คลังเรื่องเด่น
-
มีเงินน้อย อยากได้อานิสงส์มากๆ ต้องทำบุญอย่างไร (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
มีเงินน้อย อยากได้อานิสงส์มากๆ ต้องทำบุญอย่างไร
หลวงพ่อฤๅษีฯ ตอบปัญหาธรรม
ผู้ถาม :- “ลูกเป็นคนยากจนมีเงินน้อย อยากจะได้อานิสงส์มาก ๆ จะทำบุญอย่างไรดีคะ…?”
…หลวงพ่อ :- “คืออานิสงส์จริง ๆ ต้องทำบุญให้มากที่สุดเท่าที่จะพึงทำได้ สมมุติว่าเรามีเงินอยู่ ๑๐ บาท จะไปมาที่นี่เสียค่ารถ ๖ บาท กินก๋วยเตี๋ยว ๓ บาท ได้ครึ่งชามแล้ว หมดไป ๙ บาท เหลือ ๑ บาท เขียนที่หน้าซองเลยว่า เงินนี้ถวายสังฆทาน วิหารทาน และธรรมทาน อันนี้อานิสงส์มากเหลือเกิน จำนวนเงินเขาไม่จำกัด เขาจำกัดกำลังใจ ถ้ากำลังใจมุ่งด้านดีนะ
การทำบุญมาก ๆ คำว่า “ทำมาก” หมายความว่า ทำบ่อย ๆ แต่คำว่า “บ่อย” ไม่ต้องทุกวันก็ได้นะ คำว่า “มาก” หมายความว่า ทำเต็มกำลังที่พึงทำ ไม่ใช่ขนเงินมามาก เวลาทำบุญ ต้องดูก่อนว่า ค่าใช้จ่ายเรามีความจำเป็นเพียงไร ไอ้เงินที่มีความจำเป็นอย่านำมาทำบุญ มันจะเดือดร้อนภายหลัง และให้เหลือส่วนนั้นไว้บ้าง แล้วแบ่งทำบุญพอสมควร
และประการที่ ๒ การทำบุญถ้าใช้วัตถุมาก แต่กำลังใจน้อย ก็มีอานิสงส์น้อย ถ้าหากใช้วัตถุน้อย กำลังใจมีมาก ก็มีอานิสงส์มาก อย่างถวายสังฆทานที่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทนำมานี่ ลงทุนไม่มาก... -
ทุบองค์เทพช้างสามเศียร เจอพระหลายพันองค์ ชาวบ้านแห่แย่งเก็บบูชา
ชาวบ้านแย่งกันเก็บเหรียญหลวงพ่อใหญ่ ที่ทางเจ้าอาวาสวัดนำไปเก็บรักษาเอาไว้ในท้องช้างสามเศียรกว่าสิบปี จำนวนหลายพันองค์เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้เก็บไว้บูชา
วันนี้ (7 ต.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่นครนายก ชาวบ้านในตำบลสาริกา กว่า 20 คน ต่างแย่งกันเก็บเหรียญของหลวงพ่อใหญ่ ที่ทางพระครูรัตนคีรีรักษ์ เจ้าอาวาสวัดเขาแดง ได้เก็บรักษาเอาไว้เพื่อให้ชนรุ่นหลังเก็บเอาไว้บูชากัน โดยเหรียญมีมากว่า 2,000 เหรียญ
สืบเนื่องจากมีคำสั่งจากทางเจ้าคณะจังหวัดนครนายก ว่าให้ทุกวัดในจังหวัดนครนายกปฎิบัติตามคำสั่งของทางมหาเถรสมาคม ห้ามติดป้ายโฆษณาวัตถุมงคล พระเครื่องและเทวรูปต่างๆ โดยให้มีการโยกย้าย หรือทุบเทวรูปออกจากบริเวณวัด เนื่องจากปัจุบันมักจะมีพวกมิจฉาชีพอาศัยความเชื่อด้านศาสนาแสวงหาผลประโยชน์ โดยอ้างสรรพคุณของวัตถุมงคลและอิทธิฤทธิ์ของเทวรูปต่างๆ
ดังนั้นเพื่อไม่ให้มีการงมงายไปมากกว่านี้จึงมีคำสั่งให้ทุกวัดทั่วประเทศที่มีองค์เทวรูปต่างๆ ให้รีบโยกย้ายโดยด่วน ซึ่งทุกวัดภายในจังหวัดนครนายกได้ให้ความร่วมมือ หลังจากทางเจ้าคณะจังหวัดเรียกประชุมเพื่อทำความเข้าใจโดยพร้อมเพียงกัน
ขอขอบคุณที่มา... -
ปฏิวัติทำบุญแนวใหม่ ด้วยการตักบาตรผักสด
ชาวบ้านม่วงสร้อย ต.แม่นาเติง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ปฏิวัติทำบุญแนวใหม่ ด้วยการตักบาตรผักสด ซึ่งเป็นผักที่ราษฎรปลูกกันเองและไม่มีการใช้สารเคมี
วานนี้ (7 ตุลาคม) เวลา 09.00 น.นายธนกฤต ฉันทจำรัสศิลป์ นายอำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน ได้เดินทางไปเป็นประธาน ในพิธีทำบุญตักบาตรผักปลอดสารพิษ ณ ศาลาเอนกประสงค์บ้านม่วงสร้อย ตำบลแม่นาติง อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
สหรับงานตักบาตรปลอดสารพิษบ้านม่วงสร้อย ดังกล่าว ได้มีการจัดขึ้นมาเป็นปีที่ 2 เพื่อส่งเสริมฟื้นฟู วัฒนธรรม ประเพณี อันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่ เกิดความรู้ ความเข้าใจ เกิดความศรัทธา ตระหนักถึงความสำคัญวันออกพรรษา และประชาชนมีความตระหนักถึงการปลูกผักปลอดสารพิษในชุมชน และถ่ายทอดให้อนุชนรุ่นหลังสืบต่อไป
วันออกพรรษา ถือเป็นรากฐานของขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของชาติไทย และชนชาติไทใหญ่ใน อ.ปาย ซึ่งมีความเชื่อของพุทธศาสนาพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะวันออกพรรษามีการทำบุญตักบาตร ตามความเชื่อของพุทธศาสนาว่าเป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากเทศนาพระธรรมปิฎกโปรดพุทธมารดา ซึ่งแต่ละท้องที่จะมีการจัดกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป... -
ความเชื่อผิดๆ เรื่องการใส่บาตรและถวายสังฆทาน อาหาร ยา ฯลฯ
” ความเชื่อผิดๆ เรื่องการใส่บาตรและถวายสังฆทาน อาหาร ยา ฯลฯ ”
ถาม : การใส่บาตร และ การถวายอาหาร แด่พระควรเป็นอาหารสด แต่ถ้าบางคนการถวายมาม่าหรือของแห้งที่จะต้องเอาไปประกอบอาหารใหม่จะบาปหรือไม่?
ตอบ : ไม่บาปหรอก เพียงแต่ว่าพระท่านเก็บไว้ไม่ได้
อาหาร ที่เป็นอาหารนี้ ท่านเก็บไว้ได้เพียงแค่ช่วงระยะเที่ยงวันเท่านั้นเอง หลังจากเที่ยงวันแล้ว ส่วนที่เป็นอาหารนี้ ท่านต้องสละไปหมด เพราะพระพุทธเจ้าไม่ต้องการให้พระสะสมของไว้ในกุฏิของตน แต่ทรงอนุญาตให้สะสมไว้ในคลังของวัดได้ เช่น ถ้าญาติโยมอยากจะถวายของให้เก็บไว้นานๆ อย่าไปใส่บาตร อย่าไปประเคนกับมือ
อย่างที่อาตมารับของนี้ ส่วนใหญ่จะให้วางไว้เฉยๆ ถ้าญาติโยมวางไว้เฉยๆนี้ ถือว่าพระยังไม่ได้รับประเคน พระยังเอาไปใช้ไม่ได้ แต่เก็บไว้ได้ตลอดเวลาไม่มีวันหมดอายุ เวลาต้องการจะใช้ก็ให้ลูกศิษย์หยิบมาประเคนให้ จึงจะใช้ได้ แต่..ถ้ารับประเคนด้วยมือเอง ของมันจะมีอายุ
ของพระ ท่านแบ่งไว้ 3 ชนิดด้วยกัน
1) “อาหาร” – ชนิดอาหารนี้มีอายุแค่..ถึงเที่ยงวัน
หลังจากเที่ยงวันไปแล้ว ถึงแม้รับตอนนี้ก็หมดอายุทันทีเลย ใครถวายมาม่า ถวายปลากระป๋องมา... -
นั่งสมาธิหาความสงบ
พระใหม่ : หลวงปู่ครับ ผมจะเลิกทำสมาธิ
หลวงปู่ : ทำไม
พระใหม่ : ก็ผมคิดว่าผมบุญน้อย นั่งสมาธิมาเป็นพรรษาแล้ว มันยังไม่สงบเลย ผมคงหมดบุญแล้วครับ
หลวงปู่ : หึ หึ หึ เออดีๆ ผมจะนิมนต์พระไว้รอ
พระใหม่ : นิมนต์พระทำไม ครับผม
หลวงปู่ : ไว้สวดคุณน่ะสิ คุณว่าคุณหมดบุญแล้ว
พระใหม่ : ยังครับผมหลวงปู่ ผมยังไม่ตาย ผมหมายถึงว่า ผมนั่งสมาธิ นั่งเท่าไหร่เท่าไหร่ ก็ไม่สงบ
หลวงปู่ : เออ... ถ้ามันสงบแล้วก็ไม่ต้องนั่ง เรานั่งหาความสงบ ถ้าจิตมันเป็นสมาธิแล้วเราจะนั่งทำไม เรานั่งให้มันเป็นสมาธิ ไปยังไม่ถึง มันก็ไม่เจอ ถ้าไม่เจอต้องพยายามต่อไป
คนทำสมาธิอย่าโง่ มัวแต่หาสงบอย่างเดียว สังเกตปัญญาที่มันเกิดขึ้น ขณะมันยังไม่เป็นสมาธิด้วย เหมือนคนไปหาเห็ด เดินเข้าป่า ไม่ยอมเก็บเห็ด หาว่ามันดอกน้อย ดอกนั้นก็น้อย ดอกนี้ก็น้อย เดินหาดอกใหญ่ รอเจอดอกใหญ่ค่อยเก็บ เดินจนหมดป่าก็ไม่เจอดอกใหญ่ สุดท้ายเลยล้มเลิกเพราะไม่ได้เห็ด ทำสมาธิก็เหมือนกัน มัวแต่หาความสงบจนลืมปัญญาที่เกิดตามทางที่จะไปสู่ความสงบ พิจารณาจนเกิดปัญญา มันเกิดความสุขใจสุขกายจนสงบ ดีกว่าไปสงบแบบโง่ สงบเป็นก้อนหินจะได้ประโยชน์อะไร... -
"ปล่อยใจจากสิ่งทั้งปวง ก่อนที่ความตายจะบังคับให้ปล่อย"
"ปล่อยใจจากสิ่งปวง ก่อนที่ความตายจะบังคับให้ปล่อย"
" .. "ปราชญ์ทางพระพุทธศาสนา คือผู้มีปัญญา" ท่านสอน "ให้เร่งอบรมมรณสติ นึกถึงความตาย" หัดตายก่อนตายจริง "จุดมุ่งหมายสำคัญของการหัดตายก็คือ เพื่อให้ปล่อยใจจากสิ่งทั้งหลาย ก่อนที่จะถูกความตายบังคับให้ปล่อย"
กิเลสเครื่องเศร้าหมอง "ตัณหาความดิ้นรนทะยานอยาก อุปาทานความยึดมั่นถือมั่นทั้งหลายทั้งปวง หัดใจให้ปล่อยเสีย พร้อมกับหัดตาย"
"ผู้มีปัญญา" ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของปราชญ์ทางพระพุทธศาสนา "หัดตายก่อนที่จะตายจริง หัดปล่อยใจจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองใจ พร้อมกับการหัดตาย ก่อนที่จะถูกความตายมาบังคับให้เป็นไป" .. "
"แสงส่องใจ" ๓ ตุลาคม ๒๕๔๘
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๙
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13850 -
เมื่อครั้งหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ออกจาริกธุดงค์
“….เมื่อครั้งหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ออกจาริกธุดงค์…”
” ได้ครูผึ้งมาสอนกรรมฐาน ”
หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ได้เดินทางข้ามแม่น้ำโขงไปทางฝั่งลาวได้พักบำเพ็ญเพียรบริเวณนครเวียงจันทน์เป็นเวลาหลายเดือน
หลวงปู่ตื้อ เล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า ท่านได้ไปทำความเพียรที่เชิงภูเขาควายอยู่ ๔ เดือนเต็ม
คืนแรกที่ไปถึงภูเขาควาย ได้ไปนั่งภาวนาภายในถ้ำเล็กๆ แห่งหนึ่ง เมื่อเริ่มนั่งสมาธิไปได้หนึ่งชั่วโมงเศษ ก็ได้ยินเสียงดังอู้ๆ มาแต่ไกล คล้ายเสียงลมพัดอย่างแรง เมื่อลืมตาดูก็ไม่เห็นอะไร ท่านก็หลับตาทำสมาธิต่อ
ปรากฏว่ามีผึ้งเป็นหมื่นๆ แสนๆ ตัวมาบินวนเวียนเหนือศีรษะท่าน เสียงคล้ายกับเครื่องบิน
อย่างไม่คาดคิด ทันใดนั้นฝูงผึ้งก็บินลงมาเกาะตามผ้าจีวรของท่านเต็มไปหมด ท่านต้องเปลื้องจีวรออก ถอดผ้าอังสะออก เหลือนุ่งผ้าสบงผืนเดียว รวบชายสบงด้านหน้า เอาลอดหว่างขาแล้วมาเหน็บไว้ที่ขอบเอวด้านหลัง คล้ายนุ่งผ้าโจงกระเบน รัดขอบขาให้ตึงเพื่อกันไม่ให้ผึ้งชอนไชเข้าไปในผ้าได้
” เทวดามาบอกที่ซ่อนทองคำ ”
หลังจากที่ฝูงผึ้งกลับไปหมดแล้ว หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ก็นั่งสมาธิต่อ
เมื่อท่านนั่งไปได้สองชั่วโมงเศษๆ... -
สมเด็จพระสังฆราช ทรงสนทนาธรรมกับสมเด็จพระสังฆราชแห่งสปป.ลาว ในโอกาสเสด็จเผยแผ่สู่แดนอารยะ
สมเด็จพระสังฆราช ทรงสนทนาธรรมกับสมเด็จพระสังฆราชแห่งสปป.ลาว ในโอกาสเสด็จเผยแผ่สู่แดนอารยะ วัดยานนาวาจัดที่ประทับถวาย
สำนักข่าว Thai R News – เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม เวลา 17.00 น. สมเด็จพระสังฆราชประธานาธิบดี ปัญจศรีวิสุทธิ พุทธวรางกูร (พระสังฆราช สปป.ลาว) แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ยังวัดยานนาวา พระอารามหลวง เขตสาทร กรุงเทพฯ เพื่อทรงปฏิบัติพระศาสนกิจเผยแผ่พุทธศาสนาออกสู่แดนอารยะ โดยพระพรหมวชิรญาณ (ประสิทธิ์ เขมํกรเถร) กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) เจ้าอาวาสวัดยานาวา พร้อมด้วยคณะสงฆ์วัดยานนาวา เฝ้าถวายรับเสด็จ ในการนี้ทางคณะสงฆ์วัดยานนาวา ได้จัดถวายที่ประทับแรม และอำนวยความสะดวกแก่คณะผู้ตามเสด็จ ประกอบด้วย พระสงฆ์ 5 รูป นายบุญทวี พรทศิลป์ รองแผนกศาสนาพุทธ (รองอธิบดีกรมการศาสนา) สปป.ลาว และคณะศรัทธาธรรม ตามพระบัญชาสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
พระศาสนากิจ สมเด็จพระสังฆราชแห่งสปป.ลาว เป็นการส่วนพระองค์ในวันที่ 7 ตุลาคม เวลา 15.00 น. เสด็จพร้อมด้วยคณะผู้ติดตาม โดยมีนายชัชวาล คงอุดม คอลัมนิสต์อาวุโส แห่งหนังสือพิมพ์สยามรัฐ... -
๏ ปุจฉา – วิสัชนา รัชกาลที่ 9 และ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ๏
๏ ปุจฉา – วิสัชนา รัชกาลที่ 9 และ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ๏
เมื่อปี พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช รัชกาลที่ 9 พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชินีนาถ และ ทูลกระหม่อมเจ้าฟ้า ได้เสด็จพระราชดำเนินไปกราบนมัสการหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ถึงวัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ในคราวเสด็จพระราชทานผ้าพระกฐินส่วนพระองค์ครั้งแรก พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นมัสการถามหลวงปู่ฝั้น ความสำคัญว่า
รัชกาลที่ 9 ปุจฉา : ทำอย่างไร ประเทศชาติ ประชาชน จะอยู่ดีกินดี มีความสามัคคีปรองดองกัน ?
หลวงปู่ฝั้น วิสัชนา : ให้เข้าหาพระศาสนา เพราะศาสนาสอนให้ละชั่ว กระทำความดี ทำใจให้ผ่องใส
รัชกาลที่ 9 ปุจฉา : คนส่วนมากทำดี คนส่วนน้อยทำชั่ว จะให้คนส่วนมากเดือดร้อนไหม ? ทำอย่างไรจึงจะแก้ไขได้ ?
หลวงปู่ฝั้น วิสัชนา : ขอถวายพระพร ทุกวันนี้ คนไม่รู้ศาสนา จึงเบียดเบียนกัน ถ้าคนเรานึกถึงศาสนาแล้ว ก็ไม่เบียดเบียนกัน เพราะต้องการความสุข ความเจริญ คนอื่นก็เช่นกัน
คนทุกวันนี้ เข้าใจว่า ศาสนาอยู่กับวัด อยู่ในตู้ ในหีบ ในใบลาน อยู่กับพระพุทธเจ้า ประเทศอินเดียโน่น จึงไม่สนใจ บ้านเมืองจึงเดือดร้อนวุ่นวาย... -
คนมีเวรมีศัตรูมากเพราะวาจา ( หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ )
…คนมีเวรมีศัตรูมากเพราะวาจา…
การพูดโกหกพกลม พูดคำไม่จริงเพื่อหลอกลวงเอาทรัพย์สินเงินทองเขามาเลี้ยงชีพก็ดี การกล่าววาจาส่อเสียดยุยงให้ผู้อื่นแตกร้าวสามัคคีกันทะเลาะกันก็ดี การกล่าวคำหยาบคาย ด่าแช่งกันก็ดี การประพฤติเพ้อเจ้อเหลวไหล การพูดไม่มีเหตุมีผล พูดตามอารมณ์ อันนั้นท่านเรียกว่า พูดเพ้อเจ้อ รวมความแล้วเรียกว่า คำพูดสิบคำจะเอาเป็นประโยชน์สักคำหนึ่งก็ทั้งยาก นี่ท่านเรียกว่า พูดเพ้อเจ้อ อันบุคคลควรศึกษาฯ ไม่สมควรพูดอย่าพูด
ต้องประหยัดวาจาไว้ให้ดี เพราะวาจานี้โบราณท่านว่าเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี ,อาวุธใดในพิภพไม่ลบปาก, อ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย เจ็บอื่นหมื่นแสนไม่แคลนคลาย เจ็บจนตายก็เพราะพูดเหน็บให้เจ็บใจ ,อาวุธใดในพิภพไม่ลบปาก , แม่นได้ยากก็เพราปากพูดไม่ดี , ถ้าพูดดีก็เป็นศรีศักดิ์ มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต ถ้าพูดชั่วตัวก็ตายทำลายมิตร เพราะพูดผิดในมนุษย์เพราะพูดจา
อันนี้วาจาเป็นสิ่งสำคัญมาก วาจานี้ถ้าพูดไม่ถูกต้องตามกาลเทศะ , ตามบุคคล บางทีถึงกับวาจาของตัวเองนั่นแหละฆ่าตัวเองตาย มีอยู่เยอะแยะเลย เป็นอย่างนั้น... -
เราไม่อาจเอาชนะความเกลียดชังด้วยการเกลียดตอบ
เราไม่อาจเอาชนะความเกลียดชัง ด้วยการเกลียดตอบ
เราสามารถเห็นได้ว่า ทั้ง ๆ ที่ความโกรธความกลัว เป็นปฏิกิริยาธรรมดา เมื่อถูกคุกคาม เราไม่จำเป็นต้องโต้ตอบอย่างรุนแรงเพื่อระบายอารมณ์เหล่านั้น แต่เราก็คงคาดหวังอะไรจากโลกนี้ไม่ได้มากนัก ตราบใดที่คนพาลผู้เบาปัญญายังหาข้ออ้าง เพื่อสนับสนุนการกระทำของตนได้จากปรัชญาและคำสอนทางศาสนา ตราบนั้นย่อมไม่มีสันติภาพอันแท้จริง
สิ่งที่เราจะพึงทำได้ คือ การเจริญความกรุณา อันไม่แบ่งเราแบ่งเขา โดยประกอบด้วยปัญญาอันสุขุม เยือกเย็นและตื่นตัวอยู่เสมอ ปัญญาที่เราต้องการสำหรับแก้ปัญหาที่ซับซ้อน มาจากจิตที่แจ่มชัด ไม่ใช่จากอารมณ์โกรธเกรี้ยว
พระพุทธองค์ทรงสอนว่า เราไม่อาจเอาชนะความเกลียดชังด้วยการเกลียดตอบ ถ้าเราเกลียดคนที่เกลียดเรา เราย่อมกลายเป็นคนที่มีจิตใจเกลียดชังไปด้วย ไม่ได้ดีไปกว่ากันเลย ผลที่ตามมาคือความเกลียดชังในโลกนี้ทวีขึ้น
~ ธรรมะ โดย พระอาจารย์ชยสาโร~
ที่มา:เพจ กลุ่มพุทธธรรมกรรมฐาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น -
กรรมฐานทรุดตัวลง (จิตตก) จะแก้อย่างไร (หลวงพ่อพระราชพรหมยาน)
กรรมฐานทรุดตัวลง (จิตตก) จะแก้อย่างไร
ต่อไปนี้ก็จะพูดกรรมฐานยากๆ สักหน่อย เอาไหมกรรมฐานยาก วันนี้มีคนมาถามหลายคนว่า
๑. เวลานี้กำลังใจมันตก คำว่าตกก็หมายความว่าเจริญกรรมฐานทรุดตัวลงไม่เจริญขึ้น
๒. กำลังใจเศร้าหมองไอ้ตกหรือเศร้าหมองก็อันเดียวกัน เหมือนกันก็รวมความว่าอาการกำลังใจตกก็ดี เศร้าหมองก็ดี ถ้าพูดให้ฟังนี่มันไม่ยาก แต่ว่าถ้าใครไม่โดนเข้าจริงๆ ไม่รู้สึกว่ายาก โดนเข้าจริงๆ จะรู้สึกว่ายากมาก เพราะการแก้ตนเองนี่แก้ยาก
ถ้าถามว่าทำไมถึงรู้อาตมานะโดนมาหลายวาระกว่าจะถึงวันนี้นะโดนมาหลายแบบหลายวาระเลยเวลาโดนเข้าจริงๆ มันไม่รู้สึกมันแย่จริงๆ มันตีไม่ขึ้น เพราะกำลังใจเรามันทรุดไปเองถามว่าประคองตัวมาได้ยังไงก็อยู่เกณฑ์ที่ว่าแพ้มันบ้างชนะบ้าง แต่ว่าไม่ยอมแพ้เลย วันนี้แพ้วันหลังถ้าจิตใจดีหน่อยก็เอาชนะนิดหนึ่งก็เอา วันหนึ่งมีเวลา ๒๔ ชั่วโมงชนะแค่ ๒ นาทีก็เอา ใช่ไหม คือให้มีเวลาชนะ
วิธีชนะทำอย่างไรมันก็ไม่ยาก แต่ว่ามันยากอยู่นะ มันยากอยู่ตรงปรับปรุงใจตนเองคือถ้าเวลาไหนกำลังใจดีขึ้นมาให้ใช้เวลานั้น อย่าใช้เวลาแน่นอน กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก... -
แก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ( พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ )
แก่นแท้ของพระพุทธศาสนา
ถาม : ขอถามเรื่องที่เกี่ยวกับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เป็นแก่นแท้..ถ้าเกิดมีคนถามผมว่า พระพุทธศาสนาสอนอะไร ผมก็เลย..?
ตอบ : ถ้าในลักษณะนั้นให้ตอบว่า คำสอนของพระพุทธศาสนาที่เป็นหลักจริง ๆ ก็คือ “โอวาทปาฏิโมกข์”
ท่านสอนว่า “ให้ทุกคนละความชั่วทั้งหมด ทำความดีให้ถึงพร้อม รักษาจิตใจของตนให้เบิกบานผ่องใสอยู่เสมอ” นี่เป็นเนื้อหาคำสอนหลักของพระองค์ท่าน
แต่ว่าก่อนปรินิพพาน พระพุทธเจ้าตรัสสรุปลงคำว่า “ไม่ประมาท” คำเดียว นั่นหนักเกินไป ต้องคนที่เข้าถึงธรรมะระดับที่เรียกว่าสูงมาก ถึงจะเห็นตัวนี้ชัดเจน
ตอนที่แสดงโอวาทปาฏิโมกข์ พระองค์ท่านสรุปอุดมการณ์ไว้ดังนี้ว่า
“ขันตี ปรมัง ตะโป ตีติกขา” ขันติเป็นตบะอย่างยิ่งของนักปฎิบัติ ก็หมายความว่า คนที่ปฎิบัติต้องอาศัยความอดทนเป็นหลักเลย
“นิพพานัง ปรมัง วะทันติ พุทธา” พระพุทธเจ้าทุกองค์ย่อมกล่าวถึงพระนิพพานเหมือนกัน
“นะหิ ปัพพชิโต ปะรูปะฆาตี” การฆ่าผู้อื่นไม่ชื่อว่าบรรพชิต แตะนิดเดียวก็ไม่ได้
“สะมะโณ โหติ ปะรัง วิเหฐะยันโต” ผู้ที่ยังเบียดเบียนผู้อื่นอยู่ ไม่เรียกว่าสมณะ
แล้วพระองค์ท่านก็บอกวิธีการปฏิบัติต่อไปว่าว่า... -
คำสอนสายกลาง เรื่อง..ศีล
วันนี้วันพระตรงกับวันพุธแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีระกา
ขอให้ทุกท่านมีความสุขในธรรม
คำสอนสายกลาง เรื่อง..ศีล
มาในวันนี้ก็เลยคิดว่าจะคุย เรื่องศีล เข้าใจว่าบรรดาท่านพุทธบริษัทหลายท่านยังสงสัย จึงนำมาคุยให้ฟังคร่าวๆ การลงท้ายในการให้ศีล
องค์สมเด็จพระมหามุนีตรัสไว้อย่างนี้
สีเลนะ สุคติง ยันติ
สีเลนะ โภคสัมปทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ
ตัสมา สีลัง วิโสธะเย
ซึ่งแปลเป็นใจความว่า ศีลเป็นปัจจัยให้มีความสุขในชาตินี้ และมีความสุขในชาติหน้า
และข้อที่ ๒ แปลว่า ศีลเป็นปัจจัยให้มีทรัพย์สมบัติเยือกเย็นในชาตินี้ และรํ่ารวยในชาติหน้า
และข้อที่ ๓ แปลว่า ศีลเป็นปัจจัยให้ถึงซึ่งพระนิพพานได้โดยง่าย
เหตุนั้นไซร้ขอพวกเราทั้งหลาย จงพากันรักษาศีลให้บริสุทธิ์
สำหรับฆราวาสก็มีอยู่ ๓ ศีล ไม่ใช่ ๓ ข้อนะ ๓ ศีลที่เรียกว่า “ปกติศีล” คือศีล ๕ นี่เรียก “ปกติศีล”
ศีล ๘ แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ๘ สิกขาบทเหมือนกัน นัยหนึ่งเรียกว่า “ศีล ๘” เมื่อว่าไปแล้วก็ลงท้ายว่า “สีเลนะ สุคติง ยันติ สีเลนะ โภคสัมปทา” เฉยๆ
อีกนัยหนึ่งเรียกว่า “ศีลอุโบสถ” ที่มีคำลงท้ายว่า
“อิมัญจะ รัตติง อิมัญจะ ทิวสัง”
รวมความว่า อุโบสถศีลก็ดี ศีล ๘ ก็ดี... -
คำสอนหลวงพ่อเรื่อง “ความเกิดเป็นทุกข์”(หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
คำสอนหลวงพ่อเรื่อง “ความเกิดเป็นทุกข์”..
.. โอกาสนี้บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายได้พากันสมาทานศีลและก็สมาทานพระกรรมฐานเสร็จแล้ว ต่อนี้ไปก็ขอให้ทำจิตให้สงบ ตั้งใจฟังคำแนะนำชั่วครู่หนึ่งในขณะที่ฟังคำแนะนำ นอกจากจะจำแล้ว ขอได้โปรดติดตามไปด้วย
การเจริญพระกรรมฐานในพระพุทธศาสนาให้เราต้องการมรรคผลเป็นสำคัญ ไม่ใช่ว่าเราจะทำเป็นเพียงแค่อุปนิสัย แต่ความจริงถ้าได้เป็นอุปนิสัยเข้าถึง“ไตรสรณาคมน์” ก็รู้สึกว่าดี แต่ทว่าเรายังไม่จำกัดความเกิดได้ เพราะว่า “ความเกิดเป็นทุกข์”
พระพุทธเจ้ากล่าวว่า“ชาติปิ ทุกขา ความเกิดเป็นทุกข์ ชราปิ ทุกขา ความแก่เป็นทุกข์ มรณัมปิ ทุกขัง ความตายเป็นทุกข์”
ทีนี้ถ้าหากว่าเรามีความเกิด เราเกิดขึ้นมาแล้ว สิ่งที่ติดตามเรามาก็ได้แก่ ความแก่ ความป่วยไข้ไม่สบาย อาการขัดข้องในอารมณ์ แล้วก็มีความพลัดพรากจากของรักของชอบใจ มีความตายไปในที่สุด
ทีนี้การเจริญกรรมฐานในพระพุทธศาสนา เราไม่ต้องการความเกิด เพราะถ้ามีเกิดแล้วมันก็มีแก่ มีเจ็บ มีตาย มีพลัดพรากจากของรักของชอบใจ มีความขัดข้องใจเป็นปกติ อันนี้ “เป็นอาการของความทุกข์”
ทีนี้ถ้าเราจะไม่เกิดก็หาวิธีการผ่อน... -
กรรมฐาน อย่าทำเพื่ออวด
กรรมฐาน อย่าทำเพื่ออวด
โอวาทหลวงพ่อฯ เล่ม 2 หน้า 9
การเจริญพระกรรมฐาน อย่าทำเพื่ออวด ถ้าไม่มีความจำเป็นอย่า แสดงตนให้เขารู้ว่าเราเป็นนักเจริญพระกรรมฐาน เวลาที่ทำจิตสงบสงัด
หาที่ลับเป็นเครื่องกำบังบุคคลไม่ให้เห็น ถ้าหากว่าเราเห็นว่ามันมิดชิดแล้ว
นั่นเขาจะมาเป็นเรื่องของเขา ถ้าทำให้ชาวบ้านเขาเห็น บางวาระจิตมันคิดจะอวดเป็นมานะเป็นกิเลสหนัก ไม่สมควร
นักเจริญพระกรรมฐานจงอย่าเป็นผู้มีกังวล คือในขณะที่ทรงจิตเพื่อสมาธิ
อย่ามีความห่วงใยใด ๆ ทั้งหมด กิจการงานที่จะพึงทำ
ประตูหน้าต่างที่จะพึงปิด ก็ปิดเสียให้เรียบร้อย อย่าเปิดไว้ จะได้ไม่มีการระแวงสงสัยฟืนไฟที่มันจะไหม้ได้ ก็พยายามดับเสีย
ให้หมดจะได้ไม่สงสัยในกิจการงาน จิตไม่ห่วงงาน จิตจะได้มีความสุข
ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง -
ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ
ผู้ถาม :- “หลวงพ่อครับ ผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมินี่จะทราบได้อย่างไรเขาบำเพ็ญบารมีแบบไหนครับ…?”
หลวงพ่อ :- “ตัวของเขาทราบเอง เหมือนคุณกินเกลือ คุณรู้ว่าเค็มหรือเปล่า…?”
ผู้ถาม :- (หัวเราะ) “แล้วเหตุใดพระโพธิสัตว์บางองค์จึงลาจากพุทธภูมิครับ…?”
หลวงพ่อ :- “เพราะอยากลา นี่ตอบไม่ยาก คือภาระของพุทธภูมินี่เวลาเขาทำๆ ไป ถ้าตั้งระยะไว้ไม่ยาว พวกนี้เขาช่วยพระพุทธศาสนา เขาก็ทำกิจของพุทธภูมิเช่นกัน แต่ว่าถ้าหากจะช่วยพระพุทธศาสนา ถ้าความเข้มแข็งไม่มี มันช่วยไม่ได้ เพราะพวกนี้อารมณ์ของเขามีอย่างเดียว คือไม่ห่วงตัวเอง ถ้าตัวเองไม่มีกิน ถ้าคนอื่นกินได้ ไอ้นี่เขาพอใจ แต่พวกที่ลาจริงๆ ส่วนใหญ่ก็ใกล้พระนิพพานแล้ว ถ้าไม่ใกล้เขาไม่ลา ลาแล้วไม่กี่วันก็ได้พระอรหันต์ เพราะกำลังเขาเกิน อย่างคุณเรียนเตรียมอุดม ถ้ากลับไปทำงานประเภทหลักสูตรแค่ ม.๓ คุณไม่ต้องใช้กำลังมาก ใช่ไหม…?”
ผู้ถาม :- “ใช่ครับ”
หลวงพ่อ :- “เหมือนกัน คนที่ปรารถนาพระโพธิญาณเรียกว่า พระโพธิสัตว์ ทีนี้พวกที่ใกล้ที่สุด อย่างเช่น ถ้าเป็นปัญญาธิกะอย่างน้อยที่สุดก็ต้องอสงไขยที่ ๔ ในกัปนั้นแหละ... -
จงอย่ายึดถืออะไรทั้งหมด (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
จงอย่ายึดถืออะไรทั้งหมด
เธอจงอย่ายึดถืออะไรทั้งหมด จงอย่าคิดว่าร่างกายเป็นเราเป็นของเรา เรามีในร่างกาย ร่างกายมีในเรา ร่างกายคนอื่นที่เป็นที่พึ่งของเรามันไม่มี เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดมาในโลกมันสลายตัวหมด
เอาใครเป็นที่พึ่งไม่ได้
จงไม่ยึดถือทุกสิ่งทุกอย่างในโลกว่าเป็นเรา เป็นของเรา ในเมื่อมีชีวิตอยู่เราอาศัยมันเราต้องมีบ้าน มีเงินใช้ มีของใช้เป็นของธรรมดา เมื่อมีชีวิตทรงตัวอยู่ต้องมีต้องหา ถ้าไม่มีก็ทำหามาได้ ถ้าไม่มากพอก็ต้องหาต่อไป หาเพื่อความเป็นอยู่เป็นสุข
ก็ต้องคิดถึงความเป็นจริง ว่าทรัพย์สมบัติทั้งหมดนี้ ถ้าตายแล้วเราก็หมดสิทธิ์ คนอยู่เบื้องหลังเขาก็ตายต่อไปอีก ไม่มีใครสามารถครองทรัพย์สินได้อย่างจริงจัง
ฉะนั้น ทรัพย์สินทั้งหลายมีความสำคัญขณะที่มีชีวิตอยู่ เราต้องหาเราต้องกิน
แต่ต้องคิดไว้ทุกวันว่า ทรัพย์สินทั้งหลายเหล่านี้เรากับมันไม่ช้าก็จากกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพย์ที่เรารักมากที่สุด นั่นก็คือ “ร่างกาย”
ต้องมีความรู้สึกตามความเป็นจริงว่า
“ร่างกายนี้ไม่ช้าวันหนึ่งข้างหน้าจะเป็นวันนี้ก็ได้ พรุ่งนี้ก็ได้ เมื่อไรก็ได้ มันอาจจะตายได้”
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง... -
มหาเสน่ห์ของพระพุทธเจ้า (พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.)
มหาเสน่ห์ของพระพุทธเจ้า
อะไรที่หายาก…อะไรที่แปลกประหลาด เขามักจะถือว่าขลัง กลายเป็นความเชื่อ คราวนี้ความเชื่อไม่ใช่ความจริง การเชื่อว่าดอกตะไคร้เป็นมหาเสน่ห์ ก็เป็นแค่ความเชื่อ อาจจะเป็นไปได้ว่า คนพกดอกตะไคร้แล้วเกิดความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ในเมื่อเกิดความมั่นใจมากขึ้น กล้าแสดงออก ถ้าเป็นการแสดงออกในด้านที่ดีคนก็ย่อมรักเป็นปกติ
แต่ถ้าจะเอามหาเสน่ห์ของพระพุทธเจ้า..ไม่ใช่อย่างนั้น มหาเสน่ห์ของพระพุทธเจ้าก็คือ สังคหวัตถุ ๔ มี ทาน ก็คือเสียสละให้ปันแก่ผู้อื่น พระองค์ท่านตรัสว่า ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ไม่ใช่รักแค่คนเดียวนะ คนที่เขารับของจากเราไป เขามีญาติพี่น้องกี่คน ถ้าเขาไปบอกว่าได้จากเรา ญาติพี่น้องเขาก็พลอยรักเราไปด้วย
ปิยวาจา มีคำพูดที่น่ารัก ก็คือ เว้นจากการพูดโกหก เว้นจากการพูดส่อเสียด เว้นจากการพูดคำหยาบ เว้นจากการพูดวาจาไร้ประโยชน์ กล่าวแต่วาจาที่ดี ที่ถูก ที่ควร เหมาะสมแก่กาลเทศะเท่านั้น ในเมื่อมีวาจาดี วาจาไพเราะ คนได้ยินก็รัก
อัตถจริยา บำเพ็ญตนเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น อย่างที่พวกเราออกไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม จัดว่าเป็นอัตถจริยา... -
ปัญหาของผู้เริ่มฝึกได้แล้วและการฝึกแบบเต็มกำลัง(หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
ปัญหาของผู้เริ่มฝึกได้แล้วและการฝึกแบบเต็มกำลัง
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง) ตอบปัญหาธรรม
ผู้ถาม :- “ผมเคยชวนคนอื่น ๆ มาฝึกมโนมยิทธิ แต่แล้วเขาบอกว่า พอออกไปแล้ว กลัวใครจะมาทำร้ายร่างกาย มาเผาร่างกาย เรื่องนี้จริงไหมครับ…?”
หลวงพ่อ :- “ไอ้คนที่ได้มโนมยิทธิจริง ๆ ถ้าไปถึงสวรรค์ได้ เขาไม่อยากมองมนุษย์นะ เพราะเมืองมนุษย์มันเลอะเทอะด้วยประการทั้งปวง โลกทั้งโลกมันสกปรก ถ้าแดนสวรรค์ก็มีแก้วกับทอง สวรรค์มีความสุขมีที่อยู่สบาย ถ้าไปถึงพรหม เราก็ไม่อยากไปสวรรค์ เพราะพรหมเขาดีกว่า ถ้าเข้าถึงนิพพาน เราก็ไม่อยากมองพรหม
ถ้าบังเอิญเวลานั้น ใครทำร้าย หรือจะเอาร่างกายไปเผาเสียก็ดี จะได้ไม่ต้องกลับมา กลัวเขาจะไม่ทำยังงั้นน่ะซิ”
“ถ้ากลัวตายก็ฝึกวิชานี้ไม่ได้ อันนี้เป็นหัวใจสำคัญของการเจริญพระกรรมฐาน”
ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง -
ห้ามผู้แสดงเจาะแก้ไขตาโขนและห้ามหัวโขนเสียหายบริเวณตามาใช้ ตามความเชื่อ..อาจทำให้ต้องธรณีสาร!!
อาถรรพ์ต้องห้าม!! "หัวโขน" ห้ามผู้แสดงเจาะแก้ไขตาโขนและห้ามหัวโขนเสียหายบริเวณตามาใช้..เด็ดขาด!! ตามความเชื่อ..อาจทำให้ต้องธรณีสาร !!
โขนเป็นนาฏศิลปที่มีธรรมเนียมการปฏิบัติในการแสดงหลายอย่าง บางอย่างก็ยังคงใช้กันอยู่ บางอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย การออกโรงแสดงก็ต้องตั้งเครื่องให้ครบ ในพิธีต้องมีศีรษะโขนตั้งประดิษฐานเป็นเครื่องสักการะ ก่อนแต่งตัวต้องมีการไหว้ครู เมื่อแต่งเสร็จก่อนจะสวมหัวโขนหรือชฎาก็ต้องไหว้ครู การปลูกโรงโขน ต้องมีพิธีเซ่นบวงสรวงบอกเจ้าที่ เจ้าทางให้รับทราบเพื่อปัดเสนียดรังควาน ด้วยถือว่าการแสดงหลายอย่างที่แข่งขันหรือประชันกัน มักมีการใช้ไสยศาสตร์กลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้ามให้เสียเปรียบ จึงต้องมีพิธีถอนอาถรรพ์กันก่อน
ทั้งนี้ยังมีข้อห้ามสำคัญอีกหลายประการ เช่น ห้ามนำอาวุธที่ใช้ในการแสดงมาเล่นนอกเวลาแสดง ห้ามเดินข้ามอาวุธ ห้ามเล่นไม้ตะขาบ (หมายเหตุ : ไม้ที่ตีเพื่อให้เกิดเสียงดังด้วยการตีเพียงเบาๆ มักใช้ในการแสดงของตัวตลก) การเก็บหรือวางเครื่องโขนทั้งเวลาแสดง และเวลาเก็บ ต้องแบ่งเป็นสัดส่วน อาวุธต่างๆต้องเก็บในที่อันเหมาะสม หัวโขนยักษ์ ลิง... -
ก้อนเมฆคล้ายรูปพญานาคปรากฏ พิธีกวนข้าวทิพย์วัดถาวรชัยศิริ ชาวบ้านเชื่อ..เป็นอภินิหารขององค์พญานาค!
ดั่งพญานาคราชมาประสาทพร!! ก้อนเมฆคล้ายรูปพญานาคปรากฏ ลอยเด่นขณะพิธี "กวนข้าวทิพย์" วัดถาวรชัยศิริ ชาวบ้านเชื่อ..เป็นอภินิหารขององค์พญานาค !!.
เมื่อวานนี้ ( ๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ ) ที่วัดวัดถาวรชัยศิริ ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ นำโดยพระมหาสมพร ฐานวโร เจ้าอาวาสได้จัดงานพิธีกวนข้าวทิพย์ ปีที่ ๑๖ ประจำปี ๒๕๖๐ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้าประชาชน และเยาวชนร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก
ประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางเข้าร่วมงานพิธีกวนข้าวทิพย์ตักบาตรเทโวโรหณะวัดถาวรชัยศิริ อำเภอคอนสาร ปีที่ ๑๖ ประจำปี ๒๕๖๐ ขณะนำสาวพรหมจารีจำนวนมากนุ่งขาวห่มขาวกวนข้าวทิพย์ตามพิธีโบราณ เพื่อเป็นการสืบสานขนมธรรมประเพณีกวนข้าวทิพย์ ให้คงอยู่ตลอดไป
ภายในงานจัดให้มีขบวนแห่ข้าวทิพย์ต่างๆของชุมชนในพื้นที่นับสิบขบวนเดินไปตามถนนรอบชุมชนกว่า ๕ กม.ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายมาอย่างหนักไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกแต่ทุกคนก็ไม่ยอมหนีจากขบวน ขณะเดียวกันได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างเหลือเชื่อเมื่อจู่ๆ พายุฝนที่ตกกระหน่ำอย่างแรงได้หยุดตกอย่างกระทันหัน... -
พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ : หลวงปู่ชา สุภัทโท
วันหนึ่งมีชายคนหนึ่งมาจากกรุงเทพฯ เขามากราบนมัสการท่านอาจารย์ชา และได้นำวัตถุที่ถือว่าเป็นมงคลยิ่งมาให้ท่านด้วย สิ่งนั้นคือ พระธาตุพระอรหันต์ เขาเล่าและยืนยันว่า ถ้าเป็นพระธาตุแท้จะไม่จมน้ำ แต่ถ้าปกติวัตถุธรรมดาที่มีขนาดเดียวกับพระธาตุนี้ ก็จะจมน้ำ แต่เขาได้พิสูจน์แล้วว่าพระธาตุนี้ดีจริง ลอยน้ำได้
ครั้นว่าดังนั้น เขาก็เอาน้ำใส่แก้วมาแก้วหนึ่งเพื่อจะทำให้ท่านดู
เมื่อท่านเห็นดังนั้น จึงหัวเราะและห้ามเขาว่า
“อย่าทำ เดี๋ยวมันจะจม”
แต่ชายคนนั้นไม่เชื่อฟังท่าน เขายังขืนทำ ครั้นวางพระธาตุลงในน้ำ มันก็จมจริงๆ และท่านก็ยังคงนั่งหัวเราะอยู่อย่างเดิม
พระรูปหนึ่งซึ่งเป็นศิษย์ของท่าน กล่าวแสดงความเห็นกับพระด้วยกันว่า
“ผมว่าพระธาตุจมน้ำได้นี่แหละประหลาดกว่าพระธาตุลอยน้ำได้ วันนี้โชคดีจริงๆ ที่ได้เห็นสิ่งอัศจรรย์ที่สุด หรือท่านมีความเห็นอย่างไรๆ”
พระอีกรูปหนึ่งได้แต่หัวเราะ
ท่านสอนว่า
“ทิฏฐิของคนเรา ถ้าเราเอาไปใส่ไว้ในอะไรแล้ว สิ่งนั้นมันก็เป็นของมีค่าขึ้นมาทันที จะกลายเป็นของขลัง ของศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาทันที แต่ถ้าไม่มีทิฏฐิเข้าไปตั้งอยู่ ทุกสิ่งมันก็ไม่มีราคา... -
การวัดบารมีของตนเอง : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
..." เราก็มาวัดถึง บารมีของพวกเรา.. บารมี พระพุทธเจ้าทรงจัดไว้เป็น ๓ ระดับ คือ :-
๑. บารมีต้น ท่านเรียกว่า บารมี เฉย ๆ
.. คนที่มีบารมีต้น เต็มบ้าง ไม่เต็มบ้าง เต็มก็ดี ถ้าไม่เต็ม พร่องมากเกินไป คนประเภทนี้ เขาจะเจริญกรรมฐานไม่ได้
.. บารมี แปลว่า เต็ม แต่ว่า พระพุทธเจ้า ให้แปลว่า กำลังใจเต็ม บารมี ก็คือ กำลังใจมันเต็มพร้อมในขั้นไหน ถ้าเต็มพร้อม ในขั้นต้น หรือ ไม่เต็มในขั้นต้น พวกนี้ ยังเจริญพระกรรมฐานไม่ได้ กำลังใจไม่พอ.
.. ถ้าเราไปชวนเขาเจริญพระกรรมฐาน เขาจะบอกว่า ไม่ว่างละ จิตไม่สงบบ้าง ใช่ไหม.
๒. ทีนี้ อุปบารมี
.. อุป แปลว่า เข้าไป หรือ ใกล้ ใกล้จะเต็ม หรือ เข้าไปเพื่อเต็ม เป็นบารมีขั้นกลาง
.. คนที่มีบารมีขั้นกลาง เวลาถ้าชวนเจริญกรรมฐาน เขาสามารถเจริญได้ แต่ว่า เขาฝึกฝนจริง ๆ
.. ถ้าเราชวนไปนิพพาน เขาจะบอกว่า เขายังไม่พร้อมไปพระนิพพาน จำให้ดีนะ ทุกคนนะ ลองไปถามใครดูบ้างก็ได้ เขายังไม่พร้อมที่จะไปพระนิพพาน.
* โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเขาจะฝึก มโนมยิทธิ อย่างพวกเรา เขาจะไม่สามารถเข้าเขตนิพพานได้ ใช่ไหม
* พวกไปถึงนิพพานไม่ได้ มีเยอะนะ พวกนี้จะเข้านิพพานไม่ได้ เพราะ บารมีไม่ถึง... -
อัศจรรย์ สรีระสังขาร "หลวงปู่อั้น" ทายาทวิทยาคม หลวงปู่กาหลง ผ่านมา ๗๙ วัน ไม่มีทีท่าจะเน่าเปื่อย !!
อัศจรรย์ สรีระสังขาร "หลวงปู่อั้น" ทายาทวิทยาคม หลวงปู่กาหลง ผ่านมา ๗๙ วัน ไม่มีทีท่าจะเน่าเปื่อย !! เหมือนเดิมทุกอย่าง ราวกับนอนหลับไปเฉยๆ
หลวงพ่ออั้น อภิปาโล พระเกจิลุ่มน้ำสะแกกรัง
...ย้อนหลังกลับไปเมื่อครั้งหลวงพ่ออั้นเป็นฆราวาส อายุ ๑๑ ขวบ ได้มีโอกาสเดินธุดงค์กับครูบาศรีวิชัย จากเขาฆ้องชัย อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี จนถึง จ.ลำพูน รวมเวลา ๓ เดือนเศษ พร้อมศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมกับท่านด้วย และช่วงที่รับราชการตำรวจได้ใช้เวลาว่างเรียนวิชาโหราศาสตร์ กับหม่อมหลวงขาบ กุญชร และสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อยู่ ญาโณทโย) วัดสระเกศ และได้ร่ำเรียนเวทย์วิทยาคมกับเกจิดังในยุคก่อนอีกมากมาย
อีกทั้ง หลวงปู่อั้น ยังเป็นทายาทวิทยาคม ในหลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว ที่บรรดาศิษยานุศิษย์ ที่เคยร่วมงานไหว้ครู ณ วัดสุทัศน์ จะเลื่อมใสศรัทธาอย่างที่สุด
จนกระทั่ง วันที่ ๒๐ ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา หลวงปู่อั้นก็ได้ละสังขารอย่างสงบ ณ โรงพยาบาลอุทัยธานี ในวัย ๘๔ ปี
นับเป็นเวลา ๗๙ วันแล้วที่หลวงปู่อั้นได้จาก ศิษยานุศิษย์ไป แต่ได้บังเกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้น เมื่อสรีระร่างของหลวงปู่อั้น... -
พระสงฆ์วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์บิณฑบาตโปรดชาวเมืองกุสินารา ณ ประเทศอินเดีย
พระสงฆ์วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์บิณฑบาตโปรดชาวเมืองกุสินารา ณ ประเทศอินเดีย ในวันตักบาตรเทโวเทศกาลวันออกพรรษา
เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Namaste Dhamma ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความทั้งหมดเอาไว้ว่า.
วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ เวลา ๐๗.๓๐ น. พระสงฆ์วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์บิณฑบาตโปรดชาวเมืองกุสินารา และน้อมนำอาหารบิณฑบาตไปถวายพระพุทธปรินิพพาน ภายในมหาปรินิพพานสถูป สาลวโนทยาน ในวันตักบาตรเทโว คือวันทำบุญตักบาตรในเทศกาลวันออกพรรษา ตามความเชื่อของพุทธศาสนิกชนว่า เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์หลังจากเทศนาอภิธรรมปิฎกโปรดพุทธมารดา
วันตักบาตรเทโว หมายถึง วันทำบุญตักบาตรในเทศกาลวันออกพรรษา ตามความเชื่อของพุทธศาสนิกชนว่า เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์หลังจากเทศนาอภิธรรมปิฎกโปรดพุทธมารดา
ทั้งนี้คำว่าเทโว ย่อมาจากคำว่า เทโวโรหณะ ซึ่งแปลว่า การหยั่งลงจากเทวโลก ซึ่งหมายถึง การเสด็จลงจากเทวโลกของพระพุทธเจ้า ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ทรงเทศนาโปรดประชาชนในแคว้นต่าง ๆ ของอินเดียตอนเหนือ ตั้งแต่เมืองราชคฤห์... -
"สวดมนต์ป้องกันภัย" (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร)
"สวดมนต์ป้องกันภัย"
" .. คำสอนเรื่องการสวดมนต์ของ "หลวงปู่สิม พุทธาจาโร" มีต่อไปว่า "เวลาเราเดินทางหรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่คับขันอาจเป็นอันตราย" เช่น ฤดูกาลเข้าพรรษา ซึ่งมักมีปรากฎการณ์ฟ้าผ่าและพายุฝน ทำให้ต้นไม้ใหญ่ล้มลงมาฟาดกุฏิที่พักอาศัยพักพินาศ
ก่อนเลิกประชุมทำวัตรหลวงปู่ "มักกำชับให้ลูกศิษย์ขยันสวดมนต์ภาวนา ก่อนจะหลับจะนอน ให้สวดมนต์ภาวนาอีกครั้ง" สวดพร้อมกันในที่ประชุมแล้ว ก็กลับไปสวดที่ตัวเองอีก "สวดบ่อย ๆ ตั้งใจสวด เป็นสิริมงคล"
"โดยเฉพาะสวดพาหุงฯ* จะช่วยปัดเป่าภัยอันตราย" เช่น ไฟฟ้า ไปไว้ใจมันบ่ได้ มันเป็นงูพิษ งูตัวยาวที่สุดในโลกละนั่น ยาวตั้งแต่เหนือจรดใต้ .. "
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
* บทพาหุงฯ มีอีกชื่อคือ "ชัยมงคลคาถา หรือบทพระเจ้าชนะมาร" -
“มนุษย์ในปัจจุบันมีทักษะในการหาเหตุผลด้อยลง” สมเด็จพระสังฆราช แนะ กสทช. ต้องเข้าใจปัญหานี้
“มนุษย์ในปัจจุบันมีทักษะในการหาเหตุผลด้อยลง” สมเด็จพระสังฆราช แนะ กสทช. ต้องเข้าใจปัญหานี้เพื่อให้ การทำงานเกิดประสิทธิภาพ
วันศุกร์ ที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ เวลา ๐๙.๓๐ น. เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปยังสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ทรงเป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลคล้ายวันสถาปนาสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เป็นปีที่ ๖
โอกาสนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระโอวาท ความตอนหนึ่งว่า
“การสื่อสารเป็นธรรมชาติพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ แต่ก็น่าคิดอยู่ไม่น้อย ที่การสื่อสารอาจถูกใช้พัฒนาสังคมก็ได้ หรือในบางครั้งก็อาจถูกใช้เป็นเครื่องทำลายสังคมให้วิบัติย่อยยับไปก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมยุคนี้ที่บุคคลสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี
แม้สารที่ส่งหากันจะมีลักษณะทั้งสองแบบ คือแบบที่จรรโลงใจ จรรโลงปัญญา และลักษณะที่ยุยงบ่อนทำลาย ไม่ได้ต่างจากการสื่อสารในสังคมยุคก่อนก็จริง แต่ทักษะความสามารถของมนุษย์... -
รวมฟุตเทจหายากของภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงที่สุด
ต่อไปนี้คือภาพถ่ายและวิดีโอของ 5 อันดับ ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงที่สุด
น้ำท่วมที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์
เกิดขึ้นกับแม่น้ำฮวงโหวและแม่น้ำแยงซีของจีน เมื่อปี 1931 ฝนที่ตกหนักส่งผลให้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ มีผู้เสียชีวิตมากถึง 850,000 – 4 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ไม่ได้เสียชีวิตจากการจมน้ำเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงโรคระบาดที่มากับน้ำและความอดอยากอีกด้วย
ไซโคลนที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์
เกิดขึ้นในอินเดียและบังกลาเทศ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ปี 1970 พายุไซโคลนความรุนแรงระดับ 3 นี้คร่าชีวิตผู้คนไป 300,000 คน และทำลายหมู่บ้านทั้งหมู่บ้าน แม้ว่านักพยากรณ์อากาศจะทราบถึงการมาของพายุ แต่กลับไม่สามารถเตือนชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงได้
ภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ในรอบร้อยปี
เกิดขึ้นกับภูเขาไฟปินาตูโบ ในฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ปี 1991 เคราะห์ดีที่นักวิทยาศาสตร์สามารถอพยพผู้คนได้ทันก่อนที่ภูเขาไฟจะระเบิด ซึ่งช่วยชีวิตผู้คนในบริเวณนั้นได้หลายพันคน อย่างไรก็ตามฝนตกหนักจากพายุไต้ฝุ่นที่เกิดขึ้นพร้อมกันได้พัดเอาเถ้าถ่านจำนวนมากรวมถึงถอนเอาต้นไม้ใหญ่ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน... -
“พระสงฆ์ 210 รูป” เดินลงบันไดรับบิณฑบาต
เมื่อเวลา 07.00น. วันที่ 6 ตุลาคม 2560 นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วยข้าราชการ และประชาชนชาวจังหวัดลำพูนจำนวนมาก ได้พร้อมใจ กัน ร่วมทำบุญตักบาตรเทโวโรหนะ เนื่องในวันออกพรรษาที่วัดพระพุทธบาทตากผ้า อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
โดยทางวัดได้อัญเชิญพระพุทธรูปปางเปิดโลก เคลื่อนลงมาจากวิหาร 4 ครูบา ที่ตั้งอยู่บนดอยพระบาท โดยมีพระภิกษุสงฆ์ และสามเณร จำนวน 210 รูป เดินลงบันไดนาค 469 ขั้น ซึ่งปีนี้ถือเป็นครั้งแรก โดยมีประชาชนเตรียมข้าวสารอาหารแห้ง ดอกไม้ธูปเทียน และอาหารคาวหวานขนมพื้นเมืองมาตักบาตรยืน 2 ฝั่งถนนเป็นแนวยาวของบันไดนาคที่มี 469 ขั้น ขณะที่บรรยากาศยามเช้าวันนี้อากาศดี ทำให้ทัศนียภาพบนดอยพระบาตรที่วัดพระพุทธบาตรตากผ้านั้นมีความสวยงามสร้างความประทับใจให้แก่ ผู้ที่มาทำบุญเป็นอย่างมาก
สำหรับวัดพระพุทธบาทตากผ้า เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี อยู่ในพื้นที่อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน มีประวัติว่า ในสมัยพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธะเจ้าได้เสด็จมาโปรดเวไนยสัตว์ในดินแดนสุวรรณภูมิ ( ประเทศไทยในปัจจุบัน) พระองค์ได้เสด็จไปในที่ต่าง ๆ...
หน้า 348 ของ 432