คลังเรื่องเด่น
-
ระวังไม่มีข้าวกิน สตางค์ไม่มีใช้ ถ้าทอดกฐิน ถวายแต่ผ้าไตรอย่างเดียว ไม่ถวายบริวาร
“หลวงพ่อขอรับ องค์กฐินที่แท้จริงเป็นอย่างไร ขอรับ”
องค์กฐินแบบเขียวหรือแบบเหลือง โยม
“แบบจริงๆ ขอรับ”
ถ้าแบบจริงๆแบบเขียวละก็ใบกระถิน ถ้าแบบเหลืองละก็ผ้าไตร
องค์กฐินจริงๆคือผ้าไตร นอกนั้นเป็นบริวาร เวลากรานกฐินจริงๆ เรากรานกันแต่ผ้า ไม่ได้กรานกฐินด้วย แต่นอกนั้นถือว่าเป็นบริวารของกฐิน
“หลวงพ่อขอรับ ถ้าอย่างนั้นเราก็ทอดแต่ผ้าอย่างเดียวก็ได้ใช่ไหม ขอรับ”
ถ้าโยมจะทอดแต่ผ้าอย่างเดียว ต้องระมัดระวังนะ ชาติหน้ามีผ้ามาก แต่ไม่มีข้าวกินนะ
มีนุ่งแต่ผ้า สตางค์ไม่มีใช้ แต่งตัวโก้ๆ มันก็ลำบากนี่พระไม่ได้หวังได้ แต่อยากให้โยมได้ดี.
ที่มา : หนังสือธรรมปฎิบัติ เล่มที่ 42 “รวมธรรมเทศนาของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤษีลิงดำ) -
ตักบาตรเทโว ประเพณีหลังวันออกพรรษา
ความหมายของตักบาตรเทโว
ตักบาตรเทโว หรือภาษาอังกฤษคือ Tak Bat Devo and Chak Phra Festivals คำว่า ตักบาตรเทโว มาจากคำเต็มว่า ตักบาตรเทโวโรหณะ ซึ่งแปลว่า การหยั่งลงจากเทวโลก เป็นการตักบาตรเนื่องในโอกาสที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งคัมภีร์อรรถกถาธรรมบทบันทึกไว้ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์ (ปาฏิหาริย์เป็นคู่ ๆ) ที่ต้นมะม่วงใกล้เมืองสาวัตถีแล้วก็เสด็จขึ้นไปจำพรรษาที่ 7 บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อเทศนาพระอภิธรรมโปรดพุทธมารดาเป็นเวลา 3 เดือน ครั้นออกพรรษา แล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงเสด็จลงสู่มนุษย์โลกทางบันไดพาดลงใกล้เมืองสังกัสสะ
ประวัติความเป็นมาของวันตักบาตรเทโว
วันตักบาตรเทโว หมายถึง วันทำบุญตักบาตรในเทศกาลวันออกพรรษา ตามความเชื่อของพุทธศาสนิกชนว่า เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์หลังจากเทศนาอภิธรรมปิฎกโปรดพุทธมารดา
ทั้งนี้คำว่าเทโว ย่อมาจากคำว่า เทโวโรหณะ ซึ่งแปลว่า การหยั่งลงจากเทวโลก ซึ่งหมายถึง การเสด็จลงจากเทวโลกของพระพุทธเจ้า ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว... -
วธ.หารือจัดงานชาวพุทธทั่วโลกสวดมนต์ข้ามปี61
วธ.หารือจัดงานชาวพุทธทั่วโลกสวดมนต์ข้ามปี61
อาทิจัดกิจกรรมที่บุโรพุทโธประเทศอินโดนีเซีย
วันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคม 2560 เวลา 13.30 น. นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) เป็นประธานในการประชุม "หารือแนวทางการจัดงาน ชาวพุทธทั่วโลก สวดมนต์ข้ามปี พุทธศักราช 2561" โดยมี นายมานัส ทารัตน์ใจ อธิบดีกรมการศาสนา พร้อมด้วย ผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหาร เเละเจ้าหน้าที่กรมการศาสนา เข้าร่วมในการประชุม ห้องประชุมกรมการศาสนา ชั้น 2 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
ก่อนหน้านี้นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยนายกฤษศญพงษ์ พร้อมด้วยนายมานัส และผู้บริหาร เข้าพบพระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อปรึกษาแนวทางการจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น เตรียมการจัดงานสวดมนต์ข้ามปีพร้อมกับชาวพุทธทั่วโลกที่วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร
ขณะที่พระโสภณวชิราภรณ์ รองอธิการบดีฝ่าการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร)... -
พระพุทธเจ้าเสด็จมาประเทศไทยก่อนนิพพาน : หลวงพ่อพระราชพรหมยานฯ
..." ความจริง ประเทศไทย พระพุทธศาสนาเข้าถึงตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าอยู่นะ ไม่ใช่พระพุทธเจ้านิพพานแล้ว ไม่ใช่หรอก คนละเรื่องกัน นั่นมันพวกเขียนหนังสือ..
.. คือ หลักฐานที่พระพุทธเจ้า เข้ามานี่มีเยอะ พระองค์เข้ามาครั้งแรก ที่เมือง "อริตถะ" คือ "จอมทอง" ในปัจจุบัน
* เวลานั้นเขาไม่ได้เรียก "ประเทศไทย" หรือ "ประเทศสยาม" ไทย หรือ สยาม มาเรียกกันตอนหลัง มาเรียก "สยาม" ตอนที่มีฝรั่งเข้ามานี่เอง และตอนระยะนั้น คนไทยก็อยู่กันเป็นกลุ่มๆ.
.. คือ "พระเจ้าอริตถะ" ทรงทราบข่าวจากพ่อค้าเกวียน เวลานั้น เขามีการค้าติดต่อกัน พ่อค้าเกวียน มาบอกว่า : "เวลานี้ พระพุทธเจ้า ได้อุบัติขึ้นแล้วในโลก และก็สอนคนให้เป็น "พระอรหันต์" ด้วย.
* "พระเจ้าอริตถะ" ความจริงท่านไม่รู้เรื่อง "พระพุทธศาสนา" มาก่อน แต่อารมณ์ที่เป็นกุศลมีมาก.. ท่านจะไปยังไง ถ้าไปเกวียน ก็ใช้เวลามาก ต้องข้ามเขาลงห้วยตามลำดับ ท่านก็เลยใช้วิธี "โตแล้วเรียนลัด" จุดธูป อธิษฐาน ว่า : ถ้าพระพุทธเจ้า ทรงเป็นอัจฉริยะจริง ขอพระองค์ทรงเสด็จมาโปรด.
.. ให้พระพุทธเจ้าเดินมา พระพุทธเจ้าท่านก็ขี้เกียจเดิน ก็ส่ง "พระโมคคัลลาน์" เป็นหัวหน้าคณะ กับพระอีก ๔... -
พระเมรุมาศ ร.๙ ชะลอสวรรค์สู่หล้า เทิดพระเกียรติเกริกไกร
วันที่ประชาชนชาวไทยไม่อยากให้มาถึงกำลังใกล้เข้ามาเต็มที นับเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนที่พสกนิกรชาวไทยจะได้น้อมรำลึกถวายอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ในการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (ในหลวงรัชกาลที่ 9)
ขณะนี้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับพระราชพิธีกำลังเตรียมความพร้อมโค้งสุดท้ายกันอย่างแข็งขัน
ส่วนที่อยู่ในความสนใจของประชาชนไทยมากที่สุดก็คือ ความพร้อมของพระเมรุมาศและมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
ขณะนี้การก่อสร้างพระเมรุมาศสำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เริ่มต้นมานานเกือบปี ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จตามกำหนดการ เหลือเพียงรายละเอียดปลีกย่อย อย่างเช่น การปูพรม การติดผ้าม่านในอาคาร ซึ่งทั้งหมดจะแล้วเสร็จในวันที่ 10 ตุลาคมนี้
จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินทรงยกนพปฎลมหาเศวตฉัตรขึ้นประดิษฐานบนยอดพระเมรุมาศในวันที่ 18 ตุลาคม ก่อนจะถึงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในวันที่ 26 ตุลาคม
หน่วยงานที่รับผิดชอบการก่อสร้างพระเมรุมาศคือกรมศิลปากร... -
‘ภูมิพโลภิกขุ’พระผู้ครองพระองค์ตามพระธรรมวินัย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงผนวชในบวรพุทธศาสนาเป็นเวลา 15 วัน ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2499 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมี สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระองค์ทรงได้รับฉายาว่า “ภูมิพโลภิกขุ” หลังจากนั้นเสด็จฯ ไปประทับจำพรรษา ณ พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ในระหว่างที่ทรงประทับจำพรรษาอยู่นั้น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ทรงเลือกให้ สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) เป็นพระอภิบาล (พระพี่เลี้ยง)
พระองค์ทรงผนวชโดยมีพระราชดำริว่า…พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติที่ประชาชนส่วนใหญ่เลื่อมใส เมื่อทรงมีพระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนามากขึ้นเพราะได้ทรงประจักษ์แก่พระราชหฤทัยว่า “พระธรรม” ซึ่งเป็นคำสอนของพระบรมศาสดาพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ประกอบด้วยเหตุผลและเป็นความจริงแท้ (สัจธรรม)
ในระหว่างที่ทรงดำรงอยู่ในสมณเพศ ทรงปฏิบัติพระราชกิจเช่นเดียวกับภิกษุทั้งหลายด้วยความเคร่งครัดยิ่ง เช่น เสด็จฯ ลงพระอุโบสถ ทรงทำวัตรเช้าและทำวัตรเย็น ตลอดจนทรงสดับพระธรรม ทรงออกรับบิณฑบาตเหมือนภิกษุทั่วไป
ในรุ่งเช้าของวันที่ 4 พฤศจิกายน... -
แผ่เมตตาก่อนทำกรรมฐาน : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
ก่อนที่จะภาวนา ก่อนที่จะพิจารณา พระพุทธเจ้าตรัสว่า ขอบรรดาท่านทั้งหลายจงแผ่เมตตาไปในจักรวาลทั้งปวง อันนี้ต้องทำ ยังไม่ภาวนาด้วย ยังไม่พิจารณาด้วย พอนั่งปั๊บ จะนั่ง นอน ยืน เดินเหมือนกัน ทำได้หมด ให้ตั้งใจแผ่เมตตาไปในจักรวาลทั้งปวง
จงมีความรู้สึกว่ามนุษย์ก็ดี สัตว์ก็ดีทั้งหมด เราจะเป็นมิตรที่ดีของสัตว์ในโลกทั้งหมด เราจะไม่เป็นศัตรูกับใคร เราจะมีความสงสารเพื่อการสงเคราะห์ นั่นก็หมายความว่าส่งเคราะห์เป็นวัตถุก็ดี สงเคราะห์ด้วยวาจาก็ดี สงเคราะห์ด้วยการงานก็ดี ถ้าไม่เกินวิสัยจากเรา เขาขัดข้องเราจะสงเคราะห์ให้เขามีความสุข ถ้าหากว่าเราไม่สามารถจะทำได้ จิตสงสารยังมีอยู่ อันดับแรก องค์สมเด็จพระบรมครูให้ทำอย่างนี้ก่อน
จาก โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๔ หน้า ๗๓-๗๔
https://www.facebook.com/groups/1800469820193906/?fref=nf -
เจ้ากรรมนายเวร หนีอย่างไรก็ไม่พ้น!! แม้เกิดใหม่เป็นเดรัจฉาน ยังข้ามภพชาติ ตามผูกพยาบาทไม่สิ้นสุด
อดีตชาติของท่านพระอาจารย์เปลี่ยนที่เขาวังเพชรบุรี
ท่านพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญวิเวก บ.ปง ต.อินทขีล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่.
ปี ๒๕๔๖ ที่วัดป่าเชิงเลนหลังมูลนิธิหลวงปู่มั่น ท่านพระอาจารย์เปลี่ยนมากิจนิมนต์ตามที่ ท่านอาจารย์พัลลภ เจ้าอาวาสวัดป่าเชิงเลนศิษย์นิมนต์มา ท่านอาจารย์พัลลภ ผู้พี่ชวนไปสรงน้ำท่านพระอาจารย์เปลี่ยนด้วยกัน ระหว่างสรงน้ำอยู่นั้นท่านอาจารย์เปลี่ยน พูดให้ฟังว่าลูกศิษย์ของท่านนิมนต์ไปเทศน์ที่เพชรบุรี ขากลับลูกศิษย์นิมนต์ท่านไปดูพระตำหนักเขาวังเพชรบุรี ท่านบอกเราก็ไม่เคยไปเขาวังมาก่อนจึงอยากจะไปดู..
พอไปถึงพระตำหนักเขาวังท่านลงจากรถไปนั่งพักอยู่ที่ม้านั่งหินอ่อน ท่านนั่งพักอยู่ที่นี่ประมาณสิบนาที มีลิงตัวผู้สองตัวพยายามจะเข้ามากัดท่าน ลิงสองตัวนี้แสดงกิริยาโกรธเกรี้ยว ใส่ท่านตั้งแต่แรกเห็นหน้ากัน เจ้าหน้าที่ดูแลพระตำหนักเขาวัง และลูกศิษย์ของท่านพากันไล่ลิงสองตัวนี้ให้ออกไปพ้นจากท่าน พอถูกไล่ลิงสองตัวนี้ก็จะหนีออกไปไม่ไกล ลิงทั้งสองพยายามวนเวียนจะลอบเข้ามากัดท่านให้ได้..
อาจารย์เปลี่ยนท่านพิจารณาในลิงสองตัวนี้ทำไมมันจึงมีความอาฆาตมาดร้ายต่อเรานักหนา... -
พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา
วันนี้วันพระตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด (๑๑) ปีระกา
ขอให้ทุกท่านมีความสุขในธรรม
เรื่อง..พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา
วันนี้ วันทำบุญตักบาตรเทโวฯ โดยประเพณีถือว่าวันนี้เป็นวันสำคัญ คือเป็นวันที่องค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จจากดาวดึงสเทวโลก ลงมาที่ประตู เมืองสังกัสนคร เพลานั้นองค์สมเด็จพระชินวรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อนวันเข้าพรรษาสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดง ยมกปาฏิหาริย์ ที่ เมืองสาวัตถี ซึ่งมี พระเจ้าปเสนทิโกศล บรมกษัตริย์เป็นองค์อุปถัมภ์ ในเมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ยมกปาฏิหาริย์ แล้ว ปรากฏว่าเวลานั้นเป็นเวลาพรรษาที่ ๗ แห่งการบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ สมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดามาระลึกถึงพระพุทธมารดา คือ “ท่านสิริมหามายาราชเทวี”
ในเมื่อองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติแล้วได้ ๗ วัน ท่านก็สวรรคต ปรากฏว่าตายจากความเป็นคน ไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดุสิต ก็ในฐานะที่เป็นพุทธมารดา แต่ว่าการเกิดในสถานที่นั้นมิได้เป็นผู้หญิง เป็นเทพบุตรคือเป็นผู้ชาย... -
ปชช.ชื่นชมภาพในหลวง ร.9 ติดฝาผนังพระอุโบสถ วัดอัมพุวราราม
ปชช.ชื่นชมภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 ติดฝาผนัง 89 ภาพ ที่พระอุโบสถวัดอัมพุวราราม
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ต.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ ภายในพระอุโบสถ วัดอัมพุวราราม ตำบลบ้านงิ้ว อำเภอสามโคก จังหวัดแ ซึ่งเป็นพระอุโบสถกาญจนาภิเษก ทรงเสวยสิริราชสมบัติครองราชครบ 50 ปี ในหลวงรัชกาลที่ 9 ประดับภาพติดฝาผนังพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 89 ภาพ
วัดอัมพุวรารามตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ทางทิศเหนือของวัดติดกับวัดไผ่ล้อม มีเนื้อที่ทั้งหมด 9 ไร่ 2 งาน 3 ตารางวา เป็นวัดเก่าแก่อายุในราว 200 ปี ต่อมาชาวมอญได้สร้างพระอุโบสถกาญจนาภิเษก ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระมหากษัตริย์ไทย และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงดูแลชาวไทยมอญมาอย่างดีโดยตลอด ซึ่งภายในพระอุโบสถได้ประดับภาพติดฝาผนังพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 89 ภาพ แทนจิตรกรรมฝาผนังแบบพระอุโบสถที่พบเห็นกันทั่วไป ซึ่งด้านฝาผนังทิศตะวันออกเป็นภาพวันที่พสกนิกรสูญเสียครั้งใหญ่หลวง ประชาชนชาวไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างร่ำไห้ระงมกันทั่วทั้งแผ่นดิน... -
สักการะวันสุดท้าย เที่ยงคืนนี้ ปิดกราบบรมศพ24.00น.ตัดแถวงดคิว รัฐบาลวอนประชาชน...
หลั่งไหล – พสกนิกรหลั่งไหลต่อคิวเข้ากราบถวายสักการะพระ บรมศพในหลวง รัชกาล ที่ 9 ท้ายแถวยาวถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สำนักพระราชวังกำหนดเปิดให้เข้าถึงเที่ยงคืนของคืนวันพฤหัสบดีที่ 5 ต.ค.นี้
กราบพระบรมศพ เที่ยงคืนวันนี้ตัดแถว ห้าม ต่อคิวเพิ่ม รัฐบาลวอนประชาชนร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงในพื้นที่ หวังให้ระลึกเมื่อครั้งเสด็จฯเยี่ยมในแต่ละท้องถิ่น แจงปิดถนนในวันพระราชพิธีหลายเส้นทาง
เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันที่ 336 ที่พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งมีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาเข้าคิวรอกราบถวายบังคมพระบรมศพอย่างไม่ขาดสาย ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายตั้งแต่ช่วงเช้า ประชาชนส่วนใหญ่ได้นำร่มมากางและสวมใส่เสื้อกันฝน แต่หลายรายยืนรอตากฝน เพื่อที่จะได้เข้าไปกราบพระบรมศพก่อนปิดในเวลา 24.00 น. ของคืนวันที่ 5 ต.ค. โดยท้ายคิวยาวไปจนถึงถนนดินสอ และมีแถวล้นออกมาบริเวณถนนราชดำเนิน กลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจึงอำนวยความสะดวก เพื่อความปลอดภัย... -
"หลวงตามหาบัว กับหลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต"
"หลวงตามหาบัว กับหลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต"
" .. ระยะนั้นเป็นพรรษาที่ ๑๖ ในชีวิตการบวชของท่านและเป็นปีที่ ๙ แห่งการออกปฏิบัติกรรมฐาน บนเขาลูกนี้ของคืนเดือนดับแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาล "ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓" ด้วยความอดทนพากเพียรพยายามติดต่อสืบเนื่องตลอดมานับแต่เริ่มออกปฏิบัติอย่างเต็มเหนี่ยว รวมเวลาถึง ๙ ปีเต็ม "คืนแห่งความสำเร็จระหว่างกิเลสกับธรรมภายในใจของท่านก็สามารถตัดสินกันลงได้ในเวลา ๕ ทุ่มตรง" ดังนี้ ..
รุ่งเช้า "องค์หลวงตาก็ลงจากวัดดอยธรรมเจดีย์มาถึงวัดป่าสุทธาวาส" เพื่อเข้ากราบบูชาสังเวชนียสถานระลึกบุญคุณหลวงปู่มั่นผู้มีพระคุณสูงสุดของท่าน "และที่วัดป่าสุทธาวาสแห่งนี้เป็นสถานที่แรกที่ท่านเปิดเผยความเสร็จสิ้นกิจทางโลกแก่พระผู้ร่วมบำเพ็ญสมณธรรมมาด้วยกัน" ตั้งแต่ครั้งอยู่กับหลวงปู่มั่น ที่วัดบ้านหนองผือ ดังนี้ ..
"ท่านเพ็งนี้เอง คือผู้ที่เราบอกเป็นคนแรก เมื่อเราพ้นจากสมมุติทั้งปวงแล้ว"
ที่ท่าน "ให้ความเมตตาต่อพระอาจารย์บุญเพ็ง เขมาภิรโต เช่นนี้ก็เนื่องจากติดสอยห้อยตามมานาน" และในระยะที่หลวงปู่มั่นยังมีชีวิตอยู่ที่วัดป่าบ้านหนองผือ... -
พรหมวิหาร ๔ (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
วันนี้วันพระตรงกับวันพุธ แรม ๘ ค่ำ เดือนสิบ (๑๐) ปีระกา
ขอให้ทุกท่านมีความสุขในธรรม
พรหมวิหาร ๔
ตอนที่ ๑ คุณธรรมที่ทำบุคคลให้เป็นผู้ใหญ่
พรหมวิหารมี ๔ อย่าง คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นหมวดหนึ่งเรียกว่า “พรหมวิหาร ๔”
“พรหม” แปลว่า ประเสริฐ
“วิหาร” แปลว่า ที่อยู่
“พรหมวิหาร ๔” แปลว่า ที่อยู่ของพรหม หรือว่า คุณธรรมที่ทำบุคคลให้เป็นพรหม หรือว่า คุณธรรมที่ทำบุคคลให้เป็นผู้ใหญ่ก็ได้ เพราะอะไร เพราะว่าผู้ใหญ่ต้องเป็นพรหมหรือคนที่เป็นพรหมก็คือผู้ใหญ่
คำว่า “ผู้ใหญ่” ไม่ใช่คนแก่ ไปถืออายุเป็นสำคัญนี้ไม่ได้ ผู้ใหญ่นี้ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ของอายุ ผู้ใหญ่นี้อยู่ในเกณฑ์ของคุณธรรม คือทรง “พรหมวิหาร ๔” แล้วก็ละ “อคติ ๔” นี่เรียกว่าผู้ใหญ่
“พรหมวิหาร ๔” มี เมตตา ความรักๆ เสมอกัน กรุณา มีความสงสารๆ เสมอกัน มุทิตา ไม่อิจฉาริษยาเมื่อคนทุกคนหรือใครคนใดคนหนึ่งได้ดี เรายินดีกับความดีของบุคคลนั้น อุเบกขา ถ้าสิ่งใดเกินวิสัยเกิดขึ้นถ้าปราก”ฏ ก็เป็นอันว่าเราวางเฉย เพราะมันเป็นสิ่งเกินวิสัย นี่ไม่ยาก…
นี่ผู้ใหญ่ก็ต้องทรงคุณธรรม ๔ ประการ แล้วก็ต้องเว้นความเลว ๔ ประการ คือ “อคติ” แปลว่า ลำเอียง... -
หนุ่มอินโดฯเปิดสังเวียนสู้ชนะเจ้างูยักษ์ แต่ทิ้งรอยกัดเลือดสาด
เว็บไซต์ Dailymail รายงานว่าโรเบิร์ต นาบาบัน รปภ.หนุ่มอินโดนีเซียวัย 37 ปี เจอเหตุระทึกขณะขี่มอเตอร์ไซค์เพื่อเดินทางกลับบ้าน เมื่อพบคนเดินเท้า 2 รายที่กำลังข้ามถนน แต่กลับถูกงูขนาดใหญ่ประมาณ 23 ฟุต หรือราว 7 เมตรกีดขวางเส้นทาง ทันใดนั้นเขาจึงแสดงความกล้าหาญเข้าช่วยเหลือและเผชิญหน้ากับอสรพิษร้ายจนถูกมันโอบรัดและกัดฝังเขี้ยว
จากนั้นเขาจึงได้ต่อสู้ก่อนจะฆ่ามันสิ้นใจตาย แต่ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นแผลลึกที่แขนและมือ ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
แต่เขาก็ยังสติและเล่าเหตุการณ์สุดระทึกนี้ได้ว่า ผมพยายามที่จะจับมัน แต่มันก็พุ่งฉกแขน จากนั้นก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันระยะหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเอาชนะในเกมแห่งชีวิตครั้งนี้ได้ ขณะที่ซากของเจ้างูยักษ์ก็ถูกมาแขวนโชว์บนราวตากผ้า สร้างความสะพรึงให้กับคนในหมู่บ้าน และสร้างความกล่าวขานไปอีกนาน
ขอบคุณที่มา
http://morning-news.bectero.com/international/04-Oct-2017/111634 -
ส้วมเคลื่อนที่ (หลวงปู่แหวน สุจิณโณ)
++ ส้วมเคลื่อนที่ +++
“ภายใต้หนังกำพร้าของคนเรามีแต่ความโสโครก น่าเกลียดน่าสะอิดสะเอียน มีอวัยวะภายใน เช่น ตับ ไต ไส้น้อย ไส้ใหญ่ กระเพาะ น้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง น้ำดี อุจจาระ ปัสสาวะ เหงื่อไคล ขังอยู่ภายในร่างกายโดยมีหนังกำพร่าห่อหุ้มอยู่
ถ้าลอกหนังออกจะเห็นร่างมีเลือดไหลโซมกาย เนื้อที่ปราศจากผิวหนังห่อหุ้มจะมองไม่เห็นความสวยสดงดงามเลย มองแล้วอยากจะอาเจียนมากกว่าน่ารัก ที่พอจะมองเห็นว่าสวยงามก็ตรงผิวหนังห่อหุ้มเท่านั้น ผิวหนังนี้ก็ใช่ว่าจะเกลี้ยงเกลาเสมอไปไม่ คนเราต้องคอยอาบน้ำชำระล้างทุกวันเพราะสิ่งโสโครกเหงื่อไคลภายในหลั่งไหลออกมาลบเลือนความผุดผ่องของผิวกายอยู่ตลอดวัน ถ้าไม่คอยชำระล้างก็จะสกปรกเหม็นสาบน่ารังเกียจ ทางช่องทวารขับถ่ายอุจจาระปัสสาวะ ก็หลั่งไหลออกมาตามกำหนดเวลาของมันทุกวัน น่ารังเกียจ เลอะเทอะโสมม ซึ่งเจ้าของไม่ปรารถนาจะแตะต้องทั้งๆ ที่เป็นของในกายของตัวเอง
ยิ่งพิจารณาไปคนเราก็คือส้วมเคลื่อนที่ หรือป่าช้าที่บรรจุซากศพเคลื่อนที่ และเป็นผีเน่าที่เดินได้ดีๆ นี่เอง”
…หลวงปู่แหวน สุจิณโณ…
ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น -
กำหนดการ ออกพรรษา ตักบาตรเทโวฯ ทอดกฐินวัดท่าซุง
วันที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ พระสงฆ์วัดท่าซุง พร้อมด้วยญาติโยม ช่วยกันกันท่าสีปิดทองคำเปลว “พระจิตกตัญญู” โดยทาสีทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ และอีกส่วนนึงช่วยกันนำพระหน้าตัก ๔ ศอก จากชั้น ๓ ของมหาวิหารฯ ลงมายังกองกฐิน เพื่อจัดเตรียมสถานที่ ส่วนวันนี้ ในส่วนปิดทองคำเปลวองค์พระจิตกตัญญู จะแล้วเสร็จในค่ำวันนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ลื้อนังร้านและจัดเวทีด้านหน้าพระประธาน ต่อไป
***แจ้งข่าว กำหนดการ ออกพรรษา ตักบาตรเทโวฯ ทอดกฐินวัดท่าซุง
วันที่ ๕ ต.ค พ.ศ. ๒๕๖๐ ทำบุญวันออกพรรษา
วันที่ ๖ ต.ค พ.ศ. ๒๕๖๐ ตักบาตรเทโวฯ
วันที่ ๗ ต.ค พ.ศ. ๒๕๖๐ เริ่มงานกฐิน
วันที่ ๘ ต.ค พ.ศ. ๒๕๖๐ วันถวายกฐิน เวลา ๑๓.๐๐ น.ทำพิธีถวายผ้ากฐิน
ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร -
พระฝรั่งกับเรื่องที่ยังจําฝังใจ “สุเมโธยอมแล้วบ่…”
พระฝรั่งกับเรื่องที่ยังจําฝังใจ “สุเมโธยอมแล้วบ่…”
พระฝรั่งรูปแรกของวัดหนองป่าพง เป็นอดีตนายทหารหน่วยเสนารักษ์แห่งกองเรือสหรัฐอเมริกาในสงครามเกาหลี
หลังจากที่นายทหารผู้นี้ได้ฟังกิตติศัพท์เกี่ยวกับวัตรปฏิบัติอันเคร่งครัดของหลวงพ่อชาแล้วก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมากจึงเดินทางมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ซึ่งหลวงพ่อก็เมตตารับไว้โดยมีเงื่อนไขว่า จะไม่หาอะไรมาบํารุงท่านให้ได้ตามอยาก และท่านจะต้องทําตามระเบียบข้อวัตรเหมือนที่พระเณรไทยเขาทํากันอุบายในการสอนและการทดสอบพระฝรั่งรูปนี้มีหลายประการ
ท่านสุเมโธเล่าว่า…
“…บางครั้งหลวงพ่อก็เล่าให้โยมทั้งศาลาฟังถึงเรื่องที่ผมทําไม่สวยไม่งาม เช่น การฉันข้าวด้วยมือแต่เปิบไม่เป็น ขยุ้มอาหารขึ้นมาเต็มกํามือแล้วโปะใส่ปากใส่จมูกเลอะเทอะไปทั้งหน้า ทั้งพระทั้งโยมหัวเราะกันลั่นศาลา
ผมนั้นทั้งโกรธทั้งอาย
“…ทุกเช้าเวลาหลวงพ่อกลับจากบิณฑบาตจะมีพระเณรหลายรูปไปรอที่หน้าศาลาเพื่อคอยล้างเท้าท่าน ระยะแรกๆ ที่ผมไปอยู่ที่วัดหนองป่าพง ได้เห็นกิจวัตรนี้ทีไรก็ได้แต่นึกค่อนขอดพระเณรเหล่านั้นอยู่ในใจ ล้างเท้าท่านแค่รูปเดียวสองรูปก็พอทําไมต้องไปมากมาย... -
เพราะเหตุใด..ในหลวงร.๙ ถึงทรงพระสุบินถึง "พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ" รัชกาลที่ ๑ อยู่บ่อยครั้ง ?!!
เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๕ "หลวงพ่อพุธ ฐานิโย" ได้เข้าเฝ้า "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" และ "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ" ณ พระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในการเข้าเฝ้าครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระราชปุจฉาสนทนาธรรมกับหลวงพ่อพุธเกี่ยวกับการที่พระองค์ทรงพระสุบินถึง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ อยู่บ่อยครั้ง
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช : อยากเรียนถามพระคุณเจ้าว่า เคยฝันถึงท่านพระพุทธยอดฟ้า เคยฝันถึงท่านหลายครั้ง ไม่ทราบว่าฝันถึงท่านเองหรือใจนึกถึง?
หลวงพ่อพุธ : พลังใจที่ได้เคารพบูชาที่มีความกตัญญูกตเวทีต่อบรรดาพระบรมมหากษัตราธิราชเจ้าทั้งหลายในอดีตนั้นย่อมเป็นพลังอันหนึ่งซึ่งสามารถทำให้จิตใจของพระองค์ปฏิพัทธ์ถึงพระองค์ท่านทั้งหลายเหล่านั้นด้วยความแน่นอน ซึ่งปกติแล้ว ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของความดี ผู้ที่มีความกตัญญูกตเวทีนั้นได้ชื่อว่าเป็นผู้มีคุณธรรม เป็นพื้นฐานให้เกิดความดี ดังนั้น การที่ได้ฟังเกี่ยวกับการปฏิบัติสมาธิภาวนาที่คิดว่ายังไม่เป็น ยังไม่ชำนาญนั้น... -
ในหลวงรัชกาลที่ ๙ สนทนาธรรมกับหลวงตาพระมหาบัว : สาวกภูมิกับพุทธภูมิต่างกันอย่างไร
เมื่อพระองค์กราบองค์หลวงตาเสร็จ ทรงถวายคำถามดังต่อไปนี้
(พระเจ้าอยู่หัวเรียกหลวงตาว่า "หลวงปู่" )
.
พระเจ้าอยู่หัว : หลวงปู่.. สาวกภูมิกับพุทธภูมิต่างกันอย่างไร
หลวงตา : พุทธภูมิ ก็เหมือน ดั่งเรานั่งรถไฟนั่งรถไฟไปเชียงใหม่ หรือนั่งรถไฟไปอุดรนั่นแหละพุทธภูมิแต่ถ้าเรานั่งจักรยานมาหรือนั่งมอเตอร์ไซค์ ขี่มอเตอร์ไซค์ไปนั่นแหละ..สาวกภูมิเพราะฉะนั้นการเป็นพุทธภูมิก็คือการนำคนไปได้เยอะ ๆ ส่วนสาวกภูมินั้นนำไปได้น้อยๆ ไม่ได้มากนัก อย่างเก่งก็ ๑ คน หรือ ๓-๔ คน ก็ว่ากันไป นั่นคือสาวกภูมิเข้าใจไหมล่ะพ่อหลวง
.
พระเจ้าอยู่หัว : เข้าใจแล้วหลวงปู่ แล้วนิพพานเป็นอย่างไรนะหลวงปู่
หลวงตา : อ้อ พ่อหลวงเหมือนพ่อหลวงมาวัดป่าบ้านตาดนี่แหละรู้ไหมว่าวัดป่าบ้านตาดอยู่ตรงไหน อยู่บนกุฏินี่เหรอ วัดป่าบ้านตาดอยู่ไหนล่ะแต่พอพระมหากษัตริย์มาถึงนี่แล้ว บริเวณนี้ทั้งหมดคือวัดป่าบ้านตาดนี้แหละแต่จะชี้ลงไปว่าที่กุฏิอาตมาก็ไม่ใช่ ที่กุฏิพระก็ไม่ใช่ ที่ศาลาก็ไม่ใช่ไม่ใช่ทั้งหมด แต่เมื่อรวมกันทั้งหมดในกำแพงวัดนี้นี่แหละคือวัดป่าบ้านตาด นี่แหละพระนิพพานก็มีความหมายแบบเดียวกัน
.
พระเจ้าอยู่หัว :... -
การใช้ “ปัญญา” : ธรรมโอวาทหลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท
..การที่ใช้การค้นคว้า เรียกว่า “ปัญญา”
การนึกคิดปรุงแต่งของร่างกายของเรา นึกคิดถึงอันใดก็แล้วแต่ สิ่งที่เรารัก สิ่งที่เราชอบใจ ก็เอามาพิจารณา เป็นแก้วแหวนเงินทองข้าวของที่รักที่ชอบใจอันใดอันหนึ่ง ก็เอามาพิจารณา
ว่าอันนั้นเมื่อเราตายแล้วเป็นของเราหรือเปล่า แล้วสิ่งนั้นเขาว่าเป็นของของเราหรือ หรือเราไปยึดเขา ก็ดูหัวใจเรา ที่เอื้อมไปพิจารณาอย่างนั้นด้วย อันนั้นเขาว่าอะไร ใจเรานี้ต่างหากเป็นคนไปว่า เป็นของของเรา ของสวยของงามใครมาลักมาเอาไปไม่ได้ นี่...มันก็ต้องดูตัวนี้อีกทีหนึ่ง มองดูหัวใจที่มันคิดไปอย่างนั้น นี่...ต้องพิจารณาอย่างนี้
พิจารณาลงไปอย่างนั้นแล้ว เมื่อพิจารณาแล้ว เราก็มาหยุดใจ ให้เป็นปกติ ไอ้ใจที่เป็นปกตินี้ มันไม่มีว่าอะไรนี่ มันมีแต่หน้าที่แต่ “รู้” อยู่อย่างเดียวเท่านั้น อยู่กับความปกติของใจ
นี่...เพราะฉะนั้นจึงต้องค้นคิด พิจารณา การพิจารณาเป็นบาทสำคัญ แต่ว่า การพิจารณาอย่างนี้ คนไม่ค่อยชอบ เพราะมันต้องคิด ต้องนึก ต้องปรุง
ยิ่งปรุงในร่างกายเท่าไร พิจารณาร่างกายเท่าไร ใจนั้นยิ่งสงบ เยือกเย็นลงเป็นลำดับ เมื่อใจได้พิจารณาถึงกาย พิจารณาตั้งแต่หัว มีตา มีหู มีจมูก มีปาก... -
เรื่องราวของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า : ปกิณกะบทคาถาเงินล้าน
๐บทคาถาเงินล้าน๐
@ พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ
@ พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม
@ มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม
@ มิเตพาหุหะติ
@ พุทธมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
@ วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
@ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม
@ สัมปติจฉามิ
@ บทแรก “ พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ ” อันนี้ “ ตัดอุปสรรคที่ลาภจะมา “ แม่เขามาบอกว่ามีผลแน่นอน คือว่าแกจะไม่ยอมให้ลูกแกจน พูดง่ายๆ ก็แล้วกัน พระพุทธเจ้าก็ทรงยืนยัน บอกว่าให้ได้หมด
@ บทที่สอง “ พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม “ คาถาบทนี้เป็น “คาถาเงินแสน” ของท่าน
@ บทที่สาม “ มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม “ บทนี้เป็น “คาถาปลุกพระวัดพนัญเชิง”
@ บทที่สี่ “มิเตพาหุหะติ “ เป็น “คาถาเงินล้าน”
@ บทที่ห้า “พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม” (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
@ บทที่หก “สัมปติจฉามิ” บทนี้เป็น “บทเร่งรัด” บทสุดท้าย
(ต่อมาหลวงพ่อแนะนำให้เติม “นาสังสิโม” ข้างหน้า “พรหมมา” ต่อมาท่านให้เติม “เพ็งๆพาๆหาๆ ฤาๆ”... -
แรม๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงกลางเดือน๑๒ บุญที่ยิ่งใหญ่ "อานิสงส์กฐินทาน"(หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
วันแรม๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงกลางเดือน๑๒ ..อานิสงส์แห่งบุญที่ยิ่งใหญ่ "อานิสงส์กฐินทาน" หลวงพ่อฤาษีลิงดำบอกไว้อย่างชัดเจน
อานิสงส์กฐินทาน........พระราชพรหมยาน( หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
ต่อไปนี้ จะพูดถึงอานิสงส์กฐิน เอาย่อๆนะ อานิสงส์ในการถวายกฐิน หรือว่าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายถวายสังฆทาน สังฆทานวันนี้เป็นสังฆทานของกฐิน การถวายสังฆทานทุกอย่างมีผลควบกับกฐิน เพราะเป็นวันของกฐิน ความจริงการทอดกฐิน ไม่ใช่ประเพณีนิยม เป็นพระวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่า ผ้ากฐินทาน จะรับได้ก็ต่อเมื่อถึงวันแรม๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงกลางเดือน๑๒ หลังจากนั้น จะทอดขนาดไหนก็ตาม จะไม่เป็นกฐิน ฉะนั้น กฐินมีเวลากาลจำกัด
ทีนี้ ว่าถึงอานิสงส์กฐิน อานิสงส์กฐินนี้ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านเคยเทศน์ และก็เทศน์ตามบาลี ท่านพูดถึงอานิสงส์ให้ทราบ ฉะนั้น การถวายวันนี้ทั้งหมด เมื่อวานก็ดี วันนี้ก็ดี จะเป็นเงินก็ตาม จะเป็นของก็ตาม ถือว่าทุกอย่าง เป็นอานิสงส์กฐิน
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
ต่อไปนี้ก็โปรดทราบ จะนำพระสูตรตามที่ท่านกล่าวไว้ในบาลีให้ทราบ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ในสมัยพระองค์เกิดเป็น"มหาทุคคตะ"... -
ออกกำหนดการ งานพระราชพิธี วันที่13-14ตุลา.
ราชกิจจานุเบกษาประกาศหมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี วันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ขณะที่กระทรวงวัฒนธรรมจัดทำหนังสือที่ระลึกงานพระราชพิธี ‘นวมินทรา ศิรวาทราชสดุดี’ และ ‘พระเสด็จสู่ฟ้า ราษฎร์ล้วนอาลัย’ สมพระเกียรติ เตรียมแจกจ่ายประชาชน 3 หมื่นเล่ม
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ราชกิจจานุเบกษาประกาศหมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี วันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตุลาคม พุทธศักราช 2560
เลขาธิการพระราชวัง รับพระราชโองการเหนือเกล้าฯ สั่งว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระบรมชนกนาถ เสด็จสวรรคตจะบรรจบครบรอบ 1 ปี ในวันศุกร์ ที่ 13 ตุลาคม 2560 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดการทรงบำเพ็ญพระราชกุศล มีกำหนดการ ดังนี้
วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง
เวลา 17 นาฬิกา เสด็จพระราชดำเนินเข้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท... -
แจงคำสั่งเจ้าคณะใหญ่ให้วัดงดเว้นขายวัตถุมงคลในโบสถ์
จากกรณีที่วัดหลายแห่งทั่วประเทศเกิดความสับสนกับคำสั่งเจ้าคณะปกครอง เกี่ยวกับการห้ามไม่ให้วัดจำหน่ายพระบูชา วัตถุมงคล ภายในและบริเวณพระอุโบสถ หรืออุโบสถว่า เป็นการห้ามไม่ให้วัดจัดสร้างวัตถุมงคลนั้น วันนี้( 3 ต.ค.) นายประดับ โพธิกาญจนวัตร โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า คำสั่งเจ้าคณะใหญ่แต่ละภาคการปกครองคณะสงฆ์ที่ออกมาเกี่ยวกับเรื่องคุมเข้มพฤติกรรมพระ เณร ทั้งห้ามวิพากษ์ วิจารณ์กระทบสถาบัน เป็นคำสั่งที่ออกมาตามแผนการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ฝ่ายปกครองของคณะสงฆ์ไทย โดยคำสั่งดังกล่าวนั้น ถือเป็นคำสั่งเดิมที่ คณะสงฆ์เคยออกมาแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นการเน้นย้ำให้คณะสงฆ์ได้ปฏิบัติอีกครั้ง ไม่ให้ปล่อยปละละเลย ที่สำคัญเป็นการปฏิรูปกิจการคณะสงฆ์ให้อยู่ระเบียบและพระธรรมวินัยเข้มข้นขึ้น
นายประดับ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีหลายวัดเกิดความสับสนเกี่ยวกับการสร้างวัตถุมงคลนั้น คำสั่งดังกล่าวไม่ได้ห้ามเรื่องการสร้างแต่อย่างใด แต่สั่งการให้วัดไม่ควรนำวัตถุมงคลมาวางจำหน่ายภายในพระอุโบสถ หรืออุโบสถ เพราะจะเกิดความไม่เหมาะสม เนื่องจากพระอุโบสถ หรืออุโบสถ... -
วัดพุทธชินราชรายได้ลดวันละ 8 หมื่นบาท หลังมีคำสั่งห้ามจำหน่ายวัตถุมงคล
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก หรือ วัดใหญ่ ขณะนี้ยอดเงินบูชาวัตถุมงคลลดลงวันละ 80,000 หมื่นบาท ซึ่งอาจจะทำให้ไม่มีเงินใช้จ่ายสำหรับพระและเณรในวัด
จุดที่ให้เช่าบูชาวัตถุมงคล ที่เคยอยู่จากในวิหารหลวงพ่อพุทธชินราช ถูกย้ายออกมาวางด้านนอกวิหาร ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 4 ยอดเงินบูชาหายไปวันละ 80,000 บาท ทั้งที่เป็นเจ้าเดิมที่เคยอยู่ในวิหารแต่ประชาชนรู้สึกไม่แน่ใจว่าเป็นของแท้ของวัดหรือไม่ โดยวัดต้องติดป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งไว้
หากยอดเงินบูชาวัตถุมงคลตกลงต่อเนื่องเช่นนี้ วัดอาจจะไม่มีเงินใช้จ่ายสำหรับพระและเณรรวมกว่า 300 รูป โดยในแต่ละเดือนวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก มีรายจ่ายประมาณ 1-2 ล้านบาท รวม 4 วันที่ย้ายจุดบูชาวัตถุมงคลออกมาจากวิหาร รายได้หายไปแล้วกว่า 300,000 บาท
ขอขอบคุณที่มา
http://news.thaipbs.or.th/content/266632 -
"เขาสมิง" !!! ดินแดนแห่งผู้ทรงธรรม หรือ ความแค้นจนพ่ายแพ้ต่อกรรม !!
ตำนานเล่าขานที่ไม่ธรรมดาของ "เขาสมิง" !!! ดินแดนแห่งผู้ทรงธรรม หรือ ความแค้นจนพ่ายแพ้ต่อกรรม !!! #ที่สุดแห่งเรื่องเล่าครั้งโบราณ
เขาสมิง ปัจจุบันเป็นชื่อของอำเภอหนึ่งในจังหวัดตราด อำเภอเขาสมิงตั้งอยู่ทางทิศเหนือของตัวจังหวัด หากเดินทางไปเมืองตราดจะต้องผ่านอำเภอเขาสมิงนี้ก่อน ชื่อเขาสมิง เป็นภูเขาเล็กๆ ลูกหนึ่งซึ่งอยู่ห่างตัวอำเภอราว ๓ กิโลเมตร
เรื่องนี้ก็เหมือนตำนานอื่น ๆ ที่คนเล่าต่างยืนยันว่ามันเป็นเรื่องจริง เรื่องมีอยู่ว่า มีชายคนหนึ่ง (ชื่อของเขาหล่นหายไปตามกาลเวลา คือไม่ทราบแล้วว่าชื่ออะไร) เขามีเรื่องขัดใจกับเพื่อนบ้าน เขาคิดจะล้างแค้นเพื่อนของเขา เขาเป็นคนที่เรียนวิชาอาคม เขามีสิ่งหนึ่งที่เรียกกันว่า น้ำมันสมิง สมิงคือเสือที่สามารถกลายร่างเป็นคนได้ คือจะแปลงร่างเป็นคนเพื่อหลอกพรานป่าให้ลงมาจากการนั่งห้างบนที่สูงเพี่อจับกินเป็นอาหาร เสือสมิงสามารถแปลงกายได้หลายแบบ ทั้งเด็กผู้ชาย ผู้หญิง และบางครั้งแปลงเป็นพระธุดงค์ก็ยังได้ตามแต่มันจะต้องการ
ที่มันสามารถกลายร่างเป็นคนได้นั้นเชื่อกันว่า เกิดจากการที่มันเป็นเสือที่ดุร้ายและฆ่าคนเป็นอาหารจำนวนมาก วิญญาณมนุษย์จึงเข้าสิง... -
ด้วยเวรกรรมที่ทำมา! ทำกรรมแบบใด ถึงได้เกิดเป็น พ่อแม่-ลูกกัน...
ด้วยเวรกรรมที่ทำมา! ทำกรรมแบบใด ถึงได้เกิดเป็น พ่อแม่-ลูกกัน... ลักษณะของลูก ๔ แบบ จะมาเกิดเพื่อแทนคุณ หรือ ทวงคืน??
กฎแห่งกรรม 3 ชาติ ได้บันทึกไว้ว่า
ชาวโลกทุกคน เกิดมาต่างหนีไม่พ้น พบ พราก สุข ทุกข์ เศร้า อภัย แค้น รัก ชัง นี่คือผลแห่งของกรรม ปลูกเหตุเช่นไร ย่อมได้ลิ้มผลเช่นนั้น ไม่ว่าจะเหตุใด หรือ ผลใด ล้วนหนีไม่พ้น กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น
“สามีภรรยา” เองก็มีกรรมร่วมกันมา ไม่ว่าจะกรรมดี หรือกรรมชั่ว ถ้าไม่มีกรรมร่วมกันมาเลย ก็ไม่อาจอยู่ร่วมบ้านหลังเดียวกันได้ ส่วน“บุตรธิดา” นั้นคือ หนี้ ไม่ว่าจะเป็นทวงหนี้ หรือชดใช้หนี้ ก็สุดแท้แต่เวรกรรมที่ทำมา หากไม่มีหนี้ ไม่มาเกิดเป็น บิดา มารดา ลูกกัน ได้ เช่นนั้น สามีภรรยาคู่ใด ที่มีกรรมดีร่วมกันมา ย่อมสมานสามัคคี รักใคร่กลมเกลียว ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร ส่วนสามีภรรยา ที่มีกรรมชั่ว ร่วมกัน มาแต่อดีตชาติ ย่อม ทะเลาะเบาะแว้ง บ้านแตกสาแหรกขาด ไม่อาจอยู่ร่วมกัน จนวันตาย
ส่วน “บุตรธิดา” นั้น จะมาเกิดใน ๔ ลักษณะต่อไปนี้ ....
๑. มาแทนคุณ ด้วยบุญในอดีต ที่ได้สั่งสมร่วมกันมา ด้วยพระคุณที่มีต่อกัน จึงได้มาเกิดเป็นครอบครัวเดียวกัน... -
ยอดพระไตรปิฏก : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
ยอดพระไตรปิฏก
ผู้ถาม : กราบเรียนถามหลวงพ่อที่เคารพ เขาบอกว่ามีคาถาบทหนึ่งคือยอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎก เขาเขียนไว้ว่า ถ้าภาวนาแล้วจะไม่ตกนรก ลูกอยากเรียนถามว่า ถ้าภาวนาเป็นประจำบาปกรรมที่ทำจะไม่ทำให้ตกนรกหรือเจ้าคะ
หลวงพ่อ : ฉันว่าเอายังงี้ดีกว่า เขาเอายอดใช่ไหม ฉันจะให้เหง้าพระไตรปิฎก ยอดน่ะหักได้ เหง้าน่ะหักไม่ได้นะ เอายังงี้ซิ ภาวนาด้วยแล้วก็ทำด้วย แค่ภาวนาอย่างเดียวอย่าไปเชื่อใครเขานะ ดีไม่ดีเวลาตายอกุศลเข้าแทรกจิตได้ เวลานั้นไปนรกแน่ เวลาภาวนาก็ไม่ยาก ใช้ศัพท์ภาวนาว่า พุทโธ ก็ได้ นะมะพะทะก็ได้
พุทโธ เป็นพระนามขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแค่นึกถึงชื่อพระพุทธเจ้าอย่างเดียวไปสวรรค์นับไม่ถ้วน แต่การทำอย่างนี้ถ้าหมดบุญจากสวรรค์ ลงนรกได้เหมือนกัน
วิธีป้องกันป้องกันเขาทำแบบนี้
๑.ไม่ลืมว่าชีวิตจะต้องตาย
๒.ยอมรับนับถือพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ด้วยความจริงใจ
๓.รักษากรรมบถ ๑๐ ให้ครบถ้วน คือ ทางกาย ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ทางวาจา ไม่พูดปด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล ทางใจไม่คิดอยากได้ทรัพย์สมบัติ ของใครโดยไม่ชอบธรรม ไม่จองล้าง จองผลาญใคร... -
ปริศนา สะกิดเตือนใจจากพระอาจารย์มั่น
หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ท่านพูดเป็นปัญหาว่า "กล้วย ๔ หวี สำรับอาหาร ๔ สำรับ สามเณรนั่งเฝ้า พระเจ้านั่งฉัน"
เราในฐานะผู้ฟังจากท่านมาก เบื้องต้นก็จำได้แค่นี้ เก็บไว้อย่างนี้แหละ แต่ไม่มีการตีความหมายให้แจ่มแจ้ง ถ้าจะพูดแล้ว ปัญหาที่ว่านี้ เป็นปัญหาธรรมะเปรียบเทียบกับการปฏิบัติของบุคคล
หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ...ท่านได้กล่าวไว้ว่า "เพราะฉะนั้นเราอย่าประมาทในคำพูดแต่ละคำของครูบาอาจารย์ จะทำให้พลาดจากของดีที่ท่านให้ไว้"
ข้อธรรมะที่ท่านให้ไว้แล้วนำไปตีความหมายให้ละเอียดลงไปว่า "กล้วย ๔ หวี ได้แก่ ธาตุ ๔ เณรน้อยนั่งเฝ้า ได้แก่คนที่ไง่เขลาเบาปัญญา ไม่รู้เท่าทันตามหลักของธาตุ ๔ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม นั่งเฝ้าตัวเองอยู่ ไม่รู้ว่าในตัวของตนนั้นมีอะไรบ้าง กินแล้วก็นอน เลี้ยงร่างกายให้อ้วนท้วนสมบูรณ์ไม่ได้ทำอะไรที่ดีให้เกิดขึ้นแก่ตัวเองเลย อันนี้แหละชื่อว่าโง่เขลาเบาปัญญา ได้แต่นั่งเฝ้าตัวเองอยู่ สามเณรนั่งเฝ้าสำรับที่มีอยู่แล้วโดยไม่ฉัน ก็หมายถึงบุคคลที่ไม่รู้ธาตุ ๔ ตามความเป็นจริงว่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลมเป็นอย่างไร ไม่ยอมกำหนดรู้แบบชนิดที่ให้เกิดปัญญา "พระเจ้านั่งฉัน"...
หน้า 349 ของ 432