คลังเรื่องเด่น
-
ถ้านั่งสมาธิได้ ก้าวหน้าแน่ๆ - พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
โยม : โยมชอบฟังธรรมะวันละ ๑๐ ชั่วโมงกว่า ฟังจนหมดทุกครูบาอาจารย์ ฟังจนเบื่อ แล้วไปเรียนพระอภิธรรม แต่นั่งสมาธิไม่ได้
พระอาจารย์ : อย่างโยมนี้ถ้านั่งสมาธิได้ โยมก้าวหน้าแน่ๆ บรรลุได้แน่ๆ ถ้าไม่เชื่อลองทำดู ถ้าไม่เช่นนั้น มันจะติดอยู่อย่างนี้มันจะไม่ไปไหน มันจะเป็นใบลานเปล่า รู้ธรรมะแต่ทำไม่ได้ อย่างหลวงปู่มั่นท่านสอนหลวงตา ท่านเรียนมาเยอะแล้วตั้งเปรียญ ๓ ประโยค แต่ความรู้นี้ยังไม่เป็นประโยชน์ เพราะใจไม่มีกำลังที่จะหยุดกิเลสได้ ต้องเอาสมาธิให้ได้ พอได้สมาธิปั๊บความรู้นี้มันจะมาตัดกิเลสให้เราเลย
โยม : เวลาเรานั่งสมาธิ ถ้าเรานั่งเฉยๆ ลมหายใจสะดวกแต่พอจะเริ่มใช้คำว่าสมาธิปุ๊บจะติดขัดทันทีหายใจไม่ได้
พระอาจารย์ : เพราะว่าเครียดไง เพราะว่ากิเลสเริ่มออกมาต่อต้าน
โยม : จะทำอย่างไรคะ
พระอาจารย์ : ก็ตอนต้นสวดมนต์ไปก่อนก็ได้ สวดอิติปิโส อะระหังสัมมาฯ สวาขาโตฯ ไปก่อน สวดไป จนกระทั่งมันรู้สึกเย็นสบาย แล้วค่อยดูลมต่อ คือกิเลสมันไม่ยอมไง มันจะคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ตลอดเวลา มันก็อ้างว่าเป็นปัญญา คิดไปในทางปัญญา แต่ความจริงมันก็เป็นสังขารปรุงเเต่งดีๆ นี่เอง
โยม :... -
เเนะวิธีรักษากรรมบท๑๐ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)
เรื่องเเนะวิธีรักษากรรมบท๑๐….
การที่จะทรงความดีเต็มระดับที่กล่าวมาให้ครบถ้วนให้ปฏิบัติดังนี้
๑.คิดถึงความตายไว้ในขณะที่สมควรคือ ไม่ไช่ทุกลมหายใจเข้าออก เมื่อตื่นขึ้นใหม่ๆอารมณ์ใจยังเป็นสุขก่อนที่จะเจริญภาวนาอย่างอื่นให้คิดถึงความตายก่อน คิดว่าความตายอาจจะเข้ามาถึงเราในวันนี้ก็ได้จะตายเมื่อไหร่ก็ตามเราไม่ขอลงอบาย ที่เราจะไปคืออย่างต่ำไปสวรรค์ อย่างกลางไปพรหม ถ้าไม่เกินวิสัยเเล้ว ขอไปนิพพานเเห่งเดียว คิดว่าไปนิพพานเป็นพอใจที่สุดของเรา
๒.คิดต่อไปว่าเมื่อความตายจะเข้ามาถึงเรา จะเป็นเวลาใดก็ตามเราขอยึดพระพุทธเจ้า พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า พระสาวกของพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิตคือไม่สงสัยในความดีของพระพุทธเจ้า ยอมเคารพด้วยศรัทธาคือความเชื่อถือในพระองค์ ขอปฏิบัติตามคำสอน คือกรรมบท ๑๐ประการโดยเคร่งครัด ถ้าตายเมื่อไหร่ขอไปนิพพานเเห่งเดียว เมื่อนึกถึงความตายเเล้วตั้งใจเคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์สาวกเเล้วตั้งใจนึกถึงกรรมบท๑๐ประการว่ามีอะไรบ้าง ตั้งใจจำเเละพยายามปฏิบัติตามอย่าให้พลั้งพลาด... -
'การสวดมนต์' ถ้าเราทำเป็น ถึงพระนิพพานได้ (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
การสวดมนต์ ถ้าเราทำเป็น ถึงพระนิพพานได้
อันดับแรกก็คือสมาธิขั้นต้นต้องได้แน่นอน
ถ้าสมาธิไม่ทรงตัวเราจะสวดผิด
อันดับที่สองถ้าตั้งใจที่จะทรงฌาน
ใช้คำสวดทั้งหมดเป็นคำภาวนา
เท่ากับว่าเราภาวนาโดยใช้คาถาทั้งบท
แต่เป็นคำภาวนาที่ยาวหน่อย
จนกระทั่งสมาธิสามารถทรงตัวได้ตามที่ต้องการ
อันดับต่อไปถ้าจะทำทิพจักขุญาณ
เวลาสวดมนต์ให้นึกถึงคำสวดมาเป็นคำ ๆ
ถ้าเห็นตัวหนังสือได้ชัดเท่าไร
เราก็จะเห็นผีเห็นเทวดาได้ชัดเท่านั้น
ท้ายสุดถ้ายกจิตขึ้นพระนิพพานได้
ให้ยกจิตขึ้นไปสวดถวายพระพุทธเจ้าข้างบนเลย
ตายตอนนั้นก็อยู่บนพระนิพพานเลย
เพราะฉะนั้น..อย่าไปคิดว่าแค่สวดมนต์
สำคัญว่าเราทำได้แค่ไหน
ถ้าเราทำเป็น ประยุกต์ใช้เป็น
แค่สวดมนต์ไปพระนิพพานได้สบาย”
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๖
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ที่มา วัดท่าขนุน -
มส.แนะธรรมนิเทศต้องผลิตสื่อมวลชนของสงฆ์
มส.แนะธรรมนิเทศต้องผลิตสื่อมวลชนของสงฆ์
วันจันทร์ ที่ 04 กันยายน พ.ศ. 2560, 14.04 น.
มส. แนะบัณฑิตศึกษาในยุคไทยแลนด์ 4.0 ต้องเน้นงานวิจัยที่มีนวัตกรรมอย่าเป็นผีเสื้อพิการ ชี้พระพุทธเจ้าเป็นนักก่อตั้งเป็นประดิษฐกรรม ขณะที่ธรรมนิเทศต้องผลิตสื่อมวลชนของสงฆ์ เหตุจุดอ่อนด้านการเผยแผ่เพราะขาดธรรมนิเทศศาสตร์
วันที่ 4 ก.ย.2560 พระพรหมบัณฑิต,ศ.ดร. กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์, อัคคมหาบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เจ้าคณะภาค 2 เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร บรรยายเรื่อง”บัณฑิตศึกษาในยุคไทยแลนด์ 4.0 ” ในงานสัมมนาทางวิชาการระดับบัณฑิตศึกษา มจร สาขาพระพุทธศาสนา สาขาปรัชญา สาขาธรรมนิเทศ มหาจุฬา ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนรู้ทางวิชาการระหว่างนิสิตกับอาจารย์บัณฑิตวิทยาลัย
พระพรหมบัณฑิต กล่าวว่า สัมมนาวิชาการถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการเรียนบัณฑิตเป็นช่องทางการทำวิทยานิพนธ์ของนิสิต เพราะมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มหาจุฬาได้เปรียบเพราะมีนักปราชญ์ทั่วโลกด้านศาสนามามหาจุฬาบ่อยๆ เพราะเป็นมหาจุฬาเป็นสมาคมพระพุทธศาสนาโลก และวิสาขบูชาโลก... -
ทำสมาธิไม่ได้ดี -หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
ทำสมาธิไม่ได้ดี
ผู้ถาม หลวงพ่อขอรับ ผมทำสมาธิทุกวัน ๆ ละ หนึ่ง ชั่วโมง มาเป็นเวลา ๒๐ ปีแล้วครับ มันไม่ไปเหนือไปไม่ไปใต้เลย ไม่ทราบว่าติดขัดอะไร หรือมีกรรมเวรประเภทไหมมาปิดบัง ขอบารมีหลวงพ่อ ช่วยแก้ไขหน่อยเถิดขอรับ?
หลวงพ่อ สมาธินี่ถ้าทำเฉย ๆ ก็ไม่ไปไหนนะ มันก็อยู่แค่ ฌาน ถึงฌานหรือเปล่าก็ไม่รู้ น่ากลัวจะไม่ถึงฌาน น่ากลัว ตะเกียกตะกายอยู่ข้างฌาน มันขึ้นฌานไม่ไหว ไต่บันไดแกร๊ก ๆ แต่ความจรงิถ้าเรื่องสมาธิจริง ๆ นะ ถ้าหากว่าได้จริง ๆ ก็อยู่แค่ฌาน ๔ ฌาน ๔ แล้วก็ไม่ไปไหนละ ก็ทรงตัวบ้าง เดินหน้าบ้าง ถอยหลังบ้าง ไปข้างหน้า ๑ ก้าว ถอยหลัง ๕ ก้าว ทีนี้ผลการปฏิบัติจริง ๆ เขาไม่ได้มุ่งสมาธิ ต้องหวังตัด สังโยชน์ ถ้าจะบอกว่า วิปัสสนาญาณก็จะมากเกินไป ความจริงถ้ามุ่งตัดสังโยชน์ ก็ต้องดูอารมณ์ใจตัวตัด ไม่ใช่ดูสมาธิ
อันดับแรก ความโลภ อยากได้ทรัพย์สินของบุคคลอื่นมีในเราหรือเปล่า เบาลงไปไหม ประการที่ ๒ ความโกรธ เบาไหม ประการที่ ๓ ความหลง เบาลงไหม สิ่งที่มีความสำคัญคือ
1. ลืมความตายหรือเปล่า
2.... -
จากน้ำท่วมปันน้ำใจ!สงฆ์ไทยสร้างรพ.ผู้สูงอายุ
จากน้ำท่วมปันน้ำใจ!สงฆ์ไทยสร้างรพ.ผู้สูงอายุ
บทพิสูจน์พุทธศาสนากับการบริการสังคม
วันจันทร์ ที่ 04 กันยายน พ.ศ. 2560, 09.40 น.
จากเหตุการณ์น้ำท่วมทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นบทพิสูจน์ประการหนึ่งกับการให้บริการสังคมของคณะสงฆ์ไทย เป็นบทพิสูจน์งานด้านสาธารณะสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม(มส.)ได้เป็นอย่างดี พระสงฆ์ต้องลุยน้ำเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านโดยการบูรณาการภาคส่วนต่างๆ
ความจริงการทำหน้าที่การบริการสังคมของคณะสงฆ์นั้นดำเนินการมาตลอด แต่ถึงกระนั้นก็มีเสียงท้วงติงมาว่า “พระชอบสร้างแต่วัด ไม่สร้างโรงพยาบาล” ดูเหมือนจะมีความคลาดเคลื่อนเพราะพระสงฆ์เองก็มีส่วนช่วยเหลือสังคมในการก่อสร้างก็ไม่น้อยอย่างเช่นหลวงพ่อคูณ หลวงพ่อปัญญา หรือล่าสุดหลวงพ่อเณร ข้อมูลจะเป็นอย่างไรนั้น ร.ท.,ดร.บรรจบ บรรณรุจิ อดีตอาจารย์จุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย อาจารย์ประจำหลักสูตรสันติศึกษามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ได้ออกมาทำความเข้าใจผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Banjob Bannaruji – บ้านบรรณรุจิ ความว่า
“แพทย์พ้อ ‘พระชอบสร้างแต่วัด ไม่สร้างโรงพยาบาล’ เจอพระจริง พระเทพประสิทธิมนต์ (หลวงพ่อเณรโกศล) เทพเจ้าแห่งสาธารณสงเคราะห์... -
"ความโลภไม่เคยพอ ให้ภาวนาไปจนตายโน้น"
"ความโลภไม่เคยพอ ให้ภาวนาไปจนตายโน้น"
" .. ให้พากันตั้งใจฟังให้ดีจึงจะได้ปัญญา "ความโลภในจิตของเราไม่มีที่พอที่เต็มได้เลย" ต่อให้ดอยสุเทพหมดทั้งลูกกลายเป็นทองคำ จิตของคนเราก็จะไม่พอ
ทางที่ดี "ให้ตั้งจิตอยู่ในสมาธิภาวนา" ตั้งจิตดวงนี้ให้เต็มในขั้นสมถกรรมฐาน พร้อมด้วยวิปัสสนากรรมฐาน ให้แจ่มแจ้งในดวงใจทุก ๆ คน เท่านี้ก็พอ เพราะว่า "เมื่อเราเกิดมาก็ไม่ได้นำอะไรติดตัวมา ครั้นเมื่อเราตายไป แม้สตางค์แดงเดียวก็เอาไปไม่ได้"
ด้วยเหตุนี้ "จงพากันตั้งใจทำสมาธิภาวนาให้เต็มที่" จนกิเลสโลภะอันมันนอนเนื่องอยู่ในจิตนี้ ให้หมดเสียในวันนี้ ๆ "ถ้ากิเลสความโลภนี้ ยังไม่หมดจากจิตก็ไม่ให้หยุดยั้ง ภาวนาไปจนตายโน้น" .. "
ธรรมเมตตา ฉบับที่ ๒
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร -
ต้องทำสมาธิเข้าไว้ ถ้าสมาธิของเราสูงกว่า กำลังจะสูงกว่า กาย วาจา ใจ เหมือนมีอำนาจมากกว่า
“มีคนเขาสงสัยว่าเวลาอาตมาพูด ทำไมพระ เณร หรือแม่ชี ฟัง ในขณะที่คนอื่นว่าแล้วเขาไม่ฟัง ญาติโยมสงสัยบ้างไหม ? ที่เขาฟังเป็นเพราะว่ากำลังของอาตมาสูงกว่า คำว่า “กำลังสูงกว่า” ตรงนี้คือกำลังสมาธิสูงกว่า ในเมื่อกำลังสมาธิสูงกว่า การแสดงออกทาง กาย วาจา ใจ จะเหนือกว่า เหมือนแม่เหล็กดูดเศษเหล็ก เศษเหล็กไม่ได้อยากวิ่งเข้าหาแม่เหล็กหรอก แต่ทานแรงแม่เหล็กไม่ได้ ก็โดนดึงเข้ามาเอง
ฉะนั้น…ถ้าญาติโยมอยากจะพูดแล้วให้ลูก ๆ ฟัง หรือเป็นครูบาอาจารย์อยากพูดให้เด็กยอมฟัง ต้องทำสมาธิให้มากเข้าไว้ ถ้าสมาธิดีกว่า อาตมายืนยันว่าพูดอะไรลูกก็ฟัง เพราะว่าข่มกันอยู่
ลูกศิษย์เก่าแก่ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านหนึ่ง คือ พี่ขวัญ (เยาวลักษณ์ มิตรศรัทธา) สนิทสนมคุ้นเคยกัน พี่เขาก็นิมนต์ไปเจริญพระพุทธมนต์ไปฉันเพลที่บ้าน ก็มีหลวงตาวัชรชัยไป มีพระรูปอื่นไป รวม ๙ รูปด้วยกัน ปรากฏว่าการ์ตูน ลูกสาวพี่ขวัญ ตอนนั้นยังเด็กอยู่ ด้วยความที่ใกล้ชิดสนิทสนมเห็นพระเป็นปกติ การ์ตูนเห็นก็ลืมตัว วิ่งมายื้อจีวรอาตมา จะตะกายขึ้นตัก พี่ขวัญเห็นก็ดุลูกเสียงดังเลยว่า “ต่อไปอย่าทำอย่างนั้นอีก หลวงน้าเป็นพระ เราเป็นผู้หญิง... -
กรรมที่ต่อต้านพระอริยสงฆ์
กรรมที่ต่อต้านพระอริยสงฆ์
มีโยมชายคนหนึ่ง ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับหลวงปู่ จ้องจับผิดและกล่าวว่าหลวงปู่ประจบโยม เพื่อจะได้กินข้าวปลาอาหารดีๆ
คอยหาวิธีกลั่นแกล้งต่างๆ นาๆ เคยถึงกับเอาค้อนกับสิ่วใส่บาตรหลวงปู่ ซึ่งหลวงปู่ได้รำพึงกับพระเณรที่อยู่ด้วยกันว่า
“เขาคงเห็นว่าวัดเราไม่มีค้อนกับสิ่ว เลยเอามาให้ใช้นะ”
โยมชายคนนี้คอยดักใส่บาตรหลวงปู่อีกครั้ง คราวนี้เป็นห่อใบตองอย่างมิดชิด
เมื่อกลับถึงวัด หลวงปู่แก้ห่อใบตองนั้นอย่างระมัดระวัง ถ้าเป็นน้ำก็ระวังไม่ให้หกรดอาหารอื่น ถ้าเป็นของแสลงก็จะไม่ให้แปดเปื้อนอาหารอื่น
พอแกะห่อใบตองเท่านั้น กบเป็นๆ ตัวเบ้อเริ่มกระโดดแผลวออกมา
องค์ท่านตะครุบไว้
“โอ้..เจ้านี่บุญหลายรอดตาย เพราะเขาเอาเจ้ามาใส่บาตรเฮา ถ้าเขาเอาเจ้าใส่หม้อต้มแกงแทนบาตร เจ้าจะเป็นไงน้อ”
แล้วเอากบนั้นไปปล่อยลงน้ำในนา
วันต่อมาออกบิณฑบาตตามปกติ โยมชายคนนั้นมาคอยยืนมองแล้วทำท่ายิ้มๆ เยาะๆ ขบขัน องค์ท่านก็ไม่ว่าอะไร สำรวมเดินรับบาตรไปด้วยอาการสงบ
ถึงวัดแล้วจึงเห็นบัตรสนเท่ห์ปนกับอาหารอยู่ในบาตร เรียกพระเณรมาประชุมกัน ให้พระรูปหนึ่งอ่านข้อความในจดหมายน้อยนั้นให้ฟัง... -
อริยสัจจากพระโอษฐ์ ตอน การฟังอริยสัจ เหมาะสำหรับจิตที่ฟอกแล้วเท่านั้น
อริยสัจจากพระโอษฐ์ ตอน การฟังอริยสัจ เหมาะสำหรับจิตที่ฟอกแล้วเท่านั้น
ภิกษุ ท. ! ครั้งนั้นแล มหาชนชาวพันธุมดีราชธานี จำนวนแปดหมื่นสี่พันคน ออกจากเมือง เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาควิปัสสีถึงที่ประทับ ณ เขมมิคทายวัน ถวายอภิวาทแล้วนั่งอยู่ ณ ที่ข้างหนึ่ง. พระผู้มีพระภาควิปัสสีได้ตรัส อนุปุพพิกถา แก่ชนทั้งหลายเหล่านั้น กล่าวคือ ทานกถา สีลกถาสัคคกถา ทรงประกาศ โทษอันเศร้าหมองต่ำทรามของกามทั้งหลาย และ อานิสงส์ในการออกจากกาม.
ครั้นทรงทราบว่าชนเหล่านั้นมีจิตเหมาะสม อ่อนโยน ปราศจากนิวรณ์ ร่าเริง แจ่มใส แล้ว, ก็ได้ตรัส ธรรมเทศนาซึ่งพระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงยกขึ้นแสดงเอง กล่าวคือ เรื่องทุกข์ เรื่องสมุทัย เรื่องนิโรธ และ เรื่องมรรค. เปรียบเสมือนผ้าอันสะอาด ปราศจากสิ่งแปดเปื้อน ย่อมรับเอาซึ่งน้ำย้อมได้อย่างดี ฉันใด ; ธรรมจักษุ ปราศจากธุลี ปราศจากมลทิน ได้เกิดขึ้นแก่มหาชนแปดหมื่นสี่พันเหล่านั้น ณ ที่นั่งนั้นเองว่า “สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดาสิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับไปเป็นธรรมดา” ดังนี้, ฉันนั้นเหมือนกัน.
ชนเหล่านั้นมีธรรมอันเห็นแล้ว บรรลุแล้ว รู้แจ้งแล้ว หยั่งเอาได้ครบถ้วนแล้ว หมดความสงสัย... -
เช่าตึกสอนวิชา'เด็กยากจน' ผู้กองปณิธานแรงติวให้ฟรี!
หากจะพูดว่า...การให้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด คือ “การให้ความรู้” เพราะสามารถที่จะส่งต่อให้ใครได้อีกหลายคน คงจะปฏิเสธได้ยาก และถ้าหากเป็นการให้ไม่หวังสิ่งตอบแทน ให้โดยบริสุทธิ์ใจ แต่กลับมีคนคิดว่า “ให้เพราะหวังสร้างภาพ” แล้ว “ผู้ให้” จะผ่านอุปสรรคเหล่านี้ไปได้อย่างไร?
ผู้กองหนุ่ม “ร.ต.อ.อภิชิต ภัณฑะประทีป” รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ที่ช่วยสอนหนังสือให้กับ “เด็กยากจน” โดยนำเงินส่วนตัวไปเช่าตึก ซื้ออาหาร ขนม และหนังสือเรียนให้กับเด็กๆ ได้กินนอน หวังเพียงว่าเด็กๆ ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จะได้มีความรู้ติดตัวนำไปพัฒนาตัวเอง
ที่ “บ้านสร้างฝัน” คือตึกเช่าหลังหนึ่งในพื้นที่ 36/123 - 124 ถ.อินจันทร์ณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยมี “ผู้กองหนุ่ม” เป็นผู้ตั้งชื่อนี้ขึ้นมาเอง เพราะบ้านหลังนี้เป็นเหมือนที่สร้างฝัน และต้องสานไปให้ถึง โดย “ร.ต.อ.อภิชิต” นั่งเล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะมาทำอะไรแบบนี้ มันเริ่มจากอดีตในวัยเด็ก สมัยก่อนบางหมู่บ้านค่อนข้างทุรกันดาร
“ผมได้เห็นได้รับรู้ก็เพราะแม่เป็นครู เวลาไปโรงเรียนที่แม่สอน ก็จะเห็นเด็กๆ แบบนี้ตลอด” ส่วนใหญ่พ่อแม่ของเด็กๆ ต่างจังหวัด... -
กรรมของการปรามาสพระและท่านมีศีลมีธรรม โอวาทธรรม หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ
การปรามาสพระก็ดี การพูดจาจ้วงจาบใน…
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือท่านที่มีศีล มีธรรมก็ดี
จะเป็น ..’กรรม’.. ติดตัวเรา และขัดขวางการปฏิบัติธรรมในภายหน้า
ดังนั้น หากเห็นใครทำความดี ก็ควรอนุโมทนายินดีด้วย
แม้ต่างวัด ต่างสำนักหรือแบบปฏิบัติต่างกันก็ตาม
ไม่มีใครผิดหรอก
เพราะจุดมุ่งหมายต่างก็เป็นไป เพื่อความพ้นทุกข์เช่นกัน
เพียงแต่เราจะทำให้ดี ดียิ่ง ดีที่สุดเท่านั้น
ขอให้ถามตัวเราเองเสียก่อนว่า
“แล้วเราล่ะ ถึงที่สุดแล้วหรือยัง ?”
หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ -
ทำสมาธิแล้วมีเสียงในหัวและฝันมากขึ้น - พระไพศาล วิสาโล
กราบนมัสการพระอาจารย์ไพศาล ที่เคารพอย่างสูง ดิฉันขอรบกวนพระอาจารย์เรียนถามพระอาจารย์ถึงปัญหาดังนี้ว่า
1) ในตอนที่ไม่คิดอะไรหรือตอนนั่งทำกรรมฐาน ทำไมจึงรู้สึกว่ามีเสียงดังที่ในหัวตลอดเวลา และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ดิฉันนั่งทำกรรมฐานเกิดอาการง่วงมากแต่ดิฉันได้ฝืนทนสักพัก เสียงในหัวนั้นดังมากและกระตุกจนดิฉันคิดว่าเป็นเสียงเครื่องไฟฟ้าที่เสียบไว้ใกล้ตัว จากนั้นเสียงในหัวก็เงียบหายไปและใจสงบมากความง่วงก็หายไปด้วย แต่ทุกวันนี้เสียงก็ดังเช่นเดิม ทำอย่างไรถึงจะหายคะ
พระไพศาล : เสียงดังในหัวไม่ทำให้คุณทุกข์มากเท่ากับความอยากให้มันหายไป ยิ่งอยากให้มันหาย มันก็ยิ่งดังและยิ่งทำให้คุณทุกข์มากขึ้น ลองไม่สนใจมัน หรือทำความรู้สึกเป็นกลางกับมัน มันจะยังดังอยู่ ก็เป็นเรื่องของมัน ต่างคนต่างอยู่แล้วกัน แล้วคุณอาจจะพบว่า จู่ ๆ มันก็หายไปเอง แต่ถึงไม่หาย คุณก็ไม่ทุกข์ใจเพราะมัน
2) ทำไมฝึกเจริญสติแล้วถึงฝันมากขึ้นและความฝันก็เป็นเรื่องเป็นราว ความฝันชัดและรู้รายละเอียดของฝันดี เพราะจิตไม่สงบหรือเปล่าคะ เมื่อก่อน ก่อนนอนจะสวดคาถาชินบัญชรแล้วไม่ค่อยฝันแต่มาทำการเจริญสติได้เกือบปีแล้ว... -
แห่ชมภาพชุด-ข้อมูลสุดยิบปมบูรณะ ‘พระปรางค์วัดอรุณ’ แจงขั้นตอนละเอียดพร้อมกระเบื้องกว่า 100 ลาย
เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ตลิ่งชัน กรุงเทพ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้เดินทางเพื่อร่วมฟังเสวนาวิชาการพระปรางค์วัดอรุณฯอันเนื่องมาจากการบูรณะ ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้เวลา 13.00 น. โดยทะยอยเดินทางมาถึงตั้งแต่เวลาประมาณ 12.00 น. บรรยากาศทั่วไปต่างจับกลุ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว นอกจากนี้ยังให้ความสนใจต่อนิทรรศการเกี่ยวกับขั้นตอนบูรณะซึ่งติดตั้งไว้หน้าห้องประชุมซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน
นิทรรศการดังกล่าว ประกอบด้วยข้อมูลและภาพชุดขั้นตอนต่างๆระหว่างการดำเนินงานบูรณะ อาทิ การสำรวจสภาพพระปรางค์และมณฑป, สำรวบสภาพพื้นผิวและโครงสร้าง, การศึกษาข้อมูลและหลักฐาน จากนั้นคือการปฏิบัติงานตามแนวทางที่วางไว้ รวมถึงมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการบูรณะตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เป็นต้น
ขอขอบคุณที่มา
https://www.prachachat.net/spinoff/culture/news-33214 -
เกาหลีเหนือยิงทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 เช้านี้-คาดส่งผลทำแผ่นดินไหวในปท.ขนาด6.3
คำบรรยายภาพ ภาพถ่ายทางอากาศผ่านดาวเทียมของศูนย์ทดสอบนิวเคลียร์พังกเยรีของเกาหลีเหนือ
สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ ระบุว่า ตรวจพบแรงสั่นสะเทือนขนาด 5.6 แมกนิจูด ลึกลงไปใต้ดิน 10 กิโลเมตรในเกาหลีเหนือ ห่างจากเมืองซุงจิเบกัม ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 23 กิโลเมตร ก่อนที่จะปรับขนาดเป็น 6.3 โดยมีระดับความลึกอยู่ที่ 0 กิโลเมตร ในเวลาต่อมา
สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานว่า เกาหลีเหนืออาจจะทดสอบนิวเคลียร์อีกครั้ง โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาเกาหลีใต้ (KMA) ตรวจพบแรงสั่นสะเทือนไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เมื่อเวลา 12.36 น. ตามเวลาท้องถิ่นที่บริเวณตอนบนของเกาหลีเหนือ ในจังหวัดฮัมเกยองเหนือ และรายงานอ้างแถลงการณ์ของทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ด้วยว่า นี่อาจเป็นสัญญาณของการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 ของเกาหลีเหนือ ความเคลื่อนไหวนี้ ทำให้รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เรียกประชุมความมั่นคงแห่งชาติขึ้นทันที
เกาหลีเหนืออ้างมีอาวุธนิวเคลียร์พร้อมติดตั้งบนขีปนาวุธ
แรงสั่นสะเทือนดังกล่าว เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากมีการเผยแพร่ภาพนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ยืนกับอุปกรณ์ที่สื่อทางการเกาหลีเหนือ... -
รู้ความจริง ทิ้งตัวตน พ้นบ่วงมาร
รู้ความจริง ทิ้งตัวตน พ้นบ่วงมาร
วันอาทิตย์ ที่ 03 กันยายน พ.ศ. 2560, 12.48 น.
อะไรเป็นบ่วงของมาร? ชีวิตของคนเรามักไขว้คว้าหาสิ่งที่จิตปรุงแต่งขึ้นมาสิ่งที่ล้วนทำให้เราเกิดทุกข์ เกิดความเศร้าโศกเสียใจ มีความยึดมั่นถือมั่น สิ่งนั้นเป็นของเรา สิ่งนี้เป็นของเรา พระพุทธเจ้าเคยสอนพระภิกษุไว้ว่า “สังขารที่เที่ยงแท้ แม้เล็กน้อยเพียงทรายที่อยู่ในเล็บ ก็ไม่มีเลย สิ่งที่ถูกปรุงแต่ง มักเปลี่ยนแปลงเสมอ” หากเรารู้เหตุที่ทำให้เกิดบ่วงมารและหาหนทางไปสู่การหลุดพ้น ทิ้งสิ่งที่คิดว่าจริง เราก็จะพ้นบ่วงมาร ธรรมบรรยาย หัวข้อ “รู้ความจริง ทิ้งตัวตน พ้นบ่วงมาร” โดย พระภาวนาเขมคุณ วิ. เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ได้ถ่ายทอดธรรมะและคำสอนทางพระพุทธศาสนาดีๆ ผ่านเวทีเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ ณ อาคารซีพี ทาวเวอร์ ให้ประชาชนได้รับฟังธรรมและนำไปเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต
พระภาวนาเขมคุณ ได้ให้ความรู้ของเหตุที่ทำให้เกิด “บ่วงมาร” สิ่งนั้นก็คือ การเวียนว่ายตายเกิด การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ถือว่าเป็นทุกข์ เป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องเจอ หรือแม้แต่การจากลา การประสบกับสิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจ ความเศร้า ความขมขื่น... -
"สติปัฏฐานเป็นชัยภูมิ คือสนามฝึกฝนตน"
"สติปัฏฐานเป็นชัยภูมิ คือสนามฝึกฝนตน"
" .. พระบรมศาสดาจารย์เจ้า ทรงตั้งชัยภูมิไว้ในธรรมข้อไหน? เมื่อพิจารณาปัญหานี้ได้ความขึ้นว่า "พระองค์ทรงตั้งมหาสติปัฏฐานเป็นชัยภูมิ" อุปมาในทางโลก "การรบทัพชิงชัย มุ่งหมายชัยชนะจำต้องหาชัยภูมิ" ถ้าได้ชัยภูมิที่ดีแล้วย่อมสามารถป้องกันอาวุธของข้าศึกได้ดี
ณ ที่นั้น "สามารถรวบรวมกำลังใหญ่เข้าฆ่าฟันข้าศึกให้ปราชัยพ่ายแพ้ไปได้" ที่เช่นนั้นท่านจึงเรียกว่า "ชัยภูมิ คือที่ที่ประกอบไปด้วยค่ายคูประตูและหอรบอันมั่นคง" ฉันใด อุปไมยในทางธรรม ก็ฉันนั้น
"ที่เอามหาสติปัฏฐานเป็นชัยภูมิ" ก็โดยผู้ที่จะเข้าสู่สงครามรบข้าศึก คือ กิเลส "ต้องพิจารณากายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เป็นต้นก่อน เพราะคนเราที่จะเกิด กามราคะ เป็นต้นขึ้น ก็เกิดที่กายและใจ" เพราะตาแลไปเห็นกายทำให้ใจกำเริบ
เหตุนั้นจึงได้ความว่า "กายเป็นเครื่องก่อเหตุ จึงต้องพิจารณากายนี้ก่อน" จะได้เป็นเครื่องดับนิวรณ์ทำให้ใจสงบได้ "ณ ที่นี้พึง ทำให้มาก เจริญให้มาก" คือพิจารณาไม่ต้องถอยเลยทีเดียว
ในเมื่ออุคคหนิมิตปรากฏ "จะปรากฏกายส่วนไหนก็ตาม ให้พึงถือเอากายส่วนที่ได้เห็นนั้นพิจารณาให้เป็นหลักไว้"... -
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่อง ปฏาจาราเถรี
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่อง ปฏาจาราเถรี
Buddishm channel :-
Published on Sep 2, 2017
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่อง ปฏาจาราเถรี -
แรงกรรม! อุจจาระราดทางบิณฑบาตหลวงปู่มั่น แม้คนที่ยินดีในการทำชั่วของคนอื่น ก็พลอยได้รับผลกรรมด้วย
-:- แรงกรรม อุจจาระราดทางบิณฑบาตหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต แม้คนที่ยินดีในการทำชั่วของคนอื่น ก็พลอยได้รับผลกรรมนั้นไปด้วย -:-
มีเรื่องหนึ่งที่องค์หลวงตา (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) เล่าไว้แต่ไม่ได้บอกว่าเกิดขึ้นหมู่บ้านใด เรื่องเกิดขึ้นในตอนเช้า ขณะหลวงปู่มั่นเดินบิณฑบาตผ่านทุ่งนาของเขา แต่เจ้าของไม่ต้องการให้ท่านเหยียบผ่านคันนาของเขาไป ดังนี้
“ เขาว่าทำคันนาเขาเสียหาย เขาก็เอาขี้ไปราดตามคันนาไว้ ไม่ให้ท่านเดินผ่านมาบิณฑบาตที่นั่น เขาโกรธเคียดแค้นให้ท่าน สำหรับท่านเฉยอยู่ ท่านไม่สนใจล่ะ
แล้วสุดท้ายในที่สุดคนพวกนี้ก็เลยกลายเป็นคนบ้ากันทั้งครอบครัว
มันช่างเป็นไปต่างๆนานา ไม่เป็นบ้าก็เป็นใบ้ ที่เป็นหมดทั้งครอบครัวเพราะพวกนี้ก็พลอยยินดีในเรื่องนี้ไปด้วย แต่คนที่ลงมือทำเป็นพ่อ
พอพ่อแม่ครูจารย์มั่นออกมาบิณฑบาต ท่านจึงเหยียบขี้ที่เขาเทราดไว้เปรอะเปื้อนเท้าไปหมด
เมื่อเป็นดังนั้นพวกคนที่อยู่ในครอบครัวเดียวกันคงจะดีใจพลอยยินดีไปด้วย คือสมรู้ร่วมคิดเป็นใจ แล้วกรรมส่งผลให้เป็นบ้า ผู้เฒ่าหัวหน้าครอบครัวก็เป็นบ้า แล้วลูกเต้าเกิดมาเป็นบ้าก็มี เป็นใบ้ก็มี คนดีๆหาไม่ค่อยมีในบ้านนั้น... -
สุดอัศจรรย์!เกจิดังลพบุรี ละสังขาร4ปีร่างกลายเป็นหิน
เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักปฏิบัติธรรม เขาสามยอด ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลัง รพ.อานันทมหิดล ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี ได้มีประชาชนเดินทางมากราบและปิดทองสรีระ “หลวงปู่เรือง อาภัสสะโร” เป็นจำนวนมาก หลังจากที่ทราบข่าวว่า อดีตเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมเขาสามยอด เกจิดังเมืองลพบุรี ที่ละสังขารด้วยโรคชรา และลูกศิษย์ได้นำสรีระ หลวงปู่เรือง บรรจุในโลงแก้วมาแล้ว 4 ปี แต่ปรากฏว่าในวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อจะเปลี่ยนผ้าครองสรีระ และใบชาที่บรรจุในโลงแก้ว ก่อนที่จะครบวันละสังขารครบ 4 ปี ในวันที่ 15 ก.ย. 60 ลูกศิษย์พบว่าสรีระของหลวงปู่เรืองไม่เน่าเปื่อย ได้แข็งกลายเป็นหิน ซึ่งทำให้ทุกคนต่างอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก จึงได้พร้อมใจกันเปิดโอกาส ให้ประชาชนที่เคารพศรัทธาได้กราบไหว้บูชา เป็นระยะเวลา 10 วัน ก่อนที่จะนำสรีระหลวงปู่เรือง บรรจุในโลงแก้วอีกครั้งหนึ่งในวันนี้
นายสมคิด สุขสันต์ ซึ่งเป็นทั้งลูกศิษย์ และหลานของหลวงปู่เรือง กล่าวว่า หลวงปู่เรือง อาภัสสะโร เดิมชื่อ บุญเรือง สุขสันต์ เกิดเมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2457 เป็นบุตรคนที่ 2 ของ นายคำพันธ์ และนางศรี สุขสันต์ มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่... -
สุบินนิมิตของหลวงปู่มั่น
สุบินนิมิตของหลวงปู่มั่น
เมื่อหลวงปู่มั่นเริ่มปฏิบัติวิปัสสนาใหม่ ๆ ในสำนักหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ณ วัดเลียบ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ท่านบริกรรมภาวนาด้วยบท “พุทโธ” ประจำนิสัย ในคืนวันหนึ่งเกิดสุบินนิมิตว่า ท่านออกเดินทางจากหมู่บ้านเข้าสู่ป่าใหญ่อันรกชัฏที่เต็มไปด้วยขวากหนาม จนจะหาที่ด้นดั้นผ่านไปแทบไม่ได้ ท่านพยายามซอกซอนไปตามป่านั้นจนพ้นไปได้โดยปลอดภัย
พอพ้นจากป่าไปก็ถึงทุ่งกว้างจนสุดสายตา เดินตามทุ่งไปโดยลำดับไม่ลดละความพยายาม ขณะที่เดินตามทุ่งไปได้พบไม้ต้นหนึ่งชื่อต้นชาติ ซึ่งเขาตัดล้มลง ขอนจมดินอยู่เป็นเวลานานปี เปลือกและกระพี้ผุผังไปบ้างแล้ว ไม้ต้นนั้นรู้สึกว่าใหญ่โตมาก ท่านเองก็ปีนขึ้นและไต่ไปตามขอนชาติที่ล้มนอนอยู่นั้น พร้อมทั้งพิจารณาอยู่ภายใน และรู้ขึ้นมาซึ่งเทียบกับชาติของท่านว่า จะไม่กำเริบให้เป็นภพ ชาติสืบต่อไปอีกแน่นอน
ขณะที่กำลังยืนพิจารณาอยู่ ปรากฏว่ามีม้าสีขาวตัวหนึ่ง รูปร่างใหญ่และสูง เดินเข้ามาเทียบที่ขอนชาตินั้น ท่านนึกอยากจะขี่ม้าขึ้นมาในขณะนั้น เลยปีนขึ้นหลังม้าตัวแปลกประหลาดนั้น ขณะนั้นปรากฏว่า ม้าได้พาท่านวิ่งไปอย่างเต็มกำลังฝีเท้า... -
“บิณฑบาตเอาคน ไม่ได้บิณฑบาตเอาอาหาร” (หลวงปู่ชา)
“บิณฑบาตเอาคน ไม่ได้บิณฑบาตเอาอาหาร”
หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
เมื่อราวๆ 40 ปีที่แล้ว หลวงปู่ชา สุภัทโท มอบหมายให้พระลูกศิษย์ไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ สมัยนั้นหลวงพ่อสุเมโธยังอยู่ในวัยหนุ่มและมีอายุพรรษาไม่มากนัก เมื่อต้องรับภาระหนักอย่างนี้ ท่านก็เกิดความลังเลสงสัย ไม่แน่ใจว่าวิถีชีวิตแบบพระวัดป่าจะดำรงอยู่ในต่างประเทศได้หรือไม่ เพราะสภาพแวดล้อมดูจะไม่เอื้ออำนวยและคนส่วนใหญ่ไม่ได้นับถือพุทธศาสนา
หลวงปู่ชาถามท่านสั้นๆ ว่า “ที่อังกฤษมีคนดีอยู่บ้างไหม”
ครั้นได้รับคำตอบว่า “พอมีอยู่”
หลวงปู่ชาก็ให้ข้อคิดว่า “ที่ไหนมีคนดี ที่นั่นพระก็อยู่ได้”
ตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์ หลวงปู่ชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง น่าจะเป็นพระภิกษุรูปแรกที่ออกเดินบิณฑบาตในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แม้จะมีเสียงทักท้วงจากลูกศิษย์ชาวตะวันตกหลายคนที่เกรงว่าจะผิดกฎหมายและคงไม่มีคนใส่บาตร หลวงพ่อก็ยังคงยืนยันในเจตนาเดิม ท่านบอกว่า “บิณฑบาตเอาคน ไม่ได้บิณฑบาตเอาอาหาร”
วันเวลาผ่านไปหลายสิบปี ไม่ว่าจะไปอยู่ในประเทศใดก็ตาม ลูกศิษย์ของหลวงปู่ชาก็ยังคงปฏิบัติตามคำสอนของท่าน... -
“พระอริยบุคคล ๔ ย่อมไม่มีในคนนอกพระพุทธศาสนา”(หลวงปู่แหวน สุจิณโณ)
“พระอริยบุคคล ๔ ย่อมไม่มีในคนนอกพระพุทธศาสนา”
(โอวาทธรรม หลวงปู่แหวน สุจิณโณ)
“กสิณฌาน” กํามือจนเล็บมือผด (ทะลุ) หลังมือไม่รู้ตัว อันนั้นก็ยังไม่มีใครแก้ได้หนา ไม่ยอมใครทีเดียว แต่ไม่ใช่ถึง เป็นแค่ฌานโลกีย์ทั้ง ๕ ปีติอันนี้ แต่อาจเป็นอยู่ในกามโลกอันนี้ บางคนก็ขี้หินป่งหู้ม (งอกปิด) รอบ ๆ ตัว บางคนก็ไปนั่งริมเก๊าไม้ (ต้นไม้) ป่งหุ้ม ได้สองหมื่นปีก็มี สามหมื่นปีก็มี เวลาจะออกก็กสิณนั้นละ เพิ่งกสิณให้แตกกระจาย พวกนี้ครั้งตายจากกามโลก ก็ไป “พรหมโลก” ไปดูเขาแล้วพวกนี้ เขาเป็นนักผนึกบารมีหนา ทานบารมี ทานภายนอก ทานภายใน เขาก็ละได้ภายในตัวอกุศล ตัวอกุศลาธัมมา นี้ละ เมาหลง เมาโกรธ เมาราคะ กิเลสตัณหานี่ละ มันเป็นกก เป็นเค้าเป็นเหง้า เป็นงูน กิเลสพันห้า ตัณหาร้อยแปด กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ไปจากนี้ละ เขาละได้จริง ๆ หนาเขาอดได้แต่ไปแก้ไม่ไหวหรอก อันที่ปีติตัวนี้ แต่ถอนได้เหมือนกันนั้นละ เวลาตายจากกามโลกนี้ ก็ไป “พรหมโลก” พวกนี้ไม่ตกต่ำ แต่ได้กลับมาเกิดอยู่ แต่พวกเพ่งพวกนั้น ยังสําคัญว่าตนได้ “สําเร็จพระนิพพาน” หนา แต่มันไม่เป็นปัญญาวิมุตติ โลกุตรวิมุตติ ต้องแก้ไขอยู่เรื่อยๆ... -
มูลนิธิภูมิพโลภิกเตรียมนำพระคัมภีร์ภาคภาษาไทยฉบับแรกเผยแพร่
มูลนิธิภูมิพโลภิกเตรียมนำพระคัมภีร์ภาคภาษาไทยฉบับแรกเผยแพร่ เนื่องในวันภูมิพโลภิกขุ
นายระพินทร์ จารุดุล กรรมการผู้จัดการมูลนิธิภูมิพโลภิกขุ เปิดเผยว่า เนื่องในวันที่ 22 ตุลาคม 2560 เป็นวันครบ 61 ปี แห่งวันเสด็จออกทรงพระผนวชของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร อีกทั้งในวันที่ 9 ตุลาคมนี้ ยังเป็นวันครบ 45 ปี แห่งการก่อตั้งมูลนิธิฯ ซึ่งได้รับพรมหากรุณาธิคุณจากพระองค์ ที่ได้พระราชทานพระราชฉายาขณะทรงพระผนวชว่า “ภูมิพโลภิกขุ” เป็นชื่อมูลนิธิฯ ดังนั้นเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ มูลนิธิฯ จึงกำหนด จัดงานบำเพ็ญกุศลถวายภัตตาหารเพล แด่พระภิกษุสงฆ์ 90 รูป ในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ ณ พระอุโบสถวัดสระเกศ
ทั้งนี้ กว่า 40 ปี ที่มูลนิธิฯ ได้จัดสร้างพระคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาฉบับภูมิพโลภิกขุขึ้น โดยการรวบรวมมาจากพระคัมภีร์ใบลานบาลีอักษรขอม ตามโครงการปริวรรตอักษรขอมและอักษรโบราณท้องถิ่น ซึ่งนำมาชำระและแปลเป็นภาษาไทย แล้ว 152 คัมภีร์ และได้นำไปเผยแผ่ถวายแก่วัด รวมทั้งสถาบันการศึกษาที่มีการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมทั่วประเทศรวมแล้วกว่า 600 แห่ง เป็นจำนวนพระคัมภีร์กว่า 75,000 เล่ม... -
"ตัวโกรธ คือ ส้นตีนไงล่ะ ?" - หลวงปู่บุดดา ถาวโร
เรื่อง "ตัวโกรธ คือ ส้นตีนไงล่ะ ?"
(คติธรรม หลวงปู่บุดดา ถาวโร)
วัดกลางชูศรีเจริญสุข อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี
แม้หลวงปู่บุดดาจะไม่ได้เล่าเรียนในทางปริยัติมาก แต่ความที่ท่านเชี่ยวชาญในการปฏิบัติ จึงมีความสามารถในการสอนธรรมชนิดที่สื่อตรงถึงใจ มีคราวหนึ่ง...ท่านได้รับนิมนต์ให้ไปเทศน์ คู่กับท่านเจ้าคุณรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นเปรียญธรรม ๙ ประโยค
ท่านเจ้าคุณรูปนั้นคงเห็นหลวงปู่เป็นพระบ้านนอก จึงอยากลองภูมิหลวงปู่ ได้ถามหลวงปู่ว่า...จะเทศน์เรื่องอะไร...?
หลวงปู่ตอบว่า...“เรื่องตัวโกรธ กิเลสตัณหา”
ท่านเจ้าคุณซักต่อว่า...“ตัวโกรธเป็นอย่างไร ?”
หลวงปู่ตอบสั้น ๆ ว่า...“ส้นตีนไงล่ะ”...!!!
เท่านั้นเอง ท่านเจ้าคุณก็โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ไม่ยอมเทศน์กับหลวงปู่ วันนั้นหลวงปู่จึงต้องขึ้นเทศน์องค์เดียว เมื่อเทศน์จบแล้ว ท่านก็ไปขอขมาท่านเจ้าคุณองค์นั้น พร้อมกับอธิบายว่า
“ตัวโกรธมันเป็นอย่างนี้เองนะ มันหน้าแดงๆนี้แหละ”
********************************************************************* -
“พระสังฆราช” เสด็จเปิดงานเทศน์มหาชาติ เทิดสมเด็จบรมบพิตร
“พระสังฆราช” เสด็จเปิดงานเทศน์มหาชาติ เทิดสมเด็จบรมบพิตร ทรงพระราชานุเคราะห์แก่สรรพชีวิตมิผิดจากคุณธรรมในมหาเวชสันดร
เมื่อวันที่ 1 กันยายน เวลา 14.00 น. ที่หอประชุมพุทธมณฑล อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงานเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดก และการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา โดยมีนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยนายกนก แสนประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักงานพุทธมณฑล ผู้ปฏิบัติธรรม พ่อค้า ประชาชน นักเรียนนักศึกษา เฝ้ารับเสด็จและร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก
ในพิธีเปิดงานฯ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระสัมโมทนียกถา มีความโดยสรุปว่า การเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดก ซึ่งมีพระคาถาพระบาลีมาจากพระพุทธพจน์นั้น เป็นประเพณีที่อยู่คู่สังคมไทยทุกภาค มาเป็นเวลาช้านาน ธรรมะแห่งมหาเวชสันดรชาดก... -
ผมอยากทราบว่าทำไมเวลาตักบาตรจะต้องถอดรองเท้าด้วยครับ !?
ผมอยากทราบว่าทำไมเวลาตักบาตรจะต้องถอดรองเท้าด้วยครับ ?
ท่านชยสาโรตอบ : ในพระวินัยท่านไม่ได้กำหนดเรื่องนี้ แต่จะเน้นที่คำว่า
“ต้องถวายด้วยความเคารพ”
ต่อมาภายหลังอาจารย์รุ่นหลังต้องวิเคราะห์ว่า การให้หรือถวายด้วยความเคารพนั้นเป็นอย่างไร จะต้องกำหนดให้ชัดเจนว่าถวายอย่างไรแสดงว่าเคารพ ถวายอย่างไรแสดงว่าไม่เคารพ
ซึ่งถ้าเอาวัฒนธรรมอินเดียในสมัยนั้นเป็นหลักการให้หรือถวายของนี่ ต้องทำด้วยกิริยาท่าทางอ่อนน้อม ถ่อมตน เช่น ถ้าถวายข้าว ก็ห้ามโยนอย่างนี้ ต้องใส่อย่างนี้
แล้วในสมัยนั้นการใส่รองเท้าถือว่าไม่สุภาพ ยิ่งถ้าพระท่านไม่ใส่รองเท้าอยู่แล้ว ถ้าโยมใส่รองเท้าก็สูงกว่า จึงกลายเป็นธรรมเนียม เป็นสัญลักษณ์ว่าผู้ถวาย ถวายด้วยความเคารพ
แต่เมื่อพระเราไปเมืองนอก ซึ่งคนไม่รู้จักธรรมเนียม ไม่รู้จักประเพณี เราจะไป ต้อง..อย่างนั้น อย่างนี้นะ มันไม่ได้ เดี๋ยวเขาก็ถอยเลย ใช่ไหม
บอกแต่ว่าให้ด้วยความเคารพ เขาก็แปลตามความหมายของเขา ให้ด้วยความเคารพในความหมายของเขาอาจจะดูไม่งามเหมือนธรรมเนียมของเรา ก็เป็นเรื่องของเขา
ถ้าเป็นลูกศิษย์วัดนานๆแล้ว เราก็ค่อยๆสอนให้เขาทำเหมือนคนไทย
อย่างเดือนที่แล้ว... -
วงดนตรี”ซุปเปอร์เด็กวัด” รณรงค์ดึงเด็กห่างไกลยานรก
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันชีวิตคนไทยโดยเฉพาะพุทธศาสนิกชนล้วนต้องมีความเกี่ยวพันธ์กับ “วัด” ไม่ว่าจะเป็นโกนผมไฟ งานบวช งานบุญ งานศพ เรียกว่าตั้งแต่เกิดไปจนตายก็ว่าได้ วัดจึงกลายเป็นศูนย์รวมที่พึ่งทางใจของประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บทบาทหน้าที่ของวัด และพระในอดีตมีมาก แต่ปัจจุบันเริ่มสูญเสียไปเพราะความเจริญจากตะวันตกเข้ามาสู่สังคมไทยอย่างรวดเร็ว วัดเองก็ต้องเผชิญหน้ากับโลกโซเชียลฯ ต้องรับมือกับความเจริญ และปัญหาต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน
ยาเสพติดถือเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่วัดมองข้ามไม่ได้เด็ดขาด เพราะปัจจุบันพบว่ามีการลุกลามเข้าไปถึงกุฏิอย่างไม่กลัวบาปกรรม… นอกจากวัดต้องป้องกันตัวเองแล้ว ภารกิจที่ได้ชื่อว่าเป็นที่พึ่งทางจิตใจมนุษย์ พระจึงต้องมีหน้าที่ในการชี้ทางสว่างให้กับชาวบ้าน …โดยเฉพาะเด็ก และเยาวชน คนรุ่นใหม่โอกาสที่จะตกเป็นทาสยาเสพติดสูง การที่จะเอาบทสวดมนต์ให้เด็กท่องแล้วซึ้งในรสพระธรรมบอกตรง ๆ ยาก พระต้องหาวิธีใหม่ ๆ คิดใหม่ในการป้องกัน-ดึงพวกเขาออกจากวังวนยานรกให้ได้
มูลนิธิหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม เป็นองค์กรเล็ก ๆ ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนงานในกิจการทางพุทธศาสนา... -
อบต.บอกไม่มีงบ!พระราชาคณะปรับภูมิทัศน์ถนนเอง
อบต.บอกไม่มีงบ!พระราชาคณะปรับภูมิทัศน์ถนนเอง
วันเสาร์ ที่ 02 กันยายน พ.ศ. 2560, 16.44 น.
เหตุต้องเตรียมจัดงานชาตกาลหลวงปู่ชาปีหน้า
วันที่ 2 ก.ย.2560 เฟซบุ๊กสาขาวัดหนองป่าพงได้โพสต์ข้อความว่า มีผู้สอบถามมาแยะมากเกี่ยวกับภาพหลวงพ่อเลี่ยมที่เผยแพร่ไปเมื่อวานว่า ทำไมหลวงพ่อเลี่ยมที่เป็นถึงเจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง และ มีสมณศักดิ์เป็นถึงพระราชาคณะจังหวัดอุบลราชธานี (พระราชภาวนาวิกรม) ถึงต้องออกไปทำงานปรับพื้นที่ที่ถนนหลวงหน้าวัดด้วยตนเอง
คำตอบคือ ทางวัดได้ร้องขอไปทาง อบต. เพื่อช่วยปรับปรุงพื้นที่ ตัดแต่งกิ่งไม้ เพราะอาจจะเป็นอันตรายแก่ผู้สัญจรไปมา แต่ทาง อบต. แจ้งว่าไม่มีงบประมาณในการจัดการเรื่องทั้งหมดที่ทางวัดร้องขอไป
เมื่อเป็นเช่นนี้ ทางหลวงพ่อเลี่ยม จึงพาพระลูกวัด เณร ผ้าขาว พร้อมด้วยญาติโยมจิตอาสา ลงมือปรับปรุงถนน ภูมิทัศน์ ตัดกิ่งไม้ที่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้สัญจรไปมาเวลาเจอลมพายุ อำนวยความแก่ญาติโยมที่จะเดินทางจากทั่วโลกมาร่วมงาน อาจริยบูชา และ 100 ปี ชาตกาลหลวงปู่ชา ในวันที่ 12-17 มกราคม 2561
เพราะเมื่อแล้วเสร็จแล้ว... -
แนะพระฝึกทักษะการสื่อสารดูงานสำนักพิมพ์
แนะพระฝึกทักษะการสื่อสารดูงานสำนักพิมพ์
วันเสาร์ ที่ 02 กันยายน พ.ศ. 2560, 13.28 น.
ยกพระพุทธเจ้าต้นแบบนักวิจัยระดับโลก ส่งผลฐานวิถีพุทธแต่มาตรฐานการศึกษาสากล นักวิชาการอิสระแนะวงการคณะสงฆ์ยกระดับสากลภาษาอังกฤษเป็นฐาน ฝึกทักษะการฟังและการอ่านรวมถึงการสื่อสาร ควรดูงานสำนักพิมพ์ทีวีต่างๆ
วันที่ 2 ก.ย.2560 พระอาจารย์ปราโมทย์ วาทโกวิโท นิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เปิดเผยว่า จากการสัมมนาวิชาการหลักสูตรบัณฑิตศึกษา ภายใต้หัวข้อ ” การบริหารการศึกษาวิถีพุทธสู่มาตรฐานการศึกษาระดับสากล” บรรยายโดย ศ.ดร.อุทิส ศิริวรรณ นักวิชาการอิสระ แบ่งปันการทำงานวิจัยการทำงานวิชาการอย่างไร? จะสู่มาตรฐานการศึกษาระดับสากล ถือว่าเป็นมิติใหม่ของครุศาสตร์ มหาจุฬาฯ ในการเข้าสู่การศึกษาระดับสากล ประเด็นสำคัญจากการรับฟัง คือ เมื่อเราฝึกตนเองให้เป็นทองแท้ไม่ต้องกลัวไฟ
คนแท้ไม่ต้องกลัวอุปสรรคเหมือนกัน แต่จงเรียนศึกษาให้มากๆ ต้องให้มีปริญญาซ่อนอยู่ในปริญญา หมายถึงมีความหลากหลายด้านการศึกษาทุกศาสตร์ เหมือนเราอยากจะเก่งภาษาอังกฤษต้องไปฝังตัว ภาษาอังกฤษเป็นทักษะ...
หน้า 362 ของ 432