คลังเรื่องเด่น
-
ชื่นชม! ร.ร.พังทุย หนึ่งในต้นแบบโรงเรียนวีถีพุทธทำวัตรเช้าในวันพระก่อนเข้าเรียน
ชื่นชม!ร.ร.พังทุยพัฒนศึกษาผ้าขาวม้าเป็นสัญลักษณ์ลูกอีสาน หนึ่งในต้นแบบโรงเรียนวีถีพุทธทำวัตรเช้าในวันพระก่อนเข้าเรียน
ร.ร.พังทุยฯวีถีพุทธทำวัตรเช้าก่อนเข้าเรียน
โรงเรียนมัธยมประจำตำบลเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น โรงเรียนนี้อยู่กลางป่า เด็กที่มาเรียนที่นี่ ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานชาวบ้านแถวนั้น หากใครได้เข้าไปสัมผัส จะหลงใหลและหลงรัก โรงเรียนและนักเรียนโรงเรียนนี้ อย่างแน่นอน “รอยยิ้ม” และ “ความมีน้ำใจ” คือความโดดเด่นของนักเรียนที่นี่
ทุกวันพระนักเรียนและครูที่นี่จะใส่ชุดขาวตามอัตภาพที่จะหาได้ ที่สำคัญและถือเป็น “วัฒนธรรมของโรงเรียน” คือ การทำวัตรเช้า ในวันพระ ก่อนเข้าเรียน หลังจากนั้นก็จะ “ออกกำลังกายด้วยผ้าขาวม้า” “ผ้าขาวม้า” ที่คล่องคอ เปรียบเสมือน “เนคไท” ที่เป็น “สัญลักษณ์” ของลูกอีสาน และยังเป็น “อุปกรณ์” สำหรับออกกำลัง ทุกเช้า
แม้ไม่มีราคาที่แพง และเท่ และ น่ารักมาก
ถ้าคณะสงฆ์ทั่วราชอาณาจักร มีส่วนเข้าไปช่วยเหลือ สนับสนุน เติมเต็ม โรงเรียนเหล่านี้ จะเป็นคุณูปการต่อพระพุทธศาสนามาก และที่สำคัญ คณะสงฆ์ยังสามารถต่อยอดในการสร้าง โรงเรียนวีถีพุทธ โดยคณะสงฆ์... -
ฮือฮา!พบพระทองคำอายุกว่าร้อยปี ลูกศิษย์ลอกรักออกถึงกับตะลึงเนื้อเป็นทองทั้งองค์ (คลิป)
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบพระพุทธรูปทองคำแท้องค์ใหญ่ ปางมารวิชัย ถูกเก็บรักษาไว้ที่วัดจุฬามณี ต.องครักษ์ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง จึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่วัดดังกล่าว โดยตรวจสอบบนศาลาการเปรียญซึ่งเป็นศาลายกสูง ด้านหน้าปิดล็อกประตูอย่างดีถึง 2 ชั้น บริเวณด้านบนประดิษฐาน “พระพุทธมงคลชัย” เป็นพระปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 93 เซนติเมตร ซึ่งองค์เป็นสีเหลืองทอง ตั้งไว้ในตู้กระจกบนศาลา โดยมีประตูเหล็กล้อมรอบอีก 2 ชั้น
จากการสอบถามคุณลุงพิชิต มีลักษณะ อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ที่ 3 ต.องครักษ์ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง กรรมการวัดและเป็นคนเก่าแก่ของวัด กล่าวว่า ตนยืนยันว่าพระพุทธมงคลชัยองค์นี้เป็นพระทองคำจริง โดยพระพุทธมงคลชัยนี้เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย มีหน้าตักกว้าง 93 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 1 ตัน แต่เดิมพระพุทธรูปองค์นี้สมัยก่อนนั้นเป็นพระพุทธรูปที่ลงรักไว้เป็นสีดำ และประดิษฐานไว้ที่หอสวดมนต์เก่า ซึ่งเป็นที่โล่งแจ้ง ไม่ค่อยได้มีใครสนใจ มีขี้นกอยู่เต็มไปหมด... -
“อุเบกขาของพระพุทธเจ้า ต่างจากการทอดธุระ”(หลวงปู่บุดดา ถาวโร)
เรื่อง “อุเบกขาของพระพุทธเจ้า ต่างจากการทอดธุระ”
(คติธรรม หลวงปู่บุดดา ถาวโร)
ลูกสาวในอดีตของท่านกำลังคิดว่า ขณะนี้เรากำลังถูกคนทำคุณไสย แต่ก็ทำอะไรเราไม่ได้ หากเราพบบุคคลเหล่านั้นอีก เราจะไม่ปรุงแต่งจิตของเรา แม้เขาจะมุ่งประทุษร้าย เราก็จะปล่อยวางหรือวางเฉยจะดีไหม คิดเพียงแค่นี้ หลวงปู่บุดดาท่านก็มาแล้วสอน มีความว่า
“เฉยอย่างนั้นก็โง่นะซิ บางอย่างต้องต่อสู้ แก้ได้ต้องแก้ไป ไม่ใช่เขาใช้ให้ไปตายก็ยอมไปตายแหงแก๋ สิ่งที่ให้วางเฉย (อุเบกขา) ก็คือ กิเลสที่มากระทบอายตนะ ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ตัวธรรมล้วนๆ คือ ไม่ปรุงแต่งในธรรมที่เข้ามากระทบสัมผัสนั้นๆ เช่น ใครคิดร้ายต่อเราก็ช่างเขา แต่ถ้าถึงขั้นเอาไม้หวดตีกายเรา ถ้าเรารู้จักเมตตาตัวเองก็ต้องหลบซิ เพราะถ้าให้เขาตีกายเรา จิตเราอาศัยมันอยู่ก็ต้องเจ็บไปด้วย แต่ถ้าเขาแค่คิดยังไม่ได้ทำ ก็กรรมของเขา เขาทำแล้วเราหลบ เราแก้ไขไม่ได้ต่อกร ก็กรรมของเขาอีกนั่นแหละ มันคนละกรรมกัน อย่าไปยุ่งให้จิตวุ่นวาย”
ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น -
ต้องเพียรปฏิบัติทำวิปัสสนาญาณให้แจ้ง ความสงสัยก็หมดไปเองโดยสิ้นเชิง
” ผู้ปฏิบัติอย่างแท้จริงนั้น
ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงชาติหน้าชาติหลัง
หรือนรกสวรรค์อะไรๆ ก็ได้.
ให้ตั้งใจปฏิบัติให้ตรงศีลสมาธิปัญญาอย่างแน่วแน่ก็พอ
ถ้าสวรรค์มีจริงถึง ๑๖ ชั้นตามตำรา
ผู้ปฏิบัติดีแล้ว ก็ได้เลื่อนฐานะตนเองโดยลำดับ
หรือถ้าสวรรค์นรกไม่มีเลย
ผู้ปฏิบัติดีแล้วย่อมไม่ไร้ประโยชน์
ย่อมอยู่เป็นสุข เป็นมนุษย์ชั้นเลิศ
การฟังจากคนอื่น การค้นคว้าจากตำรานั้น
ไม่อาจแก้ข้อสงสัยได้
ต้องเพียรปฏิบัติทำวิปัสสนาญาณให้แจ้ง
ความสงสัยก็หมดไปเองโดยสิ้นเชิง.”
หลวงปู่ดุลย์ อตุโล
เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ.
ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต -
ฝึกใจให้สูงด้วยบุญและคุณ : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
ฝึกใจให้สูงด้วยบุญและคุณ : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
นั่นแหละคนเรา ไม่ใช่ว่าจะทำดีไม่ได้เมื่อตกไปในทางที่ชั่วแล้ว รู้ตัวแล้วก็กลับทำดีขึ้นได้อยู่นี่ เมื่อทำคุณงามความดี ให้สูงขึ้นไปได้แล้ว ไอ้ความชั่วที่ตัวทำมาแต่ก่อนนั้น มันก็ตามให้ผลไม่ทัน มันก็เป็น “อโหสิกรรม” ไป
ถ้าไม่อย่างนั้นพระศาสดาจะไม่ทรงสั่งสอน ให้ “ละชั่ว ทำดี” เลย แสดงว่า ความชั่วนี่ละได้ ละไม่ได้แต่ความชั่วอย่างหนักอย่างที่เคยพูดให้ฟังมาแล้ว “อนันตริยกรรม” กรรมหนักมีฆ่าพ่อฆ่าแม่เป็นต้น หมู่นี้ อันนี้บุคคลจะเพียรพยายามละปานใดก็ละไม่ได้ มันต้องติดตามให้ผล มีอเวจีมหานรกเป็นที่ไป
แต่ถ้าบุคคลได้ทำกรรมเบากว่านั้นลงมาแล้ว รู้ตัวแล้วสามารถเพียรพยายามฝึกฝนจิตใจ ให้สูงอยู่ด้วยบุญด้วยคุณอย่างว่ามาแล้วนั้น บาปกรรมเหล่านั้นก็กลายเป็นอโหสิกรรมไป มันจะตามสนองไม่ทันแล้วเพราะว่าจิตใจมันสูงขึ้น ด้วยบุญด้วยคุณอยู่แล้ว สูงอยู่ด้วยขันติความอดทน อย่างที่ว่ามานั่นแหละ
ใครจะมายั่วยวนตนชวนทะเลาะวิวาทก็ไม่เอาด้วยเลย เพราะว่าจิตใจของผู้นั้นมันสูงอยู่แล้วนี่ มันมองเห็นไอ้การทะเลาะวิวาททำหยาบคายต่างๆหมู่นี้เป็นของเลว... -
“อุบายจับตัวใจ” (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
“อุบายจับตัวใจ” (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
” .. ท่านให้ใช้คำบริกรรม “จะเป็นพุทโธ หรืออานาปานสติก็ได้” ล่อให้ใจมันมาอยู่ตรงนั้นเท่านั้น ถ้าใจไม่อยู่ก็ไม่เป็นประโยชน์อะไรเลย “บริกรรมให้จิตมันอยู่ในคำบริกรรมนั้น เพื่อจะจับมันให้ได้”
บางคน “ถึงจะภาวนาพุทโธหรืออานาปานสติ ตัวจิตมันก็ไม่อยู่ในพุทโธ” จิตมันไปไหนก็ไม่ทราบ แม้แต่พุทโธก็หายไปด้วยกัน “นี่คือขาดสติแล้ว”
“จงตั้งสติคุมจิตให้อยู่ในพุทโธใหม่” ทำอย่างนี้อยู่เรื่อยไป “ทำบ่อยเข้าจิตก็อยู่เอง” เมื่อสติคุมจิตมาอยู่ในคำบริกรรม พุทโธ ๆ อันเดียวแล้ว ให้พิจารณาดูว่า “ใครผู่ว่าพุทโธ ก็จิตนั่นแหละเป็นผู้ว่าพุทโธ” เกิดจากอะไร ก็เกิดจากจิต ผู้คิด ผู้นึก ผู้รู้สึก
“จึงว่าจิตมันอยู่กับพุทโธแล้วคราวนี้” อย่าไปจับเอาพุทโธ “จับเอาความรู้สึกนั่นแหละ อันที่นึกคิดว่าพุทโธ” พอจับจิตได้แล้ว คำบริกรรมว่าพุทโธก็จะหายไป หรือถ้าไม่หายก็จงวางเสีย “จับเอาแต่ผู้รู้หรือธาตุรู้อันเดียว” .. ”
“หลักภาวนา”
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น -
“ความยึดมั่นผูกพัน นำมนุษย์เกิดเป็นสัตว์ได้”
“ความยึดมั่นผูกพัน นำมนุษย์เกิดเป็นสัตว์ได้”
” .. “กรรมที่อาจทำให้มนุษย์ในชาติหนึ่งต้องเป็นสัตว์ในอีกชาติหนึ่ง หรือทำสัตว์ในชาติหนึ่งให้กลับเป็นมนุษย์ในอีกชาติหนึ่ง” มีผู้เขียนบ้างเล่าบ้างไว้หลายเรื่องเกี่ยวกับเรื่องนี้
รวมทั้งเรื่องที่มีปรากฏในพุทธกาล “จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามพึงไม่ประมาท” กรรมใดที่เคยมีแสดงไว้ว่า “ทำให้มนุษย์ต้องเกิดเป็นสัตว์” เชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่พึงทำ
กรรมสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ “เป็นกรรมทางใจคือความผูกพัน” ผู้ตายมีความผูกพันในภพภูมิของตน เช่น “ผูกพันในทรัพย์สมบัติของตน” ในภพภูมินั้น “ความผูกพันยึดมั่นอาจนำให้กลับมาเกิดในบ้านเรือนตนอีกได้ แต่จะมิใช่เป็นมนุษย์”
มีเรื่องเล่าว่า “เกิดเป็นเล็นก็มี เกิดเป็นสุนัขก็มี” ซึ่งน่าจะไม่มีผู้ใดปรารถนาจะเป็น “จึงน่าจะต้องระวังกรรมทางใจให้มาก” เช่นเดียวกับกรรม ทางกายทางวาจา “อย่ายึดมั่นห่วงใยในอะไรให้มากนัก” วางเสีย ปล่อยเสีย “ท่องพุทโธ ๆ ไว้เสมอ” นั่นแหละจะทำให้ถอนใจจากความยึดมั่นได้ .. ”
“อำนาจอันยิ่งใหญ่แห่งกรรม”
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๙
ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น -
คุณธรรมสามัคคี ๔ ข้อ โดย พระเทพสิงห์บุราจารย์
๑. ทานัง ความเป็นผู้อัธยาศัย อารีอารอบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เจือจานแก่กัน ตามกำลังของตน อันนี้เป็นทางให้เกิดความสามัคคีประการหนึ่ง ความเป็นคนใจจืดเหนียวแน่น เห็นแต่ประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว เป็นเหตุทำลายความสามัคคี
๒. เปยฺยวชฺชํ ความเป็นผู้มีวาจาอ่อนหวาน นุ่มนวลชวนดื่มไว้ในใจ ถึงแม้ว่าวาจาจะหยาบคาย แต่เป็นเครื่องเตือนใจให้ประพฤติดี วาจาเช่นนี้ ก็ควรดื่มไว้ในใจ อันนี้เป็นทางให้เกิดความสามัคคีประการหนึ่ง การพูดเสียดสีกระทบกระทั่ง บริภาษให้บาดใจ เป็นเหตุทำลายความสามัคคี
๓. อตฺถจริยา ความประพฤติกิจ ที่เป็นประโยชน์ต่อกัน คือความเป็นผู้โอบอ้อม เห็นเขาได้ทุกข์ยากก็เอาใจช่วยและคอยถามข่าวคราวทุกข์สุขแห่งกันและกัน สิ่งใดที่ควรแก่กำลังก็ช่วยเหลือไม่ดูดาย เห็นสิ่งใดผิดก็ช่วยตักเตือน ถ้าความเสื่อมเสียจะมีมาถึงก็ช่วยแก้ไขป้องกัน โดยเต็มกำลัง อันนี้เป็นทางให้เกิดความสามัคคีประการหนึ่ง ความดูดายเพิกเฉย ต่อผู้ตกอับหรือกลับซ้ำเติมส่งเสริมโทษภัย เป็นเหตุทำลายความสามัคคี
๔. สมานตฺตตา ความเป็นผู้มีตนเสมอ คือเป็นคนมีมารยาทเรียบร้อย ไม่หยาบคาย... -
"ความเดือดร้อนทั้งหลาย ล้วนมีกามเป็นเหตุ"
"ความเดือดร้อนทั้งหลาย ล้วนมีกามเป็นเหตุ"
" .. วันนี้เรานั่งสมาธิแล้วหรือยัง เวลานี้จิตเราตั้งมั่นในสมาธิเป็นปกติดีหรือยัง "ผู้ใดปล่อยจิตไปตามกามารมณ์ ผู้นั้นต้องเดือดร้อนในภายหลัง เพราะกามทั้งมวลล้วนแต่นำทุกข์มาให้" ทั้งในอดีตและในปัจจุบันและติดตามไปในอนาคต ควรละทิ้งให้ได้ในเวลานี้เป็นการดีมาก เพราะท่านใดละกามตัวนี้ได้ ย่อมอยู่เป็นสุขทุกลมหายใจ
"สิ่งเดือดร้อนทั้งหลายในโลกนี้ ทั้งมวลนี้ล้วนแต่กามเป็นเหตุ" เหตุใหญ่อยู่ที่ใจหลงใหลในกามารมณ์ เหตุนี้ท่านผู้ยังละกามทางกายไม่ได้ให้พยายามละ ผู้ที่ละทางวาจาไม่ได้ก็ให้พยายามละ ผู้ละกามทางจิตยังไม่หมด ก็ละให้หมดในเวลานี้ "ท่านผู้นั้นจึงชื่อว่า อยู่ในพระพุทธศาสนา" แล .. "
"ธรรมเมตตา" ฉบับที่ ๑๓ วันที่ ๑ กันยายน ๒๕๐๖
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร -
เสียงธรรม 8 วิธีเข้าฌาน 4 ภายในครึ่งชั่วโมง : พระอาจารย์ฑิจถากร
8 วิธีเข้าฌาน 4 ภายในครึ่งชั่วโมง : พระอาจารย์ฑิจถากร
พระอาจารย์ฑิจถากร อาจิตปุญฺโญ:-
Published on Jan 11, 2017ธรรมะชุด แก่นธรรม เพื่อพระนิพพาน
พระอาจารย์ฑิจถากร อาจิตปุญโญ อริยธรรมสถาน (ป่าหลังวัดไผ่ล้อม) ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี " สถานที่เผยแพร่ธรรมะ เพื่อพระนิพพาน โดยมุ่งเน้น ให้ญาติโยม คิดเสมอว่า "ตายเมื่อไหร่ ขอไปพระนิพพาน"...ไม่ให้คิดเกิดอีก เพราะการเกิดเป็นทุกข์ และถ้าคิดแบบนี้ ตอนใกล้ตายได้จริงๆจากใจ ก็จะบรรลุพระอรหันต์ได้ ไม่จำเป็นต้องบวชพระเสมอไป จะเป็นหญิงชายทั่วไปก็บรรลุได้ เช่นเดียวกับพระอรหันต์ชื่อโคธิกะ ที่สามารถบรรลุอรหันต์ พร้อมกับวินาทีที่ตายได้ เพราะใจไม่อยากเกิด อยากนิพพาน...ทั้งๆที่ ตอนมีชีวิตยังตัดกิเลสไม่ได้ มีฌานๆก็เสื่อม แต่พอใกล้ตายก็บรรลุอรหันต์ได้ เพราะเป็นการบรรลุอรหันต์หรือนิพพานแบบที่ 2 คือ อนุปาทิเสสนิพพาน ...
เนื่องจากนิพพานมี 2 แบบ คือ
1. สอุปาทิเสสนิพพาน หมายถึง ผู้ที่ดับกิเลส ได้แล้ว และยังมีชีวิตอยู่ (เรียกว่าพระอรหันต์ ไม่จำเป็นต้องห่มผ้าเหลืองเสมอไป)
2. อนุปาทิเสสนิพพาน หมายถึง ผู้ที่ดับกิเลสได้ ตอนใกล้ตายไม่กี่วินาที... -
เสียงธรรม "จิตตนคร นครหลวงของโลก" สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
พุทธวิธีควบคุมความคิด
คุณโฉ โจโฉ เสียงธรรม Official
Published on Dec 27, 2013 -
มส.เผยแบบหนังสือที่ระลึกออกพระเมรุมาศ
วันนี้(12 ก.ย.)พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ กล่าวว่า จากการประชุมสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป ซึ่งมีพระธรรมทูตไทยทั่วโลกเดินทางมาร่วมประชุม ที่วัดพุทธวิหาร เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 9-10 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น ได้มีการให้แนวทางในการประกอบพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่จะจัดขึ้นในส่วนของวัดไทยในต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งจะเป็นโอกาสให้พระธรรมทูตไทยซึ่งมีอยู่ทั่วโลกได้แสดงให้โลกได้เห็นถึงพระเกียรติคุณของพระองค์ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย และแผ่ไพศาลไปทั่วโลก โดยได้เน้นย้ำให้วัดไทยในต่างประเทศ ซึ่งอยู่ประมาณ 385 วัด ให้ประกอบพิธีอย่างสมพระเกียรติ โดยให้แต่ละวัดประสานกับสถานทูตของแต่ละประเทศ อย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง เหมาะสม และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน
นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า ตามที่มหาเถรสมาคม(มส.) และคณะสงฆ์ทั่วประเทศ... -
ความสวย..หลอกใจตัวเอง
* ความสวย..หลอกใจตัวเอง *
โอวาท : หลวงพ่อพระราชพรหมยานฯ~วัดท่าซุง*
..." ถ้าจิตของเรา จะให้สงบจาก นิวรณ์ ข้อต้นจริง ๆ ในด้าน กามฉันทะ ก็ต้องใช้ปัญญาด้วย คือใช้อารมณ์คิด บางขณะเราก็ทรงจิตให้สงบ พออารมสบายก็คลายจากความสงบ มาเป็นอารมณ์คิด คิดว่า รูปสวย รูปใครมันสวย.
.. สภาพรูปคนสวย รูปสัตว์สวย นี่..ดูไม่ยาก คนและสัตว์ ไม่มีใครสวย ไม่มีใครสะอาด มีแต่สภาวะสกปรก.
* ที่มีความหลงว่า ตัวเองสวย หรือหลงว่า คนอื่นสวย นั่นเป็นอารมณ์ของความโง่ ถ้าสวยจริง ๆ ก็ไม่ต้องแต่งตัว ไม่ต้องอาบน้ำ ไม่ต้องหาเครื่องอาภรณ์ ปล่อยสภาพเป็นไปตามปกติ มันสวยอยู่ตลอดเวลาอย่างนี้ เรียกว่า "สวยจริง" หรือว่า สะอาดจริง.
.. แต่ว่า.. ถ้าต้องชำระล้างร่างกาย ขัดสีฉวีวรรณอยู่ ต้องแต่งเนื้อแต่งตัว มันจะเอาอะไรมาสวย..
* สภาวะ ที่เราเรียกว่า "สวย" นั่น มันของที่หลอกลวงตาเท่านั้น ไม่ใช่หลอกแต่ผู้อื่น มันหลอกใจเราด้วย.. นั่งดูของจริงตรงนี้..."
( จากหนังสือ "ธัมมวิโมกข์" เล่มที่ ๓๙๘ ปีที่ ๓๕ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ หน้าที่ ๙๒ ของวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี..คัดลอก โดย ยุพยง พัฒนเจริญ ) -
เล็งเทียบวิชาพุทธศาสนาไม่ต้องเรียนซ้ำ
วันนี้( 12ก.ย.)นายมานัส ทารัตน์ใจ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) เปิดเผยว่า เร็วๆนี้ ตนจะหารือกับพระพรหมมุนี (สุชิน อคฺคชิโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในฐานะแม่กองธรรมสนามหลวง และ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เกี่ยวกับการเทียบวิชาที่เรียนในศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ กับ รายวิชาธรรมศึกษาชั้นตรี โท และเอก และเทียบกับวิชาสามัญ ที่เรียนในโรงเรียนสังกัด สพฐ. เช่น วิชากระทู้ เด็กก็ไม่ต้องไปเรียนวิชาเรียงความ ,วิชาพุทธประวัติ ก็ไม่ต้องเรียนวิชาสามัญวิชาใดวิชาหนึ่งที่มีเนื้อหาคล้ายกัน เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อจูงใจให้เด็กมาเรียนในศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์เพิ่มมากขึ้น และไม่ต้องเสียเวลาเรียนซ้ำในเนื้อหาสาระที่เรียนมาแล้ว
” การเทียบผลการเรียน หรือ เทียบหน่วยกิต ให้ถ่ายโอนกันได้ มีเป้าหมายสำคัญคือให้เด็กมาเรียนพุทธศาสนา เข้าใกล้หลักธรรม เข้าใกล้พุทธประวัติมากขึ้น ส่วนการได้ใบประกาศ หรือ ไม่ต้องเรียนซ้ำ เรียนน้อยลง ในโรงเรียนเป็นเพียงปลายทาง ซึ่งถ้าสามารถเทียบผลการเรียนกันได้ทั้งกับการเรียนสายสามัญศึกษาในโรงเรียน และการเรียนธรรมศึกษาชั้นตรี โท และเอก... -
"ไม่อยากเป็นเจ้ากรรมนายเวรใคร ก็อย่าได้คิดผูกใจเจ็บเคียดแค้นเขา"
"ไม่อยากเป็นเจ้ากรรมนายเวรใคร ก็อย่าได้คิดผูกใจเจ็บเคียดแค้นเขา"
เ จ้ า ก ร ร ม น า ย เ ว ร ได้แก่ ผู้ที่เคยสร้างเวรกรรมต่อกันมาแต่ชาติก่อน หมายถึง ผู้ที่ถูกเราทำร้ายทำอันตรายมาก่อนแล้วผูกใจเจ็บคิดจองเวรจองกรรมต่อกัน แต่ถ้าเขาไม่คิดจองเวรจองกรรมกับเรา ก็ไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา แต่กรรมชั่วที่เราทำกับเขาก็ใช่ว่าจะไม่ส่งผล กรรมชั่วนั้นย่อมส่งผลแน่นอน
การที่เราทำบุญคุณความดีอะไร ๆ ก็ตาม ท่านสอนให้อุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรด้วยทุกครั้ง ทั้งนี้ด้วยเหตุผลที่ว่า ชีวิตเราแต่ละคนล้วนผ่านภพชาติเวียนเกิดเวียนตายมาแล้วนับไม่ถ้วน และแต่ละชาติของเราก็ไม่อาจทราบได้ว่าได้เคยสร้างเวรสร้างกรรมอะไร กับใคร มาบ้าง ดังนั้น เพื่อเป็นการลดผลกรรมที่เกิดจากการผูกขาดพยาบาท อาฆาต จองเวร หลังการทำบุญทุกครั้ง จึงควรกรวดน้ำอุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร
พระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ กล่าวถึงผลดีของการทำบุญอุทิศแก่เจ้ากรรมนายเวรไว้ว่า...
""การทำบุญแล้วอุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร นอกจากจะทำให้หมดเวรหมดภัยต่อกันแล้ว ทุกท่านจะกลับร้ายกลายเป็นดี ลูกหลานจะมั่งมีศรีสุข จะประกอบอาชีพการงาน ก็จะมีเงินไหลนอง ทองไหลมา... -
ทิพจักขุญาณ..ปฏิบัติไม่ยาก
ทิพจักขุญาณ..ปฏิบัติไม่ยาก
ู”..ทิพจักขุญาณนี้มันมีประโยชน์ ความจริงวิธีปฏิบัติก็ไม่มีอะไรยาก เป็นของธรรมดาๆ ที่เราจะสามารถชนะอารมณ์ฟุ้งซ่านของจิตได้เสียอย่างเดียว เราไม่ซ่านไปทั้งหมดหรอก
ซ่านในด้านความรัก ในกามารมณ์เราก็ไม่ซ่าน
ซ่านในด้านความโกรธ ความพยาบาทเราก็ไม่ซ่าน
ซ่านในด้านคิดถึงอารมณ์ภายนอก เราก็ไม่ซ่าน
ซ่านในด้านแห่งความสงสัย เราก็ไม่ซ่าน
ปักมันตรงเข้าไว้ สร้างกำลังใจปักตรงดิ่งในอารมณ์ที่เราต้องการในนิมิตที่เราต้องการ นี่ความจริงมันก็แค่นี้ไม่มีอะไรยาก ไม่มีอะไรหนัก
สำหรับท่านที่บอกว่าทำไม่ได้ ความจริงการทำแบบนี้มันลงทุนสักเท่าไร ถ้าเราจะเอากันจริงๆ ครั้งละ ๕ นาทีพอ นั่งจับภาพไฟก็ดี ภาพสีขาวก็ดี ภาพแสงสว่างก็ดี ลืมตาดูภาพจับอารมณ์ให้ทรงตัวให้ได้ภายใน ๕นาที จะไม่ยอมให้จิตหลีกเลี่ยงไปสู่สภาวะอย่างอื่น
เรื่องสภาวะนี่ชอบพูดนัก ใครเขาจะรู้เรื่อง ไอ้ที่รู้ก็มีไม่รู้ก็มี เป็นอันว่าไม่ยอมให้จิตกับอารมณ์อื่นเป็นอันขาด ให้จิตทรงตัวอยู่ตามนั้น นี่มันขึ้นอยู่กับกำลังใจอย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีอะไรเลยเป็นของยากของลำบาก..”
ที่มาจาก โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๓ หน้า ๘๕
ที่มา... -
"ละบาปก่อนจึงบำเพ็ญบุญ" (หลวงปู่ชา สุภัทโท)
"ละบาปก่อนจึงบำเพ็ญบุญ"
" .. หัวใจพุทธศาสนาสอนว่า "ไม่ให้ทำความผิด แล้วก็ทำจิตให้เป็นกุศล แล้วก็จะเกิดปัญญา" แต่ทุกวันนี้ทำบุญกัน "แต่การละบาปนั้นไม่มีใครคิดเห็น"
ความเป็นจริงนั้น "ก็ต้องละบาปก่อนจึงบำเพ็ญบุญ" ถ้าบาปไม่ละจะเอาบุญไปอยู่ที่ไหน ไม่มีที่จะอยู่หรอกบุญนั้น ฉะนั้น "เราต้องกวาดเครื่องสกปรกออกจากใจของเราเสีย แล้วจึงจะทำความสะอาด" เรื่องนี้พวกเราควรจะเอาไปคิดพิจารณา .. "
"๘๔ พระธรรมเทศนา"
หลวงปู่ชา สุภัทโท -
นอนภาวนาในโลงศพ(หลวงปู่จาม มหาปุญโญ)
“…นอนภาวนาในโลงศพ…”
“…การนอนในโลงศพ ก็เคยทำ นอนพิจารณาความตาย กำหนดพิจารณาว่า “มรณํ เม ภวิสฺสามิ”
อันนี้ทำอยู่เมื่อคราวอยู่บ้านปากทางแม่แตง เจริญมรณานุสสติ นานเข้าฯ จิตใจอ่อนดี ได้กำลังดีมาก นับว่าได้ประโยชน์
เราก็หลบซ่อนทำอยู่โดยลำพัง กลัวย้านโยมมาเห็นแล้วเขาจะกลัวหรือหาว่าเป็นขึดเป็นขวงอย่างนั้นไป แต่ก็ไม่วายสุดท้าย ญาติโยมเขารู้จักจึงได้หยุด
วันนั้นอ้ายสุวรรณ เด็กน้อยหนุ่มวัยรุ่น เขาใช้ให้มาส่งข่าวให้ว่าท่านอาจารย์แหวนหกล้มตกหัวกระไดกุฏิอยู่บ้านป่ง ญาติโยมเขาก็จะไปทำบุญพรุ่งนี้เดินทางไปแต่เช้า มาบอกให้เราเตรียมตัวไม่ต้องออกบิณฑบาต เพราะจะให้ไปฉันกับท่านอาจารย์แหวน ช่วงนั้นอยู่คนเดียว ท่านอาจารย์ตื้อ (อจลธมฺโม) ยังไม่มาอยู่ด้วย
ผู้ข้าฯ ก็นอนกำหนดภาวนาอยู่ออกพรรษาใหม่ๆ อากาศมันหนาวเข้ามาเข้าไปนอนในโลงศพมันอุ่นดี เอาฝาโลงปิดแง้มไว้ให้ได้อากาศหายใจ อ้ายสุวรรณมันก็มาร้องหา “ตุ๊เจ้าๆ ๆ”
เราจะออกไปตอนที่มันอยู่ใกล้ๆ แถวนั้นก็กลัวมันย้านแล้ว วิ่งนี้คอยท่าให้มันเดินห่างแถวนั้นไปก่อน มันก็ร้องหาอยู่ “ตุ๊เจ้าๆ ๆ”
มันเดินไปไกลหน่อยหนึ่งแล้วเราก็ค่อยๆ จะออกมาที่นี้... -
ระงับดับกิเลสที่ใจ (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)
ถ้าอะไรมันกระเทือนขึ้นในใจให้ดูหัวใจเจ้าของทันที เพราะเรามาแก้ใจ มาระงับดับกิเลสที่ใจ กิเลสแสดงออกมา หือ ออกมาแล้วหรือให้ว่างั้นซิ สมมุติไม่พอใจคนนั้น ความไม่พอใจนี้คือเรื่องของเราเองเป็นผู้ก่อขึ้นมา นี่จับตัวนี้ก่อน ฟาดตัวนี้ให้มันพังลงไปซิ นั่นจึงเรียกว่าผู้มาแก้กิเลส ต้องดูตัวนี้ซิ ไปดูอะไรข้างนอก ต้นเสานี่ก็ไปโกรธมันได้ถ้าใจเลวเสียอย่างเดียว ต้นเสาก็ไปโกรธให้เขาได้ ภูเขาทั้งลูก ดินฟ้าอากาศ โกรธให้เขาไม่พอใจให้เขาได้ ถ้าใจเลวเสียอย่างเดียวว่างั้นเลย ถ้าใจเป็นนักปฏิบัติมีสติสตังกำจัดกิเลสที่แสดงฤทธิ์เดชแห่งความเลวทรามขึ้นมาในใจขนาดไหน จับปุ๊บ ๆ นั่นจึงเรียกว่าผู้มาแก้ตัวเองซิ
.
อย่าไปถือภายนอกนะ ให้ดูตัวนี้ตัวมันกระเพื่อมนี่ นี่ละการปฏิบัติธรรมต้องเป็นอย่างนั้นนะ ต้องดูจุดต้นเหตุมหาเหตุ มหาเหตุอยู่นี่ อย่างพระอัสสชิเทศน์ให้พระสารีบุตรนั่นละ ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ คือใจ มันจะดับ-ดับที่ตรงนี้ก่อน พระสารีบุตรบรรลุธรรมพระโสดาขึ้นทันทีเลยเห็นไหมล่ะ ท่านจ้อเอาตรงนั้นเลยไม่เอาที่อื่น เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหต ตถาคโต เตสญฺจ นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ เป็นบาลีว่าอย่างนั้น... -
“เน้นที่ปฏิบัติ ไม่อธิบายธรรมมาก เพราะจะกลายเป็นสัญญา”
เรื่อง “เน้นที่ปฏิบัติ ไม่อธิบายธรรมมาก เพราะจะกลายเป็นสัญญา”
(หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต สอนกรรมฐาน หลวงปู่แหวน สุจิณโณ)
หลวงปู่มั่นนั้น เวลาแนะนำสั่งสอนศิษย์ ท่านไม่ค่อยอธิบายธรรมะให้พิสดารมากนัก โดยท่านให้เหตุผลว่า ถ้าอธิบายไปมากผู้ปฏิบัติมักไปติดคำพูดกลายเป็นสัญญา ต้องปฏิบัติให้รู้ให้เกิดแก่จิตแก่ใจของตนเอง จึงจะรู้ได้ว่า คำว่าทุกข์นั้นเป็นอย่างไร คำว่าสุขนั้นเป็นอย่างไร คำว่าพุทธะ ธรรมะ สังฆะนั้นมีความหมายเป็นอย่างไร สมาธิอย่างหยาบเป็นอย่างไร สมาธิอย่างละเอียดเป็นอย่างไร ?
ปัญญาที่เกิดจากปัญญาเป็นอย่างไร ปัญญาเกิดจากภาวนาเป็นอย่างไร เหล่านี้ผู้ปฏิบัติต้องทำให้เกิดให้มีขึ้น ในตนของตนจึงจะรู้ ถ้ามัวถือเอาแต่คำอธิบาย ของครูอาจารย์แล้วจิตก็จะติดอยู่ในสัญญา ไม่ก้าวหน้าในการภาวนา เพราะเหตุนั้น จึงไม่อธิบายให้พิศดารมากมาย แนะนำให้รู้ทางแล้วต้องทำเอง เมื่อเกิดความขัดข้องจึงมารับคำแนะนำอีกครั้งหนึ่ง การปฏิบัติเช่นนี้เป็นผลดีแก่ศิษย์ผู้มุ่งปฏิวัติ เพื่ออรรถ เพื่อธรรมอย่างแท้จริง
ดังนั้นการบำเพ็ญสมาธิภาวนาในพรรษานั้นจึงได้เร่งความเพียรอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ได้รับความเยือกเย็น... -
การพิจารณาโทษของพระยายม
หลวงพ่อเล่าเรื่อง…การพิจารณาโทษของพระยายม
“……..ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย และพระคุณเจ้าที่เคารพ เมื่อวันพุธก่อน กระผมได้นำท่านพุทธศาสนิกชนและบรรดาพระคุณเจ้าที่เคารพ ไปนั่งพักอยู่ที่ สำนักของพระยายม แล้วก็กำลังนั่งที่เก้าอี้แก้วมณี
อันนี้บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทและพระคุณเจ้าอาจจะสงสัยว่า “สำนักของพระยายม” สำนักนี้ ถ้าเราอ่านตามหนังสือไตรภูมิจะรู้สึกว่า เป็นสำนักที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณ มีแต่บุคคลที่น่ากลัว หน้าตาถมึงทึงด้วยประการทั้งปวง แม้แต่พระยายมเองก็เหมือนกัน นักแสดงโทรทัศน์ทำเขาให้พระยายมเสียสองเขา แสดงว่าพระยายมมีเขาและมีสภาพดุร้าย สำหรับคนของพระยายมก็เหมือนกัน ที่เรียกกันว่า ยมทูต อันนี้ เขามีสัญญลักษณ์ มีหัวกะโหลกไขว้ และมีหัวกะโหลกเป็นสัญญลักษณ์ อันไม่จริง ความจริงคนที่เขียนอย่างนั้น เป็นการวาดภาพเอาเอง คล้าย ๆ กับว่าการเขียนรูปของโจร โจรผู้ร้ายเขามักจะเขียนหน้าตาถมึงทึงน่ากลัว มีหนวดเครารุงรัง แต่โดยที่แท้แล้ว โจรจริง ๆ มีรูปร่างหน้าตาสะสวยยิ่งกว่าเราเสียอีก นี่แหละบรรดาท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย และบรรดาพระคุณเจ้าที่เคารพที่รักฟัง ความจริงไม่ตรงกัน คือ... -
7 วิธีการนอนแบบพระอรหันต์
พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้เกี่ยวกับ การนอนว่า พระอรหันต์นอนเพียงวันละ 4 ชั่วโมงเท่านั้น เหตุที่พระอรหันต์นอนน้อยกว่าคนทั่วไป ก็เพราะท่านเป็นผู้ที่ละแล้วซึ่งกิเลส และมีสติอยู่เสมอทุกขณะตื่น จึงสามารถรับรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ตามความเป็นจริง โดยไม่เผลอนำสิ่งกระทบต่าง ๆ มาปรุงแต่งให้เกิดเป็นอารมณ์ จึงไม่ต้องการเวลานอนมากนัก
ผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ยังรับรองด้วยว่า การทำจิตให้สงบเป็นสมาธิ นับเป็นการจัดระเบียบคลื่นสมองที่มีประสิทธิภาพที่สุด และถือเป็นการผ่อนคลายเชิงลึก ที่สามารถชดเชยการหลับลึกได้ถึง 4 ชั่วโมง ด้วยเหตุนี้ สมองอันปราศจากข้อมูลขยะของพระอรหันต์ จึงไม่ต้องการช่วงเวลาหลับลึก เพื่อฟื้นฟูสภาพสมอง และจัดระเบียบเซลล์ประสาทมากเท่าคนทั่วไป ความพิเศษของการนอนอย่างพระอรหันต์ไม่ได้จบอยู่เพียงแค่เรื่องของเวลาเพียงเท่านั้น เพราะวิธีการนอนของท่านก็เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย
พระพุทธเจ้าเคยตรัสถึงการบรรทมของพระองค์ไว้ว่า พระองค์บรรทมด้วยการสำเร็จ สีหไสยา ซึ่งแปลว่า การนอนอย่างราชสีห์ คือ การนอนตะแคงขวาอย่างมีสติสัมปชัญญะ ประกอบด้วยจิตอันบริสุทธิ์ สงัดแล้วจากกาม และอกุศลธรรมทั้งหลายเป็นอุเบกขา... -
จาคานุสสติกรรมฐาน ไม่ต้องให้ทานเสมอไป
โอวาท : หลวงพ่อพระราชพรหมยานฯ วัดท่าซุง
เรื่อง..* จาคานุสสติกรรมฐาน ไม่ต้องให้ทานเสมอไป *
..." คำว่า "จาคานุสสติ" ก็ไม่ได้หมายความว่า จะต้องให้ทานเสมอไป.. "จาคา" หรือ "จาคะ" แปลว่า "เสียสละ" .. "อนุสสติ" แปลว่า "ตามนึกถึง"..
.. นึกว่า : อยากจะให้ ไม่อยาก ลัก ไม่อยาก ขโมย ไม่อยากโกงของใคร จิตคิดอย่างเดียวว่า ถ้าไม่เกินความสามารถของเรา เราจะให้.. อย่างเขาขาดข้าว เราจะให้ข้าว เขาขาดเงิน เราจะให้เงิน เขาขาดเสื้อผ้า เราจะให้เสื้อผ้า..
* ความต้องการของบุคคลที่มีทุกข์ มีอะไรบ้างที่เขาต้องการ ถ้าไม่เกินวิสัยของเรา เราจะให้ .. แต่ถ้าบังเอิญไม่มี ถ้าเราไม่มี เราก็ยังไม่ให้ แต่ใจยังนึกจะให้อยู่ อย่างนี้เรียกว่า "จาคานุสสติกรรมฐาน"..
* ไม่ใช่ว่า "จาคานุสสติกรรมฐาน" ต้องเป็นคนรวย จึงต้องให้ทุกอย่าง.. คำว่า "ให้" มันเป็น "ทาน" ไม่ใช่ "จาคานุสสติ".. จัดว่าเป็น "ทานบารมี" แต่ทีนี้ "ทานบารมี" จะเกิดขึ้นมาได้ ก็ต้องอาศัย "จาคานุสสติกรรมฐาน" เป็นพื้นฐานก่อน..
.. ถ้าจิตคิดจะให้ มีอยู่ หรือ จิตคิดจะให้อาศัยอะไรให้เกิดขึ้น คนที่จะให้กันได้ ต้องมีเหตุ ๒ อย่าง ก็คือ..
๑. ความรัก ~ คนที่เรารัก... -
ทำไมความเชื่อชาวอินเดียให้นอนหันศีรษะไปทางทิศใต้ซึ่งถือเป็นทิศแห่งความตาย
ประเพเณีอินเดียเชื่อว่าขณะนอนหลับ ควรหันศีรษะไปทาง "ทิศใต้" เพราะเมื่อตื่นขึ้นจะได้หันหน้าเข้าหาเขาพระสุเมรุ ส่วนทิศตรงข้ามคือ "ทิศเหนือ" ถือว่าเป็นทิศที่เป็นอัปมงคลสำหรับการนอน
“หันทะทานิ ภิกขะเว อามันตะยามิ โว วะยะธัมมา สังขารา อัปปมาเทนะ สัมปาเทถะ”
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันว่าสังขารทั้งหลาย ย่อมมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงอันเป็นประโยชน์ของตน และประโยชน์ของผู้อื่นให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด”
ภายในมหาวิหารสถูปปรินิพพาน สาลวโนทยาน สถานที่ปริพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานพระพุทธรูปปางอนุฏฐิตไสยาสน์ หรือปางเสด็จดับขันธปรินิพพาน (คือพระพุทธรูปนอนบรรทมตะแคงเบื้องขวา) ศิลปะมถุรา มีอายุกว่า ๑,๕๐๐ ปี สลักจากหินทรายแดง มีความยาว ๖ เมตร ๑๐ เซนติเมตร เพื่อระลึกถึงการเสด็จปรินิพพาน ในจารึกระบุผู้สร้างคือ หริพละสวามี โดยนายช่างชื่อ ทินะ ชาวเมืองมถุรา ในปัจจุบันพระพุทธรูปองค์นี้ถือได้ว่าเป็นจุดหมายสำคัญที่ชาวพุทธจะมาสักการะ เพราะเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะอันพิเศษคือเหมือนคนนอนหลับธรรมดา... -
แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของอยุธยาวัดพระงาม “ประตูแห่งกาลเวลา”
ใครว่าเที่ยววัดที่อยุธยาจะมีแต่ที่เดิม ๆ ไม่มีอะไรใหม่ วันนี้แอดมินได้ไปเสาะหาแลนด์มาร์กแห่งใหม่ ที่อยุธยาให้ทุกคนได้ตามรอยไปเที่ยวกัน
วัดพระงามเป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาที่ยังคงเหลือเศษซากอารยธรรมอันงดงามไว้มากมาย วัดพระงามตั้งอยู่นอกเกาะเมืองอยุธยาทางด้านทิศเหนือ
มีเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมเป็นประธานของวัด สิ่งก่อนสร้างต่าง ๆ ภายในวัดมีร่องรอยการปฏิสังขรณ์มาแล้วหลายครั้ง
และไฮไลท์ของวัดนี้ที่แอดมินภูมิใจนำเสนออย่างยิ่งขอตั้งชื่อที่นี่ว่า “ประตูแห่งกาลเวลา” ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัด
เป็นซุ้มประตูที่ก่อด้วยก้อนอิฐมอญนับร้อยนำมาเรียงกัน และที่น่ามหัศจรรย์ยิ่งกว่าคือมีต้นโพธิ์ใหญ่โอบล้อมอยู่ทั่วทั้งซุ้มประตู
เป็นอันซีนแห่งใหม่ของจังหวัดอยุธยา และเป็นมุมถ่ายภาพที่กำลังได้รับความนิยมอย่างยิ่ง ใครมีโอกาสได้มาเที่ยวอยุธยาลองวางแผนเที่ยวสถานที่ใหม่ ๆ ดู
แล้วคุณจะรู้ว่าเมืองกรุงเก่านี้ยังมีมนต์เสน่ห์และความน่าค้นหาที่ซุกซ่อนอยู่อีกมากมายที่หลายคนยังไม่เคยสัมผัส
ขอขอบคุณที่มา
http://travel.sanook.com/1405577/ -
พระสังฆราชรับถวายเงินช่วยเหลือภัยน้ำท่วม
.
พระสังฆราชรับถวายเงินช่วยเหลือภัยน้ำท่วม
วันจันทร์ ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2560, 16.40 น
สมเด็จพระสังฆราชรับถวายเงิน มอบพระพรหมวชิรญาณ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม มส.รับทราบรายงานวัดไทยที่ประเทศสหรัฐอเมริการซึ่งประสบภัยพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์
วันที่ 11 กันยายน 2560 ณ อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก(อมฺพรมหาเถร) เสด็จทรงเป็นประธานการประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) ครั้งที่ 22/2560 โดยมีนายกนก แสนประเสริฐ รองผู้อำนวยการ ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ก่อนการประชุมมหาเถรสมาคม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก(อมฺพรมหาเถร) ประทานวโรกาสให้คุณหญิงจำนงศรี หาญเจนลักษณ์ ประธานกรรมการโรงพยาบาลจักษุรัตนิน พร้อมครอบครัว และคณะหลวงปู่แบน ธนากโร วัดดอยธรรมเจดีย์ เข้าเฝ้าถวายสักการะและถวายเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัยน้ำท่วม
จากนั้น สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก(อมฺพรมหาเถร) มอบหมายให้พระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม... -
สมเด็จช่วงส่งสาส์นถึงพระธรรมทูตไทยทวีปยุโรป
วันจันทร์ ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2560, 14.59 น.
สมเด็จช่วงส่งสาส์นถึงพระธรรมทูตไทยทวีปยุโรป
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง ชวนปญฺโญ) ส่งสาส์นในการประชุมสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป มีพระมหาเถรานุเถระ หัวหน้าพระธรรมทูตไทยสายต่างประเทศทั่วโลกร่วมงาน มส.แนะเป็นแรงหนุนคณะสงฆ์ไทยที่กำลังประสบปัญหาหลายด้าน
ระหว่างวันที่ 9 – 10 กันยายน 2560 ที่วัดพุทธวิหาร อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนอร์เธอร์แลนด์ พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เป็นประธานการประชุมสมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 11/2560 สหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป (ส.ธ.ย.) โดยมีพระมหาเถรานุเถระ หัวหน้าพระธรรมทูตไทยสายต่างประเทศทั่วโลก อาทิ สหภาพพระธรรมทูตยุโรป สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ โอเชียเนีย อินเดีย-เนปาล สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ร่วมงาน
ในการนี้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ส่งสาส์นให้กำลังใจ
มีการบรรยายพิเศษเรื่อง “นโยบายของการเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ... -
ปฐมวาระ!พระสังฆราชทรงสักการะพระบรมธาตุ
ปฐมวาระ!พระสังฆราชทรงสักการะพระบรมธาตุ
วันจันทร์ ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2560, 13.35 น.
สมเด็จพระสังฆราชเสด็จวัดพระมหาธาตุ นครศรีธรรมราช ปฐมวาระสักการะพระบรมธาตุ ทรงเททองหล่อพระพุทธสิหิงค์ และพระกริ่งพุทธสิหิงค์
วันอาทิตย์ ที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๐ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จโดยเครื่องบินพระประเทียบที่กองทัพอากาศจัดถวายไปทรงปฏิบัติพระศาสนกิจ ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช
เวลา ๑๕.๓๐ น. เสด็จไปยังวัดพระมหาธาตุ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เสด็จเข้าภายในพระวิหารพระทรงม้า ถวายเครื่องสักการบูชาพระบรมธาตุเจดีย์ พระสังฆาธิการเฝ้าถวายสักการะ ทอดพระเนตรภายในพระวิหารแล้ว เสด็จไปยังพระวิหารหลวง ทรงสักการะพระศากยมุนีศรีธรรมราช ประธานพระวิหารหลวง
จากนั้น เสด็จออก ณ มณฑลพิธีหน้าพระวิหารหลวง ทรงรับเครื่องสักการะของเจ้าคณะใหญ่หนใต้, เจ้าคณะภาค ๑๖-๑๗-๑๘, เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุ, เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช, เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ธรรมยุต), ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้อำนวยการโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตามลำดับ... -
สานต่อพระปณิธาน ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ ช่วยคนไทยพ้นภัยมะเร็ง
ระดมทีม “นักสู้มะเร็ง” ทั้งหมอและผู้ป่วยเปิดใจถึงภัยร้าย
สานต่อพระปณิธานของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในการช่วยคนไทยให้พ้นภัยจากโรคมะเร็ง โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จึงจัดโครงการ “สานต่อที่พ่อให้ทำ ช่วยคนไทยพ้นภัยมะเร็ง” ถวายเป็นพระกุศล เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ 4 กรกฎาคม 2560 และน้อมรำลึกในพระกรุณาธิคุณ ที่ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุข ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว เมื่อเร็วๆนี้
ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ ผอ.รพ.จุฬาภรณ์ กล่าวถึงโรคมะเร็ง ถือเป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับ 1 การจัดทำโครงการนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ให้สังคมไทยได้ตระหนักถึงภัยของโรคมะเร็ง พร้อมๆกับการให้บริการส่งเสริมสุขภาพ ประเมินความเสี่ยงและป้องกันโรคมะเร็งให้กับประชาชน นอกจากนี้ในโครงการยังจัดทำกิจกรรมระดมทุน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งที่ด้อยโอกาส โดยจัดทำตราไปรษณียากรที่ระลึก 100 ดวงใจสานต่อที่พ่อให้ทำ ชุด “โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สืบสานพระปณิธานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์... -
ปาน และ กิ๊ก มยุริญ นำทีมจิตอาสาสร้างสื่อธรรมทานมิวสิก “พระปฏาจาราเถรี เรามีความพลัดพรากเป็นธรรมดา”
กรุงเทพฯ–11 ก.ย.–
ศิลปินและจิตอาสากลุ่มบัวลอย เปิดตัวมิวสิกซีรีส์ “พระปฏาจาราเถรี เรามีความพลัดพรากเป็นธรรมดา” คีตธรรมบทที่สองในโครงการ The Enlightened Ladies หนึ่งธรรมะแห่งพระพุทธองค์ สู่การตื่นรู้ของเหล่าอิสตรี” บอกเล่าเรื่องราวในอนุพุทธประวัติของสตรีในสมัยพุทธกาล ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักทั้งหมดในคืนเดียว ทำให้เสียสติ จนเมื่อได้ฟังธรรมะจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้เกิดการตื่นรู้จากการยึดติดสู่การปล่อยวาง ทั้งการตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท ขับร้องโดย ปาน ธนพร แวกประยูร ร่วมด้วย กิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ ในบทนาง ปฏาจาราและพระปฏาจาราเถรี , ตั๊ก นภัสสกร มิตรธีรโรจน์ ในบท สามีที่ตายแล้วของนางปฏาจารา พร้อมผลิตสื่อการเรียนการสอนมอบให้กับโรงเรียนต่างๆ
หลังจากที่ศิลปินและจิตอาสากลุ่มบัวลอยในโครงการปทุมมามหาสิกขาลัย วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ได้นำเสนอคีตธรรม ตราบลมหายใจสุดท้าย เมื่อปี ๒๕๕๙ ให้คนได้รู้ถึงความไม่เที่ยงในสังขาร สำหรับปี ๒๕๖๐ ศิลปินและจิตอาสากลุ่มบัวลอย ฯ จะได้นำเสนคีตธรรมบทใหม่ ในรูปแบบมิวสิกซีรีส์ประกอบคีตธรรม “พระปฏาจาราเถรี เรามีความพลัดพรากเป็นธรรมดา”...
หน้า 358 ของ 432