Featured Threads Archive
-
ศน.อบรมพระธรรมวิทยากร สอนธรรมะเยาวชน
ศน. เร่งพัฒนาทักษะและสมรรถนะพระธรรมวิทยากร 200 รูป เรียนรู้เทคนิคเผยแผ่พระธรรม และเป็นแกนนำเครือข่าย อบรมกล่อมเกลาเยาวชนพ้นวิกฤติด้านศีลธรรม
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2560 นายมานัส ทารัตน์ใจ อธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีเปิด “โครงการพัฒนาสมรรถนะพระธรรมวิทยากรเผยแผ่พระพุทธศาสนา” ภายใต้กองทุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 โดยพระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมและเผยแพร่การพระศาสนาแห่งประเทศไทย วัดยานนาวา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
นายมานัส กล่าวว่า สังคมไทยในปัจจุบันได้รับผลกระทบจากข้อมูลข่าวสารทางเทคโนโลยีสารสนเทศที่เผยแพร่กันอย่างรวดเร็วกว้างขวาง แต่ขาดการกลั่นกรอง ทำให้เยาวชนของชาติหมกมุ่นหลงใหลไปในทางที่เสื่อม จำเป็นต้องนำหลักธรรมทางศาสนา มาสร้างภูมิคุ้นกันทางจิตใจให้เข้มแข็ง ไม่ตกเป็นเหยื่อของสิ่งล่อลวงต่าง กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จึงจัดโครงการพัฒนาสมรรถนะพระธรรมวิทยากรเผยแผ่พระพุทธศาสนาประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ขึ้นในระหว่างวันที่ 25-28 กันยายน 2560 ณ วัดยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร... -
เรื่อง “ถือหมู่คณะ แบ่งพรรคแบ่งพวก ระวังอนันตริยกรรม”
ระวังนะ เวลาพระวัดใดวัดหนึ่ง ขัดผลประโยชน์กัน แตกสามัคคีกัน ทะเลาะเบาะแว้งกัน ญาติโยมอย่าไปสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เดี๋ยวจะกลายเป็น “อนันตริยกรรม” ไม่รู้ตัว เช่นอย่าง หลวงพ่อวัดใต้ หลวงพ่อวัดเหนือ ต่างก็มีหน้าที่กันเยอะแยะ ขัดผลประโยชน์กันแล้วก็ไปทะเลาะถีบเถียงกัน ต่างคนก็ต่างมีลูกศิษย์ ทั้งพระทั้งโยมแตกกันเป็นพรรคเป็นพวก ยกพวกขึ้นมารบกัน ถ้าพระสงฆ์แตกสามัคคีกันเป็นกลุ่มตั้งแต่ฝ่ายละ ๔ รูปขึ้นไป นั่นเป็น “สังฆเภท”
ในเมื่อ “สังฆเภท” แล้วก็เป็น “อนันตริยกรรม” ทำลายสงฆ์ให้แตกกัน บาปนัก บาปหนา เพราะฉะนั้นการกระทำกรรม ให้ระวัง “อนันตริยกรรม” ให้มากๆ
และอีกอย่างหนึ่งถ้าท่านจะเป็นนักปฏิบัติอย่างแท้จริง ท่านอย่าไปถือพวก ถือพรรค ถือคณะ ว่าหมู่เขา หมู่เรา อาจารย์เขา อาจารย์เรา ขอให้ยึดถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะที่พึ่ง ถือพระศาสดาคือพระพุทธเจ้าองค์เดียวเป็นครู พระสาวกที่เผยแผ่ศาสนาอยู่ในปัจจุบันนี้ ถอดแบบจากพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้าทั้งนั้น
(คติธรรม หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น -
แม่เฒ่าน้ำตาซึม! พระมาหาถึงบ้านขนของบริจาคผู้มีจิตศรัทธาชาวบางเสร่มาช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 24 ก.ย ที่วัดสามัคคีบรรพต ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พระครูทัศนีย์คุณากร เจ้าคณะอำเภอสัตหีบ และเจ้าอาวาสวัดสัตหีบ พร้อมด้วย พระสังฆาธิการในอำเภอสัตหีบ พระครูเกษมกิตติโสภณ (อาจารย์จ่อย) เจ้าอาวาสวัดสามัคคีบรรพต พระครูวิธานธรรมมานุยุต เจ้าอาวาสวัดบางเสร่คงคาราม พร้อมด้วย นายกฤษณพันธ์ เดชครุธ นายอำเภอสัตหีบ น.อ.วิโรจน์ วังแก้วหิรัญ อดีตประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
นายพนธกร ใคร่ครวญ รองนายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ น.ส.กัญญา สำโรงทอง ผู้มีจิตศรัทธาชาวบางเสร่ ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกกิ่งกาชาดอำเภอสัตหีบ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเทศบาลตำบลบางเสร่ ตลอดจนผู้มีจิตศรัทธาในพื้นที่ตำบลบางเสร่ ได้ร่วมกันนำข้าวสารอาหารแห้ง พร้อมเงินช่วยเหลือไปบริจาคให้ประชาชนที่เดือดร้อน ตกทุกข์ได้ยาก พิการ ช่วยเหลือตัวเองลำบาก มีฐานะยากจน ผู้สูงวัย ผู้ป่วยติดเตียง ตามบ้านที่ชุมชนหมู่ที่ 9 ต.บางเสร่
พระครูทัศนีย์คุณากร กล่าวว่า ในการร่วมกันไปบริจาคข้าวสารอาหารแห้งให้คนในชุมชนหมู่ที่ 9 ตำบลบางเสร่ สิ่งของจะประกอบไปด้วย ข้าวสาร น้ำมันพืข ปลากระป๋อง มาม่า ไข่ น้ำปลา น้ำส้ม ขนมอื่นๆอีกมายมาย... -
"หลวงปู่ขาว เล่าเรื่องบักสีนวล"
"หลวงปู่ขาว เล่าเรื่องบักสีนวล"
" .. "หลวงปู่ขาว อนาลโย" ได้เที่ยววิเวกไปในเขตจังหวัดเพชรบุรี (พ.ศ. ๒๔๖๙) ชาวบ้านบอกว่า มีถ้ำแห่งหนึ่งสวยงามมาก เสียแตว่ามีลิงอาศัยอยู่มากมาย จึงไม่สงบ
หลวงปู่ได้ไปดูถ้ำแห่งนั้น "ท่านชอบสถานที่ จึงตกลงใจพักบำเพ็ญภาวนาที่ถ้ำแห่งนั้น" หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า พวกลิงที่นั่นซุกซนเหลือเกิน คราวใดที่หลวงปู่ไม่อยู่ พวกมันชอบมาลักโขมยของไป หรือไม่ก็แอบย่องเบา เมื่อคิดว่าหลวงปู่เผลอ
เป็นต้นว่า "เวลาหลวงปู่นั่งฉันอยู่ ลิงบางตัวก็แอบย่องมาข้างหลังท่าน หลวงปู่ฉันด้วยอาการสำรวม ไม่มองซ้ายมองขวา ไม่ได้สนใจกับพวกลิงมัน มันคงนึกว่าหลวงปู่เผลอ จึงแอบยื่นมือสอดเข้ามาระหว่างแขนของท่าน แล้วล้วงหยิบกล้วยในบาตรวิ่งหนีไปก็มี" โดยหลวงปู่ไม่ได้ทำอะไรกับมัน ท่านได้แต่นึกขำและเอ็นดูพวกมันอยู่ในใจ
ลิงฝูงนั้นมีหัวหน้าชื่อ "บักสีนวล" ดูท่ามันจะฉลาดแกมโกง แต่ฟังภาษาคนรู้เรื่อง หลวงปู่เมตตามันมาก ดูลิงทั้งฝูงก็นับถือและเกรงกลัวมัน
เมื่อลิงตัวอื่นก่อปัญหาขึ้น "หลวงปู่จะบอกให้บักสีนวลช่วยกำหราบพรรคพวกให้ด้วย" มันก็จัดการกับฝูงของมันตามที่หลวงปู่บอก บรรดาลิงน้อยลูกสมุน... -
หลวงปู่สังข์ วัดป่าอาจารย์ตื้อ! อริยสงฆ์หนึ่งเดียวที่ทันได้กราบฟังธรรมหลวงปู่มั่น ยังดำรงธาตุขันธ์
หลวงปู่สังข์ วัดป่าอาจารย์ตื้อ! อริยสงฆ์หนึ่งเดียวในภาคเหนือยุคปัจจุบันที่ทันได้กราบและฟังธรรมหลวงปู่มั่น ทั้งยังดำรงธาตุขันธ์ในเวลานี้
*** ครบรอบ ๘๗ ปี หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ ***
วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๐ เป็นวันเจริญอายุวัฒนมงคล ครบรอบ ๘๗ ปี หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ วัดป่าอาจารย์ตื้อ ต.สันมหาพน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ พระอริยเจ้าหนึ่งเดียวแห่งภาคเหนือที่ทันได้พบหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และยังดำรงธาตุขันธ์อยู่ในปัจจุบัน
หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ มีนามเดิมว่า สังข์ คะลีล้วน เกิด วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๓ ณ บ้านข่า อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม บิดาชื่อนายเฮ้า มารดาชื่อนางลับ คะลีล้วน มีพี่ชายติดโยมบิดา ๑ คน มีพี่ชายติดโยมมารดา ๑ คน มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันจำนวน ๔ คน ท่านเป็นลูกชายคนที่ ๑ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ิอ อายุ ๑๘ ปี ณ พัทธสีมา วัดศรีเทพประดิษฐาราม อ.เมือง จ.นครพนมครั้งที่หลวงปู่สังข์เป็นสามเณร หลวงปู่มัน ภูริทัตโต ได้มาพำนักที่วัดป่าบ้านหนองผือนาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร หลวงปู่สังข์ก็ได้มีโอกาสไปรับฟังพระธรรมเทศนาจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตโดยตรง แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจเพราะยังเป็นเด็กอยู่... -
“จิตเสื่อม เพราะขาดคำบริกรรมภาวนา”(หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
เรื่อง “จิตเสื่อม เพราะขาดคำบริกรรมภาวนา”
(คติธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
เพราะเราขาด “คำบริกรรมภาวนา” สติอาจจะเผลอไปตอนนั้นก็ได้จิตถึงได้ “เสื่อม” เอ้า ทีนี้ตั้งใหม่ มีข้องใจอยู่จุดนี้เท่านั้นแหละ ทีนี้จะเอา “คำบริกรรมติดกับใจ” เพราะไม่มีงานอะไรมีแต่ “งานภาวนาอย่างเดียว” แล้วอยู่คนเดียวเสียด้วย เอาละที่นี่พิจารณาลงตัวแล้ว คือจะเป็นเพราะขาดคำบริกรรม สติอาจจะ “ขาด” ไปตรงนั้นก็ได้จิตถึงได้มีเวลาเสื่อมได้ คราวนี้จะเอา “คำบริกรรมให้ติดกับจิต” และ “สติให้ติดแนบอยู่กับคำบริกรรม” ไม่ยอมให้เผลอเลย เอา ทีนี้มันจะเสื่อมไปทางไหนให้รู้กันตรงนี้ พอลงใจแล้วก็เอาละที่นี่ แต่มันจริงจังมากนะเรา เหมือนระฆังดังเป๋งนี้ต่อยกันแล้วนักมวย คำบริกรรมกับคำไม่ให้เผลอ พอเอาละที่นี่ระฆังเป๋งก็ใส่ปุ๊บเลย ไม่ให้เผลอ ตั้งแต่เริ่มปั๊บไม่ให้เผลอเลย ทั้งวันไม่ยอมให้เผลอไปไหน ให้อยู่กับคำบริกรรมคือ “พุทโธ” เราชอบพุทโธ ติดอยู่กับคำบริกรรม โลกนี้เหมือนไม่มี มีแต่คำบริกรรมติดกับหัวใจอยู่อย่างนั้นตลอดทั้งวัน มันอยากคิดอยากปรุงนี้เหมือนอกจะแตกนะ ถึงรู้ได้ชัดว่าสังขารนี้สำคัญมากมันดันออกมา สังขารเป็นสังขารสมุทัย... -
โคพระโพธิสัตว์ (หลวงปู่จาม มหาปุญโญ )
โคพระโพธิสัตว์ โดยหลวงปู่จาม มหาปุญโญ
วันหนึ่งไปนิมนต์ในงานวันสารทอยู่วัดศรีจอมทองเมื่อคืนก่อนวันจะไปเรานั่งภาวนาอยู่ตอนใกล้แจ้งมีโพธิสัตว์ตนหนึ่งแสดงรูปเป็นโคตัวผู้ใหญ่สีแดงน้ำผึ้งป่าลักษณะงดงามทุกอย่างสะอาดสะอ้านเกลี้ยงเกลา เล็บกีบเท้า หู เขา หัว หางลักษณะเป็นโคอุสุภราชได้ทุกอย่าง มารายงานให้ทราบว่า
“ขอนิมนต์เทศน์โปรดเอาผมด้วยเถอะพระผู้เป็นเจ้าเอย กระผมตกทุกข์เป็นเดรัจฉานอยู่ วันพรุ่งนี้ท่านไปจะได้เห็นผมอยู่หน้าวัด” พระจามก็ซักถามหลายอย่างหลายประการจึงรู้ว่าเป็นพระโพธิสัตว์องค์ที่ ๑๑ นับแต่พระศรีอารีย์ไป“ผมนะครับจะได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งต่อไปบำเพ็ญบารมีแบบวิริยาธิกะที่ ๒ อายุ ๙๐,๐๐๐ ปีจะได้ตรัสรู้อยู่ประเทศอินเดียกรุงโกสัมพี ต่อจากองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัย แล้วก็เป็นลำดับของผมต่อไป ขอท่านจงเมตตาด้วยเถอะ พ้นจากวิบากกรรมเป็นโคตัวนี้แล้วจะได้ไปเกิดอยู่อีสานแล้วจะได้บวชเป็นพระ”
“เอาเถอะตั้งใจบำเพ็ญของตนไปเถอะท่านโพธิสัตว์เอย”
ทีนี้ตอนเช้าเดินจากที่พักไปวัดศรีจอมทองพระจามก็พูดกับท่านอาจารย์สิมว่า (พุทธาจาโร)
“ท่านอาจารย์วัน (อุลตโม)... -
ด่านกามคุณ _หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร
ด่านกามคุณ
"ยากลำบากที่สุดในการปฏิบัติมันอยู่ที่ด่านกามคุณนี่แหละ ด่านกามคุณเป็นป่าใหญ่ไพรหนาของกิเลสที่มากด้วยขวากหนามอันแหลมคม กามจะตาย กายจะแตก ก็เห็นกันตรงนี้แหละ กามคุณมันครองจิตใจสัตว์โลกมานานนับมหาอนันตชาติ การที่จะถอนกามคุณออกไปจากจิตใจในวันหนึ่งวันเดียว ปีหนึ่งปีเดียวนั้น มันเป็นไปได้ยากมาก กามกิเลสฤทธิ์เดชมันแพรวพราว พอเรารุกมันจะหลบให้เราลืมตัว เผลอสติเมื่อไหร่มันจะตีกลับใส่ทันที นักปฏิบัติเสื่อมฤทธิ์เสื่อมฌานเพราะกามคุณนี้มีมากต่อมากให้ได้เห็น.."
หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร
จากบันทึก ครูบากล้วย วีระศักดิ์ โพธิสัตย์ มหาบุรุษธรรมในพระพุทธศาสนา "ปุญญมากโร" ผู้เป็นบ่อแห่งบุญ..ตอน..ขึ้นเขาเผากิเลส
..................................................
ภาพ สองพระสุปฏิปันโน นาบุญหน่อเนื้อในองค์ท่านหลวงปู่ชอบ ฐานสโม...หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต และหลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร
Credit : Niti Wattana
********************************************* -
“ชาวบ้านเกาะบาหลี” ร่วมกันสวดภาวนา หลังอินโดฯ ประกาศเตือนภัยสูงสุด! ภูเขาไฟระเบิด
“ชาวบ้านเกาะบาหลี” ร่วมกันสวดภาวนา หลังอินโดฯ ประกาศเตือนภัยสูงสุด! ภูเขาไฟระเบิด
อินโดนีเซียยกระดับเตือนภัยการปะทุของภูเขาไฟ ที่อยู่บนเกาะบาหลี เป็นขั้นสูงสุด พร้อมประกาศเตือนประชาชนและและนักท่องเที่ยวให้อยู่ห่างจากรัศมีภูเขาไฟอย่างน้อย 9 กิโลเมตร
ชาวบ้านบนเกาะบาหลี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอินโดนีเซียต่างร่วมกันสวดภาวนา หลังทางการอินโดนีเซียยกระดับการแจ้งเตือนภูเขาไฟระเบิดเป็นขั้นที่ 3 หรือ ขั้นสูงสุด
ก่อนหน้านี้ ประชาชนหลายพันคนที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณเชิงภูเขาไฟอกุง อพยพออกไปจากพื้นที่บางส่วนแล้ว เบื้องต้นอพยพออกไปแล้วมากกว่าหมื่นคน
ทางการอินโดนีเซีย ประกาศเตือนนักท่องเที่ยวและชาวบ้านให้หลีกเลี่ยงการตั้งแคมป์และกิจกรรมปีนเขาในรัศมีใกล้กับภูเขาไฟอกุง ประมาณ 9 กิโลเมตร
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการอินโดนีเซียแจ้งเตือนภูเขาไฟอกุงระเบิดอยู่ในขั้นที่ 2 จากทั้งหมด 3 ระดับ พร้อมทั้งบังคับให้ทุกคนออกจากบ้านของตนเพื่อความปลอดภัย
ภูเขาไฟอกุง ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดของเกาะบาหลี เคยระเบิด มาแล้วเมื่อปี 1963 คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 1,000 รายและมีผู้บาดเจ็บหลายร้อยคน
------------
ขอบคุณที่มา... -
พระสยามเทวาธิราชพร้อมเทพบริวารมากราบนมัสการหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
พระสยามเทวาธิราชพร้อมเทพบริวารมากราบนมัสการหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
คราวหนึ่งหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พักที่ดอยมูเซอ วันหนึ่งพระสยามเทวาธิราชพร้อมเทพบริวารได้พากันมากราบนมัสการ ท่านกำลังเดินจงกรมอยู่ พอรายงานตัวเสร็จ ท่านถามวัตถุประสงค์
พระสยามเทวาธิราชตอบว่า “เวลานี้ฝ่ายสัมพันธมิตรได้มาทิ้งระเบิดที่กรุงเทพฯ อย่างหนักหน่วง พวกข้าพเจ้าป้องกันเต็มที่”
หลวงปู่มั่น ถามว่า “มีคนบาดเจ็บล้มตายไหม”
พระสยามเทวาธิราช ตอบว่า “มี”
หลวงปู่มั่น ถามว่า “ทำไมไม่ช่วย”
ตอบว่า “ช่วยไม่ได้ เพราะเขามีกรรมเวรกับฝ่ายข้าศึก จะช่วยได้แต่ผู้ไม่มีกรรม สถานที่สำคัญ และพระพุทธศาสนาเท่านั้น”
หลวงปู่มั่น ถามว่า “มานี้ประสงค์อะไร”
ตอบว่า “ขอให้ท่านบอกคาถาปัดเป่าลูกระเบิดไม่ให้ตกถูกที่สำคัญด้วย”
หลวงปู่มั่นจึงกำหนดพิจารณาหน่อยหนึ่งได้ความว่า
“นโม วิมุตฺตานํ นโม วิมุตฺติยา”
เมื่อบอกแล้ว เทพคณะนั้นก็อนุโมทนาสาธุการ แล้วลากลับไป
(นโม วิมุตฺตานํ นโม วิมุตฺติยา คือ ส่วนหนึ่งของคาถายูงทอง หรือ โมรปริตร นั่นเอง คำนี้หลวงปู่มั่นใช้เขียนเป็นบนผ้าเป็นคล้ายผ้ายันต์มอบให้แก่โยมบางคน ปรากฏผลเป็นที่น่าอัศจรรย์หลายประการ... -
เดินจงกรม (พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.)
เดินจงกรม
ถาม : อย่างคนที่ไปปฏิบัติเดินจงกรมแล้วนั่งสมาธิจะได้ผลอย่างไร ?
ตอบ : ถ้าหากว่าตั้งใจทำจริง ๆ จะมากจะน้อยก็ต้องได้ แต่คราวนี้ว่าได้เท่าไรต่างหาก ?
ถาม : แล้วไม่ทราบว่าเดินไปเพื่ออะไรคะ ?
ตอบ : เขาต้องรู้ว่าทำไปเพื่ออะไร ถ้าเขาไม่รู้เขาจะเดินไปทำไม ใช่ไหม ? เขาต้องรู้ว่าทำเพื่ออะไรอานิสงส์ของการเดินจงกรม คือ สมาธิที่ได้จากการเดินจงกรมจะคลายตัวได้ยาก ทำให้เป็นคนเดินทน เดินแล้วไม่ค่อยเหนื่อยกับใคร เพราะเดินจงกรมเขาว่ากันเป็นชั่วโมง ๆ ทำให้อาหารย่อยสลายได้ง่าย ลำไส้มีการเคลื่อนไหว แล้วอีกอย่างก็คือว่า เวลาเรานั่งอย่างเดียวก็เครียด ต้องเปลี่ยนอิริยาบถไปเดินบ้าง
ถาม : โดยทั่วไปจำเป็นไหมที่ทุกคนต้องปฏิบัติเดินจงกรม ?
ตอบ : ไม่จำเป็น เพราะว่า ๔ อิริยาบถ เราถนัดอย่างไหน เดิน ยืน นั่ง นอน ก็ทำอย่างนั้น
การเดินจงกรมนั้นมีอานิสงส์มาก ถ้าเราเดินจนเคยชิน การเดินทางไกลจะเหนื่อยช้า เหนื่อยยากครูบาอาจารย์บางท่านเดินจงกรม เช้ายันค่ำ ค่ำยันเช้า จากการที่เคยทำมา เป็นการเดินทรงฌานไปในตัว
แต่ว่าขณะเดียวกัน ถ้าเราจะพิจารณา ก็พิจารณาได้ ในขณะที่เราเดิน เช้ายันค่ำ ค่ำยันเช้า... -
พสล.แต่งตั้ง พระ ดร.อนิล ศากยะ เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยพุทธโลก
โดย สมาน สุดโต
องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.) ประกาศแต่งตั้งเจ้าคุณพระศากยวงศ์วิสุทธิ์ (ดร.พระอนิลมาน ศากยะ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก (ม.พ.ล.) (World Buddhist Universitiy) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยทางพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2560 ณ สำนักงานใหญ่ พ.ส.ล. ซอยสุขุมวิท 24 กรุงเทพมหานคร
ประกาศดังกล่าวลงนาม โดย แผน วรรณเมธี ประธาน พ.ส.ล.
มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก ก่อตั้งโดย พ.ส.ล.เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอธิการบดีคนล่าสุด ได้แก่ ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร
พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ เป็นพระภิกษุชาวเนปาล บวชเป็นสามเณรในประเทศเนปาล และมาศึกษาพระธรรม ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่ออายุครบบวช ได้อุปสมบท ณ วัดบวรนิเวศวิหาร โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นพระอุปัชฌาย์ แล้วทรงให้การอุปถัมภ์มาตั้งแต่เป็นสามเณร ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช และเคยดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร)
ท่านขอแปลงสัญชาติเป็นไทย และได้รับอนุญาตเมื่อวันที่ 17... -
ไทย-จีนร่วมส่งเสริมการศึกษาสงฆ์พุทธวิทยาลัย
ไทย-จีนร่วมส่งเสริมการศึกษาสงฆ์พุทธวิทยาลัย
รัฐบาลจีนส่งเสริมการศึกษาสงฆ์ สร้าง พุทธวิทยาลัย เพื่อเผยแผ่พุทธธรรมไปทั่วโลก
วานนี้ (23 ก.ย. 60) พระพรหมสิทธิ กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร พร้อมด้วยพระเถรานุเถระมี พระธรรมโพธิวงศ์ หัวหน้าพระธรรมทูตไทยสายอินเดีย–เนปาล พระวิสุทธิศาสนวิเทศ ผู้ช่วยเลขานุการประธาน สนง.กำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ วัดสระเกศ เป็นต้น ปฏิบัติศาสนกิจ เป็นประธานสงฆ์ฝ่ายเถรวาท เปิดพุทธวิทยาลัย เพื่อเผยแผ่พุทธธรรมไปทั่วโลก เจริญศาสนสัมพันธ์ เถรวาท – มหายาน ณ พุทธวิทยาลัยหนานไห่ วัดหนานซัน เมืองซันย่า เกาะไหหลำ (ไห่หนาน) สาธารณรัฐประชาชนจีน
ในโอกาสนี้ ท่านเจ้าคุณพระอาจารย์จีนวิเทศศาสนานุสิฐ (ท่านเจ้าคุณพระยิ่งซุ่น) เจ้าอาวาสวัดหนานซัน พร้อมด้วยผู้แทนคณะรัฐบาลกลางจีน คือนายจางเจี้ยหยง รองรัฐมนตรีกระทรวงการศาสนา ประเทศจีน ผู้ว่าการเมืองไหหลำ ผู้อำนวยการสำนักพุทธประจำเมืองไหหลำ ถวายการต้อนรับอย่างอบอุ่น
‘การดำเนินการประสบความสำเร็จของพุทธวิทยาลัยทะเลจีนใต้ ไม่เพียงแต่ การพัฒนาปรับปรุงหลักสูตร... -
"ผู้ชนะที่แท้จริง"
"ผู้ชนะที่แท้จริง"
" .. ปัญหา "อสุรินทกภารทวาชพราหมณ์" ได้ทราบว่าพราหมณ์ผู้ร่วมนามสกุลภารทวาชหลายคน "ได้จากเรือนไปบวชในสำนักของพระพุทธเจ้าก็โกรธ" จึงตรงไปด่าบริภาษพระผู้มีพระภาคถึงพระเวฬุวัน "แต่พระผู้มีพระภาคทรงนิ่งเสีย ไม่ได้โต้ตอบ ฝ่ายพราหมณ์เมื่อเป็นพระผู้มีพระภาคทรงนิ่ง ก็ดีใจประกาศว่าเราชนะท่านแล้ว" เราชนะท่านแล้ว?
พุทธดำรัสตอบ "ชนพาลกล่าวคำหยาบด้วยวาจา ย่อมสำคัญว่าวชนะทีเดียว แต่ความอดกลั้นได้ เป็นความชนะของบัณฑิตผู้รู้แจ้งอยู่ ผู้ใดโกรธตอบบุคคลผู้โกรธแล้ว ผู้นั้นเป็นผู้ลามกกว่าบุคคลผู้โกรธแล้ว" เพราะการโกรธตอบนั้น "บุคคลไม่โกรธตอบบุคคลผู้โกรธแล้ว ย่อมชื่อว่าชนะสงครามอันบุคคลชนะได้โดยยาก"
"ผู้ใดรู้ว่าผู้อื่นโกรธแล้ว เป็นผู้มีสติ สงบอยู่ได้ ผู้นั้นย่อมชื่อว่าประพฤติประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย คือ แก่ตนและแก่ผู้อื่น" เมื่อผู้นั้นรักษาประโยชน์ทั้ง ๒ ฝ่าย คือของตนและของผู้อื่น "ชนทั้งหลายผู้ไม่ฉลาดในธรรม ย่อมสำคัญบุคคลนั้นว่า เป็นคนเขลา" ดังนี้ .. "
http://www.84000.org/true/122.html -
เป็นบุญตายิ่งนัก!เถ้าพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า
เป็นบุญตายิ่งนัก!เถ้าพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า
“รัฐคุชราต” ที่พุทธศาสนาได้วางรากฐานมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช หรือ เมื่อประมาณ ๒,๓๐๐ กว่ามาแล้ว ปัจจุบันฝ่ายโบราณคดีของชาวภารตะได้ขุดพบซากโบราณสถานและวัตถุที่แสดงให้เห็นถึงร่องรอยพุทธอารยธรรมที่เจริญรุ่งเรืองในรัฐคุชราตแต่ครั้งโบราณกาล เมื่อปี ค.ศ. 1957 ศาตราจารย์ B. Subbrao และทีมนักโบราณคดี จากภาควิชาโบราณคดี และประวัติศาสตร์โบราณ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาราชาสยาจิเราแห่งบาโรดา (Maharaja Sayajirao University of Baroda) เมืองวาโรดารา ได้ไปทำการขุดเจาะซากสถูปใหญ่ที่เมืองเทวนิโมรี ทางตอนเหนือของรัฐคุชราต ซึ่งการขุดเจาะสถูปนี้ พวกเขาได้พบผอบ ๒ ใบ
ใบแรก ฝังอยู่ใต้ดินชั้นล่างของสถูป ลักษณะเป็นหินเจาะตรงกลางและมีฝาปิด แต่ไม่เสร็จสมบูรณ์ ไม่บรรจุสิ่งใด
ใบที่สอง อยู่ช่วงกลางของสถูป มีการก่อหินล้อมไว้อย่างดี ผอบมีลักษณะทรงกลมมีฝาปิด ทำจากหินแปรสีเขียว (chlorite schist) มีอักษรพราหมีจารึกไว้ทุกรอบด้าน นักวิชาการโบราณคดีทีมของศาตราจารย์ V. H. Sonawane จึงได้ช่วยกันแกะ และแปลอักษรพราหมีในจารึก พวกเขาจึงได้รู้ว่า... -
พระช่วย!ลุยน้ำท่วมสตูลหนักสุดรอบ10ปี
พระช่วย!ลุยน้ำท่วมสตูลหนักสุดรอบ10ปี
คณะสงฆ์จังหวัดสตูลร่วมกับพระธรรมทูตอาสาจังหวัดสตูล เครือข่ายพระธรรมทูตอาสา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในอำเภอมะนัง จังหวัดสตูลหนักสุดในรอบ 10 ปี
วันที่ 23 ก.ย.2560 สืบเนื่องจากฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ในหลายจังหวัดติดต่อกันมาหลายวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดสตูลหนักสุดในรอบ 10 ปีในหลายอำเภอ โดยเฉพาะอำเภอมะนัง ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในการดำรงชีพ ด้วยเหตุดังกล่าว สำนักงานพระธรรมทูตอาสาจังหวัดสตูลและคณะสงฆ์จังหวัดสตูล โดยมีพระครูโสภณปัญญาสาร เจ้าคณะอำเภอมะนัง ในฐานะประธานเครือข่ายพระธรรมทูตอาสาจังหวัดสตูล โดยความเห็นชอบของ พระมหาคลี จารุวํโส เจ้าคณะจังหวัดสตูล จัดถุงยังชีพ จำนวน 200 ถุง เพื่อบรรเทาทุกข์เบื้องต้น ให้กับพี่น้องประชาชนในเขตอำเภอมะนัง
พร้อมกันนี้ในนามการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้กับเครือข่ายพระธรรมทูตอาสา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดสตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) ยังได้บริจาคสิ่งของที่จำเป็น เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง มาม่า ปลากระป๋อง สบู่ ยาสีฟัน ยาสามัญประจำบ้าน... -
หลวงพ่อจรัญ เผชิญเทพธิดาผู้มีวาจาสิทธิ์ ลอยออกมาจากองค์เจ้าแม่กวนอิม มาโปรดมนุษย์ !
สุดอัศจรรย์!! หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม เผชิญกับเทพธิดาผู้มีวาจาสิทธิ์ ลอยออกมาจากองค์เจ้าแม่กวนอิม เผยได้รับบัญชาจากพระแม่ให้มาโปรดมนุษย์ !!
เรื่องราวปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อจรัญวัดอัมพวันนั้นมีมากมาย เพราะท่านเป็นที่มีบารมีสูงมาก พระธรรมสิงหบุราจารย์ นามเดิม จรัญ จรรยารักษ์ ฉายา ฐิตธมฺโม เป็นพระภิกษุชาวไทย ในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย อดีตเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี และเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๓ ท่านมีชื่อเสียงในระดับประเทศจากการเป็นพระนักพัฒนา พระนักเทศน์ และพระวิปัสสนาจารย์ แนวทางการสืบทอดพระพุทธศาสนาของท่านเน้นหนักที่การสั่งสอนเรื่องกฎแห่งกรรม โดยยกเหตุการณ์ที่ท่านประสบและนับเป็นกฎแห่งกรรมขึ้นมาเป็นอุทาหรณ์อยู่เสมอ และเน้นการพัฒนาจิตใจคนด้วยการฝึกวิปัสสนาตามหลักสติปัฏฐาน ๔ แบบพองหนอ-ยุบหนอ นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้ที่ส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนหมั่นสวดมนต์ด้วยพุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงมหากา) เพื่อเป็นเครื่องเจริญสติอย่างแพร่หลายอีกด้วย
เมื่อราวปี พ.ศ. ๒๕๓๙ แม่ชีซูง้อ แซ่เอ็ง ศิษย์ของ "หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม" ได้อาราธนาท่านให้เดินทางไปโปรดโยมบิดามารดาและญาติมิตร ณ... -
หลวงพ่อจรัญเล่าเรื่อง"พระเจ้าตากสินมหาราช"ใช้"คาถาพาหุง"ชนะศึกพระเจ้าฝาง ผู้มีวิชาได้อย่างอัศจรรย์!
อำนาจแห่งพุทธบารมี!! หลวงพ่อจรัญเล่าเรื่อง "พระเจ้าตากสินมหาราช" ใช้ "พระคาถาพาหุง" ชนะศึกพระเจ้าฝาง อริราชศัตรูผู้มีวิชาได้อย่างอัศจรรย์ !!
หนึ่งในเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินอันเกี่ยวเนื่องด้วยพุทธบารมีคือก่อนการออกรบทุกครั้งสมเด็จพระเจ้าตากสินจะต้องทรงเจริญพระพุทธมนต์พระคาถาพาหุงตามเยี่ยงอย่างของพระบาทสมเด็จพระนเรศวรทุกครั้งไป พระคาถานี้ตามประวัติเดิมนั้น พระมหาเถรคันฉ่องหรือสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้วเป็นผู้รจนาเรียบเรียงถวายแด่สมเด็จพระนเรศวรให้เจริญพระพุทธมนต์บทนี้ก่อนออกศึกจนทำให้มีชัยแคล้วคลาดจนอุปทวอันตรายทั้งหลายทั้งปวงมีชัยต่อพระมหาอุปราชและแม้ว่าเหล่าพม่าฆ่าศึกจะยิงปืนใส่สมเด็จพระนเรศวรและพระเอกาทศรถประดุจห่าฝนก็หาต้องพระวรกายไม่ ฉะนั้นพระเจ้าตากสินเองก็ทรงมีพระราชศรัทธาในพระพุทธมนต์บทนี้โปรดให้พระภิกษุสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ด้วยพระคาถาพาหุงทุกครั้งไป
ประวัติเรื่องนี้หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวันเล่าไว้ว่าโดยเฉพาะตอนที่พระเจ้าตากสิน กำลังรวบรวมคนไทยที่แตกเป็นก๊กเป็นเหล่าให้รวมกันเป็นหนึ่งนั้น... -
เป็นเปรตจากการให้ทานอย่างไม่เต็มใจ!!
เป็นเปรตจากการให้ทานอย่างไม่เต็มใจ!! พระโมคคัลลานะ ช่วยเหลือ..ให้ตัดอ้อยถวายพระพุทธเจ้า จนหลุดพ้นได้ไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์!!
ทาน หมายถึง การให้ การแบ่งปัน การเสียสละ การเอื้อเฟื้อ หรืออีกความหมายหนึ่งคือ วัตถุที่พึงให้ ทานที่แปลว่า การให้ การแบ่งปัน การเสียสละ การเอื้อเฟื้อ หมายถึงการให้ทานด้วยจิตใจที่ดีงาม มุ่งเพื่อบูชาพระคุณ เช่นที่ให้แก่บิดามารดา ถวายแก่พระสงฆ์ เป็นต้นบ้าง มุ่งเพื่อสงเคราะห์ เช่นที่ให้แก่คนตกทุกข์ได้ยาก ให้แก่คนทั่วไปด้วยความกรุณาสงสารบ้าง ทานเป็นบุญอย่างหนึ่ง เรียกว่า "ทานมัย" คือบุญที่เกิดจากการให้ เป็นสังคหวัตถุ คือเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจกันไว้ได้ และเป็นบ่อเกิดแห่งบารมีที่เรียกว่า ทานบารมี การให้ทานมีวัตถุประสงค์สำคัญในการคลายความตระหนี่ ความเห็นแก่ตัว ความโลภในจิตใจมนุษย์ ส่งผลให้เกิดความ ใส สว่าง สะอาดของจิตใจขึ้นมา
ในสมัยพุทธกาลก็มีตัวอย่างเรื่องผลแห่งการให้ทานอย่างไม่เต็มใจ ณ กรุงราชคฤห์ มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินแบกอ้อยมาตามถนนพร้อมกับถืออ้อยกินไปด้วยอย่างสบายอารมณ์... -
หรือธรรมชาติกำลังเอาคืน!!! นักวิจัยเผย 8 เกาะในมหาสมุทรกำลังจะจมหายไป หลังน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
หรือธรรมชาติกำลังเอาคืน!!! นักวิจัยเผย 8 เกาะในมหาสมุทรกำลังจะจมหายไป หลังน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่า โลกของเราเกิดมักเกิดภัยพิบัติขึ้นมาบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหว หรือว่าเหตุการณ์ภัยพิบัติจากพายุเฮอร์ริเคนต่างๆที่เข้ามาลูกแล้วลูกเล่า จนทำให้เกิดน้ำท่วม บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายไหลไปกับสายน้ำ และล่าสุดมีทีมงานนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยซันไชน์ โคสต์ และมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ในประเทศออสเตรเลีย ได้มีการวิเคราะห์ว่าจะมีเกาะ จำนวน 8 เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกกำลังทยอยจมหายไป เนื่องจากระดับน้ำทะเลขึ้นอย่างรวดเร็ว สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 12 มิลลิเมตร และคากว่า 8 เกาะที่จะจมหายไปอยู่ในแถบ หมู่เกาะไมโครนีเซียและหมู่เกาะโซโลมอน
นอกจากนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ในออสเตรเลียว่า จากสถิติที่ผ่านมา ในกลางศตวรรษที่ 20 มีเกาะจำนวน 5 แห่งในหมู่เกาะโซโลมอนได้จมหายไป โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยซันไชน์ โคสต์ ได้มีการลงพื้นที่สำรวจยังชายฝั่งต่างๆพบว่า ที่ราบลุ่มหลายแห่งถูกน้ำทะเลท่วมกลืนหายไป ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ได้เล่าว่า มีเกาะจำนวน 2... -
หลวงปู่แหวน ถูกผีพรายน้ำดึงขาจนเกือบมรณภาพ | เปิดบันทึกตำนาน
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ เกิดในตระกูลของช่างตีเหล็ก เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2430 ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือนยี่ ปีกุน ณ บ้านนาโป่ง ตำบลหนองใน(ปัจจุบันเป็นตำบลนาโป่ง) อำเภอเมือง จังหวัดเลย โดยเป็นบุตรของนายใสกับนางแก้ว รามศิริ โดยมีน้องสาวร่วมบิดา- มารดาอีกหนึ่งคนคือ นางเบ็ง ราชอักษร และบิดามารดาของท่านได้ ตั้งชื่อว่า ญาณ ซึ่งแปลว่า ปรีชา กำหนดรู้
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ... แห่งวัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ ยอดอริยเจ้าของชาวไทย
หลวงปู่แหวน ท่านเป็นที่เคารพรักและศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างยิ่ง จริยาวัตรของท่านงดงาม อุดมไปด้วยความเมตตา ตลอดระยะเวลาอันยาวนานหลายสิบปี ที่ท่านออกจาริกธุดงค์ ไปเรื่อยๆบุกป่าฝ่าดง ไปตามป่าเขาลำเนาไพร พื้นที่ใหนที่ท่านเห็นว่า มีความเหมาะสมสำหรับการเจริญภาวนา แม้ว่าจะเส้นทางจะคดเคี้ยวยากลำบากเพียงใด ท่านก็จะไปด้วยปณิธานที่แน่วแน่มั่นคง หลวงปู่แหวน ท่านมีมิตรสหายธรรมที่ท่านสนิทชิดเชื้ออยู่รูปหนึ่ง นั่นคือหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม อีกหนึ่งในพระเกจิเลื่องชื่อของเมืองไทย สองหลวงปู่นั้นมักจะไปใหนมาใหนด้วยกันอยู่เสมอ ในช่วงเวลาหนุ่มท่านทั้งสองนั้น... -
สำนักพุทธชูเกียรติแด่ผู้เกษียณปี60
พิธีเชิดชูเกียรติแด่ผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปี พ.ศ.2560 สังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
สำนักพุทธฯ จัดพิธีเชิดชูเกียรติแด่ผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปี พ.ศ.2560 สังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยในปีนี้ มีข้าราชการพลเรือนสามัญ จำนวน 29 ราย พนักงานศาสนการ จำนวน 4 ราย และลูกจ้างประจำ 8 ราย รวม 41 ราย ที่จะเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 กันยายน 2560 ณ โรงแรมเอส ดี อเวนิวส์ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา
นายกนก แสนประเสริฐ รองผู้อำนวยการฯ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, นายประสงค์ จักรคำ ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, นายกิจจา นวลสุวรรณ์ ผอ.พศจ.จันทบุรี, นายธัญเทพ หมื่นยุทธ ผอ.พศจ.ฉะเชิงเทรา, นายบุญเรือง แตงก่อ ผอ.พศจ.พิษณุโลก, นายสำราญ ราชบัณฑิต ผอ.พศจ.บุรีรัมย์, นายสุรพล กรีถาวร ผอ.พศจ.กำแพงเพชร, นายเสถียร ดำรงคดีราษฎร์ ผอ.พศจ.สงขลา และนายหาญ งามเจริญ ผอ.พศจ.เชียงราย ได้เกษียณอายุราชการในครั้งนี้ด้วย
ขอขอบคุณที่มา
https://www.khaosod.co.th/amulets/news_524542 -
หมดแล้ว ผ้ายันต์จีวรในนิโรธสมาบัติลพ.กัสสปะมุนี ช่วยค่าโฮสเวปพลังจิตกันครับ
......ผมได้มีโอกาสได้พบกับลูกหลานของหลวงพ่อท่าหนึ่งซึ่งท่านเคยอยู่และอุปัฐถากหลวงพ่อกัสสปมุนี ที่วัดปิบผลิวนารามมาตั้งแต่ปี17 ตั้งแต่เป็นเณร และยังเป็นผู้ที่หลวงพ่อกัสสปมุนีให้ปลงผมให้ด้วย และท่านเป็นผู้เก็บวัตถุมงคลที่หลวงพ่อกัสสปมุนีท่านได้เมตตาทำไว้ด้วยมือท่านเองไว้เยอะมาก เพราะท่านเห็นคุณวิเศษแห่งวัตถุมงคลของหลวงพ่อมาก ท่านเก็บรักษาอย่างดี ทุกชิ้นเพราะว่าหลวงพ่อกัสสปมุนีเคยบอกให้เก็บรักษาให้ดี และยังบอกว่า"อีกหน่อยจะประมาณค่ามิได้ จะเป็นที่พึ่งได้ตอนลำบาก"
......ขอบอกว่าวัตถุมงคลชุดนี้นั้น ไม่ได้เข้าพิธีนิโรธสมาบัติเพียงครั้งเดียวนะครับ ขอบอกว่าเข้าพิธีนิโรธสมาบัติมากกว่า 10 ครั้งครับเพราะเป็นวัตถุมงคลที่อยู่กับหลวงพ่อมาตั้งแต่ ปี 2518 แล้วครับทุกปีหลวงพ่อจะเข้านิโรธสมาบัติตลอดชนชีพของท่าน ดังนั้นวัตถุมงคลชุดนี้จึงบอกได้ว่าเป็นชุดเดียวเท่านั้นที่เข้าพิธีนิโรธสมาบัติมากที่สุดก็ว่าได้ครับ
......ผมได้บูชาออกมาได้จำนวนหนึ่งเท่านั้น จึงขอนำออกมาให้ชาวเวปพลังจิตได้บูชากัน ทุกชิ้นเป็นมาสเตอร์พีส ทั้งหมดครับ โดยเฉพาะผ้ายันต์ที่หลวงพ่อกัสสปมุนีท่านเมตตาด้วยมือท่านเอง สำคัญมากครับเ... -
หมดแล้ว หนังสือหลวงปู่กัสสปะมุนี รูปขนาดบูชา พระสังกัจจายน์มหาชนวน....ช่วยค่าโฮสเวปพลังจิต
มาช่วยค่าโฮสเวปพลังจิตกันอีกสักครั้งนะครับ.....รอบนี้ผมได้หนังสือหายากของหลวงปู่กัสสปะมุนีมาพร้อมกับรูปขนาดบูชา(ขนาด เอ4)ของหลวงปู่ที่ท่านเมตตาอธิษฐานจิตไว้ให้ตั้งแต่ปี 30 ซึ่งทั้งหมดนี้ได้มาจากพระอาจารย์ท่นหนึ่งที่นับถือหลวงปู่มาก และท่านก็แบ่งให้ผมบูชาต่อเพราะท่านเก็บไว้เยอะพอสมควร หนังสือชุดนี้พิมพ์มาตั้งแต่ปี 2544 แล้วครับเนื้อหาดีมากๆ คำสอบหลวงปู่ก็มี ประสบการณ์ต่างๆจากคณะศิษย์มากมายน่าเก็บไว้เป้นสมบัติมหามงคลส่วนตัวยิ่งครับ
.......ส่วนพระสังกัจจายน์ชุดนี้นั้นสร้างโดยศิษย์ผู้เฒ่าของครูบาสุข ชาตสุโข แห่งวัดป่าซางน้อย พระผู้ทรงอภิญญารู้อดีอนาคตอย่างแจ่มใส ชุดนี้สร้างไว้ตั้งแต่ปี 2555 สร้างจากตะกรุดเก่าของทางล้านนากว่า 600 ดอก(สารพัดตะกรุดสารพัดยันต์ที่ท่านเก็บมาทั้งชีวิต) ท่านผู้สร้างหล่อหลอมเป็นองค์พระสังกัจจายน์องค์เล็กๆได้ ร้อยกว่าองค์เท่านั้นซึ่งเป็นเนื้อชนวนโลหะล้วนๆครับ เมื่อครั้งนำไปขอหลวงปู่ครูบาสุขอธิษฐานจิตให้นั้น หลวงปู่ท่านจับพานที่มีพระชุดนี้หลับตาท่านก็บอกว่าดีในตัวแล้วไม่ต้องเสกก็ได้... -
เจาะพระไตรปิฏก(พระราชสุทธิญาณมงคล)
เจาะพระไตรปิฎกฉบับนี้ เวียงการณ์จะพาท่านผู้ฟังมาสัมผัสกับเรื่องราวใน อาฬวกสูตร ซึ่งมีหลักธรรมที่น่าสนใจ ในตอนท้ายจะสรุปหลักธรรม เพื่อนำไปประพฤติปฏิบัติในยุควิกฤตทางด้านเศรษฐกิจ หลักธรรมเหล่านี้ ผู้สนใจนำไปปฏิบัติแล้ว น่าจะเกิดประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและสังคม ประเทศชาติต่อไป
อาฬวกสูตรนี้ มีปรากฏในพระไตรปิฎก เล่ม ๒๕ ข้อ ๓๑๐ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ในสมัยที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ในที่อยู่ของอาฬวกยักษ์ใกล้เมืองอาฬวี ครั้งนั้นอาฬวยักษ์ได้เข้าไปเฝ้าพระพุทธองค์ ณ ที่ประทับ
ได้กราบทูลพระพุทธองค์ (เชิงขับไล่) ว่า “จงออกไปเถิดสมณะ”
พระพุทธองค์ตรัสว่า “ดีละท่าน” แล้วก็ได้เสด็จออกไป
อาฬวกยักษ์ได้กราบทูลว่า “ขอจงเข้ามาเถิดสมณะ”
พระพุทธองค์ตรัสว่า “ดีแล้วท่าน” แล้วก็ได้เสด็จเข้ามา... -
ปธน.อินเดียสักการะพระพุทธรูปและดร.อัมเบดการ์
ปธน.อินเดียสักการะพระพุทธรูปและดร.อัมเบดการ์
พร้อมกับเปิดศูนย์วิปัสนากรรมฐาน โอกาสเยือนรัฐมหาราษฏร
วันที่ 22 ก.ย.2560 นายราม นาถ โควินธ์ ประธานาธิบดีประเทศอินเดีย ได้เดินทางไปรัฐมหาราษฏร ประเทศอินเดีย โดยเข้าสักการะพระพุทธรูปและรูปปั้นดร.อัมเบดการ์ หรือ ดร.บาบาสาเหบ พิมเรา รามจิ อัมเบดการ์ (Dr. Babasaheb Bhimrao Ramji Ambedkar) ซึ่งเป็นบุคคลที่เกิดในวรรณะศูทร ที่พัฒนาตัวเองจนได้รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และเมื่อประเทศอินเดียได้รับเอกราช ได้เป็นผู้ร่วมร่างรัฐธรรมนูญของประเทศอินเดียประกาศใช้จนถึงทุกวันนี้ และต่อมาได้นำพาคนอินเดียวรรณะต่ำหันมานับถือพระพุทธศาสนา ที่ Deeksha Bhoomi Nagpur
...............
(หมายเหตุ : ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก President of India)
ขอบคุณที่มา
http://www.banmuang.co.th/news/inter/91520 -
หลักการฝึกสมาธิเพื่อการศึกษา(พระราชสุทธิญาณมงคล)
สมาธิคืออะไร ?
พจนานุกรมให้คำอธิบายว่า ความตั้งมั่นแห่งจิต การสำรวมใจ ความแน่วแน่ของจิต การตริตรองอย่างเคร่งเครียดในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
คำอธิบายเหล่านี้ล้วนแต่แสดงลักษณะของสมาธิ ให้เห็นความหมายและความสำคัญที่มีอยู่ในสมาธินั้นทั้งสิ้น เพียงแต่ความตั้งมั่นแห่งจิต ซึ่งเป็นคำอธิบายท่อนแรก ก็มีความหมายลึกซึ้ง และแสดงให้เห็นว่า สมาธินั้นเกี่ยวกับจิต เพราะว่าความตั้งมั่นจะมีได้ต้องตั้งอยู่ที่จิต การทำจิตให้มั่นคง ไม่ให้ฟุ้งซ่าน ไม่ให้กวัดแกว่ง ให้ตั้งอยู่ในอารมณ์ ไม่เกาะเกี่ยวด้วยสิ่งอื่น ไม่ให้เป็นไปตามกระแสของสิ่งต่าง ๆ ที่ได้ประสบด้วยตา หรือหู หรือจมูก ลิ้น กาย ใจ
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทั้ง ๖ นี้ มีชื่อเรียกตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนาว่า “อินทรีย์” คำว่า อินทรีย์ แปลว่า เป็นใหญ่ คือเป็นใหญ่ในหน้าที่ของตน ตาเป็นใหญ่ในการดู หูเป็นใหญ่ในการฟัง จมูกเป็นใหญ่ในการดม ลิ้นเป็นใหญ่ในการลิ้ม กายเป็นใหญ่ในการถูกต้อง ใจเป็นใหญ่ในการรู้ ดู ฟัง ลิ้ม ถูกต้อง รู้... -
"คุณค่าของใจ" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
"คุณค่าของใจ"
" .. ตามพระพุทธภาษิตที่ตรัสไว้ว่า "มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฏฺฐา มโนมยาฯ" เป็นต้น คือ "สิ่งทั้งหลายมีใจถึงก่อน มีใจประเสริฐสุด สำเร็จแล้วด้วยใจทั้งนั้น"
จิตนี้ถ้าได้รับการอบรมดัดแปลงให้ถูกทางเป็นลำดับแล้ว "ไม่มีอะไรจะมีคุณค่ามากและประเสริฐเท่ากับใจ" แต่ถ้าถูกปล่อยหรือทอดทิ้งให้เป็นไปตามยถากรรมแล้ว "ก็ไม่มีอะไรจะเลวร้ายยิ่งกว่าใจ" ดังนี้
"เพราะใจเป็นธรรมชาติกลาง ๆ ซึ่งจะดัดแปลงให้เป็นไปในทางดีและชั่วได้" เมื่อเป็นเช่นนี้ เราผู้มุ่งต่อความสุขความเจริญอยู่แล้ว "ไฉนจะปล่อยโอกาสให้ความชั่วมาเป็นผู้มีอำนาจเข้าครอบครองจิต" ดวงกำลังจะประเสริฐอยู่นี้ ให้เป็นจิตที่อับเฉาไปเล่า
"นอกจากจะพยายามดัดแปลงและฉุดลากขึ้นจากโคลนตม" คือกิเลสอาสวะเป็นลำดับเท่านั้น ไม่มีทางอื่นสำหรับความรู้สึกของผู้มุ่งหวังในทางความสุขความเจริญแก่ตนเอง .. "
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=1962&CatID=9 -
ฤาษีในถ้ำร้าง!ชายแก่ผู้ช่วยนักสำรวจ ออกจากถ้ำร้างที่ไม่มีทางออก! ถูกตีแผ่ลงหนังสือพิมพ์ระดับโลก
สุดอัศจรรย์ ฤาษีในถ้ำร้าง !!! ชายแก่ผู้ช่วยนักสำรวจ ออกจากถ้ำร้างที่ไม่มีทางออก !!! ถูกตีแผ่ลงหนังสือพิมพ์ระดับโลก จากนักสำรวจผู้โด่งดัง
ยุคทองของนักสำรวจค่อย ๆ ริบหรี่ลงเมื่อเริ่มเข้าสู่สมัยศตวรรษที่ ๒๐ สถานที่ที่คนไม่รู้จักมาก่อนหลายแห่งได้รับการเยี่ยมเยียนโดยนักสำรวจ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทุกตารางนิ้วบนโลกได้รับการสำรวจหมดแล้ว มีสถานที่อีกมากมายที่มนุษย์ยังไม่ย่างกรายเข้าไปถึง ไม่ใช่เพราะสถานที่เหล่านั้นมีภยันตรายเกินกว่าที่จะมีคนกล้าเสี่ยงชีวิตไปสำรวจ แต่เป็นเพราะไม่มีใครรู้ว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่บนโลก
ถ้ำโลล์ทันซ่อนตัวอยู่ในป่ายูคาทัน ประเทศเม็กซิโก ชื่อถ้ำเป็นภาษามายัน มีความหมายว่า “ศิลาดอกไม้” เป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีซอกหลืบสลับซับซ้อนรวมระยะทางยาวกว่า ๒ กม. ซึ่งได้รับการจัดลำดับว่าเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่สุดในเม็กซิโก ถ้ำโลล์ทันไม่ใช่ถ้ำใหม่ที่เพิ่งถูกค้นพบ คนโบราณสมัยกว่าพันปีก่อนเคยอยู่อาศัยภายในถ้ำแห่งนี้มาก่อน ดังจะเห็นได้จากภาพวาดโบราณบนผนังถ้ำ และพบโครงกระดูกสัตว์หลายชนิด เช่น ควายและกวาง ซึ่งน่าจะเป็นสัตว์ที่ถูกมนุษย์ล่ามาเป็นอาหาร
-สำรวจถ้ำ-
ปี ๑๙๓๑ โรเบิร์ต สเตซี่-จัดด์... -
พญานาคตามหาลูก โผล่ที่วัดอรัญญบรรพต โดย(หลวงปู่ขาว อนาลโย)
ในปีพ.ศ. 2524 ที่วัดอรัญญบรรพต กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างอุโบสถ ได้มีเหตุอันน่าอัศจรรย์เกิดขึ้น คือพญานาคได้ลอยขึ้นมาอยู่เหนือผิวน้ำกลางแม่นำโขงบริเวณท่าน้ำวัดอรัญญบรรพต เหตุการณ์ครั้งนั้นมีเด็กวัดคนหนึ่งไปเห็นเข้า จึงได้วิ่งไปกราบเรียนหลวงปู่เหรียญ วรลาโภเพื่อให้ท่านไปดู ขณะนั้นหลวงปู่กำลังเขียนหนังสืออยู่ในกุฎิของท่าน
"หลวงปู่ไปดูนาคไหม มันขึ้นมาลอยเล่นอยู่กลางแม่น้ำโขง" เด็กวัดกราบเรียนหลวงปู่
ท่านตอบว่า "นากกินปลาเราเห็นมาพอแรงแล้ว"
เด็กวัดจึงวิ่งกลับไปดูอีก พญานาคคนนั้นก็ยังคงลอยอยู่กลางลำโขงเช่นเดิม สักครู่เดียวเด็กวัดคนนั้นก็วิ่งกลับมานิมนต์หลวงปู่อีก ท่านก็ตอบเด็กคนนั้นเหมือนเดิม จนเด็กคนนั้นวิ่งมานิมนต์ท่านเป็นครั้งที่ 3 คราวนี้ท่านนึกเอะใจว่าคงจะไม่ใช่นากกินปลาธรรมดาเสียแล้ว ท่านจึงได้ไปดู
เมื่อหลวงปู่ไปถึง พญานาคตนนั้นได้ดำน้ำลงไปแล้ว แต่ก็ยังมีเครื่องยืนยันให้ท่านได้ประจักษ์ว่าพญานาคนั้นมีอยู่จริงก็คือ ขณะนั้นแม้ว่าพญานาคจะจมลงไปในท้องน้ำแล้วก็ตาม แต่มันยังมิได้ไปไหน ได้พ่นน้ำพุ่งขึ้นมาเป็นสายคล้ายน้ำพุสูงขึ้นมาเหนือผิวน้ำ พญานาคทำอยู่อย่างนั้นเป็นระยะ ๆ ตั้งเวลา 10...
Page 353 of 432