขัดอยู่ ให้ทะลุปรุโปร่งอย่างไม่มีที่ขัดข้องต้องติใด ๆ เลย
อีกประการหนึ่ง ลูกศิษย์เกิดความสำคัญตนผิด คิดว่าตนผ่านพ้นไปโดยสิ้นเชิงแล้ว แต่ท่านทราบว่าเป็นความเห็นที่ยังไม่ตรงตามความเป็นจริงที่ท่านผู้เห็นมาโดยถูกต้อง ท่านจำต้องอธิบายเหตุผลและชี้แจงให้ฟังตามจุดที่ผู้นั้นสำคัญผิด จนยอมรับเหตุผลอันถูกต้องจากท่านเป็นตอน ๆ ไป จนถึงที่ปลอดภัย
เมื่อต่างได้สนทนากันตามจุดต่าง ๆ แห่งธรรม...
Page 345 of 432