คลังเรื่องเด่น
-
เรื่องเล่าในพระธรรมบท ตอน นางกิสาโคตมีหาเมล็ดผักกาด
เรื่องเล่าในพระธรรมบท ตอน นางกิสาโคตมีหาเมล็ดผักกาด
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภนางกิสาโคตมี ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 114 นี้
นางกิสาโคตมี เป็นธิดาของตระกูลเก่าแก่แห่งกรุงสาวัตถี ที่นางได้ชื่อว่า “กิสาโคตมี” เพราะมีรูปร่างบอบบาง นางแต่งงานกับบุตรเศรษฐี และให้กำเนิดบุตร 1 คน ต่อมาบุตรนั้นได้เสียชีวิตในช่วงที่กำลังหัดเดิน นางมีความเศร้าโศกเสียใจมีความอาลัยในบุตรมาก นางได้อุ้มบุตรที่เสียชีวิตนั้น เที่ยวตระเวนไปถามผู้คนบ้านโน้นบ้านนี้ ว่าจะต้องใช้ยาชนิดใดถึงจะรักษาบุตรให้กลับมามีชีวิตดังเดิมได้ ผู้คนที่เห็นต่างเข้าใจว่านางวิกลจริต แต่ก็มีบุรุษเป็นบัณฑิตคนหนึ่ง เห็นนางแล้วคิดว่า “หญิงผู้นี้คงจะคลอดบุตรท้องแรก ไม่เคยเห็นคนตายมาก่อน ควรที่จะให้ความช่วยเหลือด้วยการแนะนำแนวทางที่ถูกที่ควรให้” เขาจึงได้กล่าวกับนางว่า “แม่หนู ฉันไม่รู้จักยาที่จะรักษาบุตรของนางหรอก แต่ฉันพอรู้จักคนผู้รู้จักยานั้น” “ผู้นั้นคือใครล่ะคะ” “พระศาสดานะสิ นางจงไปถามพระองค์เถิด” นางจึงเดินทางไปเฝ้าพระศาสดาและทูลถามถึงยาที่จะนำมาใช้รักษาบุตรของนางให้กลับฟื้นคนคืนชีพดังเดิม... -
ทรงซ้อมริ้วขบวน ‘พระเทพฯ-พระองค์หญิง’ทรงร่วมฝึกเสมือนจริง
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯ ทรงร่วมซ้อมย่อยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร “พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีฯ” ทรงม้านำซ้อมริ้วขบวนที่ 6 เชิญพระบรมราชสรีรางคาร “ปชช.” เนืองแน่นแห่ชม ทั่วประเทศจัดอุปสมบทหมู่ถวายเป็นพระราชกุศล
เมื่อวันที่ 15 ต.ค. เวลา 08.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงร่วมฝึกซ้อมย่อยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ซึ่งเป็นการฝึกซ้อมเสมือนจริงเป็นครั้งที่ 2 ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จัดขึ้นที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยทรงริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศริ้วขบวนที่ 1-3 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ
ทั้งนี้ การซ้อมริ้วขบวนครั้งนี้ เป็นการซ้อมริ้วขบวนที่ 1-3 และริ้วขบวนที่ 6 จากทั้งหมด 6 ริ้วขบวน โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ และกำลังพลจากกรมสรรพาวุธ และกองทัพภาคที่ 1 จำนวนกว่า 3,000 นาย และมีราชสกุล ข้าราชบริพาร รวมทั้งผู้ถวายงาน... -
ทรงสอนให้ปรับปรุงตัวตลอดเวลา ( พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช )
“ การดำรงชีวิตที่ดี...จะต้องปรับปรุงตัวตลอดเวลา
การปรับปรุงตัว จะต้องมีความเพียร
และความอดทนเป็นที่ตั้ง
ถ้าคนเราไม่หมั่นเพียร ...ไม่มีความอดทน
ก็อาจจะท้อใจไปโดยง่าย เมื่อท้อใจไปแล้ว
...ไม่มีทางที่จะมีชีวิตเจริญรุ่งเรืองแน่ๆ...”
พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พระราชทานแก่ครูและนักเรียน โรงเรียนจิตรลดา ๒๗ มีนาคม ๒๕๒๓
********************************************************************** -
สมาธิเล็กน้อย ก็ไปนิพพานได้..
สมาธิเล็กน้อย ก็ไปนิพพานได้..
จากหนังสือ. พระคุณพ่อ พระราชพรหมยาน ( ครบรอบ 100 ปีเกิด) -
ปฏิบัติง่ายๆ ไปง่ายๆ
ปฏิบัติง่ายๆ ไปง่ายๆ
จากหนังสือ พระคุณพ่อ พระราชพรหมยาน (ครบรอบ 100 ปีเกิด) -
ทำบาปมาก จะไปนิพพานอย่างไร..
ทำบาปมาก จะไปนิพพานอย่างไร..
จากหนังสือ พระคุณพ่อ พระราชพรหมยาย (ครบรอบ 100 ปีเกิด) -
วิธีนั่งสมาธิ โดยหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระปรมาจารย์ใหญ่สายกรรมฐาน องค์ท่านเมตตาสอนว่า “การบำรุงรักษาสิ่งใดๆ ในโลก การบำรุงรักษาตนคือใจเป็นเยี่ยม จุดที่เยี่ยมยอดของโลกคือใจ ควรบำรุงรักษาด้วยดี ได้ใจแล้วคือได้ธรรม เห็นใจตนแล้วคือเห็นธรรม รู้ใจแล้วคือรู้ธรรมทั้งมวล ถึงใจตนแล้วคือถึงพระนิพพาน ใจนี่แลคือสมบัติอันล้นค่า จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะมองข้ามไป คนพลาดใจ คือไม่สนใจปฏิบัติต่อใจดวงวิเศษในร่างนี้ แม้จะเกิดสักร้อยชาติพันชาติก็คือผู้เกิดผิดพลาดนั่นเอง”
การนั่งสมาธิภาวนา คือการทำจิตใจของตนให้ตั้งมั่น ชำระจิตใจของตนให้ผ่องใส ทำใจให้สงบสบาย หลวงปู่มั่น องค์ท่านกล่าวว่า “การภาวนา คือการอบรมใจให้ฉลาดเที่ยงตรงต่อเหตุผล อรรถธรรม รู้จักวิธีปฏิบัติต่อตัวเองและสิ่งทั้งหลาย ไม่ให้จิตผาดโผนโลดเต้นแบบไม่มีฝั่งมีฝา ยึดการภาวนาเป็นรั้วกั้นความคิดฟุ้งของใจให้อยู่ในเหตุผล อันจะเป็นทางแห่งความสงบสุขใจ ที่ยังมิได้รับการอบรมจากการภาวนา”
ก่อนอื่นที่เราจะนั่งสมาธิภาวนา ให้หาสถานที่อันเป็นมุมสงบ นั่งเข้าที่เอาขาขวาทับขาซ้าย เอามือขวาทับมือซ้าย ตั้งกายให้ตรงดำรงสติให้มั่น ไม่เอียงซ้ายนัก ไม่เอียงขวานัก ไม่ก้มนัก ไม่เงยนัก... -
มรรค 8 ทางดำเนินชีวิตอันประเสริฐ
มรรค = อริยมรรค = มัชฌิมาปฏิปทา = มรรคแปด = ทางดำเนินชีวิตอันประเสริฐ = ทางสายกลาง
แนวทางดำเนินอันประเสริฐของชีวิต หรือ กาย วาจา ใจ เพื่อความหลุดพ้นจากทุกข์ เรียกว่า อริยมรรค แปลว่าทางอันประเสริฐ เป็นข้อปฏิบัติที่มีหลักไม่อ่อนแอจนถึงกับตกอยู่ใต้อำนาจความอยากแห่งใจ แต่ก็ไม่แข็งตึงจนถึงกับเป็นการทรมานกายให้เหือดแห้งจากความสุขทางกาย เพราะฉะนั้นจึงได้เรียกว่ามัชฌิมาปฏิปทา คือทางดำเนินสายกลาง ไม่หย่อนไม่ตึง แต่พอเหมาะเช่นสายดนตรีที่เทียบเสียงได้ที่แล้ว
คำว่า มรรค แปลว่า ทาง ในที่นี้หมายถึงทางเดินของใจ เป็นการเดินจากความทุกข์ไปสู่ความเป็นอิสระ หลุดพ้นจากทุกข์ซึ่งมนุษย์หลงยึดถือและประกอบขึ้นใส่ตนด้วยอำนาจของอวิชชา มรรคมีองค์แปด คือต้องพร้อมเป็นอันเดียวกันทั้งแปดอย่างดุจเชือกฟั่นแปดเกลียว
มรรคมีองค์แปด คือ :-
1. สัมมาทิฏฐิ คือ ความเข้าใจถูกต้อง
2. สัมมาสังกัปปะ คือ ความใฝ่ใจถูกต้อง
3. สัมมาวาจา คือ การพูดจาถูกต้อง
4. สัมมากัมมันตะ คือ การกระทำถูกต้อง
5. สัมมาอาชีวะ คือ การดำรงชีพถูกต้อง
6. สัมมาวายามะ คือ ความพากเพียรถูกต้อง
7. สัมมาสติ คือ... -
" หลวงพ่อคง วัดเขาสมโภชน์ " แม้จะละสังขารไปนาน แต่ร่างก็ไม่เน่าเปื่อย
หลวงพ่อคง จตฺตมโล พระอรหันต์ร่างทอง สังขาร ไม่เน่าไม่เปื่อย
ชาติกำเนิด ท่านมีนามเดิมว่า คง นามสกุล บุญเอก ถือกำเนิดเมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๖ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ปีฉลู ณ หมู่บ้านโนนพุดซา ตำบลกระชอน อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา โยมบิดา มีนามว่า ดี โยมมารดา มีนามว่า แจ้งอาชีพกสิกรรมทำนาทำไร่ เป็นบุตรคนที่ ๒ ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด ๙ คน
การศึกษา
ในปฐมวัยหลวงพ่อเคยเป็นเด็กวัด หัดเรียนเขียนอ่าน อักษรขอมอักษรไทย และต้องคอยรับภาระช่วยบิดามารดา ในการประกอบอาชีพกสิกรรมทำไร่ไถนา เมื่ออายุ ครบกำหนด ๒๐ ปี ได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ได้ศึกษาเล่าเรียน พระปริยัติธรรมอยู่เป็นเวลา ๓ พรรษา จึงได้ขออนุญาต โยมบิดามารดา เพื่อเดินทางมาศึกษาต่อที่พระนคร แต่ท่านก็ไม่ได้รับอนุญาต
ในปี พ.ศ. ๒๕๐๔
ได้มีพระคุณเจ้า หลวงพ่อพระมหาธนิต ปญฺญาปสุโต ปธ. ๙ นักวิปัสสนาจารย์ชื่อดังได้เดินธุดงค์มาได้เข้าจำพรรษา สอนวิปัสสนากรรมฐาน แก่อุบาสกอุบาสิกาที่อยู่วัดบัวใหญ่ ท่านเป็นคนหนึ่งที่ได้น้อมกายใจ เข้ารับการปฏิบัติธรรม เจริญวิปัสสนากรรมฐาน กับหลวงพ่อพระมหาธนิต... -
"หัวใจของคนไทยทั้งชาติ" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
"หัวใจของคนไทยทั้งชาติ"
" .. "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือหัวใจของชาติไทยเรา" ให้พากันจำเอาไว้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี "นี้คือหัวใจของชาติไทยเรา" ให้พากันเทิดทูน
อย่าพากันดูถูกเหยียดหยามทำลาย เช่นอย่างจะทำลายจะไม่ให้มีพระเจ้าอยู่หัว คนเกิดมาแล้วพ่อแม่ตายหมด มีแต่ลูกกำพร้าหยิมแหยม ๆ มันใช้ไม่ได้นะ สกุลใดที่มีคนคับแคบอยู่ในบ้านนั้นเมืองนั้นแล้วสกุลนั้นไม่เจริญ สกุลใดที่มีความกว้างขวาง มีจิตใจอันกว้างขวาง พิจารณารอบคอบเพื่อทำประโยชน์แก่ส่วนรวมผู้นั้นเป็นผู้ดี
นี่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของพวกเรา "คือหัวใจของคนไทยทั้งชาติ" ให้พากันทะนุถนอม อย่าพากันไปทำลาย มีแต่ลูกหยอมแหยม ๆ พ่อแม่ผู้ให้ความร่มเย็นไม่มีมันไม่เกิดประโยชน์ อย่างไรต้องรักษาส่วนใหญ่เอาไว้
ในประเทศไทยเราก็คือ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี นี่คือหัวใจของชาติให้พากันเคารพเทิดทูน" อะไรที่เป็นหลักใหญ่ของชาติของส่วนรวมให้พากันรักษา พากันเทิดทูน อย่าพากันทำลายโดยอวดดี .. "
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน... -
จมกว่าครึ่งคัน! น้ำท่วมลานจอดรถคอนโดหรู – หมอชิต มีน้ำขัง
14 ตุลาคม 2560
ฝนถล่มหนักกลางดึก น้ำท่วมลานจอดรถคอนโดหรู ย่านอารีย์ จมกว่าครึ่งคัน – ถนนหลายสายในพื้นที่กทม. ยังมีน้ำท่วมขัง
ผู้ใช้เฟซบุ๊คของ JS100 Radio โพสต์ภาพน้ำท่วมคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านอารีย์ #น้ำท่วม โดยเป็นภาพความเสียหายจากเหตุการณ์ฝนตกหนักตลอดทั้งคืนในพื้นที่กทม. จนทำให้น้ำไหลทะลักท่วมรถยนต์ที่จอดอยู่สูงกว่าครึ่งคัน
@chalida044 : 08:12 น้ำท่วมถนนวิภาวดี ถ่ายบนโทวเวย์รังสิต
@bee_charu : อโศกมนตรี ณ เวลานี้ 08:20 น.
@SANOOKBOY : 08:19 ทางเข้าสยามจากฝั่งหน้า MBK น้ำท่วมและมีการปิดไม่ให้รถเข้าด้วยนะครับ
@netpnetp : สถานีขนส่งหมอชิต 08.15 น.
ขอบคุณที่มา
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/776985 -
น้ำท่วมหนักดินแดง รถหนีน้ำจอดเต็มสะพานข้ามแยก
จากกรณีที่ฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้มีน้ำท่วมขังบนถนนและซอยหลายสาย อาทิ ดินแดง, วิภาวดีรังสิต, ลาดพร้าว, จตุจักร, สุขุมวิท, เพชรเกษม, เอกมัย, พระราม 4, นราธิวาสราชนครินทร์, พระราม 9, รัชดา, สีลม, พญาไท, พระราม 1
โดยเฉพาะถนนวิภาวดีรังสิต ตั้งแต่ช่วงโรงพยาบาลวิภาวดีจนถึงดินแดง มีน้ำท่วมขังสูงกว่า 60 เซนติเมตร ทั้งขาเข้าและขาออก ทำให้รถเล็กไม่สามารถใช้งานได้ มีรถจอดติดจำนวนมากอีกทั้งมีรถยนต์ส่วนบุคคลจอดเสียเป็นระยะๆ โดยเฉพาะช่วง 5 แยกลาดพร้าว ซึ่งมีการก่อสร้างตลอดเส้นทาง
ล่าสุดเพจ JS100 Radio รายงานว่า 08:50 สภาพน้ำท่วมบริเวณโบสถ์แม่พระ ดินแดง ภาพจาก : Chatter Visaratanunta
ขอบคุณที่มา
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_569230 -
พระธรรมคำสอน สมเด็จองค์ปฐม เรื่ิอง กฎของกรรม
พระธรรมคำสอน "สมเด็จองค์ปฐม"
ขึ้นชื่อว่ากฎของกรรม ไม่มีการให้ผลนั้นไม่มี
ถ้าตราบใดผู้ก่อกรรมนั้นๆ ยังมีการจุติอยู่
และไม่มีการเข้าถึงพระโสดาบันเพียงใด
อบายภูมิ ๔ ยังเปิดรับอยู่เสมอ
แม้บรรลุพระโสดาบันแล้ว ตราบใด
ที่ยังมีร่างกายอยู่ ยังมีการจุติอยู่
กฎของกรรมทั้งความดีและความชั่ว
ก็ยังให้ผลอยู่ เพียงแต่ปลอดจากการ
ไปสู่อบายภูมิ ๔ เท่านั้น
จนกว่าจิตดวงนั้นจักมีบารมี ๑๐ เต็ม
เป็น ๓๐ ทัศ และมีพรหมวิหาร ๔ เต็ม
เป็นอัปปมัญญา ตัดสังโยชน์ ๑๐
ขาดสะบั้นแล้ว ทิ้งอัตภาพของขันธ์ ๕
หรือกาย พรหมและเทวดา อันเป็น
ภพชาติสุดท้ายแล้ว
จิตเคลื่อนสู่พระนิพพาน ดินแดน
เอกันตบรมสุขเท่านั้น จึงจักได้ชื่อว่า
พ้นจากกฎของกรรมทั้งปวง
สัพเพ ธัมมา อนัตาติ
จากหนังสือ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น
พล.ต.ท.สมศักดิ์ สืบสงวน รวบรวม
**************************************************************** -
"ทรงห่วงใยประเทศชาติ ประชาชน"
"ทรงห่วงใยประเทศชาติ ประชาชน"
" .. เมื่อปี ๒๕๑๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(ร.๙) สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถและทูลกระหม่อมสมเด็จเจ้าฟ้าหญิงทั้งสองพระองค์ ได้เสด็จพระราชดำเนิน ไปกราบนมัสการ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ถึงวัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ในคราวพระราชทานผ้าพระกฐินส่วนพระองค์ครั้งแรก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(ร.๙) ทรงนมัสการถามหลวงปู่ฝั้น มีข้อความสำคัญตอนหนึ่งว่า ..
พระราชปุจฉา: "ทำอย่างไรประเทศชาติ ประชาชนจะอยู่ดีกินดี มีความสามัคคีปรองดองกัน"
หลวงปู่ฝั้น: "ให้เข้าหาพระศาสนา เพราะศาสนาสอนให้ละชั่ว กระทำความดี ทำใจให้ผ่องใส"
พระราชปุจฉา: "คนส่วนมากทำดี คนส่วนน้อยทำชั่ว จะทำให้คนส่วนมากเดือดร้อนไหม ทำอย่างไรจึงจะแก้ไขได้"
หลวงปู่ฝั้น: ขอถวายพระพร "ทุกวันนี้คนไม่รู้ศาสนา จึงเบียดเบียนกัน" ถ้าคนเรานึกถึงคนแล้วก็ไม่เบียดเบียนกัน เพราะต้องการความสุขความเจริญ คนอื่นก็เช่นกัน คนทุกวันนี้เข้าใจว่า "ศาสนาอยู่กับวัด อยู่ในตู้ ในหีบ ในใบลาน อยู่กับพระพุทธเจ้าประเทศอินเดียโน่น" จึงไม่สนใจ
บ้านเมืองจึงเดือดร้อนวุ่นวาย มองหน้ากันไม่ได้ "ถ้าคนเราถือกันเป็นบิดามารดา... -
เมื่อ ดร.สุเมธ เป็นผู้แทนพระองค์ ในหลวง ร.๙ ขอจดมูลนิธิฯ กลับโดน จนท.ซัก "ทำไมประธานไม่มาเอง"
ตกใจแทบตกเก้าอี้!! เมื่อ ดร.สุเมธ เป็นผู้แทนพระองค์ ในหลวง ร.๙ ขอจดมูลนิธิฯ กลับโดน จนท.ซัก "ทำไมประธานไม่มาเอง" เกือบจดทะเบียนไม่ได้ซะแล้ว!
ความจริงแล้ว ‘โง’ คือคำที่ในหลวง ร.๙ ทรงเรียกกลุ่ม NGOs หรือองค์กรพัฒนาที่ไม่ได้สังกัดภาครัฐนั่นเอง คราวที่พระองค์ตรัสเรื่องนี้ คือเมื่อต้นปี ๒๕๓๑ ทรงเกิดความคิดว่าระบบการทำงานของราชการนั้นช่างล่าช้า เบิกอะไรก็ใช้เวลานาน จนทำให้แก้ไขปัญหาประชาชนได้ไม่ทันท่วงที พระองค์จึงมีรับสั่งกับ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการ กปร.ในสมัยนั้นว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำงานแบบ ‘โง’ ซะที
ในหลวงจึงมีรับสั่งให้ ดร.สุเมธ รีบไปดำเนินการตั้งมูลนิธิเพื่อความคล่องตัวในการดำเนินงาน โดยพระองค์ทรงออกแบบและตั้งชื่อไว้เรียบร้อย และจะทรงรับตำแหน่งนายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิด้วยพระองค์เอง
แต่พอถึงอำเภอ ดร.สุเมธกลับไม่กล้าบอกว่ามูลนิธิที่จะมาจดทะเบียนเป็นของในหลวงเพราะกลัวคนจะเข้าใจว่าไปอวดอ้างแสดงอำนาจ พอถึงคิวก็ยื่นเอกสารแบบปกติธรรมดา เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องอ่านแล้วถามว่า มูลนิธิของคุณเหรอ เมื่อ ดร.สุเมธตอบปฏิเสธ ก็โดนซักต่อว่าทำไมประธานหรือนายกมูลนิธิไม่เดินทางมาจดทะเบียนเอง... -
การวิสัชนาที่หลวงพ่อเกษมถวายแก่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ เรื่อง “การใช้จังหวะเวลาในการปฏิบัติธรรม”
การวิสัชนาครั้งสำคัญที่หลวงพ่อเกษมถวายแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เรื่อง “การใช้จังหวะเวลาในการปฏิบัติธรรม”
หลวงพ่อเกษม เขมโกณ วัดคะตึกเชียงมั่น อำเภอเมือง จังหวัดลำปางได้รับเสด็จและวิสัชนาข้อธรรมกับพระบาทฯดังนี้
พระราชปุจฉา : หลวงพ่อประจำอยู่ที่วัดนี้หรือ
หลวงพ่อเกษม : ขอถวายพระพร อาตมาประจำอยู่ที่สุสานไตรลักษณ์
พระราชปุจฉา : อยากไปหาหลวงพ่อเหมือน กัน แต่หาเวลาไม่ค่อยได้ ได้ทราบว่าเข้าพบหลวงพ่อยาก
หลวงพ่อเกษม : พระราชาเสด็จไปป่าช้าเป็น การไม่สะดวก เพราะสถานที่ไม่เรียบร้อย อาตมาภาพจึงมารอเสด็จที่นี่ ขอถวายพระพร มหาบพิตรสบายดีหรือ
พระราชปุจฉา : สบายดี
หลวงพ่อเกษม : ขอถวายพระพรมหาบพิตรพระชนมายุเท่าไร
พระราชปุจฉา : ได้ ๕๐ ปี
หลวงพ่อเกษม : อาตมาภาพได้ ๖๗ ปี
พระราชปุจฉา : หลวงพ่ออยู่ตามป่ามีความสงบ ย่อมจะมีโอกาสปฏิบัติธรรม ได้มากกว่าพระที่วัดในเมือง ซึ่งมีภารกิจเกี่ยวกับการปกครองและงานอื่นๆ จะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า
หลวงพ่อเกษม : ขอถวายพระพร อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ เพราะอยู่ป่าไม่มีภารกิจอย่างอื่น แต่ก็ขึ้นอยู่กับศีลบริสุทธิ์ด้วย... -
ดารานักแสดง ร่วมงาน “ใต้แสงแห่งพระบารมี” ยืนสงบนิ่ง 89 วินาทีน้อมสำนึกและแสดงความอาลัย
เมื่อเวลา 15.52 น. วันที่ 13 ต.ค. ที่ลานพาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน ได้จัดงาน “ใต้แสงแห่งพระบารมี” ให้ประชาชนร่วมยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 89 วินาที เพื่อแสดงความอาลัยและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีเหล่าศิลปินดารามาร่วมงานด้วย อาทิ ตุ๊กกี้-สุดารัตน์, แพนเค้ก-เขมนิจ, จิ๊บ-วสุ, จ๊ะจ๋า-พริมรตา, น้ำฝน-นลินทิพย์, นนท์-ธนนท์, เบสท์ เดอะ วอยซ์, ท๊อฟฟี่ และ บ๊อบบี้ วงสามบาทห้าสิบ
จากนั้นตลกสาว ตุ๊กกี้ เผยถึงความรู้สึกว่า “ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านที่ไม่มีพระองค์ท่าน รู้สึกว่าเวลาผ่านไปรวดเร็วมากตั้งแต่พระองค์ท่านเสด็จสวรรคต สิ่งที่ตุ๊กกี้ทำได้คือเจริญรอยตามพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยเฉพาะเรื่องของความพอเพียง ทุกวันนี้เศรษฐกิจของไทยไม่ว่าจะบวกหรือลบ สิ่งที่ทำให้คนไทยอยู่ได้คือความพอเพียงเรายึดพระองค์ท่านเป็นพี่พึ่งเหมือนเป็นเทพทางใจรวมถึงหลักคำสอนที่ทำให้ใช้ชีวิตอย่างสงบ ตุ๊กกี้เคยพูดกับใครหลายคนว่าไม่มีบุญได้เห็นพระองค์ท่านกับตาตัวเอง พอมีโอกาสได้เข้ามาอยู่กรุงเทพฯ พระองค์ท่านก็เริ่มประชวรแล้ว หลังจากที่พระองค์ท่านสวรรคต... -
สมเด็จพระวันรัต แปลพระคาถาถวายพระราชกุศลในหลวง ร.9 ฉบับ “ภาษาไทย-อังกฤษ”
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางวัดบวรนิเวศวิหาร ได้เผยแพร่คาถาถวายพระราชกุศล “ปรมินทมหาภูมิพละอตุลยะเตชะมหาราชัสสะ ปัตติทานคาถา” ซึ่งแต่ง และแปลเป็นภาษาไทย และภาษาอังกฤษ โดยสมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งคาถาดังกล่าวได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม หน้า 9 เล่ม 134 ตอนที่ 49 ข มีคำแปลดังนี้
คำแปลภาษาไทย
“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ผู้ทรง เป็นพระเจ้าแผ่นดิน มีพระวิริยอุตสาหะ มีพระวิสัยทัศน์ยาวไกล มีปัญญาฉลาดหลักแหลมในการปกครองประเทศ ทรงเป็นพระมหาราชผู้ยิ่งใหญ่กว่าพระมหาราชใดๆ ในโลก ทรงได้รับการสรรเสริญ สักการะ นับถือ บูชา ยกย่องว่าเป็นเทวดาที่ยังมีชีวิตอยู่ของปวงพสกนิกรชาวไทย ทรงครองสิริราชสมบัติเพื่อประโยชน์สุข แห่งมหาชนชาวสยามสิ้นกาลเวลา 70 ปี แม้ฉันใด แต่ความชรา และความตายย่อมพรากองค์พระภูมินทร์ ฉันนั้น ความตายหาได้ละเว้นใครๆ ไม่ ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นกษัตริย์ พราหมณ์ แพทย์ ศูทร คนจัณฑาล ความตายย่อมทําลายทุกสิ่งถ้วนทั่ว
เพราะฉะนั้นแล... -
การปฏิบัติธรรมของในหลวง รัชกาลที่ ๙
“ต่อไปนี้พ่อจะขอปรารภเรื่องของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงเป็นบุคคลตัวอย่างที่มีความสามารถทั้งในด้านการปฏิบัติในเรื่องส่วนพระองค์ และในด้านปฏิบัติกับปวงชนชาวไทยทั้งหมดรวมทั้งปฏิบัติกับชาวต่างประเทศด้วย แม้แต่กระทั่งกับศัตรูพระองค์ก็ทรงเห็นว่าเป็นมิตร ไม่เคยคิดที่จะเป็นศัตรูกับใคร สิ่งที่มีความสำคัญที่สุดนั่นก็คือพระองค์ทรงช่วยประชาชนทรงช่วยชาวโลกด้วยและก็ทรงช่วยพระองค์เองได้ดีที่สุด
ในด้านของธรรมะสำหรับวันนี้พ่อจะขอนำพระราชจริยาวัตรของ พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวที่ทรงประพฤติปฏิบัติให้ลูกรักทั้งหลายจะพึงรับทราบ รับทราบแล้วก็จงปฏิบัติตามด้วยเพราะว่าจะช่วยให้พวกเราดี ก่อนที่จะพูดถึงธรรมะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติได้ ก็จะขอย้อนไปถึงจริยาวัตรของพระองค์ พระราชจริยาวัตรของพระองค์นี่เราจะรู้ไม่ได้เลยว่า ทรงทำอะไรบ้าง วันทั้งวัน พระองค์ไม่มีเวลาว่าง บางวันมีพระราชภารกิจตั้งแต่เช้าจรดเย็น เวลาเย็นก็ต้องมานั่งปฏิบัติงาน รับแขกกลางคืนอีก กว่าจะทรงเซ็นหนังสือได้ก็ต้องใช้เวลา ๒๔ นาฬิกาผ่านไป
เมื่อทรงเซ็นหนังสือแล้ว หลังจากนั้นพระองค์ก็ทรงเจริญพระกรรมฐาน... -
ย้อนชมคลิปหาดูยาก ในหลวง ร.9 พระราชทานสัมภาษณ์ถึงหลักธรรมปฎิบัติเพื่อพ้นทุกข์
ถือเป็นบทสัมภาษณ์ที่ทำให้ประชาชนไทยได้เข้าใจและระลึกถึงคำสอนของสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิต ในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยสมาชิกยูทูป Arada Kantahong ได้แปลและทำคำบรรยาย จาก สารคดีภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับประเทศไทย จากมุมมองของชาวต่างชาติ (Soul of a Nation – BBC) เมื่อกล่าวถึงพุทธศาสนาและพุทธธรรมแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเชื่อมั่นใน ‘ความบริสุทธิ์กำเนิด’ ของมนุษย์เรา สิ่งนั้นคืออะไร? สถาบันศาสนาและสถาบันกษัตริย์ มีความสำคัญต่อการธำรงรักษาบ้านเมืองไว้อย่างไร?
ตอนที่ 16: ชมการพระราชทานสัมภาษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับการใช้ศาสนาพุทธในการปกครองประเทศ โดยเฉพาะในภาวะสงครามที่ระบอบคอมมิวนิสต์กำลังคุกคามประเทศไทย
ที่มา จัดทำ: BBC แปลและเรียบเรียงภาษาไทย: A. KANTAHONG TRANSLATIONS (อารดา กันทะหงษ์)
ขอขอบคุณที่มา
https://www.khaosod.co.th/the-royal-cremetion/news_567398 -
เพื่อความไพบูลย์ .. ยั่งยืนของพุทธศาสนา!!
โดย.. พระ องอารยวังโส
เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา.. ปวารณาออกพรรษากันมาหลายวันแล้ว คณะนักแสวงบุญเดินหน้าถวายผ้ากฐินพร้อมปัจจัยไทยทานตามกำลังทรัพย์-กำลังศรัทธา เป็นหนึ่งเดือนแห่ง เขตกาลบุญกุศล ที่จำเพาะเจาะจงว่า สามารถถวายผ้ากฐินได้จนกว่าจะสิ้น เขตกาลกฐิน…
ช่วงนี้ ปัจจัยเงินทองจึงสะพัดไปทั่ว ด้วยความมีจิตศรัทธาของญาติโยม จนบางครั้งเลยเถิดไปจนกลายเป็นเขตกาลแสวงหาเงินทองปัจจัยไทยทานเข้าวัด โดยอาศัยการถวายผ้ากฐินนำหน้า แต่ไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับอานิสงส์ของการถวายผ้ากฐิน
คงเป็นธรรมดาของยุคสมัยวัตถุนิยม .. ที่สัตว์โลกย่อมติดอยู่ในข่าย กามคุณารมณ์ จึงให้ความสำคัญกับ โลกธรรม จนปิดบัง สัจธรรม ของโลก.. จึงเกิดการลดระดับคุณค่าของพระพุทธศาสนาดังที่เห็น ด้วยการชักนำของ จิตลามกและจิตฝ่ายต่ำ ที่สมยอมกัน จึงมุ่งสู่การค้าขายบุญกุศล.. มุ่งซื้อหาบุญกุศลเป็นเงินเป็นทอง.. การค้าพาณิชย์จึงแพร่ระบาดจนกลายเป็น พุทธพาณิชย์ ที่ให้ความสำคัญเชิงวัตถุศาสน์มากกว่า สัตถุศาสน์
การแสดงธรรมโฆษณาชวนเชื่อ ค้าสวรรค์ ขายบุญ ไปนิพพานแบบกดปุ่ม จึงแพร่ระบาด..... -
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เล่าเรื่องเปรตกึ่งเทวดา "เวมานิกเปรต"
เปรต
คำว่า เปรต แปลว่า ผู้ล่วงลับ ในทางศาสนาพุทธหมายถึง อมนุษย์พวกหนึ่งที่เกิดในเปตวิสัยซึ่งเป็น ๑ ใน ๔ อบายภูมิ เปรตมีหลายประเภท เช่นประเภทหนึ่งเรียกว่า ปรทัตตูปชีวิเปรต คือเปรตที่ดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยส่วนบุญที่มีผู้ทำอุทิศให้ หากไม่มีส่วนบุญที่มีผู้อุทิศให้ก็มักจะกินเลือดและหนองของตัวเองเป็นอาหาร โบราณมีความเชื่อที่ว่า ถ้าใครทำร้ายพ่อแม่ ชาติหน้าจะไปเกิดเป็นผีเปรต[1]
การทำพลีกรรมแก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว หรือการทำบุญอุทิศไปให้ผู้ตายว่า เปตพลี หรือ บุพเปตพลี
แบ่งตาม เปตวัตถุอรรถกถา
แบ่งได้ 4 ประเภท
ปรทัตตุปชีวิกเปรต คือ เปรตที่มีชีวิตอยู่ได้ จากอาหารที่มีมนุษย์ให้ เช่น การเซ่นไหว้ เป็นต้น
ขุปปีปาสิกเปรต คือ เปรตที่อดอยาก ทุกข์จากความหิวโหยอยู่เป็นนิจ
นิชฌามตัณหิกเปรต คือ เปรตที่ถูกไฟเผาให้เร่าร้อนอยู่เสมอ
กาลกัญจิกเปรต คือ เปรตในจำพวกอสุรกาย
แบ่งตาม คัมภีร์โลกบัญญัตติปกรณ์ และ ฉคติทีปนีปกรณ์
แบ่งได้ 12 ประเภท
วันตาสเปรต คือ เปรตที่มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินน้ำลาย เสมหะ อาเจียน เป็นอาหาร
กุณปาสเปรต คือ เปรตที่มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินซากศพคนหรือสัตว์ เป็นอาหาร
คูถขาทกเปรต คือ... -
"มงคลชีวิต ที่พระราชทานให้กับปวงชนชาวไทย"
"มงคลชีวิต ที่พระราชทานให้กับปวงชนชาวไทย"
" .. นับตั้งแต่วันแรกที่ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ในปีพุทธศักราช ๒๔๘๙"
พระองค์ "ทรงมีพระราโชบายที่เด่นชัด มั่นคง" ในการปกครองชาวสยามทุกผู้ทุกนาม ทุกหนทุกแห่ง ให้เกิดความร่มเย็นผาสุกเสมอภาค ดังพระราชดำรัสที่ว่า "เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม"
ธรรมของพระเจ้าอยู่หัว "คืออานุภาพแห่งความรักและความหวังดีอย่างแท้จริง สถิตอย่างถาวร มั่นคง ไม่สั่นคลอน" .. "
"ธรรมของพระเจ้าอยู่หัว"
ข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม
รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ -
รู้ความจริง ทิ้งตัวตน พ้นบ่วงมาร
โดย สมาน สุดโต และ กนกรัตน์ ศศิโรจน์
อะไรเป็นบ่วงของมาร? ชีวิตของคนเรามักไขว่คว้าหาสิ่งที่จิตปรุงแต่งขึ้นมา สิ่งที่ล้วนทำให้เราเกิดทุกข์ เกิดความเศร้าโศกเสียใจ มีความยึดมั่นถือมั่น สิ่งนั้นเป็นของเรา สิ่งนี้เป็นของเรา พระพุทธเจ้าเคยสอนพระภิกษุไว้ว่า "สังขารที่เที่ยงแท้แม้เล็กน้อยเพียงทรายที่อยู่ในเล็บ ก็ไม่มีเลย สิ่งที่ถูกปรุงแต่ง มักเปลี่ยนแปลงเสมอ" หากเรารู้เหตุที่ทำให้เกิดบ่วงมารและหาหนทางไปสู่การหลุดพ้น ทิ้งสิ่งที่คิดว่าจริง เราก็จะพ้นบ่วงมาร ธรรมบรรยาย หัวข้อ "รู้ความจริง ทิ้งตัวตน พ้นบ่วงมาร" โดย พระภาวนาเขมคุณ วิ. เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา ผ่านเวทีเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ ณ อาคารซีพี ทาวเวอร์ เมื่อเร็วๆ นี้
พระภาวนาเขมคุณ วิ. ได้ให้ความรู้ของเหตุที่ทำให้เกิด "บ่วงมาร" สิ่งนั้นก็คือการเวียนว่ายตายเกิด การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ถือว่าเป็นทุกข์ เป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องเจอ หรือแม้แต่การจากลา การประสบกับสิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจ ความเศร้า ความขมขื่น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเริ่มต้นจากการเกิด ในทางพระพุทธศาสนาการแก้ไขการเกิดได้นั้นจะต้องย้อนกลับไปดูที่เหตุว่า สิ่งใดเป็นเหตุ... -
วัดพระพิเรนทร์ วัดเล็กๆ แต่ผลิตบัณฑิตมาก
วัดพระพิเรนทร์ วรจักร แม้จะเป็นวัดราษฎร์ วัดเล็กๆ แต่เป็นวัดที่ผลิตนักปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาไว้มาก เช่น สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต) เป็นต้น ถ้อยคำดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของพระธรรมเทศนาที่พระธรรมรัตนดิลก (เชิด พฺรหฺมคุตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม พระอารามหลวง อธิบายและกล่าวถึงในพระธรรมเทศนา เรื่อง โสภณสังฆกถา ในงานบุรพาจารย์ของวัดพระพิเรนทร์ วันที่ 7 ต.ค. 2560 ซึ่งท่านเน้นว่าอดีตเจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์ เป็นพระเถระผู้นำ ประกอบด้วยเวสารัชชกรณธรรม หมายถึง ธรรมที่ทำความกล้าหาญ ธรรมเป็นเหตุให้เกิดความแกล้วกล้า บุคคลผู้ประกอบด้วยคุณธรรม 5 ประการนี้ ย่อมเป็นผู้องอาจ แกล้วกล้า ไม่หวั่นไหวในการเข้าสู่สมาคมต่างๆ 1.สัทธา หมายถึง เชื่อสิ่งที่ควรเชื่อ เป็นความเชื่อที่ประกอบด้วยปัญญาและเหตุผล 2.สีล หมายถึง ความเป็นปกติ ความสงบเย็น รักษากายวาจาให้เรียบร้อย 3.พาหุสัจจะ หมายถึง ความเป็นผู้ศึกษามาก มีความรู้มีประสบการณ์มาก 4.วิริยารัมภะ หมายถึง การปรารภความเพียร ลงมือทำกิจด้วยความเข้มแข็ง ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่เกิดขึ้น 5.ปัญญา หมายถึง รอบรู้สิ่งที่ควรรู้ รู้ทั่วถึงเหตุและผล... -
น้ำท่วมก็ไม่อาจกั้นกระแสบุญ! สุดทุลักทุเล ชาวบ้านลุยน้ำเกือบมิดหัว แห่กฐินเข้าวัด
วันที่ 12 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ได้ขยายวงกว้าง ส่งผลกระทบกับชาวบ้านในหลายพื้นที่ หลายอำเภอที่ตั้งอยู่ใกล้ริมน้ำชีจนเอ่อล้นตลิ่ง ขณะที่ ต.ละหาน อ.จัตุรัส ผนังกั้นรอบบึงละหานแตกกว้าง 200-300 เมตร ใน 2จุด บริเวณหมู่บ้านดอนละนาม หมู่ 11 ต.ละหาน อ.จัตุรัส มาตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำหลากเข้าหนุนในลำน้ำชีล้นตลิ่งหลากท่วมบ้านเรือนประชาชนใกล้เคียงในรอยต่อ 3 อำเภอ ของอ.จัตุรัส, อ.บ้านเขว้า บางส่วน และในเขต อ.เมืองชัยภูมิ ที่ ต.บ้านค่าย มีระดับน้ำท่วมสูงเพิ่มขึ้นได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง ชาวบ้านบางส่วนต้องพากันอพยพสัตว์เลี้ยง โค กระบือ หนีน้ำท่วมขึ้นไปอยู่ในที่สูงต่อเนื่อง
ล่าสุดที่วัดบ้านเสี้ยวน้อย ต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ นายจอมศรี งอกศิลป์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านเสี้ยวน้อยหมู่ 8 ต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ได้นำลูกบ้านเตรียมการจัดประเพณีแห่ทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2560 โดยวันนี้ได้มีชาวบ้านร่วมเป็นเจ้าภาพกองกฐินสามัคคีให้กับวัดดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านก็ตัดสินใจสู้กับน้ำที่ท่วมหนักนำเรือที่ อบต.และเทศบาลบ้านค่ายนำมาไว้ใช้เข้าออกวัด... -
เบื้องล่างแผ่นดินของจังหวัดหนองคายเป็นเมืองบาดาล : หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
เบื้องล่างแผ่นดินของจังหวัดหนองคายเป็นเมืองบาดาล ใต้หินหมากเป้ง ลึกลงไปจะเป็นถ้ำที่พักของเหล่าพญานาคซึ่งเป็นโพลงถ้ำขนาดใหญ่โตมหึมา
วัดหินหมากเป้งเป็นสถานปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐาน ของพระอริยะแห่งลุ่มน้ำโขงผู้เปี่ยมด้วยญาณตบะอันแก่กล้าและมหาบารมีแห่งธรรมะ เป็นที่เคารพสักการะแก่พุทธศาสนิกชนของไทยลาว วัดหินหมากเป้งอนุสรณ์สถานวิปัสสนากรรมฐานของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ตั้งอยู่ตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เป็นศิษย์สายวิปัสสนากรรมฐานของพระอาจารย์เสาร์ กันตะสีโร และพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งท่านทั้งสองเป็นพระอาจารย์ใหญ่แห่งพระธุดงค์กรรมฐาน
หินหมากเป้งเป็นหินศักดิ์สิทธิ์สามก้อนอันเป็นที่มาและความหมายของวัดแห่งนี้ หลวงปู่เทศก์ได้กล่าวถึงหินหมากเป้งเอาไว้ว่า หินหมากเป้งเป็นชื่อหินสามก้อนซึ่งตั้งเรียงรายกันอยู่ท่าน้ำริมฝั่งโขง ภายในบริเวณวัดมีรูปลักษณะคล้ายลูกตุ้มชั่งทองคำสมัยเก่า คำว่าลูกตุ้มชั่งชาวบ้านแถบนี้เรียกว่าเต่งหรือเป้งย้อยหรือหมากเป้ง คนแก่คนเฒ่าเล่าสืบต่อกันมาว่า หินหมากเป้งก้อนที่อยู่เหนือน้ำเป็นของหลวงพระบาง... -
คกก.ติดตามวัตถุโบราณ มีมติทวงคืนพระพุทธรูป 17 องค์จากสหรัฐฯ
หลังจากที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อติดตามทวงคืนโบราณวัตถุของไทยที่ถูกลักลอบนำออกไปขายยังต่างประเทศ ล่าสุด คณะกรรมการฯ ชุดนี้ ยังคงเร่งทวงคืนพระโพธิสัตว์ และพระพุทธรูป-สำริด ศิลปะ ประโคนชัย ที่ถูกลักลอบนำออกไปแล้ว
ซึ่งปัจจุบันพบว่า ถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของสหรัฐอเมริกา 17 ชิ้น โดยตอนนี้ผู้เกี่ยวข้องกำลังเร่งศึกษารายละเอียดและหาหลักฐาน รวมทั้งระบุแหล่งที่มาของวัตถุโบราณให้ชัดเจน ตลอดจนภาพถ่ายและบทความที่เขียนขึ้นโดยชาวต่างชาติและชาวไทย เพื่อยืนยันกับทางสหรัฐฯว่าวัตถุโบราณเหล่านี้มาจากประเทศไทยจริง
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการติดตามโบราณวัถตุฯ จะมีการประชุมเรื่องนี้อีกครั้งในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ เพื่อสรุปหลักฐานและเสนอต่อคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ก่อนส่งให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการประสานกับทางสหรัฐอเมริกาต่อไป
สำหรับหนึ่งในรายการที่จะมีการทวงคืนนั้น คือ พระโพธิสัตว์อวโลกอเตศวรสำริด มีองค์เดียวในโลก... -
นักวิชาการ มองแนวคิด ห้ามพระสึก "ขัดธรรมวินัย-รธน." ชี้ชัด การลาสิกขา : ดุลยภาพสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
รศ.ดร.เวทย์ บรรณกรกุล นักวิชาการศาสนาชื่อดัง และอาจารย์ประจำหลักสูตรปริญญาเอก สาขาวิชาบาลีพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) เขียนบทความเรื่อง "การลาสิกขา : ดุลยภาพสงฆ์ในพระพุทธศาสนา" โต้แนวคิดในการแก้ไขกฎหมายคณะสงฆ์ โดยเฉพาะมีประเด็น ห้ามพระสึก
โดยบทความมีใจความสำคัญว่า การลาสิกขาเป็นวัฒนธรรมประเพณีคู่กันมากับการบรรพชาอุปสมบทของชาวพุทธผู้ได้รับอนุญาตให้บรรพชาอุปสมบท คือ การยอมรับปฏิญญาที่จะศึกษาและปฏิบัติในไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา กล่าวเฉพาะศีลสิกขา เป็นกฎระเบียบมาตรฐานเครื่องวัดสำหรับบอกให้รู้ภาวะความเป็นสมณะ หากบรรพชาเป็นสามเณรหรือสามเณรี ก็ต้องยอมรับและปฏิบัติศีลสิกขา ๑๐ ข้อ หากอุปสมบทเป็นพระภิกษุก็ต้องยอมรับและปฏิบัติข้อที่ทรงอนุญาตและเว้นข้อที่ทรงห้ามไว้ ๒๒๗ ข้อ (ปาฏิโมกข์ ๑๕๐ รวมอนิยต ๒ เสขิยวัตร ๗๕ เป็น ๒๒๗) หรือศีล ๓๑๑ ข้อ สำหรับภิกษุณี นอกจากนั้น ผู้บรรพชาหรืออุปสมบทแล้ว จะต้องศึกษาและปฏิบัติศีลส่วนที่เป็นอภิสมาจารสิกขา คือ ข้อวัตรปฏิบัติที่พึงศึกษาเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมและมารยาทที่ดีงาม เช่น อย่าพึงนุ่งห่มอย่างคฤหัสถ์...
หน้า 346 ของ 432