คลังเรื่องเด่น
-
ดำรงสมาธิจวบสิ้นลมหายใจ!สมเด็จพระสังฆราชแมนรี ทริซิน รินโปเช ละสังขารแล้ว ในท่านั่งสมาธิ
ดำรงสมาธิจวบสิ้นลมหายใจ....สมเด็จพระสังฆราชแมนรี ทริซิน รินโปเช ละสังขารแล้ว ในท่านั่งสมาธิ เสด็จสู่สภาวธรรม
ทางเพจมูลนิธิพันดารา The Thosand Stars Foundation ได้เผยแพร่ข้อความดังต่อไปนี้ ...
วันที่ ๑๔ ก.ย. ๒๕๖๐ วานนี้
สมเด็จพระสังฆราชแมนรี ทริซิน ริมโปเช เสด็จสู่สภาวธรรมในลักษณะทำสมาธิ บนพระเพลามีบทสวดมนต์วางอยู่ และ ณ ขณะนี้พระองค์ก็ยังคงอยู่ในลักษณะ"ทุกตัม" นั่นคือ ดำรงอยู่ในสมาธิแม้ลมหายใจหมดสิ้นแล้ว เราจึงประสานจิตเป็นหนึ่งเดียวกับท่าน ณ ขณะนี้
เหล่าศิษย์และพุทธศาสนิกขอกราบขอบพระคุณพระอาจารย์ญีมา ทรักปา ริมโปเชที่ส่งภาพมาให้
อาจารย์กฤษดาวรรณ เมธาวิกุลและอาจารย์มิว เยินเต็น ได้กรุณานำภาพเหล่านี้มาบอกเล่าเรื่องราวของคุรุอาจารย์ ให้เห็นเป็นวิถีทาง เพื่อเตือนใจให้มนุษย์ผู้ตระหนักถึงความไม่เที่ยง มีความเพียรในการปฏิบัติธรรม เมื่อกายสังขารแตกสลาย จิตยังคงดำรงอยู่ จิตจะไปต่ออย่างไรขึ้นกับตัวของเราเอง
His Holiness Menri Trizin Rinpoche entered the mind of reality and has remained in "thugdam" meditative posture. Rinpoche's noble passing inspires us to persevere in our practices... -
ปราชญ์ท่านไม่ให้ประมาทในวาสนาบารมีของผู้ที่ด้อยกว่า
ปราชญ์ท่านไม่ให้ประมาทในวาสนาบารมีของผู้ที่ด้อยกว่า
เหตุเพราะว่า ในปุถุชนผู้มืดบอดเช่นเราๆท่านๆทั้งหลาย ณ ที่นี้ ไม่มีใครหยั่งรู้ถึงวาสนาบารมีธรรมและความเป็นมาในอดีตชาติของจิตแต่ละดวงๆได้ ว่ามีความดีชั่วสูงต่ำมากน้อยประการใด นอกเสียจากพระพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวกทั้งหลายผู้มีญาณทัศนะที่สว่างกระจ่างแจ้งยิ่งกว่าแสงพระอาทิตย์เป็นร้อยๆดวงรวมกัน ท่านหยั่งรู้ว่า สัตว์บางตนนั้นเขาเพียงแต่มาเสวยผลวิบากกรรมชั่วเพียงชั่วกาลชั่วเวลา เมื่อสิ้นวิบากกรรมนั้นๆแล้ว ถึงเวลาเขาอาจดีดผึงถึงพระนิพพานได้เร็วกว่า ผู้ที่กำลังสบประมาทขลาดเขลา ซึ่งเป็นผู้สร้างวจีกรรมชั่ว อันจะได้ผลวิบาก คือ ความทุกข์เผ็ดร้อนในกาลข้างหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะขึ้นชื่อว่า “กรรม” ไม่ว่าดีหรือชั่ว เมื่อกระทำไปแล้ว ย่อมได้รับผลอย่างเที่ยงแท้แน่นอนมิแปรผัน
ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น -
"ระงับอารมณ์ พิจารณาอารมณ์" (หลวงปู่เทศก์ เทสรังสี)
"ระงับอารมณ์ พิจารณาอารมณ์"
ผู้ถาม : ตามที่เข้าใจ "เวลามีอารมณ์เกิดขึ้น จะต้องพยายามระงับ" แต่ว่าท่านอาจารย์ว่า "เราจะต้องพิจารณาอารมณ์ที่เกิดขึ้น" หมายความว่า "อารมณ์ที่เราจะระงับคือเป็นอารมณ์ที่เราควรจะพิจารณา" หรือว่าอย่างไร
ท่านอาจารย์ : "การพยายามละอารมณ์คือละด้วยวิธีสละทิ้งเลย ก็จัดเป็นการละได้เหมือนกัน แต่ละไม่เด็ดขาด พิจารณาอารมณ์ที่เกิดขึ้นแล้วด้วยอุบายต่าง ๆ เห็นชัดแล้วจึงละ นี้เป็นการละได้เด็ดขาด"
ทั้งสองอย่างนี้ใช้ได้เหมือนกัน "อย่างที่หนึ่งใช้เวลาอันสั้น อย่างที่สองใช้เวลายาวนาน" ..
"ถามตอบต่างประเทศ ๖"
หลวงปู่เทศก์ เทสรังสี -
พระอรหันต์ในประเทศไทยไม่เคยขาดสายมาตั้งแต่พระพุทธเจ้ายังอยู่
เรื่อง..ปฏิปทาของพระอรหันต์
ตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าเป็นต้นมา จนกระทั่งปัจจุบัน พระของพระพุทธเจ้ายังไม่ขาด คือ ตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระอรหันต์ไม่ขาดสายจนกระทั่งปัจจุบัน
ทีนี้เราไม่รู้จักพระอรหันต์เป็นยังไง นึกว่าพระอรหันต์คงนั่งหลับตาปี๋ เสร็จละ คือว่า ส่วนใหญ่จริง ๆ ที่เขาได้มรรคได้ผล เขาก็ปล่อยตน แล้วเขาก็ไม่ประกาศตน จนกว่าเราจะเข้าไปหาท่าน ท่านเห็นความจริงใจของพวกเราแล้วท่านก็ไม่บอกตรงอีก เพราะว่าบอกตรงไม่ได้ การบอกตรงเป็นเรื่องของพระพุทธเจ้า พระสาวกบอกตรง ๆ ไม่ได้ แต่ว่าใครที่ปฏิบัติตามท่าน ท่านเห็นความมั่นใจของเรา ท่านจะแสดงลีลาออก
นี่ก็มีเยอะ พวกที่อยู่กรุงเทพฯน่ะ ชนพระอรหันต์ตายไปหลายองค์แล้ว ไม่ใช่ท่านตายแล้วชนนะ เดินชนเสียตายไปเลย
อย่าง วัดสระเกศมีอยู่องค์หนึ่ง เดี๋ยวนี้ตายไปหลายปีแล้ว ไม่ตายฉันไม่บอก ที่รู้ไม่ใช่พยากรณ์ว่าเป็นพระอรหันต์ ไม่ใช่ฉันรู้
มีวันหนึ่งนั่งทำกรรมฐานอยู่ที่อยุธยา นั่งเพลิน ๆ หลุดพลั๊วพะ ไม่ได้ไปนรกสวรรค์หรอก เสือกไปกรุงเทพฯ ไม่รู้มันไปยังไง ไปยืนปุ๊กอยู่ที่หน้าประตู เอ..กุฏิใครหว่าหมาเยอะจัง หมาขี้เรือนก็เยอะ... -
พระธรรมทูตจาก3ทวีปร่วมเปิดวัดไทยในมาเลย์
พระธรรมทูตจาก3ทวีปร่วมเปิดวัดไทยในมาเลย์
พระธรรมทูตจาก 3 ทวีปร่วมพิธีเปิดวัดไทยในเมืองโยโฮ บารูห์ประเทศมาเลเซีย
เมื่อวันที่ 12-14 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา พระราชอุปเสณาภรณ์ เลขานุการสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ได้เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจตรวจเยี่ยมวัดสาไทย เมืองคุ๊ดซิ่ง วัดพระพุทธศรีเทพเพชรบูรณ์ เมืองโยโฮ บารูห์ และเป็นประธานในพิธีเปิดวัดพุทธชยันตรี ณ เมืองโยโฮ บารูห์ ประเทศมาเลเซีย ตามคำอาราธนาของพระภาวนามังคลาจารย์ วิ.(หลวงพ่อเณร) เจ้าอาวาสวัดพระวรราชาธินัดดามาตุ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์
โดยมีพระธรรมทูตจาก 3 ทวีปได้มาร่วมงานสำคัญนี้ด้วยคือ
1.พระมหาทองศรี อาภาธโร วัดพุทธภาวนา เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาด้าประเทศสหรัฐอเมริกา จากทวีปอเมริกาเหนือ
2.พระครูสมุห์ชัยพิชิต ฐานุตตโร เจ้าอาวาสวัดหลวงอาร์เจนติน่า นครบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่า จากทวีปอเมริกาใต้
3.พระครูปลัดบุญเลิศ ปิยธมฺโม เจ้าอาวาสวัดพระพุทธศรีเทพ เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน จากทวีปเอเซีย และคณะสงฆ์จากประเทศไทย พร้อมทั้งชาวพุทธจากประเทศมาเลเซีย ร่วมงานนี้ด้วยความอบอุ่น... -
"ขาดเติมพอแบ่งเป็นธรรม"มส.แนะวิธีจำศาสตร์พระราชา
"ขาดเติมพอแบ่งเป็นธรรม"มส.แนะวิธีจำศาสตร์พระราชา
พระพรหมบัณฑิตแนะวิธีจำง่ายๆ ศาสตร์พระราชา "ขาดเติมให้เต็ม เต็มให้รู้จักพอ พอให้รู้แบ่ง แบ่งให้เป็นธรรม" ในการกล่าวอนุโมทนียกถาพิธีฉลองอายุวัฒนมงคล 62 ปี
วันที่ 16 ก.ย.2560 ในโอกาสอายุวัฒนมงคล 62 ปี พระพรหมบัณฑิต ศ.ดร. (ประยูร ธัมมจิตโต) กรรมการเถรสมาคม อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เจ้าคณะภาค 2 เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส วันที่ 17 ก.ย.2560 โดยวันนี้ (16 ก.ย.) มีพิธีบำเพ็ญกุศลวัดประยุรวงศาวาส พร้อมกันนี้มีบรรยายพิเศษเรื่อง "ศาสตร์พระราชาในมิติพระพุทธศาสนา" จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ
หลังจากนั้นพระพรหมบัณฑิต กล่าวอนุโมทนียกถาความว่า มีความรู้สึกปีติยินดีสำหรับท่านทั้งหลายที่มาร่วมงาน ถือว่าเป็นของขวัญอันล้ำค่า คือ ศาสตร์พระราชา ท่านได้มอบของขวัญอันล้ำค่าเป็นธรรมทานมีค่ามากกว่าอามิสทาน เราได้รับรู้รับทราบศาสตร์พระราชาถือว่าเป็นวาระแห่งชาติ เราต่างนำศาสตร์พระราชาขับเคลื่อนในทิศทางเป้าหมาย อะไรคือศาสตร์พระราชา จะเป็นแก่นเป็นกระพี้ก็ต่างเป็นต้นไม้ต้นเดียวกัน... -
หมาของหลวงพ่อ (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
เรื่อง…หมาของหลวงพ่อ
มีหมาอยู่ตัวหนึ่งทำท่าแหยๆ เรียก ไอ้ตี๋ๆ ทำท่าเหมือนตี๋ แต่อย่าไปโกงเชียวนะ พ่อสู้ไม่ว่าใคร ตัวเล็กแต่คอยวิ่งส่งวิ่งรับ ที่แรกเรานึกสงสาร ไอ้ตัวนี้จะสู้ใครเขาได้ ที่ไหนได้พวกไปแหย่หน่อยเดียวฟัดดะ ปกติท่าทางเรียบร้อย วันหนึ่งแม่ศรีเขามาบอกชื่อ ตัวนั้นชื่อนั้นๆ ตัวนี้ชื่อนี้ พอเรียก พระยา หน่อย หูรี่วิ่งเข้ามา แม่ศรีเขาบอกเดียวนั้นก็เรียกเดียวนั้นเลยหูรี่แสดงออกชัด ดีอกดีใจ เป็นชื่อเก่าเขา
มีตัวหนึ่งตัวเล็กที่สุด ป่วยตั้งแต่เกิดตั้งหลายเดือน มันไม่ยอมหายกับเขาเสียที เราก็หนักใจว่ามันจะตาย ท่านย่ามาบอก”ไปเรียกมัน ชูศรี ซิ “หูรี่วิ่งมาหาเลยคำแรกเท่านั้นนะมันรู้จักชื่อ เราระยำไม่รู้จักชื่อหมา มันแปลกจริงๆ น่าอัศจรรย์ ทำท่าหาย ทำท่าดีใจ
“เพราะฉนั้นเห็นสุนัขจะดูถูกไม่ได้ว่าเป็นหมานะเจ้าคะ”
สุนัข นี้เขาไม่ได้แปลว่าหมา เขาแปลว่า เล็บงาม ถ้าหมายตามศัพท์คือ สา สุนัขนี่ไม่แน่บางตัวเป็นพระโพธิสัตว์
มีอีกตัวตอนนี้มันแก่ ไม่ใช่ป่วย เดินจะไม่ไหว ชื่อ โคล่า
เมื่อวานนอนดูอยู่ พระท่านมาถามว่า “รู้จักโคล่าไหม ?”
ถาม “ทำไมครับ? ”
ท่านบอกว่า “เธอเห็นมันแปลกอะไรบ้างไหม”
บอก... -
วีดีโอ หลวงพ่อท่านเจ้าคุณภาวนาสอนมโนมยิทธิ
หลวงพ่อท่านเจ้าคุณพระราชภาวโกศล สอนมโนมยิทธิ ณ มหาวิหาร 100 ปีเกิดพระราชพรหมยาน -
สาธุ..เป็นบุญตายิ่งนัก!! พระบรมสารีริกธาตุของพุทธองค์ "พระทีปังกรพุทธเจ้า" !!
สาธุ...เป็นบุญตายิ่งนัก!! น้อยคนที่จะได้เห็น พระบรมสารีริกธาตุของพุทธองค์ "พระทีปังกรพุทธเจ้า" !!
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา เพจคลังพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นเพจเผยแพร่ความรู้ทางพุทธศาสนาจากหลายๆนิกาย ได้เผยแพร่ภาพของพระบรมสารีริกธาตุของพระทีปังกรพุทธเจ้าซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ประเทศจีน ให้ได้ชมเป็นบุญตากัน
เจดีย์พระบรมธาตุพระทีปังกรพุทธเจ้า
เจดีย์เฉาหยางเบื้องทักษิณ เป็นหนึ่งในเจดีย์คู่ทิศเหนือ-ใต้ แห่งเมืองเฉาหยาง มณฑลเหลียวหนิง มีความสูง 42.6 เมตร สร้างจากอิฐขึ้นสมัยราชวงศ์เหลียวในปี 1076 ตรงฐานมีการประดับประดาอิฐเป็นพุทธศิลป์งดงาม แต่ปัจจุบันลบเลือนไปมากแล้ว เมื่อปี 2004 ระหว่างที่คนงานกำลังทำงานก่อสร้างใกล้ๆ กับเจดีย์ ได้พบช่องทางเข้าสู่อุโมงค์ใต้ดิน ในอุโมงค์พบพระบรมสารีริกธาตุของพระทีปังกรพุทธเจ้าบรรจุในเจดีย์องค์น้อย ลักษณะพระธาตุเป็นแก้วใส
พระทีปังกรพุทธเจ้า 燃燈佛(Rándēng Fo)
Dipamkara เอียง เต็ง ฮุก
พระพุทธเจ้าผู้ทรงยังแสงสว่างให้บังเกิด (บ้างแปลว่า ดวงประทีป หรือ ดวงไฟ) อีกทั้งยังทรงมีหลายพระนามเช่น สมันตประภาพุทธเจ้า (โพวกวงฮุก)... -
พระพยอมคลอดหนังสือ”มหาบุรุษกองขยะ”
พระพยอมคลอดหนังสือ”มหาบุรุษกองขยะ”
วันเสาร์ ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2560, 21.25 น.
พระพยอมปลื้ม “ในหลวงร.9” ทรงส่งคนดูกิจกรรมเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงที่วัดสวนแก้ว ขยายออกเป็น 4 ภาค สร้างอาชีพแทนสร้างโบสถ์วิหารใหญ่โต ได้แรงบันดาลใจคลอดหนังสือ “มหาบุรุษกองขยะ”
วันที่ 16 ก.ย.2560 ในโอกาสอายุวัฒนมงคล 62 ปี พระพรหมบัณฑิต ศ.ดร. (ประยูร ธัมมจิตโต) กรรมการเถรสมาคม อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เจ้าคณะภาค 2 เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส วันที่ 17 ก.ย.2560 โดยวันนี้(16 ก.ย.) มีพิธีบำเพ็ญกุศลวัดประยุรวงศาวาส พร้อมกันนี้มีบรรยายพิเศษเรื่อง “ศาสตร์พระราชาในมิติพระพุทธศาสนา” โดย พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงใช้ธรรมะตามอริยมรรค 8 คือ สัมมาอาชีพ คือ การประกอบอาชีพที่สุจริต
“จึงทำหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่งคือ “มหาบุรุษกองขยะ” สามารถเลี้ยงชีวิตชอบ ถ้าขยันอดทน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงส่งคนมาดูกิจกรรมเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง จึงมีการขยายออกเป็น 4 ภาค... -
การรับศีลต้องเป็นไปด้วยเจตนา( หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน )
“การรับศีลต้องเป็นไปด้วยเจตนา การรับศีลมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน ท่านพุทธศาสนิกชนอาจจะไม่ทราบได้ จึงเอะอะก็ มยํ ภนฺเต มยํ ภนฺเต ส่วนจำเป็นอย่างอื่นไม่ค่อยกล่าวถึง แต่เวลานี้เป็นพิธีก็จะนำว่าให้ศีลตามประเพณี หลักของการรักษาศีล สมาทานศีลนั้นมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน เช่น มยํ ภนฺเต นี้เรียกว่าขอให้พระท่านเป็นประธาน เป็นสักขีพยานในการพูดตามท่าน เช่น ปาณาติปาตา เวฯ ก็พูดตามท่านไป นี้เพื่อเป็นพยานของเราให้แน่นหนามั่นคงขึ้นไป การรักษาศีลจะไม่ได้ด่างพร้อยขาดสูญไปเสีย
อันหนึ่งเจตนาวิรัติ มีความงดเว้นด้วยเจตนาว่าจะรับศีลแล้วก็เป็นศีลขึ้นมา ดังข้อสมาทานศีลเป็นศีลขึ้นมาด้วยกัน สัมปัตตวิรัติ ได้แก่ งดเว้นเฉพาะหน้า เห็นสัตว์ที่จะควรฆ่า สิ่งของที่จะควรขโมยเป็นต้น แต่ไม่ทำ งดเว้นเสีย นี่ก็เรียกว่าสัมปัตตวิรัติของศีลข้อหนึ่ง สมุทเฉจวิรัติแยกออกไป ๒ ประเภท ตั้งเจตนาวิรัติตั้งแต่บัดนี้ เช่นวันนี้เป็นต้นต่อไปอย่างเด็ดขาด จะไม่ทำลายศีลของตนแม้ข้อเดียว อย่างนี้ก็เป็นศีลขึ้นมา
ศีลประเภทหลักธรรมชาติที่ว่าสมุทเฉจวิรัติ อันนี้หมายถึงศีลของพระอริยเจ้า ตั้งแต่ขั้นพระโสดาบันขึ้นไป ท่านจะมีหิริโอตตัปปะประจำใจเลย... -
“คนเราถ้ามันจะขลัง ต้องขลังกระทั่งเยี่ยว เอ้า..ยิง” (หลวงปู่ตื้อ)
สมัยหนึ่งพวกทหารอากาศไปนมัสการหลวงปู่ตื้อ และคงมีเหตุไม่ชอบมาพากลอย่างไร หลวงปู่ตื้อผลุนผลันลุกขึ้นเดินไปฉี่ใส่ตอไม้ และกล่าวห้วน ๆ กับพวกนั้นว่า “คนเราถ้ามันจะขลัง ต้องขลังกระทั่งเยี่ยว เอ้า..ยิง”
ทหารพวกนั้นซัดซัลโวใส่ตอไม้ ปรากฎว่าไม่ออกสักนัด นี่นับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน แม้กระทั่งฉี่ยังทำให้ทหารยิงปืนไม่ออก
นอกจากนั้นแล้วก็มีบ้างที่พวกลูกศิษย์บางคนคิดพิเรนทร์เล่นแปลก ๆ บางคนถึงกับเอาเส้นเกศาของหลวงปู่ตื้อที่ท่านโกนทิ้งแล้ว เอาไปลองยิงดู ปรากฏว่ายิงไม่ออก ! พอลงมือยิง ปืนไม่ลั่น ก็รีบมาบอกหลวงปู่ตื้ออีกเช่นกัน เพื่อหวังว่าจะให้หลวงปู่ชมที่ตนเองค้นพบความมหัศจรรย์ ถือว่าเป็นคุณความดีเกิดขึ้นกับตัว
” หลวงปู่…หลวงปู่ครับ ผมลองเอาปืนยิงเส้นเกศาของหลวงปู่ดู มันยิงไม่ออกนะครับหลวงปู่ ”
หลวงปู่ตื้อ ย้อนถามเสียงดังว่า
” ผมกูไปลักควายพ่อมึงหรือ ผมของกูไปนอนกับแม่มึงหรือ มึงเอาผมกูไปยิงทำไม ทำอย่างนี้แสดงว่าไม่เชื่อกันนะสิ ”
แม้หลวงปู่ท่านจนจะกล่าวด้วยคำพูดที่ดุดัน แต่สีหน้าอาการสงบเงียบ แสดงชัดว่า การดุด่าของท่านมิได้เป็นไปด้วยอารมณ์ปุถุชน... -
อัศจรรย์!17ก.ย.อายุวัฒนมงคลพระราชาคณะ3รูป
อัศจรรย์!17ก.ย.อายุวัฒนมงคลพระราชาคณะ3รูป
สมเด็จพระวันรัต พระพรหมเสนาบดี และพระพรหมบัณฑิต
วันที่ 17 ก.ย.2560 ที่จะถึงนี้เป็นวันอายุวัฒนมงคลพระราชาคณะ 3 รูป คือ อายุวัฒนมงคล 81 ปี สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต/พรหมณ์พิทักษ์ ป.ธ.9, พธ.ด.) กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เจ้าประคุณสมเด็จเกิด 2479 อ.เมือง ตราด พธ.ด.กิตติมศักดิ์ 2553
อายุวัฒนมงคล 6 รอบ 72 ปี พระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร/บุญรัตนาภรณ์ ป.ธ.7, B.A., M.A., พธ.ด.) เจ้าคณะภาค 7, เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคาราชวรวิหาร กรุงเทพฯ, พระเดชพระคุณเกิด 2488 อ.บ้านแพ้ว สมุทรสาคร, พธ.ด.กิตติมศักดิ์ 2554
อายุวัฒนมงคล 62 ปี พระพรหมบัณฑิต ศ.ดร. (ประยูร ธัมมจิตโต) กรรมการเถรสมาคม อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เจ้าคณะภาค 2 เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส วันที่ 16 ก.ย.2560 พิธีบำเพ็ญกุศลวัดประยุรวงศาวาส และวันที่ 17 ก.ย.2560 จัดพิธีที่อาคารพระวิสุทธาธิบดี (หอฉัน) ชั้น 2 มจร อ.วังน้อย จ.อยุธยา โดยเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2560 นายมานัส ทารัตน์ใจ อธิบดีกรมการศาสนา... -
วิธีรักษาพระไตรสรณคมน์ไม่ให้ขาดและไม่ให้เศร้าหมอง
วิธีรักษาพระไตรสรณคมน์ไม่ให้ขาดและไม่ให้เศร้าหมอง ดังนี้คือ :-
๑. เป็นผู้ตั้งอยู่ในความเคารพ ๖ ประการ คือ เคารพในพระพุทธเจ้า ๑ เคารพในพระธรรม ๑ เคารพในพระอริยสงฆ์สาวก ๑ เคารพในความไม่ประมาท ๑ เคารพในไตรสิกขา ๓ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ๑ เคารพในปฏิสันถารการต้อนรับ ๑ ต้องเป็นผู้มีความเชื่อ ความเลื่อมใส นับถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะที่พึ่งที่ระลึก ของตนจริงๆ ถ้าประมาทเมื่อไรก็ขาดจากคุณพระรัตนตรัยเมื่อนั้น
๒. เว้นจากการนับถือพระภูมิต่างๆ คือ ไม่นับถือภูตผีปีศาจ พระภูมิเจ้าที่ เทวบุตร เทวดา มนต์ คาถา วิชาต่างๆ ต่อไป ถ้านับถือเมื่อไรก็ขาดจากคุณพระรัตนตรัยเมื่อ นั้น
๓. ไม่เข้ารีตเดียรถีย์ นิครณฐ์ คือไม่นับถือลัทธิ วิธี ศาสนาอื่น ภายนอกพระพุทธ ศาสนามาเป็นสรณะที่พึ่งที่ระลีกของตนสืบต่อไป ถ้านับถือเข้ารีตเดียรถีย์เมื่อไร ก็ขาดจากคุณพระรัตนตรัยเมื่อนั้น
๔. ไม่นับถือลัทธิศาสนาพราหมณ์ คือไม่ดูไม้ดูหมอ แต่งแก้แต่งบูชา เสียเคราะห์เสียขวัญ เป็นต้น ถ้านับถือเมื่อไรก็เศร้าหมองในคุณพระรัตนตรัยเมื่อนั้น
๕. เป็นผู้เชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม เช่น เชื่อว่า ทำชั่วได้ชั่ว ทำดีได้ดีเป็นต้น... -
“เริ่มที่ตัวเราก่อน” (ปฎิบัติธรรมเพื่อหยุดวัฏสงสาร)
“เริ่มที่ตัวเราก่อน”
” .. “ถ้าคนไม่มีศีล โลกก็จะเดือดร้อนวุ่นวาย เพราะการที่คนมีมาก การแก่งแย่งกัน ชิงดีชิงเด่นกัน การเอารัดเอาเปรียบกัน” กิเลสอย่างโลภะ โทสะ โมหะก็มีมากตามไปด้วย มาหากันก็มาสังหารกัน กิเลสมีแต่ทำให้โลกเดือดร้อนวุ่นวาย
เพราะฉะนั้น “ผู้ใหญ่ต้องทำดีให้พวกน้อง ๆ ดูเป็นตัวอย่างก่อน” ไม่ใช่ตัวเองทำแต่เรื่องชั่ว ๆ ทำแต่เรื่องชั่วช้าเสียหาย แต่จะให้ลูกน้องทำดี เเล้วมันจะดีได้อย่างไร? มันผิดวิสัย “เพราะก่อนที่จะให้คนอื่นทำดี ตัวเราเองต้องดีซะก่อน”
สรุปแล้ว “การสร้างคุณงามความดีให้เริ่มนับ ๑ จากที่ตัวเรา” เราต้องเป็นคนดีด้วยการคิดดี พูดดี ทำดีซะก่อน เพราะเมื่อเราดีแล้ว คนอื่นก็จะเริ่มดีตามไปด้วย
แต่ถ้า “พวกเราทุกคนอยากแต่จะให้คนอื่นทำดี แต่ตนเองไม่ทำดี สิ่งชั่ว ๆ ตัวเองเหมาหมด แต่อยากจะให้คนอื่นทำดี” แล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไร? ในเมื่อตัวเองก็ยังทำไม่ดี เขาเรียบราบ แต่ตัวเองยังขรุขระ
เพราะฉะนั้นถึงใครจะไม่ดีขนาดไหนเพียงไรก็ตาม “ก็ให้เรามองที่ตัวเองก่อน ให้ตัวเราเป็นคนดี” ตัวเองต้องเป็นคนมีศีล ๕ ก็แล้วกัน .. ”
“ปฎิบัติธรรมเพื่อหยุดวัฏสงสาร”
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก... -
"หลวงพ่อปาน"เกือบมรณะภาพ จนเห็นประตูสวรรค์ เพราะถูกวิชาไสยศาสตร์"บังฟัน"บาดลึกที่หน้าอก
หลวงพ่อปาน ถูกวิชาบังฟัน
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
“…สมัยหลวงพ่อปานอายุ ๓๘ ปี ถึงแม้ว่าท่านจะเป็นผู้มีความดี ประกอบไปด้วยความเมตตาปรานี ท่านเป็นพระที่ช่วยป้องกัน
คนอื่นมามากก็ตาม แต่ขึ้นชื่อว่า กฎของกรรม ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้
วันหนึ่งหลวงพ่อปานไปที่วัดประตูสาน จังหวัดสุพรรณบุรี วัดนี้อยู่ทางฝั่งตะวันตกของจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นต้นทางที่จะไปวัดป่าเลไลย์ในสมัยนั้น
ตอนเย็นท่านเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ก็ถอดอังสะ อังสะของท่าน มีพระเครื่องอยู่ด้วย แล้วท่านก็ล้ม ลุกไม่ได้ ท่านถูกบังฟัน เขาใช้คาถา ตั้งใจจะฟันคนไหน เขาก็ฟันผักฟันฟักแฟงก็ตาม เขาก็ว่าคาถาจะฟันให้ถูกตรงนั้น เขาฟันวัตถุแต่แผลมันปรากฏในร่างกาย ผิวหนังภายนอกไม่ปรากฏรอยแผล ท่านถูกบังฟันเป็นแผลยาวในอกข้างในและยังเป็นรอยนูน ผลที่สุดก็ต้องหามกันลงเรือแจวหลวงพ่อปานเวลาไปไหนท่านใช้เรือสัมปันนีมีเก๋ง ทาสีขาวทั้งลำ มีคนแจวหัวแจวท้าย ในขณะนั้นท่านมีอาการใกล้ปางตาย ท่านขอร้องให้พาท่านกลับวัด
พอมาถึงวัดบางซ้ายใน ปรากฏว่าอาการของท่านหนักมาก ท่านบอกให้แวะเข้าไปที่วัดบางซ้ายในก่อน ให้หามท่านขึ้นไปบนศาลา... -
เผย “ภาคเหนือ” เกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กต่อเนื่อง ศูนย์กลางอยู่ที่ “ลำพูน”
วันที่ 16 กันยายน นายทินกร ทาทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 ลำปาง ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับภูมิภาคของกรมทรัพยากรธรณี ดูแลพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เวลา 00.40 นาที ของวันนี้ ได้เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 1.3 ริกเตอร์ ลึกลงไปในดิน 3 กิโลเมตร จุดศูนย์กลางใน อ.บ้านธิ จ.ลำพูน
สำหรับการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ ไม่มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน เนื่องจากเป็นการไหวขนาดที่เล็กมาก ส่วนการเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ จ.ลำพูน บ่อยครั้งในช่วงระยะนี้ ซึ่งในช่วงเดือนนี้ จ.ลำพูน เกิดแผ่นดินไหวไปแล้ว 9 ครั้ง มาจากรอยเลื่อนแม่ทา และรอยแตกแขนงของรอยเลื่อนที่เกิดการขยับตัวตามแนวรอยเลื่อน จึงปล่อยพลังออกมา ทั้งนี้ พื้นที่ภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย มีรอยเลื่อนที่ยังคงมีพลังพาดผ่านอยู่ถึง 8 แห่ง ตามจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือ และยังมีรอยแตกแขนงของรอยเลื่อนที่ยังไม่มีการตั้งชื่ออีก ดังนั้น จึงทำให้พื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ จึงเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง
ที่มา มติชนออนไลน์
ขอบคุณที่มา
https://www.prachachat.net/general/news-39961 -
ไม่อยากตกนรกต้องมาทางนี้ !!
ไม่อยากตกนรกต้องมาทางนี้ !!
พระพุทธเจ้าทรงตรัสกับพระอานนท์
ดูก่อนอานนท์...
ถ้าอยากได้สุขอันใดก็ควรรู้จักสุขอันนั้นก่อน จึงจะได้ เมื่ออยากได้สุขในพระนิพพาน
ก็ควรรู้จักสุขในพระนิพพาน อยากได้สุขในมนุษย์แลสวรรค์ ก็ให้รู้จักสุขในมนุษย์แล
สวรรค์นั้นเสียก่อน จึงจะได้
ถ้าไม่รู้จักสุขอันใด ก็ไม่อาจยังความสุขอันนั้นให้เกิดขึ้นได้ ไม่เหมือนทุกข์ในนรก อันทุกข์ในนรกนั้นจะรู้ก็ตาม ไม่รู้ก็ตาม ถ้าทำกรรมที่เป็นบาปแล้ว ผู้ที่รู้ หรือผู้ที่ไม่รู้ก็ตกนรกเหมือนกัน
ถ้าไม่รู้จักนรก ก็ยิ่งไม่มีเวลาที่จะพ้นจากนรกได้
ถึงจะทำบุญให้ทานสักปานใด ก็ไม่อาจจะพ้นจากนรกได้
แต่มิใช่ว่าทำบุญให้ทาน มิได้บุญ
ความสุขที่แต่การทำบุญนั้นมีอยู่ แต่ว่าเป็นความสุขที่ยังไม่พ้นจากทุกข์ในนรก
เมื่อยังไม่รู้ ไม่เห็นนรกตราบใด ก็ยังไม่พ้นจากนรกอยู่ตราบนั้น
ครั้นได้เข้าถึงนรกแล้ว เมื่อได้รู้ทางออกจากนรกได้แล้ว ปรารถนาจักพ้นจากนรกก็พ้นได้ เมื่อไม่อยากพ้นก็ไม่อาจพ้นได้ ต้องรู้จัก แจ้งชัดว่า นรกอยู่ในที่นั้น ๆ มีลักษณะอาการอย่างนั้น ๆ และควรจะรู้จักทางออกจากนรกให้แจ้งชัด
ทางออกจากนรกนั้นคือ ศีลห้า ศีลสิบ ศีลพระปาฏิโมกข์นั้นเอง... -
“อุบายและความแยบคาย” (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
“อุบายและความแยบคาย”
คนที่เชื่อมั่นว่า ใจของเรามีอยู่ตรงนี้แหละ จิตของเรามีอยู่ตรงกายนี้แหละ แล้วจงพยายามคิดค้นหาด้วย “อุบายต่าง ๆ” ตามที่ได้ศึกษาจากครูบาอาจารย์ต่าง ๆ
แล้วจะเกิด “แยบคาย” ขึ้นมาด้วยตัวเอง
“แยบคาย” นี้แตกต่างจาก “อุบาย”
“อุบาย” แนะนำสั่งสอนกันได้ เช่นบอกว่า
จงรักษาคุณงามความดีด้วยการรักษาศีล ดังนี้เป็นต้น
ส่วน “แยบคาย” นั้นไม่ทราบจะบอกอย่างไงกัน
มันต้องเกิดความรู้ความเห็นขึ้นมาด้วยตนเองและความรู้ความเห็นอันนั้นก็เป็นของแจ้งชัดเสียด้วย
จนอุทานขึ้นมาในใจว่า “อ๋ออย่างนี้หรอกหรือ”
แต่ความรู้อันนั้นจะเอาไปเผยแพร่แก่คนอื่นก็ไม่เหมือนกับที่ความรู้ด้วยใจของตนเอง
จะบอกคนอื่นได้ก็เพียงแต่ “อุปมาอุปมัย” นั้นแล้ว
รวมความแล้ว
“แยบคาย” เป็นความรู้พิเศษที่เกิดขึ้นเป็น “ปัจจัตตังเฉพาะตน”
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น -
เมื่อจิตรู้สึกไม่ดีต่อพระ ผู้มีพระคุณและชีวิตอื่น ให้ขอขมา(โยโทโสฯ)เต็มบท
จากคำถาม...."รู้ว่าบาป ที่รู้สึกไม่ชอบพ่อของตัวเองจะทำยังไงดี ..."
หลวงตาม้า วิริยธโร : ถามตอบปัญหาธรรมณ วัดพุทธพรหมปัญโญ(ดู่)อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน 2560
ศิษย์ : การฝึกในศาสตร์ของหลวงปู่นะคะ สวดไปเรื่อยๆจะรู้ได้ยังไงคะ ว่าถูกทางค่ะ
หลวงตา : มันจะไปยากอะไรแม่ชี คิดอะไรก็ #อย่างงั้น ถูกแล้วทาง เมื่อก่อนมันคิดไม่ออกหรอก มัวแต่ #สาระวนเรื่องโลก
เรื่องอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะไปหมดเลย กลับมาสวดมนต์ แผ่เมตตา โมทนาบุญ บันทึก
บุญ มันก็มีเป็นบวกล้วนๆเนี่ย ไม่รู้นี่เป็นไปไม่ได้หรอก #ไม่ต้องถาม หรอก บางคนก็ถามหลวงตาเหมือนกัน เอ้ เวลาสวดมนต์ภาวนาสงบแล้วไปไหนต่อ ถามแบบนี้ไม่รู้หรอก มันไม่สงบหรอก
ถ้าคน #สงบ เค้าจะ #ไปถามทำไมล่ะ ใช่มะ เออ(หัวเราะ) ไม่ถามหรอก
ศิษย์ : รู้ว่าบาป ที่รู้สึกว่าไม่ชอบพ่อของตัวเองนะคะ แล้วเค้าจะทำยังไงดีคะ
หลวงตา : #ไม่ได้นะ พ่อนะเว้ย รู้สึกไม่ดีเนี่ยมันก็เป็น #มโนกรรม แล้วนะฮะ คือจิตไม่ดีไง ไม่
มีพ่อเราก็ไม่เกิดนะ ไม่มีแม่เราก็ไม่ได้เกิดนะ ใช่มะ
ถึงเค้าจะรักเราไม่รักเรา #เราไปรักเค้าอ่ะดีที่สุดแล้วท่านถึงว่า รักทุกคน หลวงพ่อท่านให้รักทุกคน... -
“คนมีการภาวนาเรียกว่า คนมีหลักใจ”
“คนมีการภาวนาเรียกว่า คนมีหลักใจ”
” .. “หลักของพุทธศาสนาอย่างแท้จริงแล้ว อยู่ที่ภาวนา” การให้ทาน การรักษาศีล เป็นกิ่งก้านสาขาดอกใบออกไป “การภาวนานี้เป็นรากแก้วหรือรากเหง้าเค้ามูล” สำคัญอยู่ที่การภาวนา
“พอการภาวนาได้หยั่งเข้าถึงจิตแล้ว จิตจะซึมซาบเข้าถึงธรรมทั้งหลาย” จะฝังความเชื่อความเลื่อมใสต่อมรรคต่อผลไปเรื่อย ๆ ฝังลึกลงไปเรื่อย ๆ ผู้นั้นกลายเป็น “อจลศรัธทา คือศรัทธาไม่หวั่นไหวในมรรค ในผล ในบุญ ในกรรมในมรรค ผล นิพพาน มีความแน่วแน่” แล้วก็พยายามดำเนินตนไปอย่างงั้น
ไม่ใช่ทำอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าพอเป็นขนบประเพณีว่า ทานก็ทานไปเสียพอเป็นประเพณี จิตใจไม่ดูดดื่มผลก็ไม่ได้มาก การให้ทานได้ผล “แต่ว่าทานด้วยความแน่วแน่ภายในจิตใจ มีการภาวนาเป็นฐานสำคัญ เป็นแม่เหล็กเครื่องดึงดูดในการให้ทานให้มีกำลังหนักมากขึ้น” นั้นมีผลต่างกันมากนะ ทำอะไรจดจ่อ ทำอะไรจริงจัง
“คนมีการภาวนาเรียกว่าคนมีหลักใจ” มีหลักใจแล้วจะทำอะไรไม่ว่าทางโลกทางธรรมเป็นความจริงจังด้วยกันหมด ไม่ค่อยผิดพลาดนะ คนผู้มีธรรมในใจ .. ”
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น -
อุเบกขาธรรม
อุเบกขาธรรม
กำลังใจของผู้ซึ่งจะเข้ามาศึกษาในพระพุทธศาสนานั้นมีวิธีที่จะวัดง่ายๆคือ บุคคลบางประเภทพอใจแต่เพียงที่จะให้ทานซึ่งเป็นวัตถุแต่ถ้าชวนให้รักษาศีลก็จะทำหน้าเบ้ไม่เอาด้วย โดยมีข้ออ้างสารพัดบางประเภทก็ให้รักษาศีลที่วัดยอมไปแต่ถ้าชวนให้ปฏิบัติสมาธิแล้วไม่เอาเด็ดขาดกลัวจะเป็นบ้า ดังนั้นก่อนจะชวนใครต้องศึกษานิสัยของเค้าเสียก่อนอย่าสุ่มสี่สุ่มห้าชวน เพราะถ้ารนักปฏิบัติใหม่บางท่านจิตกำลังฟูด้วยอำนาจของปิติ ถ้าขาดสติมาพิจารณาใครควรแล้วอาจถูกมองเป็นคนบ้าเพราะต้องการที่จะแสดงออกให้เห็นความมีคุณค่าของการปฏิบัติ จึงอยากชวนให้ผู้อื่นเข้ามาลิ้มลองรสของธรรมะ
ขณะเดียวกันกิเลสที่สิงอยู่ในใจก็เป็นตัวหมุนตามไปด้วย จึงต้องระมัดระวังให้มีสติรู้อยู่ อย่าโมโห
เพราะบุคคลที่พระพุทธองค์จำแนกประเภทไว้มีถึง ๔ เหล่า
ถ้าเจอประเภทไม่เอาไหนหรือประเภทชอบก้าวร้าวเพราะอาจจะเกิดการโต้เถียงขึ้นได้
นี่แหละบอกเกิดขึ้นโดยฉับพลัน เพราะต่างคนต่างหน้าดำหน้าแดงเคียงกันเพื่อชนะ นอกจากทำตัวไม่เกิดแล้ว บางครั้งอาจเกิด"ธรรมมวย"ขึ้นมาแทน
หลวงปู่เคยพูดเสมอว่า " เห็นดี รู้ดี อย่าเที่ยวแสดงออก หรือโม้ไปเดี๋ยวจะดีแตก "... -
"หลวงปู่ขาว เล่าเรื่องเสือ"
"หลวงปู่ขาว เล่าเรื่องเสือ"
" .. "หลวงปู่ขาวอนาลโย เล่าเรื่องเกี่ยวกับเสือในช่วงที่ท่านพักจำพรรษาที่ดงหม้อทอง" อำเภอบึงกาฬ จังหวัดหนองคาย ดังนี้ ..
คืนหนึ่ง หลวงปู่ฯ กำลังให้การอบรมกรรมฐานแก่พระที่จำพรรษาอยู่ด้วยสามสี่องค์ "ก็ได้ยินเสียงนักเลงโตสามตัวลายพาดกลอน ดังกระหึ่ม ๆ ขึ้นข้าง ๆ บริเวณที่พัก" มันอยู่คนละด้าน
ต่อจากนั้นพวกมันก็มาพบกัน "ได้ยินเสียงคำรามขู่กันบ้าง เสียงกัดในลักษณะหยอกล้อกันบ้าง" สักพักก็เงียบหายไป นึกว่าพวกมันไปกันแล้ว ต่อมา ได้ยินเสียงขู่เข็ญ กัดกัน เล่นกัน ข้าง ๆ ที่พักนั้นเอง ดูมันจะใกล้กับที่พระนั่งภาวนาอยู่เรื่อย ๆ
"ประมาณสามทุ่ม เจ้าป่าทั้งสามก็พากันมาหยอกล้ออยู่ใต้ถุนศาลาที่พระกำลังนั่งสมาธิภาวนาฟังการอบรมจากหลวงปู่ฯ อยู่ศาลาหลังเล็ก ๆ นั้น" มีพื้นสูงเพียงเมตรกว่า ๆ เท่านั้นเอง โครงสร้างไม่ได้แข็งแรงอะไรเลย ปลูกพอได้พักอาศัยเท่านั้น
เสือสามตัวส่งเสียงกระหึ่มคำรามหยอกล้อกัดกัน เล่นกันอยู่ใต้ถุนศาลาหลังเล็ก ๆ นั้นส่งเสียงรบกวนพระโดยไม่สนใจอะไร "ดูท่ามันจะสนุกกันใหญ่ หลวงปู่ฯ เห็นว่า ไม่ควรปล่อยไว้เช่นนั้น" จึงพูดเสียงดังลงไปว่า ..
"เฮ้ย .. สามสหาย... -
อย่าให้ความดีร่วงหล่นไปตามนิวรณ์ : ท่านพ่อลี ธัมมธโร
อย่าให้ความดีร่วงหล่นไปตามนิวรณ์ :
การสร้างกุศลให้มีขึ้นในดวงจิตดวงใจเช่นนี้ก็เท่ากับเราเป็นคนมีทรัพย์ และเมื่อมีทรัพย์ก็จะต้องมีสิ่งรบกวนเหมือนต้นไม้ที่มีดอกสวยงาม ก็มักมีบุ้งหนอนหรือแมลงต่างๆมารบกวนเพราะดอกของมันมีกลิ่นหอม
จิตของเราก็เหมือนกัน..เมื่อมีพุทธคุณ ธรรมคุณและสังฆคุณเกิดขึ้น ก็จะต้องมีเครื่องทำลายรบกวน คือ “นิวรณ์” หรือ “นิมิต” เหมือนดอกไม้ที่มีแมลงมาตอม ดอกของมันก็จะต้องร่วงหล่น เมื่อดอกร่วงหล่นเสียแล้ว ผลของมันก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ จิตของเราก็เช่นเดียวกัน อย่าให้ความดีร่วงหล่นไปตามนิวรณ์ จึงต้องคอยระวังจิตให้ตั้งเฉยอยู่ในตัวของเราเอง จนรู้สึกว่าไม่มีสิ่งอะไรมารบกวนหรือทำลาย จิตก็จะเหมือนกับช่อมะม่วงที่ถูกละอองฝนหล่อเลี้ยง ไม่ช้าก็จะมีผลตามมาแล้วเราก็เก็บผลกินสบาย
: ท่านพ่อลี ธัมมธโร
ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น -
อารมณ์ไม่มีอะไรจะต้องทำแล้ว: หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
อารมณ์ไม่มีอะไรจะต้องทำแล้ว
ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ เวลาลูกกำลังนั่งอยู่เฉยๆ นี่มีความรู้สึกบอกว่า ” ไม่มีอะไรจะต้องทำแล้ว ” มันว่างแล้วจิตมันฟูขึ้น เกิดขึ้น 2 ครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งครึ่งวัน แล้วก็ครั้งหนึ่งในเวลาทำงานได้ชั่วโมงกว่า มีความรู้สึกว่า ” ไม่มีอะไรจะต้องทำอีกแล้ว ”
อารมณ์แบบนี้มันเป็นอย่างไรคะ ?
หลวงพ่อ : นั่นแหละ ! อารมณ์พระนิพพานก็เป็นแบบนั้นแหละ ถ้าพูดง่ายๆว่า อารมณ์พระอรหันต์ก็เป็นแบบนั้น ทำได้เดี๋ยวเดียวใช่ไหม ?
ผู้ถาม : ประมาณชั่วโมง แล้วอีกครั้งได้ครึ่งวัน
หลวงพ่อ : เอาละ ช่างมันเถอะ ! ถ้ามันได้ช่วงนิดๆ หน่อยๆก็ดี ให้มันชิน บางทีมันจะได้สักชั่วโมง ครึ่งชั่วโมง หรือ 10 นาที หรือ 2 นาที เราก็พอใจให้มันชิน ไม่ช้ามันจะชิน อารมณ์นี้เวลาจะตายมันจะจับอารมณ์นี้ แต่การสอนเขาสอนนะว่า อารมณ์ว่าง คำว่า ” อารมณ์ว่าง ” คือ ว่างจากกิเลส มันจะเป็นความสุขที่สุด มันสุขเบาๆ ใช่ไหม มันเป็นนิรามิสสุข ไม่ใช่สามิสสุข
ไอ้สามิสสุข คือ ได้ของ ได้คน ได้สัตว์ที่เราชอบ เป็นความสุขเขาเรียกว่า ” สามิสสุข ” คือสุขอิงอามิส
ถ้านิรามิสสุข ไม่เกี่ยวข้องกับอามิส อารมณ์มันเฉยๆ
ผู้ถาม :... -
"เบื่อโลก" คำสอนหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
เบื่อโลก
ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ คนที่ไม่เคยปฏิบัติธรรม แต่ว่ามีความรู้สึกเบื่อโลกอย่างนี้เป็นนิพพิทาญาณหรือเปล่าคะ ?
หลวงพ่อ : เบื่อนิพพิทาญาณหรือเบื่อหนักหนี้หรือเบื่อกลุ้มใจ นิพพิทาญาณเขาแปลว่า เบื่อ ญาณเขาแปลว่ารู้สึกเบื่อ เราก็ต้องดูว่าเขาเบื่อโลกไม่หวังเกิดอีก ไม่หวังเป็นเทวดาหรือพรหม หวังนิพพาน นี่เป็นนิพพิทาญาณ ถ้าเบื่อเฉยๆไม่อยากอยู่ในโลกนี้ อันนี้เรียกมีจิตกังวลหรือจิตเศร้าหมอง นิพพิทาญาณนี่เขาไม่ซึม
ผู้ถาม : อย่างนี้จะแก้โดยการเจริญสมาธิได้ไหมคะ ?
หลวงพ่อ : จะไหวเรอะ ไม่ไหวนะ ใจเขาเป็นแบบนั้น ต้องใช้พระสูตรง่ายๆ จะเป็นเทปพระสูตรหรือหนังสือพระสูตรก็ได้ เอาของที่ยากไปก็ไม่ไหว ถ้าพระสูตรหรือชาดกก็ดี ตอนที่ท่านประชุมชาดกดีมาก
ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ) -
วิธีการบรรลุธรรมได้เร็วที่สุด: พระญาณวิสาลเถร (หลวงปู่หา สุภโร)
วิธีการบรรลุธรรมได้เร็วที่สุด
โยม : หลวงปู่ครับผมทำอย่างไรจะบรรลุธรรมได้เร็วที่สุด
หลวงปู่ : ก็ละความอยากบรรลุธรรมของคุณสิ ได้เร็วที่สุด คุณละได้เร็วเท่าไหร่คุณก็จะบรรลุธรรมได้เร็วเท่านั้น
โยม : ไม่ใช่ครับผมหลวงปู่ ผมหมายถึงว่า ในการปฏิบัติธรรม วิธีการปฏิบัติของสายใดเป็นวิธีลัดให้เราบรรลุธรรมได้ง่ายๆและเร็วที่สุด
หลวงปู่ : เออ ก็อย่างนั้น แล้วคุณจะรีบไปไหนหล่ะ หรือทุกวันนี้คุณรีบไม่พอ เดินทางก็รีบ ทำมาหากินก็รีบ รีบไปหมด การปฏิบัติธรรมก็รีบ คุณดูนี่ (แล้วท่านก็ยกมือข้างซ้ายท่านขึ้นมา กางนิ้วมือทั้ง ห้าน้ิวออก แล้วก็เริ่มโบกเร็วๆ) คุณว่าตอนนี้มีกี่นิ้ว
โยม : เห็นไม่ชัดครับผม หลวงปู่ต้องโบกช้าๆครับผม ผมถึงจะเห็น
หลวงปู่ : นั้นๆ นี่ไงหล่ะ ขนาดคุณยังอยากให้หลวงปู่โบกมือช้าๆเลย โบกมือเร็วๆไม่เห็นนิ้วมือใช่ไหม โบกช้าๆมันจึงจะเห็นชัด การปฏิบัติธรรมหน่ะคุณเอ้ย มันไม่มีอะไรเร็วได้ดอก รีบทำ รีบทำ มันไม่เห็นปัญญานะ ถึงเห็นมันก็ไม่แจ้ง ต้องค่อยๆทำ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป แต่อย่าหยุด เดินทุกวัน ทำทุกวัน ภาวนาทุกวัน ขี้เกียจขี้คร้านก็ทำ ขยันหมั่นเพียรก็ต้องทำ อย่าหยุด ค่อยเป็นค่อยไป... -
ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์อยากจะทำอะไร?
ใครหนอน่าสงสารที่สุด
คำถามเดียวกัน แต่ต่างคำตอบ ต่างภพภูมิ ต่างวาระ ต่างบารมี ต่างความคิด ต่างการกระทำ ต่างจุดมุ่งหมาย
” ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์อยากจะทำอะไร??? ”
เทวดา ตอบว่า
“เราจะพิจารณาธรรม เพราะมนุษย์มีกายสังขาร ที่เหมาะกับการพิจารณาธรรมมาก ร่างกายของมนุษย์เป็นเครื่องมือที่ใช้พิจารณาธรรมได้ดีที่สุด น่าอิจฉาพวกมนุษย์จริงๆ”
พญานาค ตอบว่า
“บวชสิ ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ เราจะบวช … เป็นพญานาคมีฤทธิ์มากก็จริง แต่บวชไม่ได้ พ้นทุกข์ไม่ได้ ไม่เหมือนมนุษย์ พระพุทธเจ้าไม่อนุญาตให้นาคบวช แต่มนุษย์บวชได้ มนุษย์ไปนิพพานได้ แสนประเสริฐ”
พระภูมิเจ้าที่ ตอบว่า
“ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง คราวนี้เราจะไปทำบุญใส่บาตรทุกวัน ไม่ต้องมานั่งรอคนอุทิศส่วนกุศลมาให้เราอีก ไปทำเองเลย เพิ่มบารมีได้เร็วทันใจดี”
สัตว์เดรฉาน ตอบว่า
“ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ เราจะสงเคราะห์สัตว์ตัวอื่นๆ … เป็นสัตว์นั้นทุกข์มาก พูดก็ไม่ได้ คิดอะไรฉลาดๆ ก็ไม่ได้ … เป็นมนุษย์มีสมอง มีปัญญา เราจะใช้ปัญญาของมนุษย์ทำให้ตัวเองไม่ต้องมาเป็นสัตว์อีก”
เปรต ตอบว่า
“เราไม่อยากมีหน้าตาน่าเกลียด ไม่อยากมีปากเท่ารูเข็ม มีรูปร่างสูงเหมือนต้นตาล... -
การใช้ชีวิตในทางโลก : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
การใช้ชีวิตในทางโลก : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
คุณครูคณิตพร บุณยเกียรติ(ชื่อเก่าท่านคือครูสมพร ชื่อเล่นคือครูเปี๊ยก) ได้เขียนเล่าเรื่องประทับใจในองค์หลวงพ่อเอาไว้ในหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม พิเศษ ทางเวบวัดท่าซุงมีนำเรื่องนี้มาลงไว้ด้วย
ผมขอนำบางส่วนที่ครูเปี๊ยกได้เขียนถึงคำสอนหลวงพ่อหลายๆอย่างในการใช้ชีวิตในทางโลกเอาไว้ดังนี้ครับ :
๑. ท่านสอนให้เป็นคนตื่นแต่เช้า โดยบอกว่า “คนที่ตื่นเช้าจะไม่ยากจน” ตื่นมาทำอะไรให้เสร็จเรียบร้อย และจะไปนอนใหม่ก็ไม่เป็นไร
๒. ท่านสอนให้ทำอะไรเร็วๆ ไวๆ ไม่ชักช้ายืดยาด ถ้าท่านบอกให้ใครไปทำอะไร ต้องรีบลุกทันที จะใช้คำว่า “เดี๋ยวก่อน” ไม่ได้เลย การเดินทางติดตามท่านแต่ละครั้ง ต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเวลานัดหมายประมาณ ๑ ชั่วโมง มีอยู่คราวหนึ่ง
ท่าน นัดรถออกตี ๕ พอตี ๔ เศษๆ หลวงพ่อท่านออกมาแล้ว ข้าพเจ้าต้องรีบขึ้นรถทั้งชุดนอนแล้วไปเปลี่ยนที่ปั๊มน้ำมันเวลารถจอดเติม น้ำมัน ตั้งแต่นั้นมาการเดินทางทุกครั้ง พวกเราจะตื่นมาแต่งตัวและจัดกระเป๋าให้เรียบร้อยพร้อมขึ้นรถได้ทันที แล้วนอนคอยเวลา พอท่านมาก็ลุกไปขึ้นรถได้เลย เป็นการฝึกให้ลูกศิษย์มีนิสัยทำอะไรรวดเร็ว...
หน้า 356 ของ 432