Featured Threads Archive
-
ด้วยจิตที่เข้มแข็งและใจที่ภาวนามุ่งมั่นของหลวงปู่ฝาง!!! แม้แต่เสือที่ภูขวางที่ว่าดุ ยังต้องหลบหนีเปิดทางให้
ด้วยจิตที่เข้มแข็งและใจที่ภาวนามุ่งมั่นของหลวงปู่ฝาง!!! แม้แต่เสือที่ภูขวางที่ว่าดุ ยังต้องหลบหนีเปิดทางให้ สาธุ!!! ประสบการณ์พระป่า
หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต แห่งวัดอุดมคงคาคีรีเขต อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่นสมัยที่ท่านจะไปกราบหลวงปู่มั่น หลวงปู่จึงธุดงค์จากจังหวัดอุบลราชธานีเลียบฝั่งแม่น้ำโขง ขึ้นไปทางจังหวัดมุกดาหารและนครพนม แวะกราบนมัสการพระธาตุพนม และจาริกไปยังจังหวัดสกลนคร โดยการเดินเท้าตลอดเส้นทาง หากพบสถานที่แห่งใดเหมาะสมแก่การภาวนา และมีหมู่บ้านที่จะบิณฑบาตได้อยู่ไม่ไกลนัก ท่านก็จะพักสักระยะ แล้วเดินทางต่อไป จนกระทั่งมาถึงภูผาซาง
ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :ประสบการณ์พระป่า!! ใครเตือนก็ไม่ฟัง!! "หลวงปู่บุญฤทธิ์"ขอฝึกภาวนาอยู่กับ"หลวงปู่ชอบ" ที่ผาแด่นแดนทุรกันดารจนเฉียดตาย!
หลวงปู่หลงทางอยู่ที่นี่เป็นเวลาหลายวัน จนไม่ได้ฉันอาหารใดๆ เลย ร่างกายจึงเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเต็มที ทว่าท่านไม่เคยย่อท้อมีแต่ความมุ่งมั่นที่จะไปฟังธรรมจากพระอาจารย์ใหญ่ให้ได้ ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใดก็ตาม “ก็อาศัยแต่ฉันน้ำในกา ไม่ใช่ฉันจนอิ่ม คือจิบเอาทีละน้อยๆ อดอาหารหลายๆ วันก็เคยอดมาแล้ว กลัวทำไม... -
พ่อแม่รังแกฉัน
เด็กเล็กคนหนึ่งของครอบครัว ซึ่งมีฐานะดี นั่งรถยนต์ไปกับคุณพ่อคุณแม่ ผ่านไปที่แห่งหนึ่ง เห็นเด็กเล็กยากจนหลายคน นุ่งห่มเสื้อผ้าเก่าขาดรุ่งริ่งอยู่ตามข้างทาง เด็กเล็กในรถยนต์สนใจ เพราะเห็นความแตกต่างระหว่างตน กับ เด็กข้างถนนเหล่านั้น คุณพ่อคุณแม่สังเกตรู้ จึงพูดว่า นั่นเจ้าพวกเด็กสกปรก ลูกอย่าไปดูมัน
ในกรณีนี้ คุณพ่อคุณแม่ทำหน้าที่เหมือนดังปาปมิตร ชี้แนะให้เด็กตั้งความคิดที่เป็นอโยนิโสมนสิการ เร้าให้เกิดอกุศลธรรม เช่น ความรู้สึกรังเกียจดูถูกเหยียดหยาม เป็นต้น และความรู้สึกนี้ อาจกลายเป็นทัศนคติของเด็กนั้นต่อคนที่ยากจน ตลอดจนความโน้มเอียงที่จะมีท่าทีเช่นนั้นต่อเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายโดยทั่วไป
แต่ในกรณีอย่างเดียวกันนั้น คุณพ่อคุณแม่อีกรายหนึ่ง บอกเด็กว่า “เด็กๆนั้นน่าสงสาร พ่อแม่เขายากจน จึงไม่มีเสื้อผ้าดีๆใส่ เราควรเผื่อแผ่ช่วยเหลือเขา”
ในกรณีนี้ คุณพ่อคุณแม่ทำหน้าที่อย่างกัลยาณมิตร ชี้แนะให้เด็กตั้งความคิดที่เป็นโยนิโสมนสิการ เร้าให้เกิดกุศลธรรม เช่น ความรู้สึกเมตตา กรุณา และความเสียสละ เป็นต้น และความรู้สึกเช่นนั้น... -
วีดีโอ ประสบการณ์ธุดงค์ภูเขาควาย หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ บิณทบาตในเมืองบังบดลับแล
ประสบการณ์ธุดงค์ภูเขาควาย หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ บิณทบาตในเมืองบังบดลับแล
ปลดล็อค :-
Published on Jun 15, 2017
พรรษา แรกในแผ่นดินลาว หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ปวารณาจำพรรษาอยู่ที่ภูควาย โดยอาศัยเถื่อนถ้ำแห่งหนึ่งเป็นที่พักบำเพ็ญเพียรตลอดพรรษา โดยมีชาวบ้านป่าเชิงเขาอุปัฎฐากเรื่องอาหารขบฉัน ซึ่งท่านจะลงจากภูสูงมาบิณฑบาตที่หมู่บ้านนั้นทุกวันออก พรรษาแล้ว หลวงพ่อคูณจึงลงจากภูควาย จาริกธุดงค์ต่อไปโดยมุ่งหน้าไปทางทุ่งไหหิน เมื่อไปถึงทุ่งไหหินได้หยุดยั้งปักกลดลง ณ ที่นี้ตลอด อาณาบริเวณของทุ่งไหหินเป็นที่ราบกว้างไกลสุดสายตา คล้ายกับว่าเป็นทำเลที่ตั้งเมืองเก่าโบราณซึ่งได้ล่มสลายสูญหายไปหมดสิ้น ไม่เหลือให้เห็นแม้แต่ซากปรักหักพัง คงมีแต่สิ่งอัศจรรย์ทิ้งเอาไว้กลาดเกลื่อนไปตลิดที่ราบของท้องทุ่งนั่นคือ “ไหหิน" -
"ความหมายของสมณะ" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
"ความหมายของสมณะ"
" .. "การเห็นสมณะ เป็นมงคลอันสูงสุด" คำว่า "สมณะ" นั้นตามที่ท่านแสดงไว้ในตำราว่า "มีอยู่ ๔ ประเภท"
- สมณะที่หนึ่ง คือพระโสดา
- สมณะที่สอง คือพระสกิทาคา
- สมณะที่สาม คือพระอนาคา
- สมณะที่สี่ คือพระอรหัตบุคคล
๔ ประเภทนี้ ท่านเรียกว่า "สมณะ" การที่เราได้มาเห็นสมณะ "ผู้สงบกาย วาจา ใจ จากบาปทั้งหลายดังกล่าวมานี้ จึงถือเป็นมงคลอันสูงสุด" .. "
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน -
หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่าเรื่อง | ทรัพย์ใต้ดินแห่งเมืองกาญจนบุรี
หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่าเรื่อง | ทรัพย์ใต้ดินแห่งเมืองกาญจนบุรี
FungKhorKid :- Published on Jan 12, 2017 -
ได้เห็นเป็นบุญตา! ภาพหายาก"หลวงปู่เนียม"วัดน้อย เพราะเหตุอัศจรรย์ไม่เคยมีใครถ่ายรูปท่านติดเลย!!!
ได้เห็นเป็นบุญตา! ภาพหายาก"หลวงปู่เนียม"วัดน้อย เพราะเหตุอัศจรรย์ไม่เคยมีใครถ่ายรูปท่านติดเลย!!!
หลวงพ่อเนียม วัดน้อย (พ.ศ. 2372 — 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2452) ท่านเป็นพระเกจิชื่อดังแห่งจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นที่นับถือโดยทั่วไปในด้านปาฏิหาริย์ พระพุทธคุณของท่านมากมายยิ่งนักทั้งในด้านมหาอุต คงกระพัน และแคล้วคลาด เป็นที่ยอมรับด้วยกันมานาน แม้แต่สมเด็จพระสังฆราช(แพ ติสเทโว) วัดสุทัศน์เทพวราราม หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว หลวงพ่อทับ วัดทอง ยังมีความเคารพนับถือ และมีพระเครื่องของหลวงพ่อเนียมในครอบครอง
เล่าขานสืบกันมาอีกว่าตลอดระยะเวลาที่หลวงปู่มีชีวิตอยู่นั้น ไม่เคยมีใครถ่ายรูปท่านได้ -ขุนดอน เขียนไว้ว่าเมื่อครั้งพระประมาณฯ เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน นำฝรั่งช่างรังวัด๒ คนมารังวัดที่ ในเขตเมืองสุพรรณ เพื่อออกโฉนดให้ราษฎร์ เมื่อรังวัดมาถึงท้องที่วัดน้อย ก็ได้ถือโอกาสเข้าขอถ่ายรูปหลวงปู่ โดยให้ฝรั่งเอากล้องถ่ายรูปของทางราชการช่วยถ่ายให้ ตัวคุณพระประมาณฯ นั้น เคยรู้กิตติศัพท์มาแล้วว่ามีคนเคยมาขอถ่ายรูปหลวงปู่หลายรายแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จสักราย คราวนี้มีกล้องฝรั่งอย่างดีมาด้วย... -
แบบนี้ก็ได้นะ! ทำบุญครั้งเดียวด้วยข้าวตอก 1 ขัน ไปเกิดเป็นนางฟ้าบนดาวดึงส์
แบบนี้ก็ได้นะ! ทำบุญครั้งเดียวด้วยข้าวตอก 1 ขัน ไปเกิดเป็นนางฟ้าบนดาวดึงส์
"..เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2531 พูดถึงเรื่อง "ลาชเทวธิดา" หรือ "เทพธิดาข้าวตอก" เพราะว่าเป็นนางฟ้าในสมัยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เรื่องมีอยู่ว่าเธอเป็นลูกคนจน ไปรับจ้างเฝ้าไร่อ้อยของเจ้านาย ได้นำข้าวตอกไปเพื่อจะกิน เพราะคิดว่าในตอนเช้ากว่าคนจะไปส่งอาหาร ถ้าเขาส่งสายเราก็หิว
แต่ก็เป็นการบังเอิญวันนั้นเป็นเวลาพอดีที่ พระมหากัสสป พระสาวกองค์สำคัญขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าออกจากนิโรธสมาบัติ
พระที่ออกจากนิโรธสมาบัติออกไม่ตามเวลาที่เขาบิณฑบาตกัน อาจจะสายไป ไปบิณฑบาตไม่ทัน ก็ต้องใช้ทิพจักขุญาณว่าจะไปรับบาตรที่ไหน ใครจะให้เราวันนี้
ท่านพระมหากัสสปก็ทราบว่าหญิงสาวที่เฝ้าไร่อ้อยอยู่ตรงโน้น เธอมีข้าวตอกไม่มีน้ำกะทิอยู่ 1 ขัน เพื่อจะมากินเวลาเช้า
แต่ทว่าถ้าเราไปบิณฑบาต เธอเต็มใจพร้อมจะถวายเพื่อทำบุญ ความจริงท่านไม่ตั้งใจจะเบียดเบียน ต้องดูก่อนว่าถ้าเขาให้แล้วเขาเดือดร้อนไหม
ก็ทราบว่าเรื่องอาหารเขาไม่เดือดร้อน แต่ท่านอาจจะทราบว่าให้แล้วเธอจะตายจึงตั้งใจมาโปรดคนนี้โดยตรง จึงเหาะมาในอากาศพอใกล้จะถึงก็ลงเดิน... -
สุดยอดมาก !!! มหาเศรษฐี เจ้าของซอยสุขุมวิท 24 ยกทั้งซอยให้แผ่นดินเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แต่ต้องใช้ชื่อว่า "ถนนเรารักในหลวง" !!!
สุดยอดมาก !!! มหาเศรษฐี เจ้าของซอยสุขุมวิท 24 ยกทั้งซอยให้แผ่นดินเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แต่ต้องใช้ชื่อว่า "ถนนเรารักในหลวง" !!!
“ถนนเรารักในหลวง We Love The King Road” เส้นนี้อยู่ที่ซอยสุขุมวิท 24 กรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งรถไฟฟ้าบีทีเอส มาถึงทางแยกไป ซ.สุขุมวิท 22 คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งย่านธุรกิจที่มีมูลค่าการซื้อ-ขายสูง แต่ที่หลายคนไม่รู้เลยคือ เบื้องหลังมีมหาเศรษฐีที่อุทิศตนตามคำสอนของในหลวง ร.9
นายธานินทร์ พันธ์ประภากิจ ในฐานะเจ้าของ ซ.สุขุมวิท 24 เปิดเผยว่า แต่เดิม ซ.สุขุมวิท 24 เป็นถนนส่วนบุคคล แต่ภายหลังที่ได้ดำเนินชีวิตตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จนประสบความสำเร็จ ทำให้ตนเกิดความศรัทธาในใจเมื่อเห็นที่ในหลวงทรงเหนื่อยกว่าใครในการรักษาแผ่นดินให้คนไทยได้อยู่อย่างสบาย ประกอบกับตนเห็นว่าเมื่อแผ่นดินไม่ใช่ของเรา ถนนนี้ก็ไม่ใช่ของเราแต่เป็นของในหลวงจึงตัดสินใจปลดป้ายเดิมออกและทำป้ายขึ้นมาใหม่ชื่อว่า “ถนนเรารักในหลวง We Love The King Road” และสงวนสิทธิ์ให้เป็นของแผ่นดินถวายเป็นพระราชกุศล
นอกจากนี้ นายธานินทร์... -
"พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์" มอบพระคาถาแคล้วคลาดที่ท่านใช้ประจำคุ้มครองได้แน่นอน!! หากมีจิตศรัทธา สาธุๆๆ..
"พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์" มอบพระคาถาแคล้วคลาดที่ท่านใช้ประจำคุ้มครองได้แน่นอน!! หากมีจิตศรัทธา สาธุๆๆ..
คาถาแคล้วคลาด
พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน
พุทธังแคล้วคลาด พระพุทธเจ้าย่างบาท อิติปิ โส ภะคะวา
ธรรมมังแคล้วคลาด พระพุทธเจ้าย่างบาท อิติปิ โส ภะคะวา
สังฆังแคล้วคลาด พระพุทธเจ้าย่างบาท อิติปิโส ภะคะวา ฯ
•คาถาบทนี้ เป็นคาถาที่พ่อท่านคล้าย ท่านใช้สวดภาวนาเวลาออกเดินทาง เดินธุดงค์ในป่า เดินบิณฑบาต หรือเมื่อจะเข้าผจญภัย เป็นคาถาแคล้วคลาดปลอดภัย ศักดิ์สิทธิ์นักแลฯ
ประวัติพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน เทวดาเมืองคอน
ประวัติพ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน , ประวัติพ่อท่านคล้าย วัดพระธาตุน้อย
พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน วัดพระธาตุน้อย พระครูพิศิษฐ์อรรถการ หรือ ที่รู้จักกันทั่วไปว่า "พ่อท่านคล้าย" ประวัติพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ เทวดาเมืองคอน วัตถุมงคลพ่อท่านคล้าย
พระครูพิศิษฐ์อรรถการ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า "พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์" นามตามสมณศักดิ์ท่านคือ พระครูพิศิษฐ์อรรถการ เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดสวนขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช พ่อท่านคล้าย นามเดิมว่า "คล้าย สีนิล" เกิดตรงกับ... -
สุดยอดพระคาถา "หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด" พระโพธิสัตว์ผู้มาโปรดเหล่ามวลมนุษย์ ป้องกัน ภยันตรายนานาชนิดๆ สาธุ..
คาถาหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด
“นะโม โพธิสัตว์โต อาคันติ มายะ อิติภะคะวา”
ขอบารมี หลวงปู่ทวด คุ้มครองทุกท่าน ให้ปลอดภัย ภาวนาคาถาหลวงปู่ทวด ขอให้โชคดี แคล้วคลาด ปลอดภัย ทุกๆท่าน
ประวัติหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด วัดช้างให้
หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เหยียบน้ำทะเลจืด เกิดเมื่อ วันศุกร์ เดือน4 ปีมะโรง พ.ศ.2125 ณ บ้านสวนจันทร์ ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา มีชื่อว่า “ ปู่ ” หรือ “ ปู ” บิดามีนามว่า (ตาหู) มารดามีนามว่า (นางจันทร์) มีฐานะยากจนปลูกบ้านอาศัยที่ดินเศรษฐีผู้หนึ่งไว้ชื่อ “ปาน” ตาหูและนางจันทร์เป็นข้าทาสของเศรษฐีปาน แห่งเมืองสทิงพระ ระยะที่หลวงพ่อทวดเกิด เป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ข้าวในนา ในระหว่างที่พ่อแม่กำลังเกี่ยวข้าวอยู่ ได้ผูกเปลให้ลูกน้อยนอน ทำงานไปก็คอยเหลียวดูลูกน้อยเป็นระยะ แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น คือนางจันทร์ได้เห็นงูตัวใหญ่มาพันที่เปลลูกน้อยแล้วชูคอแผ่แม่เบี้ย นายหู-นางจันทร์ได้พนมมือบอกเจ้าที่เจ้าทาง อย่าให้ลูกน้อยได้รับอันตรายใดๆเลย ด้วยอำนาจบารมีของเด็กน้อยเจ้าปู่ งูใหญ่จึงคลายลำตัวออกจากเปลน้อย เลื้อยหายไป ต่อมาเมื่อพญางูจากไปแล้ว... -
วัวธนู ปลุกเสกโดย 10 พระเกจิอาจารย์ เช่น หลวงปู่คำแสน หลวงปู่ชุ่ม หลวงปู่ชัยวงศา หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
หากจะกล่าวถึงหลวงปู่คำแสน และหลวงพ่อบุญรัตน์ ท่านคุ้นเคยกันมานานแล้วประมาณปี 2518 ที่วัดป่าดอนมูล หลวงปู่คำแสน ท่านได้มอบตำราสร้างวัวธนู ให้กับหลวงพ่อบุญรัตน์ พร้อมกับสอนวิธีการสร้าง ท่านกล่าวว่า ท่านอายุมากแล้ว เกรงว่าต่อไปวิชานี้จะสูญหาย ในการนี้ ท่านได้มอบวัวธนูที่สร้างจากไม้หวายผ่าซีก และแกะคอดให้กับหลวงพ่อบุญรัตน์ด้วย
(แทรก ต่อมาหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้รับตำราสร้างวัวธนูจาก ครูบาชุ่ม วัดวังมุ่ย ด้วย ซึ่งท่านกล่าวว่า เหมือนกับตำราของหลวงปู่คำแสนเลย ไม่มีผิดเพี้ยนกัน)
หลังจากนั้นหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้จัดสร้าง วัวธนูขึ้นตามตำราของหลวงปู่ทั้งสองรูป โดยหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้นำไปขอความเมตตาให้หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว เมื่อเสร็จพิธี หลวงปู่คำแสน ท่านได้กล่าวกับหลวงพ่อบุญรัตน์ว่า "วัวธนูชุดนี้ให้เก็บไว้ก่อน อย่าเพิ่งนำออกมา ในภายภาคหน้าคนจะถามหากันเยอะ จะเป็นที่ต้องการกันมาก" มูลเหตุตรงนี้จึงเป็นมูลเหตุให้หลวงพ่อบุญรัตน์ท่านเก็บวัวธนูชุดนี้ไว้นับแต่บัดนั้น
นอกจากหลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูลแล้ว หลวงพ่อบุญรัตน์ยังได้นำวัวธนูชุดนี้... -
สมเด็จองค์ปฐม รุ่น1 วัดโขงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ พุทธาภิเษก 3ปี
"ผู้ที่มีสมเด็จองค์ปฐมติดตัวไว้ ไม่ว่ามนุษย์ก็ดี,อมนุษตย์ก็ดี,สัตว์มีพิษร้ายก็ดี,
ภูตผีปีศาจร้ายก็ดี ถ้าคิดจะทำร้ายเราจะรุ่มร้อนจนทนไม่ได้ต้องล่าถอยไปในที่สุด
เพราะฉะนั้นมีผู้ถามว่าวัตถุมงคลที่มีอานุภาพสูงสุด ขอตอบว่า สมเด็จองค์ปฐม ไม่ ใช่โฆษณาเกินความเป็นจริง
แต่อย่าลืมว่า ท่านเป็นองค์ต้นของพุทธศาสนา และมีบุญเหนือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์
ป้องกันอาวุธวิทยาศาสตร์ทุกชนิด เช่น นิวตรอน นิวเคลียร์ เคมี ก๊าสพิษ ชีวะภาพ
ฝนกรด ฝนเหลือง โรคระบาด เชื้อโรคต่างๆ ป้องกันได้ทั้งหมด รวมถึง คุณไสย มนต์ดำ คุณคน ลมเพ ลมพัด
อุปัทวเหตุทั้งหลาย ก็ ป้องกันได้หมด"....
หลวงพ่อฤาษีลิงดำบวงสรวง ที่วัดโขงขาว ๓ ปี ตั้งแต่ ๒๕๓๒ - ๒๕๓๔ ตอนทอดกฐินที่วัดโขงขาว
.......เดิมที ทางหลวงพ่อบุญรัตน์สร้างพระขึ้นมาโดยคิดว่าให้เป็นรูปพระพุทธชินราช ไม่ได้คิดว่าจะเป็นสมเด็จองค์ปฐม พอกราบเรียนให้หลวง
พ่อพระราชพรหมยานท่านอธิษฐานจิต ท่านก็ถามว่า อะไรอยู่ในกล่อง
ลองเอามาให้ดูหน่อยสิ เมื่อหลวงพ่อบุญรัตน์มาหยิบไปให้ท่านดู ท่านก็
ปรารภว่า "นี่ไม่ใช่พระพุทธชินราชนะ นี่คือสมเด็จองค์ปฐม"
จากนั้นท่านก็อธิษฐานจิตให้ และก็... -
เลือกบูชาได้เลย....รูปหล่อสมเด็จองค์ปฐม และวัวธนู วัดโขงขาว เพื่อช่วยค่าโฮสเวปพลังจิต
ขอนำวัตถุมงคลสำคัญ(ตามที่ท่านเจ้าของเดิมบอก)ส่วนหนึ่งที่ผมเก็บไว้ออกแบ่งปันชาวเวปพลังจิตที่ปราถนาอยากได้สมเด็จองค์ปฐมที่ทันหลวงพ่อฤาษีลิงดำปลุกเสกให้ดีแล้วและสุดยอดวัวธนูที่ครูบาอาจารย์สายเหนือยุคเก่าอธิษฐานให้อย่างดีไว้บูชา ในราคาที่ไม่สูงมากและยังได้ช่วยค่าโฮสเวปพลังจิตให้เวปดำเนินต่อไปให้พวกเรามีเวปดีๆเพื่อศึกษาธรรมะจนชั่วลูกชั่วหลานสืบไป
.....ชุดนี้ผมได้บูชามาจากนายพลท่านหนึ่งซึ่งเป็นศรัทธาอุปัฏฐากพระอาจารย์บุญรัตน์ และได้รับมอบสมเด็จองค์ปฐมและวัวธนูของวัดโขงขาวไว้จำนวนมากพอควรผมจึงขอแบ่งออกมาชุดหนึ่ง ในราคาองค์ละ 900 บาท ด้วยเจตนาที่จะช่วยค่าโฮสของเวปพลังจิตที่ต้องจ่ายปีหนึ่ง หลายหมื่นบาท ทั้งนี้ผมได้ขออนุญาตจากทางเวปมาสเตอร์แล้วและได้รับอนุญาตเป้นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผมขอบวกไปอีก องค์ละ 100 บาท(เพื่อช่วยค่าโฮสของเวปพลังจิต) และค่าส่งอีกชุดละ 50 บาท(ส่วนเกินจากค่าจัดส่งจริงผมไปสร้างบุญในพระศาสนาต่อไปครับ จึงขอแจ้งให้ได้ทราบโดยทั่วกัน)
....รวมทั้งสิ้นชุดละ 1050 บาท.....
และทั้งนี้ผมขอนำวัตถุมหามงคลที่ผมเก็บไว้อีก 3... -
ถึงบางอ้อ!! ไขข้อสงสัย ...เหตุใดเกจิละสังขารแล้วสรีระไม่เน่าเปื่อย? วิทยาศาสตร์มีคำตอบ!!
จากข่าว หลวงพ่อพูลละสังขารนาน 11 ปี แต่ร่างเปลี่ยน “สีทอง” แปลกกว่านั้น ซึ่งแปลกยิ่งไปกว่านั้นคือสังขารท่านยังเหมือนกับมีชีวิต โดยลูกศิษย์เชื่อเกิดจากบารมีของหลวงพ่อพูลเอง จึงทำให้เกิดคำถามจากผู้อ่านว่า เพราะเหตุใดสรีระร่างของท่าน จึงไม่เน่าเปื่อย
“ไม่ได้ลบหลู่นะครับ ขอถามผู้รู้ครับ สงัสยเวลาละสังขารแล้วทำไมไม่เผาครับ ท่านสั่งไว้รึไงครับ ท่านสอนไม่ให้ยึดติดแล้วปล่อยวาง สังขารเป็นของไม่เที่ยง เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป แต่ ท่านร่างทำไมยังอยู่ครับ ผมคิดแบบผมนะครับ สตาปไว้รึเปล่าครับ หรือใช้ปูนขาวโรยไว้ครับ หรือฉีดยาไว้ครับ อันนี้ไม่ได้ลบหลู่นะแค่สงสัย มันผิดเพี้ยนจากคำสอนพระพุทธเจ้ารึเปล่าครับ ผู้รู้บอกทีครับ”
เรื่องนี้ทีมข่าวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้ค้นข้อมูลมาว่า เพราะเหตุใด ครูบาอาจารย์เกจิหลายๆท่าน อาทิ หลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี, หลวงปู่วงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน, หลวงพ่อบุญเหลือ วัดเขาตะกร้าทอง จ.ลพบุรี, ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่, ครูบาขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม จ.ลำพูน, หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุนนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์, หลวงปู่พรหม วัดช่องแค... -
"สมาธิ เครื่องหนุนปัญญา" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
"สมาธิ เครื่องหนุนปัญญา"
" ..
- ศีล เป็นเครื่องอบรมสมาธิให้สงบได้ง่าย
- สมาธิ เป็นเครื่องหนุนปัญญาให้เดินได้คล่องตัว
- ปัญญา เป็นเครื่องซักฟอกกิเลสทั้งหลายให้หลุดพ้นไปโดยชอบ
๓ ประเภทนี้ "การบำเพ็ญสมาธิขอแต่เพียงเป็นบาทวิปัสสนา คือการพิจารณาก็พอแล้ว" การบำเพ็ญสมาธิเอาแต่เพียงเป็นบาทของวิปัสสนา "วิปัสสนาคือการพิจารณา" ก็พอแล้ว
ส่วนการจะอยู่ในวิหารธรรมนั้น "ก็ให้กำหนดรู้" หมายความว่าอย่างไร "การบำเพ็ญสมาธิคือความสงบใจ ใจเมื่ออิ่มอารมณ์ ไม่หิวโหยในอารมณ์" พาทำงานทำการอะไรก็ทำได้ ไม่โดดโน้นโดดนี้ คือ "จิตที่หิวอารมณ์นี้ แทนที่จะพิจารณาทางด้านปัญญา มันแฉลบออกไปตามอารมณ์ของมันที่ชอบใจ"
จิต "จิตที่มีความสงบแล้วย่อมอิ่มอารมณ์ไม่ดีดไม่ดิ้น" พาทำงานอะไรก็ทำ ๆ นี่ท่านบอก นี่ละเป็นงานที่ชอบธรรม
เราที่ประจักษ์ก็คือ เราเองถูกพ่อแม่ครูจารย์ขนาบเอา ท่านใส่บทไหนนี้แหม ลืมไม่ได้เลย ตอนจิตเป็นสมาธิมีความสงบ ท่านก็ถามเรื่อย "เป็นยังไงท่านมหา จิตสงบดีเหรอ สงบดีอยู่" ก็บอกอย่างนั้น เวลาสงบก็บอกสงบ ดีอยู่ ๆ เรื่อย บทเวลาท่านจะเอานี้โถ ผางเลย เป็นยังไงท่านมหา จิตสงบดีอยู่เหรอ สงบดี... -
เปิดตำนานน่าสะพึงกลัว!! "ยายกะลา ตากะลี" ผีเฝ้าป่าช้า!! เป็นที่เกรงกลัวของหมอผีทั้งหลาย หรือแม้แต่ ผี!! ด้วยกันเอง..
เปิดตำนานน่าสะพึงกลัว!! "ยายกะลา ตากะลี" ผีเฝ้าป่าช้า!! เป็นที่เกรงกลัวของหมอผีทั้งหลาย หรือแม้แต่ ผี!! ด้วยกันเอง..
เปิดตำนานสยองขวัญ “ยายกะลา ตากะลี”
เจ้าที่เจ้าทางตามคติ การนับถือผีบรรพบุรุษของกลุ่มชนชาวไทยดั้งเดิม!!!
หากพูดถึงเรื่องตำนาน ความเชื่อ หรือเรื่องราวในอดีตที่เคยเป็นมาความเชื่อโบราณที่มีมาตั้งแต่ก่อนโบราณกาลก็คงจะมีมากมายหลากหลายความเชื่อหรือหลายตำนาน
วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับหนึ่งตำนานโบราณของไทย“ตำนาน ยายกะลา ตากะลี”
ความเชื่อวันนี้ ตำนาน “ยายกะลา ตากะลี” เป็นชื่อของเจ้าที่เจ้าทางตามคติการนับถือผีบรรพบุรุษของกลุ่มชนชาวไทยดั้งเดิมก่อนที่พุทธศาสนาจะเข้ามาแพร่หลายในดินแดนแถบนี้
แต่เดิมเชื่อว่าเป็นผีผู้สร้างโลก โดยทั้งคู่ได้ปั้นมนุษย์ขึ้นเป็นคู่แรกต่อมาพอความเชื่อทางพุทธและพราหมณ์เข้ามาแทนที่ทั้งสองจึงกลายเป็น ผีผู้คุมเหล่าผีทั้งหลายในป่าช้าหรือที่ บางทีพวกหมอผีจะเรียกว่า นายป่าช้ายายกะลา ตากะลี จัดเป็นผีที่มีอิทธิพลสูงในทางไสยศาสตรก่อนที่
หมอผีจะเข้าไปทำกิจอันใดในป่าช้าจะต้องบวงสรวงซะก่อนว่าจะยินยอมให้ทำกิจนั้นๆ ได้หรือไม่... -
ภพชาติมีจริง!! กว่าจะมาเป็น “หลวงปู่ชอบ" พระกรรมฐานรูปสำคัญของเมืองไทยในชาตินี้ เคยเกิดเป็นเดรัจฉานมาสารพัดอย่างแล้ว
ภพชาติมีจริง!! กว่าจะมาเป็น “หลวงปู่ชอบ" พระกรรมฐานรูปสำคัญของเมืองไทยในชาตินี้ เคยเกิดเป็นเดรัจฉานมาสารพัดอย่างแล้ว
หากท่านต้องการจะระลึกชาติได้ก็ลองฝึกสมาธิดู ผู้ที่ฝึกสมาธิจนได้ญาณระลึกชาติคือ บุพเพนิวาสานุสติญาณก็จะรู้ได้ว่าอดีตชาติของตนเคยเกิดเป็นอะไรบ้าง จะระลึกชาติได้ยาวนานแค่ไหน ย่อมขึ้นอยู่กับกำลังของสมาธิและบุญบารมีที่สั่งสมมา มีผู้ฝึกสมาธิสามารถระลึกชาติได้อยู่หลายท่าน โดยเฉพาะพระกรรมฐาน ทั้งที่ล่วงลับไปแล้วและยังมีชีวิตอยู่ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างของ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ท่านเป็นพระอรหันต์ที่คนเคารพนับถือกันทั่วบ้านทั่วเมือง หลวงปู่ชอบมีชีวิตอยู่ในช่วง พ.ศ. ๒๔๔๔ – ๒๕๓๕ คุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต ได้เขียนชีวประวัติของท่านไว้อย่างน่าศึกษา
หลวงปู่ชอบระลึกชาติได้หลายชาติ ตามที่ลูกศิษย์ลูกหาได้กราบเรียนถามถึงอดีตชาติของท่านต่างกรรมต่างวาระซึ่งท่านก็มีเมตตาตอบให้ศิษย์ได้รับทราบ พอจะสรุปได้ว่า
ท่านเคยเกิดเป็นท้าวมหาพรหม (พรหมผู้เป็นใหญ่ในเขตการปกครองหนึ่งๆ) ในสมัยพุทธกาลนั้นได้บวชเป็นสามเณรน้อยลูกศิษย์พระมหากัสสปะ (พระอรหันต์ชั้นผู้ใหญ่ที่พระอรหันต์ด้วยกันให้ความเคารพนับถือ)... -
เรื่องเล่าจากหลวงพ่อฤาษีฯ "เจโตฯของหลวงปู่นาค วัดระฆัง"
เรื่องเล่าจากหลวงพ่อฤาษีฯ "เจโตฯของหลวงปู่นาค วัดระฆัง"
เจ้าคุณเทพสิทธินายก(หลวงปู่นาค) วัดระฆัง เป็นคนดีในกรุงเทพฯ ในระยะใกล้ๆ หลวงปู่นาค วัดระฆัง นี่เคยรู้จักกับอาตมามาหลายปี เอาขั้นรู้จักนะ ไม่ใช่ดันไปเป็นเพื่อนกับท่าน
ครั้งหนึ่ง ท่านไปที่วัดบางซ้ายนอก อำเภอเสนา จังหวัดอยุธยา เดี๋ยวนี้เขายกขึ้นเป็นอำเภอบางซ้ายแล้ว อาตมานอนหลับ พอท่านไปถึงท่านก็จับขากระตุก พอลุกขึ้นมาเห็นเป็นหลวงพ่อนาค เลยรีบลุกขึ้นกราบ แล้วปูพรมให้ท่าน อาตมาก็ไม่ใช่พระวัดนั้น จะไปเทศน์ ถึงเวลากลางคืนเขานิมนต์ท่านไปปลุกพระ ปูพรมแล้วท่านก็นั่ง แล้วก็มีพระมหาไว พระครูอดุลย์ อดุลย์วรวิทย์หรืออะไรก็ไม่ทราบ อดุลย์ก็แล้วกัน มหาไวเจ้าคณะอำเภอบางซ้ายคนปัจจุบัน หยิบพระให้องค์หนึ่งเป็นพระทำใหม่ ถามว่าพระองค์นี้เขาปลุกเสกใช้ได้ไหมขอรับ พอท่านหยิบปั๊บท่านก็บอกเลย บอกว่าพระที่ปลุกเสกพระองค์นี้น่ะรูปร่างขาวๆ ท้วมๆ ใช่ไหม อายุประมาณสัก 30 ปี พระครูอดุลย์ก็บอกว่าใช่ ท่านบอกว่า อือ เขาเก่งเหมือนกันนะ เขาเก่งเหมือนกัน ทำหนักไปในด้านคงกระพันชาตรี นี่เป็นจุดหนึ่งของหลวงพ่อนาคนะ เราเล่ากันจุดเล็กๆ ก็แล้วกัน
จุดที่สอง ร้อยเอกไพบูลย์... -
สงสัยไหม? ทำไมต้อง ท่อง"นโม" ก่อนสวดหรือรับศีล เรื่องนี้ "หลวงปู่มั่น" มีคำตอบ... ความหมายที่แท้จริงของคำว่า "นโม"
สงสัยไหม? ทำไมต้อง ท่อง"นโม" ก่อนสวดหรือรับศีล เรื่องนี้ "หลวงปู่มั่น" มีคำตอบ... ความหมายที่แท้จริงของคำว่า "นโม"
สาเหตุของการต้องตั้ง "นโมฯ"
โดย..หลวงปู่มั่น ภูริทัตตมหาเถระ
ได้มีโยมคนหนึ่ง คือ อาชญาขุนพิจารณ์ สุวรรณรงค์ เป็นผู้ช่วยสมุห์บัญชีอยู่ในอำเภอพรรณานิคม บุตรของพระเสนาณรงค์ เจ้าเมืองพรรณานิคมคนที่ 4 และเป็นนายอำเภอพรรณานิคม คนแรกในรัชสมัยของพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้นมัสการถามพระอาจารย์มั่นถึงเรื่อง "นโม" ว่าเหตุใดการให้ทานหรือการรับศีลจึงต้องตั้ง "นโม" ก่อนทุกครั้ง จะกล่าวคำถวายทาน และรับศีลเลยทีเดียวไม่ได้หรือ ?
พระอาจารย์มั่นได้เทศน์ชี้แจงเรื่อง "นโม" ให้ฟังว่า... "เหตุใดนักปราชญ์ทั้งหลาย จะสวดก็ดีจะรับศีลก็ดี หรือจะทำการ
กุศลใดๆ ก็ดีจึงต้องตั้งนโมก่อนจะทิ้ง นโมไม่ได้เลย เมื่อเป็นเช่นนี้ นโม ก็ต้องเป็นสิ่งสำคัญ จะยกขึ้นพิจารณา ได้ความ
ปรากฏว่า น คือธาตุน้ำ โมคือธาตุดิน พร้อมกับบทพระคาถาขึ้นมาว่า มาตาเปติกสมฺภโว โอทนกุมฺมา สปจฺจโย สัมภวธาตุ ของมารดาบิดา... -
สุดยอด ผู้สร้างบุญ !!! หนุ่มใหญ่น้ำใจงาม ตระเวนพัฒนาซ่อมแซมวัดต่างๆ ในวันหยุดจากการทำงาน !!! หวังทะนุบำรุงทุกวัดในประเทศ จนกว่าจะไม่ไหว
สุดยอด ผู้สร้างบุญ !!! หนุ่มใหญ่น้ำใจงาม ตระเวนพัฒนาซ่อมแซมวัดต่างๆ ในวันหยุดจากการทำงาน !!! หวังทะนุบำรุงทุกวัดในประเทศ จนกว่าจะไม่ไหว
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา ที่วัดถ้ำเพดานหรือวัด คูหาวิไล หมู่ที่ 7 ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง นายยงยุทธ เบญจวรางกูล ผู้อำนวยส่วนการโยธาและผังเมือง เทศบาลนครตรัง นายบุญชู นุเคราะห์ นักธุรกิจ ในเมืองตรัง ด้วยเพื่อนๆ 6 คน ใช้เวลาวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ออกซ่อมแซมพระพุทธรูปที่ชำรุด สึกหล่อ ซ่อมไฟฟ้า ประปา ให้กับวัด สำนักสงฆ์ต่าง กว่า 10 แห่งทั้งในพื้นที่จังหวัดตรังและใกล้เคียงเช่น นครศรีธรรมราช ตรัง และสตูล โดยไม่คิดมูลค่าใด เป็นการทำให้ฟรีเหมือนการทำบุญให้วัด และที่สำคัญ ไม่รบกวนทางวัด ขอใช้แต่สถานที่อย่างเดียว
วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา นายยงยุทธ เบญจวรางกูล ผู้อำนวยส่วนการโยธาและผังเมือง และเพื่อนๆ ร่วม 6 คน มาทำการหล่อพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ให้กับวัดคูหาวิไลหรือวัดถ้ำเพดาน เป็นการหล่อพระพุทธรูป ปางปฐมเทศนา หน้าตัก 2.20 เมตร สูง 3.50 เมตร เป็นศิลปะแบบอินเดีย ก่อนการหล่อพระชาวบ้านในพื้นที่นำโดย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 และผู้ใหญ่บ้านหมู่อื่น ๆ... -
หลวงพ่อวัดท่าซุงกับหลวงพ่อวัดโขงขาว
หลวงพ่อวัดท่าซุงกับหลวงพ่อวัดโขงขาว
พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) และ พระครูปิยรัตนาภรณ์(พระอาจารย์บุญรัตน์)
ท่านพระครูปิยรัตนาภรณ์ (พระบุญรัตน์ กันตจาโร) ที่ได้เล่าถึงอุปการคุณของพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่มีต่อวัดโขงขาวไว้ดังนี้
วัดโขงขาว ตำบลบ้านแหวน อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นวัดมาตั้งแต่โบราณกาล ไม่อาจนับได้ว่ากี่ปี แต่ก็มีคำเล่ากล่าวสืบๆ กันมาว่า สร้างก่อน พระนางเจ้าจามเทวี สวรรคต เพราะว่าเจ้าแม่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนามากจึงสร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์ ดังจะเห็นได้ว่าวัดในลำพูน-เชียงใหม่ จะมีวัดติดวัด วัดโขงขาวเป็นวัดเล็กๆ ซึ่งมีหมู่บ้านที่อุปถัมภ์ไม่กี่หลังคาเรือน มีทุ่งนาล้อมรอบในสมัยก่อนเป็นวัดที่ห่างไกลความเจริญ ถนนหนทางก็ไม่ดีมีแต่เส้นทางเดินเล็กๆ พอสัญจรไปมาเท่านั้น ถาวรวัตถุภายในวัดก็มีแต่พระวิหารหลังเล็กๆ เก่ามาก จำนวน ๑ หลัง ด้านหลังพระประธานจะมี "โขง" ถ้าแปลตามภาษาภาคกลางว่า "ซุ้ม" โขง หรือ ซุ้ม นี้คนโบราณคงจะเอาสีขาวมาทาก็เลยตั้งนามวัดว่า "วัดโขงขาว" ตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงปัจจุบัน และก็มีพระเจดีย์ติดต่อกับซุ้มออกไป นี่เป็นของโบราณมาตั้งแต่สร้างวัด... -
"ชีวิตขรุขระเพราะกรรมเก่า" (สมเด็จพระญาณสังวร)
"ชีวิตขรุขระเพราะกรรมเก่า"
" .. พื้นแผ่นดิน แม่น้ำ ภูเขา ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ คนเรามีปัญญาถมให้เป็นถนน ขุดให้เป็นแม่น้ำ ลำคลอง ทำสะพานข้ามแม่น้ำใหญ่ สร้างทำนบกั้นน้ำ ฉันใด "ความขรุขระของชีวิตเพราะกรรมเก่า ก็ฉันนั้น"
เหมือนความขรุขระของแผ่นดินตามธรรมชาติ "คนเราสามารถประกอบกรรมปัจจุบัน ปรับปรุงสกัดกั้นกรรมเก่า" เหมือนอย่างสร้างทำนบกั้นน้ำเป็นต้น เพราะคนเรามีปัญญา
"อันที่จริงทั้งความสุขทั้งความทุกข์เป็นอุทกภัยเหมือนกัน" ถ้ามีสิ่งที่เป็นเกาะเป็นที่พึ่งของใจดีแล้ว ก็ไม่เดือดร้อน "การทำใจก็คือ คนมีเกาะของใจดีที่ได้สร้างสมมาแล้วและกำลังสร้างสมอยู่"
"ผู้ที่ทำกรรมดีอยู่มากเสมอ ๆ จึงไม่ต้องกลัวกรรมชั่วในอดีต" หากจะมีกุศลของตนก็จะชูช่วยให้มีความสุขความเจริญสืบไป "ถ้าได้แผ่เมตตาจิตอยู่เนื่อง ๆ ก็จะระงับคู่เวรอดีตได้อีกด้วย" ระงับได้ตลอดถึงปัจจุบัน .. "
สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๙ -
แม้บำเพ็ญเพียรเป็นพระโพธิสัตว์ แต่ก็ยังชดใช้กรรม!! หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่า เคยเกิดเป็น"พราน" ในสมัยพระทีปังกรพุทธเจ้า จนเมื่อฟังธรรม จึงกลับใจ!
แม้บำเพ็ญเพียรเป็นพระโพธิสัตว์ แต่ก็ยังชดใช้กรรม!! หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่า เคยเกิดเป็น"พราน" ในสมัยพระทีปังกรพุทธเจ้า จนเมื่อฟังธรรม จึงกลับใจ!
บันทึกธรรมพระราชพรหมยาน
๐๐ หลวงพ่อฤๅษี เคยเกิดเป็นนายพรานต่อมาได้เป็นกษัตริย์ ในสมัยสมเด็จพระพุทธทีปังกร๐๐
มีเรื่องที่น่าสนใจมากจากพระดำรัสของสมเด็จพระพุทธทีปังกร เรื่อง เวรและกรรม การฆ่ากันด้วยการจองเวรไม่เป็นเหตุให้ลงนรก แต่ก็ต้องชดใช้เวรที่ทำด้วยการถูกฆ่า หมุนเวียนกันไปมาถึง ๕๐๐ ชาติ
วันนี้นอนๆ ก็ภาวนาไปเรื่อยๆ (พักอยู่ที่เมืองโอ๊คแลนด์ เดือนมีนาคม ๒๕๒๙) ถ้าอยู่คนเดียวไม่ได้ละ ภาวนาไม่ขาด พอจิตสบายก็ขึ้นไปหาสมเด็จองค์ปัจจุบัน ที่พระจุฬามณี ท่านคุยประเดี๋ยว ก็บอกไปนิพพานเถอะ พอไปถึงนิพพาน ท่านก็คุย
ท่านถามว่า “นึกออกไหม เธอเคยเกิดสมัยสมเด็จพระพุทธทีปังกรนะ”
ก็บอกว่า “นึกไม่ออก ไม่เคยคิด พระพุทธเจ้าข้า”
ท่านบอกว่า “ดินแดนนี้ สมัยนั้นเธอเคยเกิดเป็นนายพรานอยู่”
สมเด็จพระพุทธทีปังกรองค์นี้ ท่านบอกว่า ถอยหลังจากสมเด็จพระปุทุมมุตตระไป ๓ สมัย หลายอสงไขยกัป ไม่ใช่เล่นๆ นะ
ท่านบอกว่า สถานที่นี้มีภูเขาไฟเยอะ ท่านเปรียบเหมือนตะเกียง... -
“เพราะเป็นเมียมานับล้านชาติ จึงต้องกลับมาบอกหนทางให้พ้นทุกข์”หลวงปู่ชอบ!!! เล่าเรื่องภรรยาเก่าที่กลับชาติมาเกิดจนเจอในชาตินี้
“เพราะเป็นเมียมานับล้านชาติ จึงต้องกลับมาบอกหนทางให้พ้นทุกข์”หลวงปู่ชอบ!!! เล่าเรื่องภรรยาเก่าที่กลับชาติมาเกิดจนเจอในชาตินี้
“...ท่านอาจารย์ชอบ ฐานสโม ท่านได้เมตตาเล่าให้หลวงปู่จาม ฟังว่า.. “ขณะที่บวชได้ ๒๐ พรรษา ปีนั้นอยู่จำพรรษาบ้านลิเตอะ ข้างดอยเชียงตอง เมืองพม่า มีลูกสาวคนร่ำรวยมีหน้ามีตาในหมู่บ้านตำบลแถบนั้นยกย่องให้เป็นหัวหน้าผู้นำ กำลังเป็นสาวอายุ ๑๙ ย่าง ๒๐ ปี รูปร่างสวยงาม มาขอให้ลาสิกขาออกไปอยู่ด้วยกัน เป็นสามีภรรยากัน ”
หลวงปู่ชอบก็ได้ตอบกลับไปว่า “ อายุมากแล้ว ๔๐ กว่าปี แล้วออกไปจะทำอะไรได้ ”
เขาว่า “ไม่ต้องทำอะไรมากหรอกดูแลการค้าขายกับพวกอังกฤษ”
“ค้าขายไม่เป็น” หลวงปู่ชอบ (ฐานสโม) กล่าว
“ฝึกหัดเอานิดหน่อยก็เป็นแล้ว”
“พูดจาฝรั่งไม่เป็น” หลวงปู่ชอบ (ฐานสโม) กล่าว
“ไม่เป็นไร เขามีล่ามชาวพม่าอยู่ เงินกำไรทุนรอนไม่ต้องกังวลมีอยู่มากแล้วค้าขายสะสมอีกนิดหน่อยก็อยู่ได้แล้ว อย่างว่าไม่ได้ก็ขอให้มีลูกหญิงก็ได้มีลูกชายก็ได้สักคน แล้วจึงจะกลับเข้าบวชก็ตามใจ”
ตกลงกันอยู่นานหลายวันหลายครั้ง มีญาติผู้ใหญ่ของเขามาพูดจาช่วยสุดท้ายเขามาถามว่า “ลืมกันแล้วหรือ... -
สาธุ.."สมเด็จพระสังฆราช" ประทานพระสัมโมทนียกถา เตือนสติ"ศาสนิกชนที่ดี" ต้นเหตุแห่งการแตกสามัคคี คือ ความชิงชัง บาดหมาง!!
สาธุ.."สมเด็จพระสังฆราช" ประทานพระสัมโมทนียกถา เตือนสติ"ศาสนิกชนที่ดี" ต้นเหตุแห่งการแตกสามัคคี คือ ความชิงชัง บาดหมาง!!
แฟนเพจเฟสเบุ๊ค สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้เผยแพร่ภาพพระราชกรณียกิจของเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปทรงเปิดป้ายหอประชุมสมาคมฮินดูสมาช โดยข้อความระบุว่า..
เช้าวันอาทิตย์ ที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๐ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปทรงเปิดป้ายหอประชุมสมาคมฮินดูสมาช เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
การนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระสัมโมทนียกถา ความตอนหนึ่งว่า
"ตามที่อาตมภาพทราบมาโดยตลอด สมาคมฮินดูสมาชและวัดเทพมณเฑียรมีวัตถุประสงค์ในการดูแลโรงเรียนภารตวิทยาลัย ทั้งยังมุ่งหมายให้สาธุชนได้มีจิตใจงดงาม ส่งเสริมผู้คนทุกศาสนิกให้สมัครสมานปรองดองกันเพื่อยังสันติสุขแก่โลก และมีเจตนารมณ์เพื่อช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ยากไร้ทุกชาติทุกศาสนา
ด้วยเหตุนี้ การที่ได้มาอยู่ท่ามกลางบุคคลผู้ล้วนเป็นสมาชิกองค์กรที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่โดยมนุษยธรรมอย่างจริงใจ... -
ปุจฉา-วิสัชนา สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระวโรกาสให้ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำไทย กราบทูลถามเรื่องพุทธศาสนาในเมืองไทย
ปุจฉา-วิสัชนา สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระวโรกาสให้ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำไทย กราบทูลถามเรื่องพุทธศาสนาในเมืองไทย
เมื่อเช้าวันนี้ที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๐ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลง ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประทานพระวโรกาสให้ นายกลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เฝ้าถวายสักการะเนื่องในโอกาสที่จะทรงเจริญพระชนมายุ ๙๐ พรรษาในวันจันทร์ ที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๐
อนึ่ง ในพระฐานะที่ทรงเป็นแม่กองงานพระธรรมทูตด้วย เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช จึงโปรดประทานพระอนุญาตให้นายเดวีส์ กราบทูลถามเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาในประเทศไทยได้ตามความประสงค์ การนี้ ทรงพระกรุณาประทานพระวิสัชนาในหลากหลายประเด็นปุจฉา ตามที่เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยกราบทูลขอประทานพระอธิบาย
ที่มา : FB:เพจสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช @SanggkarajaOffice
ข่าวโดย : กิตติ จิตรพรหม ทีนิวส์ / สำนักพิมพ์ กรีนปัญญาญาณ/ ทีมข่าวปัญญาญาณ – ทีนิวส์
เรียบเรียงโดย
กิตติ จิตรพรหม : สำนักข่าวทีนิวส์
--------------... -
ถ้าโมทนาบุญคนอื่น เราจะได้รับบุญนั้นทันทีไหมคะ ?
พระอาจารย์เล็กตอบเรื่อง "การโมทนาบุญ"
ถาม : ถ้าโมทนาบุญคนอื่น เราจะได้รับบุญนั้นทันทีไหมคะ ?
ตอบ : การโมทนาผลบุญแล้วส่งผล เจ้าของต้องได้รับผลนั้นก่อน คนที่โมทนาจึงจะได้รับ ตราบใดผลนั้นยังไม่เกิดกับของเจ้าตัวผู้ทำ ตราบนั้นผู้ที่โมทนาก็ยังไม่ได้รับผล
สงสัยไหมว่าผีโมทนาบุญของเราแล้วมักจะได้ดีไปเลย ? เพราะสภาพจิตของเราตอนนั้นเสวยอานุภาพของบุญอยู่ในระดับนั้นอยู่แล้ว พอเขาโมทนาก็ได้เท่ากับเราในตอนนั้น เขาก็ไปเลย ส่วนเราต้องรอก่อน ตายเมื่อไรก็จะได้เมื่อนั้น
ถาม : แล้วอย่างเวลาทำบุญ อยากรู้ว่ามีสัญญาณอะไรบางอย่าง..?
ตอบ : แค่คิดก็เป็นบุญแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจน เจตนาหัง ภิกขเว ปุญญัง วทามิ เจตนาก็จัดว่าเป็นบุญแล้ว แต่ถ้าเจตนาแล้วยังไม่ได้ทำดันตายก่อน เราได้บุญแต่พระขาดทุน เพราะยังไม่ได้ทำ เพียงแต่คิด แม้ระลึกถึงการบริจาคให้ทานยังจัดเป็นจาคานุสติ เป็นกรรมฐานใหญ่อีกกองหนึ่งต่างหากเลย
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๖
ที่มา : เว็บวัดท่าขนุนดอทคอม -
"อริยทรัพย์ ทรัพย์ภายใน" (หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป)
"อริยทรัพย์ ทรัพย์ภายใน"
" .. ทรัพย์ภายใน ได้แก่ "ความเชื่อมั่นว่า การทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" ทำตัวของเราให้เป็นคนมีจิตใจอันสุจริต ประพฤติไม่ผิดศีลธรรมและจารีตประเพณี เพราะทุกคนนั้นมีวินัยประจำตัวทุกคน คือต้องมีระเบียบเป็นคนที่มีความประพฤติเรียบร้อย ทางกาย ทางวาจา ใจก็มีเมตตาแก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
เราทั้งหลายเกิดมาในโลกนี้ "เรียกว่าเป็นมนุษย์โลก โลกคือมนุษย์" เป็นผู้ที่บริสุทธิ์จากกรรมเก่า เป็นผู้มีร่างกายสมบูรณ์บริบูรณ์ จะทำอะไรก็ทำได้ตามความชอบใจของเรา "แต่โดยส่วนมากเราชอบใจในทางศีลธรรม ภาวนา หาคุณงามความดีใส่ตนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้"
ในวาระนี้ทุก ๆ คนนั้น ที่ได้มาประพฤติปฏิบัติธรรมได้เสียสละกิจการงานทุกสิ่งทุกอย่าง "ทำใจของเราไม่ให้เป็นห่วง" แม้บ้านช่องจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน
เพราะในขณะนี้ "เราต้องการที่จะสร้างตนให้เป็นคนดีมีทรัพย์ คืออริยะทรัพย์ ทรัพย์อันประเสริฐ ซึ่งเกิดขึ้นกับดวงใจของเรา ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ โจรผู้ร้ายจะมาแย่งชิงเอาไปก็ไม่ได้ เพราะฝังอยู่ในดวงใจของเราแล้ว" .. "
"ทรัพย์ภายใน"
หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป -
วิชาเตโชกสิณ ปราบผีดิบ เรื่องเล่าของหลวงพ่อจรัญ
วิชาเตโชกสิณ ปราบผีดิบ เรื่องเล่าของหลวงพ่อจรัญ
เรื่องเล่าผ่านกาลเวลา:-
Published on Jun 10, 2017
วิชาเตโชกสิณ เรื่องเล่าของหลวงพ่อจรัญ ฟังเเล้วช่วยเเชร์บอกต่อเรื่องราวดี และอย่าลืมกดติดตามจะได้ไม่พลาดเรื่องราวดีในเรื่องต่อไป -
พระนันทะ บรรลุเป็นพระอรหันต์ โดยมีนางฟ้าเป็นแรงจูงใจ
เรื่องราวของ พระนันทะ ผู้มีนางฟ้าเป็นแรงจูงใจ
เมื่อครั้งยังเด็ก เชื่อว่าหลายคนคงเคยถูกพ่อแม่จูงใจด้วยสินจ้างรางวัลเพื่อให้ทำสิ่งที่ถูกต้องดีงาม เด็กน้อยบางคนต้องกลั้นสะอื้นให้คุณหมอฉีดยา เพราะคุณพ่อบอกว่าจะให้รางวัลเป็นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ กว่าจะรู้ว่าถูกอุบายของพ่อแม่เด็กน้อยก็หายไข้ สบายตัว บางคนอาจลืมเจ้าตุ๊กตาหมีตัวนั้นไปเสียด้วยซ้ำ พระนันทะ ก็เช่นกัน
ต่อเมื่อท่านบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์แล้ว ท่านจึงได้ล่วงรู้ว่า นางฟ้าสวยสะคราญที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า จะมอบให้เป็นรางวัลหากพระนันทะตั้งใจปฏิบัติธรรมนั้น แท้จริงแล้วเป็นอุบายอันแยบยลของพระพุทธองค์
เจ้าชายนันทะ นั้นเป็นถึงพระอนุชาต่างพระมารดากับพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงมีรูปโฉมงดงาม เมื่อเจ้าชายนันทะทรงเจริญพระชันษา พร้อมจะมีคู่ครอง พระองค์ก็ตกลงพระทัยเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับสตรีรูปงามเกินจะหาผู้ใดเทียม นามว่า ชนปทกัลยาณี แต่ความปรารถนาของเจ้าชายนันทะที่หวังจะได้ครองเรือนร่วมหอห้องกับพระชายากลับไม่เคยปรากฏเป็นจริง…
เนื่องจากในวันนั้นพระพุทธเจ้าเสด็จมาเจริญพระพุทธมนต์...
Page 387 of 431